สินเชื่อที่อยู่อาศัย

บ้านนั้นมีราคาแพง หนี้บ้านจึงเป็นภาระอันหนักหน่วงของการกู้เงินทั้งหมด คนส่วนใหญ่ต้องขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งต้องผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนที่ต้องเสียดอกเบี้ยไปจนกว่าจะครบระยะเวลาการผ่อน ถ้าปลดหนี้ตามระยะเวลาที่กู้แล้ว 20ปี 30ปี มาคิดย้อนดอกเบี้ย ได้บ้านเพิ่มอีกหลังเลยทีเดียว สำหรับคนที่เป็นหนี้บ้านจึงคิดเพียงแค่ว่าการปลดหนี้บ้านให้หมดไว จึงเป็นวิธีการที่ช่วยประหยัดเงินที่จะต้องเสียไปเป็นดอกเบี้ยได้ แต่การปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด ต้องคำนึงผลเสียอยู่บางประการที่คุณอาจพลาดได้

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

ปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด ต้องคำนึงถึงผลที่ได้ และผลเสียที่อาจจะไม่คุ้มสำหรับใครบางคน

surprise ข้อควรทำ

blush 1. สร้างประวัติทางการเงินให้สะอาด

การสร้างประวัติทางการเงินให้สะอาดเป็นการสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในขั้นแรกของการขอสินเชื่อค่ะ หากคุณมีหนี้สินติดค้างไม่ว่าจะเป็นยอดค้างบัตรเครดิตที่ผลัดมาหลายเดือน ค่าผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถยนต์ คุณต้องจัดการเคลียร์หนี้นั้นให้หมดก่อนทำการขอสินเชื่ออย่างน้อย 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าคุณไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ให้ต้องเป็นกังวล และมีเงินเหลือพอที่จะชำระหนี้ค่ะ

เช็กประวัติทางการเงินของตัวเองได้อย่างไร
ใครที่สงสัยว่าตัวเองมีประวัติทางการเงินเป็นอย่างไร หรือใครที่มีประวัติติด Blacklist แล้วไม่แน่ใจว่ะธนาคารลบชื่อออกแล้วหรือไม่ สามารถเช็กประวัติทางการเงินได้ด้วยตัวเองผ่านหลายช่องทางดังนี้

เอกสารที่ต้องใช้
1. บุคคลธรรมดา ให้เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง
2. นิติบุคคล ให้เตรียมสำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคลที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริง และตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามีค่ะ)

ค่าธรรมเนียม
100 บาท สามารถรอรับข้อมูลได้ภายใน 15 นาที หรือหากจะส่งไปรษณีย์ จ่ายเพิ่มฉบับละ 20 บาทค่ะ

ช่องทางการขอข้อมูล

1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 
อาคาร 2 ชั้น 2 เปิดให้บริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น.

2. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ด้านในสถานี) 
เปิดให้บริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น. (ที่นี่จะให้บริการเฉพาะบุคคลธรรม)

3. ห้างเจ-เวนิว ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (นวนคร) 
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 19.00 น.

4. ผ่านธนาคารพาณิชย์ต่างๆ 
เฉพาะบุคคลธรรมดาโดยอัตราค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 150 บาท และทางบริษัทจะจัดส่งข้อมูลทางไปรษณีย์ไปให้ภายใน 7 วัน

• เคาน์เตอร์ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ
• สำหรับผู้ที่มีบัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์สามารถทำรายการขอข้อมูลผ่านตู้ ATM ได้
• ตรวจสอบผ่านระบบธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพียงแค่มีบัตร ATM หรือบัตรเดบิตของ 2 ธนาคารนี้
• แบบออนไลน์ สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารของธนาคารกรุงศรีอยุธยา

 1. ช่วงวัยการเป็นหนี้

        ถ้าหากคุณอยู่ในช่วงวัยที่ยังทำงานได้อยู่ และมีโอกาสทำเงินได้มาก คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะปลดหนี้บ้าน เพราะคุณสามารถหาเงินมาใช้หนี้บ้านได้ตามกำหนดอยู่แล้ว แต่หากคุณอยู่ในวัยใกล้เกษียณ แล้วยังคงเป็นหนี้บ้านก่อนใหญ่อยู่ ก็สมควรที่คุณจะต้องรีบปลดนี้บ้านออกจากตัวได้แล้ว เพราะการเป็นหนี้ในช่วงวัยเกษียณที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จะทำให้ชีวิตในวัยเกษียณของคุณเหน็ดเหนื่อยในการหาเงิน

        ทั้ง ๆ ที่ควรจะได้พักผ่อนและละทิ้งความเครียดทั้งหมดจากการทำมาหาเลี้ยงชีพ การเป็นหนี้บ้านหลายสำนักธนาคารจะคำนวณเรื่องนี้พอควรเพราะว่าเมื่ออายุมากแล้ว ศักยภาพการทำงานหรือหาเงินเพิ่มนั้นเริ่มน้อยลง รวมถึงโรคมากมายที่เตรียมมารอรับคุณอยู่ ดังนั้นก่อนเป็นหนี้บ้านคุณต้องคิดให้ดีว่าตอนนี้ คุณอายุเท่าไหร่ ไหวไหมในช่วยเวลาหาเงินเพื่อใช้หนี้ มีเงิน 3- 5 เท่าของหนี้สินเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่

 2. ค่าเสียโอกาส

      หากคุณมีเงินก้อนอยู่ก้อนหนึ่ง คุณสามารถเลือกที่จะนำไปปลดหนี้บ้านได้หรือนำไปลงทุน หากคุณนำไปปลดหนี้บ้าน คุณก็เสียโอกาสในการนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนทันที ซึ่งการนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนอาจจะดีกว่า เพราะได้ผลประโยชน์สูงกว่าดอกเบี้ยที่จะเสียไป ดังนั้นก่อนนำเงินก้อนไปปลดหนี้บ้าน ควรคิดให้รอบคอบก่อนว่าเงินก้อนนั้นสามารถนำไปลงทุนอะไรได้บ้างที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยได้บ้าง เพราะนอกจากจะทำให้มีเงินมาจ่ายหนี้บ้านต่อไป ยังทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีกด้วย

      คิดง่ายๆว่า ถ้าคุณเอาเงินไปลงทุน คุณจะมีผลประกอบการหรือเงินที่เพิ่มขึ้น 10% แต่ดอกเบี้ยบ้านของคุณตอนนี้อยู่ที่ 7% ดังนั้นคุณควรที่จะเอาเงินในส่วนที่จะมาโปะบ้านนั้นมาลงทุนก่อนเพื่อเก็บส่วนต่างของดอกเบี้ยอีก 3% สะสมแล้วนำมาโปะหนี้ คุณก็จะได้โปะหนี้และหมุนเงิน มีเงินเก็บได้มากขึ้น

 3. ความจำที่ต้องใช้เงิน

      ในชีวิตคุณ คุณอาจจะต้องการเงินไปใช้ทำอย่างอื่นที่จำเป็นกว่าการปลดหนี้บ้านก็ได้ เช่น การรักษาอาการเจ็บป่วย หรือ การปลดหนี้ก้อนอื่นที่ดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยบ้านมาก ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต ก็ควรนำเงินก้อนนั้น ไปรักษาตัว หรือปลดหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงเสียก่อน เพราะหากเลือกปลดหนี้บ้านก่อน แต่หนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงยังคงอยู่คุณก็ยังคงเป็นหนี้ และต้องเสียดอกเบี้ยสูง ๆ ต่อไป หรือทำให้คุณไม่มีเงินไปรักษาตัว จนเจ็บป่วยมากขึ้น ทำให้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นไปอีก กลับกลายคุณต้องมีหนีที่มากขึ้น

 4. ภาษี

         ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยนั้นเป็นเงินที่นำมาคำนวณเพื่อลดหย่อนภาษีได้ด้วย กรณีที่คำนวณภาษีโดยรวมค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเข้าไปแล้ว ทำให้คุณมีเงินได้สุทธิไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเลย คุณก็ยังไม่ควรปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด เพราะคุณยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากดอกเบี้ยอยู่ แต่หากคำนวณภาษีโดยรวมค่าลดหย่อนดอกเบี้ยแล้ว คุณยังต้องเสียภาษาในจำนวนที่มากอยู่ การปลดหนี้บ้านถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ


          ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางอยากให้คำนึงคิดก่อนโปะหนี้ เมื่อหนี้บ้านหมด หลายๆคนก็เป็นหนี้ตัวนี้อยู่แทบจะยกภูเขาออกจากอกแต่คุณต้องคำนึงด้วยว่า เป็นการสร้างภาระอย่างอื่นเพิ่มหรือไม่หรืออาจจะไม่มีผลกระทบไรเลย ลองศึกษาข้อเสียหรือสิ่งที่คิดว่าอาจจะพลาดนี้ประกอบกันเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุด


ขอบคุณข้อมูลจาก MoneyHub
  • เทคนิคการรีไฟแนนซ์บ้าน เลือกไปธนาคารใหม่ หาที่ดอกเบี้ยถูกกว่าผ่อนน้อยกว่า
  • เปลี่ยนบ้านเป็นเงินกับ SCB ฟรีค่าจำนอง ค่าประเมิน บ้านอยู่ครบ ไม่ต้องขาย
  • ส่อง 10 อันดับสินเชื่อบ้านและเงิน ดอกเบี้ยต่ำที่ยังมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
  • รู้ไว้สะ!! ทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ช่วยคุณได้
  • สินเชื่อบ้านแลกเงิน มีข้อดี ข้อแตกต่างจากสินเชื่อบ้านอย่างไร ผลอนุมัติเร็วกว่า จริงไหม?
  • เช็คข้อมูลให้พร้อม ก่อนจะขอกู้ซื้อบ้าน ควรเช็คเรื่องใดบ้างที่อาจทำให้การกู้บ้านไม่ผ่าน
  • ธอส. ปล่อยสินเชื่อ "บ้านประชารัฐ" กู้เงิน 1.5 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,200 บาท
  • 10 เทคนิค ช่วยต่อเวลาให้บ้านไม่ถูกยึดจากธนาคาร
  • รู้ก่อนทำสัญญา "สัญญาเช่าบ้าน"
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด ต้องคำนึงถึงผลที่ได้ และผลเสียที่อาจจะไม่คุ้มสำหรับใครบางคน

    บ้านนั้นมีราคาแพง หนี้บ้านจึงเป็นภาระอันหนักหน่วงของการกู้เงินทั้งหมด คนส่วนใหญ่ต้องขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งต้องผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนที่ต้องเสียดอกเบี้ยไปจนกว่าจะครบระยะเวลาการผ่อน ถ้าปลดหนี้ตามระยะเวลาที่กู้แล้ว 20ปี 30ปี มาคิดย้อนดอกเบี้ย ได้บ้านเพิ่มอีกหลังเลยทีเดียว สำหรับคนที่เป็นหนี้บ้านจึงคิดเพียงแค่ว่าการปลดหนี้บ้านให้หมดไว จึงเป็นวิธีการที่ช่วยประหยัดเงินที่จะต้องเสียไปเป็นดอกเบี้ยได้ แต่การปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด ต้องคำนึงผลเสียอยู่บางประการที่คุณอาจพลาดได้

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll