
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เก็บเงินไม่อยู่ การสำรองเงินใช้ในยามวิกฤติ
ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนแบบนี้ ใคร ๆ ก็อยากมีเงินสำรองไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถประคองเงินออมของตัวเองให้ไปถึงฝั่งได้ แล้วเราควรจะปรับเปลี่ยนตัวเองยังไงให้เงินยังคงอยู่กับตัวเองไปจนสุดท้ายล่ะ? นี่คือ 8 พฤติกรรมการเงินที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนที่เงินจะบินหายไปจากเรา
มีใครเคยประสบปัญหาอยากเก็บออมแต่เก็บเงินไม่อยู่บ้างไหม? การออมเงินในยุคนี้ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพราะความผันผวนของเศรษฐกิจทำให้เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าโลกจะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่สิ่งที่เราทำได้คือการเตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อมสำหรับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
สมาคมนักวางแผนการเงินของประเทศไทย กล่าวว่า เงินสำรอง คือเกราะป้องกันชั้นแรกในยามวิกฤติ แม้ธุรกิจจะมั่นคงแค่ไหนก็ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6-12 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพื่อรองรับความไม่แน่นอน
แม้ว่าการมีเงินสำรองเป็นสิ่งจำเป็น แต่น้อยคนที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการเงินที่วางไว้ เพราะหลายคนประสบปัญหาเรื่องเก็บเงินออมเท่าไหร่ก็ไม่เคยอยู่กับตัวได้นาน

เปิด 8 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนที่จะเก็บเงินไม่อยู่
นิสัย "เก็บเงินไม่อยู่" ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่เพราะเราชอบใช้จ่ายเกินตัว หรือไม่มีวินัยในการออมเงินเท่านั้น แต่สาเหตุที่ทำให้การออมเงินนั้นไม่ได้ดั่งใจก็มีปัจจัยอย่างอื่นที่ส่งผลกระทบต่อการออมเงินเช่นกัน นี่คือ 8 พฤติกรรมด้านการเงินที่ไม่ควรทำ
1. ใช้จ่ายก่อนออม
หลายคนถือคติ "ใช้ก่อน เหลือค่อยเก็บ" แต่การออมที่ดีควรแบ่งเงินเป็นสัดส่วนและแบ่งออมก่อนใช้

2. ช็อปปิ้งตามอารมณ์
หยุดแก้ความเครียดด้วยการช้อป ใช้แค่จำเป็นเท่านั้น
3. ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
การออมที่ดีต้องตั้งเป้าหมายตั้งแต่แรกว่าเราเก็บเงินไปเพื่ออะไร เช่น ท่องเที่ยว, ซื้อบ้าน หรือซื้อรถ
4. ใช้จ่ายจุกจิก
ควรลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งดซื้อกาแฟแก้วละ 100 บาท แค่ 1 เดือนเราก็จะมีเงินเก็บราว 3,000 บาทแล้ว

5. พึ่งพาบัตรเครดิตมากเกินไป
รูดก่อน จ่ายทีหลัง อาจสะดวกต่อผู้ใช้ แต่ก็อาจสร้างหนี้ติดตัวเช่นกัน

6. ไม่แยกบัญชีเงินออมกับบัญชีใช้จ่าย
ควรแบ่งบัญชีออกเป็นสัดส่วน เพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ปนกัน เพื่อป้องกันการเงินในกระเป๋าของตัวเราเอง
7. ขาดวินัยในการออม
หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการออมคือการที่ไม่เก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเราจึงควรฝึกออมให้เป็นนิสัย อาจจะเริ่มจากออมจำนวนน้อย ๆ ก่อน ค่อยเพิ่มจำนวนเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ
8. ขาดความรู้เรื่องการเงิน
หากไม่มีพื้นฐานการเงินที่ดี ก็จะส่งผลต่อการวางแผนเก็บเงินเช่นกัน การออมเงินที่ดีจึงควรศึกษาหาความรู้เรื่องการเงินก่อน เพื่อให้เงินอยู่กับเราไปอีกนาน ๆ

ทั้งนี้ อย่ามองข้ามการออมเงินฉุกเฉิน โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน วันนี้เราอาจมั่งคั่ง แต่ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้เราอาจหมดตัว ดังนั้นการเอาชนะสถานการณ์โลกที่ผันผวนตลอดเวลาแบบนี้ คือเราต้องมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 6-12 เดือน จึงจะสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงได้แม้เศรษฐกิจโลกกำลังสั่นคลอน
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารกรุงศรีกรุงศรีควรหลีกเลี่ยงเก็บเงินไม่อยู่ออมเงินออมเงินไว้ใช้ออมเงินในยุคนี้สำรองไว้ใช้เศรษฐกิจผันผวนออมเงินฉุกเฉินไม่แยกบัญชีเงินออมบัญชีใช้จ่ายใช้จ่ายจุกจิกขาดความรู้เรื่องการเงินขาดวินัยในการออมพึ่งพาบัตรเครดิตเงินสำรองสำรองเงินเศรษฐกิจโลกวางแผนการเงินเงินสำรองฉุกเฉิน