คุณภาพของอากาศในบ้านเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้คุณภาพอากาศนอกบ้านเลย เพราะหากบ้านของเรามีคุณภาพอากาศที่ดี สุขภาพก็จะดีตามไปด้วย ในแต่ละวันที่เราออกไปใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านเราต้องเจอกับมลภาวะมากมาย ทั้งควันจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม คนสูบบุหรี่ พอเรากลับเข้าบ้าน
เราก็ต้องเจอกับคุณภาพอากาศในบ้าน ที่อาจจะไม่ดีทั้งจากการทำอาหาร การใช้เครื่องไม้เครื่องมือ และสารเคมีในบ้านอีกและนั่น ก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ในระยะเริ่มต้น และหากปล่อยไว้ ก็อาจจะส่งผลต่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ดังนั้นเราควรล้างพิษให้อากาศในบ้านของเรา ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. ควบคุมแหล่งกำเนิด
วิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาคุณภาพของอากาศภายในบ้านก็คือ การควบคุมที่แหล่งกำเนิดที่ทำให้อากาศเป็นพิษ เช่น สารพิษ สารเคมีต่าง ๆ ที่เรานำมาใช้ในบ้าน ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตราย ตั้งแต่ยาทาเล็บ ไปจนถึงน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ และเวลาที่จะใช้สารเคมี ให้ใช้ในปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ การควบคุมปริมาณการใช้ ก็เป็นการควบคุมปริมาณที่สารเหล่านั้นจะฟุ้งไปในอากาศ และและที่สำคัญในเวลาที่ใช้สารเคมีเหล่านั้น ให้คุณระบายอากาศ ด้วยการเปิดประตู หน้าต่างเสมอ
2. เปิดพัดลมระบายอากาศ
การทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน แน่นอนว่า เป็นการดีต่อสุขภาพแน่นอน เพราะคุณสามารถเลือกทำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่ทั้งนี้ การทำอาหารในบ้าน ก็เป็นต้นตอหลัก ๆ ที่ทำให้อากาศในบ้านเสียเช่นกัน แม้แต่การต้มพาสต้า ความชื้นของน้ำและไอน้ำ ก็ทำให้เกิดเชื้อราได้แล้ว หากเรามีการใช้แก๊สหุงต้ม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ให้ความร้อน ผัด ทอด จนเกิดควัน สิ่งเหล่านั้น ก็มีผลต่อคุณภาพอากาศเช่นกัน ดังนั้น ทุกครั้งที่ประกอบอาหาร ควรเปิดพัดลมดูดอากาศ หรือหากไม่มี ก็ควรเปิดหน้าต่าง และใช้พัดลมธรรมดา เป่าระบายอากาศก็ได้
3. น้ำหอมดับกลิ่นก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ใคร ๆ ก็ต้องการให้บ้านมีกลิ่นหอมด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งเวลาที่เราทำอาหาร กลิ่นอาหารจะติดอยู่ในบ้าน ดังนั้นหลาย ๆ คน จึงนำสเปรย์ดับกลิ่นมาใช้ แต่สเปรย์เหล่านี้ มักจะมีส่วนผสมของสารเคมี แม้จะถูกระบุว่า ปลอดภัย แต่หากเรามีทางเลือกอื่น ก็น่าจะดีกว่า เช่น พวกน้ำมันหอมระเหย หรือพวกกลิ่นบำบัด อโรม่าต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถทำใช้เองได้ด้วย
4. ใช้เครื่องกรองอากาศ
ปัจจุบันนี้ มีเครื่องกรอกอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศ ออกมาขายกันหลายรุ่น หลายยี่ห้อ เครื่องฟอกอากาศเหล่านี้ มีฟิลเตอร์ ที่สามารถกรองฝุ่น เชื้อรา และทำให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้นได้มาก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า คนส่วนใหญ่ ที่มีสุขภาพดี ไม่ต้องใช้เครื่องฟอกอากาศก็ได้ แต่หากใครที่มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ อุปกรณ์ดังกล่าวนี้ จะช่วยได้มาก
5. ทำความสะอาดฝุ่นในบ้าน
แน่นอนว่าฝุ่นทำให้คุณภาพของอากาศในบ้านต่ำ หากบ้านเต็มไปด้วยฝุ่น เราก็จะหายใจเอาฝุ่นเหล่านั้นเข้าไปในปอดของเรา ดังนั้นเราจึงต้องทำความสะอาดพื้น พรม เฟอร์นิเจอร์ ด้วยการดูดฝุ่นสม่ำเสมอ ส่วนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ก็ต้องซักเป็นประจำ ทางหนึ่งที่จะลดปริมาณฝุ่นในบ้านของเราได้ก็คือเปลี่ยนพื้นพรมให้เป็นพื้นไม้
6. ต้องหมั่นดูแลและตรวจตราสิ่งต่าง ๆ ในบ้าน
การตรวจตราสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้ ต้องตรวจทุกสิ่งในบ้านว่ามีอะไรชำรุดเสียหายต้องซ่อมแซมหรือไม่ มีสารเคมีจุดไหนรั่วซึมหรือไม่ หากพบจุดบกพร่องก็ต้องรีบแก้ไข ไม่เช่นนั้น อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้
7. เลือกต้นไม้ตกแต่งบ้านต้องเลือกให้เหมาะ
ต้นไม้ช่วยกรองอากาศเสียให้กับเราได้ แต่ทั้งนี้ การนำต้นไม้เข้ามาตกแต่ง หรือเลี้ยงไว้ในบ้านต้องเลือกให้เหมาะ เพราะต้นไม้ส่วนใหญ่ จะเหมาะสำหรับอยู่นอกบ้านมากกว่า มีต้นไม้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่เหมาะสำหรับนำมาไว้ในบ้าน ซึ่งเราควรจะหาข้อมูลละเอียดเสียก่อน