
ถ้าจะพูดถึงการตกแต่งบ้าน หลายๆ คน มักจะนึกถึงการตกแต่งแบบโมเดิร์น ที่ดูเรียบง่าย หรือแบบคลาสสิค ที่ดูหรูหรา หรือแนวมินิมอลน่ารักๆ แบบญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าคนเราจะตกแต่งบ้านยังไง คนเราก็ยังอยากจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติให้ได้ครับ ซึ่งแนวการตกแต่งบ้านแบบอยู่ร่วมกับธรรมชาตินั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้สีเขียว ทั้งจากการตกแต่ง หรือจากการประดับต้นไม้ แต่เรายังมีแนวการตกแต่งบ้านอีกแบบหนึ่ง ที่สะท้อนให้ทุกคนเห็นถึงความงามที่แท้จริงของธรรมชาติอยู่นั่นเองครับ นั่นก็คือ การตกแต่งบ้านสไตล์รัสติคนั่นเองครับ
สไตล์รัสติค (Rustic Style) คืออะไร !!?

การตกแต่งในสไตล์รัสติค (Rustic Style) หรือหลายคนรู้จักกันในชื่อ Country Style เกิดจากแนวความคิดของการเผยให้เห็นพื้นผิวที่เป็นเนื้อแท้ หรือธรรมชาติของวัสดุนั้น และปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา รวมถึงเป็นการตกแต่งแบบมิกซ์แอนด์แมทช์ระหว่างของเก่าและของใหม่ให้เกิดความลงตัวมากที่สุด โดย Rustic style เริ่มต้นมาจากบ้านแบบ American traditional log home หรือบ้านของชาวอเมริกันที่มีการใช้ไม้ซุงท่อนใหญ่มาสร้างบ้าน และพัฒนาผสมกับรูปแบบของ Farm house หรือ โรงนา จนกลายเป็น Rustic style ที่เรารู้จักทุกวันนี้
4 เทคนิคสำคัญสู่การสัมผัสความงามสไตล์รัสติค

1. ปล่อยไปให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ
Rustic Style เป็นรูปแบบการตกแต่งที่ยอมให้ทุกวัสดุในบ้าน มีการเปลี่ยนแปลงสภาพไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นไม้พื้น ผนัง หรือฝ้า ผนังอิฐก่อโชว์แนว ผนังคอนกรีตขัดมัน หรือแม้แต่งานเหล็กที่ตกแต่งในบ้าน หากเกิดสนิมหรือร่องรอยความเก่า สิ่งเหล่านี้ล่ะคือเสน่ห์ของสไตล์นี้

2. DIY หรือ Reuse คือแนวทางของสไตล์นี้
ไม่ใช่เพียงการนำสิ่งของใหม่เข้ามาตกแต่ง การ DIY หรือ Reuse สิ่งของต่างๆที่เห็นว่าไม่สามารถใช้งานได้แล้ว นำมาเปลี่ยนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ก่อเกิดคุณค่าขึ้นได้ ก็ถือว่าเป็นแนวทางของการตกแต่สไตล์นี้ เช่น บานหน้าต่างไม้เก่าที่อาจไม่สามารถทำหน้าที่เป็นหน้าต่างได้แล้ว เราอาจนำมาทำเป็นส่วนตกแต่งผนังแทน เพิ่มลูกเล่นให้ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ให้เกิดเรื่องราว โดยที่ไม่ต้องทำสีใหม่ คงไว้ซึ่งความเก่า แต่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องนั้นได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

3. รูปทรงและสีจากธรรมชาติ
รูปทรงและสี มีผลต่อสไตล์นี้มาก กล่าวคือ ต้องยึดรูปทรง และสีธรรมชาติเดิมของวัสดุนั้นๆไว้ให้มากที่สุด เช่น โต๊ะที่มีขาทำจากท่อนไม้ อาจคงความขรุขระ คงตาไม้ไว้ ให้มีรูปทรงและผิวแบบเดิมมากที่สุด หรือจะเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนที่มีร่อยงรอยความเก่า มีการกะเทาะของปูน เราอาจคงไว้ให้เห็นบางส่วน เพื่อเพิ่มความเป็น Rustic Style ให้บ้าน ส่วนผนังบางส่วนที่ชำรุดมาก อาจต้องซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ส่วนของตกแต่งสมัยใหม่ อาจเลือกสินค้าที่มีความเรียบง่าย สีพื้นๆอย่างดำ ขาว เงิน เพื่อให้เมื่อนำไปวางในห้อง Rustic Style ก็ไม่ทำให้ภาพรวมนั้นเสียไป แถมยังช่วยเสริมให้ห้องดูลงตัวมากยิ่งขึ้น

4. จับคู่ความเก่าและใหม่ให้ลงตัว
เพียงใช้ความน้อยและง่ายของ Modern Style เป็นพื้นหลังที่ช่วยให้องค์ประกอบ Rustic Style โดดเด่นชัดขึ้นมา เช่น บนผนังเรียบๆ สีขาว เราอาจเลือกของตกแต่งแบบ Rustic Style เช่นกรอบรูปไม้จริง หรือชุดโต๊ะขอนไม้ ให้พื้นที่สีขาวซึ่งแทนความโมเดิร์นตัดกับของตกแต่งจากธรรมชาติที่มีรูปและผิวธรรมชาติ สร้างความแตกต่างและขัดแย้งกันแบบลงตัว

แม้การตกแต่งสไตล์นี้ อาจไม่เป็นที่นิยมมากนักในประเทศไทย แต่ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง กับบ้านพักอาศัยและโรงแรมที่ชื่นชอบความเก๋าและเท่จากเนื้อแท้วัสดุ จนสุดท้ายถูกประยุกต์ให้กลายเป็น Modern Rustic ซึ่งมีความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้ถึงความร่วมสมัย และใช้งานได้นาน ไม่น่าเบื่อ