สินเชื่อที่อยู่อาศัย

การที่จะเราขอสินเชื่อจากธนาคารในการซื้อบ้าน หรือคอนโด ผู้กู้นั้นจำเป็นที่จะต้องชำระค่าจอง ค่าทำสัญญา และค่าดาวน์กับโครงการนั้นๆ ก่อนที่เราจะนำเอกสารไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยทั้งค่าจอง ค่าทำสัญญา และเงินดาวน์เหล่านี้ เมื่อนำมารวมกันก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่พอสมควร ซึ่งหากเราขอกู้สินเชื่อจากธนาคารไม่ผ่านแล้วละกัน ก็มักจะสูญเงินในส่วนนี้ไป

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

สำรวจความพร้อมก่อนกู้สินเชื่อบ้าน-คอนโด ด้วยการทำ Pre-Approve

Pre-Approve ก่อนกู้สินเชื่อ เช็คความพร้อมในการซื้อบ้าน-คอนโด

          การที่จะเราขอสินเชื่อจากธนาคารในการซื้อบ้าน หรือคอนโด ผู้กู้นั้นจำเป็นที่จะต้องชำระค่าจอง ค่าทำสัญญา และค่าดาวน์กับโครงการนั้นๆ ก่อนที่เราจะนำเอกสารไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยทั้งค่าจอง ค่าทำสัญญา และเงินดาวน์เหล่านี้ เมื่อนำมารวมกันก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่พอสมควร ซึ่งหากเราขอกู้สินเชื่อจากธนาคารไม่ผ่านแล้วละกัน ก็มักจะสูญเงินในส่วนนี้ไป

          แต่ใช่ว่าปัญหานี้เราจะแก้ไขไม่ได้ เพราะก่อนที่เราจะทำการจอง และลงนามในสัญญา เราสามารถทำการ Pre-Appove ที่จะช่วยเราในการตรวจสอบเบื้องต้นได้ว่าจะกู้สินเชื่อได้ผ่านหรือไม่

   Pre-Approve คืออะไร?

          Pre-approve สินเชื่อบ้าน หรือ การยื่นประเมินสินเชื่อบ้านในเบื้องต้นนั้นเป็นการขอตรวจสอบสถานภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ โดยพิจารณาจากราคาซื้อขายบ้านหรือคอนโดที่ผู้ขอสินเชื่อแจ้ง รายได้ รายจ่าย และเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ เช่น ติดเครดิตบูโร (ประวัติเสียในการชำระหนี้กับบัตรเครดิตและ/หรือสินเชื่อ) หรือไม่ ชำระค่าบัตรเครดิตครบถ้วนตรงเวลาหรือไม่

          หาก Pre-approve ผ่าน หมายความว่า ผู้ขอมีโอกาสดีที่จะขอสินเชื่อผ่าน แต่หากผลเป็นตรงกันข้าม ก็ยังไม่ควรที่จะจองหรือตกลงซื้อบ้านหรือคอนโดกับผู้ขาย

  • การขอ Pre-approve นั้นเป็นการยื่นขอพิจารณาให้ธนาคารตรวจสอบว่า จะสามารถกู้สินเชื่อผ่านหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการจองบ้านหรือคอนโด การทำสัญญาจะซื้อจะขาย และการชำระค่าดาวน์ แต่การขอสินเชื่อนั้นเป็นขั้นตอนที่ต้องทำหลังจากดำเนินการสิ่งเหล่านี้แล้ว
  • ราคาที่นำมาใช้ในการพิจารณาคือ ราคาซื้อขายบ้านที่ผู้ขอ Pre-approve แจ้ง แต่การขอสินเชื่อจะใช้ราคาจะซื้อจะขาย (ราคาจริง) พร้อมข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับบ้านหรือคอนโด ซึ่งธนาคารจะนำไปใช้ประกอบการคำนวณหาราคาประเมินที่จะนำมาใช้พิจารณาการขอสินเชื่ออีกที
  • ธนาคารจะใช้เอกสารต่าง ๆ ในการขอสินเชื่อเหมือนกับเอกสารที่ใช้ในการขอ Pre-approve เพียงแต่ผู้ขอสินเชื่อต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ สัญญาจะซื้อจะขาย แผนที่บ้านหรือคอนโด และอาจขอเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกแล้วแต่กรณี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการขอ Pre-approve แต่มีค่าธรรมเนียมในการขอสินเชื่อ เว้นแต่ธนาคารจะมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมนั้น
  • ระยะเวลาผลของ Pre-approve การขอ Pre-approve ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในขณะที่การขอสินเชื่อใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
  • ผลที่ได้จากการขอ Pre-approve เช่น วงเงินสินเชื่อและค่าผ่อนต่อเดือน อาจแตกต่างจากผลการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ดี อาจมีกรณีที่ Pre-approve ผ่าน แต่ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อได้ ขื้นอยู่กับและการพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ความชัดเจนของที่มารายได้ ราคาประเมินที่อยู่อาศัยที่จะซื้อ

 

    Pre Approve แตกต่างจากการกู้จริงอย่างไร?

          การ Pre Approve แทบจะเหมือนกับการกู้จริงทุกประการ ซึ่งเราจะต้องคุยกับทางธนาคาร นำเอกสารต่างๆ ไปยื่นเพื่อให้ธนาคารพิจารณา โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ผลของการ Pre Approve อาจมากกว่าหรือน้อยกว่าผลการยื่นกู้จริงก็ได้ ธนาคารส่วนใหญ่จะคงสิทธิผลการ Pre Approve ไว้ประมาณ 3 เดือน หากต้องการยื่นกู้จริงก็สามารถยื่นหลักฐานประกอบต่างๆ หรือบางธนาคารสามารถใช้เอกสารเดิมได้เลยเพียงแค่ส่งใบสลิปการจ่ายค่าทำเนียมการประเมิน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ทำให้การกู้จริงสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

   ประโยชน์ในการขอ Pre-Approve

  • ทำให้ทราบว่ามีความสามารถขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในวงเงินประมาณนี้หรือไม่ จึงช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นทั้งในเรื่องการซื้อ การขอวงเงินสินเชื่อ และการเลือกธนาคารที่จะยื่นขอสินเชื่อ
  • แม้ Pre-approve ไม่ผ่าน ก็ช่วยให้ทราบว่า ต้องปรับปรุงอะไรเพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ เช่น หากพบว่าความสามารถในการผ่อนไม่เพียงพอ ก็สามารถแก้ไขได้โดยจ่ายเงินดาวน์มากขึ้นเพื่อลดวงเงินในการยื่นกู้สินเชื่อหรือหาผู้กู้ร่วม หากติดเครดิตบูโร ก็ไม่ควรยื่นขอสินเชื่ออย่างน้อย 2 ปี และในระหว่างนี้ ก็ควรชำระหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่ออื่นที่มีให้ครบและตรงเวลาเพื่อสร้างประวัติเครดิตที่ดี
  • ช่วยป้องกันไม่ให้สูญเสียเงินจากการผิดสัญญาจะซื้อจะขายในกรณีขอสินเชื่อไม่ผ่าน
  • ช่วยป้องกันไม่ให้เสียประวัติและโอกาสในขอสินเชื่อ เพราะหากขอสินเชื่อไม่ผ่าน ต้องรออีก 1-2 ปี จึงจะสามารถยื่นขอสินเชื่อใหม่ได้

 

   เอกสารที่ใช้ในการขอ Pre-Approve

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนารายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (Statement)
  • สำเนาสลิปเงินเดือน (Payslip) สำหรับพนักงานประจำ
  • สำเนาหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่ายย้อนหลัง 6 เดือนและหลักฐานการเสียภาษีของปีล่าสุดสำหรับฟรีแลนซ์
  • ใบสมัครขอสินเชื่อของธนาคาร
  • ใบยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโรของธนาคาร

         การ Pre-Approve ก็เป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมตัวเอง ได้พิจารณาถึงกำลังทรัพย์ และความสามารถในการผ่อนชำระคร่าวๆ ก่อนที่เราจะทำการกู้ซื้อบ้าน หรือคอนโดจริง ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่จะทำให้เราได้รับอนุมัติสินเชื่อ ก็คือ กำลังทรัพย์ และการบริหารจัดการทางการเงินอย่างเหมาะสม ที่ทำให้ธนาคารเชื่อว่าเรานั้นสามารถชำระหนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ

  • หลักเกณฑ์การขอสินเชื่อซื้อบ้าน
  • 10 เทคนิค ช่วยต่อเวลาให้บ้านไม่ถูกยึดจากธนาคาร
  • ผ่อนบ้านหนักมาก เริ่มผ่อนต่อไม่ไหว จะปล่อยให้ธนาคารยึดไปจะดีไหม?
  • เตรียมวางแผน รีไฟแนนซ์ พร้อมกับ ขอสินเชื่อบ้าน ควรทำไว้ก่อนดีไหม?
  • อยากซื้อบ้าน ไปยื่นขอสินเชื่อต้องมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ ควรเตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
  • ยื่นขอกู้ซื้อบ้าน แต่ธนาคารไม่อนุมัติให้ผ่าน มีสาเหตุมาจากอะไร
  • กู้สินเชื่อที่บ้าน เช็คสถานะทางการเงินของอีกฝ่าย คิดให้ดีก่อนจะกู้ร่วมกันใคร?
  • เงื่อนไขเงินดาวน์บ้าน เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ
  • ติดแบล็คลิสสินเชื่อ แต่อยากมีบ้านแล้วจะขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้ไหม ?
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • สำรวจความพร้อมก่อนกู้สินเชื่อบ้าน-คอนโด ด้วยการทำ Pre-Approve

    การที่จะเราขอสินเชื่อจากธนาคารในการซื้อบ้าน หรือคอนโด ผู้กู้นั้นจำเป็นที่จะต้องชำระค่าจอง ค่าทำสัญญา และค่าดาวน์กับโครงการนั้นๆ ก่อนที่เราจะนำเอกสารไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยทั้งค่าจอง ค่าทำสัญญา และเงินดาวน์เหล่านี้ เมื่อนำมารวมกันก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่พอสมควร ซึ่งหากเราขอกู้สินเชื่อจากธนาคารไม่ผ่านแล้วละกัน ก็มักจะสูญเงินในส่วนนี้ไป

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll