หน้าแรก > ข่าวประชาสัมพันธ์ > แสนสิริ > ทำความรู้จัก "บ้าน รามคำแหง" ทำเลศักยภาพ EBD รองรับทุกความต้องการ

ทำความรู้จัก "บ้าน รามคำแหง" ทำเลศักยภาพ EBD รองรับทุกความต้องการ

เปิดอ่าน 15,813 ครั้ง

ทำความรู้จักบ้าน รามคำแหง ทำเลศักยภาพ

บ้าน รามคำแหงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่อยู่ในกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก โดยทำเลรามคำแหงจะเริ่มต้นตั้งแต่จุดเชื่อมต่อจากพระราม 9 ยาวเรื่อยมาจนถึงมีนบุรี ทำให้ถนนรามคำแหงสามารถแยกออกไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้หลากหลายเส้นทาง และในอดีตจะมีเพียงมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เปรียบดังจุดศูนย์กลางของทำเล แต่ในปัจจุบันพื้นที่รามคำแหงทั้งหมด กลับเป็นพื้นที่ที่ได้รับการวางนโยบายให้เป็นพื้นที่รองรับการเพิ่มขึ้นของประชากร และรองรับการขยายของเมืองที่มาจากย่านเศรษฐกิจใกล้เคียงคือจาก CBD สุขุมวิท และ New CBD พระราม 9 หรือเรียกว่า Extended Business District (EBD)

บ้าน รามคำแหงเมืองใหม่ที่มีความแข็งแกร่งด้านการคมนาคม

ภาพรวมของทำเลและบ้าน รามคำแหง มีรายละเอียดของไลฟ์สไตล์และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแยกออกเป็น 3 เส้นทางคือ เส้นทางแรกจุดเริ่มต้นของรามคำแหงคือบริเวณแยกคลองตัน ที่สามารถแยกไปเชื่อมต่อกับสุขุมวิท และพระราม 9 ยาวไปจนถึงแยกลำสาลี ช่วงต่อมาคือบริเวณรอยต่อจากแยกลำสาลี ไปจนถึงวงแหวนกาญจนาภิเษก และช่วงสุดท้ายคือรอยต่อจากวงแหวนกาญจนาภิเษก ยาวไปจนถึงมีนบุรี

จากภาพรวมดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า ทำเลรามคำแหงสามารถเชื่อมต่อไปสู่ศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ทั้งสุขุมวิท อโศก และพระราม 9 อีกทั้งยังเข้าสู่ทำเลฮอตอย่างทองหล่อและเอกมัยได้ด้วยนอกจากนี้ยังมีถนนหลักอย่างถนนศรีนครินทร์ ถนนพัฒนาการ ถนนลาดพร้าว และถนนกรุงเทพกรีฑา ที่เชื่อมต่อมาจากรามคำแหงและแยกออกไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ในอีกหลายทำเล และในช่วงเวลาเร่งด่วน ทางพิเศษศรีรัชคือตัวช่วยที่ทำให้ทำเลนี้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางไปลงที่ CBD สีลม และสาทร ส่วนการออกสู่ต่างจังหวัด มีมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่สำหรับใช้เดินทางไปสู่ภาคตะวันออก อย่างจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรี

เติมเต็มศักยภาพให้แก่ทำเลและบ้าน รามคำแหงด้วยโครงการรถไฟฟ้า

โครงการรถไฟฟ้าคืออีกหนึ่งความแข็งแกร่งที่เข้ามาเติมเต็มศักยภาพให้กับทำเลและบ้าน รามคำแหง ซึ่งแต่เดิมทำเลนี้มีบ้านใกล้ airport link สำหรับใช้เปลี่ยนเส้นทางและเดินทางต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกหลายเส้นทางที่กำลังทยอยกันเปิดตัวให้บริการดังต่อไปนี้

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณกลางปี 2566 มีเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพมหานครฝั่งเหนือ ตัดผ่านกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก และไปสิ้นสุดที่กรุงเทพมหานครฝั่งใต้ หรือช่วงลาดพร้าว-สำโรง

รถไฟฟ้าสายสีส้ม แบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกันคือ ช่วงแรกศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 กับช่วงที่ 2 บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569

รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปี 2571 ให้บริการเส้นทางช่วงแคราย-ลำสาลี พร้อมเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายหลักคือรถไฟฟ้าสายสีม่วง, รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, รถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าสายสีส้ม นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายรองอีก 3 เส้นทางคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีเทา

และด้วยความเจริญที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้เอง ที่ทำให้ทำเลรามคำแหงมีจำนวนของโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม

บ้าน รามคำแหงทำเลแห่งการใช้ชีวิต ที่มีครบทุกความต้องการ

ตั้งแต่ในอดีตทำเลรามคำแหงหนาแน่นไปด้วยชุมชนบ้านที่อยู่อาศัย และเมื่อมีการขยายตัวของเมืองเกิดขึ้น ทำเลแห่งนี้จึงกลายเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่มีครบครัน ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์การค้าไฮเปอร์มาร์เก็ต สถานศึกษา และสถานพยาบาล เช่น เดอะมอลล์ รามคำแหง โลตัส รามคำแหง แม็คโคร รามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา และราชมังคลากีฬาสถาน เป็นต้น

นอกจากนี้หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ บนทำเลแห่งความมั่นคง ทั้งบ้าน รามคำแหงหลังใหม่และสถานที่ทำงานใหม่ ทำเลนี้เหมาะสำหรับคุณ เพราะนอกจากบริษัทขนาดใหญ่ และขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่แล้ว ยังมีโครงการมิกซ์ยูสเมเจอร์ทาวเวอร์ พระราม 9-รามคำแหง ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ที่มีความสูงถึง 27 ชั้น ตั้งอยู่ติดกับแยกรามคำแหง-พระราม 9 มีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 27,072 ตารางเมตร และโครงการ Mega Project จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่ต้องการเปลี่ยนโฉมเดอะมอลล์ รามคำแหง 2 ให้เป็น Mixed-use Complex ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ที่กำลังขยายงานและต้องการรับพนักงานในหลากหลายตำแหน่ง

โครงการบ้าน รามคำแหงที่สุดแห่งการอยู่อาศัย และสนุกไปกับการใช้ชีวิต

บ้าน รามคำแหงในวันนี้ต้องยอมรับว่าได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตแล้ว เพราะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงในการใช้ชีวิต ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นสุดยอดทำเลแห่งการอยู่อาศัยแบบครบวงจร ด้วยบ้านโฉมใหม่ที่ทันสมัยมากกว่าเดิมดังต่อไปนี้

โครงการสราญสิริ รามคำแหง

บ้าน รามคำแหงบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ 2566 ที่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่าน เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โรงนา หรือ Modern Farmhouse ที่มีฟังก์ชันมาให้มากถึง 4 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีครบทั้งคลับเฮ้าส์สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น ผู้อยู่อาศัยจะได้รับความปลอดภัยจากระบบ LIV-24 ที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

โครงการตั้งอยู่บนถนนเคหะร่มเกล้าใกล้กับ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง และใกล้กับคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อดังอย่างเดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง เดอะพาร์ค กรุงเทพกรีฑา และมาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา

ราคาเริ่มต้น 7-14 ล้านบาท

โครงการ อณาสิริ รามคำแหง

โครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ที่อบอุ่นและละมุนสายตาด้วยรูปทรงโค้ง ที่มีความสมมาตรกัน รับกับสีสันอันโดดเด่นของสีฟ้าน้ำทะเลและสีเขียว โครงการนี้มีบ้านถึง 4 แบบให้เลือกตามความต้องการ และทางแสนสิริเองก็ต้องการให้โครงการนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ทำงานฟรีแลนซ์ หรือ Work form Home ภายในโครงการจึงจัดสรรให้มีพื้นที่ Co-working Space ที่มีความโปร่งสบาย พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการผ่อนคลาย เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย

โครงการตั้งอยู่ภายในซอยเคหะร่มเกล้า 64 ซึ่งในอนาคตจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราษฎร์พัฒนาประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น อีกทั้งยังใกล้กับทางขึ้นทางพิเศษกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก เชื่อมต่อสู่มอเตอร์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ได้ นอกจากนี้ยังใกล้กับ Airport Rail Link สถานีลาดกระบังเพียง 9 กิโลเมตร เรียกได้ว่า นอกจากจะเลือกบ้านในราคาที่เหมาะสมกับครอบครัวได้แล้ว ยังได้อยู่อาศัยบนทำเลที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมอีกด้วย

ราคาเริ่มต้น 3.69-8 ล้านบาท

รามคำแหงเป็นทำเลที่คุ้มค่ากับการเลือกซื้อบ้าน รามคำแหงเป็นอย่างมาก เป็นทำเลที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น ด้วยความแข็งแกร่งของสภาพเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นทั้งแหล่งงานและแหล่งไลฟ์สไตล์ในฝันของหลายคน ที่วันนี้สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว ทั้งบ้านและคอนโด รามคำแหงและถ้าหากคุณสนใจซื้อบ้านกับแสนสิริคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sansiri/thai/

ที่มาข้อมูล: