โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ใกล้ทางด่วนบางนา สนามบินสุวรรณภูมิ และเมกาบางนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ Thaihometown จะพาเพื่อนๆ ไปชมโครงการโฮมออฟฟิศและอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ใน โครงการ คาสเคด บางนา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่ล่าสุดของ เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางนา กม. 5 ขาเข้า ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือแนวคิดที่มีความสร้างธุรกิจอย่างแตกต่าง ฉายแววความสำเร็จที่โดดเด่น เจิดจรัสในทุกมุมมองของการสร้างธุรกิจ และมีทำเลที่สะดวกสบายใกล้กับทางด่วนบางนา - ตราด กม.5 และสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อมต่อทุกเส้นทางธุรกิจสู่ความสำเร็จ รายล้อมด้วยความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต
ก่อนไปชมรีวิวโครงการ คาสเคด บางนา ขอเกริ่นถึงรายละเอียดของโครงการกันก่อนค่ะ
รายละเอียดโครงการ
โครงการ คาสเคด บางนา โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น บนพื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกธุรกิจด้วยการออกแบบการจัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ถูกผสมผสานระหว่างทาวน์โฮมและออฟฟิศให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบเพิ่มความพิเศษให้กับอาคารด้านหน้า ด้วยการใช้ Double Volume เพื่อสร้าง Day Lighting Access ช่องทางให้แสงสว่างธรรมชาติไหลเข้าสู่ภายในได้มากขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นพื้นที่ด้านหลังอาคารให้มีส่วนเปิดโล่งที่เชื่อมต่อส่วนพักผ่อนของชั้นสอง ทำให้ลืมความอึดอัดของอาคารพาณิชย์แบบเก่าให้ได้ความโปร่งโล่ง สบายที่มากขึ้น
เป็นโครงการที่เน้นให้เส้นทางธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นสะดวกสบาย ด้วยถนนโครงการขนาดใหญ่ กว้างสุดรวม 16 เมตร พร้อมที่จอดรถส่วนกลางมากกว่า 300 คัน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติของสวนพักผ่อน ครบครันเรื่องการรักษาความปลอดภัย ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาเริ่มต้น 12.29 ล้านบาท
แบบแปลนห้อง และตัวอาคาร
แบบอาคารของโครงการมี 1 แบบ
Approx โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 20.8 - 33.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตร
มีห้องน้ำในตัวทุกชั้น ด้านหน้าตัวอาคารใช้เป็นกระจกบานสูงใหญ่ มีความสูงประมาณ 5 เมตร
มีที่จอดรถหลักด้านหน้า จอดได้ยูนิตละ 2 คัน
แผนผังโครงการ
คลิกดูแผนผังภาพใหญ่
โครงการมีพื้นที่โดยรวมทั้งหมด 10 ไร่ 1 งาน 35.5 ตารางวา
มีจำนวน 63 ยูนิต, พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 250 ตารางเมตร/ยูนิต, ที่จอดรถกว่า 300 คัน
แผนที่โครงการ
คลิกดูแผนที่ภาพใหญ่
ทำเลที่ตั้งก็ไม่ไกลจากตัวเมือง สะดวกสบายใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
- ทำเลใกล้แหล่งชอปปิ้ง :
เซ็นทรัล บางนา, เมกาบางนา, อิเกีย บางนา, ซีคอน สแควร์, พาราไดซ์ พาร์ค
โลตัส บางนา - ตราด, บิ๊กซี บางนา - ตราด
- ทำเลใกล้โรงพยาบาล :
โรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลปิยะมินทร์
- ทำเลใกล้สถานศึกษา :
โรงเรียนประชาคมนานาชาติ, โรงเรียนลาซาล,
มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
- ทำเลใกล้ทางด่วน :
ทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพใต้),
ทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งตะวันออก),
ทางด่วนบางนา (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร), ทางด่วนบูรพาวิถี (ฝั่งขาออก)
- ทำเลใกล้สถานที่สำคัญ
ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ, ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา
เส้นทางการเดินทางไปยังโครงการ
สำหรับเส้นทางการเดินทางไปยังโครงการ คาสเคด บางนา สามารถใช้เส้นทางบนทางด่วนได้หลายเส้นทางด้วยกัน เช่นมาจากทางด่วนศรีรัช ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทางด่วนบูรพาวิถี ทางด่วนกาญจนาภิเษก และจากในแผนที่ Google Map นี้เป็นเส้นทางที่มาจากทางด่วนเฉลิมพิเศษมหานคร
รีวิวเส้นทางการเดินทางไปยังโครงการ
เริ่มต้นเส้นทางบนทางด่วนเฉลิมพิเศษมหานคร มุ่งหน้าตรงไปบนทางด่วนบางนา
ตรงไปเรื่อยๆรอเบี่ยงซ้ายตามที่ลูกศรบอกเลยนะ
ตรงไปตามป้ายลูกศรนะเพื่อนๆอย่ามัวแต่ขับเพลินล่ะ
ตรงไปเรื่อยๆตามป้าย ท่าเรือ บางนา ดาวคะนอง
ตรงไปเรื่อยๆนะเพื่อนๆแปปเดียวมาครึ่งทางแล้ว
ให้สังเกตป้ายบอกทาง สุขุมวิท 50 - บางนา แล้วขับต่อไปตามป้าย บางนา
เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายซ้ายออกไปสุขุมวิท 50 ขับตรงไปบางนา ให้เราขับตรงต่อไปตามป้ายบางนา เช่นเดิม เตรียมลงทางด่วน
เมื่อเราลงทางด่วนมาแล้วให้ขับตรงตามป้ายบอกทางไปยัง สมุทรปราการ - ชลบุรี
ขับตรงมาเรื่อยๆ เราจะเข้าสู่ถนน บางนา - ตราด จะเจอป้ายบอกทางไป ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ชลบุรี ให้เราขับตรงต่อไปได้เลย โดยให้ขับชิดซ้ายไว้ เพื่อเตรียมเบี่ยงซ้ายออกขึ้นสะพานกลับรถ
ขับอยู่เลนซ้ายขับมาตามถนน บางนา - ตราด ให้สังเกต ทางซ้ายมือจะมี Tesco Lotus Extra ให้เราเบี่ยงซ้ายเข้าสู่ทางคู่ขนานเพื่อขึ้นสะพานกลับรถได้เลยคะ
แผนที่ Google Map สังเกต Tesco Lotus Extra บางนาตราด เบี่ยงออกซ้ายได้เลย แล้วขึ้นสะพานกลับรถ ต้องสังเกต Tesco Lotus Extra ให้ดีๆ ถ้าเลยทางกลับรถตรงนี้ จะมีทางกลับรถอีกทีต้องไปอีกไกลเลย
ทางขึ้นสะพานกลับรถ สะพานกลับรถช่วงนี้ เบี่ยงซ้ายออกจะสามารถแยกออกไปเมกา บางนาได้ แต่ถ้าจะไปโครงการให้ชิดขวาไว้ตลอด
เมื่อเราขับขึ้นสะพานกลับรถให้เราอยู่เลนขวาตลอด เพื่อลงบนถนนบางนา - ตราด มุ่งหน้าสุขุมวิท แต่ถ้าเลนซ้ายจะเป็นทางเข้าของ Maga บางนา BigC extra, Robinson, homepro และ Ikea ได้
เมื่อลงจากสพานกลับรถมาแล้ว ให้เราขับตรงตามทางคู่ขนาดบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า)
บนถนนทางคู่ขนานบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า) ขับมาเรื่อยๆจะเจอโรงพยาบาลปิยะมินทร์ พอขับเลยโรงพยาบาลไปแล้วให้ชิดซ้ายไว้เพราะใกล้จะถึงโครงการแล้ว
ก่อนถึงโรงพยาบาล ปิยะมินทร์ จะมีปั๊ม PTT เป็นสถานีที่ใกล้กับตัวโครงการ จากจุดนี้ขับไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวโครงการ ให้ขับเลนซ้ายไว้ตลอด
ขับผ่านโรงพยาบาล ปิยะมินทร์ มาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เจอทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือที่บริเวณถนนบางนา - ตราด กม.5 โดยจุดสังเกตเด่นๆของทางเข้าโครงการนั้น ที่ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีรูปปั้นม้าสีดำ เป็นม้าที่กำลังวิ่งอยู่ 5 ตัว ดูสวยงามเห็นเด่นชัด เพราะติดกับถนนใหญ่บางนา-ตราด
แนะนำเส้นทางที่สะดวกมายังโครงการ
►เส้นทางที่มาจากทางพิเศษบูรพาวิถี
►เส้นทางที่มาจากวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งใต้
►เส้นทางที่มาจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช)
►เส้นทางที่มาจากถนน กาญจนาภิเษก (บางปะอิน–บางพลี)
►เส้นทางที่มาจากถนน ศรีนครินทร์
รีวิวโฮมออฟฟิศ แบบบ้านตัวอย่าง
ออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 250 ตร.ม. โดยมีห้องน้ำในตัวทุกชั้น พร้อมฟังก์ชั่นแยกโซนแห้งและโซนเปียกที่ชั้น 3 และ ชั้น 4 ภายนอกดีไซน์ทันสมัย สร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ในแต่ละยูนิต การออกแบบที่ผสมผสานบ้านและออฟฟิศให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลงตัว พร้อมระเบียงทุกชั้น ด้านหน้าตัวอาคารใช้เป็นกระจกบานสูงใหญ่ มีความสูงประมาณ 5 เมตรซึ่งจะทำให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ และสามารถมองเข้าไปถึงพื้นที่ด้านในได้อีกด้วย
ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 250 ตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ มาพร้อมกับการออกแบบการจัดพื้นที่ใช้สอยให้มีความยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความเหมาะสม และเพิ่มความพิเศษของตัวอาคารส่วนหน้า ด้วยการใช้ Double Volume เพื่อสร้าง Day Lighting Access ช่องทางให้แสงสว่างธรรมชาติไหลเข้าสู่ภายในอาคารได้มากขึ้น พร้อมออกแบบพื้นที่ด้านหลังอาคาร ให้มีส่วนเปิดโล่งที่เชื่อมต่อมุมมอง กับส่วนพักผ่อนบนชั้น 2 ของอาคาร ลดความอึดอัดของอาคารพาณิชย์แบบเก่าให้ได้ ความโปร่งโล่งสบายที่มากขึ้น
ตัวอาคารเน้นการใช้กระจกด้านหน้าอาคาร เพื่อเปิดมุมมองทางด้านหน้าให้เห็นถึงความโอ่โถง หรูหราของตัวอาคารได้ชัดเจน พร้อมกับออกแบบพื้นที่สำหรับการติดตั้งป้ายบริษัทมาให้ 2 ตำแหน่งด้วยกัน
ตำแหน่งที่ 1 เป็นตำแหน่งติดตั้งป้ายชื่อ โลโก้บริษัท และรายละเอียดต่างๆของธุรกิจ
ตำแหน่งที่ 2 เป็นตำแหน่งที่ใช้ติดตั้งโลโก้ของบริษัท
จากในภาพอาคารที่เป็นหลังมุมจะได้พื้นที่โฆษณาเพิ่มจากด้านข้างของตัวอาคาร เรียกได้ว่าโดยรวมแล้วมีความคุ้มค่าจริงๆ สำหรับการลงทุนในการทำธุรกิจสมัยนี้
► รีวิวโฮมอฟฟิศ ชั้นที่ 1 (โถงรับแขก)
“ กระจกสูงรับแสงได้อย่างเต็มที่ ”
เมื่อเราเข้ามาด้านในโซนแรกที่เจอคือ Double Volume ซึ่งมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเกือบ 6 เมตรโซนแรกนี้จัดเป็นโซนพื้นที่ของ Reception สำหรับผู้มาติดต่อสำนักงานได้ โซนถัดไปเป็นโซนรับแขก มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.75 เมตร พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60x60 ซม. แบบมาตราฐาน
ระดับของฝ้าที่เห็นในบ้านตัวอย่างเป็นการเล่นระดับเพื่อให้ดูสวยงาม ทำให้มีมิติของการออกแบบโซนต่างๆของห้อง แบบฝ้าของบ้านเปล่าจะเป็นแบบเรียบๆ ธรรมดาไม่มีการเล่นระดับของฝ้า หลายๆคนอาจจะลองนำไอเดียของการตกแต่งห้องแบบบ้านตัวอย่างไปใช้ก็ได้ จะช่วยทำให้โซนต่างๆดูมีความสวยงามมากยิ่งขั้นก
ขยับเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับโซนรับรองแขกที่มาติดต่อ พื้นที่ตรงนี้สามารถจัดวางโซฟาได้ขนาด 4-5 ที่นั่ง พร้อมด้วยโต๊ะกลางขนาดใหญ่ๆได้อย่างสบาย หรือบางบริษัทที่ไม่ค่อยจะมีแขกมามากเท่าไหร่ โดยจะเน้นไปที่ปริมาณพนักงานที่มีจำนวนมาก พื้นที่ส่วนนี้ก็อาจจะกั้นเป็นห้องทำงานห้องใหญ่ๆ ได้อย่างสบายสำหรับโซนนี้
ใกล้ๆกันกันโซนรับแขกจะมีห้องเก็บของใต้บันไดมีประตูบานใหญ่ ภายในมีพื้นที่ใช้เก็บอุปกรณ์ได้เยอะ ห้องนี้อาจจะใช้เป็นห้องควบคุมไฟต่างๆได้ หรือในอนาคตที่จะเพิ่มเติมเข้ามาเช่น ระบบแอร์ อินเตอร์เน็ต เคเบิล ระบบไฟอื่นๆ
“ ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ”
ประโยชน์ของห้องเก็บของที่ชั้น 1
เป็นจุดรวมระบบไฟฟ้าสะดวกใช้งาน
ห้องเก็บของใต้บันไดมีการติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า พร้อมทั้งมีกล่องสายไฟสำหรับเดินสายไฟระบบอื่นๆ เพิ่มเติม ตัวตู้ควบคุมไฟฟ้าได้มีการแบ่งโซนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แยกระบบไฟฟ้าชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ไว้แล้ว
ถัดไปจะเป็นโซนรับประทานอาหาร มีพื้นที่กว้างมาก ถูกตกแต่งด้วยโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ จะสังเกตเห็นโซนนี้จะมีหน้าต่างทั้งสองด้านเพื่อให้มุมนี้มีแสงเข้ามาก็ทำให้เป็นมุมเป็นอีกมุมที่พนักงานสามารถมานั่งรับประทานอาหารพูดคุยกันได้ โซนนี้หากไม่ได้ทำเป็นห้องรับประทานอาหารก็สามารถทำเป็นห้องเก็บของสต็อกสินค้าต่างๆก็ได้ เพราะพื้นที่ส่วนนี้อยู่ด้านหลังของตัวอาคารจึงสามารถทำเป็นห้องเก็บของได้ดีทีเดียว
“ มุมอิสระเพื่อการพักผ่อนชิลๆ ”
เพื่อที่โซนตรงการชั้น 1 สามารถออกแบบให้เป็น
มุมอ่านหนังสือ มุมนั่งทานอาหาร หรือมุมพิเศษอื่นๆ
อีกด้านของโซนรับประทานอาหารจะเป็นมุมครัว ซึ่งจะมีผนังของห้องเก็บของใต้บันได้บังสายตาอยู่ และโครงการได้ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการติดตั้งฉากกั้นเพิ่มขึ้นมา เพื่อใช้บังโซน Pantry ซึ่งโซนนี้ก็เหมาะมากๆสำหรับการจัดเป็นโซนครัวได้ โซนนี้โครงการได้ตกแต่งด้วยการนำเคาท์เตอร์ครัวสำเร็จรูปมาใช้เพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนของครัวเล็กๆ สะดวกต่อการใช้งานจรงิๆ แบบบ้านเปล่านั้นทางโครงการติดตั้งท่อเดินน้ำดีไว้ให้แล้ว สามารถตกแต่งเพิ่มได้เลย หรือจะใช้ไอเดียแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ดูลงตัวมากๆ
จุดติดตั้งตัวคอนโทรล ระบบสัญญานกันขโมย
“ ระบบสัญญาณกันขโมยคุณภาพสูง ติดตั้งมาพร้อมใช้งาน ”
ใกล้ๆกันกับโซนครัว จะสังเกตเห็นตัวคอนโทรลระบบสัญญานกันขโมย ทางโครงการได้มีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ไว้ที่บานประตู และหน้าต่างทั้งหมดของที่ชั้น 1 กับชั้น 2 ซึ่งตัวคอนโทรลนี้จะใช้ตั้งค่าจุดที่ติดตั้ง Magnetic ให้ทำงาน หรือให้หยุดการทำงานได้ พร้อมทั้งปรับแต่งเสียงสัญญานได้ เช่นหากต้องการให้จุดประตูหน้า เป็นเสียงกริ่งอย่างเดียวก็ได้ หรือปรับให้เป็นสัญญานกันขโมยทั้งหมดก็ได้เป๋นระบบสัญญานกันขโมยที่ใช้งานได้ง่ายมาก เหมาะกับบริษัทต่างๆที่ต้องการความปลอดภัยให้กับบริษัทได้เป็นย่างดี
ติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ที่บานประตู หน้าต่างทั้งหมดที่ชั้น1 กับชั้น2
ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room ซึ่งไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำ โดยชุดสุขภัณฑ์จะเป็นยี่ห้อ Mogen อ่างล้างหน้าและชุดก๊อกน้ำเป็นยี่ห้อ American Standard
“ ห้องน้ำตกแต่งเหมือนโรงแรมหรู ”
การใช้สอยที่สะดวกง่าย เพื่อใช้ต้อนรับแขกได้
ห้องน้ำชั้นล่างออกแบบมาให้ใช้งานง่ายๆ มีอ่างล้างหน้ กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ และมีโถสุขภัณฑ์สำหรับผู้ชาย ซึ่งจะติดตั้งแบบเข้ามุมของห้องน้ำ หน้าต่างห้องน้ำใช้หน้าต่างแบบบานกระทุ้งภายในห้องน้ำ เพื่อระบายอากาศความชื้นและกลิ่นได้เป็นอย่างดี
บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ติดกับผนังด้านข้างภายในอาคาร มีการออกแบบให้เล่นระดับของขั้นบันได โดยให้มีพื้นที่ยื่นตรงขั้ันที่ 2 ก่อนขึ้นต่อไปยังขั้นที่ 3 ก่อน การออกแบบลักษณะนี้เพื่อต้องการให้คนที่กำลังจะเดินขึ้นได้อ่านข้อมูล หรือป้ายประกาศที่มักจะติดไว้ก่อนเดินขึ้นบันได ซึ่งป้ายบอกรายละเอียดของชั้นต่างๆว่ามีอะไรบ้าง หรือจะติดป้ายประชาสัมพันธ์ข่าวต่างๆของบริษัทได้ ในภาพพื้นที่การติดตั้งก็จะเป็นตรงประตูที่เห็นในภาพนี้เลย ซึ่งแบบบ้านเปล่านั้นจะไม่มีประตู แต่จะเป็นกำแพงสีขาวธรรมดา
“ ขั้นบันไดไม้โอ๊ค สวยสไตล์เรียบหรู ”
เนื้อไม้ลวดลายธรรมชาติ ให้สัมผัสเบาสบายเท้า
โถงบันไดทางขึ้นชั้น2 พื้นบันได้ใช้วัสดุเป็นไม้ ใช้ไม้โอ๊คสำเร็จรูปสีน้ำตาลเข้ม มีลวดลายที่สวยงาม และ สีของไม้โอ้คธรรมชาติที่สวยงาม สไตล์เรียบหรู ที่ให้สัมผัสเบาสบายเท้า และยังคงความสวยหรูไว้ในตัว มีคุณสมบัติเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง เนื้อไม้มีความหนาแน่นสูง และยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งทางเดินขึ้นมีการติดตั้งราวจับ ใช้ไม้โอ๊คสำเร็จรูปสีน้ำตาลเข้มเช่นกัน ติดไว้ตลอดแนวของทางเดินบันได
► รีวิวโฮมอฟฟิศ ชั้นที่ 2 (ห้องประชุมใหญ่)
“ห้องเก็บเอกสารสำคัญ”
ห้องเก็บของบริเวณโถงบันได้ทางเชื่อมชั้น 2
มีความสูงมากพอที่จะทำเป็นชั้นเก็บเอกสารได้
บริเวณทางเชื่อมไปชั้นที่3 จะมีห้องเก็บของใต้บันไดทางขึ้นชั้น 3 มีขนาดกว้างขวางมากเพียงพอต่อการเก็บอุปกรณ์สำนักงานหรือแม้แต่เอกสารต่างๆ ภายในปูกระเบื้องและติดไฟมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
แนวกั้นทำประตูบานสไลด์ ใช้เป็นห้องห้องประชุมใหญ่ของบริษัทได้
เมื่อขึ้นมาชั้น2 (ชั้นลอย) พื้นที่ตรงนี้จะเป็นชั้นลอยถูกตกแต่งให้เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยไม้ลามิเนตสีน้ำตาลหนา 8 มม. ภายในโซนนี้จะได้รับแสงแบบเต็มที่เพราะได้รับแสงธรรมชาติจากประตูกระจกชั้นล่างบานใหญ่ ทำให้ห้องประชุมมีความโปร่งโล่งขนาดใหญ่ เพิ่มความสบายในการประชุมทุกครั้ง ในภายที่เห็นชั้นลอยนี้จะมีกระจกกั้นตกแต่งเป็นห้องประชุม แต่แบบบ้านเปล่าจะไม่มีกระจกกั้นเป็นห้องแบบนี้ แต่จะมีราวกันตกมาให้สำหรับพื้นที่ส่วนนี้
ในภาพนี้จะเป็นมมุมมองที่มองจากชั้นลอยลงไปยังชั้นล่าง จะสังเกตเห็นว่ากระจกบานใหญ่จะช่วยให้แสงเข้ามาถึงยังโซนชั้นลอยนี้ได้ และยังจะมองเห็นออกไปยังด้านนอกได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
“ พื้นที่ใช้นั่งสูบบุรี่ ”
ชานระเบียงด้านนอก ด้านหลัง
ออกแบบให้เป็นพื้นที่ผ่อนคลาย
สำหรับใช้เวลาพักประชุมได้
ด้านหลังของชั้น2 (ชั้นลอย) จะมีประตูบานเลื่อนติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย ประตูนี้ใช้เพื่ออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านหลัง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้อาจจะใช้เป็นระเบียงสำหรับนั่งชิล หรือจัดโซนไว้ให้สำหรับพนักงานที่สูบบุหรี่ก็ได้เหมือนกัน
ออกมาด้านนอกของชั้น2 (ชั้นลอย) จะเป็นระเบียงโล่งๆ มีห้องน้ำด้านนอกให้ใช้งานด้วย
ห้องน้ำด้านนอกของชั้น2 (ชั้นลอย) มีการติดตั้งอ่างล้างหน้าไว้ด้านนอกห้องน้ำ อ่างล้างหน้าใช้ยี่ห้อ American Standard และติดตั้งกระจกเงาบานเล็ก พร้อมกับติดชั้นวางของเล็กๆไว้ใต้กระจก
ห้องน้ำอาจจะดูเล็กก็พอให้สำหรับนั่งได้ ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง ช่วยระบายอากาศและระบายความชื้นภายในห้องน้ำได้ สุขภัณฑ์จะเป็นยี่ห้อ Mogen
บันไดขึ้นชั้น3 จะมีราวจับด้านซ้าย และจะมีขั้นสำหรับพักเท้าที่ขั้นที่10 ก่อนต่อไปยังขั้นต่อไป
โถงบันได้ทางเชื่อมระหว่างชั้นที่2 (ชั้นลอย) กับชั้นที่ 3 จะมีหน้าจต่างบานเล็กเป็นบานเปิดแบบกระทุ้งเช่นกัน หน้าต่างบานเล็กนี้จะช่วยให้แสงส่องมายังโถงบันไดช่วงนี้ได้อีกด้วย
► รีวิวโฮมอฟฟิศ ชั้นที่ 3 (ห้องทำงานใหญ่)
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 3 ในแบบบ้านที่ตกแต่งแล้วจะมีประตูสไลด์บานใหญ่กั้นเป็นห้องอยู่ แต่ในแบบบ้านเปล่าจะไม่มีให้ ผู้ซื้อจะต้องทำการติดตั้งกั้นห้องเอง ตรงจุดนี้ถ้ามีการกั้นห้องแล้วจะทำให้มีโถงทางเดินที่กว้างและยาว มีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นโซนอืิ่นๆได้เช่น โซนครัวเตรียมอาหาร โซนนั่งชิล หรือจะใช้เป็นพื้นที่ของการตั้งตู้เก็บเอกสารต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
แนวกั้นทำประตูบานสไลด์ ใช้เป็นห้องทำงานใหญ่ หรือห้องประชุมแผนกได้เช่นกัน
ชั้น3 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน คือ 2.55 เมตร โซนนี้แบ่งการจัดห้องทำงาน ในรูปแบบสมัยใหม่ มีความดีไซต์ในความโมเดิร์น ห้องนี้สามารถจัดวางโต๊ะทำงานได้ถึง 9-10 ที่นั่ง ฝ้าผนังสามารถตกแต่งเพิ่มเติม Built-in เป็นชั้นวางของ เช่น แฟ้ม เอกสาร ต่างๆ ภายในบริษัท โซนนี้จะมีหน้าต่างบานใหญ่ 2 บาน กระจกบานบนเป็นบานเปิดออกจากด้านข้าง และกระจกบานล่างเป็นบานตาย
ชั้น3 อีกด้านของโซนโต๊ะทำงาน ใช้เป็นพื้นที่สำหรับประชุมของแต่ละแผนกได้ อาจจะกั้นเป็นห้องแบบทึบไว้สำหรับการประชุมของแผนกก็ได้
ชั้น3 ด้านในสุด กั้นห้องทำเป็นห้องทำงานเล็กๆ ไว้สำหรับหัวหน้างาน หรือผู้บริหารก็ได้
โครงการได้ตกแต่งด้านในสุด ด้วยการเพิ่มฉากกั้นแบบลอยตัว ใช้กั้นระหว่างโซนโต๊ะทำงานและโซนห้องประชุม จะสังเกตเห็นว่ามุมนี้จะมีกระจกบานใหญ่เต็มบานพร้อมตกแต่งด้วยมู่ลี่สีขาว พื้นที่โซนนี้น่าจะใช้ทำเป็นห้องทำงานของหัวหน้าแผนก หรือผู้บริหารก็ได้เช่นกัน
มาดูฝั่งด้านหลังของชั้น3 กันบ้างนะคะ โซนนี้จะเป็นเป็นพื้นที่ของห้องน้ำชั้นสาม ความพิเศษของชั้นนี้คือ มีปักบัวพร้อมธรณีกั้นแยกระหว่างโซนแห้งและโซนเปียกไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถติดตั้งกระจกกั้นบนธรณีได้ อาจจะใช้ประตูกระจกแบบบานสไลด์จะสะดวกสบายมากว่าแบบบานเปิด ส่วนฝักบัวใช้ยี่ห้อ American Standard พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.80 x 1.35 เมตร พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค ขนาด 30x30 ซม. จะสังเกตเห็นฝั่งอ่างล้างหน้ามีการออกแบบ Low Wall กว้างขวาง เป็นพื้นที่วางอุปกรณ์ภายในห้องน้ำได้อย่างดี
“ จุดติดตั้ง Access Point สัญญาณ Wifi ”
ชั้น3 ทีบริเวณประตูทางเข้าห้องน้ำ จะสังเกตเห็นที่ด้านบนจะมีปลั๊กไฟ 1 จุด โครงการทำไว้สำหรับรองรับการใช้งานการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาน Wifi อินเตอเน็ต หรือจะใช้ติดตั้ง Access Point ตัวกระจายสัญญาณ Wifi ก็ได้ เพื่อให้ช่วยกระจายสัญญาน Wifi ไปถึงที่ชั้น 4 ของอาคารได้อย่างเต็มที่
สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง Wifi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเราเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »
หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ wifi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »
บันไดชั้น4 ทั้งชานพักและหน้าต่างจะเหมือนกับบันไดขึ้นชั้น 3 แต่ราวจับจะไม่อยู่ติดกับผนัง
► รีวิวโฮมอฟฟิศ ชั้นที่ 4 (ห้องนอนใหญ่)
เมื่อขึ้นมาถึงชั้น4 มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.4 เมตร ทางโครงการได้ออกแบบให้มีฉากกั้นระหว่างห้องนอนและบริเวณ Walk in Closet ผู้ซื้อสามารถออกแบบเพิ่มฉากหรือกั้นส่วนของห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานผู้บริหาร ห้องประชุม หรือจะแบ่งเป็นห้องทำงานแบบหลายๆห้องก็ได้เช่นกับ
แนวกั้นทำประตูบานสไลด์ ใช้เป็นห้องทำงานใหญ่ หรือห้องประชุมแผนกได้เช่นกัน
บ้านตัวอย่างโครงการได้ทำเป็นโซน Walk in Closet พร้อมตู้เสื้อผ้าบิวต์อินขนาดใหญ่
ฝั่งด้านหลังของชั้น4 จะเป็นพื้นที่ของ Area Closet ไว้สำหรับโซนการแต่งตัว ซึ่งโซนนี้คงจะถูกใจคุณแม่บ้านกันเป็นอย่างมากเพราะพื้นที่กว้างขวาง กระจกบานใหญ่เต็มตัว โต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ติดกับระเบียงด้านหลัง
ห้องน้ำชั้น4 ความพิเศษของชั้นนี้จะเหมือนกัน คือ มีฝักบัวพร้อมธรณีกั้นแยกระหว่างโซนแห้งและโซนเปียกไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถติดตั้งกระจกกั้นบนธรณีได้ อาจจะใช้ประตูกระจกแบบบานสไลด์จะสะดวกสบายมากกว่าแบบบานเปิด ฝักบัวใช้ยี่ห้อ American Standard จะสังเกตเห็นฝั่งอ่างล้างหน้ามีการออกแบบ Low Wall กว้างขวาง เป็นพื้นที่วางอุปกรณ์ภายในห้องน้ำได้อย่างดี
ที่ชั้น4 พื้นที่ในส่วนของชั้นนี้แบบบ้านตัวอย่างโครงการได้ตกแต่งให้เป็นห้องนอนใหญ่ ภายในห้องตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ตอบรับผู้ซื้อในสไตล์คนรุ่นใหม่ฝั่งหัวเตียงมีหน้าต่างขนานสองข้าง ด้านข้างของหัวเตียงทั้งสองสามารถ Built-in ชั้นวางของเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นของห้องได้อีกเช่นเดียวกัน
“พื้นที่กว้างโล่ง กั้นห้องแบ่งโซนได้อีก”
เชื่อมต่อจากระเบียงด้านหน้า ไปถึงระเบียงด้านหลัง
ด้านปลายเตียงถูกออกแบบให้เป็น Built-in เป็นชั้นวางของโชว์หรือ ทีวี กรอบรูป เป็นต้น เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ผู้ซื้อสามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน
ถัดจากโซนวางทีวีแล้วจะเป็นพื้นที่ของโซนทำงาน ตกแต่งด้วย Built-in ไม้เทียมสีน้ำตาลเข้ม มีการเจาะฝ้าเล่นระดับและ Built-in สูงเพดานจรดพื้น แบ่งเป็นช่องสลับกันไปมา สามารถนำแจกันและหนังสือมาวางเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นให้กับโซนนี้ได้เช่นเดียวกัน
ชั้น4 จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเป็นกระจกแผ่นใหญ่ 3 บาน ทำเป็นบานสไลด์ 2 บานกลาง และบานตาย 3 บาน ส่วนกระจกใช้แบบกระจกสีเขียวตัดแสงช่วยลดความร้อนได้ดี มีระเบียงเพื่อออกไปรับลมภายนอกได้ ระเบียงที่ชั้น4 จะมีพื้นที่มากที่สุด สามารถทำเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นรับลมได้ ถัดไปจะระเบียงจะมีพื้นที่สำหรับติดตั้ง คอมเพรสเซอร์แอร์ขนาดใหญ่ได้ ด้านหน้าตัวอาคารมีการติดตั้งฉากกั้นบังสายตาให้ไว้แล้ว ฉากกั้นบังสายตานี้ใช้ได้กับทุกชั้นที่ติดตั้งแอร์ไม่ต้องห่วงเรื่องความสวยงาม
ระเบียงด้านนอกมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างมาก มีการเซาะร่องที่พื้นสำหรับระบายน้ำออกไปยังเดรนไว้ และราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ช่วยทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในห้องได้ พื้นที่ระเบียงสามารถจัดแต่งเป็นสวนขนาดย่อมหรือสวนแขวนได้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ภาพตัวอย่างพื้นที่จอดรถของโครงการ
ถนนโครงการมีคววามสะดวกสะบาย โดยมีความกว้างของถนนหลัก 16 เมตร พร้อมที่จอดรถส่วนกลางมากกว่า 300 คัน มีความโดดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายภายในโครงการ การใช้พื้นที่จอดรถของตัวอาคารสามารถจอดรถตรงกับหน้าอาคาร ได้อาคารละ 2 คัน และมีที่จอดรถสำหรับส่วนกลางด้วย โดยเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว มีที่จอดรถได้ 4 คัน ต่อยูนิตเลย
ภาพตัวอย่างพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติของสวนพักผ่อน ออกแบบให้มีสวนสาธารณะที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ตั้งอยู่ตรงกลางของตัวโครงการเพื่อให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนรวมร่วมกันได้อย่างลงตัว
ถนนเมนมี 2 เลนเข้าออก เป็นถนนเมนสำหรับการใช้งานเข้าออกโครงการได้อย่างสบาย พื้นที่ถนนเมนโครงการนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สะดวก เพราะถนนเมนมีความกว้างสุดถึง 12 เมตร
โครงการมีห้องเก็บแยกขยะแบบรวมไว้ที่จุดนี้ รถขยะจะมาเก็บขยะที่จุดนี้ จะไม่เข้าไปด้านในโครงการ ซึ่งทำให้ไม่รบกวนผู้อยู่อาศัยในโครงการ
สามารถเข้าได้ทางเดียวจากถนนบางนา - ตราด กม.5 จากถนนหลักเข้ามาประมาณ 60 เมตรจะเจอระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Keycard access เข้าออกโดยผ่านคีย์การ์ด และมีกล้อง CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการอีก 16 จุด
มีความสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น เพราะก่อนเข้าโครงการ ทางเข้าขวามือจะมีพื้นที่สำหรับติดป้ายบริษัทต่างๆในโครงการ เป็น Directory Board ของแต่ละยูนิตมีให้ครบทุกยูนิต สะดวกมากๆเลยทีเดียว
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ใกล้ๆ กับตัวโครงการ
►ห้างเมกา บางนา (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
แผนที่ Google Map จากโครงการไปห้างเมกา บางนา
►ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
แผนที่ Google Map จากโครงการไปศูนย์ประชุมไบเทค บางนา
►ห้างเซ็นทรัลพลาซา สาขาบางนา (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
แผนที่ Google Map จากโครงการไปเซ็นทรัลพลาซา บางนา
►ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ใช้เวลาประมาณ 25 นาที)
แผนที่ Google Map จากโครงการไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
แนะนำจุดขึ้นทางด่วน ที่ใกล้กับตัวโครงการ
►จากโครงการไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพใต้)
►จากโครงการไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งตะวันออก)
►จากโครงการไปขึ้นทางด่วนบางนา (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร)
►จากโครงการไปขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี (ฝั่งขาออก)
โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 250 ตร.ม. โดยมีห้องน้ำในตัวทุกชั้น ดีไซน์ทันสมัยสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ในแต่ละยูนิต ด้านหน้าตัวอาคารใช้เป็นกระจกบานสูงใหญ่ มีความสูงประมาณ 5 เมตรซึ่งจะทำให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วโครงการนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานบ้าน และออฟฟิศให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลงตัว
โครงการได้มีการออกแบบโดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวไว้ตรงกลางพื้นที่ของโครงการ และเพิ่มพื้นที่ปลูกต้นไม้ไว้ช่วงกลางตลอดแรวพื้นที่จอดรถส่วนกลางของโครงการ และมีการปลูกต้นไม้เล็ก กับต้นไม้ใหญ่บริเวณโดยรอบพื้นที่ของโครงการ สำหรับโครงการนี้มีการทำให้มีพื้นที่สีเขียวโดยเน้นให้มีในทุกๆพื้นที่ บริเวณรอบๆได้อย่างลงตัว
สรุปรีวิวโครงการ คาสเคด บางนา (Cascade Bangna)
โครงการ คาสเคด บางนา เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดจาก เรียล แอสเตท ในแหล่งศูนย์กลางธุรกิจแห่งกรุงเทพและตะวันออก รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ทั้งการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตด้วยการออกแบบทางเข้าด้วยประติมากรรมม้า 5 ตัว คือสัญลักษณ์ของการติดต่อค้าขาย และการทำธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง
อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ไม่ไกลจากตัวเมือง สะดวกสบายใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการไม่ว่าจะเป็น แหล่งชอปปิ้ง เซ็นทรัล บางนา, เมกาบางนา, อิเกีย บางนา, ซีคอน สแควร์, พาราไดร์ พาร์ค, เทสโก้ โลตัส, โรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงพยาบาลศิครินทร์, สถานศึกษา โรงเรียนประชาคมนานาชาติ, โรงเรียนลาซาล มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
เชื่อมต่อทุกเส้นทางธุรกิจสู่ความสำเร็จ ทำเลติดถนนใหญ่บางนา - ตราด เชื่อมต่อการเดินทางด้วยทำเลที่ติดทางด่วนบางนา ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) และทางด่วนบางนา (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร) และมอเตอร์เวย์อ่อนนุช สะดวกในการทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก เหมาะกับผู้ที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก เพราะมีทำเลที่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้เวลาเดินทาง 20 นาทีเท่านั้น โครงการ คาสเคด บางนา จึงเป็นสังคมคุณภาพที่ตอบสนองความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
โครงการ คาสเคด บางนา
ถ้าใครสนใจหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่
Call Center 02-652-8852