ไม่ว่าใครก็อยากมีบ้านในสไตล์ที่ตัวเองต้องการด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งถ้าได้มีโอกาสออกแบบบ้านด้วยตัวเองแล้ว แน่นอนว่าคงไม่ปล่อยให้หลุดจากไลฟ์สไตล์ตัวเองหรือคนในครอบครัวไปแน่ ๆ สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าควรออกแบบบ้านยังไง ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง รวมไปถึงสไตล์ไหนที่เหมาะกับคุณและคนในบ้านมากที่สุด วันนี้เรามีวิธีออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ตรงใจ แถมยังใช้ประโยชน์ได้อย่างลงตัวสุด ๆ จะมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน แล้วนำไปปรับใช้ง่ายหรือไม่ ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!
เลือกตัวอย่างการออกแบบบ้านที่คุณชื่นชอบ
การออกแบบบ้านในฝันไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณไม่มีความรู้ด้านการออกแบบ เราแนะนำให้เริ่มต้นจากการมองหาตัวอย่างบ้านในสไตล์ที่คุณชื่นชอบ อย่างน้อย 1-3 แบบ เพื่อใช้อ้างอิงและประกอบการพิจารณา ให้ได้บ้านที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันมีตัวอย่างการออกแบบบ้านให้ดูมากมายไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต หนังสือ ตัวอย่างบ้านที่คุณพบเห็น ตลอดจนบ้านในฝันที่คุณวาดภาพไว้ในจินตนาการก็ได้เช่นกัน แต่ทางที่ดีควรมองหาตัวอย่างบ้านที่มีองค์ประกอบครบกับทุกคนในครอบครัว ให้มีพื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุดจะดีมาก ๆ จากนั้นค่อยเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้เลย
สำรวจความต้องการของสมาชิกในครอบครัว
การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการของคนในครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะบ้านคือสถานที่ที่คนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตร่วมกัน หากบ้านของคุณมีพื้นที่ หรือ ฟังก์ชันการใช้งาน ที่ตรงความต้องการไม่ว่าจะเป็นสไตล์การใช้ชีวิต ความชอบ ช่วงวัย ไปจนถึงพื้นที่รวมตัวที่รองรับได้สมบูรณ์แบบ รับรองว่าชีวิตครอบครัวย่อมมีความสุขเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแน่ ๆ โดยหลังจากที่ทำการสำรวจแล้วคุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่า ภาพรวมของการออกแบบบ้านควรเป็นไปในทิศทางไหน พร้อมกับตัดสินใจได้ว่าควรเลือกบ้านประเภทไหนจึงจะเหมาะสม เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโด หลังจากนั้นจึงคำนวณพื้นที่ในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการภายในบ้านต่อไป
เลือกสไตล์การออกแบบบ้านทั้งภายนอกและภายใน
ความสอดคล้องของการออกแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้านมากที่สุด เพื่อเป็นการเสริมการออกแบบให้สวยงามพร้อมกับความลงตัวไม่ขัดตา ตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัด เช่น การออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นการใช้วัสดุสมัยใหม่โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่เป็นหลัก ด้วยการใช้รูปทรงเรขาคณิตในการออกแบบบ้าน มีจุดเด่นเรื่องความเรียบง่าย สบายตา เหมาะกับชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน แต่ถ้าหากว่าคนในครอบครัวของคุณมีผู้สูงอายุหรือเด็กอาศัยด้วย การตกแต่งภายในแบบอื่น ๆ อาจเหมาะสมกว่า เพราะตรงต่อความต่อความต้องการเฉพาะบุคคลได้มากกว่า ทั้งนี้หากต้องการออกแบบบ้านให้มีการผสมผสานแต่ละสไตล์ให้ลงตัวก็ได้เช่นกัน เพียงแค่คุณควรปรึกษานักออกแบบที่มีประสบการณ์ ก็ช่วยให้คุณได้บ้านในฝันที่ตอบโจยท์ชีวิตได้แล้ว
ออกแบบบ้านโดยการคำนึงถึงจุดเด่น - จุดด้อยของพื้นที่
หากคุณได้สร้างบ้านของตัวเอง ย่อมต้องการพื้นที่ที่เสริมศักยภาพจุดเด่นให้ชัดขึ้น และต้องการแก้ไขปัญหาบางจุดของพื้นที่ด้วยการออกแบบบ้านใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งตามหลักการออกแบบบ้านของสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ แน่นอนว่าจะต้องคำนึงถึงจุดเด่น-จุดด้อยของสถานที่ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่พื้นที่มีจุดเด่นน่าสนใจ เช่น มีมุมวิวทิวทัศน์สวยงาม มีต้นไม้เดิมที่สวยและสร้างร่มเงา การออกแบบบ้านที่เสริมจุดเด่นนี้จะยิ่งช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว หรือในกรณีที่บางจุดต้องการแก้ปัญหา เช่น แสงเข้าไม่ถึง รู้สึกอึดอัด การออกแบบบ้านด้วยการคำนึงถึงทิศทางแสงธรรมชาติจะช่วยขจัดปัญหานี้ในระยะยาวได้นั่นเอง
ตั้งงบประมาณให้ชัดเจน
หลายคนเจอปัญหาการออกแบบบ้านที่งบบานปลายไปจากเดิม สาเหตุเพราะไม่ได้ตั้งงบประมาณที่ชัดเจนไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะสร้างบ้านในฝันของคุณให้เป็นจริงได้ ดังนั้นปัจจัยนี้ไม่ควรละเลยเด็ดขาด ทางที่ดีควรปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญช่วยประมาณราคาการออกแบบบ้าน หรือ ประมาณราคาค่าก่อสร้างตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบงาน ให้คุณมองเห็นภาพว่าควรเตรียมงบประมาณอย่างไรและประหยัดส่วนไหนได้บ้าง
การออกแบบบ้านด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้อย่างจริงจัง ย้ำว่าทุกวิธีมีความสำคัญต่อการออกแบบบ้านมาก ๆ เพื่อให้ได้บ้านที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์และตรงใจคนในครอบครัว หากใครที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาเนรมิตฝันของคุณเป็นจริงได้เร็วมากขึ้น เราแนะนำมืออาชีพจาก Fastwork แหล่งรวมฟรีแลนซ์ด้านการออกแบบบ้านที่ทำให้คุณได้เห็นภาพบ้านในฝันได้ชัดขึ้น จากการเขียนภาพ Perspective 3D การออกแบบตาม Concept รวมถึงการตกแต่งภายในด้วยโปรแกรมมืออาชีพ รับรองเลยว่าการออกแบบบ้านจะไม่ใช่เรื่องยาก แถมทำให้คุณได้บ้านในฝันรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย