สาระควรรู้ทั่วไป

ผักถือว่าเป็นเมนูที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานในทุกๆเมนูในอาหารไทยจะมีผักต่างๆเป็นส่วนประกอบเพราะ ผักมีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ขึ้นชื่อว่าเป็น "ผัก" แล้ว หลายคนอาจคิดว่า กินผักเยอะๆ ยิ่งดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย การกินผักเยอะๆ ไม่น่าเป็นอันตรายอะไร แต่อันที่จริง ยังมีผักบางกลุ่มที่เป็นที่นิยมในไทย พบได้ในอาหารไทยบ่อยๆ ที่เราอาจจะกินบ่อยๆ ไม่ดี หรือไม่เหมาะกับสุขภาพของทุกคนอย่างที่เราคิดกัน ลองมาทำความรู้จัก 8 อันดับผักที่คนนิยมทานมากที่สุด มีอะไรกันบ้างไปดูกัน

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

ผักยอดฮิต 8 ชนิดของคนไทย ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีข้อควรระวังในการรับประทานด้วย

ผักยอดฮิต 8 ชนิดของคนไทย ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย

       ผักถือว่าเป็นเมนูที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานในทุกๆเมนูในอาหารไทยจะมีผักต่างๆเป็นส่วนประกอบเพราะ ผักมีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ขึ้นชื่อว่าเป็น “ผัก” แล้ว หลายคนอาจคิดว่า กินผักเยอะๆ ยิ่งดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย การกินผักเยอะๆ ไม่น่าเป็นอันตรายอะไร แต่อันที่จริง ยังมีผักบางกลุ่มที่เป็นที่นิยมในไทย พบได้ในอาหารไทยบ่อยๆ ที่เราอาจจะกินบ่อยๆ ไม่ดี หรือไม่เหมาะกับสุขภาพของทุกคนอย่างที่เราคิดกัน ลองมาทำความรู้จัก 8 อันดับผักที่คนนิยมทานมากที่สุด มีอะไรกันบ้างไปดูกัน

 

  ผักยอดนิยมของคนไทย 8 ชนิด กับข้อควรระวังในการกิน     

 

 1  ผักคะะน้า

ผักคะะน้า

     คะน้ามีโพแทสเซียมที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ มีวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง และส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร สุขภาพตา กระดูก ผม และผิว

     แต่หากรับประทานผักคะน้ามากเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย และผู้ที่เป็นโรคไต อาจต้องจำกัดการรับประทานคะน้า เนื่องจากคะน้ามีโพแทสเซียมสูง และหากรับประทานโพแทสเซียมมากเกินไปอาจส่งผลให้ไตทำงานหนัก และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ รวมถึงผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น คูมาดิน (Coumadin) วาร์ฟาริน (Warfarin) อาจต้องจำกัดการรับประทานผักคะน้า เนื่องจากคะน้ามีวิตามินเคที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของยาได้

 2  กะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี

     กะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูง ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ต่อผักในวงศ์ผักกาดและกะหล่ำ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกะหล่ำปลีเนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ อาเจียน ผื่นขึ้น ใบหน้าและลิ้นบวมได้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่มีการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกะหล่ำปลีด้วยเช่นกัน เพราะกะหล่ำปลีอาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยลง เนื่องจากกะหล่ำปลี โดยเฉพาะกะหล่ำปลีดิบ อาจมีสารยับยั้งที่ไปขัดขวางการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์

     นอกจากนี้ เนื่องจากกะหล่ำปลีมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หากรับประทานในปริมาณมาก โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไประหว่างผ่าตัด ที่อาจนำไปสู่อาการชักหมดสติ ดังนั้นจึงควรหยุดรับประทานกะหล่ำปลีอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด

 

 3  แตงกวา

แตงกวา

     แตงกวาช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด บำรุงผิว และยังเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพของคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่แตงกวาอาจเป็นผักที่พบสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลง การรับประทานแตงกวาทั้งเปลือกโดยไม่ล้างให้สะอาด จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลง และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ 

     ดังนั้นก่อนรับประทานแตงกวาจึงควรปอกเปลือก และล้างให้สะอาด โดยการแช่ในน้ำผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยการเปิดน้ำไหลผ่าน เพื่อช่วยลดสารเคมีที่อาจตกค้างอยู่ให้ออกไป

 4  ผักกาด

ผักกาด

      ผักกาด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการอักเสบ และอาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังดีต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เพราะอุดมไปด้วยโฟเลต ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและพัฒนาการของทารกในครรภ์ และอาจช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทในทารกแรกเกิดได้

      แต่เวลารับประทานผักกาดก็ต้องระวังสารปนเปื้อนหรือสารพิษที่อาจตกค้างอยู่ในผักกาด เช่น ยาฆ่าแมลง ด้วย เพราะหากรับประทานผักที่มีสารปนเปื้อนเป็นเวลานาน อาจทำให้สารปนเปื้อนหรือสารพิษเหล่านั้นสะสมในร่างกายจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ทำให้มีอาการมึนงง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวก ชัก หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นก่อนรับประทานผักกาดจึงควรล้างผักกาดให้สะอาด โดยการแยกใบผักกาดออกเป็นใบๆ แล้วล้างให้สะอาดด้วยการให้น้ำไหลผ่าน เพื่อชำระคราบดิน สิ่งสกปรก แบคทีเรีย เชื้อก่อโรค เป็นต้น

 

 5  ผักบุ้ง

ผักบุ้ง

      ผักบุ้งที่นิยมนำมาใช้รับประทานนั้นมีสายพันธุ์อะไรบ้าง ซึ่งในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก ๆ คือ ผักบุ้งไทยและผักบุ้งจีน สำหรับผักบุ้งไทยเป็นผักบุ้งสายพันธุ์ธรรมชาติที่ขึ้นเองตามแม่น้ำลำคลอง โดยส่วนมากที่นิยมปลูกขายก็คือผักบุ้งจีน เพราะลำต้นค่อนข้างขาว ใบเขียวอ่อน ดอกขาว มียางน้อยกว่าผักบุ้งไทย จึงได้รับความนิยมในการรับประทานมากกว่าผักบุ้งไทยนั่นเอง ผักบุ้งไทยนั้นจะมีวิตามินซีสูงและสรรพคุณทางยามากกว่าผักบุ้งจีน แต่จะมีแคลเซียมและเบตาแคโรทีน (วิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา) น้อยกว่าผักบุ้งจีน หากรับประทานสด ๆ ได้ จะทำให้คุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ไม่เสียไปกับความร้อนอีกด้วย

      ​แต่ทั้งนี้ก็ควรระมัดระวังในเรื่องการรับประทานหน่อยนะคะ เพราะเจ้าผักบุ้งนี้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ กินเยอะเกินไปอาจจะทำให้ถ่ายท้องได้ นอกจากนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักบุ้งด้วยเช่นกัน เนื่องจากผักบุ้งจะมีคุณสมบัติลดความดันโลหิต จนทำให้ความดันยิ่งต่ำลงไปอีก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการเป็นตะคริวได้ง่ายขึ้น บ่อยขึ้น และทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอีกด้วย

 

 6  ผักขึ้นฉ่าย

ผักขึ้นฉ่าย

      ขึ้นฉ่าย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ที่อาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง มีสารอะพิจีนีน (Apigenin) ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ อาจช่วยลดไขมันในเลือด และยังอาจช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์ประสาทจากสารประกอบน้ำมันอย่าง 3 เอ็น-บิวทิลฟทาไลด์

      ​แต่ในบางคน การรับประทานขึ้นฉ่ายมากเกินไปอาจทำให้มีอาการท้องอืดหรือแก๊สในกระเพาะอาหารได้ เนื่องจากในขึ้นฉ่ายมีสารแมนนิทอล (Mannitol) ในปริมาณมาก ซึ่งอาจขัดขวางการดูดซึมสารอาหารของลำไส้และทำให้เกิดความผิดปกติในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน ซึ่งทำให้เกิดอาการลมพิษ บวม หายใจลำบาก เนื่องจากขึ้นฉ่ายมีสารก่อภูมิแพ้ เช่น โพรฟิลิน (Profilin) ฟลาโปรตีน (Flavoprotein) รวมถึงขึ้นฉ่ายยังอาจมีเชื้อราสเคอโรติเนีย สเคอทิออรัม (Sclerotinia Sclerotiorum) ที่อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังในผู้ที่มีผิวบอบบางได้อีกด้วย

 

 7  ใบกระเพรา

ใบกระเพรา

      กะเพราเป็นไม้ล้มลุกที่มีความสูงของต้นประมาณ 30-60 เซนติเมตร โคนต้นออกแข็ง กะเพราแดงจะมีลำต้นสีแดงอมเขียว กะเพราขาวมีลำต้นสีเขียวอมขาว และยอดอ่อนมีขนสีขาว มีใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวรูปรีออกตรงข้ามกัน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเป็นจักฟันเลื่อยและเป็นคลื่น แผ่นใบมีขนสีขาว ส่วนดอกกะเพราจะออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกสีขาวแกมม่วงแดงมีจำนวนมาก กลีบเลี้ยงโคนจะเชื่อมติดกัน ปลายเรียวแหลม ด้านนอกมีขน

      ​น้ำยางกะเพราที่ใช้สำหรับกัดหูดนี้เป็นพิษมาก ดังนั้นควรใช้ด้วยความระวัง อย่าให้เข้าตารวมถึงให้กัดเฉพาะตรงที่เป็นหูด อย่าให้ยางถูกเนื้อดี ถ้าถูกเนื้อดี เนื้อดีจะเน่าเปื่อย ซึ่งรักษาให้หายได้ยาก กะเพรามีอยู่ 2 ชนิด หากนำไปประกอบอาหาร ควรใช้กะเพราะขาว แต่หากต้องการนำไปใช้เป็นสมุนไพรการเลือกกะเพราแดง เพราะมีฤทธิ์ทางยาแรงกว่ากะเพราขาว ในการเลือกใช้กะเพรามาใช้ประโยชน์ควรเลือกกะเพราที่ปลอดสารพิษ หากเป็นไปได้ควรปลูกเพื่อนำไปใช้เองจะดีที่สุด การใช้กะเพราเป็นยาสมุนไพรควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายได้

 

 8  ใบโหระพา

ใบโหระพา

     สรรพคุณนั้นมีมากมายแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร โดยโหระพา 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 452.16 ไมโครกรัม ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นต้น โดยสรรพคุณของโหระพาที่เรานำมาใช้ในการรักษาโรคหลัก ๆ แล้วจะใช้แค่ใบและน้ำมันสกัดจากใบโหระพาเป็นหลัก แต่ส่วนอื่น ๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น ก็ถือว่ามีประโยชน์แทบทั้งสิ้น

      ​การนำโหระพามาปรุงอาหารหรือรับประทานสดนั้นค่อนข้างปลอดภัย ส่วนการรับประทานเพื่อสรรพคุณทางยาหรือในรูปแบบอาหารเสริมเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ปลอดภัยเช่นกัน แต่ควรระมัดระวังในด้านขนาดการใช้ เพราะบางรายอาจมีระดับน้ำตาลลดต่ำลงหลังจากการรับประทานโหระพามากเกินไป อีกทั้งไม่ควรรับประทานน้ำมันสกัดจากโหระพาหรือส่วนลำต้นของโหระพาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากประกอบด้วยสารเอสตราโกล (Estragole) ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งตับได้

 

      “ นอกจากนี้ ยังมีพืชผักที่น่าสนใจที่เหมาะจะปลูกไว้เพื่อเป็นพืชผักสวนครัว ประจำบ้านของคนไทยแล้ว ยังมีไว้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พริก โหระพา ตะไคร้ มะนาว เป็นต้น แม้พืชผักบางชนิดจะใช้เวลาในการเพาะปลูกนาน แต่เมื่อผลผลิตออกมาแล้วนับว่าคุ้มค่ากับการรอคอย อย่างเช่น มะนาว กับ พริก นั้น ใน 1 ต้นสามารถให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก หากเหลือกินเหลือเก็บก็สามารถนำมาวางขายตามตลาดนัด หรือวางขายในที่ชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน สร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างต่อเนื่องด้วย เพียงแค่ดูแลให้ดี ยิ่งถ้าเป็นผลผลิตที่ปลอดสารพิษด้วยแล้ว มูลค่าราคาขายเรายังสามารถตั้งราคาได้เองอีกด้วย    

 

  • 5 เคล็ดไม่ลับ…ช่วยจัดการเรื่องภาษีให้เป็นเรื่อง ‘ง่าย’
  • ทำความเข้าใจ เครดิตบูโร-แบล็กลิสต์ หลายคนเข้าใจผิด ต่างกันอย่างไร
  • อัพเดท สูตรคำนวณค่าโอนที่ดิน 2568 ค่าธรรมเนียม ค่าภาษีต้องจ่าย รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมสิ้นสุด
  • โอนกรรมสิทธิ์ร่วม บ้าน-ที่ดิน สินสมรส กรณีหย่าร้างมีขั้นตอนอย่างไร วิธีจดทะเบียนฝ่ายเดียวทำได้ไหม
  • วิธีทำบ้านปลอดฝุ่นแรงดันบวก กำจัดฝุ่น PM2.5 ไอเดีย DIY แบบง่ายๆ เตรียมงบไม่เกิน 2,000 บาท
  • รวมคอนโดใกล้รถไฟฟ้า สายสีชมพู ราคาไม่เกิน 3 ล้าน เดินทางสะดวก ใกล้ที่สุดไม่เกิน 500 เมตร
  • ไขข้อสงสัย ที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้า - ออก ติดต่อเจ้าของที่ดินโดยรอบ เพื่อขอทางแล้วไม่เปิดทาง ไม่ขายให้ จะต้องดำเนินการอย...
  • เลือกเครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 แบบไหน วางไว้จุดไหนของบ้าน ได้ประสิทธิภาพกรองฝุ่นดีที่สุด
  • เปิดค่าธรรมเนียม การโอนที่ดิน 2568 ซื้อ-ขาย มอบที่ดินมรดกญาติ เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
  • ไขข้อสงสัย ที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้า - ออก ติดต่อเจ้าของที่ดินโดยรอบ เพื่อขอทางแล้วไม่เปิดทาง ไม่ขายให้ จะต้องดำเนินการอย...
  • 5 เคล็ดไม่ลับ…ช่วยจัดการเรื่องภาษีให้เป็นเรื่อง ‘ง่าย’
  • ทาสแมวรู้ไว้ "สีขนแมว" บอกนิสัยได้ มีการเล่นที่แตกต่างกันอย่างไร
  • รวมบริษัทรับสร้างบ้าน 2567 มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลายสไตล์ ประหยัดงบ ตามเทรนด์คนรุ่นใหม่
  • 10 เครื่องซักผ้าฝาหน้า เทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำงานเงียบช่วยประหยัดน้ำ ยอดนิยมของปี 2024 ยี่ห้อไหนบ้าง
  • วิธีทำบ้านปลอดฝุ่นแรงดันบวก กำจัดฝุ่น PM2.5 ไอเดีย DIY แบบง่ายๆ เตรียมงบไม่เกิน 2,000 บาท
  • เลือกเครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 แบบไหน วางไว้จุดไหนของบ้าน ได้ประสิทธิภาพกรองฝุ่นดีที่สุด
  • เปิดค่าธรรมเนียม การโอนที่ดิน 2568 ซื้อ-ขาย มอบที่ดินมรดกญาติ เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
  • อัพเดท สูตรคำนวณค่าโอนที่ดิน 2568 ค่าธรรมเนียม ค่าภาษีต้องจ่าย รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมสิ้นสุด
  • รวมคอนโดใกล้รถไฟฟ้า สายสีชมพู ราคาไม่เกิน 3 ล้าน เดินทางสะดวก ใกล้ที่สุดไม่เกิน 500 เมตร
  • ผักยอดฮิต 8 ชนิดของคนไทย ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีข้อควรระวังในการรับประทานด้วย

    ผักถือว่าเป็นเมนูที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานในทุกๆเมนูในอาหารไทยจะมีผักต่างๆเป็นส่วนประกอบเพราะ ผักมีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ขึ้นชื่อว่าเป็น "ผัก" แล้ว หลายคนอาจคิดว่า กินผักเยอะๆ ยิ่งดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย การกินผักเยอะๆ ไม่น่าเป็นอันตรายอะไร แต่อันที่จริง ยังมีผักบางกลุ่มที่เป็นที่นิยมในไทย พบได้ในอาหารไทยบ่อยๆ ที่เราอาจจะกินบ่อยๆ ไม่ดี หรือไม่เหมาะกับสุขภาพของทุกคนอย่างที่เราคิดกัน ลองมาทำความรู้จัก 8 อันดับผักที่คนนิยมทานมากที่สุด มีอะไรกันบ้างไปดูกัน

    @thaihometown Scroll