ปปง. แบงก์ชาติ และสมาคมธนาคารไทยเริ่มแล้ว ฝากเงินหรือจ่ายบิลผ่านตู้อัตโนมัติ CDM หรือ ADM ต้องแสดงตนมีสองตัวเลือก ใช้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ทำรายการได้ทันที กับใช้บัตรประชาชนและเบอร์มือถือเพื่อขอรับ SMS OTP พบต้องรอข้อความบนมือถือนาน
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สมาคมธนาคารไทย จึงได้ร่วมกันพิจารณาวิธีการแสดงตนของผู้ฝากเงินสดผ่านตู้ CDM โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้บริการ และไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น การแสดงตนของผู้ฝากเงินสดผ่านตู้ CDM* สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ
1. ผู้ฝากเงินใส่หมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของตน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และรหัส OTP (One-Time Password) ที่ได้รับ โดยมีวงเงินฝากสูงสุด 30,000 บาท ต่อครั้ง (รวมค่าธรรมเนียม)
2. ผู้ฝากเงินใช้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของตน ร่วมกับรหัสส่วนตัว (PIN) โดยมีวงเงินฝากสูงสุด 100,000 บาท ต่อครั้ง (รวมค่าธรรมเนียม)
ทั้งนี้การแสดงตนที่ตู้ CDM ด้วยวิธีการดังกล่าว เริ่มใช้ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป โดยในระยะต่อไป ปปง. ธปท. และสมาคมธนาคารไทย จะประเมินผลการดำเนินการ เพื่อพัฒนาทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขการให้บริการสามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ของธนาคารที่ใช้บริการ
จากการตรวจสอบกระบวนการยืนยันตัวตนของตู้ฝากเงินอัตโนมัติของแต่ละธนาคาร พบว่าหากทำรายการด้วยบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต จะมีรูปแบบคล้ายกับการถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม เพียงแต่เป็นการยืนยันตัวตนระหว่างทำธุรกรรมเท่านั้น เมื่อทำการฝากเงินไปยังบัญชีปลายทางแล้วเสร็จจะได้รับบัตรคืนและใบบันทึกรายการ ส่วนการฝากเงินด้วยเลขที่บัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือ พบว่าจะต้องรอ SMS OTP เข้ามาในโทรศัพท์มือถือ จากการสำรวจบนโซเชียลฯ พบว่าบางรายใช้เวลารอ SMS OTP เป็นเวลานานกว่าจะได้ยืนยันตัวตนและฝากเงินในที่สุด
สำหรับมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการใช้เป็นช่องทางการฟอกเงิน จากการก่ออาชญากรรม ยาเสพติด และการพนัน รวมถึงการทำธุรกรรมหลอกลวงทางการเงิน เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มมิจฉาชีพหลอกขายสินค้า ขณะเดียวกัน เพื่อให้การทำธุรกรรมเงินสดมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทั้งต้นทางและปลายทาง รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้ประชาชนในการทำธุรกรรมและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบการเงิน ที่ผ่านมา ปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เคยเตรียมยืนยันตัวตนด้วยบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2565) แต่ถูกกระแสสื่อสังคมออนไลน์ต่อต้าน กระทั่งมีการเพิ่มช่องทางยืนยันตัวตนผ่าน SMS OTP เข้ามาอีกตัวเลือกหนึ่ง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของผู้ฝากเงิน สามารถใช้บัตรธนาคารอะไรก็ได้ในการทำรายการ ยกเว้นบัตรเติมเงิน หรือพรีเพดการ์ด (Prepaid Card) เนื่องจากไม่รองรับ ขณะที่นิสิต นักศึกษาที่มีบัตรประจำตัวพ่วงบัตรเดบิต หรือบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งบัญชีธนาคารที่ผูกกับบัตรมีสถานะปกติ สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานแสดงตนได้โดยไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการออกบัตรใหม่แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีบางธนาคารออกผลิตภัณฑ์บัตรเดบิต หรือบัตรเอทีเอ็มที่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีถูกกว่าท้องตลาด บางธนาคารไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
โครงการใหม่
