ช่วงหน้าฝนยังงี้ หลายๆ คนคงไม่ออกต่างจังหวัดไกลๆ ด้วยสภาพอากาศที่ไม่น่าเป็นใจต่อการเดินทางไกลซักเท่าไร จึงทำให้การเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ อาจเป็นเรื่องที่ใครหลายคนตัดเรื่องนี้ทิ้งไปในช่วงหน้าฝนนี้ แต่ก็ใช่ว่าหน้าฝนเที่ยวไม่ได้เลย
วันนี้เรามี 12 ที่เที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพ เหมาะกับการเที่ยวช่วงหน้าฝนยังงี้ ว่าแต่จะมีที่ไหนกันบ้างไปตามชมกันเลย
1.คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก
คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดอันซีนที่ซ่อนตัวอยู่หลังป่าเขาใหญ่ และค้นพบได้เพียงไม่นาน ธรรมชาติของคลองมะเดื่อจึงยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ยังคงไม่เข้ามารบกวนคลองมะเดื่อมากนัก ที่นี่ไม่มีทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และสัญญาณโทรศัพท์ที่มีเพียงน้อยนิด โดยคลองมะเดื่อประกอบด้วยทั้งหมด 5 คลอง แต่สถานที่ให้นักท่องเที่ยวพักและกางเต็นท์ มีด้วยกันทั้งหมด 3 คลอง (ในส่วนของคลองที่ 4 และ 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)
การมาเที่ยวคลองมะเดื่อ นอกจากจะได้เล่นน้ำชิล ๆ จากสายธารน้ำตกคลองมะเดื่อแล้ว เมื่อออกมานอกตัวคลองมะเดื่อยังมีที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เช่น น้ำตกวังตะไคร้, น้ำตกนางรอง หรือเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นต้น
2.น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญที่เมื่อใครมาเที่ยวกาญจนบุรีต้องแวะมา ตัวน้ำตกมีขนาดใหญ่และสวยงาม ความสนุกของการมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณอยู่ที่การเดินทางพิชิตชั้นน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ถึงแม้ว่าระยะทางอาจไม่ไกลมาก แต่ความชันของเส้นทางก็อาจทำให้ใครหลายคนหอบแฮกอยู่เหมือนกัน
เราสามารถเช่าเต็นท์เพื่อนอนพักแรมในอุทยาน ด้วยเพราะระยะทางไปยังน้ำตกเอราวัณกับลานกางเต็นท์อยู่ห่างกันไม่เยอะ จึงมีเวลาสำรวจความสวยงามของน้ำตกแต่ละชั้นได้เต็มที่ ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น น้ำตกห้วยขมิ้น, เขื่อนศรีนครินทร์, ถ้ำพระธาตุ, สวนเวลารำลึก, อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์, อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุ เป็นต้น
3.เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ชื่นชมธรรมชาติดินแดนแห่งผืนป่าดงพญาเย็นที่อุดมสมบูรณ์ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา และอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งรวบรวมสถานที่กิน เที่ยว และช้อปไว้อย่างสมบูรณ์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน
เราอาจวางแผนการเที่ยวเขาใหญ่ด้วยโปรแกรมชิล ๆ อย่าง Sheep Land, ปาลิโอ และฟาร์มโชคชัย เป็นต้น หรือเปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติใน "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" แวะชมทิวเขาสวย ๆ ที่ "จุดชมทิวทัศน์ กม.30" หรือจะชื่นชม "น้ำตกเหวสุวัต" น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยาน
4.หาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี
ตั้งอยู่ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (น.ย.) ใกล้ ๆ กับตลาดของเมืองสัตหีบ ที่นี่คุณจะเห็นหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวสุดสายตา และยังคงความงดงามสะอาดตา แลดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะการดูแลรักษาอย่างดีของกองบัญชาการนาวิกโยธิน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อนักท่องเที่ยว ได้แก่ ร้านอาหาร หรือห้องน้ำไว้คอยบริการอีกด้วย
มาเที่ยวที่หาดเตยงามส่วนใหญ่ มักต้องการบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบชิล ๆ และสงบ นอกจากเล่นน้ำทะเลแล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน, อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน หรือศาลกรมหลวงชุมพรฯ เป็นต้น
5.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยงเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี
แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เงียบสงบ และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด ด้วยเพราะระยะเวลาการเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต สำหรับใครก็ตามที่อยากนอนเต็นท์ ปิกนิกชิล ๆ เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
พลาดไม่ได้กับการนอนกางเต็นท์ตรงบริเวณอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน เพื่อเดินทางสำรวจธรรมชาติอันสมบูรณ์ภายในศูนย์ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกเจ็ดคต, เส้นทางศึกษาธรรมชาติ, เส้นทางปั่นจักรยาน หรือน้ำตกโกรกอีดก เป็นต้น
6.บ้านทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี
หมู่บ้านหนึ่งในตำบลฉมัน ของอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจ ใครคนไหนที่ลองได้มาเที่ยวที่นี่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าธรรมชาติยังคงสวยงาม ด้วยเพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเนินเขา มีลำธารไหลผ่าน อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังคงทำสวนผลไม้ มีทั้งทุเรียน ลองกอง และมะไฟ รวมถึงเก็บของป่ามาขาย โดยรวมแล้วธรรมชาติของทุ่งเพลยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว
เราอาจเลือกที่จะซึมซัมบรรยากาศการพักผ่อนชิล ๆ ที่โฮมสเตย์ริมน้ำ เรียนรู้วิถีเกษตรพื้นบ้าน ชิมผลไม้อร่อย ๆ หรือจะเดินขึ้นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ทุ่งเพล เช่น น้ำตกอ่างเบง, ทำบุญไหว้พระ ชมความงามของวัดเขาบรรจบ
7.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
วังน้ำเขียวในช่วงหน้าฝน ถือเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลงรัก จนได้ถูกตั้งสมญานามให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ว่ากันว่าหมอกหน้าฝนของที่นี่สวยงามไม่แพ้หมอกช่วงหน้าหนาว เพราะหน้าฝนธรรมชาติของที่นี่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภูเขาเริ่มกลับมามีสีเขียว แถมยังมีที่พักให้เลือกหลายที่ หลากหลายวิว มีทั้งวิวขุนเขา วิวอ่างเก็บน้ำ หรือจะเป็นจุดชมวิวสวย ๆ ตรงบริเวณขุนเขาแห่งทับลาน ที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็นวิวสวย ๆ ได้จากที่พักบริเวณดังกล่าว รวมทั้งอ่างเก็บน้ำทับลาน ที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจ
มาเที่ยววังน้ำเขียวช่วงหน้าฝนทั้งที ขอเน้นบรรยากาศการเที่ยวแบบชิล ๆ ที่ดีไม่น้อย เป็นต้นว่าช่วงเช้าแวะรับลมเย็นที่ "อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง" แวะจิบกาแฟชิล ๆ ที่ "A cup of love" หรือจะแวะชมธรรมชาติที่ "เขาแผงม้า" ก่อนเข้าที่พัก ตื่นขึ้นมาเช้าอีกวัน เที่ยวบรรยากาศแบบโรงนาที่ "วิลเลจฟาร์ม"
8.อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดุพรรณบุรี
ดินแดนแห่งขุนเขาของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป บรรยากาศที่นี่จะเย็นสบาย เพราะอิทธิพลจากไอฝนท่ามกลางป่าไม้ แถมยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับใครที่หลงใหลในธรรมชาติ ความสงบเงียบ ป่าเขา น้ำตก ความงดงามของดวงอาทิตย์ยามเช้า ไอหมอก ความหนาวเย็น และวิถีชีวิตของชนชาวกะเหรี่ยง
ส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวแบบนอนเต็นท์เพื่อซึมซับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ซึ่งนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับวิวทะเลหมอกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่ไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์ อย่าง "น้ำตกตะเพินคี่น้อย" "น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่" และ "วนอุทยานถ้ำเขาวง" ให้ได้ชื่นชม
9.ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี มีลักษณะเป็นแก่งหิน ตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ เกิดเกาะแก่งต่าง ๆ มากมาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งหินต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า
ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาทำกิจกรรมที่ล่องแก่งหินเพิง ซึ่งแต่ละที่จะมีการวางแผนการเดินทางและการท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เอาไว้เรียบร้อย
10.เขากระโจม จังหวัดราชบุรี
เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมที่สุดที่หนึ่ง ด้วยเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่นอกเหนือจากนั้น เห็นจะเป็นหนทางการเดินทางที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน และเป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวไม่มีวันลืม บนจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ทั้งของไทยและพม่า ที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้นานาชนิด ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
การเดินทางก่อนไปยังเขากระโจม เราสามารถแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอำเภอสวนผึ้ง เช่น ชมเขาโป่งยุบ, เพลิดเพลินกับการเลี้ยงแกะ ถ่ายรูปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ The Scenery vintage Farm หลังจากชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขากระโจมแล้ว ระหว่างทางยังแวะชม "น้ำตกผาแดง" สายน้ำตกขนาดกลางที่ไหลผ่านหน้าผาหินสีแดง ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น
11.ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก
ทุ่งแสลงหลวง หรือทุ่งสะวันนาแห่งผืนป่าไทย เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่งหญ้าและพรรณไม้ที่หาชมได้ยากอยู่หลายชนิด แล้วแวะชมความสวยงามของทุ่งหญ้าสะวันนากันต่อที่ "ทุ่งนางพญา" มีลักษณะเป็นป่าสนที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อถึงฤดูหนาว ภาพความสวยงามของแสงแดดที่พาดผ่านบริเวณต้นสน
พลาดไม่ได้กับการนอนกางเต็นท์ค้างคืนตรงบริเวณจุดกางเต็นท์ด้านหน้าทุ่งหญ้าสะวันนาริมป่าสน เดินถ่ายรูปเล่นชิลๆ เราสามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น "ทุ่งนางพญา" "สะพานแขวน" หรือ "แก่งวังน้ำเย็น" เป็นต้น
12.พะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี
ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบเขา ทิวทัศน์สวยงาม ถ้ามองลงมาจากยอดเขา จะสามารถเห็นทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาว โดยการเดินทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เราจำเป็นที่จะต้องเดินทางด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และลัดเลาะไปตามเส้นทางที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติตลอดสองข้างทาง และถ้าโชคดีเราอาจได้ยลโฉมสัตว์ป่าหลากหลายชนิดอีกด้วย
เราสามารถเดินทางเพื่อพักค้างแรมที่เขาพะเนินทุ่ง โดยต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อขอใบอนุญาตผ่านทาง นอนค้างที่พะเนินทุ่งสักคืน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปเที่ยวชม "น้ำตกทอทิพย์" และ "น้ำตกธารทิพย์" ที่สวยงามอยู่บนยอดเขา หรือจะทำกิจกรรมการชมนกและชมผีเสื้อนานาชนิด (อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอาจมีการปิดปรับปรุงเส้นทางขึ้นแหล่งท่องเที่ยว "เขาพะเนินทุ่ง" สามารถโทรสอบถามข้อมูล ที่เบอร์ 032-772-311)
ถึงแม้หน้าฝนจะเป็นฤดูที่ทำให้เรายุ่งยากในการเดินทาง แต่ยังยังมีสถานที่อีกมาก ที่เหมาะกับการทเียวในช่วงหน้าฝนนี้ ลองออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับการท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนดู เพราะยังน้อยคุณก็จะไม่ต้องนอนเบื่ออยู่บ้านในฤดูฝนแน่นอน