ทาวน์โฮม 4 นอน ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อมต่อวงแหวน และทางด่วน

   “ ความเป็นมาของ สายไหม เดิมเป็นชื่อของหมู่บ้านหนึ่งในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี ต่อมาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "ตำบลสายไหม" อยู่ในพื้นที่ของเขตบางเขน ภายหลังในพื้นที่เขตบางเขนมีความเจริญมากขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม สาธารณูปโภค รวมทั้งมีประชากรหนาแน่นขึ้น เพื่อประโยชน์แก่การปกครอง การให้บริการของรัฐ และความสะดวกของประชาชน กระทรวงมหาดไทยจึงประกาศเปลี่ยนแปลง ตำบลสายไหม จัดตั้งเป็น เขตสายไหม ใช้มาจนถึงปัจจุบันนั้นเอง _”

   รู้จักเขตสายไหมกันดีแล้ว เราไปพูดถึงโซนดังในเขตนี้กันดีกว่า "วัชรพล-สุขาภิบาล 5" นั้นเอง จะพูดถึงโซนอื่นคงจะไม่น่าสนใจเท่ากับ 2 โซนนี้ เพราะว่าโซนนี้หลายคนคงจะนึกว่าน่าจะมีแต่หมู่บ้านจัดสรร คิดแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก นั้นเพราะย่านนี้นับได้ว่าเป็นทำเลทองของการอยู่อาศัยเลยทีเดียว ขนาดที่ว่าตามผังเมืองรวมของหน่วยงานราชการ กำหนดให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย หนาแน่นน้อย(ย.2) กันเลยทีเดียว แต่ที่โดดเด่นกว่าแหล่งที่อยู่อาศัย ก็เป็นเพราะทำเลชานเมืองที่ "ติดใจกลางเมือง" เลยทำให้ไม่พลุกพล่านมากนัก สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกด้วยถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนกาญจนาภิเษก ถนนสายไหม ถนนลำลูกกา และถนนเทพรักษ์ เป็นต้น 

     นอกจากย่านวัชรพลจะมีทำเลที่ติดใจกลางเมือง และแหล่งงานมากมายแล้ว ยังมีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อย่านต่างๆได้อย่างสะดวก คือ ทางพิเศษศรีรัช (ทงด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สะพานใหม่-คูคต) มาถึงตรงนี้คงจะเกริ่นเยอะมากไปผมจะขอพาไปชมรีวิวโครงการทาวน์โฮมใหม่ที่ตั้งอยู่ในทำเลนี้กันเลยดีกว่า นั้นก็คือ โครงการ "ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5" ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น ถ้างั้นก่อนที่เราจะไปอ่านรีวิวกัน ผมมีรายละเอียดของโครงการคร่าวๆ มาให้อ่านกันก่อนสักเล็กน้อย ไปดูกันได้เลยครับ

 

รายละเอียดโครงการ

     โครงการ "ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5" พัฒนาโครงการโดย ลลิล พร็อพเพอร์ตี้  โครงการมีทำเลตั้งอยู่บนถนนซอยสายไหม 85 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งทางด่วนรามอินทรา ถนนลำลูกกา ถนนกาญจนาภิเษก และถนนพหลโยธิน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคลอง4 ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS เข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยตรงอีกด้วย พร้อมทั้งใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์สุดคูลอย่างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต อีกด้วยครับ

      ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หน้ากว้าง 5.7 ม. มีแบบบ้าน 2 แบบให้เลือก ดังนี้ แบบ Loire พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 1 จอด และแบบ Louvre พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 2 จอด มาพร้อมสวนสาธารณะ และอาคารคลับเฮ้าส์ ที่มีห้องฟิตเนสสำหรับการออกกำลังกาย ตั้งอยู่ที่บริเวณใจกลางของโครงการ สำหรับโครงการนี้ทางผู้พัฒนาโครงการได้จัดของแถมมาให้แบบจัดเต็มจริงๆ ราคาของโครงการก็อยู่ในระดับกลาง ที่ไม่สูงมากจนเกินเอื้อมเท่าไหร่นัก เป็นราคาที่สมเหตุสมผล สนนราคาอยู่ที่...

 

ราคาเริ่มต้น  2.49    ล้านบาท*

 

แบบบ้านโครงการ ไลโอ   อีลีท   วัชรพล   -   สุขาภิบาล 5

โครงการมีแบบทาวน์โฮมให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ มีรายละเอียดดังนี้

 1.  แบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น Louvre  |  คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง  |  รีวิวมุมมอง 360°

แบบทาวน์โฮม Louvre หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน 
• ที่จอดรถในบ้าน 2 คัน

 

 2.  แบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น Loire  |  คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง 

แบบทาวน์โฮม Loire หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.

• 3 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน 
• ที่จอดรถในบ้าน 1 คัน

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม  Louvre ในมุมมองแบบ   360°         

     นอกจากการทำรีวิวแบบถ่ายนิ่งทั้งภายนอก และภายในตัวบ้านแล้ว ในครั้งนี้ทีมงานก็มีเลือกเก็บข้อมูลการรีวิวแบบพิเศษมาให้อีกแบบด้วย ซึ่งก็เป็นการรีวิวมุมมองแบบ 360° พาโนรามา เรียกได้ว่าเก็บมาให้ครบทุกมุมห้อง ทุกโซนของบ้านตัวอย่างกันเลยทีเดียว โดยทีมงานได้ถ่ายบ้านตัวอย่างแบบ Louvre มาให้ชมกันแบบละเอียดเลยครับ เรียกได้ว่าดูกันชัดๆ ทุกซอกทุกมุมของบ้านกันไปเลยครับ

     การใช้งานก็ง่ายมากคลิกเมาส์เลื่อนไปมาอย่างเดียว หรือจะซูมเข้า-ออกก็ได้ กดที่เมาท์อีกนั้นแหละ การเลือกดูไม่ว่าจะดูบนมือถือ Tablet iPad หรือ คอมพิวเตอร์ ก็ดูได้สบายๆ ถ้าต้องการคลิกดูแบบ Fullscreen ก็ได้นะ เลือกดูแบบจอภาพเต็มจอกันไปเลยครับ อธิบายมากไปอาจจะดูเวอร์วัง!! งั้นก็ลองไปดูกันด้วยตาตัวเองกันจะดีกว่า บอกเลย ไม่ต้องพูดเยอะครับ เจ็บคอ !! ไปดูกันเลยดีกว่า

►รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม Louvre มุมมองแบบ 360 ° 

 

จุดเด่นที่น่าสนใจ ภายในโครงการ

     “ อาคารคลับเฮ้าส์ สไตล์โมเดิร์น ” บริเวณใจกลางของโครงการ จะมีอาคารคลับเฮ้าส์ที่ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสีกลางที่ไม่ดูร้อนจนเกินไป และทำให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น ภายในอาคารคลับเฮ้าส์จะมีห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย เป็นผนังกระจกล้อมรอบโซนห้องฟิตเนส ได้มุมวิวพาโนรามา พร้อมที่นั่งชิลๆหน้าหน้าทางเข้าอาคาร

 

     “ พื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการ ” นอกจากอาคารคลับเฮ้าส์แล้ว ในบริเวณใจกลางของโครงการ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวนสาธารณะ เพื่อการสร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ทั้งยังสามารถใช้ผ่อนคลาย และออกกำลังกายในยามเย็นได้อีกด้วย เรียกได้ว่าโครงการเป็นโครงการที่มีสาธารณูปโภคครบเครื่อง ทั้งคลับเฮ้าส์ และสวนสาธารณะเลยทีเดียวครับ

 

     “ ถนนเมนโครงการ ตรงยาวสุดโครงการ ” โครงการนี้มีถนนทางเข้าโครงการเป็นเส้นทางตรงยาวตลอดจุดสุดโครงการ โดยมีเส้นทางหลัก 2 เส้นทางกว้าง 8 เมตร และ 6 เมตร และมีอาคารคลับเฮ้าส์ และสวนสาธารณะอยู่ระหว่างกลางของถนนเมนทั้ง 2 เส้นทางนี้ การออกแบบถนนลักษณะนี้เพื่อทำให้การเดินทางเข้าออกภายในโครการสะดวกมากขึ้นนั้นเอง

 

     “ ทางเข้าสไตล์ Modern กว้างเต็มพื้นที่ ”  ทางเข้าโครงการจัดตกแต่งไว้ได้อย่างสวยงาม สไตล์ Modern ที่ดูกว้างขวาง สวยงามสะดุดตามากๆ และที่บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ จะมีปลูกต้นไม้พุ่มเล็กเต็มพื้นที่ทั้งซ้ายขวาเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับทางเข้าโครงการ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Auto Access Card และกล้องวงจรปิด CCTV

 

คลิกดูภาพ Lalin I-ECO Green Concept

     “ Lalin I-ECO Green Concept ”  เป็นเทคโนโลยีที่รองรับการใช้ชีวิตในทุกๆ รูปแบบ ที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการให้ดีขึ้นกว่าเดิม

 

     “ เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ” โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนซอยสายไหม 85 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนถนนวัชรพล และถนนลำลูกกาได้สะดวก โดยที่ถนน 2 เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน ทางด่วนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนรามอินทรา) ได้เช่นกัน

 

แผนที่โครงการ ไลโอ   อีลีท   วัชรพล   -   สุขาภิบาล 5

คลิกดูแผนที่โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5

     "ศูนย์กลางการเชื่อมต่อของทำเลสายไหม" คงไม่เกินจริงเกินไปสำหรับคำๆ นี้ เพราะว่าโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 นั้น ตั้งอยู่บนทำเลถนนสายไหม ที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนพหลโยธินได้แบบโดยตรง และสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รังสิต และทางด่วนโทลล์เวย์ได้อีก ถนนลำลูกกา ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เป็นรถไฟฟ้าสายตรง ที่เข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพชั้นในได้ ถนนสุขาภิบาล 5 ที่เชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ ที่สามารถตรงไปยังพื้นที่กรุงเทพชั้นในอย่างเอกมัย พระราม 9 และสุขุมวิทได้ และถนนกาญจนาภิเษก ที่เชื่อมต่อโดยตรงได้กับพื้นที่รังสิต ลำลูกกา บางปะอิน รามอินทรา บางกะปิ มีนบุรี รามคำแหง และบางนา และพื้นที่อื่นๆ รอบตัวเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อีกด้วย 

     แต่ทางโครงการก็ไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในเรื่องของทำเลเพียงอย่างเดียว แต่โครงการยังมีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการอีกด้วย เพราะตัวโครงการนั้นรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ อย่างมากมาย ทั้ง โลตัส คลอง 3, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต , เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ รังสิต, บิ๊กซี คลอง 6, โรงพยาบาลเปาโล รังสิต, โรงเรียนสวนกุหลาบ รังสิต, โรงเรียนสารสาสน์ รังสิต, โรงเรียนสายปัญญา รังสิต, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกทั้งโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย บอกได้เลยครับว่าทางที่ดี ไม่ใช่ทางลาดยางอีกแล้ว แต่เป็นทางที่มีทำเลเชื่อมต่อได้หลากหลายอย่างโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ต่างหากล่ะครับ

 

แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว   เปิดใช้งานปี 64

    โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงสะพานใหม่-คูคต ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างนี้ เมื่อก่อสร้างเสร็จ (สร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563) สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 50,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง

    แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) ที่สถานีหมอชิต ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ผ่านแยกรัชโยธิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปจนถึงบริเวณแยกหลักสี่ และเบี่ยงออกด้านขวาเลียบไปตามขอบอุโมงค์ลอดแยกหลักสี่ และเบี่ยงเข้าสู่เกาะกลางดังเดิม ไปจนถึงบริเวณสะพานใหม่หน้าตลาดยิ่งเจริญ และสิ้นสุดที่บริเวณคลองสองที่สถานีคูคต 

โดยที่เส้นทางก่อสร้างมีระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร มีจำนวนสถานนี่ 16 สถานี

 

 

สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว   ที่ใกล้กับโครงการ

คลิกดูแผนที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ใกล้กับโครงการ

     โครงการรถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จในปี 2564 ซึ่งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในโซนนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว ทำให้ทำเลที่แต่เดิมเคยไกลจากรถไฟฟ้า เช่น ทำเลลำลูกกา รังสิต - นครนายก ตั้งแต่คลอง 1 เป็นต้นไป กำลังจะมีสถานีคูคตเพิ่มขึ้นอีกสถานี ซึ่งเป็นสถานีที่อยูใกล้กับถนนพหลโยธิน ซึ่งสามารถเพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการเดินทางเข้าเมืองได้เป็นอย่างมาก และจะมีการก่อสร้างสถานีส่วนต่อขยายเพิ่มเติมตามแนวถนนลำลูกกา ซึ่งจะมีสถานีรถไฟฟ้าคลองสี่  ที่สามารถเดินทางต่อไปยังโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 โดยใช้เส้นทางถนนเฉลิมพงษ์ ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนลำลูกกา และถนนสายไหมได้ โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ใกล้เคียงกับโครงการถึง 2 สถานีด้วยกัน ก็คือ 

• จากโครงการไปสถานีคลองสี่ ระยะทางประมาณ 5-7 นาที

•  จากโครงการไปสถานีคลองสาม ระยะทางประมาณ 8-10 นาที

 

แผนที่เส้นทางไปขึ้นทางด่วนพิเศษ ที่ใกล้กับโครงการ

►เส้นทางไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก

คลิกดูแผนที่ทางด่วนกาญจนาภิเษก

     โครงการไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อได้กับพื้นที่โซนบางนา บางปะอิน รังสิต ลำลูกกา รามอินทรา บางกะปิ รามคำแหง และพื้นที่อื่นๆ รอบกรุงเทพ และปริมณฑลได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ โดยระยะเวลาการเดินทางจากโครงการไปยังทางด่วนก็ใช้เวลาไม่มาก โดยมีเส้นทาง 

• จากโครงการไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก (ขาไปบางนา) ใช้เวลา 8-10 นาที

• จากโครงการไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก (ขาไปบางปะอิน) ใช้เวลา 8-10 นาที

 

►เส้นทางไปขึ้นทางด่วนฉลองรัช

คลิกดูแผนที่ทางด่วนฉลองรัช

     นอกจากทางด่วนกาญจนาภิเษกแล้ว ยังมีทางด่วนฉลองรัชอีกหนึ่งเส้นทางด้วย ที่ใกล้กับโครงการ โดยทางด่วนฉลองรัชนี้ จะสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับพื้นที่เอกมัย รามอินทรา และพระราม 9 ได้ จึงสามารถอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ต้องการเดินทางไปยังโซนพื้นที่กรุงเทพชั้นใน หรือโซนพื้นที่สุขุมวิทได้เป็นอย่างดี โดยจากโครงการไปยังทางด่วนฉลองรัชนี้ จะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 10-12 นาทีเท่านั้น

แผนที่เส้นทางถนนสายหลัก  เส้นทางสำหรับไปที่โครงการ

►จากถนนพหลโยธิน เข้าสู่ซอยพหลโยธิน 54/1 และเข้าสู่ถนนสายไหม

 

►จากถนนลำลูกกา ตัดเข้าสู่ถนนสายไหม

 

►จากถนนกาญจนาฯ ไปบางปะอิน ตัดเข้าถนนลำลูกกา และเข้าสู่ถนนสายไหม

 

►จากถนนกาญจนาฯ ไปบางนา ตัดเข้าถนนลำลูกกา และเข้าสู่ถนนสายไหม

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ  

     ในการเดินทางไปยังโครงการครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนรามอินทรา ตรงผ่านเซ็นทรัลรามอินทรา ไปยังรามอินทรา กม.4 และเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนฉลองรัช และลงที่ถนนสุขาภิบาล 5 และขับตรงไปตามถนนสุขาภิบาล 5 ไปยังถนนสายไหม และเข้าสู่ซอยสายไหม 85 โดยระหว่างการเดินทางบนถนนสุขาภิบาล 5 เราจะผ่านทั้งสำนักงานเขตสายไหม และตลาดออเงิน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเลยว่าในเรื่องของทำเลใกล้เคียงกับตัวโครงการนั้น จะมีทั้งสถานที่ราชการที่สำคัญ และแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่ครบครัน ว่าแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ

 

_“ จบการเดินทาง _” การเดินทางของเราก็เสร็จสิ้นครับ เส้นทางโดยรวมก็สะดวกสบาย ถึงแม้ว่าจะมีความไม่เรียบร้อยการก่อสร้างเส้นทางบางช่วงอยู่บ้าง มีการปิดเลนถนน ทำให้เกิดปัญหารถติดในบางจุด แต่ก็ไม่ทำให้เสียอารมณ์เท่าไหร่พอรับได้ ถ้าใครที่ขับรถส่วนตัวมาก็ให้ระวังรถกระบะขนส่งสินค้า เยอะมากจริงครับบนถนนสุขาภิบาล5 เนื่องจากถนนเส้นนี้ใกล้กับโกดัง หรือคลังสินค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ให้คอยระวังอย่าไปขับท้ายรถพวกนี้มากเกินไปครับ รถจำพวกนี้ชอบเปลี่ยนเลนกะทันหันทำให้เราตั้งตัวไม่ทันเจอมาตลอดทางเลยครับ

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง   แบบบ้านทาวน์โฮม   Louvre

แบบทาวน์โฮม Louvre ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พร้อมพื้นที่ใช้สอยถึง 130 ตร.ม. มาพร้อมกับฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร พร้อมครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน และสามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน

 

แบบทาวน์โฮม Louvre ชั้น1 มีรายละเอียดดังนี้ ประตูรั้วหน้าบ้าน พื้นที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่เปล่าหน้าบ้าน เฉลียงหน้าประตู โซนพื้นที่รับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนพื้นที่ครัว ห้องน้ำชั้น1 และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง

 

แน่นอนครับ ว่าทางโครงการได้แถมหลังคาโรงจอดรถมาให้ด้วย ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการไม่ต้องกลัวว่ารถจะร้อนเพราะแดด หรือจะเปียกเพราะฝนสาด พร้อมทั้งประตูบ้านเป็นรั้วเหล็กที่เปิด-ปิดแบบพับได้ 4 ตอนมาให้ด้วยครับ

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่บ้านแล้ว เราจะพบกับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ที่สามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน แต่หากผู้ซื้อบ้านมีรถแค่คันเดียว ก็สามารถแบ่งพื้นที่จัดเป็นสวนหน้าบ้านได้เช่นกัน และถัดมาจากพื้นที่จอดรถ เราจะพบกับประตูทางเข้าตัวบ้าน ซึ่งจะเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ที่สามารถถอดรองเท้า และวางรองเท้าไว้ได้ ซึ่งแนวผนังด้านข้างตัวบ้านนั้นจะยื่นออกมาเล็กน้อย ซึ่งผู้ซื้อบ้านสามารถเลือก Built-In ตู้รองเท้าเสริมเข้าไปได้อีกด้วย และถัดเข้าไปจากพื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน เราจะพบกับบานประตูทางเข้าหลัก ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอบขาว พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยลดความร้อนที่เข้ามายังตัวบ้านได้อีกด้วยล่ะครับ 

 

เมื่อเราเดินเข้ามาในตัวบ้านแล้ว เราจะพบกับโซนรับแขกเป็นอันดับแรกครับ ซึ่งในโซนรับแขกนี้ ได้ถูกตกแต่งออกมาโดยเน้นที่ความสว่าง ความสบายตาของโซนรับแขก โดยเน้นการใช้สีขาวของชุดโซฟา และชุดผ้าม่าน และเพิ่มความโดดเด่นน่าสะดุดตาลงไปด้วยการตกแต่งผนังด้านโซฟาเป็นสีน้ำเงิน เพิ่มประดับลายเส้นบัวสีทองตามแนวตั้งของผนังลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความหรูหราภายในบ้านมากขึ้น ทั้งยังประดับด้วยชุดพรมสีเทากลางโซนรับแขก ที่ช่วยไม่ให้ภายในโซนรับแขกดูมีความสว่างมากเกินไป ซึ่งนับว่าเป็นการตกแต่งที่มีทั้งความสวยสะดุดตา ให้ความรู้สึกมีความสว่างที่เพียงพอ ทั้งยังมีความน่าอยู่มากๆ ด้วยครับ

 

ด้านผนังตรงข้ามกับโซฟา ทางโครงการเลือกตกแต่งด้วยการจัดวางชั้นวางของ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งการจัดวางโทรทัศน์ และเครื่องเล่นต่างๆ รวมไปถึงการจัดวางของตั้งโชว์ต่างๆ ได้อีกด้วย โดยที่ผนังด้านนี้ จะมีจุดสำหรับเชื่อมต่อสัญญาณโทรทัศน์มาให้ด้วย ทำให้มีความสะดวกในการติดตั้งโทรทัศน์มากยิ่งขึ้น ทั้งยังประดับผนังด้วยกระจกเงาบานใหญ่หนึ่งบาน ที่ช่วยสะท้อนแสงจากภายนอกบ้าน ให้ภายในโซนรับแขกมีความสว่างมากขึ้นได้อีกด้วยครับ

 

ถัดมาด้านข้างจากโซนรับแขก เราจะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่ทางโครงการได้จัดมาเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งจัดเป็นห้องสำหรับดูโทรทัศน์ ห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ที่ขึ้น-ลงบันไดไม่ไหวก็ได้เช่นกัน ซึ่งในด้านการตกแต่งนั้น ทางโครงการได้จัดตกแต่งมาแบบเรียบง่าย มีความโมเดิร์น โดยเน้นการใช้ชุดเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาลเป็นหลัก ทั้งชุดโซฟา และตู้โชว์ Built-In และชั้นสำหรับวางของตกแต่ง และชุดผ้าม่านด้วย และมีการจัดวางโต๊ะกระจกสไตล์โมเดิร์นอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมชุดพรมสีครีม ที่มีเน้นลวดลายสีสันเล็กๆ อยู่อีกด้วย

 

ถัดเข้าไปจากโซนรับแขก เราจะพบกับโซนรับประทานอาหาร ซึ่งในโซนรับประทานอาหารนี้ ได้ถูกตกแต่งด้วยโต๊ะรับประทานอาหารเป็นโต๊ะไม้สีน้ำตาล สไตล์โมเดิร์น พร้อมชุดเก้าอี้โต๊ะรับประทานอาหารสีขาว 4ตัว พร้อมประดับด้วยชุดไฟโซนรับประทานอาหารเป็นโคมไฟห้อยสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในโซนรับประทานอาหารนี้ และภายในโซนรับประทานอาหารนี้ ก็มีหน้าต่างกระจกมาให้ด้วย 1 บาน ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ด้วยครับ

 

พื้นที่ชั้น1 นั้นจะมีความกว้างมาก สามารถจัดพื้นที่การใช้งานต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัวมากๆ และผู้ซื้อบ้านสามารถเลือก Built-In ชุดเคาน์เตอร์กั้นระหว่างโซนรับประทานอาหาร และโซนรับแขกได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ถัดเข้ามาด้านข้างจากโซนรับประมานอาหาร เราจะพบกับโซนพื้นที่ครัว ซึ่งภายในโซนพื้นที่ครัวนี้ จะมี Built-In ชุดเคาน์เตอร์ครัว ที่จัดเป็นแนวยาวรูปตัว L ตามแนวผนัง ซึ่งสามารถใช้เพื่อการเตรียมอาหาร ประกอบอาหาร และล้างทำความสะอาดเครื่องใช้ได้อีกด้วย ซึ่งแนวเคาน์เตอร์ครัวนี้ จะ TOP ด้วยหินอ่อนสีดำตลอดทั้งแนว และยังมี Built-In เป็นชุดตู้ติดผนัง ที่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บชุดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ และวัตถุดิบต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย และภายในโซนครัวนี้ ก็จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในโซนครัว และยังมีช่องสำหรับระบายอากาศ ที่สามารถระบายกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ภายในโซนครัว จะมีช่องสำหรับระบายอากาศ ที่ช่วยระบายอากาศ และกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้กลิ่นอาหารไม่ติดตัวบ้านได้ครับ

 

ถัดออกไปจากโซนพื้นที่รับประทานอาหาร เราจะพบกับโซนพื้นที่ซักล้างครับ ซึ่งภายในโซนพื้นที่ซักล้างนี้ จะสามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับการซักผ้า และจัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านได้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งพื้นที่ในส่วนนี้ก็สามารถต่อเติมเพิ่มเป็นห้องครัวแยก หรือห้องสำหรับซักล้างได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ภายในห้องน้ำ ได้ถูกตกแต่งมาอย่างเรียบหรู มีการเลือกใช้ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องสีขาว ยกเว้นด้านกระจกที่ใช้เป็นกระเบื้องสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งจะไม่ทำให้ภายในห้องน้ำดูสว่างจนเกินไป ทำให้การตกแต่งโดยรวมดูมีความสบายตามากยิ่งขึ้นครับ และสำหรับพื้นห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกเป็นกระเบื้องเซรามิคแบบหยาบครับ ซึ่งจะสามารถกันลื่นจากพื้นเปียกได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุในเวลาที่ใช้ห้องน้ำครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้ก๊อกอ่างล้างมือ, ก๊อกฝักบัวอาบน้ำ และสายชำระของ Cotto อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, ที่วางสบู่ และที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen และฝักบัวอาบน้ำของ Prema ครับ

 

บริเวณระหว่างห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำชั้น1 จะมีบันไดทางขึ้นสู่ชั้น2 ซึ่งแนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U ซึ่งเป็นบันไดแบบสำเร็จรูปครับ

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่เป็นรูปตัว L โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนที่2 กับห้องนอนใหญ่ครับ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 นั้น จะปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม

 

แบบทาวน์โฮม Louvre ชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ โถงชั้น2 ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัวในห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำชั้น2 ห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3

 

หมดปัญหาเรื่องร้อนอบอ้าวไปแน่นอน เพราะทางโครงการ ได้ติดตั้งพัดลมสำหรับการระบายอากาศมาให้แล้ว ที่บริเวณโถงชั้น2 ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากๆ ทั้งการเปิดเพื่อระบายอากาศ รวมไปถึงการระบายความร้อนด้วย และผู้อยู่อาศัยยังสามารถประหยัดไฟได้มากขึ้น ด้วยช่องแสง ที่สามารถรับแสงสว่างในเวลากลางวันได้ด้วย ซึ่งช่องแสงนี้จะเป็นวัสดุแบบโปร่งแสง เป็นแผ่นอะคริลิคใสครับ

 

พัดลมระบายอากาศบนเพดานชั้น2 ทางโครงการเลือกใช้เป็นพัดลมระบายอากาศจาก Haloshi ครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และความร้อนภายในตัวบ้านได้ครับ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการร้อยท่อสายไฟแบบฝังผนังอีกต่างหากด้วยครับ

 

แล้วเราก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะครับ ซึ่งภายในห้องนอนใหญ่นี้ ได้เน้นการตกแต่งด้วยสีขาว และสีน้ำเงินเป็นหลัก โดยด้านหัวเตียงจะเน้นการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเป็นหลัก ซึ่งทำให้ดูโดดเด่น และน่าดึงดูดมากๆ แต่ภายในห้องนอนใหญ่นี้ ก็ไม่ได้ดูมืดจนเกินไป ด้วยการเลือกตกแต่งผนังเป็นสีขาว พร้อมประดับด้วยกรอบรูปสีดำ เพื่อไม่ให้ผนังด้านข้างเตียงนอนนั้นดูจืดชืดเกินไป และภายในห้องจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน และประตูกระจกบานเลื่อนอยู่อย่างละ 1 บาน ซึ่งสามารถเปิดเพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศ และสามารถรับแสง ให้ภายในห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้นได้ด้วยอีกครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความกว้างมาก สามารถจัดแบ่งโซนพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากๆ เลยครับ ซึ่งเราก็สามารถ Built-In ฉากกั้น เพื่อแยกระหว่างโซนนอน กับโซนแต่งตัวได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ด้านโซนแต่งตัว จะมี Built-In ชุดตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลตามแนวผนังของห้องนอนใหญ่อยู่ พร้อมด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียง และสามารถเปิดรับแสงจากภายนอก และถ่ายเทอากาศให้สะดวกขึ้นได้อีกด้วย

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีพื้นที่ระเบียงที่อยู่ด้วยครับ ซึ่งก็นอกจากจะเปิดเพื่อการรับแสง หรือถ่ายเทอากาศแล้ว ยังสามารถออกไปรับลมได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ห้องน้ำชั้น2 จะเน้นการตกแต่งโดยการใช้สีขาวเป็นหลัก เพื่อทำให้ภายในห้องน้ำมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และมีการประดับด้วยกระเบื้องโมเสคสีทองที่ผนังด้านใน โดยการตกแต่งห้องน้ำชั้น2 นี้ จะเน้นการตกแต่งที่เน้นความสบายตาครับ และสำหรับพื้นห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคแบบหยาบ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกันลื่นด้วยครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้ก๊อกอ่างล้างมือ, ก๊อกฝักบัวอาบน้ำ และสายชำระของ Cotto อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, ที่วางสบู่ และที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen และฝักบัวอาบน้ำของ Prema ครับ

 

ภายในห้องน้ำชั้น2 จะมีพัดลมสำหรับดูดอากาศของ Haloshi มาให้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ กลิ่น และความชื้นภายในตัวห้องน้ำได้ครับ

 

ห้องนอนที่2 ถูกจัดมาเป็นห้องนั่งเล่น ที่สามารถใช้เพื่อการอ่านหนังสือ การผ่อนคลาย หรือพักผ่อนก็ได้ โดยจะเน้นการตกแต่งโดยการใช้สีเขียวเป็นหลัก ยกเว้นผนังด้านใน จะตกแต่งเป็นลายดอกไม้ ซึ่งทำให้ดูมีความสวยงามแบบวินเทจมาก ภายในห้องนอนที่2 จะมีความกว้างมาก ซึ่งสามารถ Built-In ชั้นวางของ และตู้เสื้อผ้าเพิ่มเข้าไปได้อีกด้วย และภายในห้องนอนยังมีหน้าต่างกระจกลานเลื่อนอีก 1บาน ที่สามารถเปิด-ปิด เพื่อการระบายอากาศภายในห้องนอนได้ และนอกจากนั้นยังสามารถใช้เพื่อการรับแสงจากภายนอกได้อีกด้วยครับ

 

ห้องนอนที่2 ถูกตกแต่งโดยเน้นสีฟ้าอ่อนเป็นหลัก ทำให้ภายในตัวห้องนอนดูมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และภายในห้องนอนยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอีก 1บาน ที่สามารถเปิด-ปิด เพื่อการระบายอากาศภายในห้องนอนได้ และนอกจากนั้นยังสามารถใช้เพื่อการรับแสงจากภายนอกได้อีกด้วยครับ ภายในห้องนอนที่2 จะมีความกว้าง สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มเข้าไปได้ด้วยครับ ซึ่งในห้องนอนที่2 นี้ ก็จะมี Built-In ชุดตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยเน้นการใช้สีน้ำตาลอ่อนเป็นหลัก พร้อมทั้งประดับด้วยรูปภาพติดผนังสีขาว เพื่อเพิ่มความสว่างภายในห้องด้วยครับ

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง   แบบบ้านทาวน์โฮม  Loire

แบบทาวน์โฮม Loire ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พร้อมพื้นที่ใช้สอยถึง 110 ตร.ม. มาพร้อมกับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร พร้อมครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน และสามารถจอดรถได้ถึง 1 คัน

 

แบบทาวน์โฮม Loire ชั้น1 มีรายละเอียดดังนี้ ประตูรั้วหน้าบ้าน พื้นที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่เปล่าหน้าบ้าน เฉลียงหน้าประตู โซนพื้นที่รับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนพื้นที่ครัว ห้องน้ำชั้น1 และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง

 

แน่นอนครับ ว่าทางโครงการได้แถมหลังคาโรงจอดรถมาให้ด้วย ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการไม่ต้องกลัวว่ารถจะร้อนเพราะแดด หรือจะเปียกเพราะฝนสาด พร้อมทั้งประตูบ้านเป็นรั้วเหล็กที่เปิด-ปิดแบบเลื่อนมาให้ด้วยครับ

 

ด้าน Exterior Design ของแบบทาวน์โฮม Loire จะเน้นการใช้สี Neutral Colour เป็นสีหลัก ซึ่งเป็นสีกลาง ที่เป็นธรรมชาติ ที่เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อม และทุกสภาพแสง โดยเน้นการใช้สีขาวเป็นสีพื้น พร้อมการใช้สีน้ำตาลเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวบ้าน และยังมีการใช้เป็นเส้นสายกราฟิกสีเทา ที่ช่วยชูความโดดเด่นของตัวบ้านในสไตล์โมเดิร์นอีกด้วย อีกทั้งยังดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติภายในโครงการเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นบ้านที่ดูร่มรื่น และดูสงบมากๆ

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่บ้าน เราจะพบกับประตูทางเข้าตัวบ้าน ซึ่งจะเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ที่สามารถถอดรองเท้า และวางรองเท้าไว้ได้ ซึ่งแนวผนังด้านข้างตัวบ้านนั้นจะยื่นออกมาเล็กน้อย ซึ่งผู้ซื้อบ้านสามารถเลือก Built-In ตู้รองเท้าเสริมเข้าไปได้อีกด้วย และถัดเข้าไปจากพื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน เราจะพบกับบานประตูทางเข้าหลัก ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอบขาว พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยลดความร้อนที่เข้ามายังตัวบ้านได้อีกด้วยล่ะครับ 

 

บริเวณด้านข้างของประตูทางเข้าบ้าน เราจะพบกับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่จอดรถในร่ม ที่สามารถจอดรถได้ 1 คัน แต่หากผู้ซื้อบ้านไม่มีรถ ก็สามารถแบ่งพื้นที่จัดเป็น Garden Area ในร่มได้เช่นกันครับ 

 

เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว เราจะพบกับโซนรับแขกก่อนเลยเป็นอันดับแรกเลยครับ ซึ่งโซนรับแขกนี้ถูกจัดมาในสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย ด้วยการตกแต่งด้วยโต๊ะกลางเป็นโต๊ะหกเหลี่ยม TOP กระจกเงาสีดำ ที่ดูหรูหรา และโดดเด่นมาก และโซฟาผ้ากำมะหยี่สีเขียวเข้มที่ดูโดดเด่น พร้อมทั้งตกแต่งผนังวอลล์เปเปอร์ด้วยสีเขียวมิ้นต์ ที่ดูเย็น และสบายตามาก อีกทั้งสีเขียวยังเป็นสีที่ช่วยทำให้จิตใจรู้สึกสงบได้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น และในบริเวณกลางโซนรับแขก ยังมีการประดับด้วยชุดพรมสีครีม ที่ดูสบายตามากๆ และภายในโซนรับแขกนี้จะมีความกว้างมาก พร้อมรองรับการใช้งานสำหรับครอบครัวใหญ่ได้อย่างสบายๆ นับว่าเป็นพื้นที่ของครอบครัวที่ดี และสร้างความอบอุ่นให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยครับ

 

ส่วนอีกด้านหนึ่งของโซนรับแขก จะมี Built-In ชั้นวางของ ซึ่งสามารถใช้ในการวาง หรือติดตั้งโทรทัศน์ เครื่องเล่นต่างๆ รวมไปถึงของประดับตกแต่งต่างๆ ได้อีกด้วย และมี Built-In ผนังเป็นสีน้ำตาลเข้มที่ดูโดดเด่นมากๆ เพราะตัดกับสีโซฟาสีเขียวเข้มมากๆ และยังเป็นตัวช่วยส่งให้ชั้นวางของดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้โซนรับแขกด้านนี้ดูโดดเด่น และหรูหรามากเลยครับ

 

ถัดมาจากโซนรับแขก เราจะพบกับโซนรับประทานอาหาร โดยเน้นการจัดตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์น ด้วยชุดโต๊ะไม้สไตล์โมเดิร์น พร้อมทั้งชุดเก้าอี้สีเขียวเข้มสำหรับ 4 ที่นั่ง พร้อมด้วยประดับชุดไฟเป็นไฟแบบวอร์มไลท์ ที่ทำให้ภายในโซนรับประทานอาหารนี้ดูอบอุ่นมาก ซึ่งภายในโซนรับประทานอาหารนี้ จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ 1 บาน ซึ่งสามารถเปิด-ปิด เพื่อรับแสง และบรรยากาศธรรมชาติจากภายนอก รวมไปถึงการเปิดเพื่อระบายกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ด้วยครับ

ซึ่งภายในโซนรับประทานอาหารนี้จะมีความกว้างมาก ผู้อยู่อาศัย "สามารถ" เลือกจัดโต๊ะเป็นแนวยาวตามตัวบ้าน เพื่อเพิ่มที่นั่งรับประทานอาหารเป็น 6 ที่นั่งได้ด้วยครับ

 

พื้นที่ชั้น1 นั้นจะมีความกว้างมาก สามารถจัดพื้นที่การใช้งานต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัวมากๆ และผู้ซื้อบ้านสามารถเลือก Built-In ชุดเคาน์เตอร์กั้นระหว่างโซนรับประทานอาหาร และโซนรับแขกได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ถัดเข้ามาด้านข้างจากโซนรับประมานอาหาร เราจะพบกับโซนพื้นที่ครัว ซึ่งภายในโซนพื้นที่ครัวนี้ จะมี Built-In ชุดเคาน์เตอร์ครัว พร้อมบาร์แนวยาวสำหรับดื่มกาแฟ ที่จัดเป็นแนวยาวรูปตัว L ตามแนวผนัง ซึ่งสามารถใช้เพื่อการเตรียมอาหาร ประกอบอาหาร และล้างทำความสะอาดเครื่องใช้ได้อีกด้วย ซึ่งแนวเคาน์เตอร์ครัวนี้ จะ TOP ด้วยหินอ่อนสีดำตลอดทั้งแนว และยังมี Built-In เป็นชุดตู้ติดผนัง ที่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บชุดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ และวัตถุดิบต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย และภายในโซนครัวนี้ ก็จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในโซนครัว และยังมีช่องสำหรับระบายอากาศ ที่สามารถระบายกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ภายในโซนครัว จะมีช่องสำหรับระบายอากาศ ที่ช่วยระบายอากาศ และกลิ่นอาหารภายในบ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้กลิ่นอาหารไม่ติดตัวบ้านได้ครับ

 

เมื่อเปิดประตูจากโซนพื้นที่รับประทานอาหารออกไปแล้ว เราจะพบกับโซนพื้นที่ซักล้างครับ ซึ่งภายในโซนพื้นที่ซักล้างนี้ จะสามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับการซักผ้า และจัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านได้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งพื้นที่ในส่วนนี้ก็สามารถต่อเติมเพิ่มเป็นห้องครัวแยก หรือห้องสำหรับซักล้างได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ภายในห้องน้ำ ได้ถูกตกแต่งมาอย่างเรียบหรู มีการเลือกใช้ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องสีขาว ยกเว้นด้านกระจกที่ใช้เป็นกระเบื้องสีน้ำตาลเข้ม ที่จะไม่ทำให้ภายในห้องน้ำดูสว่างจนเกินไป การตกแต่งโดยรวมเพื่อให้ตัวห้องน้ำดูมีความสบายตามากยิ่งขึ้นครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้ก๊อกอ่างล้างมือ, ก๊อกฝักบัวอาบน้ำ และสายชำระของ Cotto อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, ที่วางสบู่ และที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen และฝักบัวอาบน้ำของ Prema ครับ

 

บริเวณระหว่างโซนรับแขก และโซนรับประทานอาหาร จะมีบันไดทางขึ้นสู่ชั้น2 ซึ่งแนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U ซึ่งเป็นบันไดแบบสำเร็จรูปครับ

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่เป็นรูปตัว L โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนที่2 กับห้องนอนใหญ่ครับ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 นั้น จะปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม

 

ลืมไปได้เลยครับ กับปัญหาบ้านร้อน เพราะทางโครงการ ได้จัดพัดลมระบายอากาศมาให้ ที่บริเวณโถงชั้น2 ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งการเปิดเพื่อระบายอากาศ และการระบายความร้อนด้วย และยังสามารถประหยัดไฟได้มากขึ้น ด้วยช่องแสง ที่สามารถรับแสงสว่างในเวลากลางวันด้วย ซึ่งช่องแสงนี้จะเป็นวัสดุแบบโปร่งแสง เป็นแผ่นอะคริลิคใสครับ

 

พัดลมระบายอากาศบนเพดานชั้น2 ทางโครงการเลือกใช้เป็นพัดลมระบายอากาศจาก Haloshi ครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และความร้อนภายในตัวบ้านได้ครับ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการร้อยท่อสายไฟแบบฝังผนังอีกต่างหากด้วยครับ

 

แบบทาวน์โฮม Loire ชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ โถงชั้น2 ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัวในห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำชั้น2 ห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3

 

แล้วเราก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะครับ ในห้องนอนใหญ่นี้ ทางโครงการได้ตกแต่งโดยเน้นการใช้สีเขียวเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีโทนเย็น ที่ให้ความรู้สึกสบายตา และทำให้เกิดความสงบใจมากๆ และตกแต่งด้านหัวเตียงด้วยสีเขียวเข้ม พร้อมประดับลายเส้นสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น พร้อมประดับกระจกเงาที่สองข้างเตียง ที่จะช่วยในเรื่องของการสะท้อนแสงจากภายนอก ทำให้ภายในห้องดูมีความสว่างมากยิ่งขึ้นไปอีก และที่ผนังด้านข้างเตียง จะมีประดับด้วยกรอบรูปสีดำ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับแนวผนัง และเพื่อไม่ให้ภายในห้องดูสว่างเกินไปอีกด้วย และภายในห้องจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน และประตูกระจกบานเลื่อนอยู่อย่างละ 1 บาน ซึ่งสามารถเปิดเพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศ และสามารถรับแสง ให้ภายในห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้นได้ด้วยอีกครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความกว้างมาก สามารถจัดแบ่งโซนพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากๆ เลยครับ ซึ่งเราก็สามารถ Built-In ฉากกั้น เพื่อแยกระหว่างโซนนอน กับโซนแต่งตัวได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมี Built-In ชุดตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งเป็นรูปตัว L แนวยาวตามด้านผนัง โดยเน้นการใช้สีน้ำตาลเข้มเป็นหลัก ทำให้ดูมีความโดดเด่นมากๆ และไม่สว่างจนเกินไปอีกด้วย และมีการติดกระจกโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตรงข้ามกับหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ทำให้สามารถสะท้อนแสงสว่างจากภายนอกได้ ทำให้บริเวณโซนแต่งตัว มีความสว่างขึ้นไปอีกด้วยครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีพื้นที่ระเบียงที่อยู่ด้วยครับ ซึ่งก็นอกจากจะเปิดเพื่อการรับแสง หรือถ่ายเทอากาศแล้ว ยังสามารถออกไปรับลมได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ห้องน้ำชั้น2 จะเน้นการตกแต่งโดยการใช้สีขาวเป็นหลัก เพื่อทำให้ภายในห้องน้ำมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และมีการประดับด้วยกระเบื้องโมเสคสีน้ำตาลที่ผนังด้านใน โดยการตกแต่งห้องน้ำชั้น2 นี้ จะเน้นการตกแต่งที่เน้นความสบายตาครับ และสำหรับพื้นห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคแบบหยาบ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกันลื่นด้วยครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้ก๊อกอ่างล้างมือ, ก๊อกฝักบัวอาบน้ำ และสายชำระของ Cotto อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, ที่วางสบู่ และที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen และฝักบัวอาบน้ำของ Prema ครับ

 

ภายในห้องน้ำชั้น2 จะมีพัดลมสำหรับดูดอากาศของ Haloshi มาให้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ กลิ่น และความชื้นภายในตัวห้องน้ำได้ครับ

 

ห้องนอนที่2 ถูกตกแต่งโดยเน้นสีขาวเป็นหลัก ทำให้ภายในตัวห้องนอนดูมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และภายในห้องนอนยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอีก 1บาน ที่สามารถเปิด-ปิด เพื่อการระบายอากาศภายในห้องนอนได้ และนอกจากนั้นยังสามารถใช้เพื่อการรับแสงจากภายนอกได้อีกด้วยครับ ภายในห้องนอนที่2 จะมีความกว้าง สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มเข้าไปได้ด้วยครับ ซึ่งในห้องนอนที่2 นี้ ก็จะมี Built-In ชุดตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยเน้นการใช้สีน้ำตาลเข้มเป็นหลัก พร้อมทั้งประดับด้วยรูปภาพติดผนังสีดำ เพื่อให้ภายในห้องไม่ดูสว่างจนเกินไปด้วยครับ

 

ห้องนอนที่3 ตกแต่งโดยเน้นการใช้สีเขียวเป็นหลัก ซึ่งในห้องนอนที่3 นี้ ได้ถูกจัดตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นครับ ซึ่งสามารถใช้เพื่อนั่งอ่านหนังสือ หรือพักผ่อนได้ครับ และภายในห้องนอนที่3นี้ ก็มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมาให้ 1 บาน ก็สามารถเปิด-ปิด เพื่อการรับแสง และการถ่ายเทอากาศให้สะดวกขึ้นได้เช่นกันครับ และภายในห้องนอนที่3 นี้ ก็จะมี Built-In ชุดตู้เก็บของ ที่ไว้ใช้สำหรับวางหนังสือ ชุดโซฟาสำหรับนั่ง หรือนอน ชุดตู้เสื้อผ้า และชุดโต๊ะเครื่องแป้งด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คุมโทนเป็นสีเขียว สวยงามมากครับ ซึ่งนอกจากการใช้เป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นแล้ว ผู้อยู่อาศัย ก็ยังสามารถจัดทำเป็นห้องพระได้ด้วยเช่นกันครับ เนื่องจากห้องนอนที่3 นี้ ไม่ได้อยู่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งถือว่าไม่ผิดหลักฮวงจุ้ยครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ป้ายทางเข้าของโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 เป็นป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน ออกแบบมาในสไตล์ Modern เน้นการใช้สีดำเป็นพื้นหลัง พร้อมใช้สีของชื่อโครงการเป็นสีขาว และสีแดง ทำให้ชื่อโครงการดูมีความโดดเด่นมากๆ พร้อมประดับตกแต่งพุ่มไม้บริเวณรอบๆ ป้ายโครงการ เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติด้วยครับ

 

ทางเข้า-ออกของโครงการ มีการตกแต่งที่สวยงามแบบ Modern สะดวกกว้างขวาง ออกแบบให้ดูเรียบง่ายดูสบายตา เน้นการใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีกลางที่ไม่ดูสว่างมากจนเกินไป และมีความสบายตา พร้อมตกแต่งประดับด้วยไม้พุ่มขนาดเล็กด้านข้างบริเวณทางเข้าออกโครงการเพื่อเพิ่มบรรยากาศรอบๆ ให้มีความร่มรื่น เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นครับ

 

โครงการได้ติดตั้งระบบ Auto Access Card สำหรับใช้สแกนบัตร ซึ่งเป็นระบบการควบคุมการเข้า-ออกโครงการแบบอัตโนมัติ ทำให้การเข้า-ออกโครงการของผู้อาศัยในโครงการมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเปิด-ปิดไม้กั้นให้เลย

 

ทางเข้าออกโครงการติดตั้งไม้กั้นที่ทางเข้า-ออก ทำงานด้วยระบบ Auto Access Card การ์ดเปิดประตูไม้กั้นรถยนต์ (ระบบอีซี่พาร์ท Easy Pass Set อ่านบัตรอัตโนมัติ) ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ ไม้ยกระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยในการยกระดับความปลอดภัยในการเข้า-ออกโครงการให้มากขึ้นไปอีก สะดวกทันสมัยมากยิ่งขึ้น

 

และทางโครงการยังมีการยกระดับความปลอดภัยภายในโครงการเพิ่มไปอีกด้วยการติดตั้งระบบกล้อง CCTV ทั้งฝั่งขาเข้า และขาออกจากโครงการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ภายในโครงการมีความปลอดภัยมากขึ้นไปอีกครับ

 

บริเวณโซนด้านหน้าโครงการกว้างตามมาตราฐาน ออกแแบบเป็นเพดานทรงสูง มีห้องรปภ.ตรงกลาง มีไม้กระดกทางเข้า-ทางออก และมีห้องเก็บของทางด้านขวา ใช้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ ของโครงการ

 

โครงการนี้มีถนนเมนทางเข้าโครงการเป็นเส้นทางตรงยาวตลอดจุดสุดโครงการ โดยมีเส้นทางหลัก 2 เส้นทางกว้าง 8 เมตร และ 6 เมตร และมีอาคารคลับเฮ้าส์ และสวนสาธารณะอยู่ระหว่างกลางของถนนเมน 

 

ภายในโครงการจะมีอาคารคลับเฮ้าส์อยู่ที่บริเวณใจกลางโครงการด้วย ซึ่งจะเป็นอาคาร 1ชั้น ที่เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โดยใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีธรรมชาติ ที่ดูสบายตา ไม่ร้อน และไม่เย็นจนเกินไป พร้อมประดับสวนสาธารณะโดยรอบคลับเฮ้าส์ เพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้กับบริเวณคลับเฮ้าส์ได้อีกด้วย

 

ภายในอาคารคลับเฮ้าส์ จะมีห้องฟิตเนส สำหรับการออกกำลังกาย ซึ่งมีอุปกรณ์ครบทุกประเภทการออกกำลังกาย ทั้งคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และบอดี้เวท พร้อมสัมผัสทิวทัศน์รอบโครงการแบบพาโนรามาด้วยผนังกระจกรอบด้าน

 

ภายในโครงการจะมีสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากสังคมภายนอก และช่วยฟื้นฟูจิตใจได้ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะแนวยาว ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารคลับเฮ้าส์ พร้อมด้วยพรรณไม้หลากหลายสายพันธุ์ ที่พร้อมเป็นแหล่งพักใจให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการทุกคนครับ

 

ด้านระบบไฟฟ้าของส่วนกลางของโครงการ ส่วนของป้อมทางเข้าออก บริเวณตลอกแนวสวนสาธารณะ และอาคารห้องคลับเฮ้าส์ ทางโครงการใช้ระบบไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ครับ ซึ่งเป็นทั้งพลังงานสะอาด และยังช่วยให้ผู้อาศัยทุกคนประหยัดค่าส่วนกลางของโครงการได้มากขึ้นอีกด้วยครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ 

คลิกดูแผนที่โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5

 

ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตลาด

• ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต
• Zpell
• เซียร์ รังสิต
• เมเจอร์ รังสิต
• แม็คโคร รังสิต
• บิ๊กซี สาขารังสิต2 
• โลตัส รังสิต
• ตลาดสี่มุมเมือง
• ตลาดรังสิต

สถานศึกษา

• โรงเรียน สยาม อาร์เอ็นเอ อินเตอร์ฯ
• โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
• โรงเรียนแย้มสะอาด
• มหาวิทยาลัยรังสิต
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

โรงพยาบาล

• รพ.เปาโล รังสิต
• รพ.แพทย์รังสิต
• รพ.ปทุมเวช

การคมนาคม

• ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์
• ถนนวิภาวดีรังสิต
• ถนนพหลโยธิน
• สนามบินดอนเมือง
• รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคต
• รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคลองสี่
• รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคลองสาม
• รถประจำทาง ได้แก่สาย 34, 39, 185, 187, 188, 503, 504, 513, 522, 523, 554

 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

 

แนะนำเส้นทางจากโครงการ ไปสถานที่อื่นที่น่าสนใจ

►จากโครงการไป ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต (ประมาณ 25-30 นาที)

ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านรังสิต เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำต่างๆ รวมถึงแหล่งรวมความบันเทิง และร้านค้าร้านอาหารชั้นนำ ถ้าหากมีเวลาว่างอยากไปช้อปปิ้ง ไปทานอาหาร หรืออยากไปชมภาพยนต์ก็สามารถเดินทางมาที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ได้

สำหรับการเดินจากโครงการไปยังฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ให้ใช้ถนนสายไหม เพื่อตัดเข้าถนนพหลโยธิน แล้ววิ่งตรงไปยังฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ได้เลย ตามแผนที่ด้านล่าง โดยใช้เวลาเพียง 25 - 30 นาทีเท่านั้น

 

►จากโครงการไป ดรีมเวิลด์ (ประมาณ 20-25 นาที)

ดรีมเวิลด์ สวนสนุกชื่อดังของเมืองไทย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมความสนุกครบวงจร ที่แบ่งไว้เป็นโซนอยู่แล้ว เช่น โซนดรีมเวิลด์พลาซ่า จะเป็นจุดชม สถาปัตยกรรมของหมู่บ้าน สไตล์ยุโรป โซนดรีมการ์เด้น เป็นแหล่งอุทยานสวนสวยในฝันที่รวบรวมพรรณไม้นานาชนิด ในบรรยากาศที่สวยงาม ร่มรื่น เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว โซนแฟนตาซีแลนด์ จะค่อนข้างถูกใจเด็กๆ เพลิดเพลินไปในดินแดนแห่งจินตนาการ เมืองเทพนิยาย บ้านยักษ์ ฟาร์มลุงทอม ส่วนโซนสุดท้ายจะเอาใจขาโจ๋ วัยรุ่น คือโซน แอดเวนเจอร์แลนด์ (Adventure Land) ดินแดนแห่งการผจญภัยกับเครื่องเล่นอันทันสมัย สนุกสนานกับเมืองหิมะ แกรนด์แคนยอน เรือไวกิ้ง ซูเปอร์สแปลช ปราสาทผีสิง และเครื่องเล่นอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับท่านในที่ว่าง สามารถพาครอบครัวไปพักผ่อน หรือพาเด็กๆ ไปเล่นสวนสนุกได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก ที่สำคัญคือเดินทางสะดวก

สำหรับการเดินทางจากโครงการไปยังดรีมเวิลด์ สามารถใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก เพื่อตัดเข้าถนนรังสิต - นครนายก แล้ววิ่งตรงไป โดยดรีมเวิลด์จะอยู่ซ้ายมือบริเวณคลอง 3 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 - 25 นาที

 

►จากโครงการไป ตลาดน้ำนครรังสิต (ประมาณ 25-30 นาที)

ตลาดน้ำนครรังสิต เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในย่านรังสิต โดยการจัดแบ่งโซนต่างๆ เป็นแพ ซึ่งมีทั้งแพสำหรับการจัดนิทรรศการ และแพสำหรับร้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารชื่อดัง
อย่างก๋วยเตี่ยวเรือรังสิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Signature ที่ไม่ควรพลาด หากมีเวลาว่าง ก็สามารถแวะไปเที่ยวกันได้เลยครับ

สำหรับการเดินทางจากโครงการไปยังตลาดน้ำนครรังสิต ให้ใช้เส้นทางถนนลำลูกกา เข้าสู่ลำลูกกา ซอย 11 แล้วตัดเข้าสู่ถนนรังสิตนครนายก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 - 30 นาที เท่านั้น

 

►จากโครงการไป M.T Arena Sport & Lifestyle mall (ประมาณ 15-20 นาที)

 M.T Arena Sport & Lifestyle mall เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งไลฟ์สไตล์ที่พร้อมจะตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง โดยเป็นสปอร์ตมอลล์ที่โดดเด่นเรื่องของการออกแบบ โดยมีสนามกีฬายอดนิยมอยู่ในสถานที่แห่งนี้ อาทิ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม และสนามแบดมินตัน

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่รายล้อมอยู่มากมาย เช่นร้านกาแฟ ร้านไอศครีม รวมถึงร้านขายอุปกรณ์กีฬาต่างๆ และยังมีโรงเรียนสอนฟุตบอล โรงเรียนสอนภาษา และอื่นๆ อีกมากมาย หากมีเวลาสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ เพราะสะดวกและไม่ไกลจากโครงการ

สำหรับการเดินทางให้ใช้เส้นทางถนนลำลูกกา แล้วขับไปยังโครงการได้เลย โดยใช้เวลา 15 - 20 นาที

 

►จากโครงการไป ลีโอ สเตเดี้ยม (ประมาณ 20-25 นาที )

ลีโอ สเตเดี้ยม น่าจะโดนใจสำหรับคอบอล โดนเฉพาะแฟนบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี เพราะว่าโครงการนั้นอยู่ไม่ไกลจากลีโอ สเตเดี้ยม สนามแข่งขันของทีมฟุตบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมระดับไทยลีกของเมืองไทย ซึ่งเป็นสนามหลักที่ใช้ในการแข่งขัน หากใครชื่นชอบฟุตบอลก็สามารถไปนั่งชมกันได้ หรือถ้าหากสุดสัปดาห์มีเวลาว่าง สามารถพาครอบครัวไปชมฟุตบอลได้เช่นกัน 

สำหรับการเดินทางไป ลีโอ สเตเดี้ยม ให้ใช้เส้นทางกาญจนาภิเษก ตัดเข้าถนนรังสิต - นครนายก ขับตรงไปกลับรถก่อนถึงมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ก็ถึงสนามแข่งขันแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 20-25 นาทีเท่านั้นเอง

 

สรุปการรีวิวโครงการ​

►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน และค่าส่วนกลาง

     โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ทาวน์โฮม 2ชั้น สไตล์โมเดิร์น ที่ดูมีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย สู่งานดีไซน์ที่ผสมผสานอย่างลงตัวของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบง่าย ใช้งานได้จริง พร้อมผสมผสาน และตอบสนองการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างลงตัว ในสไตล์ Modern Natural Luxe

โครงการมีแบบทาวน์โฮมให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ มีรายละเอียดดังนี้

1. แบบทาวน์โฮม Louvre หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน 
• ที่จอดรถในบ้าน 2 คัน

ค่าส่วนกลางของโครงการ ► ค่าส่วนกลาง 800 บาท/เดือน

 

2. แบบทาวน์โฮม Loire หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.

• 3 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน 
• ที่จอดรถในบ้าน 1 คัน

ค่าส่วนกลางของโครงการ ► ค่าส่วนกลาง 700 บาท/เดือน

 

►สิ่งอำนวยความสะดวก

     โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ทาวน์โฮม 2ชั้น มีการออกแบบที่ดูเรียบง่าย สไตล์ Modern ตัวบ้านมีการออกแบบที่ได้มาตรฐานงานก่อสร้างดีเยี่ยม โดยระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูป ที่จะไม่มีเสาภายในตัวบ้าน ทำให้ภายในตัวบ้านมีพื้นที่กว้างมากขึ้น มีการจัด Space ให้ได้มีความเป็นสัดส่วนในชั้น 2 ของบ้าน พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการที่ครบครัน เช่น อาคารคลับเฮ้าส์ ที่มีห้องฟิตเนสที่พร้อมตอบโจทย์ด้านสุขภาพ พร้อมสวนสาธารณะบริเวณหน้าคลับเฮ้าส์ ที่มีบรรยากาศที่ร่มรื่น รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของโครงการ เช่น 

• CCTV 24 ชม. กล้องวงจรปิด ด้านหน้าโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
• Auto Access Card ระบบอ่านบัตรยกไม้กั้นอัตโนมัติ ควบคุมการเข้า-ออกโครงการ 

     “ อาคารคลับเฮ้าส์ สไตล์โมเดิร์น ” บริเวณใจกลางของโครงการ จะมีอาคารคลับเฮ้าส์ที่ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสีกลางที่ไม่ดูร้อนจนเกินไป และทำให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น ภายในอาคารคลับเฮ้าส์จะมีห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย เป็นผนังกระจกล้อมรอบโซนห้องฟิตเนส ได้มุมวิวพาโนรามา พร้อมที่นั่งชิลๆหน้าหน้าทางเข้าอาคาร

     “ พื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการ ” นอกจากอาคารคลับเฮ้าส์แล้ว ในบริเวณใจกลางของโครงการ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวนสาธารณะ เพื่อการสร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ทั้งยังสามารถใช้ผ่อนคลาย และออกกำลังกายในยามเย็นได้อีกด้วย เรียกได้ว่าโครงการเป็นโครงการที่มีสาธารณูปโภคครบเครื่อง ทั้งคลับเฮ้าส์ และสวนสาธารณะเลยทีเดียวครับ

     “ ถนนเมนโครงการ ตรงยาวสุดโครงการ ” โครงการนี้มีถนนทางเข้าโครงการเป็นเส้นทางตรงยาวตลอดจุดสุดโครงการ โดยมีเส้นทางหลัก 2 เส้นทางกว้าง 8 เมตร และ 6 เมตร และมีอาคารคลับเฮ้าส์ และสวนสาธารณะอยู่ระหว่างกลางของถนนเมนทั้ง 2 เส้นทางนี้ การออกแบบถนนลักษณะนี้เพื่อทำให้การเดินทางเข้าออกภายในโครการสะดวกมากขึ้นนั้นเอง

     “ ทางเข้าสไตล์ Modern กว้างเต็มพื้นที่ ”  ทางเข้าโครงการจัดตกแต่งไว้ได้อย่างสวยงาม สไตล์ Modern ที่ดูกว้างขวาง สวยงามสะดุดตามากๆ และที่บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ จะมีปลูกต้นไม้พุ่มเล็กเต็มพื้นที่ทั้งซ้ายขวาเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับทางเข้าโครงการ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Auto Access Card และกล้องวงจรปิด CCTV

     “ มาตรฐานงานก่อสร้างดีเยี่ยม ” มาตรฐานงานก่อสร้างโดยผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญ โดยระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูป ที่จะไม่มีเสาภายในตัวบ้าน ทำให้ภายในตัวบ้านมีพื้นที่กว้างมากขึ้น มีการจัด Space ให้ได้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น พร้อมผนังลดความร้อน ที่จะทำให้หมดปัญหาบ้านร้อน ต่อเติมสะดวก จะขุด เจาะ ก็สบายใจไร้ปัญหา มาพร้อมกับการออกแบบตัวอาคารที่พักอาศัยที่ดูทันสมัยสไตล์ Modern สีสันที่ดูสบายตาเข้ากับธรรมชาติโดยรอบโครงการได้เป็นอย่างดี

     “ เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ” โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนซอยสายไหม 85 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนถนนวัชรพล และถนนลำลูกกาได้สะดวก โดยที่ถนน 2 เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน ทางด่วนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนรามอินทรา) ได้เช่นกัน

 

►การคมนาคม

คลิกดูแผนที่โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5

     "ศูนย์กลางการเชื่อมต่อของทำเลสายไหม" คงไม่เกินจริงเกินไปสำหรับคำๆ นี้ เพราะว่าโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 นั้น ตั้งอยู่บนทำเลถนนสายไหม ที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนพหลโยธินได้แบบโดยตรง และสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รังสิต และทางด่วนโทลล์เวย์ได้อีก ถนนลำลูกกา ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เป็นรถไฟฟ้าสายตรง ที่เข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพชั้นในได้ ถนนสุขาภิบาล 5 ที่เชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ ที่สามารถตรงไปยังพื้นที่กรุงเทพชั้นในอย่างเอกมัย พระราม 9 และสุขุมวิทได้ และถนนกาญจนาภิเษก ที่เชื่อมต่อโดยตรงได้กับพื้นที่รังสิต ลำลูกกา บางปะอิน รามอินทรา บางกะปิ มีนบุรี รามคำแหง และบางนา และพื้นที่อื่นๆ รอบตัวเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อีกด้วย 

     แต่ทางโครงการก็ไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในเรื่องของทำเลเพียงอย่างเดียว แต่โครงการยังมีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการอีกด้วย เพราะตัวโครงการนั้นรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ อย่างมากมาย ทั้ง โลตัส คลอง 3, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต , เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ รังสิต, บิ๊กซี คลอง 6, โรงพยาบาลเปาโล รังสิต, โรงเรียนสวนกุหลาบ รังสิต, โรงเรียนสารสาสน์ รังสิต, โรงเรียนสายปัญญา รังสิต, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกทั้งโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย บอกได้เลยครับว่าทางที่ดี ไม่ใช่ทางลาดยางอีกแล้ว แต่เป็นทางที่มีทำเลเชื่อมต่อได้หลากหลายอย่างโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ต่างหากล่ะครับ

 

►ภาพรวมโครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5

     โครงการ ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ที่พัฒนาโครงการโดย ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย มาพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานบ้านที่หลากหลาย พร้อมรองรับการใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ ท่ามกลางธรรมชาติภายในโครงการที่ลงตัว พร้อมด้วยอาคารคลับเฮ้าส์ ที่บริเวณใจกลางโครงการ ซึ่งอาคารคลับเฮ้าส์นี้ จะมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามแบบสไตล์โมเดิร์น และบริเวณภายนอกคลับเฮ้าส์ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวน สร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยพุ่มไม้ที่บริเวณโซนด้านหน้า ซึ่งภายในอาคารคลับเฮ้าส์ ก็จะมีห้องฟิตเนสสำหรับการออกกำลังกายพร้อมวิวแบบพาโนรามามาให้ด้วย 

      โดยโครงการมีทำเลตั้งอยู่บนถนนสายไหม ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายทั้งทางด่วนรามอินทรา ถนนกาญจนาภิเษก และถนนพหลโยธิน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานี คลอง 4 ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS เข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยตรงอีกด้วย พร้อมทั้งใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์สุดคูลอย่างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต อีกด้วยครับ เพียบพร้อมไปด้วยทำเลที่เชื่อมต่อกับแหล่งธุรกิจภายในตัวเมืองกรุงเทพ ที่หลากหลายมากกว่าเดิม ซึ่งไม่ใช่แค่สาทรอีกต่อไป แต่ยังรวมไปถึงอโศก บางกะปิ ลาดพร้าว จตุจักร รัชดา สุขุมวิท พระราม 9 และเอกมัยอีกด้วย พร้อมเรียกได้อย่างเต็มปากเลยครับว่านี่คือโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของถนนสายไหมเลยก็ว่าได้ครับ

 

►สรุปโครงการ

   ไลโอ อีลีท วัชรพล - สุขาภิบาล 5 ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หน้ากว้าง 5.7 ม. อยู่ทำเลกรุงเทพตอนบน มีที่ตั้งอยู่ในซอยสายไหม 85 เป็นซอยย่อยมาจากถนนสายไหม ถนนเส้นนี้เชื่อมต่อไปยังถนนได้หลายเส้นทางด้วยกัน เช่น ถนนพหลโยธิน, ถนนลำลูกกา, ถนนสุขาภิบาล 5 และถนนหทัยราษฎร์ 

   ในการเดินทางด้วยรถยนต์ ก็สะดวกสบาย หากจะเดินทางเข้าเมืองก็เดินทางได้ง่ายจากถนนพหลโยธิน ซึ่งอาจจะมีการจราจรที่หนาแน่นบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน สำหรับใครที่ต้องการใช้ทางด่วนก็มีให้เลือกใช้ ทั้ง ไปทางถนนลำลูกกาที่สามารถไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ และทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา ที่ขึ้นได้จากถนนสุขาภิบาล 5 การเดินทางก็ไม่ยากมากนักดีมาก ใกล้ทางด่วนถึง 2 เส้นทางเลยทีเดียว

   ทำเลวัชรพล - สายไหม ยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สะพานใหม่-คูคต) ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยตรงอีกด้วย โดยที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สะพานใหม่-คูคต) คาดว่าจะสร้างเสร็จปี 64 และจะมีการก่อสร้าง สถานีส่วนต่อขยายเพิ่มเติมตามอีกตามแนว ถนนลำลูกกา ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ใกล้เคียงกับโครงการถึง 2 สถานีด้วยกัน ก็คือ สถานีคลองสี่ ระยะทางประมาณ 5-7 นาที และสถานีคลองสามระยะทางประมาณ 8-10 นาที

   โครงการมีแบบทาวน์โฮมให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ มีดังนี้ 1.แบบทาวน์โฮม Louvre หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถในบ้าน 2 คัน และ 2.แบบทาวน์โฮม Loire หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน) 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถในบ้าน 1 คัน

   วัสดุของโครงการนี้ใช้เป็นระบบผนังสำเร็จรูป Precast ไม่มีระบบเสา แต่มีการวางคานเสริมเหล็กเพิ่มในบางจุด จึงเป็นโครงการที่ค่อนข้างแข็งแรง ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง ส่วนใหญ่จะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนที่เป็นส่วนนั่งเล่นและห้องนอนพื้นจะได้พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิก จะมีขนาดแตกต่างๆ ใช้ปูผนังไปปูถึงฝ้าเพดาน

   วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมอบ สีขาวกับสีดำ ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้ก๊อกอ่างล้างมือ, ก๊อกฝักบัวอาบน้ำ และสายชำระของ Cotto อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, ที่วางสบู่ และที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen และฝักบัวอาบน้ำของ Prema ส่วนโคมไฟภายในทุกดวงใช้เป็น LED เกือบทั้งหมด ที่พิเศษมีเพิ่มเข้ามาจะเป็นฝ้าโปร่งแสง และพัดลมดูดอากาศ ที่เปิดใช้งานพร้อมกับไฟตรงโถงบันได

  มีอาคารคลับเฮ้าส์ สไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตรงกลางของโครงการ อาคารคลับเฮ้าส์ที่ออกแบบเรียบง่าย สไตล์โมเดิร์น ที่เน้นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสีกลางที่ไม่ดูร้อนจนเกินไป และทำให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น ภายในอาคารคลับเฮ้าส์จะมีห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย เป็นผนังกระจกล้อมรอบโซนห้องฟิตเนส ได้มุมวิวพาโนรามา พร้อมที่นั่งชิลๆหน้าทางเข้าอาคาร 

  มีพื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวนสาธารณะ เพื่อการสร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ทั้งยังสามารถใช้ผ่อนคลาย และออกกำลังกายในยามเย็นได้อีกด้วย ด้านระบบไฟฟ้าของส่วนกลางของโครงการ ส่วนของป้อมทางเข้าออก บริเวณตลอดแนวสวนสาธารณะ และอาคารห้องคลับเฮ้าส์ ทางโครงการใช้ระบบไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้ผู้อาศัยทุกคนประหยัดค่าส่วนกลางของโครงการได้มากขึ้นอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่มีสาธารณูปโภคครบ ทั้งคลับเฮ้าส์ ระบบไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และสวนสาธารณะเลยทีเดียวครับ