ที่พักท่องเที่ยว

ยุคนี้จะทำให้อะไรให้ชัด ให้ชัวร์ ต้องใช้บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ แล้วในสมัยนี้ Booking.com บริการจองห้องพักออนไลน์ เลยใช้ฐานข้อมูลจากผู้เดินทางกว่า 19,000 คนจาก 26 ประเทศทั่วโลก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เข้าพักจริงกว่า 128 ล้านรายการ สรุปเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2561 (2018) ได้ 8 เทรนด์ ดังนี้

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

เช็ดด่วน !! เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2561

 ยุคนี้จะทำให้อะไรให้ชัด ให้ชัวร์ ต้องใช้บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ แล้วในสมัยนี้ Booking.com บริการจองห้องพักออนไลน์ เลยใช้ฐานข้อมูลจากผู้เดินทางกว่า 19,000 คนจาก 26 ประเทศทั่วโลก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เข้าพักจริงกว่า 128 ล้านรายการ สรุปเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2561 (2018) ได้ 8 เทรนด์ ดังนี้

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

1. นิยามใหม่ของเทคโนโลยี

ประสบการณ์เสมือนจริง (Immersive experiences) จะพัฒนาไปอีกระดับในปี 2561เนื่องจากผู้เดินทางต่างใช้เทคโนโลยีเพื่อหาข้อมูลที่ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางหรือที่พักก่อนตัดสินใจจอง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดิจิทัลเทคโนโลยีจะมีส่วนช่วยลดความยุ่งยากให้กับผู้บริโภค เพราะสามารถคาดการณ์และตัดสินใจเลือกจุดหมายที่เหมาะสมให้ได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงเปลี่ยนวิธีที่เราค้นหา จอง และสัมผัสการเดินทางแบบเดิมๆ ผู้เดินทางทั่วโลกเกือบ 1 ใน 3 (ร้อยละ29) กล่าวว่ารู้สึกสะดวกสบายเมื่อให้คอมพิวเตอร์ช่วยวางแผนทริปครั้งถัดไปโดยอ้างอิงจากประวัติการเดินทางครั้งก่อนๆ นอกจากนี้ผู้เดินทางจำนวนกว่า 6 ใน 10 (ร้อยละ64) เผยว่าต้องการ “ลองก่อนซื้อ” ผ่านการใช้เวอร์ชวลเรียลลิตี (Virtual Reality) เรียกได้ว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยขจัดความเครียดและความยุ่งยากต่างๆเกี่ยวกับการตัดสินใจในการท่องเที่ยว และในปี 2561เทคโนโลยีก็จะยังคงช่วยแนะนำผู้เดินทางให้ค้นหาที่พักอย่างราบรื่นและมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดได้

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

2. ฝันที่กลายเป็นจริง

ในปี 2561เรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการฝันให้ไกล เพราะผู้เดินทางกว่าร้อยละ45 ต่างมีรายการของทริปที่อยากไปอยู่ในใจ และส่วนใหญ่ (ร้อยละ82) ตั้งเป้าว่าปีหน้าจะออกเดินทางไปให้ได้อย่างน้อย 1 จุดหมายที่ตั้งใจไว้ ความต้องการที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ นั้นยังคงมีความสำคัญกว่าการได้ครอบครองวัตถุสิ่งของ อีกทั้งยังเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้คนอยากออกเดินทางและผจญภัยไปในทริปที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำอีกเรื่อยๆ

ทริปที่ติดอันดับต้นๆ ที่หลายคนตั้งใจจะทำคือการเยือนหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยผู้เดินทางเกือบครึ่ง (ร้อยละ47) ตั้งเป้าว่าจะทำให้สำเร็จในปี 2561และกว่า 1 ใน 3 (ร้อยละ35) กระตือรือร้นที่จะได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นให้ถึงรสชาติ ส่วนอีกร้อยละ34 อยากไปเกาะที่มีบรรยากาศดั่งสรวงสวรรค์ และอีกร้อยละ34 อยากกระตุ้นอะดรีนาลีนที่สวนสนุกชื่อดังระดับโลก

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

3. เยือนสถานที่ในความทรงจำ

แม้เทรนด์การออกสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ จะกำลังมาแรง แต่ในปี2561นี้ผู้เดินทางต่างก็วางแผนที่จะไปเยือนสถานที่โปรดปรานในวัยเด็กด้วยเช่นกันโดยผู้เดินทาง 1 ใน 3 (ร้อยละ34) กล่าวว่าจะพิจารณาวางแผนกลับไปเยือนสถานที่ในความทรงจำเหมือนที่เคยสัมผัสสมัยเด็กๆในปีหน้าแต่จะเลือกออกสำรวจจุดหมายดังกล่าวในแบบที่ต่างจากเดิม

เทรนด์การเดินทางย้อนความทรงจำนั้นกำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากผู้เดินทางจะได้หวนคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุขในอดีตเมื่อเดินทางไปถึงยังจุดหมายแห่งความทรงจำดังกล่าวแล้วนอกจากนี้ผู้เดินทางต่างเห็นตรงกันว่าการพักร้อนพร้อมครอบครัวเมื่อตอนเด็กๆ เป็นความทรงจำอันแสนล้ำค่ามากที่สุด ซึ่งทำให้พวกเขามีความสุขยิ่งกว่าการมีความรักสมัยเด็กหรือเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของครอบครัวเสียอีก

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

4. เลือกเดินทางตามกระแสป๊อปคัลเจอร์–(Pop culture)

ในปี 2561รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ กีฬา และโซเชียลมีเดีย มีอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างมากต่อการตัดสินใจจองทริปท่องเที่ยวต่างๆ เพราะผู้เดินทางต่างใช้ป๊อปคัลเจอร์เป็นแรงบันดาลใจในการออกเดินทาง กล่าวคือ 4ใน10 ของ
ผู้เดินทาง (ร้อยละ39) ได้ไอเดียการท่องเที่ยวจากการอ่านบล็อกหรือดูคลิปแนะนำของเหล่ายูทูปเบอร์ ส่วนอีกกว่า ร้อยละ36 กล่าวว่าสถานที่ซึ่งเคยปรากฏในทีวี ภาพยนตร์ หรือเอ็มวีเพลง นั้นถือเป็นแรงจูงใจให้ลองไปเยือนสักครั้งในปีที่จะมาถึง
สถานที่ยอดนิยมจากรายการโทรทัศน์ซึ่งผู้เดินทางต้องการไปเยือนมากที่สุดในปี 2561ได้แก่ โครเอเชีย สเปน และไอซ์แลนด์ โดยมีแรงบันดาลใจจากซีรี่ย์เรื่องGame of Thrones (ร้อยละ29) ตามมาด้วยลอนดอนซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำเรื่อง Sherlock และ The Crown (ร้อยละ21 และร้อยละ13 ตามลำดับ) นิวยอร์กและแมนฮัตตันซึ่งเป็นฉากของเรื่อง Billions (ร้อยละ13) และลอสแอนเจลิสตามที่เห็นในเรื่อง Entourage (ร้อยละ10)

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

5. การเดินทางคือการดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน

เทรนด์การท่องเที่ยวที่ได้ดูแลสุขภาพไปด้วยนั้นไม่ได้ฮอตน้อยลงแต่อย่างใดในปี 2561ที่กำลังจะมาถึงนี้เนื่องจากมีคนจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัววางแผนทริปสายสุขภาพในปี 2561 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา(จากเดิมที่มีจำนวน 1 ใน 10 ในปี 2560 เพิ่มเป็นเกือบ 1 ใน 5 ในปี 2561)

กิจกรรมที่ได้ออกกำลังกายและดูแลสุขภาพไปพร้อมๆกันที่ติดอันดับต้นๆ ในแผนเดินทางปี 2561ได้แก่ สปาหรือทรีทเมนต์ความงาม (ร้อยละ33) ปั่นจักรยานเที่ยว (ร้อยละ24) กีฬาทางน้ำ (ร้อยละ22) พักผ่อนทำดีท็อกซ์ร่างกาย (ร้อยละ17) เล่นโยคะ (ร้อยละ16) วิ่ง (ร้อยละ16) และทำสมาธิ/สงบจิตใจ (ร้อยละ15) โดยผู้เดินทางกว่าร้อยละ59กล่าวว่าการได้สัมผัสประสบการณ์ตามที่กล่าวมานั้นสำคัญ มากกว่าการครอบครองวัตถุจากการพักผ่อนเสียอีก

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

6. ตระหนักเรื่องการเงิน

ทุกๆ ปีผู้เดินทางต่างมีทักษะในการจัดการด้านการเดินทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดสรรค่าใช้จ่ายให้คุ้มค่าที่สุด เรียกได้ว่ามีผู้เดินทางจำนวนมากที่ตัดสินใจเรื่องทริปโดยอิงจากงบประมาณเป็นหลัก ดังนั้นจึง ไม่น่าแปลกใจที่ในปี 2561 ผู้เดินทางจะยิ่งให้ความสำคัญต่อการจัดสรรเรื่องเงินมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยผู้เดินทางเกือบครึ่ง (ร้อยละ47) จะคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยเมื่อวางแผนการเดินทางในแต่ละปี และอีกเกือบครึ่ง (ร้อยละ48) จะดูข่าวสารสภาพเศรษฐกิจของจุดหมายปลายทางก่อนตัดสินใจเดินทาง

เมื่อผู้เดินทางรู้สึกมั่นใจกว่าที่จะทำอะไรตามสัญชาตญาณของตนเอง เทรนด์การเดินทางตามกระแสคนหมู่มากเลยไม่เป็นที่นิยมมากนัก โดยผู้เดินทางมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ57) นั้นต้องการท่องเที่ยวแบบอิสระตามใจตัวเองมากขึ้นใน
ปี 2561แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะท่องเที่ยวในแบบของตนเองที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อเสนอดีที่สุดแล้วนำมาจัดรวมเป็นแพ็กเกจเดินทางในแบบฉบับของตนเองโดยอาศัยการใช้แอปพลิเคชั่นและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

7. ออกเดินทางสุดเหวี่ยงกับผองเพื่อน

ปี 2561เป็นปีสำหรับการเตรียมพร้อมวางแผนเรื่องทั้งหลายเพื่อออกเดินทางเป็นกลุ่ม เมื่อสอบถามผู้เดินทางว่าจะออกเดินทางพร้อมใครบ้างในปีหน้า คำตอบที่มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นมากที่สุด เมื่อเทียบกับปี2560คือการออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกลุ่มเพื่อน โดยเพิ่มจากเดิมที่ร้อยละ21เป็นร้อยละ25

การท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนถือได้ว่าเป็นการเข้าสังคมอย่างเต็มที่ที่สุดที่จะช่วยให้ได้หลบหนีจากความกดดันที่พบในชีวิตประจำวัน คลายความเครียด และสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่ทำให้โลกอยู่เพียงแค่ปลายนิ้วเรา จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่เหล่าผู้เดินทางแบบกลุ่มจะค้นหาที่พักสุดเพอร์เฟคท์ สำหรับออกไปสำรวจและผจญภัยในทั่วทุกมุมโลกกับกลุ่มเพื่อนอีกทั้งทริปเดินทางพร้อมกลุ่มเพื่อนนั้นมีข้อดีในเรื่องของเงินงบประมาณ
โดยผู้เดินทาง 4 ใน 10 (ร้อยละ42) กล่าวว่า การพักผ่อนร่วมกับเพื่อนๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ได้เลือกที่พักที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งปกติหากมาคนเดียวอาจมีงบไม่พอ

 

เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่

8. อยู่อย่างคนท้องถิ่น (แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน)

ในปี 2561บ้านพักให้เช่าระยะสั้นจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะในฝั่งของผู้เดินทางที่มองหาที่พักสำหรับทริปเท่านั้น แต่ในฝั่งของเจ้าของบ้านพักที่อยากเปิดโอกาสให้ผู้อื่นมาพักด้วยเช่นกัน โดยผู้เดินทาง 1 ใน 3 (ร้อยละ33) กล่าวว่าอยากพักที่สถานตากอากาศ (บ้านพักตากอากาศหรืออพาร์ตเมนต์) มากกว่าพักที่โรงแรมแบบทั่วไป และ 1 ใน 5 (ร้อยละ21) ก็มีแผนจะเปิดบ้านพักของตนเองให้จองออนไลน์บนเว็บไซต์ด้านที่พักและการเดินทางในปีหน้า

เมื่อเอ่ยถึงบทบาทของโฮสดูแลที่พัก ผู้เดินทางต่างเผยว่าโฮสไม่จำเป็นต้องอยู่กับพวกเขาตลอดเวลา แต่หากอยากสัมผัสประสบการณ์อย่างคนท้องถิ่นก็จะสอบถามโฮส โดย 1 ใน 4 (ร้อยละ25) กล่าวว่าข้อสำคัญคือโฮสควรมีความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องอาหารและสถานที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันผู้เดินทางก็ต้องการความยืดหยุ่นสำหรับสร้างปฏิสัมพันธ์กับโฮสตามที่ตนเองสะดวก

     “เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาล้ำหน้าไปเรื่อยๆ วิธีการเดินทางท่องเที่ยวของเราจึงมีความล้ำหน้าด้วยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีช่วยให้วางแผนทริป ออกสำรวจโลกกว้างได้ไกลกว่าเดิม ง่ายดายกว่าเดิม ยืดหยุ่นกว่าเคย และมีตัวเลือกมากกว่าที่เคยมีมา ทั้งยังทำให้มั่นใจในการออกเดินทางมากยิ่งขึ้น เมื่อความคาดหวังสูงขึ้นและเทรนด์ใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้น Booking.com ในฐานะผู้ให้บริการจองห้องพักด้วยเทคโนโลยีผ่านอินเตอร์ จึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นในการช่วยและแนะนำผู้เดินทางให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในปี 2561ที่กำลังจะมาถึงนี้” เปแปน แรฟเวอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Booking.com กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่มาของการทำสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวในครั้งนี้



  • 7 ที่เที่ยวตลาดน้ำนนทบุรี ตั้งแต่เช้าจรดเย็นในวันหยุดงาน รับรองว่า ช็อป อิ่ม สนุกชัวร์!!
  • รวมสถานที่เที่ยววันเด็ก 2563 สนุกกันได้ยกครอบครัว
  • งดงาม ต้อนรับปีใหม่กับ งานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 13 วันที่ 29 ธ.ค. 59-31 ม.ค. 60
  • สงกรานต์ปีนี้เล่นน้ำที่ไหนดี ? ต้องที่นี้เลย จังหวัดอยุธยา งานสงกรานต์กรุงเก่าเล่นน้ำกับช้าง
  • รวมที่เที่ยวจันทบุรี แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ หลายคนคงไม่เคยได้ไป
  • 10 ที่พักบรรยากาศแบบไทย แต่ได้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอก
  • สถานที่ดินเนอร์สุดโรแมนติกในกรุงเทพ ต้อนรับ Valentine's 2020
  • 7 แลนด์มาร์คดูไฟทั่วกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด !!!
  • เทศกาลนี้ดีต่อใจ รวมสถานที่ดูไฟสุดฟิน ทั่วกรุงเทพมหานคร
  • ถึงร้ายก็รัก "เป็ก-โจอี้บอย" ย้อนเรื่องราวความสัมพันธ์จากคู่อริกลายเป็นเพื่อนสนิท พร้อมตะล่อนเที่ยวเชียงใหม่ ร...
  • นั่งรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี ถ่ายรูปได้มุมสวยๆ ปีละครั้ง
  • เที่ยวปีใหม่ 2564 อย่างไรให้ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19
  • เทรนด์การท่องเที่ยวสำหรับปี 2021 เมื่อ COVID-19 ยังอยู่กับเรา
  • 5 ที่พักพัทยา ติดทะเลวิวสวย ไม่ง้อมัลดีฟส์
  • รวมแหล่งที่เที่ยวทะเล ใกล้กับกรุงเทพฯ ช่วงวันหยุดยาว
  • เช็ดด่วน !! เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2561

    ยุคนี้จะทำให้อะไรให้ชัด ให้ชัวร์ ต้องใช้บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ แล้วในสมัยนี้ Booking.com บริการจองห้องพักออนไลน์ เลยใช้ฐานข้อมูลจากผู้เดินทางกว่า 19,000 คนจาก 26 ประเทศทั่วโลก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เข้าพักจริงกว่า 128 ล้านรายการ สรุปเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2561 (2018) ได้ 8 เทรนด์ ดังนี้

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll