
บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เตรียมเปิด 5 โครงการใหม่ปีนี้ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ประเดิมโครงการแรก "ครอสทู พัทยา โอเชี่ยนเฟียร์" พูลวิลล่าสุดหรูริมชายหาด พร้อมบริการเต็มรูปแบบเสมือนโรงแรม 5 ดาว บนซอยนาจอมเทียน 56 มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท การันตีผลตอบแทนสูง มั่นใจยอดขายสวนกระแสเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายการลงทุนมายังตลาดกรุงเทพ เน้น Low-rise luxury condominium ทำเลใจกลางเมือง
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ประสบการณ์แห่งการพักผ่อนรวมถึงการลงทุนที่คุ้มค่าและไม่เหมือนใคร เปิดเผยถึงแผนธุรกิจบริษัทในปี 2560 บริษัทมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยมีกลยุทธ์ด้านการลงทุนในทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะเปิดต่อเนื่องในเขตพัทยา เนื่องจากได้ศึกษาตลาดท่องเที่ยวในพัทยาพบว่ายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยใน 10 เดือนแรกของปี 2559 มีอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) โดยเฉลี่ยเดือนละ 75% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ดังนั้น บริษัทฯ จึงเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในพัทยา ยังมีช่องว่างของตลาดอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ทั้งในและรอบๆ พัทยา ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายตัวของเมืองพัทยา ทำให้การเดินทางเข้าสู่พัทยาสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น อานิสงส์จากพัฒนาสาธารณูปโภคนี้ ส่งผลต่อการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นในอนาคตและมีการขยายจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่รอบๆ เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเมือง จะเห็นได้ว่ากลุ่มทุนต่างๆ ทั้งในประเทศ กลุ่มเชนโรงแรมใหญ่ๆ และกลุ่มนักลงทุนจากจีน เริ่มหันเข้ามาลงทุนในพัทยามากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญ เช่น
1. การขยายสนามบินอู่ตะเภา และการเปิดสายการบินระหว่างประเทศ บินตรงมายังอู่ตะเภา ทั้งจากจีน, มาเลเซีย, ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งจากรัสเซีย ที่จะเริ่มเปิดให้บริการในปีนี้
2. การขยายมอเตอร์เวย์กรุงเทพ - พัทยา โดยส่วนขยายที่กำลังก่อสร้างอยู่นี้จะมีทางออกที่มาถึงสัตหีบและนาจอมเทียนโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองพัทยา
3. โครงการเรือไฮสปีดเฟอร์รี่ระหว่างพัทยา - หัวหิน - กรุงเทพ ซึ่งจะเปิดให้บริการการเดินเรือเส้นทาง ระหว่างพัทยา - หัวหิน ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้และคาดว่าจะวิ่งได้ครบทุกเส้นทางในปีถัดไป
4. โครงการรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพ - พัทยา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ หากสร้างเสร็จจะทำให้การเดินทางมาพัทยา ใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น
5. พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวในประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งและท่าเรือขนส่งสินค้าสำคัญ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมเหมราช ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด จึงทำให้มีจำนวนประชากรแฝง และอัตราการเข้าพักในเมืองพัทยาและเขตรอบๆ อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 นี้ บริษัทฯ มีแผนเริ่มเข้ามาลงทุนในตลาดกรุงเทพ โดยเน้นไปที่ Low-rise luxury condominium ทำเลใจกลางเมือง โดยเน้นทำคอนโดที่ขนาดไม่ใหญ่มาก จำนวนยูนิตไม่เยอะ มีความเป็นส่วนตัวสูง เน้นดีไซน์โมเดิร์นเรียบหรู ทำเลโดดเด่นและทำเลหายากรอบๆ CBD เช่น วิทยุ สุขุมวิท เป็นต้น เพราะบริษัทฯ เชื่อว่าที่ดินบนทำเลเหล่านี้ซึ่งมีอยู่จำกัด เป็นที่ต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน
โดยโครงการปัจจุบันที่เปิดตัว คือ X2 Pattaya Oceanpher (ครอสทู พัทยา โอเชี่ยนเฟียร์) พูลวิลล่า ตากอากาศสุดหรูพร้อมอยู่สไตล์ โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ รีสอร์ท มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท วิลล่าในโครงการออกแบบทิศทางของอาคารให้ทุกยูนิตสามารถรับลมจากฝั่งทะเล และมีความเป็นส่วนตัว โดยยกระดับของบ้านให้ลดหลั่น นอกจากนี้ยังมีการให้บริการเต็มรูปแบบเสมือนอยู่ บูทีค รีสอร์ทภายใต้แบรนด์ ครอสทู ซึ่งปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 40 % โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นการซื้อเพื่อลงทุน 100% ตั้งเป้าปิดยอดขายได้ทั้งหมดภายในปี 2561
ส่วน Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ติดชายหาด บนทำเลซอยนาจอมเทียน 18 มูลค่าโครงการ 700 ล้าน ซึ่งพรีเซลล์ไปเมื่อต้นเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา และมียอดจองไปแล้วกว่า 60% ภายในเวลา 4 เดือน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมค่อนข้างชะลอตัว โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ในปีที่ผ่านมา แต่พบว่ากลุ่มลูกค้า 100% เป็นคนไทย ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ จากข้อมูล 2 โครงการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่ายังมีกำลังซื้อของผู้บริโภคอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งมองหาแหล่งลงทุน โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายจาก 2 โครงการ จำนวน 700 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 061-754-8222 หรือ www.x2pattaya.com