ผ่อนบ้านอย่างไรให้หมดเร็ว คำถามสำคัญที่คนซื้อบ้านอยากรู้ การผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ คงเป็นเป้าหมายหลักของคนที่จรดปากกาเซ็นสัญญาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพราะนั่นหมายความว่าคุณกำลังเป็นหนี้ก้อนโต ที่มีระยะเวลาในการผ่อนนับสิบปี ซึ่งหลายคนก็รู้ดีว่าการผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ ก็คือ การนำเงินไปโปะเพิ่ม แต่จะโปะหนี้บ้านเพิ่มยังไงไม่ให้เจ็บตัว หรือกระทบกับรายจ่ายส่วนอื่นๆ มาดูวิธีกันครับ
สิ่งที่ควรทำ เผื่อให้ผ่อนบ้านหมดเร็ว
ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
ก่อนอื่นควรเริ่มจากเช็กกำลังผ่อนจ่ายของตัวเองก่อน โดยการคำนวนจากรายได้ที่หักออกด้วยรายจ่าย ๆ อาทิ มีค่าใช้จ่ายตรงไหนที่สามารถลดหรือตัดออกแล้วนำมาออมเพิ่มได้บ้างและเผื่อไว้ใช้สำหรับยามฉุกเฉิน พร้อมกับเคลียร์ค่าใช้จ่ายจากหลายทางให้เหลือทางเดียว เช่น ปิดสินเชื่อหรือปิดบัตรเครดิต เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด นอกจากนี้ที่สำคัญเลยก็คือไม่สร้างหนี้เพิ่มภาระในอนาคต
เลือกสินเชื่อที่เหมาะกับตัวเอง
การเลือกสินเชื่อบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารว่าสินเชื่อใดที่อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด และเป็นดอกเบี้ยรูปแบบใด อาทิ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Floating Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Fixed Rate Loan) หรืออัตราดอกเบี้ยแบบผสม (Mixed Rate Loan) แล้ว ควรพิจารณาสินเชื่อที่ให้วงเงินสูงเพียงพอสำหรับผ่อนบ้านและการตกแต่ง มีระยะเวลาในการผ่อนยาว และสามารถขยายวงเงินกับระยะเวลาในการผ่อนได้
แนวทางการผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
1. ผ่อนชำระเพิ่ม เป็นจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละเดือน
ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 3,000,000 บาท ส่งเดือนละ 18,000 บาท ทำสัญญากู้ยืมยาว 30 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยราว 6 เปอร์เซ็นต์
แนวทางแรก ปัจจุบันคุณส่งบ้านเดือนละ 18,000 บาท สมมติคุณวางแผนที่จะส่งเพิ่มอีก เดือนละ 10% หรือ 1,800 บาท รวมแล้วเดือนๆ หนึ่งคุณส่งบ้านเดือนละ 19,800 บาท
ในกรณีนี้บ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 22 ปี กับอีก 10 เดือน โดยประมาณ ซึ่งหมดเร็วขึ้น 7 ปีเศษ แถมยังลดดอกเบี้ยลงได้ร่วม ๆ 1 ล้านบาทครับ
ทั้งนี้ถ้าอยากเร็วขึ้น ก็อาจปรับส่วนเพิ่มให้มากขึ้นอีกก็ได้ครับ ถ้าไหว
2. ผ่อนชำระเพิ่มอีก 1 เดือน
วิธีคิดในแนวทางที่สองก็คือ 1 ปี เราส่งบ้าน 13 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือนครับ ซึ่งอาจจะใช้ช่วงโบนัสออก หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เงินก้อน จะโปะเวลาไหน ช่วงใดของปีก็ได้ ได้ผลไม่ต่างกันครับ
สมมติคุณส่งค่าบ้านเพิ่มเป็น 2 เดือน ในเดือนธันวาคมของทุกปี (ซึ่งเดือนอื่นส่งปกติ) พูดง่ายๆ เดือนอื่นส่งเดือนละ 18,000 บาท แต่เดือนธันวาคมส่ง 36,000 บาท
และในกรณีนี้ บ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 23 ปี กับอีก 10 เดือน เร็วขึ้นร่วม 7 ปี เหมือนกัน และลดดอกเบี้ยลงได้ร่วม ๆ 8 แสนกว่าบาทครับ
ทำไม ? วิธีแรก ถึงหมดเร็วกว่า และลดดอกเบี้ยได้มากกว่า
เพราะวิธีแรกนั้น เราตัดต้นไปทุกเดือน แม้จะนิดหน่อยแค่ 1,800 บาทก็ตาม เมื่อต้นลดลงทุกเดือน เวลาก็สั้นลง ดอกเบี้ยก็ลดลงตามไปด้วย ทีนี้หากใครอยากผ่อนบ้านหมดเร็วกว่าในตัวอย่างที่ผมนำเสนอ ก็สามารถปรับแผนการผ่อนชำระของคุณได้ครับ ก็อย่างที่บอก ยิ่งโปะเยอะก็ยิ่งหมดเร็ว
หัวใจสำคัญของวิธีการข้างต้นก็คือ กรุณาบอกธนาคารด้วยว่า เงินที่คุณนำฝากเข้าไปเพิ่มนั้น เพื่อต้องการตัดเงินต้นที่เป็นหนี้บ้านอยู่ อย่าไปนำฝากเข้าไปในบัญชีออมทรัพย์ เฉยๆ เพราะถ้าไม่บอกธนาคาร เขาก็จะตัดยอด 18,000 บาทเหมือนเดิม ต้องบอกด้วยว่าจะตัดหนี้ด้วยยอด 19,800 บาท (กรณีรายเดือน) และ 36,000 บาท (กรณีรายปี) มิฉะนั้น จะไม่เกิดผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการนะครับ
สำหรับท่านที่ห่วงเรื่องดอกเบี้ย ไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะ อีกแนวทางหนึ่งที่พอจะทำได้เหมือนกัน ก็คือ
การรีไฟแนนซ์บ้าน
วิธีนี้ก็เหมือนการทำสัญญากู้ยืมเงินกันใหม่ โดยเราสามารถทำสัญญาใหม่ได้ หลังจากผ่อนชำระเกิน 3 ปีไปแล้ว (อันนี้ต้องดูเงื่อนไขจดจำนองของแต่ละธนาคารอีกทีนะครับ)
*ถ้าปัจจุบันบ้านที่เราผ่อนอยู่นั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง ท่านก็อาจพิจารณาขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ เพื่ออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ต่ำกว่า*
แต่อย่าลืมเช็กรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการขอรีไฟแนนซ์ใหม่ด้วย อาทิ ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ค่าอากรแสตมป์ ค่าประเมินหลักประกัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม "การรีไฟแนนซ์บ้าน"
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดเงินผ่อน จำนวนงวด หรือการขอรีไฟแนนซ์ ก่อนจะทำควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของสัญญากู้ด้วยนะครับ นอกจากนี้แม้ว่าเป็นวิธีที่ช่วยปลดหนี้ได้เร็ว แต่ก็ควรดูกำลังของตัวเองด้วยว่า มีความสามารถในการผ่อนชำระได้มาก-น้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้กระทบกับรายจ่ายในส่วนอื่นๆ หรือเงินที่ต้องออม และสามารถจัดการกับเงินกู้ได้อย่างสบายครับ