โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม

     ในปัจจุบันผมต้องพูดเลย ว่าความเจริญมากมายจากภายในเมือง ได้ขยายตัวออกมายังย่านชานเมืองแบบเต็มที่ และผมจะขอพูดถึงย่านชานเมืองในครั้งนี้ คือ "ย่านพุทธมณฑล" ที่มีถนนสายหลักคือ "ถนนเพชรเกษม" ตลอดแนวถนนเส้นนี้ หรือถนนที่เชื่อมต่อเข้ามาจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ได้รับอิทธิพลมาจากในเมือง ที่มาพร้อมความเจริญหลายด้าน เช่น ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทางหลวงสายหลัก ทางด่วนพิเศษ ถนนสายหลักที่แตกแยกซอยออกมาอีกเพียบ และที่สำคัญเห็นจะเป็นเจ้า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เนี้ยแหละที่เป็นจุดเด่นมากๆเลย เรียกได้ว่าย่านนั้น โซนนั้นเจริญไปแล้วชัวร์ ถามว่ารู้ได้ไง คุณเอาอะไรไปวัด แน่นอนมันคงไม่ใช่ปิ่นโตกับไม้บรรทัดหรอก แต่เป็นแนวรถไฟฟ้าต่างหากล่ะครับ ที่เป็นสิ่งชี้วัดของความเจริญ เหมือนกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินครับ เป็นสิ่งที่พลิกโฉมหน้าของเพชรเกษมให้ดูเจริญขึ้นทันที อ้าววว ถ้าคิดว่าผมง้างมาขนาดนี้แล้ว จะขอบอกว่าเพชรเกษมมีอะไรมากกว่ารถไฟฟ้าเข้าถึงซะอีก ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องรถไฟฟ้า ขอเริ่มที่เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีทั้งเดอะมอลล์บางแค ศาลเจ้าพ่อเสือ ซีคอนบางแค โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และตลาดสนามหลวง2 ซึ่งความเจริญเหล่านี้ทำให้เกิดชุมชน และผู้คน รวมไปถึงโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ช่วยยกระดับชุมชนและสังคมอย่างโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม อีกด้วย 

      “ ถนนเพชรเกษมตลอดเส้น มีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายเพิ่มเติมจากเดิมที่สิ้นสุดที่สถานีหลักสอง ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายเพิ่มเติมอีก 4 สถานี คือ พุทธมณฑลสาย2 ทวีวัฒนา พุทธมณฑลสาย3 และสิ้นสุดที่พุทธมณฑลสาย4 ตามลำดับ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้คาดว่าจะเปิดใช้ ปี 64 ซึ่งจะมีส่วนทำให้โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย และที่สำคัญจะทำให้การเดินทางต่างๆ สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเดินทางไปโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม ทำให้มีความคล่องตัวมากเช่นกัน ถ้าเปรียบเทียบเป็นสภาพอากาศ ผมบอกได้เลยว่าทำเลนี้ฮ็อตจนเกรียมยิ่งกว่าอากาศประเทศไทยแน่นอน หนุ่มสาวในเมือง และชาวฝั่งธนห้ามพลาดสำหรับโครงการนี้ ”

     โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม โครงการทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ที่อำนวยการสร้างโดย โกลเด้นแลนด์ ผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำของเมืองไทย ก็เช่นกันครับ เป็นโครงการที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินพอดี ซึ่งก็พอจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นได้ว่าทำเลเพชรเกษม เริ่มจะมีความเจริญเข้ามาแล้ว และโครงการยังสามารถยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตของชาวเพชรเกษมเดิมให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย ไม่ต้องขยับขยายย้ายที่อยู่ของตัวเองไปไหนไกลเลย ผมบอกเลย "เพชรเกษมไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน" คลิกดูสถานที่ที่สนใจใกล้โครงการ

     ฉะนั้นวันนี้แล้วผม ท. (ที่ไม่ใช่บุตรแห่งโอดิน) ก็จะขอพาทุกท่านเดินทางไปพบกับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นของทำเลเพชรเกษม กับโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น กันนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปชมตัวแบบบ้าน เราไปดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของโครงการกันก่อนเลยดีกว่าครับ

 

รายละเอียดโครงการ

     โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม ทาวน์โฮม 2 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ยังคงความคลาสสิคที่การออกแบบภายในด้วย จึงทำให้การตกแต่งเป็นสไตล์ Modern Contemporary มีความร่วมสมัยดูไม่จำเจ พร้อมด้วยแบบบ้านที่ตั้งขึ้นมาตามชื่อของอัญมณีถึง 3 ชนิด ทำให้มีความรู้สึกเหมือนบ้านคือสิ่งล้ำค่าที่ทรงเสน่ห์เลยจริงๆ

โครงการมีแบบทาวน์โฮม ให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ มีรายละเอียดดังนี้

1. ทาวน์โฮมแบบ Turquoise Plus  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | ดูแบบมุมมอง 360°

มีเนื้อที่ 21.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
4 ห้องนอน (1 ห้องอเนกประสงค์) 3 ห้องน้ำ 1 ห้องพระ 2 ที่จอดรถ 
มีโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน
 

2. ทาวน์โฮมแบบ Amethyst  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง

มีเนื้อที่ 19.2 ตร.ว. ​พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
4 ห้องนอน (1 ห้องอเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
มีโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน
 

3. ทาวน์โฮมแบบ Amber  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | ดูแบบมุมมอง 360°

​มีเนื้อที่ 16.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม.
2 ห้องนอนใหญ่ (1 ห้องอเนกประสงค์) 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ 
มีโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน

 

     ทางเข้าโครงการจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามตามสไตล์โมเดิร์น ดูกว้างขวาง เรียบง่าย เข้าออกได้สะดวก และบริเวณทางเข้า-ออกจากโครงการ มีปลูกต้นไม้พุ่มเล็กๆ เต็มพื้นที่ทั้งด้านซ้าย และขวา แหม่ แค่ทางเข้าหน้าโครงการก็ดูดีขนาดนี้แล้ว ข้างในจะน่าอยู่ขนาดไหน

     โครงการ โกลเด้นทาวน์ วงศ์สว่าง - แคราย มีคลับเฮ้าส์ดีไซน์หรู รูปทรงตัวอาคารทรงสูง เลือกใช้หลังคาทรงเพิงหมาแหงน หรือหลังคาจั่วแบบมีด้านเดียว ภาพรวมการตกแต่งในสไตล์ทูโทน เน้นสีเหลืองกับสีเทา รูปแบบการเลือกใช้สีตัวอาคาร และวัสดุตกแต่งไปในโทนเดียวกับบ้านในโครงการ และมีการตกแต่งสวนหย่อมโดยรอบคลับเฮ้าส์ ภายในตัวอาคารมีเป็นห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ ที่นั่งริมสระ ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำ จัดมาให้ครบครัน

     ที่ตั้งจะอยู่โซนทางเข้าโครงการติดกับถนนเมน เข้าโครงการมาทุกคนต้องผ่านคลับเฮ้าส์ มีความสะดวกให้ผู้ใช้งานทั้งบุคคลภายใน และภายนอก(อนาคตอาจจะเปิดรับบุคคลภายนอกได้) คลับเฮ้าส์จึงได้ออกแบบมาให้แยกโซนออกมาจากโซนที่อยู่อาศัยภายในเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย 

 

     สระว่ายน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลาง เป็นสระว่ายน้ำที่ใช้ระบบเกลือ มีสระเด็กแยก ด้านข้างติดกับตัวอาคารคลับเฮ้าส์ ยังมีชุดโต๊ะที่นั่งขอบสระพร้อมด้วยร่มบังแดดสำหรับการนั่งพักชิลๆ ริมสระน้ำ มีห้องน้ำชาย-หญิง ที่มีทั้งห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกด้วย และบริเวณรอบๆ สระว่ายน้ำ ยังมีการตกแต่งสวน มีบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ และปลูกต้นไม้ขนาดกลาง และใช้ไม้พุ่มขนาดเล็กปลูกขนานไปตามแนวขอบสระเพื่อให้ดูสวยงาม และไม้ใหญ่ช่วยสร้างความร่มรื่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย แม้จะมีพื้นที่สวนเล็กๆ แต่ก็ยังมีลาน Jogging Track รองรับการวิ่งออกกำลังกายแบบ Outdoor อีกด้วย

     โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม มีความโดดเด่นด้วยทำเลถนนเพชรเกษม ถนนหลักที่เชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนพุทธมณฑล ถนนบรมราชชนนี และถนนกาญจนาภิเษก โดยรอบโครงการรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานพยาบาล สถานที่ราชการ และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เดอะมอลล์บางแค, เซ็นทรัล ศาลายา, บิ๊กซีเพชรเกษม, ซีคอนบางแค และที่สำคัญที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ คือ ทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานีพุทธมณฑลสาย3 ที่จะเปิดใช้งานปี64 ที่กล่าวมาขนาดนี้หลายท่านอาจจะคิดว่าราคาต้องแรงแน่นอน โครงการนี้มีราคาที่คนหนุ่มสาววัยทำงาน พ่อค้าแม่ค้า รวมไปจนผู้ที่ทำงานอิสระต่างๆ มีรายได้เข้าสม่ำเสมอ ขอบอกเลยครับว่า... ซื้อได้สบายๆ เรียกได้ว่า เป็นราคาที่เหมาะสมทุกคนแน่นอน
 

ราคาเริ่มต้นที่ 1.99   ล้านบาท*

แบบบ้านโครงการ โกลเด้น ทาวน์  เพชรเกษม

โครงการมีทาวน์โฮม ให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

 1.  ทาวน์โฮมแบบ Turquoise Plus (เทอร์ควอยซ์ พลัส)

เนื้อที่ 21.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | ดูแบบมุมมอง 360°

4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ 1 อเนกประสงค์) 3 ห้องน้ำ (1 ห้องน้ำส่วนตัวห้องนอนใหญ่)

มีชั้นลอยห้องพระ มีโซนรับแขก ห้องอเนกประสงค์ โซนรับประทานอาหาร โซนครัว

มีที่จอดรถในร่ม 2 ที่จอด และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน พร้อมแนวรั้วสูง

 

 2.  ทาวน์โฮมแบบ Amethyst (อเมทิสต์)

เนื้อที่ 19.2 ตร.ว. ​พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง

4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ 1 อเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ

มีโซนรับแขก ห้องอเนกประสงค์ โซนรับประทานอาหาร โซนครัว มีพื้นที่สวนหน้าบ้าน

มีที่จอดรถในร่ม 1 ที่จอด และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน พร้อมแนวรั้วสูง

 

 3.  ทาวน์โฮมแบบ Amber (แอมเบอร์)

เนื้อที่ 16.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม.  » ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | ดูแบบมุมมอง 360°

3 ห้องนอน (2 ห้องนอนใหญ่ 1 อเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ

มีโซนรับแขก ห้องอเนกประสงค์ โซนรับประทานอาหาร โซนครัว มีพื้นที่สวนหน้าบ้าน

มีที่จอดรถในร่ม 1 ที่จอด และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน พร้อมแนวรั้วสูง

 

รีวิวโกลเด้น ทาวน์  เพชรเกษม มุมมองแบบ 360 °  

     สำหรับการรีวิวโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม มีการเลือกใช้กล้องถ่ายภาพที่มีความคมชัดสูง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีความชัดเจน และสวยเหมือนจริงมากที่สุดแล้ว ทีมงานยังได้เลือกใช้กล้อง มุมมองแบบ 360º แบบที่พิเศษสำหรับการภ่ายภาพมุมมองต่างๆ ภายในตัวบ้านเสมือนว่าเดินเข้าชมด้วยตัวเอง จัดมาให้ชมกันเพิ่มเติมอีกด้วย ลองคิดดูว่าถ้าเราได้ไป
ชมบ้านทั้งๆ ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะที่บ้านเราเอง แต่เพียงแค่เราคลิกใช้บริการแบบ 360º นี้ ก็เหมือนว่าเดินเข้าไปตามห้องต่างๆ ด้วยตัวเองเลย ใช้งานง่ายสะดวกดีจริงๆ

ทีมงานใจดีจัดมาให้ 2 แบบ » Trquoise Plus 360º และ Amber ภาพมุมมอง 360º

ลองไปชมกันได้เลยเฉพาะที่นี่ ที่เดียวเท่านั้น!!

รีวิวแบบบ้าน Trquoise Plus 360º คลิกปุ่ม Play ที่ด้านล่างนี่เลยจัดไปชิลๆ

 

 

รีวิวแบบบ้าน Amber 360º คลิกปุ่ม Play ที่ด้านล่างนี่เลยจัดไปอีกหลัง แบบวินวิน

 

 

แผนที่โครงการ    โกลเด้น ทาวน์  เพชรเกษม

คลิกภาพเพื่อดูแผนที่โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม

"ทำเลระดับเวิลด์คลาสบนพื้นที่เพชรเกษม" ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการนั้น อยู่บนทำเลถนนเพชรเกษม ในซอยเพชรเกษม 108 ห่างจากถนนใหญ่เพียงแค่ 400 เมตร เท่านั้น ทำเลสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีหลักสอง (เปิดให้บริการปี 62) และสถานีพุทธมณฑล สาย 3 (เปิดให้บริการปี 64) และถนนเพชรเกษมก็ใกล้กับถนนต่างๆ มากมาย สามารถเชื่อมต่อไปได้หลากหลายเส้นทางทั้ง ถนนพุทธมณฑลสาย 1, 2, 3 และ 4 ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง
ถนนบรมราชชนนีได้ และถนนกาญจนาภิเษก ที่เชื่อมต่อไปได้ทั่วมุมเมืองกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งทางด่วนถนนกาญจนาภิเษก (พระราม 2 - บางนา) และทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอกได้อีกด้วย

ซึ่งนอกจากทำเลด้านการเดินทางแล้ว ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการ ก็โดดเด่นไม่แพ้กันครับ เพราะตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าต่างๆ อย่างมากมาย ทั้งเดอะมอลล์ บางแค, บิ๊กซี เพชรเกษม, โลตัส บางแค โฮมโปร เพชรเกษม, ซีคอน บางแค และวิคตอเรีย การ์เด้นท์ รวมทั้งโรงพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาล เกษมราษฎร์ บางแค,
โรงพยาบาล วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงพยาบาล ศรีวิชัย 2 และนอกจากนั้น ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำอย่างโรงเรียนเลิศหล้า เพชรเกษม, โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า,
โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา, โรงเรียนสารสาสน์ บางบอน, มหาวิทยาลัยธนบุรี, มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และมหาวิทยาลัยมหิดล เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่สะดวกครบรอบด้านเลยล่ะครับ

 

แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสถานีต่างๆ

คลิกดูรูปภาพใหญ่ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดบริการในปี 62 เนื่องจากการก่อสร้างเร็วกว่าแผน (หัวลำโพง-ท่าพระ ก.พ. 62 เปิดตลอดเส้นทางทั้งสองช่วง ต.ค. 62) มีสถานีที่ตกแต่งตามสถาปัตยกรรมพื้นเมือง เป็นสถานี Finale ของโครงการ 4 สถานีช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนการจัดเก็บค่าโดยสารทั้งเส้นทางจะไม่เกินจากอัตราโครงสร้างค่าโดยสารของ MRT เดิม โดยจะมีการคิดอัตราค่าแรกเข้าที่ 16 บาท สถานีต่อไปสถานีละ 2 บาท แต่ไม่เกิน 42 บาท

 

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง  (พร้อมใช้ปี 62)

สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง สถานีปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่พร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 ตัวสถานีตั้งอยู่ใกล้บริเวณ เดอะมอลล์ บางแค สามารถเดินทางต่อไปยังโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมได้

แผนที่จาก Google Maps แสดงให้เห็นถึงการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง จนถึงโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม สามารถเดินทางไปยังโครงการได้ทั้งรถแท็กซี่ และด้วยรถประจำทางอีกหลายสาย เช่น 84, ปอ.84, 157,170, 123 และ 183

 

โครงการใกล้รถไฟฟ้า สถานีพุทธมณฑลสาย 3   เพียง   5  นาที    (พร้อมใช้ปี 64)

คลิกดูรูปภาพใหญ่ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค – พุทธมณฑลสาย 4 เริ่มการก่อสร้างแล้ว เป็นส่วนต่อขยายมาจากสถานีหลักสอง และคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 64 เมื่อส่วนต่อขยายสร้างเสร็จจะมี สถานีพุทธมณฑลสาย 2, สถานีทวีวัฒนา, สถานีพุทธมณฑลสาย 3 
และสถานีพุทธมณฑลสาย 4 เป็นสถานีสุดท้าย 

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานนีพุทธมณฑลสาย 3 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยลงจากสถานีพุทธมณฑลสาย 3 มาแล้ว ต่อรถบนถนนเพชรเกษม สามารถนั่งแท็กซี่ หรือจะใช้การเดินเข้าซอยก็ได้ (15 นาที) ตรงไปบนถนนเพชรเกษมแค่ 900 เมตร แล้วกลับรถเข้าซอยเพชรเกษม 108 เข้าซอยแล้วไปต่ออีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม

แผนที่เส้นทางเพิ่มเติม เส้นทางสำหรับที่ไปโครงการ

►มาจากถนนกาญจนาภิเษก และตัดเข้าสู่ถนนเพชรเกษม

 

►มาจากทางพิเศษศรีรัช - วงแหวนรอบนอก ตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก

 

►มาจากถนนบรมราชชนนี ผ่านถนนพุทธมณฑลสาย 3 และตัดเข้าถนนเพชรเกษม

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ  

แผนที่ Google Maps แสดงการเดินทางไปยังโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม ซึ่งเริ่มต้นกันบนถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางพระราม 2 แล้วตัดเข้าสู่ถนนเพชรเกษม แล้วกลับรถเพื่อเข้าสู่ซอยเพชรเกษม 108

 

การเดินทางไปยังโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม ในครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางพระราม 2 บริเวณหน้าเซ็นทรัล เวสต์เกต กันนะครับ ซึ่งจากจุดนี้ ให้เราขับตรงไปตามถนนกาญจนาภิเษกได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านเซ็นทรัล เวสต์เกตมาแล้ว เราจะพบกับป้ายถนนพระราม 2 ตรงไป ให้เราขังตรงไปตามป้ายถนนพระราม 2 บนถนนกาญจนาภิเษกต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาตามถนนกาญจนาภิเษกเรื่อยๆ แล้ว เราจะพบกับป้ายจตุจักร ซึ่งเป็นป้ายของทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก ที่สามารถไปยังพื้นที่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ได้ทั้งพื้นที่จตุจักร ไปจนถึงพื้นที่สีลมและสาทรได้ แต่จากจุดนี้ ให้เราขับตรงไปตามถนนกาญจนาภิเษกต่อไปครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาตามถนนกาญจนาภิเษกเรื่อยๆ เราจะพบกับป้ายบางแค ถึงจุดนี้ ให้เราเปลี่ยนไปตามป้ายบางแคแทนนะครับ ก็ให้ขับตรงไปตามป้ายบางแคบนถนนกาญจนาภิเษกได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาตามถนนกาญจนาภิเษกเรื่อยๆ เราจะพบกับพาซิโอ กาญจนาภิเษก อยู่ทางด้านขวามือฝั่งตรงข้ามครับ หากอยากแวะช็อป หรือรับประทานอาหาร ก็แวะได้ครับ แต่ถ้าจะไปโครงการเลยก็ขับตรงไปตามถนนกาญจนาภิเษกต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราผ่านพาซิโอ กาญจนาภิเษกมาแล้ว เราจะพบกับป้ายทางออกถนนเพชรเกษม เมื่อเราพบกับป้ายนี้แล้ว ให้เราเตรียมชิดซ้ายตามป้ายถนนเพชรเกษมได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านป้ายทางออกถนนเพชรเกษมมาแล้ว เราจะพบกับป้ายบางแคอีกป้าย ให้เราชิดซ้ายตามป้ายบางแค เพื่อออกสู่เลนคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษกได้เลยครับ

 

เราจะพบกับป้ายบางแคเบี่ยงซ้ายเยอะมากครับ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คอยเตือนเราครับว่าให้ออกสู่เลนคู่ขนานได้แล้ว และเมื่อคุณพบกับป้ายบางแคแล้ว ก็ให้ขับชิดซ้ายไว้ได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านป้ายบางแคมาแล้ว เราจะพบกับทางเบี่ยงซ้ายออกสู่เลนคู่ขนาน ให้เราเบี่ยงซ้ายเพื่อออกสู่เลนคู่ขนานได้เลยครับ

 

เมื่อออกมาสู่เลนคู่ขนานแล้ว ให้เราขับตรงไปตามเลนคู่ขนานบนถนนกาญจนาภิเษกต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆตามถนนกาญจนาภิเษกแล้ว เราจะพบกับป้ายบางแคอยู่ทางด้านขวา ให้เราขับชิดเลนขวาตามป้ายบางแคได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาเรื่อยๆ ตามเลนคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษกแล้ว เราจะพบกับเดอะมอลล์บางแคอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณทางแยกต่างระดับเพชรกาญจนา และหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีหลักสองพอดีครับ

 

เมื่อเราถึงแยกต่างระดับเพชรกาญจนาแล้ว ให้เราชิดเลนขวาสุด เพื่อเตรียมเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรเกษมต่อไปครับ

 

ในขณะที่เรากำลังจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรเกษม เราจะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการบอกให้เลี้ยวขวาพอดี และด้านบนนั้นคือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ให้เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรเกษมตามป้ายโครงการได้เลยครับ

 

เมื่อเราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรเกษมมาแล้ว ให้เราขับตรงไปตามถนนเพชรเกษมตามป้ายนครปฐมเพื่อลอดผ่านทางแยกต่างระดับเพชรกาญจนาต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราผ่านทางแยกต่างระดับเพชรกาญจนามาแล้ว ให้เราขับตรงไปบนถนนเพชรเกษม ตามป้ายหนองแขมต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาตามถนนเพชรเกษมมาเรื่อยๆ เราจะพบกับบิ๊กซีเพชรเกษมอยู่ทางด้านซ้าย ให้เราขับผ่านบิ๊กซีตามถนนเพชรเกษมไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านบิ๊กซีเพชรเกษมมาแล้ว เราจะพบกับแยกหมู่บ้านเศรษฐกิจ ให้เราขับตรงผ่านแยกหมู่บ้านเศรษฐกิจตามถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อขับผ่านแยกหมู่บ้านเศรษฐกิจมาแล้ว ให้เราขับตรงตามป้ายหนองแขมบนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาเรื่อยๆ เราจะพบกับสะพานข้ามคลองทวีวัฒนา ให้เราขับตรงข้ามคลองทวีวัฒนาต่อไปบนถนนเพชรเกษมได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านคลองทวีวัฒนามาแล้ว เราจะพบกับป้ายพุทธมณฑล สาย4 ตรงไป เมื่อเราพบป้ายนี้แล้ว ให้เราเตรียมชิดขวาบนถนนเพชรเกษมได้เลยครับ

 

อีกหนึ่งจุดสังเกตที่เด่นชัดมากๆ เลยของถนนเพชรเกษม ก็คือโรงพยาบาลวิชัยเวช ถ้าเราพบโรงพยาบาลวิชัยเวชที่อยู่ด้านขวาของเราแล้ว ให้เราขับชิดขวาบนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านโรงพยาบาลวิชัยเวชมาแล้ว เราจะพบกับมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์อยู่ทางฝั่งขวาของเรานะครับ ให้เราขับชิดขวาบนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลยนะครับ

 

เมื่อเราขับผ่านมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์มาแล้ว เราจะพบกับป้ายสำนักงานเขตหนองแขม ให้เราขับชิดขวาบนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับเลยป้ายสำนักงานเขตหนองแขมมาแล้ว เราจะพบกับป้ายกลับรถ ให้เราเตรียมกลับรถได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านป้ายกลับรถมาแล้ว เราจะพบกับป้ายกลับรถอีกป้ายหนึ่ง อยู่ที่เลนขวาสุด ให้เรากลับรถตามป้ายกลับรถได้เลยครับ

 

เมื่อเรากลับรถมาแล้ว เราจะพบกับซอยเพชรเกษม 112 ให้เราเตรียมขับชิดซ้ายบนถนนเพชรเกษมได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงมาตามถนนเพชรเกษมเรื่อยๆแล้ว เราจะพบกับป้ายสำนักงานเขตหนองแขม เมื่อเราพบกับป้ายสำนักงานเขตหนองแขมแล้ว ให้เราขับชิดซ้ายบนถนนเพชรเกษมได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับผ่านป้ายสำนักงานเขตหนองแขมมาแล้ว เราจะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะอยู่ในซอยเพชรเกษม 108 พอดี ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยเพชรเกษม 108 ตามป้ายโฆษณาโครงการได้เลยครับ

 

ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยเพชรเกษฒ 108 ตามป้ายซอยเพชรเกษม 108 ได้เลยครับ

 

เมื่อเราเข้าซอยเพชรเกษม 108 มาแล้ว เราจะพบกับป้ายโฆษณาโครงการที่บอกให้ตรงไปอย่างต่อเนื่อง ให้เราขับตรงไปในซอยเพชรเกษม 108 ตามป้ายโฆษณาโครงการได้เลยครับ

 

เมื่อเราขับตรงเข้ามาตามซอยเพชรเกษม 108 เข้ามาเรื่อยๆ เราจะพบกับป้ายโฆษณาโครงการที่บอกให้เลี้ยวขวาอยู่ทางด้านขวา พร้อมกับโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษมอยู่ทางด้านขวา ให้เราเตรียมเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่โครงการได้เลยครับ

 

ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษมได้เลยครับ

 

แล้วเราก็มาถึงโครงการโกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษมกันแล้วนะครับ เราไปดูกันในส่วนต่อไปกันเลยดีกว่าครับ นั่นก็คือการรีวิวตัวแบบบ้านครับ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ 

 

รีวิวบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม   Turquoise   Plus   (เทอร์ควอยซ์   พลัส)

แบบบ้าน Turquoise Plus (เทอร์ควอยซ์ พลัส) ที่มาพร้อมกับเนื้อที่ 21.2 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับห้องนอนถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ + 1 ห้องพระ
และ 2 ที่จอดรถ ซึ่งนอกจากนี้ ภายในบ้านยังมีทั้งโซนรับแขก โซนห้องอเนกประสงค์ โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่สำหรับซักล้างมาให้อีกด้วย 

การตกแต่งภายนอกของแบบบ้าน Turquoise Plus เน้นการใช้โทนสีเหลืองเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีโทนกลาง ดูไม่ร้อน และไม่เย็นจนเกินไป เน้นการตกแต่งแบบเรียบง่าย สไตล์โมเดิร์น มีประดับแนวคิ้วบัวสีขาวนูนขึ้นมา เพื่อให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และเลือกการตกแต่งผนังภายนอกด้วยการประดับลายหินภูเขาสีน้ำตาลที่บริเวณภายในพื้นที่จอดรถชั้น1 และบริเวณใต้หน้าต่างของชั้น2 ซึ่งจะทำให้บ้านดูสวยงาม และมีความสะดุดตามากยิ่งขึ้น

 

เมื่อเราเดินเข้ามาในพื้นที่ของตัวบ้าน เราจะพบกับพื้นที่จอดรถหน้าบ้านก่อนเลยครับ ซึ่งเป็นที่จอดรถในที่ร่มด้วยครับ ไม่ต้องจอดรถกลางแดดให้ร้อน หรือต่อเติมหลังคาโรงจอดรถเพิ่มเติมเลย แต่ถ้าหากผู้ซื้อบ้านไม่มีรถ หรือมีรถแค่คันเดียว ก็สามารถจัดแบ่งพื้นที่ภายในโรงรถมาจัดทำเป็นสวนตกแต่งแบบสวยๆได้ หรือจะเลือกจัดทำเป็นพื้นที่ตู้รองเท้าก็เป็นไอเดียที่ดีไม่แพ้กันเลยครับ

ถัดๆกันมาจากพื้นที่จอดรถ จะพบกับประตูสำหรับเข้าตัวบ้าน ซึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนหนึ่งบาน และบานตายอีกหนึ่งบาน ตัวแผ่นกระจกจะเป็นกระจกเขียวตัดแสงครับ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดความร้อนได้ดีมาก หากกลัวว่าบ้านจะร้อนเหรอ ผมว่าไม่มีทางเลยล่ะครับ

 

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้ว จะพบกับโซนพื้นที่รับแขกเป็นอันดับแรกเลยครับ โดยที่ภายในโซนรับแขกจะเน้น Interior Design สไตล์ Modern Luxury คือเน้นความโมเดิร์นของรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ เน้นการประดับลายเส้นบัวบนผนังเป็นสีทองแวววาว และแนวบัวที่พื้นเป็นสีขาว เพื่อเพิ่มความโดดเด่น และความสวยงามเข้าไปด้วย และผนังบริเวณโซนรับประทานอาหารด้วยกระจกเงา ทำให้มีความรู้สึกว่าบริเวณชั้น1 มีความกว้างมากยิ่งขึ้น ภายในโซนรับแขกจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ 1 บาน ที่สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศภายในตัวบ้าน และใช้รับแสงสว่างจากภายนอกตัวบ้านได้อีกด้วย พื้นชั้น1 ทางโครงการได้เลือกใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลอ่อน ขนาด 60x60 ซม. ซึ่งเป็นสีโทนสว่าง ที่จะช่วยสะท้อนแสงที่ตกกระทบพื้นผิวกระเบื้องได้ ทำให้ภายในบริเวณโซนรับแขก และชั้น1 มีความสว่างมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ทางโครงการได้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ทั้งโซฟา เก้าอี้ และชุดโต๊ะรับแขก แต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นยุโรปอยู่ด้วยชุดโซฟาที่เลือกใช้โซฟาหนัง และเก้าอี้ชุดผ้ากำมะหยี่ พร้อมด้วยพรมปูพื้น ที่เป็นขนฟูและนุ่ม ที่รู้สึกสบายเท้ามากๆ เวลาเหยียบ ทำให้โซนรับแขกมีความหรูหราขึ้นมาก และพร้อมสำหรับการเป็นที่พบปะ รวมตัวกันภายในครอบครัวด้วย และสำหรับรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านด้วยเช่นกันครับ

 

พื้นที่บริเวณโซนรับแขกจะมีความกว้างมาก อีกด้านจะเป็นพื้นที่สำหรับใช้จัดวางตู้ หรือชั้นวางโทรทัศน์ได้ หรือจะใช้เป็นการแขวนโทรทัศน์แบบติดผนังก็ได้เช่นกันครับ ส่วนด้านการตกแต่งผนัง ทางโครงการได้เลือกใช้วอลล์เปเปอร์สีเหลืองอมน้ำตาลมีลวดลายแบบคลาสสิค และด้านข้างของผนังทั้งสองด้าน จะมีทางเข้าห้องน้ำชั้น1 และทางขึ้นบันไดชั้น2 อีกด้วย แต่รายละเอียดในส่วนนี้ เราจะมาว่ากันทีหลัง ตอนนี้เรามาดูส่วนต่อไปของตัวบ้านกันก่อนดีกว่าครับ

 

ถัดเข้ามาจากโซนรับแขก จะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่ตกแต่งมาในสไตล์โมเดิร์น ทางโครงการได้เลือกโต๊ะรับประทานอาหารแบบลายไม้โทนสีเข้ม ทำให้ดูโดดเด่นมากๆ พร้อมด้วยชุดเก้าอี้บุหนังสีขาว ที่ดูตัดกันกับสีโต๊ะมากๆ และยังเพิ่มแจกันดอกไม้ไว้ที่กลางโต๊ะเพื่อเพิ่มความสดชื่นภายในโซนรับประทานอาหารนี้อีกด้วย บอกได้เลยล่ะครับว่าโลกนี้ดูสดใสขึ้นเลยครับ

ภายในโซนรับประทานอาหาร จะมีความกว้างมาก สามารถจัดวางตู้เย็น และ Built-In ตู้สำหรับเก็บเครื่องจานชามต่างๆ ได้อีกด้วย และนอกจากนั้น ภายในโซนรับประทานอาหาร จะยังมีหน้าต่างสำหรับเปิดเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอาหารภายในบ้านได้อีกด้วย และยังสามารถรับแสงสว่างจากภายนอก ที่จะช่วยให้บริเวณโซนรับประทานอาหารมีความสว่าง และน่านั่งมากยิ่งขึ้นด้วยล่ะครับ

 

พื้นที่ชั้น1 จะมีความกว้างมาก สามารถจัดแนวโต๊ะรับประทานอาหารใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่รับประทานอาหารได้อีกเป็น 6 ที่นั่ง และยังสามารถ Built-In ฉากกั้นระหว่างโซนรับประทานอาหาร และโซนรับแขกได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกได้ทั้งการ Built-In เคาน์เตอร์กั้นโซนก็ได้ หรือจะเป็นตู้โชว์ใส่ของตกแต่ง ของประดับต่างๆ ที่ช่วยประดับโซนรับแขกให้ดูโดดเด่นก็ได้เช่นกัน หรือจะติดตั้งฉากกั้นระหว่างโซนก็ได้เช่นกันครับ

 

ถัดมาด้านข้างของโซนรับประทานอาหาร จะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายมากๆ ทั้งเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุที่ขึ้น-ลงบันไดไม่ไหวก็ได้ หรือเป็นห้องสำหรับดูโทรทัศน์ก็ได้เช่นกัน เป็นห้องอ่านหนังสือก็ได้ แต่ทางโครงการได้จัดตกแต่งห้องอเนกประสงค์นี้เป็นห้องนอนครับ โดยเน้นการตกแต่งในสไตล์คลาสสิค มี Built-In ผนังเป็นลายหนังบุ พร้อมด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจ ด้านปลายเตียงมีการใช้วอลล์เปเปอร์เป็นลายดอกไม้สไตล์วินเทจ ทำให้ภายในห้องนี้มีสไตล์ที่เด่นชัดมากๆ เลยคือสไตล์คลาสสิค ที่เน้นไปทางวินเทจสไตล์ยุโรปครับ

 

เมื่อเดินเลยโซนรับประทานอาหารไป จะพบกับห้องครัวครับ โดยทางโครงการได้เลือกใช้เป็นเคาน์เตอร์ครัวสีขาว Built-In เป็นแนวยาวติดผนังด้านเดียวไปเลย ซึ่งเป็นการเลือกใช้พื้นที่ที่ดีมากๆครับ ประหยัดพื้นที่ และเป็นการใช้พื้นที่ที่มีได้อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากๆ ด้วยครับ ซึ่งนอกจากเคาน์เตอร์ครัวแล้ว ยังมี Built-In ตู้ติดผนังอีกด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มพื้นทีึ่การจัดเก็บได้เป็นอย่างมาก ทั้งเครื่องครัว จานชามต่างๆ รวมไปถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารอีกด้วย

ส่วนตัวเคาน์เตอร์ครัว ก็สามารถใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างครบครัน ทั้งการปรุงอาหาร
การเตรียมอาหาร และการล้างทำความสะอาดเครื่องครัว เพราะเป็นเคาน์เตอร์ที่มีทั้งอ่างล้างทำความสะอาด พื้นที่ว่างสำหรับใช้เตรียมอาหาร และเตาสำหรับประกอบอาหารด้วย และยังมีเครื่องดูดควันที่ช่วยให้ควัน และกลิ่นอาหารกระจายติดไปทั่วบ้านได้อีกด้วย

 

ถัดมาด้านข้างจากห้องครัว จะพบกับพื้นที่ซักล้าง ที่ทางโครงการได้ทำเป็นห้องสำหรับการซักล้างโดยเฉพาะ มี Built-In ชั้นสำหรับวางของ ที่ใช้จัดวางได้ทั้งอุปกรณ์ซักรีดต่างๆ ไปจนถึงเสื้อผ้าต่างๆ ที่รอซัก และรีดได้เช่นกัน และมี Built-In ตู้ติดผนังเพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บสิ่งของต่างๆ ภายในโซนซักล้างให้มากขึ้นได้อีกด้วย 

 

ภายในโซนพื้นที่ซักล้าง จะมีความสว่างมาก เนื่องจากมีหลังคาแบบโปร่งแสง ซึ่งสามารถรับแสงสว่างจากภายนอกได้ ทำให้ภายในโซนพื้นที่ซักล้างมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และยังสามารถเปิดหลังคาเพื่อถ่ายเทอากาศภายในโซนพื้นที่ซักล้างได้อีกด้วย

 

จำได้รึเปล่า ว่าผมเคยบอกว่าห้องน้ำจะอยู่ใกล้ๆ กับโซนรับแขก เรากลับมาตรงนี้กันแล้วครับ โดยที่ประตูหน้าทางเข้าห้องน้ำ จะอยู่ข้างๆกับชั้นวางโทรทัศน์ในโซนรับแขก และระดับพื้นภายในห้องน้ำ จะอยู่ต่ำกว่าพื้นบ้านชั้น1 ด้วยครับ

 

แล้วเราก็เข้ามาถึงห้องน้ำชั้น1 กันแล้วนะครับ ภายในห้องน้ำจะมีทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ และฝักบัวอาบน้ำ ภายในห้องจะมีการตกแต่งทั้งพื้น และผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค โดยที่พื้นห้องน้ำจะเลือกกระเบื้องเซรามิคแบบหยาบ ซึ่งสามารถกันลื่นได้เป็นอย่างดี และดูแลรักษาง่าย ส่วนผนังภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องเซรามิคแบบเคลือบ มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องลวดลายต่างๆ อย่างหลากหลายเพื่อให้ดูมีความสวยสะดุดตามากขึ้น ซึ่งตัวห้องน้ำชั้น1 จะอยู่บริเวณใต้บันไดขึ้นชั้น2 ซึ่งเป็นการเลื้อกใช้พื้นที่ที่คุ้มค่ามาก หลายคนอาจจะกลัวล่ะสิ ว่าถ้าอาบน้ำไปนานๆ แล้วฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะชื้น และมีเชื้อรา ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะทางโครงการได้เลือกใช้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มม. ชนิดกันชื้นได้ จึงหมดปัญหาเรื่องความชื้นได้อย่างหมดจด ไม่ต้องกลัวฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเกิดเชื้อราเลยครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดเลยครับ

 

จำได้ไหมครับ ว่าตอนเข้าบ้านมาจะเจออะไรก่อน ใช่ครับ บันไดขึ้นชั้น2 ไง โดยที่บันไดจะอยู่บริเวณด้านข้างของโซนรับแขก เดินเข้าบ้านแล้วเลี้ยวขึ้นชั้น2 ได้เลย โดยที่บันไดจะมีช่องแสงบริเวณบันไดช่วงแรก ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่าง แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U โดยที่ช่วงขั้นแรกจะชันกว่าแบบแรก และไม่มีราวจับเพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น ขั้นบันไดเลือกใช้ไม้พื้นบันไดสำเร็จรูป

 

ช่องแสงบริเวณทางเดินขึ้นบันได ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างมากในเวลากลางวัน และยังสามารถมองผ่านออกไปได้ถึงบริเวณหน้าบ้านได้อีกด้วย

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่ีเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำ จะอยู่ตรงกลาง ข้างๆห้องนอนที่2 ประตูทางเข้าห้องน้ำจะใกล้กับประตูห้องนอนใหญ่ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิคผิวหยาบ

 

อาจจะงงว่าเมื่อกี้ทำไมผมถึงมีภาพมุมสูง โหนโคมไฟระย้าถ่ายเหรอ ไม่ใช่ครับ 55555 เพราะว่าภายในตัวบ้านมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับการจัดเป็นห้องพระมาให้แล้วโดยเฉพาะ โดยเดินขึ้นไปจากชั้น2 อีกหน่อย อาจจะเรียกว่าชั้น2.5 ก็ได้ แต่ผมจะเรียกว่าโซนห้องพระก็แล้วกันนะครับ ว่าแล้วก็ขึ้นไปดูเลยดีกว่าครับ

 

แล้วก็ขึ้นมาถึงห้องพระกันแล้วนะครับ ซึ่งบนห้องพระนี้ จะมีช่องสำหรับการจัดวางหิ้งพระอยู่นะครับ ซึ่งสามารถนำพระมาตั้งไว้สำหรับบูชาได้ โดยที่ไม่ต้องคิดมากเลยว่าจะมีอะไรมาสูงกว่าพระในบ้านอีก เพราะสูงกว่านี้ก็หลังคาแล้วครับ ซึ่งนอกจากพระแล้ว ยังสามารถนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละคนเคารพบูชามาตั้งไว้เพื่อบูชาได้ทั้งหมดเลยครับ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังใช้สายไฟตามมาตรฐาน มอก. เดินสายร้อยท่อ PVC เฉพาะในผนังอีกด้วยครับ

 

แล้วเราก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วครับ โดยที่ห้องนอนใหญ่นั้น ทางโครงการได้ตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury ดูเรียบหรู แต่ดูแพงมาก ภายในตัวห้องมีการตกแต่งผนังอีกด้านหนึ่งด้วยสีดำแซมด้วยลายหินอ่อนเป็นเงาสวยงามพร้อมด้วยการประดับด้วยรูปวิวเมือง ทำให้ดูโดดเด่น และสวยงามขึ้นมาก ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีทั้งประตูกระจกบานเลื่อน และหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอย่างละบาน และด้านตรงข้ามกัน จะมีกระจกเงา ที่ช่วยสะท้อนแสงให้ภายในห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้น

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความกว้างมาก สามารถจัดแบ่งเป็นโซนนอน และโซนแต่งตัวได้อย่างลงตัว และต่อไปนี้เราไปดูทางฝั่งโซนแต่งตัวกันบ้างดีกว่าครับ

 

โซนแต่งตัวของห้องนอนใหญ่ จะมี Built-In ทั้งตู้เสื้อผ้าทำเป็นโซน Walk in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งที่กระจกที่ช่วยสะท้อนแสงให้ตัวห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากของสิ่งเดียวได้อย่างหลากหลายมากๆ ผู้ซื้อบ้านก็สามารถนำไอเดียนี้ไปใช้ได้เช่นกันครับ

 

ด้านข้างของโซนแต่งตัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ครับ ซึ่งการมีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอนตัวเองนี่สะดวกมากๆ เลยครับ เพราะเราจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย และสะดวกในการใช้งานอีกด้วยล่ะครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยครับ โดยที่การตกแต่งภายในห้องน้ำจะเน้นการตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อน ที่ทำให้ดูหรูหรา และมีระดับมาก พื้นห้องน้ำก็เช่นกันครับ เป็นกระเบื้องเซรามิค แต่เป็นผิวหยาบนะครับ ซึ่งสามารถกันลื่นได้ดีมาก มีธรณีกั้นอย่างชัดเจนระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ซึ่งสามารถจัดหาฉากกั้นอาบน้ำ หรือม่านมากั้นเพื่อกันน้ำกระเด็นได้ ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำก็เหมือนกันกับห้องน้ำชั้น1 เลยครับ ทางโครงการได้เลือกใช้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มม. ชนิดกันชื้นได้ จึงหมดปัญหาเรื่องความชื้นได้อย่างหมดจด ไม่ต้องกลัวฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเกิดเชื้อราเลยครับ และสามารถระบายอากาศภายในห้องน้ำได้อีกด้วยหน้าต่างบานกระทุ้ง จึงทำให้มั่นใจได้เลยครับว่าปัญหาเชื้อราบนฝ้าจะไม่มีแน่นอน

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดครับ

 

 

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงภายในห้อง ซึ่งผู้ซื้อสามารถออกไปนั่ง หรือยืนรับอากาศ รับธรรมชาติภายนอกได้ด้วยครับ

 

ภายในห้องน้ำชั้น2 จะมีการตกแต่งโดยใช้กระเบื้องเซรามิคเช่นกันกับห้องน้ำชั้น1 ครับ ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำก็เหมือนกันกับห้องน้ำชั้น1 และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลยครับ ทางโครงการได้เลือกใช้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มม. ชนิดกันชื้นได้ ไม่ต้องกลัวฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเกิดเชื้อราเลยครับ

และก็เช่นเคยครับ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดเลยครับ

 

ห้องนอนที่2 ได้ถูกตกแต่งมาแบบน่ารักๆ เหมาะกับผู้หญิง (และในบางโมเมนท์มันก็เหมาะกับผม 55555) ภายในห้องจะมีความสว่างมาก เพราะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ถึงสองด้านด้วยกันเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถเปิด เพื่อระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากยิ่งขึ้นได้ ภายในห้องใช้การตกแต่งโทนสีชมพูเป็นหลัก มี Built-In ทั้งตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือที่ด้านข้างเตียง และที่ด้านปลายเตียงก็มี Built-In ชั้นวางของอยู่เช่นกัน ส่วนด้านหัวเตียง มี Built-In ผนังเป็นสีทองสลับกับกระจกเงา ที่ช่วยสะท้อนแสงจากภายนอก ให้ภายในห้องดูสว่างขึ้น และสามารถประหยัดพื้นที่การติดกระจกเงาอีกด้วย

 

ห้องนอนที่3 เน้นการตกแต่งโดยใช้ Transformer เป็นธีมหลักในการตกแต่ง เหมาะสำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบ Transformer หรือหนังสไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบไมเคิล เบย์ เน้นการตกแต่งโดยใช้สีน้ำเงินและสีดำ ที่ดูเท่ๆแบบเด็กผู้ชาย ด้านปลายเตียงมี Built-In ชั้นวางของ ที่ดูแล้วได้เป็นชั้นวางของเล่น ของโชว์แน่นอน ซึ่งก็ไม่น่าพลาดล่ะครับ ไม่โมเดลบับเบิ้ลบี ก็โมเดลกันดั้มนี่แหละครับ และภายในห้องยังมี Built-In ตู้เสื้อผ้า ที่มีกระจกเงาติดอยู่อีกด้วย ซึ่งกระจกเงานี้ส่องทีเห็นทั้งตัวด้วยครับ ทำให้ประหยัดพื้นที่การติดตั้งกระจกเงาเพิ่มเข้าไปได้อีกเยอะเลยครับ 

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม   Amethyst   (อเมทิสต์)

แบบบ้าน Amethyst (อเมทิสต์) มีเนื้อที่ 19.2 ตร.ว. ​พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
4 ห้องนอน (1 ห้องอเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน และนอกจากจะมีดีทางด้านการออกแบบแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์คนรักการดูหนัง เพราะจุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ สามารถติดตั้งโรงหนังส่วนตัวภายในบ้าน โดยเลือกใช้ห้องอเนกประสงค์ชั้น1 โครงการจัดตกแต่งให้เป็นห้องดูหนังที่เป็นแบบส่วนตัว ทำออกมาได้ดีเช่นกันครับ

ด้านการตกแต่ง ทางโครงการได้เลือกสีเหลืองเป็นสีหลักของตัวบ้านนะครับ ซึ่งเป็นสีกลางที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่ร้อน และไม่เย็นจนเกินไป มีการใช้แนวคิ้วบัวสีขาวประดับเป็นลายเส้นนูนออกมาให้ตัวบ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ไม่เรียบจนเกินไป และยังมีการใช้หินภูเขาประดับผนังด้านนอกให้มีความโดดเด่นอยู่อีกด้วย

 

เมื่อเราเดินเข้ามาในตัวบ้าน เราจะพบกับพื้นที่จอดรถใต้หลังคา ที่สามารถจอดรถได้ 1 คัน โดยที่ทางโครงการใช้พื้นบริเวณที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก On Ground ผิวขัดหยาบ ที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก และไม่เกิดการทรุดตัว และถ้าหากผู้ซื้อบ้านไม่มีรถ ก็สามารถจัดพื้นที่จอดรถในร่มเป็นโซนสวนเล็กๆ หน้าบ้านก็ได้เช่นกันครับ

 

ถัดจากพื้นที่จอดรถใต้ตัวบ้าน เราจะพบกับประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนหนึ่งบาน และบานตายอีกหนึ่งบาน ตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันร้อนได้ดี ผู้ซื้อบ้านไม่ต้องกลัวเลยครับว่าภายในบ้านจะร้อน

 

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว จะพบกับโซนรับแขกเป็นอันดับแรก ซึ่งโซนรับแขกนี้ทางโครงการได้ตกแต่งมาในสไตล์โมเดิร์นครับ เน้นการตกแต่งให้ภายในโซนรับแขกดูสว่าง ด้วยการใช้ชุดโซฟาสีขาว ซึ่งช่วยสะท้อนแสงให้ดูสว่างมากขึ้น และมีการปูพรมสีเทาเข้มไว้ที่กลางพื้นที่โซนรับแขก ทำให้โซนรับแขกดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และภายในโซนรับแขกยังมีทั้งหน้าต่างกระจกบานเลื่อน และประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดเพื่อรับลมจากภายนอกให้อากาศถ่ายเทขึ้นได้ และยังสามารถรับแสงจากภายนอกให้ภายในบ้านสว่างก็ได้เช่นกัน

 

อีกด้านของโซนรับแขก จะมี Built-In ผนังเป็นกระจก อยู่ตรงข้ามกันกับหน้าต่างของโซนรับแขกพอดี ซึ่งจะสามารถสะท้อนแสงสว่างจากทางหน้าต่างได้แบบเต็มๆ ทำให้โซนรับแขกมีความสว่างยิ่งขึ้นไปอีก และยังมีพื้นที่ที่กว้างพอสำหรับการจัดวางชั้นวางโทรทัศน์ได้อีกด้วย

 

พื้นที่ระหว่างโซนรับแขกกับโซนรับประทานอาหาร จะมีความกว้างมาก สามารถจัดวางโต๊ะสำหรับทำงาน เขียนหนังสือ หรือสำหรับนั่งอ่านหนังสือได้ หรือสามารถติดตั้งเป็นตู้สำหรับใส่ของโชว์ได้อีกด้วย

 

ถัดมาจากโซนรับแขก จะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่ถูกจัดมาในสไตล์โมเดิร์น พร้อมด้วยเก้าอี้จำนวน 4 ที่นั่ง ที่สามารถจัดเพิ่มเป็น 6 ที่นั่งได้ มี Built-In ชุดเคาน์เตอร์สำหรับพักอาหาร ที่สามารถเปิดออกมาเป็นตู้ที่สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ จาน ชาม ต่างๆได้ และยังมีพื้นที่สำหรับจัดวางตู้เย็นได้อีกด้วย เพดานบริเวณด้านบนโต๊ะรับประทาน มีการประดับด้วยโคมไฟระย้า
สไตล์โมเดิร์น ที่ทำให้โซนรับประทานอาหารดูหรูหราขึ้น และยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนที่สามารถเลื่อนเปิดเพื่อระบายกลิ่นอาหาร และถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย

 

พื้นที่ชั้น1 ตั้งแต่โซนรับประทานอาหาร ไปจนถึงโซนรับแขก จะมีความกว้างมาก สามารถจัดหาตู้โชว์มากั้นระหว่างโซนทั้งสองได้ครับ จะเป็นการแบ่งสัดส่วนที่ดีมากครับ แถมยังได้ประดับตกแต่งโซนรับแขกได้มากขึ้นอีกด้วย

 

ถัดมาด้านข้างของโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่ทางโครงการได้จัดมาเป็นห้องสำหรับดูภาพยนตร์นะครับ โดยที่มีการตกแต่งคล้ายกับโรงภาพยนตร์เลย และมีการเลือกใช้ผ้าม่านโทนสีเข้ม และมีความทึบมาก จึงทำให้สามารถกันแสงสะท้อนจากภายนอกห้องที่ส่องเข้ามาถึงโทรทัศน์ได้นะครับ ทำให้ไม่เสียอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์เลย ซึ่งห้องนี้นะครับ นอกจากจะจัดทำเป็นห้องครัวได้แล้ว ยังสามารถจัดทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานก็ได้เช่นกันครับ

 

ถัดเข้าไปจากโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับโซนพื้นที่ครัวที่มี Built-In เคาน์เตอร์ครัวเป็นแนวยาวชิดตามผนัง ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในโซนครัวได้เป็นอย่างมาก และออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นการใช้สีขาว และสีเหลืองเป็นหลัก ที่เป็นสีโทนสว่าง ทำให้ดูสบายตา และ TOP เคาน์เตอร์ด้วยหินอ่อนสีดำ ที่จะทำให้ตัวเคาน์เตอร์ดูเด่นขึ้นมาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี Built-In ตู้ติดผนังอีกด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บอุปกรณ์ และอาหารต่างๆ ได้อีกเยอะเลยครับ

 

ถัดมาด้านข้างของโซนพื้นที่ครัว เราจะพบกับโซนพื้นที่ซักล้าง ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งเป็นห้องซักล้าง ซักรีดเสื้อผ้าก็ได้ จัดเป็นสวนในบ้าน หรือพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้เช่นกัน ซึ่งภายในโซนพื้นที่ซักล้างนี้ จะมีหลังคาแบบโปร่งแสง ที่ช่วยรับแสงได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ภายในโซนพื้นที่ซักล้างมีความสว่างมาก และประหยัดไฟอีกด้วย

 

บริเวณใต้บันไดขึ้นชั้น2 จะพบกับห้องน้ำของชั้น1 นะครับ โดยที่ตัวห้องน้ำนี้ จะมีทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวมาให้ครบ และพื้นห้องน้ำจะใช้กระเบื้องเซรามิคแบบหยาบปูพื้น ทำให้ไม่ลื่นเวลาใช้ห้องน้ำ โดยภายในห้องน้ำจะเน้นการตกแต่งในโทนสีขาวเป็นหลัก ทำให้ภายในห้องน้ำมีความสว่างมากขึ้นไปอีก และภายในห้องน้ำยังมีช่องแสง ที่ช่วยรับแสงจากภายนอก ให้ภายในห้องน้ำมีความสว่างมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

และแน่นอนครับ สำหรับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีของ American Standard เช่นเคยครับ

 

ทางเข้าห้องน้ำชั้น1 จะอยู่ระหว่างบันไดขึ้นชั้น2 และห้องอเนกประสงค์ ซึ่งพื้นห้องน้ำจะเป็นพื้นต่างระดับกับพื้นบ้านชั้น1 เวลาเดินต้องระวังสะดุดนิดนึง แต่ก็เป็นข้อดีครับ เพราะพื้นต่างระดับทำให้น้ำจากในห้องน้ำไม่กระเด็นออกมาข้างนอกได้ครับ

 

บันไดทางขึ้นชั้น2 จะอยู่กลางบ้าน บริเวณระหว่างโซนรับแขก กับโซนรับประทานอาหาร โดยที่บันไดจะมีช่องแสงบริเวณบันไดช่วงแรก กับบริเวณกลางบันได ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างที่ทั่วถึงมาก แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U โดยที่ช่วงขั้นแรกจะชันกว่าแบบแรก และไม่มีราวจับเพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น ขั้นบันไดเลือกใช้ไม้พื้นบันไดสำเร็จรูป

ช่องแสงบริเวณกลางบันได ที่จะส่องสว่างลงที่พื้นบันไดพอดี ทำให้พื้นบันไดมีความสว่าง เห็นขั้นบันไดชัดเจนมากขึ้น ช่วยลดอุบัติเหตุระหว่างขึ้นลงบันไดได้

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่ีเป็นรูปตัว L โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำ จะอยู่ตรงกลาง ข้างๆห้องนอนที่2 ประตูทางเข้าห้องน้ำจะใกล้กับประตูห้องนอนใหญ่ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิคผิวหยาบ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังใช้สายไฟตามมาตรฐาน มอก. เดินสายร้อยท่อ PVC เฉพาะในผนังอีกด้วยครับ

 

แล้วเราก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะครับ ทางโครงการได้ตกแต่งห้องนอนใหญ่มาใน
สไตล์โมเดิร์น เน้นการใช้สีโทนสว่างเพื่อให้ภายในห้องนอนดูสว่าง และสบายตามากยิ่งขึ้น ทั้งการเลือกใช้ผ้าม่านสีน้ำตาลอ่อน และวอลล์เปเปอร์ติดผนังเป็นสีเหลืองอ่อน ที่ดูนวลตามากๆ และภายในห้องนอนใหญ่ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึงสองด้าน ด้านละบาน และประตูกระจกบานเลื่อนอีกหนึ่งบาน ที่จะสามารถรับแสงจากภายนอกได้ ทำให้ภายในห้องดูสว่าง และดูสบายตามากยิ่งขึ้นไปอีกในเวลากลางวัน

 

ภายในห้องนอนใหญ่มีความกว้างมาก สามารถจัดแบ่งโซนพื้นที่ในห้องได้อย่างหลากหลาย ทั้งโซนนอน โซนแต่งตัว ซึ่งผู้ซื้อสามารถจัดหาฉากกั้น หรือประตูบานเลื่อนมาติดตั้งเพื่อกั้นโซนต่างๆ ภายในห้องได้อีก ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นในโซนแต่งตัวได้อีกด้วย

 

อีกด้านหนึ่งของห้องนอน เราจะพบกับโซนแต่งตัว ซึ่งมี Built-In ตู้เสื้อผ้ามาให้ ซึ่งตัวตู้เสื้อผ้านี้เป็นกระจกเงาแบบทั้งบาน ที่จะทำให้ประหยัดเนื้อที่ภายในห้องนอนมากขึ้นไปอีก เพราะไม่ต้องติดกระจกเพิ่ม และด้านข้างของตู้เสื้อผ้า ยังมีประตูกระจกบานเลื่อน ที่เปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงได้อีกด้วย

 

ภายในห้องน้ำชั้น2 จะมีการตกแต่งโดยใช้กระเบื้องเซรามิคเช่นกันกับห้องน้ำชั้น1 ครับ โดยที่ีเน้นการตกแต่งเป็นกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีส้ม และแนวกระเบื้องแบบแนวยาวลายไม้ ซึ่งดูสะดุดตามากๆครับ ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำก็เหมือนกันกับห้องน้ำชั้น1 และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลยครับ ทางโครงการได้เลือกใช้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มม. ชนิดกันชื้นได้ ไม่ต้องกลัวฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเกิดเชื้อราเลยครับ และยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดเพื่อช่วยในการระบายอากาศ และความชื้นในห้องน้ำได้อีกด้วย

และก็เช่นเคยครับ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดเลยครับ

 

รถไฟมาแล้วววว ปู๊น ปู๊นนนนนนน ห้องนอนที่2 ถูกตกแต่งมาในธีมของรถไฟโทมัส ที่ดูเหมาะกับเด็กผู้ชายมากๆ ทั้งเตียงนอนที่มีลักษณะคล้ายรถไฟ (มีล้อด้วย 55555) ด้านหัวเตียง และปลายเตียงก็สามารถวางทั้งของตกแต่ง ของใช้ต่างๆ รวมไปถึงเก็บหนังสือได้อีกด้วย สำหรับด้านหัวเตียง กับการตกแต่งผนัง Built-In ให้เหมือนกับเป็นทางรถไฟที่กำลังลอดผ่านใต้สะพาน ภายในห้องจะมีความสว่างมากเพราะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึง 2 ด้าน สามารถรับแสงได้จากหลากหลายทิศทาง แถมยังเปิดพร้อมกันเพื่อให้การถ่ายเทอากาศมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย และภายในห้องนอนที่2 มีความกว้างมาก สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าเข้าไปได้อีกหนึ่งใบด้วย 

 

มาถึงห้องนอนที่3 กันแล้วนะครับ ผมชอบห้องนี้มากๆ เพราะเป็นห้องที่ตกแต่งออกมาแบบหวานๆ เหมาะกับผู้หญิงหวานๆมาก (มันทำให้ผมคิดถึง Jan BNK48 เลยแหละ) ภายในห้องจะเน้นการตกแต่งแบบวินเทจ ด้วยลายวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ และผ้าห่มลายจุด ที่ดูลงตัวมากๆในสไตล์วินเทจ เนี่ย ใครทำห้องแบบนี้เนี่ย ผมนี่รักตายเลยยยย ละมุนม๊ากกกกกกมาก ด้านปลายเตียงจะมี Built-In ชั้นวางของ ที่สามารถวางของตกแต่ง และของใช้ได้มากมาย และให้ภายในห้องมีความสว่างได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดเพื่อรับแสงสว่าง และถ่ายเทอากาศได้ และภายในห้องมีความกว้างมาก สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าเพิ่มเข้าไปได้อีกหนึ่งใบด้วย 

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม  Amber   (แอมเบอร์)

แบบบ้าน Amber (แอมเบอร์) แบบบ้านที่​มีเนื้อที่ 16.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. 2 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ มีโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว และพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน แบบบ้านหลังนี้จะต่างกับแบบแรกตรงที่ ที่จอดรถรับรอง

 

การตกแต่งภายนอกของแบบบ้าน Amber เน้นการใช้โทนสีเหลือง ซึ่งเป็นสีกลาง ที่ดูไม่ร้อน และไม่เย็น เหมือนกับแบบบ้าน Turquoise Plus และแบบบ้าน Amethyst เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่มีความคุมโทนมากๆครับ ซึ่งสีเหลืองโทนนี้ เป็นโทนสีที่มีความนุ่มนวลมาก และมีการเพิ่มมิติของตัวบ้านให้ดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ด้วยการประดับแนวบัวสีขาว ทำให้ตัวบ้านดูสวยงาม และโดดเด่นไม่แพ้แบบบ้านสองแบบแรกเลยครับ

 

เมื่อเราเดินเข้ามาในบ้านแล้ว เราจะพบกับพื้นที่จอดรถใต้หลังคา ที่สามารถจอดรถได้ 1 คัน โดยทางโครงการใช้พื้นบริเวณที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเกิดการทรุดตัวของพื้น แต่ถ้าหากผู้ซื้อไม่มีรถ ก็สามารถจัดเป็นโซนสวนหน้าบ้านได้เช่นกันครับ

 

ถัดมาจากพื้นที่จอดรถ ด้านข้างกัน เราจะพบกับประตูทางเข้าตัวบ้าน ที่เป็นประตูกระจกบานเลื่อนหนึ่งบาน และบานตายอีกบาน ตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งจะช่วยลดความร้อนได้ดีมาก ผู้ซื้อบ้านก็ไม่ต้องกังลอีกเลยครับว่าบ้านจะร้อน

 

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว เราจะพบกับโซนพื้นที่รับแขกเป็นอันดับแรกเลย ซึ่งโซนรับแขกนี้ ได้ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Contemporary คือใช้ความโมเดิร์นของตัวเฟอร์นิเจอร์ อย่างชุดโซฟา และใช้ชั้นวางโทรทัศน์เป็นสไตล์คลาสสิค ภายในโซนพื้นที่รับแขก จะเน้นการตกแต่งด้วยสีโทนสว่างเป็นหลัก ทำให้ตัวโซนรับแขกมีความสว่าง ดูสบายตามากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องพื้นชั้น1 ทางโครงการได้เลือกใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลอ่อน ขนาด 60x60 ซม. ซึ่งเป็นสีกระเบื้องแบบโทนสว่าง ที่จะช่วยสะท้อนแสงจากภายนอกให้ภายในบ้านมีความสว่างมากยิ่งขึ้นด้วย และภายในโซนพื้นที่รับแขก จะมีทั้งหน้าต่างกระจกบานเลื่อน และประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย

 

ด้านตรงข้ามกันกับโซฟา จะเป็นผนัง มี Built-In ชั้นวางโทรทัศน์สีขาว TOP หินอ่อนสีขาวสไตล์คลาสสิค ที่สามารถวางได้ทั้งโทรทัศน์ เครื่องเล่นต่างๆ และยังมี Built-In ผนังเป็นลายไม้ เพิ่มความคลาสสิคเข้าไปอีกด้วยครับ โดยที่สามารถนำโทรทัศน์ไปแขวนผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่การวางบนเคาน์เตอร์ได้เช่นกันอีกด้วย

 

ถัดเข้ามาจากโซนพื้นที่รับแขก เราจะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่จัดมาในสไตล์คลาสสิค 4 ที่นั่ง ภายในโซนรับประทานอาหารนี้มีความกว้างมาก สามารถเพิ่มที่นั่งได้อีกเป็น 6 ที่นั่ง มี Built-In ตู้ที่สามารถเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ และยังมีที่สำหรับการจัดวางตู้เย็นอีกด้วย และภายในโซนรับประทานอาหารนี้ก็จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอาหารภายในตัวบ้านให้ไม่ติดตัวบ้านได้

 

พื้นที่ชั้น1 จะมีพื้นที่ที่กว้างมาก สามารถกั้นโซนระหว่างโซนพื้นที่รับแขก และโซนรับประทานอาหารได้ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ชั้น1 ดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น และยังทำให้โซนรับประทานอาหารมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย

 

ถัดมาด้านข้างโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่ทางโครงการได้จัดมาเป็นห้องนอนในสไตล์โมเดิร์น เน้นการใช้สีขาวเป็นหลัก แต่ใช้ไฟภายในห้องเป็นไฟแบบ Warm Light เพื่อเพิ่มความรู้สึกที่ดูหรูหรา และดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น ผนังภายในห้องเน้นการตกแต่งแบบโมเดิร์น ด้วยแนวบัวที่ทำให้พื้นผิวผนังดูเด่นขึ้น และตกแต่งด้วยลายเส้นแนวแทยงสีดำที่ด้านหัวเตียง พร้อมไฟ Ceiling Wall ที่ช่วยให้ตัวห้องดูหรูหรามีระดับมากยิ่งขึ้น ภายในห้องจะมีพื้นที่ ที่สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าเข้าไปได้อีก 1 ใบ แต่ทางโครงการก็ยังเลือกใช้ตู้ที่มีกระจกติดอยู่หน้าตู้ครับ ซึ่งจะทำให้ประหยัดเนื้อที่ภายในห้องได้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องติดกระจกเพิ่มอีกเลย

ซึ่งการจัดตกแต่งห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนชั้น 1 นี้ จะเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ที่เดินขึ้น-ลงบันไดไม่ไหวครับ แต่ห้องนี้ก็ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย ทั้งเป็นห้องเก็บของ หรือห้องดูโทรทัศน์ ห้องอ่านหนังสือก็ได้ครับ

 

เมื่อเดินเลยโซนรับประทานอาหารเข้าไป เราจะพบกับโซนครัวนะครับ ซึ่งโซนครัวนี้จะมี Built-In เคาน์เตอร์ครัวแบบยาวตามแนวผนัง เป็นเคาน์เตอร์ลายไม้ TOP หินอ่อนสีขาวบนเคาน์เตอร์ ที่จะทำให้ประหยัดพื้นที่การใช้งานได้เป็นอย่างมาก และยังสามารถใช้สอยประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนด้วยอีกด้วย เพราะตัวเคาน์เตอร์ครัวนี้จะมีทั้งพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ใต้เคาน์เตอร์ เตาไฟฟ้า พื้นที่จัดเตรียมอาหาร และอ่างล้างทำความสะอาดมาให้ครบเลยทีเดียว แถมยังเหลือช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อีกด้วย ไม่พอแค่นั้นครับ ในโซนครัวยังมี Built-In ตู้ติดผนังที่สามารถเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ และวัตถุดิบการประกอบอาหารได้อีกด้วย

 

ถัดมาด้านข้างของโซนพื้นที่ครัว เราจะพบกับโซนพื้นที่ซักล้าง ที่สามารถใช้เป็นห้องซักรีดได้ แต่ทางโครงการได้จัดทำเป็นห้องออกกำลังกาย ที่เก็บทั้งเครื่องมือการออกกำลังกายต่างๆ และมีพื้นที่ว่างสำหรับการออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งผนังด้วยสวนแนวดิ่ง ที่ทำให้ดูมีความร่มรื่นมากขึ้นอีกด้วย

 

ภายในโซนพื้นที่ซักล้าง จะมีเพดานแบบโปร่งแสงที่สามารถเปิด-ปิด เพื่อระบายอากาศ รับแสง และถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย หากใช้เป็นที่ตากผ้าล่ะก็ รับรองเลยครับ ผ้าแห้งเร็วแน่นอน ณ จุดๆนี้

 

กลับมาที่บริเวณกลางบ้านนะครับ ช่วงระหว่างบันไดขึ้นชั้น2 กับห้องอเนกประสงค์ เราจะพบกับห้องน้ำชั้น1 ที่ตกแต่งเน้นโทนสว่าง ด้วยการใช้กระเบื้องเซรามิคสีขาวตกแต่งผนัง และกระเบื้องเซรามิคแบบผิวหยาบสำหรับพื้นห้องน้ำ ซึ่งจะสามารถช่วยกันพื้นลื่นได้เป็นอย่างดี ภายในห้องน้ำจะมีทั้งฝักบัวอาบน้ำ กระจกเงา อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ครบทุกการใช้งาน และยังมีช่องแสงที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภายในห้องน้ำได้อีกด้วย

และทางโครงการได้เลือกใช้สุขภัณฑ์คุณภาพดีจาก American Standard ครับ

 

บันไดทางขึ้นชั้น2 จะอยู่กลางบ้าน บริเวณระหว่างโซนรับแขก กับโซนรับประทานอาหาร โดยที่บันไดจะมีช่องแสงบริเวณบันไดช่วงแรก กับบริเวณกลางบันได ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างที่ทั่วถึงมาก แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U โดยที่ช่วงขั้นแรกจะชันกว่าแบบแรก และไม่มีราวจับเพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น ขั้นบันไดเลือกใช้ไม้พื้นบันไดสำเร็จรูป

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่ีเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 ส่วนห้องน้ำ จะอยู่ตรงกลาง ข้างๆห้องนอนที่2 ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิคผิวหยาบ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังใช้สายไฟตามมาตรฐาน มอก. เดินสายร้อยท่อ PVC เฉพาะในผนังอีกด้วยครับ

 

แล้วก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะครับ ห้องนอนใหญ่นี้ได้ถูกตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิค เน้นโทนสีสว่างเป็นหลัก โดยการตกแต่งผนังด้วยสีขาว และใช้ชุดผ้าม่านสีเขียวลายวินเทจ ภายในห้องจะมีความสว่างมาก เนื่องจากมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึงสองด้าน ซึ่งจะช่วยรับแสงสว่างจากภายนอก และเปิดรับอากาศให้ถ่ายเทมากขึ้นก็ได้เช่นกัน 

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีความกว้างมาก สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าเข้าไปเพิ่มเติมได้ ซึ่งทางโครงการได้ Built-In เป็นตู้กระจก เพื่อประหยัดพื้นที่การติดตั้งกระจกภายในห้องได้

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีพื้นที่ระเบียง ซึ่งสามารถออกไปยืนรับลม หรือจัดหาโต๊ะ และเก้าอี้มาเป็นที่นั่งริมระเบียงได้เช่นกันครับ

 

ภายในห้องน้ำชั้น2 จะมีการตกแต่งโดยใช้กระเบื้องเซรามิคเช่นกันกับห้องน้ำชั้น1 ครับ โดยที่ีเน้นการตกแต่งเป็นกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีส้ม และแนวกระเบื้องแบบแนวยาวลายไม้ ซึ่งดูสะดุดตามากๆครับ ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำก็เหมือนกันกับห้องน้ำชั้น1 และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลยครับ ทางโครงการได้เลือกใช้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มม. ชนิดกันชื้นได้ ไม่ต้องกลัวฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเกิดเชื้อราเลยครับ และยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดเพื่อช่วยในการระบายอากาศ และความชื้นในห้องน้ำได้อีกด้วย

และก็เช่นเคยครับ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดเลยครับ

 

ห้องนอนที่2 เป็นห้องนอนที่มีแนวยาวมาก สามารถจัดวางเตียงนอนได้ถึงสองฝั่ง และยังสามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าได้อีกถึง 2 ใบเลยทีเดียว ภายในห้องนอนที่ 2 นี้ จะตกแต่งมาแบบสดใส เหมาะกับเด็กผู้ชาย ภายในห้องมีความสว่างมาก มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึง 2 บาน ซึ่งสามารถเปิดเพื่อรับลม และถ่ายเทอากาศภายในห้องได้อีกด้วย

 

ภายในห้องนอนที่ 2 มีพื้นที่เป็นแนวยาว สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างมากมาย ไม่ใช่แค่การ Built-In ตู้เสื้อผ้า แต่ยังสามารถ Built-In โต๊ะสำหรับอ่านหนังสือเป็นแนวยาวตามผนังได้เช่นกันครับ นับว่าเป็นห้องที่มีพื้นที่ที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์จริงๆเลยล่ะครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ป้ายทางเข้าโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม บริเวณด้านหน้ามีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เลือกปลูกต้นไม้พุ่มไม้เล็กไว้ประดับป้ายทำให้ดูธรรมชาติมากขึ้น

 

ทางเข้าออกโครงการ มีการตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์โมเดิร์น ดีไซน์เรียบหรู มินิมอล แต่ดูโดดเด่นด้วยการเลือกใช้สีเหลือง มีการเลือกใช้คิ้วบัวปูนปั้นสีเหลือง ให้ดูมีความโดดเด่น และมีมิติมากยิ่งขึ้น และมีการประดับพุ่มไม้ให้ดูมีความสวยงาม และความสบายตามากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

ช่องทางการเข้า-ออกมีความกว้างมาก ไม่มีระบบประตูเหล็กกั้น แต่มีระบบไม้กั้น ทางเข้าออกไม่มีปัญหาเรื่องการจารจรแน่ๆเพราะทางเข้าออกกว้างมากเลยทีเดียว สามารถเข้าออกได้ถึง 2 เลน และสามารถแบ่งเลนเป็นเลนผู้ติดต่อ กับเลนลูกบ้านได้ ซึ่งทำให้ทางโครงการสามารถติดตั้งระบบ Auto Access Card สำหรับเลนเข้าออกของลูกบ้านในอนาคตได้ แถมยังมีไหล่ทางที่กว้างมากพอจะเดินได้อย่างสะดวกด้วยครับ

 

บริเวณใกล้กับทางเข้าออก โซนด้านในมีปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้เล็ก และไม้พุ่ม มีตกแต่งสวนไว้ด้วย ซึ่งในอนาคตพื้นที่ตรงนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นลานจอดรถสำหรับแขกผู้มาติดต่อ หรือทำเป็นพื้นที่จอดรถชั่วคราวสำหรับลูกบ้านที่มาใช้บริการคลับเฮ้าส์ของโครงการได้

 

"ยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น" ด้วยการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้อง CCTV ที่จะช่วยทำให้ภายในโครงการมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ที่จะช่วยมอบความอุ่นใจให้กับผู้ซื้อบ้านด้วยครับ

 

ถนนหน้าคลับเฮ้าส์ กับถนนเมนหลักกว้าง 16 เมตร และมีถนนซอยหน้ากว้าง 8 เมตร

 

คลับเฮ้าส์โครงการ เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น ที่ดูมีดีไซน์รูปทรงที่ดูโฉบเฉี่ยว สะดุดตา ซึ่งในอนาคตจะเป็นห้องฟิตเนส ให้ผู้ซื้อบ้านของโครงการได้ออกกำลังกายกันอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะมีห้องฟิตเนสแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำอีกด้วย

 

เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือว่าจะร้อนมาจากไหน หรือเล่นฟิตเนสจนเมื่อยก็ไม่เป็นไร เพราะภายในโครงการจะมีสระว่ายน้ำ ให้ทุกคนใช้ได้ทั้งผ่อนคลายความเครียด ยืดกล้ามเนื้อหลังจากเล่นฟิตเนส และออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ สระว่ายน้ำจะมีการแยกระหว่างสระตื้นสำหรับเด็ก และสระลึกสำหรับผู้ใหญ่อย่างชัดเจน ไม่มีอันตรายสำหรับเด็กแน่นอนครับ

 

ภายในคลับเฮ้าส์ และสระว่ายน้ำ จะมีห้องน้ำ ที่แยกห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิงมาอย่างชัดเจน ภายในห้องน้ำมีทั้งอ่างล้างมือ ห้องส้วม และห้องอาบน้ำมาให้อย่างครบถ้วน ทั้งห้องน้ำชาย และหญิง

 

บริเวณสระว่ายน้ำของโครงการ จะมีประดับด้วยน้ำพุ ที่ทำให้ทัศนียภาพภายในโครงการดูมีความสวยงาม และทำให้รู้สึกร่มรื่นขึ้นอีกด้วย

 

คลิกภาพเพื่อดูแผนที่โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ 

ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้าน ตลาด

• เดอะมอลล์ บางแค
• บิ๊กซี เพชรเกษม
• โฮมโปร เพชรเกษม
• พาซิโอ กาญจนาภิเษก
• โลตัส บางแค

โรงพยาบาล และสถานพยาบาล

• โรงพยาบาลศรีวิชัย 2
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค 
• โรงพยาบาลวิชัยเวช
• โรงพยาบาลพญาไท 3

สถานศึกษา

• โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี
• โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก
• โรงเรียนกรพิทักษ์
• มหาวิทยาลัยมหิดล

การคมนาคม

• ถนนเพชรเกษม
• ถนนกาญจนาภิเษก
• ถนนพุทธมณฑล
• ถนนบรมราชชนนี
• ทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก
• รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง
• รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑล สาย 3

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

 

แนะนำเส้นทางจากโครงการ ไปสถานที่อื่นที่น่าสนใจ

►เส้นทางพิเศษใช้เลี่ยงรถติด ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง

ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี เป็นทางยกระดับ กว้าง 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นสะพานยกระดับ สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจร จากบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนีทั้งขาเข้าและขาออก และเพื่อแยกการจราจรของยวดยานที่ต้องการเดินทางระยะไกลออกจากยวดยานที่เดินทางในระยะใกล้

เส้นทางของสะพานตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชันบนถนนบรมราชชนนี เริ่มที่เกาะกลางจากทางแยกอรุณอมรินทร์ถึงพุทธมณฑล สาย 2 โดยขาออกจะขึ้นที่ทางแยกอรุณอมรินทร์ ลงได้ 3 จุดที่ตลิ่งชัน หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร และใกล้วงแหวนฉิมพลี ไม่มีทางขึ้นระหว่างทาง ส่วนขาเข้าขึ้นที่ต้นทางก่อนถึงพุทธมณฑล สาย 2 ขึ้นได้ที่หน้าหมู่บ้าน
กฤษดานครและตลิ่งชัน และจะไม่มีทางลงระหว่างทาง

เลือกใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ออกทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 ขับตรงไปและกลับรถเข้าทางคู่ขนานถนนบรมราชชนนี และขึ้นสะพานทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี ที่ถนนเส้นนี้ได้เลย สะพานแห่งนี้จึงเป็นสะพานที่ช่วยทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณถนนบรมราชชนนี ไปจนถึงถนนเพชรเกษม สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วมายิ่งขึ้น

เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ได้รับการออกแบบโดยใช้แนวคิดพฤกษศาสตร์ร่วมสมัย (contemporary botanical) โดยมีการประดับด้วยพรรณไม้ทั้งรอบนอกและภายในศูนย์การค้าเน้นกล้วยไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม ส่วนการตกแต่งได้แรงบันดาลใจจากความสวยงามของพระราชวังสนามจันทร์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดที่ตั้ง รองรับลูกค้าในย่านศาลายา พุทธมณฑล ทวีวัฒนา สถานที่ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี ระหว่างถนนพุทธมณฑล สาย 5 กับถนนพุทธมณฑล สาย 7 ติดกับไทวัสดุ ศาลายา

แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไปเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 และขับตรงไปเพื่อไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนน นฐ.4006 เลี่ยงรถติดได้

 

แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไปมหาวิทยาลัยมหิดล เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 และขับตรงไปเพื่อกลับรถแล้วเข้าถนนทางคู่ขนาน ถนนบรมราชชนนี

►จากโครงการไป โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที)

แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไป โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ขับไปอีกประมาณ 5-6 กม. ขับผ่านโลตัสสาขาสามพราน ขับไปอีก 500 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสามพราน7 และขับไปอีก 1.5 กม. ก็จะถึงโรงเรียนนายร้อย

 

สรุปการรีวิวโครงการ​

►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน

     ตัวแบบบ้านของโครงการ ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นการตกแต่งด้วยสีเหลืองเป็นหลัก พร้อมด้วยการประดับลายคิ้วบัวสีขาวให้ตัวบ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และการตกแต่งภายในที่เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เน้นประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าที่สุด และห้องนอน ที่จำลองไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัวจริงๆมาเลยเช่นกันอีกด้วย
 

►สิ่งอำนวยความสะดวก

     อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการเลย ก็ต้องเป็นด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกนี่แหละครับ ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆ เลยครับ ทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งมาในสไตล์ยุโรป ที่ให้ทุกคนได้ผ่อนคลายสบายใจ และสโมสรคลับเฮ้าส์ที่เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น ที่ดูเป็น
แลนด์มาร์กที่สะดุดตามากๆ ของโครงการ พร้อมฟิตเนสที่ให้ทุกคนได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ และสระว่ายน้ำ ที่ให้ทุกคนได้ดับร้อน และผ่อนคลายอีกด้วย

     พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากๆ ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV อีกด้วย ทั้งยังมีถนนหลักที่กว้างถึง 16 เมตร และถนนซอยที่กว้างถึง 8 เมตรอีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกรอบด้านจริงๆครับ
 

►การคมนาคม

     โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม ตั้งอยู่ใกล้ถนนเพชรเกษม เชื่อมต่อได้ทั้ง
ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพุทธมณฑล ถนนบรมราชชนนี และถนนราชพฤกษ์ เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบายด้วยทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก และยังเดินทางไปยังโซนพื้นที่บางนาผ่านทางด่วนถนนกาญจนาภิเษกได้ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง ที่พร้อมเปิดใช้บริการในปี 62 และสถานีพุทธมณฑล สาย3 ที่พร้อมเปิดใช้บริการในปี 64 อีกด้วย

 

►ภาพรวมโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม

     โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ที่มาพร้อมทำเลคุณภาพบนถนนเพชรเกษม ที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนบรมราชชนนี และถนนกาญจนาภิเษก เดินทางเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑล สาย3 ที่พร้อมใช้งานในปี 64 อีกด้วย

     รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษา อย่าง เดอะมอลล์ บางแค, ซีคอน บางแค, บิ๊กซี บางแค, โฮมโปร บางแค, โรงเรียนเลิศหล้า ถนนกาญจนาภิเษก, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
และโรงพยาบาล วิชัยเวช จึงทำให้โครงการ โกลเด้น ทาวน์ เพชรเกษม เป็นโครงการที่ครบครัน ทั้งด้านทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ และตัวบ้านที่ตอบโจทย์ให้กับทุกครอบครัวอย่างครบครันมากๆ เลยครับ