พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

     สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้ทาง Thaihometown จะพาเพื่อนๆ ไปชมทาวน์โฮม 2 ชั้น ในโครงการ พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช โดยพฤกษา เรียลเอสเตท ที่ใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านในเขตร้อนที่มีความสวยงามอย่างบาหลี เข้ามาผสมผสานกับความทันสมัยให้เกิดความลงตัว จึงเกิดเป็นโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

     สำหรับบ้านแบบบาหลีนั้น นับว่าเหมาะมากสำหรับเมืองไทยเพราะเป็นบ้านที่เหมาะสมกับเขตร้อน โดยบ้านแบบบาหลีจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก แต่เดี๋ยวก่อน! ไม่ต้องกลัวว่าทางโครงการจะเอาไม้มาสร้างบ้านให้นะ อย่างที่บอกไปครับว่าทางพฤกษา เรียลเอสเตท ได้นำแนวคิดนี้มาปรับใช้เฉยๆ เพื่อให้เข้ากับความทันสมัยจึงออกแบบสไตล์ที่คล้ายๆ กันก็เพียงเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ละทิ้งไปนั่นคือ ความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนเมืองที่เบื่อความวุ่นวาย สำหรับคนที่ชอบความสงบและรักธรรมชาติ แต่ไม่ไกลจากเมือง โครงการนี้อาจจะเป็นโครงการที่สร้างมาเพื่อคุณก็เป็นได้ หากไม่เชื่อแล้วล่ะก็ ลองอ่านรีวิวนี้ก่อนจะไปชมโครงการกันก่อนก็ได้ครับ     

     ก่อนอื่นขอพูดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช กันสักนิด เพื่อเป็น ไกด์ไลน์ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันคร่าวๆ ว่า โครงการนี้มีการออกแบบมายังไง มีแนวคิดอะไร และมีจุดเด่นอะไรบ้าง 

 

รายละเอียดโครงการ     

     โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช มี Concept ว่า ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ ให้อิสระในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ใน The Balé House โดยใช้แรงบันดาลใจการออกแบบบาลีน่า "บาหลี” มนต์เสน่ห์แห่งความสุขเหนือระดับ ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับภูมิประเทศเขตร้อน มีการต่อเติมชายคายื่น เติมแต่งระแนงไม้ธรรมชาติ โปร่ง โล่ง สบาย พร้อมเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไปกับกลิ่นอายแห่งความเป็นบาหลี...ตลอดทุกช่วงเวลา 

     ในส่วนความพิเศษของตัวบ้านนั้น มีการจัดแบ่งพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ Suite Master Bedroom พร้อมห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง ขยายพื้นที่ครัวขนาดใหญ่ภายในบ้าน พร้อมตัวบ้านที่จัดพื้นที่ Open Space ภายใน เปิดกว้างรับธรรมชาติภายในบ้านได้อย่างเต็มอิ่ม ด้วยบานประตูขนาดใหญ่พิเศษพร้อมที่จอดรถส่วนตัว คัดเลือกวัสดุคุณภาพเทียบเท่าบ้านเดี่ยว

     นอกจากความพิเศษในส่วนของตัวบ้านแล้ว ภายในโครงการยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ พร้อมมุมสำหรับทำกิจกรรมและพักผ่อนในทุกวันพิเศษของคุณ เรียกได้ว่าแค่ความพิเศษของตัวบ้านและตัวโครงการก็คุ้มสุดๆ แล้ว นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณใกล้ๆ โครงการ ทั้งห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา รวมไปถึงสถานพยาบาลต่างๆ และยังสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย เนื่องจากเชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย เห็นแบบนี้แล้วแทบจะตัดสินใจซื้อกันเลยใช่ไหม ใจเย็นก่อนนะ เราไปชมรีวิวกันก่อนดีกว่า

 

ราคาเริ่มต้น 2.69  ล้านบาท

แบบบ้านโครงการ

แบบบ้านในโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช มีให้เลือก 3 แบบดังนี้

1. แบบบ้าน BALINA5 (BV5)

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

พื้นที่ใช้สอย 95 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ห้องนอนใหญ่ อารมณ์บ้านเดี่ยว (Suite Master Bedroom) ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง และบานประตูขนาดใหญ่พิเศษ

คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง BALINA5

 

2. แบบบ้าน BALINA6 (BV6)

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ห้องนอนใหญ่ อารมณ์บ้านเดี่ยว (Suite Master Bedroom) ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ขยายพื้นที่ครัวขนาดใหญ่

 

3. แบบบ้าน BALINA7 (BV7)

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ห้องนอนใหญ่ อารมณ์บ้านเดี่ยว (Suite Master Bedroom) ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ขยายพื้นที่ครัวขนาดใหญ่

คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง BALINA7

 

แผนที่โครงการ

คลิกเพื่อดูแผนที่ใหญ่ โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

 

แผนที่เส้นทางการเดินทางไปยังโครงการ

►จากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าสู่ถนนเพชรบุรี วิ่งตรงเข้าสู่ถนนพัฒนาการ

คลิกดูรีวิวการเดินทาง โดยเลือกใช้เส้นทางตามแผนที่นี้

 

►จากทางพิเศษศรีรัช ใช้ทางออก 2-06 เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์

 

►จากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ใช้ทางออก 3-03 เข้าสู่ถนนพัฒนาการ

►จากสถานี อ่อนนุช เข้าสู่เข้าซอยสุขุมวิท 81 ตัดเข้าซอยพัฒนาการ 32 

 

►จากสถานี Airport link หัวหมาก เข้าสู่ถนน ศรีนครินทร์ ตัดเข้าถนนพัฒนาการ 

สถานี Airport link หัวหมาก เป็นสถานีรถไฟฟ้าในเส้นทางระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail Link - SARL) ในระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สาย City Line(Suvarnabhumi Airport Rail Link City Line) ที่แวะจอดรายทางจากสถานีพญาไทถึงสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรามคำแหง และสถานีบ้านทับช้าง อยู่บนแนวเส้นทางรถไฟทางไกลสายตะวันออก ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทางแยกต่างระดับศรีนครินทร์ (จุดบรรจบถนนศรีนครินทร์ ถนนพระราม 9 และมอเตอร์เวย์ 7) ห่างจากสี่แยกพัฒนาการ (จุดบรรจบถนนศรีนครินทร์และถนนพัฒนาการ) มาทางทิศเหนือประมาณ 400 เมตร ในพื้นที่แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โดยสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้จะคร่อมคลองหัวหมากฝั่งตะวันออกของถนนศรีนครินทร์ ขณะที่สถานีรถไฟหัวหมากจะอยู่ฝั่งตะวันตกของถนน

 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

สถานศึกษา

• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
• มหาวิทยาลัยรามคำแหง
• มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
• สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้าน ตลาด

• Max Value แยกพัฒนาการ  
• เทสโก้ โลตัส พัฒนาการ  
• เดอะมอลล์ รามคำแหง  
• บี๊กซี หัวหมาก
• เดอะมอลล์บางกะปิ  
• เทสโก้ โลตัส บางกะปิ
• ซีคอนสแควร์  
• ธัญญาปาร์ค
• พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์  

สถานที่ราชการ 

• สำนักงานเขตสวนหลวง

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลวิภาราม
• โรงพยาบาลสมิติเวช
• โรงพยาบาลกรุงเทพ
• โรงพยาบาลรามคำแหง

การคมนาคม

• ถนนพระราม 9
• ถนนรามคำแหง
• ถนนเพชรบุรี
• ถนนศรีนครินทร์
• ทางด่วนศรีรัช-มอเตอร์เวย์
• ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
• ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
• Airport Link สถานีหัวหมาก
• สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช

​

 

สถานที่น่าสนใจ สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการในวันนี้ เราจะเริ่มกันที่ด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก - อโศกมนตรี ตามแนวของรถไฟฟ้าใต้ดินเนื่องจากเป็นจุดสังเกตที่ง่าย และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่สะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะคนเมือง โดยเส้นทางหลักของเราในวันนี้จะวิ่งตรงไปบริเวณถนนรัชดาภิเษก แล้วตัดเข้าบริเวณถนนเพชรบุรีก่อนที่จะเข้าสู่ถนนพัฒนาการ

นอกจากการเดินทางบนท้องถนนแล้ว ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้อีกด้วย เนื่องจากบริเวณศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยังเป็นที่ตั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับคนที่เดินทางไปยังโครงการ โดยมาจากสถานีหัวลำโพง แนะนำให้นั่งเลยไปลงที่ สถานีเพชรบุรีจะสะดวกกว่า

 

รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สำหรับ MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปยังโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช โดยสามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT มาลงที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วต่อรถไปยังโครงการได้ หรือไปลงที่สถานีสุขุมวิท ได้เช่นกัน อีกทางเลือกหนึ่งคือไปลงที่สถานีเพชรบุรี แล้วต่อ Airport Link จากสถานีมักกะสัน มาลงที่สถานีหัวหมาก แล้วต่อรถไปยังโครงการได้เช่นกัน 

สถานีศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ที่ถนนรัชดาภิเษก-พระรามที่ 4 กรุงเทพมหานคร บริเวณด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีทำเลอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ใกล้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สวนเบญจกิติ และตลาดคลองเตย

 

เมื่ออยู่บริเวณหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แล้ว ให้ขับตรงไปบนนถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปแยกอโศก

 

เมื่อขับตรงมาแล้วจะต้องเจอกับสวนเบญจกิติ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะชื่อดังของย่านนี้ ผู้คนนิยมมาออกกำลังกายกันเป็นประจำ ทั้งเดิน วิ่ง และปั่นจักรยาน เมื่อขับผ่านสวนเบญจกิติแล้วให้ขับตรงต่อไป โดยมุ่งหน้าไปแยกอโศก

 

ขับตามป้ายบอกทางเพชรบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปแยกอโศก

 

จุดสังเกตบริเวณแยกอโศกก็คือตึก interchange tower จะอยู่ด้านขวามือ ทำให้เรารู้ได้ว่า เรากำลังจะถึงแยกอโศก ให้เราเตรียมตัวใช้เลนกลางเพื่อตรงข้ามแยกไป

 

สังเกตป้ายบอกทางแยกอโศกให้เราใช้ 2 เลนกลางเพื่อมุ่งหน้าข้ามแยกไป

 

หลังจากถึงแยกอโศกแล้วให้รอสัญญานไฟเพื่อขับตรงข้ามแยกอโศกไปเข้าสู่ถนนอโศกมนตรี ซึ่งบริเวณนี้ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก(E4)

 

รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก (E4)

สำหรับสถานีอโศก (E4) จะอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้า Termial 21 สำหรับคนที่เดินทางไปยังโครงการ โดย BTS แนะนำให้นั่งต่อไปลงที่สถานีอ่อนนุช(E9) จะง่ายกว่า โดยเข้าซอยสุขุมวิท 81 ตัดเข้าซอยพัฒนาการ 32 

 

คลิกดูแบบแปลนสถานีภาพใหญ่

สถานีอโศก (E4) เป็นสถานีรถไฟลอยฟ้า ในเส้นทางรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (รถไฟฟ้าบีทีเอส) สายสุขุมวิท ยกระดับเหนือถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกอโศกมนตรี เป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีสุขุมวิท ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล โดยรอบโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเรียกได้ว่าเป็นแหล่งของความเจริญ สามารถเดินออกจาถสถานีและเข้าสู่ห้าง Terminal 21 ได้เลย

 

เมื่อขับผ่านแยกอโศกมาแล้ว จุดสังเกตที่สำคัญว่าเรายังคงอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องก็คือ เราจะต้องขับผ่าน Terminal 21 ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านนี้ 

 

Terminal 21 เป็นศูนย์การค้า Shopping Mall เทรนด์ใหม่ กลางอโศก แบบ Market Street ที่รวบรวมบรรยากาศทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในเทอร์มินอล ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ออกแนวโมเดิร์น แฝงไปด้วยความคลาสสิก ส่วนภายในก็แลดูโอ่โถง กว้างขวาง ทุกตารางนิ้วตกแต่งได้อย่างความสวยงาม แปลกตา จึงเป็นที่นิยมของคนเมืองมาช็อปปิ้งกันที่นี่ 

นอกจาก รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกแล้ว บริเวณศูนย์การค้า Terminal 21 ยังมีระบบขนส่งมวลชนที่คอยอำนวยความสะดวกอีก 1 สถานีนั่นก็คือ รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสุขุมวิท ที่อยู่ในระแวกเดียวกัน ผู้เดินทางไปยังโครงการสามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีสุมวิท ไปลงที่สถานีเพชรบุรี แล้วไปต่อ Airport link มักกะสัน เพื่อไปลง สถานีหัวหมาก ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการได้เช่นกัน

 

รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท

MRTสถานีสุขุมวิท จะอยู่ระหว่าง สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ สถานีเพชรบุรี สำหรับคนที่เดินทางโดย MRT ไปยังโครงการ ให้นั่งเลยไปลงที่สถานีเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานีถัดไป

 

สำหรับ MRTสถานีสุขุมวิท จะอยู่บริเวณ Terminal 21 เช่นเดียวกับ BTS อโศก เรียกได้ว่าเป็นย่านความเจริญมีสิ่งอำนวยความสะดวกมามาย ถัดจากสถานีสุขุมวิท จะเป็นสถานีเพชรบุรี ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ถนนเพชรบุรี บริเวณแยกอโศก ซึ่งเป็นสถานีที่คนเดินทางไปยังโครงการต้องลงเพราะใกล้ถึงโครงการแล้ว

 

กลับเข้าสู่การเดินทาง เมื่อขับผ่าน Terminal 21 มาแล้วเราจะอยู่บนถนนอโศกมนตรี โดยถนนเส้นนี้ให้ขับตรงยาวไปเพราะห้ามเลี้ยวขวาตลอดเส้นทาง

 

ข้อควรระวังในการใช้ถนนเส้นนี้ก็คือจะมีการปรับเลนในชั่วโมงเร่งด่วนคือ (06.00น.-09.00น.) รถที่มุ่งหน้าไปถนนเพชรบุรีจะสามารถวิ่งได้เลนซ้ายสุดเลนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าหลังเวลาดังกล่าว จะสามารถใช้ 2 เล่นได้ตามปกติ

 

โดยเมื่อเราขับมาบนนถนนอโศกมนตรี เราจะต้องขับผ่านตึก GMM Grammy ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังในด้านการบันเทิง แบบครบวงจร ซึ่งเป็นที่รู้จักดีของคนไทย

 

ขับตรงมาเรื่อยๆ เราจะต้องผ่านมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว ประสานมิตร) โดยเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ติดอับดับ 1 ใน 10 ของมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพในประเทศไทย ให้เพื่อนๆ ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ 

 

หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆ บนถนนอโศกมนตรี มาถึงจุดนี้ให้สังเกตป้ายคลองตัน โดยให้เข้าเลนขวา เพื่อเตรียมเลี้ยวตามป้ายคลองตันบริเวณแยกอโศก - เพชรบุรี

 

เมื่อมาถึงแยกอโศก - เพชรบุรี ให้ติดไฟแดงเตรียมเลี้ยวขวามตามป้ายคลองตัน เพื่อเข้าสู่ถนนเพชรบุรี 

บริเวณแยกอโศก - เพชรบุรี เป็นที่ตั้งรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี สำหรับคนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินจะต้องลงที่สถานีเพชรบุรี แล้วต่อรถไปยังโครงการตามรีวิวการเดินทาง

 

รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี

อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่โดยสารโดยรถไฟฟ้าใต้ดินโดยลงที่สถานีเพชรบุรี แล้วสามารถไปต่อ  Airport link มักกะสันได้ โดยห่างกันเพียง 500 เมตร แล้วไปลงที่ Airport link หัวหมาก ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญใกล้กับโครงการ 

 

สถานีเพชรบุรี เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ที่ถนนอโศก-ดินแดง กรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกอโศก-เพชรบุรี เป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ สถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือสถานีมักกะสัน (อโศก) เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องความสะดวก จากผังจะเห็นว่า Airport link มักกะสัน นั้นอยู่
ไม่ไกล (500ม.) สามารถเดินไปต่อ  Airport link ไปลงยังสถานีหัวหมากได้

 

กลับเข้าสู่การเดินทางปกติ เมื่อเลี้ยวขวามาจากแยกอโศก - เพชรบุรี ให้ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นตึก Italthai เป็นจุดสังเกตว่าเรายังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง ให้เราขับตรงต่อไปบนถนนเพชรบุรี

 

ก่อนถึงตึก Italthai จะเจอป้ายบอกทาง ให้ขับตามป้ายบอกทาง พร้อมพงษ์ เอกมัย 

 

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ บนถนนเพชรบุรีจะเจอแยกไฟแดงอีกครั้ง ตรงนี้คือแยกพร้อมพงษ์ ให้ขับเลนซ้ายตรงต่อไปบนถนนเพชรบุรีได้เลย (ซ้ายผ่านตลอด)

 

หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นป้าย โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งจะเป็นแยกไฟแดงเข้าซอยเพชรบุรี 47 ให้เราขับตรงต่อไปบนถนนเพชรบุรี  (ซอย 47 เป็นซอยที่สามารถทะลุออกสู่ถนนพระราม 9 ได้ โดยติดไฟแดงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย 49)

 

หลังจากขับตรงมาบนถนนเพชรบุรี จะเจอกับแยกไฟแดงก่อนถึงแยกเอกมัยเหนือ ให้ขับตรงตามป้ายคลองตัน

 

เมื่อขับตรงมาจะเจอกับแยกเอกมัยเหนือ ให้ใช้ 3 เลนซ้ายเพื่อขับตรงต่อไปบนถนนเพชรบุรี

 

หลังจากขับตรงมาบนถนนเพชรบุรี จะเจออีกนึ่งจุดสังเกตสำคัญนั่นก็คือ โรงพยาบาลเพชรเวช ให้ขับตรงต่อไป

 

หลังจากขับตรงต่อมาจะเจอกับป้ายบอกทางพัฒนาการ ให้ขับตรงต่อไปตามป้ายบอกทางพัฒนาการ เพื่อเข้าสู่ถนนพัฒนาการ โดยใช้เลนขวาสุดเพื่อขึ้นสะพาน

 

ขับขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตัน เพื่อตรงเข้าสู่ถนนพัฒนาการ โดยสะพานนี้อนุญาตให้ขึ้นเฉพาะรถยนต์ขนาดไม่เกิน 10 ล้อขึ้นเท่านั้น โดยสะพานมีระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อขับลงสะพานจะเข้าสู่ถนนพัฒนาการพอดี

 

เมื่อขับขึ้นสะพานจะพบกับป้ายโครงการที่เรากำลังเดินทางไปนั่นก็คือ โครงการ พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช นั่นเอง เพราเมื่อมาถึงจุดนี้ก็ใกล้จะถึงโครงการกันแล้ว 

 

เมื่อลงสะพานจะเข้าสู่ถนนพัฒนาการพอดี ให้ขับตรงต่อไปบนถนนพัฒนาการ

 

ตรงนี้เรียกได้ว่าใกล้ถึงโครงการแล้ว โดยให้สังเกตป้ายโฆษณาของโครงการ พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช ให้ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ บนถนนพัฒนาการ

 

เมื่อขับมาเรื่อยๆ บนถนนพัฒนาการ จะพบกับป้ายโครงการก่อสร้างทางลอดถนนพัฒนาการ - รามคำแหง - ถาวรธวัช ซึ่งจะทำให้การเดินทางบริเวณถนนเส้นนี้จะสะดวกขึ้นอีกเท่าตัว เรียกได้ว่า ง่ายต่อการใช้ชีวิตแน่นอน นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

 

เมื่อขับมาสักพักจะเจอป้ายบอกทาง ให้ขับตามป้ายบอกทางศรีนครินทร์

 

จุดสังเกตอีกจุดหนึ่งว่ายังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องคือ ด้านขวามือจะพบกับโชว์รูม ซัมมิท ฮอนด้า สาขาพัฒนาการ 

 

ตรงข้ามโชว์รูม ซัมมิท ฮอนด้า สาขาพัฒนาการ จะเป็นปั้มเชลล์ ให้ขับตรงต่อไปบนถนนพัฒนาการ

 

หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆ บนถนนพัฒนาการ จะเจอป้ายบอกทางอุโมงค์กลับรถ ให้ชิดเลนขวา เพื่อเตรียมลงอุโมงค์กลับรถ โดยทางเข้าอุโมงค์กลับรถจะเลยสถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น ไปเพียง 300 เมตร

 

สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เน้นเทคโนโลยีด้านวิศวกรรม สารสนเทศและการบริหารจัดการที่จำเป็นสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย

 

แผนที่ Google Map แสดงเส้นทางเริ่มจาก สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ก่อนลงอุโมงค์ ในแผนที่หลังจากที่ลงอุโมงค์แล้ว จะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเพื่อกลับรถ เข้าซอยพัฒนาการ 38 

 

มาต่อกันที่เส้นทางใช้เลนขวาเอาไว้ จะมีทางลงอุโมงค์กลับรถไปยังซอยพัฒนาการ 38 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม 

 

อุโมงค์กลับรถนี้เป็นอุโมงค์ที่มีลักษณะโค้งรูปตัวยู (U) แนะนำให้ขับช้าๆ โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ตามป้าย

 

เมื่อขึ้นจากอุโมงค์จะพบกับ อาคารธาราพัฒนาการ บริษัท แม็คโคร สำนักงานใหญ่ ให้ขับตรงไปโดยแนะนำให้ใช้เลนขวา เพระเมื่อเข้าทางหลักจะเข้าสู่เลนเลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ38 พอดี

 

เมื่อขับผ่านอาคารธาราพัฒนาการ บริษัท แม็คโคร สำนักงานใหญ่ ให้คอยสังเกตป้ายเลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ38

 

จุดสังเกตง่ายๆ ของซอยพัฒนาการ38 ก็คือ จะต้องข้ามคลองลาวไปก่อนแล้วจะถึงซอยพัฒนาการ38 พอดี

 

ป้ายบอกทางเข้าซอยพัฒนาการ38 จะสังเกตเห็นได้ยากนิดนึงเนื่องจากอยู่ในมุมอับ เพราะโดนเสาไฟฟ้าและต้นไม้บัง ตรงนี้ต้องสังเกตให้ดีๆ ระวังจะขับเลย แต่ถ้าหากขับเลยไปแล้ว ตรงนี้สามารถแก้ปัญหาโดยเข้าซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งเป็นอีกซอยหนึ่งที่สามารถเข้าสู่โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช ได้เช่นกัน

 

เมื่อขับเข้าซอยพัฒนาการ38 มาแล้ว ให้ขับตามทางต่อไปเรื่อยๆ แนะนำให้ขับช้าๆ เพราะตรงนี้เป็นเขตชุมชน 

 

เมื่อขับมาเรื่อยๆ จะสังเกตป้ายโครงการอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ใกล้จะถึงโครงการแล้ว ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ 

 

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ สักพักจะเจอกับทางโค้งให้ขับโค้งไปตามทางหลัก แล้วขับตรงต่อไปเรื่อยๆ 

 

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับทางข้ามคลองหัวหมาก ให้ขับข้ามคลองหัวหมากเพื่อเข้าสู่ พฤกษาอเวนิว

 

เมื่อขับข้ามคลองหัวหมากมาแล้วคือพื้นที่ของพฤกษา อเวนิว ให้ขับตรงตามทางต่อไปจนเจอวงเวียนที่ 1

 

ตรงจุดนี้คือวงเวียนที่ 1 ให้เข้าสู่วงเวียนแล้วเลี้ยวขวาไปตามทาง

 

เมื่อเลี้ยวขวาผ่านวงเวียนมาแล้ว ให้ขับตามทางเมื่อถึงจุดนี้ให้โค้งออกซ้ายตามทางไปเรื่อยๆ 

 

เมื่อขับมาสักพักจะเจอวงเวียนที่ 2 ให้วนวงเวียนออกทางด้านขวา แล้วขับตรงต่อไปเรื่อยๆ

 

ขับตรงไปอีกนิดนึง จะเริ่มสังเกตเห็นป้ายโฆษณาข้างทางด้านขวามือ ซึ่งเป็นป้ายพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

 

ป้ายโฆษณาข้างทางบอกว่าเรามาถึงโครงการแล้ว ซึ่งโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ 

 

และแล้วเราก็มาถึงโครงการกันแล้ว เป็นยังไงบ้าง สวยใช่ไหมล่ะ แค่เห็นทางเข้าก็พูดได้เลย ว่าสวยงามและน่าอยู่มาก 

 

ป้ายโครงการ พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช อยู่ทางด้านซ้ายมือ แสดงให้เห็นว่าเรามาถูกโครงการแล้ว

รีวิวบ้านตัวอย่าง  BALINA5 (BV5) 

แบบบ้าน BALINA5 (BV5) มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 95 ตารางเมตร บ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ รั้วเหล็กหน้าบ้านเลือกใช้เป็นโทนสีน้ำตาลเข้ม เพื่อบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติสไตล์บาหลี 

 

ในส่วนของความพิเศษภายในบ้านนั้น มีการออกแบบห้องนอนให้มีขนาดใหญ่พิเศษที่ได้อารมณ์เหมือนกับบ้านเดี่ยว เรียกว่า Suite Master Bedroom พร้อมทั้งความพิเศษของห้องน้ำเพราะว่าเขามีการแยกโซนแห้ง โซนเปียกให้อีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจหลายคนเลยทีเดียว เอาล่ะ พูดพร่ำทำเพลงกันมาเยอะแล้ว เราเข้าไปดูในส่วนของบ้านกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

 

ผนังด้านนอกบริเวณชั้น 2 ตกแต่งด้วยระแนงเหล็กสีน้ำตาลเป็นแนวนอน ใช้ทำเป็นที่บังสายตาสำหรับติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ ถัดมาใกล้ๆกับระแนงเหล็ก จะมีหน้าต่างบานใหญ่คล้ายๆประตู แต่จะเปิดไม่ได้เพราะออกแบบมาให้เป็นหน้าต่างบานใหญ่สำหรับห้องนอน ด้านนอกของหน้าต่างบานใหญ่มีแนวรั้วเหล็กสีน้ำตาล มองจากภายนอกจะมีความคล้ายคลึงกับระเบียงชมวิวนั้นเอง นอกจากนี้บริเวณนี้ด้านใต้หลังคาบ้านยังมีชายคาให้ยื่นออกมาพร้อมออกแบบให้มีความกลมกลืนกับตัวบ้าน เรียกได้ว่าทั้งสวยงามแบบไทยๆ ผสมผสานสไตล์บาหลี

ในส่วนของประตูและหน้าต่างถูกออกแบบให้มีความกว้างและเป็นกระจกตัดแสงทั้งหมด ทำให้หมดห่วงเรื่องแดดส่องเข้าบ้านแล้วจะทำให้บ้านร้อน ซึ่งกระจกที่ทาง พฤกษา เรียลเอสเตท เลือกใช้นั้น เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ถูกออกแบบมาเพื่อรับแสงอ่อนๆ เพื่อความสว่างเท่านั้น โดยปราศจากความร้อนและสามารถป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย 

 

เมื่อเข้ามาในโซนของบ้าน โซนแรกที่เราจะพบก็คือโซนจอดรถนั่นเอง โดยโซนจอดรถของแบบบ้าน BALINA5 (BV5) ถูกออกแบบมาให้รองรับการจอดรถ 1 คัน แต่ก็เป็นโซนจอดรถขนาดกว้าง ทำให้ขับรถเข้า-ออกได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความสูงเพื่อรองรับรถขนาดใหญ่อีกด้วย โรงจอดรถจะมีช่องหน้าต่างแนวตั้ง เป็นช่องแสงสำหรับทางเดินขึ้นบันไดในบ้าน ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็ให้ติดม่านมู่ลี่ได้ อีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือช่องเก็บของนั่นเอง ช่องเก็บของภายในโซนจอดรถผู้ซื้ออาจจะใช้เก็บอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้นอกบ้านก็ได้ เช่นอุปกรณ์ทำสวน หรืออุปกรณ์ช่างเป็นต้น

 

หลังจากวนเวียนกันอยู่รอบบ้านมาพักใหญ่ ได้เวลาเข้าบ้านกันแล้ว ในโซนแรกที่เราจะพบหลังจากเข้าบ้านมานั่นก็คือ โซนรับแขก ซึ่งถูกออกแบบให้ได้บรรยากาศของความเป็นธรรมชาติแบบบาหลี นั่นคือใช้สีโทนเย็น ลักษณะโซฟาได้อารมณ์เหมือนเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ โดยใช้แนวคิดความเป็นสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับความเป็นบาหลีซึ่งทำได้เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้บริเวณโซนรับแขกยังมีหน้าต่างบานใหญ่ด้านหลังโซฟาอีกด้วย วันไหนอากาศดีๆ ก็ลองเปิดหน้าต่างรับลมกันสิ เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับบ้านของผู้ซื้อเอง หรือวันไหนมีแดดก็ปิดหน้าต่างไว้แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าบ้านจะมืดนะ

อย่างที่บอกครับ ทางพฤกษา เรียลเอสเตท ใช้กระจกสีเขียวตัดแสง รับแสงโดยปราศจากความร้อน เรียกได้ว่าตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟกันเลย ได้ประโยชน์แถมประหยัดพลังงานอีกต่างหาก ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็ยังเป็นแบบ Built-in อีกด้วย ผู้ซื้อสามารถตกแต่งได้เองตามใจชอบ เช่น นำเอาทีวีมาวางไว้ตรงโซนรับแขกเพื่อใช้เป็นโซนพักผ่อนสำหรับวันหยุดของผู้ซื้อเอง

 

สำหรับบ้านเปล่าบริเวณโซนรับแขก จะเห็นได้ว่าเป็นโซนที่มีความกว้างพอสมควร ผู้ซื้ออาจจะเลือกโซฟาที่ใช่ Built-in ที่ชอบ เข้ามาตกแต่งในบริเวณนี้ ในส่วนของพื้นบ้านก็หายห่วงได้เลย เพราะทางพฤกษา เรียลเอสเตท เลือกใช้แกรนิตโต้ชั้นดี เรียกได้ว่าได้ทั้งความสวยงามและคงทนควบคู่กันไป

 

โซนถัดมาจะเป็นโซนรับประทานอาหาร เป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้างพอสมสวร ผนังจะแตกต่างจากโซนรับแขกคือมีการเล่นลายสลับสี โดยเป็นสีโทนอ่อน ให้อารมณ์เหมือนนั่งทานข้าวท่ามกลางธรรมชาติ นับว่าเป็นการสร้างความสุขอย่างหนึ่งสำหรับผู้ซื้อ โต๊ะอาหารถูกออกแบบให้มีขนาด 4 ที่นั่ง แต่ต้องบอกก่อนว่าโซนนี้จัดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง โซนนี้ถ้าต้องการบังสายตาจากโซนรับแขกก็ทำได้ด้วยการเลือกใช้ตู้ทรงสูง เช่น ตู้โชว์ ตู้ที่เป็นชั้นวางของ หรือจะเลือกใช้ฉากไม้สวยๆมากั้นเพื่อบังสายตาก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน

 

สำหรับบ้านเปล่าบริเวณโซนรับประทานอาหาร ผู้ซื้อจะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณนี้กว้างมาก ผู้ซื้อสามารถออกแบบการจัดวางได้เองตามใจชอบ โดยอาจจะเพิ่มขนาดโต๊ะรับประทานอาหารก็ยังได้ 

 

ในส่วนของพื้นที่ประกอบอาหาร หรือ Kitchen Area ผู้ซื้อสามารถออกแบบได้เองตามใจชอบ โดยอาจจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เข้ามาตกแต่งในห้องครัว ส่วนเคาน์เตอร์ในห้องครัวก็ออกแบบได้เองตามใจชอบ โดยอาจจะเลือกใช้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัวไอ(I) หรือตัวแอล(L) ก็แล้วแต่ผู้ซื้อชอบ

 

โซนครัวสามารถต่อเติมผนังกั้นห้องแบ่งเป็นห้องครัวได้ หรือจะเลือกทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแทนก็ได้ ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่สวยกว่า คงทนแข็งแรงมากกว่า แถมยังใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ถ้าเลือกทำประตูกระจกบานเลื่อนให้ติดต่อที่ร้านทำอลูมิเนียมทั่วไป กระจกให้เลือกใช้เป็นกระจกใสธรรมดาจะดีที่สุดสำหรับการทำประตูห้องครัว

 

พื้นที่ของห้องครัวจะอยู่ติดกับห้องน้ำชั้นล่าง พื้นที่ครัวจะไม่กว้างมากนัก แนะนำให้เลือกใช้เคาน์เตอร์ครัวแบบบิวท์อินติดผนังรูปตัว L ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น ตัวท็อปเคาน์เตอร์เลือกใช้เป็นหินแกรนิตสีดำ หรือสีอื่นๆก็ตามที่ชอบ แต่ถ้าต้องการราคาถูกก็ให้เลือกเป็นปูกระเบื้อง หรือจะเทำเป็นแบบปูนเปลือยก็ได้ สวยเท่แถมประหยัดเงินสุดๆ ส่วนตู้เก็บของห้องครัวก็ให้เลือกเป็นตู้แขวนติดผนังได้เลย ทำการวัดขนาดพื้นที่ก่อนไปสั่งซื้อ สมัยนี้ง่ายทีเดียวมีบริการติดตั้งตู้ให้ถึงบ้านด้วย ลองไปสอบถามดูได้ที่โฮมโปรทุกสาขา

 

มาพูดถึงห้องน้ำกันบ้าง โดยผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องสีโทนอ่อน ในส่วนของพื้นใช้สีโทนเข้มซึ่งเป็นสีธรรมชาติ โดยเป็นสีโทนหลักที่ทางพฤกษา เรียลเอสเตท นำมาใช้ในบ้านนี้เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ โดยการใช้สีกระเบื้องตัดกันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง สีโทนอ่อนบริเวณผนังจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกเย็นสบาย ส่วนสีโทนเข้มจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาตินั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวเลยทีเดียว   

 

หลังจากที่พาชมชั้น 1 กันไปแล้ว เรียกได้ว่าถูกใจหลายๆ คนกันเลยทีเดียว ทีนี้เราขึ้นชั้น 2 กันบ้างดีกว่า ไปดูกันซิ ว่ามีอะไรบ้าง ก่อนอื่นเลย ทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่บริเวณโซนรับแขกกับโซนรับประทานอาหาร โดยตรงทางขึ้นด้านซ้านมือนั้นจะเป็น Built-in โซนรับแขกอย่างที่กล่าวไปตอนต้น ส่วนทางด้านขวาคือตู้ที่เป็นที่เป็นลักษณะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถนำของสะสมมาวางโชว์ได้ เช่น โมเดลการ์ตูน หรืออาจจะเป็นถ้วยน้ำชา จานชาม ของสะสมอื่นๆ ก็นับว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง

 

ความพิเศษของบันไดคือทำจากวัสดุเนื้อแข็ง เป็นลายไม้สีเข้มสลับโทนสีขาว ซึ่งเป็นโทนสีที่ทาง พฤกษา เรียลเอสเตท พยายามจะใช้เป็นสีหลัก ของตัวบ้าน บันไดมีการออกแบบให้มีการโค้งตามแนวทางขึ้น แต่ไม่ต้องกลัวจะตกหรือเหยียบผิดขั้นนะครับ เพราะขั้นบันไดมีขนาดใหญ่พอสมควร เหยียบไม่ผิดขั้นแน่นอน 

อีกหนึ่งความพิเศษก็คือบริเวณทางขึ้นชั้น 2 มีช่องแสงคอยรับแสงส่องเข้ามาบริเวณทางขึ้น ทำให้เวลากลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ แสงสว่างจากภายนอกจะส่งเข้ามา ตรงนี้ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากเลยทีเดียว

 

ขึ้นมาบริเวณโถงบันไดจะพบกับโคมไฟเก๋ๆ แขวนอยู่ด้านบนเพดาน และพื้นที่เปล่าบริเวณผนังที่ติดกรอบรูป ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถติดรูปได้เองตามใจชอบ หรือจะหาวอลเปเปอร์สวยๆ มาตกแต่งก็นับว่าเก๋เลยทีเดียว เพื่อทำให้โซนนี้ดูสวยงามและถูกใจผู้ซื้อเอง

 

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นรีวิวแล้วว่า แบบบ้าน BALINA5 (BV5) มี 3 ห้องนอน โดยห้องแรกที่จะมารีวิวให้ฟังในวันนี้ก็คือห้องนอนหลักของบ้าน ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ คือ Suite Master Bedroom โดยตัวห้องออกแบบให้มีความทันสมัยผสมสผานกับความเป็นธรรมชาติ โดยการปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับผนังห้องซึ่งเป็นสีขาว บนพื้นฐานของความเข้ากันอย่างลงตัว 

บริเวณหัวเตียงและข้างเตียงมีหน้าต่างรับแสง ซึ่งตรงนี้หายห่วงว่าจะทำให้เกิดความร้อนภายในห้อง อย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า กระจกของบ้านเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกันความร้อนและรังสียูวี รับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องแต่ปราศจากความร้อน ทำให้ผู้ซื้อสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของห้อง Suite Master Bedroom คือมีโซนแต่งตัวภายในห้องโดยบ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ทั้งหมด ซึ่งประโยชน์คือทำให้ประหยัดพื้นสอยไปได้เยอะ กระจกที่ใช้เป็นกระจกเต็มบาน รวมถึงตู้เสื้อผ้า ซึ่งยาวสูงจนสุดเพดาน ระหว่างกระจกกับตู้เสื้อผ้ามีชั้นวางอเนกประสงค์ สามารถวางของได้หลายอย่าง นอกจากนี้ในบริเวณโซนแต่งตัวยังมีหน้าต่างที่ใช้สำหรับรับแสง เพื่อความสะดวกสบายเวลาแต่งหน้าหรือแต่งตัว เห็นแบบนี้แล้วต้องถูกใจผู้ซื้ออย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ซื้อที่เป็นผู้หญิง เรียกได้ว่าฟินอย่างแน่นอน

 

สำหรับบ้านเปล่าบริเวณห้อง Suite Master Bedroom จะสังเกตเห็นได้ว่า พื้นที่กว้างมาก โดยเฉพาะความยาวแทบจะเป็น 2 ห้องได้เลย นั่นก็เพราะว่าภายในห้องมีการแบ่งเป็น 2 โซน ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถออกแบบได้เอง โดยการเลือกซื้อ Built-in ที่ผู้ซื้อชอบ เข้ามาตกแต่งได้เองตามใจชอบ 

 

หน้าต่างห้อง Suite Master Bedroom จะมีหน้าต่างบานใหญ่กว่าห้องนอนอื่นๆ ซึ่งนับเป็นความพิเศษของห้องนี้ โดยหน้าต่างดังกล่าวสามารถเอาไว้ชมวิวนอกห้องได้ตามอัธยาศัยโดยผู้ซื้ออาจซื้อผ้าม่านมาตกแต่งเพื่อความสวยงาม ส่วนเรื่องแดดส่องเข้าห้องแล้วทำให้เกิดความร้อนนั้นไม่ต้องห่วง เพราะใช้กระจกตัดแสงสีเขียวป้องกันความร้อนและรังสียูวี ทำให้ห้องไม่ร้อนนั่นเอง

 

ห้อง Suite Master Bedroom สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้อย่างชัดเจน แบ่งเป็นโซนแต่งตัว และโซนที่นอน ที่สามารถรองรับเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้อย่างสบายๆ ผู้ซื้อหลายๆท่านอาจจะไม่ทราบจุดที่ต้องติดตั้งแอร์ก่อนการตกแต่ง ว่าจะต้องติดตั้งตรงไหน บางคนกลัวว่าติดไปแล้วจะตกแต่งไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไป ติดตั้งได้ตามในรูปภาพได้เลยครับ ไม่ติดปัญหาแน่นอน

 

 

ถัดจากห้อง Suite Master Bedroom ก็คือห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งออกแบบมาแบบหรูหราบนพื้นฐานของความเป็นธรรมชาติ มีการผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับความทันสมัยที่ผนังห้องน้ำและพื้นห้องน้ำเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้น 1 อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆในห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้าเป็นทรงสีเหลี่ยมแนวยาว มีช่องเก็บของด้านใต้อ่าง มาพร้อมกับกระจกเงาบานสี่เหลี่ยม โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Morgen มีที่ฉีดน้ำพร้อมใช้

 

ห้องน้ำชั้นนี้ที่โซนอาบน้ำจะมีตู้กระจกบานเลื่อน แบบมุมฉากต่อมาจากผนังห้องน้ำ บานเลื่อนใช้งานโดยเลื่อนได้จากตรงกลางบาน โซนอาบน้ำมีฝักบัว ที่วางสบู่ และมาพร้อมกับช่องสำหรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ส่วนพื้น และผนังห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องขนาดเดียวกัน เบ่งเป็น 3 เฉดสีคือ กระเบื้องผนังใช้สีน้ำตาลเข็ม ตัดกับผนังสีขาว และพื้นห้องน้ำเลือกใช้หระเบื้องผิวหยาบสีเทาเข้ม

 

 

ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีเข้ม เช่นเดียวกับห้อง Suite Master Bedroom ในส่วนของการตกแต่งนั้นบ้านตัวอย่างใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งหมด ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย เหลือพื้นที่ในห้องค่อนข้างเยอะ โดยเฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีขาวเช่นเดียวกับผนังห้อง บริเวณด้านข้างและปลายเตียงมีหน้าต่างซึ่งเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อรับแสงเข้ามาในห้อง โดยปราศจากความร้อน เนื่องจากเป็นกระจกที่ป้องกันรังสียูวี

 

สำหรับบ้านเปล่าในห้องนอนที่ 2 จะเห็นได้ว่ามีความกว้างพอสมควร แต่หากอยากประหยัดพื้นที่ ทางเราก็แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in โดยอาจจะตกแต่งแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือถ้าอยากออกแบบตามใจตัวเองก็สามารถทำได้เลย ถ้าได้บ้านสวยแล้วถูกใจผู้ซื้ออีกแล้วล่ะก็ ฟินสุดๆ กันเลยทีเดียว 

 

สำหรับห้องนอนที่ 3 ของบ้าน ในบ้านตัวอย่างถูกจัดให้เป็นห้องทำงาน หากผู้ซื้อสนใจในไอเดียนี้ก็สามารถนำไปตกแต่งตามบ้านตัวอย่างได้เลย หรืออาจจะทำเป็นห้องพระก็ได้ แต่หากมีบุตรเยอะแล้วต้องการใช้เป็นห้องนอนล่ะก็สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว

โดยห้องนอนที่ 3 มีลักษณะและขนาดเหมือนกับห้องนอนที่ 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตสีเข้มเช่นกัน สีผนังของห้องก็เป็นสีขาวเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ หรือถ้าใครยังงงว่ามันเป็นห้องทำงานแล้วจะเป็นห้องนอนได้ยังไง ลองชมบ้านเปล่าในบริเวณโซนเดียวกันก่อนก็ได้ครับ

 

สำหรับบ้านเปล่าในห้องนอนที่ 3 ครับ จะให้ได้ว่ามันก็คล้ายๆ กับห้องนอนที่ 2 นั่นเอง เพียงแต่ในบ้านตัวอย่างถูกจัดเป็นห้องทำงานก็เพียงเท่านั้น แต่ผู้ซื้อคนไหนไม่ต้องการให้เป็นห้องนอนก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงานดังบ้านตัวอย่าง หรือถ้าเกิดอยากได้เป็นห้องพระ ก็นับว่าเหมาะสมเลยทีเดียว

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง  BALINA7  (BV7)

แบบบ้าน BALINA7 (BV7) มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตารางเมตร บ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บริเวณหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กโทนสีน้ำตาลเข้มเพื่อบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ โดยเป็นลักษณะของรั้วบานพับ 6 ตอน บริเวณชั้น 2 ถูกตกแต่งด้วยระแนงกันตกสีเดียวกับรั้วเพื่อความปลอดภัยของผู้ซื้อเอง นอกจากจะกันตกได้แล้วยังออกแบบให้มีความสวยงามประหนึ่งว่าเป็นเพียงส่วนประดับของตัวบ้าน แต่จริงๆ แล้วมีประโยชน์อย่างมากมายเลยทีเดียว นอกจากระแนงกันตกแล้วยังมีระแนงแนวตั้งประดับไว้เพื่อความสวยงามและเอาไว้ปิดคอมเพลสเซอร์แอร์ทำให้บ้านดูดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณหลังคาบ้านยังมีการต่อเติมชายคาให้ยื่นออกมาพร้อมออกแบบให้มีความกลมกลืนกับตัวบ้าน เรียกได้ว่าทั้งสวยงามและมีประโยชน์เลยทีเดียว

ในส่วนของประตูและหน้าต่างถูกออกแบบให้มีความกว้างและเป็นกระจกตัดแสงทั้งหมด ทำให้หมดห่วงเรื่องความร้อนภายในบ้าน เนื่องจากกระจกที่ทาง พฤกษา เรียลเอสเตท เลือกใช้นั้น เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ถูกออกแบบมาเพื่อรับแสงอ่อนๆ เพื่อความสว่างเท่านั้น โดนปราศจากความร้อนและสามารถป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย 

 

ในส่วนของความพิเศษภายในบ้านนั้น มีการออกแบบห้องนอนให้มีขนาดใหญ่พิเศษที่ได้อารมณ์เหมือนกับบ้านเดี่ยว เรียกว่า Suite Master Bedroom พร้อมทั้งความพิเศษของห้องน้ำเพราะว่าเขามีการแยกโซนแห้ง โซนเปียกให้อีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจหลายๆ คนเลยทีเดียว 

แต่ในส่วนของแบบบ้าน BALINA7 (BV7) ขอรีวิวเป็นแบบบ้านเปล่าก็แล้วกัน ผู้ซื้อจะได้เห็นพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนจริงๆ ของบ้าน และจะได้ออกแบบการตกแต่งได้เอง ไม่ต้องยึดติดกับบ้านตัวอย่าง

 

ก่อนที่จะเข้าไปดูบ้าน จุดสังเกตแรกที่เราจะต้องเจอก็คือรั้วของบ้านนั่นเอง การออกแบบสีของรั้วเป็นสีโทนน้ำตาลเข้มสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับแบบบ้าน BALINA5 (BV5) แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากบ้าน BALINA5 (BV5) ก็คือเป็นรั้วบานพับ 6 ตอน ซึ่งข้อดีของรั้วบานพับคือแข็งแรงทนทานและสามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่ากว่ารั้วธรรมดาทั่วไป

 

ในส่วนของที่จอดรถของแบบบ้าน BALINA7 (BV7) เป็นการจอดรถบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งมีข้อดีมากมายเช่น เป็นพื้นที่กว้างเข้าออกได้สบาย จึงทำให้ บ้านหลังนี้สามารถรองรับการจอดรถได้ถึง 2 คัน หลายๆบ้านอาจจะเจอปัญหาถ้าจอดรถเต็ม 2 คัน ก็จะไม่มีทางเดินเข้า และไม่มีที่จอดมอเตอร์ไซต์ แต่แบบบ้านแบบนี้ นอกจากจะจอดได้ 2 คันแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินเข้าจากด้านข้าง และก็ยังจะมีพื้นที่เหลือจอดมอเตอร์ไซต์ได้อีกด้วย

 

บริเวณหน้าบ้านตรงประตูทางเข้าของแบบบ้านแบบนี้ จะมีพื้นที่เป็นห้องโถงโล่ง ซึ่งจะอยู่ด้านใต้ของบริเวณห้องนอนใหญ่ โดยจะมีพื้นที่จากหน้าประตูทางเข้าตัวบ้าน ที่มีแนวขอบพื้นกระเบื้องที่สูงกว่าระดับพื้นของโรงจอดรถเล็กน้อยเพื่อให้ดูเป็นการเล่นระดับ ในส่วนของประตูทางเข้าแบบบ้านนี้จะกว้างมากเลยทีเดียว โดยได้เลือกใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกสีเขียวตัดแสง ใช้กรอบอลูมิเนียมสีชา บานเลื่อนเปิดปิดได้จาก 2 บานตรงกลาง 2 ซ้านขวาเป็นบานตาย บานเลื่อนใช้งานได้ง่ายสะดวกเวลาเข้าออก

โดยที่บริเวณโถงด้านหน้าหากมีการต่อเติมโรงจอดรถก็ให้ทำหลังคายื่นเข้ามาด้านในบริเวณพื้นที่ด้านใต้ของห้องนอนใหญ่ได้เลย โดยเชื่อมต่อคานเหล็กติดกับเพดานแล้วทำโครงยื่นต่อไปถึงส่วนของหน้าบ้านได้เลย การต่อเติมโรงจอดของแบบบ้านหลังนี้จะประหยัดงบไปได้เยอะเลยทีเดียว

 

เมื่อเข้าบ้านโซนแรกที่ผู้ซื้อจะพบก็คือโซนรับแขก มีขนาดพื้นที่กว้างขวาง ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ชั้นดี มีทั้งความสวยงามและทนทานควบคู่กันไป มีหน้าต่างบานยาวไว้ใช้รับแสง พร้อมด้วยกระจกสีเขียวตัดแสงเพื่อป้องกันรังสียูวี เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนภายในบ้านนั่นเอง 

 

สำหรับการตกแต่งนั้น ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อโซฟาที่ใช่ Built-in ที่ชอบเข้ามาตกแต่งได้เลย ที่แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั่วไปก็เพราะว่า ผู้ซื้อจะสามารถประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้เยอะมาก เพราะBuilt-in จะออกแบบพื้นที่ตามสัดส่วนจริง นอกจากนี้แล้ว เฟอร์นิเจอร์ Built-in ยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างความสวยงามให้กับตัวบ้านอีกด้วย

 

โซนถัดมาจากโซนรับแขกนั่นก็คือโซนรับประทานอาหาร ซึ่งแบบบ้าน BALINA7 (BV7) มีการออกแบบพื้นที่ให้มีความกว้างขวางสะดวกสบายต่อผู้ซื้อ มีการปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ชั้นดี เรียกได้ว่าแข็งแรงและทนทาน โดยบริเวณโซนรับประทานอาหารจะมีหน้าต่างบานยาว 2 บาน ซึ่งใช้รับแสงซึ่งใช้กระจกตัดแสงสีเขียว ป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้เป็นอย่างดี ซึ่งเวลารับประทานอาหารกลางวัน ก็สามารถรับแสงธรรมชาติได้เลย ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ ตรงนี้ทำให้ผู้ซื้อประหยัดพลังงานในบ้านได้

 

ถัดมาเป็นโซนห้องครัว ดูเผินๆ เหมือนกับแบบบ้าน BALINA5 (BV5) แต่จริงๆ แล้ว แบบบ้าน BALINA7 (BV7) มีการออกแบบครัวให้มีขนาดกว้าง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยในครัวมากยิ่งขึ้น โดยตรงนี้ผู้ซื้อสามารถตกแต่งโดย Built-in ได้ตามใจชอบ โดนโซนห้องครัวของแบบบ้านนี้เหมาะสำหรับการทำเคาน์เตอร์รูปตัวแอล(L) ซึ่งเป็นส่วนโค้งเว้าของบ้านพอดี ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย 

 

มาในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง แบบบ้าน BALINA7(BV7) มีห้องน้ำ 2 โดย ห้องเริ่มจากห้องน้ำชั้น 1 กันก่อน ห้องน้ำชั้น 1 มีการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติผสมผสานกับความทันสมัย ใช้กระเบื้องสีเข้มตัดกับสีอ่อนเพื่อความสวยงาม เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ใช้ห้องน้ำ วัสดุอุปกรณ์ใช้วัสดุที่มีความเป็นมาตรฐานอย่าง COTTO เรียกได้ว่า สวยงามและมีคุณภาพแน่นอน

 

ถัดมาเป็นพื้นที่โซนหลังบ้าน จะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีขนาดกว้าง หากผู้ซื้อไม่ชอบทำอาหารภายในบ้านเพราะกังวลเรื่องกลิ่น ผู้ซื้อก็สามารถต่อเติมเป็นครัวหลังบ้านได้ หรือจะจัดเป็นสวนหลังบ้านก็นับว่าเหมาะสม โดยอาจจะหาต้นไม้สวยงามมาวางประดับตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้าน 

ด้านหลังบ้านทางโครงการก่อกำแพงสูง 1.50 เมตร กั้นระหว่างบ้าน ทางโครงการต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง พร้อมกับลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย ผู้ซื้อสามารถต่อเติมเพิ่มโครงหลังคาได้เลย สามารถตกแต่งเพิ่มเติมปรับให้เป็นโซนซักล้างหรือโซนครัวหลังบ้าน จะเลือกเป็นแบบครัวเปิดโล่ง ครัวปิดทึบก็ได้เช่นกัน 

ด้านหลังของบ้านจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้วเช่น

บ่อดักไขมัน : บ่อดักไขมันสามารถกำจัดไขมันที่สะสมภายในครัวเรือนได้มาก ช่วยทำให้ท่อระบายน้ำหายอุดตันจากครัวได้ 
บ่อบำบัดน้ำเสีย : ช่วยกรองของเสียและสิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะทำการปล่อยลงสู่ระบบสาธารณะ
บ่อพักระบายน้ำทิ้ง : บ่อพักน้ำเพื่อระบายน้ำทิ้ง มีไว้สำหรับพักน้ำจากท่อน้ำทิ้งของบ้านทั้งหมด และส่งน้ำออกไปที่ท่อระบายน้ำใหญ่

 

หลังจากพาชมชั้น 1 กันแล้ว เราไปชมชั้น 2 กันบ้าง โดยทางขึ้นชั้น 2 จะแตกต่างกับบ้าน BALINA5 (BV5) ซึ่งจะอยู่บริเวณโซนรับแขกกับโซนรับประทานอาหาร แต่แบบบ้าน BALANA7 (BV7) ทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ขนานไปกับแนวกำแพง ทำให้ประหยัดพื้นที่ แถมยังทำให้มีพื้นที่โซนรับแขกเพิ่มขึ้นได้อีก ในส่วนของตัวบันไดนั้นถูกออกแบบให้มีทางขึ้นโค้งรับกับมุมของบ้าน โดยใช้วัสดุเนื้อแข็งแถมขั้นบันไดมีความกว้างขึ้น-ลงสะดวก ราวจับบันไดมีตั้งแต่ขั้นที่ 3 ไปถึงขั้นสุดท้ายของชั้น 2 

 

เบรคเกอร์ของบ้านจะอยู่ที่โถงชั้น 2 บริเวณด้านบนหน้าประตูห้องน้ำ โครงการนี้เลือกใช้เบรคเกอร์ยี่ห้อ SIEMENS เลือกใช้ของดีมีคุณภาพมาให้ใช้งาน

 

หลังจากขึ้นมาบริเวณชั้น 2 แล้ว ห้องแรกที่เราจะพบก็คือห้องนอนหลักของบ้านที่เรียกว่าห้อง Suite Master Bedroom มีการออกแบบให้มีความกว้างมากกว่าแบบบ้าน BALINA5 (BV5) ภายในห้องถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน นั่นคือ โซนห้องนอน และ โซนแต่งตัว โดยทั้ง 2 โซนมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เหมือนกัน โดยเป็นหน้าต่างที่ใช้กระจกตัดแสงสีเขียวป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้เป็นอย่างดี 

ในส่วนของพื้นห้องถูกออกแบบให้ใช้พื้นไม้ลามิเนตสีเข้มเพิ่มความสวยงามและความเป็นธรรมชาติให้กับตัวห้อง สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบธรรมชาติเป็นส่วนตัวอยู่แล้วต้องชอบใจกันมากเลยทีเดียว

 

บริเวณด้านนอกของห้องนอนใหญ่จะมีการตกแต่งเป็นระเบียงที่มีรั้วกั้นที่ดูสวยงาม แต่ระเบียงนี้จะออกไปยื่นด้านนอกไม่ได้ โครงการตกแต่งเพื่อให้ดูสวยงามจากภายนอกเท่านั้น อาจจะต้องตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการห้อยกระดิ่งลม หรือจะเป็นบ้านลังนกเล็กๆ หรือจะเลือกเป็นโมบายไม้ที่เป็นนกเคลื่อนไหวได้เมื่อกระทบกับลมยามเย็นก็ดูสวยงามสไตล์บาหลีได้

ในโซนห้องนอนผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้ามาประดับตกแต่งได้เองตามใจชอบ ในส่วนของโซนแต่งตัวนั้นขอแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in เพราะผู้ซื้อจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่สัดส่วนจริงของห้องทำให้ผู้ซื้อประหยัดพื้นที่ไปได้มากพอสมควร เช่นใช้กระจกบานใหญ่เต็มบาน ใช้ตู้ที่มีความสูงติดเพดานเพื่อจะได้เก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น เพราะถ้าเหลือพื้นที่ไปผู้ซื้อก็ไม่สามารถเอาไปทำอย่างอื่นได้จริงไหม

 

ถัดจากห้อง Suite Master Bedroom จะขอพูดถึงห้องน้ำที่ 2 ของบ้านกันบ้าง ซึ่งเป็นห้องน้ำชั้นบน การตกแต่งเลือกใช้กระเบื้องพื้น และผนังห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องขนาดเดียวกัน เบ่งเป็น 3 เฉดสีคือ กระเบื้องผนังใช้สีน้ำตาลเข็ม ตัดกับผนังสีครีม และพื้นห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องผิวหยาบสีเทาเข้ม ทางเข้าห้องน้ำจะมีธรณีประตูเป็นหินแกรนิตสีดำติดมาให้ที่ประตูด้วย ส่วนภายในห้องน้ำชั้นบนมีอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ครบถ้วนพร้อมใช้งาน มีอ่างล้างหน้าเป็นทรงสีเหลี่ยมแนวยาว มีช่องเก็บของด้านใต้อ่าง และมาพร้อมกับกระจกเงาบานสี่เหลี่ยม และโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Morgen มีที่ฉีดน้ำพร้อมใช้งาน

 

ภายในห้องน้ำได้มีการแยกโซนเปียกโซนแห้งไว้ให้ เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อ โซนอาบน้ำแบบบ้านหลังนี้มีพื้นที่กว้างกว่าแบบแรกเล็กน้อย พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจะใช้เป็นโซนอาบน้ำซึ่งจะมีตู้กระจกบานเลื่อน เป็นแนวตรงขนานไปกับความลึกของห้องน้ำ บานเลื่อนใช้งานโดยเลื่อนได้จากด้านขวาของบานเลื่อน ประตูบานเลื่อนเป็นแบบที่ออกแบบมาให้พอดีกับห้องน้ำชั้นบน ซึ่งจะมีความคงทนแข็งแรงมากกว่าประตูสำเร็จรูปทั่วไป แถมยังใช้งานได้ดีเลื่อนได้สะดวกมากๆ

 

ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 2 มีขนาดความกว้างเหมาะสำหรับ 1 คน ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีเข้มเพื่อให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีหน้าต่างบานใหญ่ 1 บาน (หน้าต่าง 2 บานเฉพาะหลังมุม) เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง โดยหากผู้ซื้อมีบุตรก็ควรจัดเป็นห้องของบุตร โดยสามารถจัดแต่งให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็กวัยเรียนได้ โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น โต๊ะทำการบ้านมาจัดวางเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับห้องให้ดูน่าใช้งาน

 

ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 3 มีลักษณะเหมือนกับห้องนอนที่ 2 คือมีการปูพื้นด้วยลามิเนตสีเข้ม ใช้ผนังสีขาว เรียกได้ว่าเป็นความผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความเป็นธรรมชาติกับความเป็นสมัยใหม่ ในกรณีที่ผู้ซื้อมีบุตรคนเดียวอาจจะจัดให้ห้องนี้เป็นห้องทำงานก็นับว่าเหมาะสม โดยอาจจะใช้ เฟอร์นิเจอร์ Built-in จัดแต่งให้เป็นโต๊ะทำงาน หรือถ้าหากใครอยากจะจัดเป็นห้องพระก็ได้ โดยอาจจะจัดโต๊ะหมู่ภายในห้อง แต่ถ้าอยากให้เป็นห้องนอนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยอาจจะจัดให้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้าน ก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก

 

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ

►เส้นทางจากโครงการไป มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (20-30 นาที)

​

 

►เส้นทางจากโครงการไป มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ABAC (20-30 นาที)

​

 

►เส้นทางจากโครงการไป ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ (30-40 นาที)

 

►เส้นทางจากโครงการไป สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อ่อนนุช E9 (20-30 นาที)

 

►เส้นทางจากโครงการขึ้นทางด่วนไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (25-40 นาที)

 

แนะนำเส้นทางไปขึ้นทางด่วน ที่ใกล้กับโครงการ

►เส้นทางจากโครงการ ไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  (10-15 นาที)

 

►เส้นทางจากโครงการ ไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช (15-20 นาที)

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายใต้ Concept ของความเป็นธรรมชาติแบบบาหลีสไตล์ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ชีวิตของผู้ซื้อทุกคน โดยเน้นให้เป็นพื้นที่สีเขียว ไม่ว่าจะเป็น สวนสาธารณะ พร้อม Jogging Track ในพื้นที่เปิดโล่งให้สูดอากาศดีๆ ได้เต็มปอด นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น อาคารอเนกประสงค์ ฟิตเนส รวมไปถึงสระว่ายน้ำด้วย เรียกได้ว่าถูกใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว

 

โซนแรกที่จะพูดถึงก็คือโซนสวนสาธารณะ โดยเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ หรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับเด็กๆ ได้วิ่งเล่นก็ยังได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกายก็ได้ เพราะว่าภายในบริเวณสวนสาธารณะ มี Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายด้วย สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายแบบ Outdoor สูดอากาศได้เต็มปอดก็จะรออะไรหละ จะดีแค่ไหนถ้าคุณเลิกงานแล้วอยากออกกำลังกายขึ้นมา คุณสามารถออกกำลังกายในละแวกบ้านของตัวเองได้เลย เหมาะมากๆ สำหรับคนรักสุขภาพ แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ก็ลองอ่านรีวิวกันต่อเลย เพราะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรออยู่อีกเพียบ

 

บริเวณรอบๆ สวนสาธารณะ มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ขนาดกลาง และไม่พุ่มต่างๆ มีอยู่ตลอดแนวรอบสวนสาธารณะของโครงการ พร้อมกับมีที่นั่งสำหรับการพักผ่อนริมสวนสาธารณะอยู่เป็นช่วงๆ เพื่อให้ได้นั่งพักผ่อน และใช้ทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วย

 

ในพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะ ใกล้กับคลับเฮ้าส์ของโครงการ จะมีบอร์ดสำหรับติดป้ายประกาศต่างๆของโครงการ สำหรับสมาชิกในโครงการ ในอนาคตจะเป็นบอร์ดสำหรับติดป้ายประกาศนิติบุคคลของหมู่บ้านนั้นเอง

 

โซนต่อมาที่กำลังจะพูดถึงนี้เรียกได้ว่าถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน นั่นคือโซน คลับเฮ้าส์ ภายในจะมีโถงนั่งรับแขก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส การตกแต่งมีลักษณะเดียวกันกับตัวบ้านในโครงการ ออกแบบสไตล์บาหลี รูปทรงของตัวอาคารเป็นกึ่งไทยประยุกต์

 

ด้านข้างของคลับเฮ้าส์ จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ โดยสระว่ายน้ำของที่นี่ไม่ได้มีแค่สระของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีสระของเด็กด้วย เรียกได้ว่าถูกใจคุณหนูๆ เลยทีเดียว โดยโซนสระว่ายน้ำเหมาะสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย ต้องบอกเลยว่าใครมาอยู่ที่พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช ครบเครื่องเรื่องบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกจริงๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติในทุกย่างก้าวของชีวิต 

 

โซนถัดมาที่จะขอพูดถึงยังเอาใจคนรักสุขภาพเช่นเคย นั่นคือ โซนของฟิตเนส ตรงนี้คงจะถูกใจหลายๆ คนกันเลย โดยเฉพาะผู้ซื้อที่เป็นผู้ชาย สำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายแบบ Outdoor ก็สามารถมาใช้บริการที่นี่ได้เลย หรืออาจจะสลับวันกันก็ได้ เช่นออกกำลังแบบ Cardio ข้างนอก ส่วนเวลาฟิตเนสก็เอาไว้เน้น Weight Training ก็นับว่าเป็นความฟินอีกแบบ ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้นและไม่เบื่อ เนื่องจากมีกิจกรรมที่ค่อนข้างหลากหลาย

ถนนหลักของโครงการมีความกว้างมากกว่า 16 เมตร และมีพื้นที่จอดรถไหล่ทางได้ทั้ง 2 ฝั่ง

 

ถนนในซอยของโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช มีความกว้าง 8 เมตร

 

นอกจากทางโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช จะใส่ใจในเรื่องของการออกแบบบ้านแล้ว ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดของโครงการอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย ดังนี้

• เข้า-ออก โครงการ ด้วยระบบประตูล็อค 2 ชั้น พร้อมระบบ Auto Access Card 
• ดูแลทุกชีวิตไม่ให้คลาดสายตาด้วยกล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate)
• Security Guard พร้อมตรวจตราและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

 

กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate)

 

คลิกเพื่อดูแผนที่ใหญ่ โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

 

สรุปโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช

โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช เป็นโครงการที่อยู่ใจกลางพัฒนาการ โดยมีจุดเด่นคือ มีจุดเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักหลายสายสามารถเข้าออกเมืองได้ง่ายจึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ แต่เบื่อบรรยากาศของเมือง เพราะโครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช ออกแบบสไตล์บาลีน่า เน้นความงดงามและเสน่ห์แบบบาหลีสไตล์ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศรีสอร์ทธรรมชาติ นอกจากแรงบันดาลใจจากบาหลีแล้ว ยังผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย 

ด้วยความโดดเด่นการออกแบบและทำเลที่เป็นต่อ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งระบบขนส่งมวลชน รวมถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็เรียกได้ว่าสะดวกสบาย ผ่านทั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และสถานีรถไฟฟ้า BTS โดยเฉพาะ BTS สถานีอ่อนนุช (E9) ที่ห่างจากโครงการเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น สำหรับรถยนต์ส่วนตัวยังมีความสะดวกสบายด้วยทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ จากโครงการไปยังทางขึ้นทางด่วน ใช้เวลาเพียง 10 -15 นาทีเท่านั้น และทางพิเศษศรีรัช ที่ใช้เวลาเดินทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วน 15 - 20 นาที ผู้ซื้อสามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อีกด้วยโดยใช้เวลาเพียง 25 - 40 นาที เท่านั้น ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะสำหรับคนเมืองในทุกสายอาชีพ โดยเฉพาะครอบครัวช่วงเริ่มต้นที่ต้องการพื้นที่แบบเป็นส่วนตัว พฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38 - อ่อนนุช จึงเป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งตัวเลือกเลยทีเดียว

 

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

โครงการพฤกษาวิลล์ พัฒนาการ38-อ่อนนุช