
ทำความรู้จักบ้านพัก Wakatake no Mori นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ
เหตุเพราะสังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมของผู้สูงอายุ คือมีประชากรสูงวัยเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรทั้งหมด สูงถึงประมาณ 23% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก (ผู้สูงอายุคือ 65 ปีขึ้นไป) ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดของญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงการที่ญี่ปุ่นมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด

บ้านพักคนชรา Wakatake no Mori ที่ได้รับรางวัล Good Design Award 2015 ของประเทศญี่ปุ่น ออกแบบด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
“ นอกจากนี้ สังคมญี่ปุ่นยังไม่นิยมการพึ่งพิงลูกหลานมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนหนุ่มสาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับหน้าที่การงาน ทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงมักทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายย่อมเริ่มถดถอย ขณะที่ลูกหลานก็อาจจะไม่มีเวลาดูแลได้อย่างเต็มที่ บ้านพักเพื่อผู้สูงอายุ หรือ บ้านพักคนชรา จึงกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวัยชราในสังคมญี่ปุ่น ”
หนึ่งในตัวอย่างบ้านพักคนชราที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีคือ Wakatake no Mori (วากาทาเกะ โนะ โมริ) ตั้งอยู่ในเขตอาโอบะ เมืองโยโกฮาม่า โดยบ้านพักแห่งนี้เปิดรับผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สามารถเข้ามาอยู่อาศัยหรือใช้บริการได้

สิ่งที่ทำให้ Wakatake no Mori เป็นบ้านพักคนชราที่มีความโดดเด่นคือการได้รับรางวัล Good Design Award 2015 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสิ่งปลูกสร้างที่มีการออกแบบดีเยี่ยม ซึ่งสะท้อนกว่า Wakatake no Mori ไม่ได้เป็นเพียงแค่บ้านพัก แต่ยังเป็นสถานที่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุด้วย
โดย Wakatake no Moriมีห้องพักทั้งหมด 3 ขนาด คือ 20 ตารางเมตร 40 ตารางเมตร และ 50 ตารางเมตร

ห้องขนาด 20 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน ห้องน้ำ และ ห้องครัว เหมาะสำหรับการพักอาศัยคนเดียว ราคาค่าเช่าจะอยู่ที่ 145,500 เยนต่อเดือน (เดือนละประมาณ 32,900 บาท คำนวนจากอัตรา 1 เยน เท่ากับ 0.22 บาท) ซึ่งในค่าเช่าจะประกอบด้วย ค่าเช่า ค่าส่วนกลาง และค่าบริการ เช่น ค่าบริการพยาบาล ค่าอาหาร และมีค่าแรกเข้าที่ 240,000 เยน (ประมาณ 54,200 บาท)

ห้องขนาด 40 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และ ห้องครัว เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2 คน หรือเป็นสามีภรรยา ราคาเช่าจะอยู่ที่ 205,500 เยนต่อเดือน(เดือนละประมาณ 46,400 บาท คำนวนจากอัตรา 1 เยน เท่ากับ 0.22 บาท) ซึ่งในค่าเช่าจะประกอบด้วย ค่าเช่า ค่าส่วนกลาง และค่าบริการ เช่น ค่าบริการพยาบาล ค่าอาหาร และมีค่าแรกเข้าที่ 420,000 เยน (ประมาณ 94,800 บาท)

ซึ่งห้องพักขนาด 20 และ 40 ตารางเมตรจะอยู่ในอาคารเดียวกัน โดยมี อาคารส่วนกลาง (Center House) ที่เป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น คลินิกรักษาโรค บริการทำความสะอาด และบริการอาหาร

สำหรับขนาดสุดท้ายคือห้องขนาด 50 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และ ห้องครัว เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2 คนแต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ราคาเช่าจะอยู่ที่ 223,500 เยนต่อเดือน(เดือนละประมาณ 50,500 บาท คำนวนจากอัตรา 1 เยน เท่ากับ 0.22 บาท) ซึ่งในค่าเช่าจะประกอบด้วย ค่าเช่า ค่าส่วนกลาง และค่าบริการ เช่น ค่าบริการพยาบาล และ ค่าอาหาร และมีค่าแรกเข้าที่ 480,000 เยน (ประมาณ 108,300 บาท)
อาคารสำหรับห้องขนาด 50 ตารางเมตรมีจุดเด่นที่โครงสร้างของแต่ละห้องจะเชื่อมต่อกันด้วยสะพานทางเดินไม้กันลื่นเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุได้ในทุกสภาพอากาศ

กลุ่มอาคารทรง Cube ใช้ชื่อว่ากลุ่มอาคารเหนือ-ใต้ ห้องพักขนาด 50 ตรม.
แปลนเก๋มากกกก สมกับที่ได้รางวัล Good design award ห้องพักเชื่อมกันด้วย bridge และมี อาคารส่วนกลาง center house อยู่ใจกลาง

ห้องพัก 50 ตรม. ที่ปรับเปลี่ยนกั้น patition เปลี่ยน function การใช้สอยได้ถึง 7 รูปแบบ

มี grill บังสายตาให้ตาม style ญี่ปุ่น

ห้องน้ำมีที่ช่วยพยุงตัวสำหรับคนสูงอายุ

ภาพพื้นที่ส่วนกลาง

flow chart แสดงรูปแบบการบริการของที่นี่ เน้นไปที่การดูแลสุขภาพ มีการตรวจสอบติดตามอย่างใส่ใจ

อีกหนึ่งการออกแบบที่ทำให้ Wakatake no Mori เป็นบ้านพักคนชราที่โดดเด่นคือ การใส่ใจเรื่องสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุที่เข้าพักที่ Wakatake-no-Mori เป็นกลุ่มที่มีครอบครัวหรือมีลูกหลานแต่ส่วนใหญ่จะเข้ามาอยู่อาศัยเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นห้องพักของ Wakatake no Mori ทุกห้อง จึงออกแบบมาเพื่อให้รับแสงสว่างได้มากที่สุดเนื่องจากเชื่อว่าหากสามารถทำให้แสงแดดจากภายนอกเข้าในห้องได้มากจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคซึมเศร้าได

นอกจากนี้ห้องพักทุกห้อง ทุกขนาด ของ Wakatake no Mori ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง เช่น ห้องนอนสามารถเลื่อนฉากกั้นมาแบ่งสัดส่วนสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้ ในส่วนของห้องน้ำมีแผ่นปูกันลื่น ฝักบัวที่อยู่ในระดับไม่สูงมากเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก รวมถึงเก้าอี้พยุงตัวสำหรับผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย Wakatake no Mori ก็มีคลินิกที่สามารถให้การรักษาพยาบาลได้ นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ยังทำสัญญาในการจ้างผู้ดูแล (Helper) มาดูแลได้เป็นการส่วนตัว ทั้งการทำความสะอาด หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ผู้สูงอายุไม่สามารถทำด้วยตนเองได้ ขณะที่ Wakatake no Moriยังมีกิจกรรม เช่น โยคะ ไพ่นกกระจอก จัดดอกไม้ ซึ่งจัดขึ้นประมานสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า Wakatake no Mori ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักพิงยามชราแต่ยังเป็นบ้านพักที่ได้รับการออกแบบที่ดี และมีบริการที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งประเทศไทยสามารถใช้เป็นตัวอย่างในการพัฒนาบ้านพักเพื่อผู้สูงอายุได้เนื่องจากไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัวเช่นกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง
WakatakenoMoriบ้านพักคนชรา