
ภาษีที่ดินแพง ดันราคาพุ่ง ซื้อขายเปลี่ยนมือขึ้นกว่า 20% แตะ 8 แสนไร่ ต่างจังหวัดแซงหน้ากรุงเทพฯ ด้านเอกชนทยอยปรับพอร์ตทั้งขายทิ้ง ทำตลาดระหว่างรอพัฒนา
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีแลนด์แบงก์ในมือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด และจากการที่ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเก็บในอัตรา 100% ทำให้มีภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้บริหารจัดการ โดยแปลงไหนที่ยังไม่ขึ้นโครงการ จะให้เช่าหรือทำตลาด และมีบางแปลงนำออกมาขาย โดยบางทำเลขายก็ได้ แต่ก็มีบางทำเลที่ราคาสูงจะยังขายไม่ได้

“ในทางคู่ขนานบริษัทได้ประกาศซื้อที่ดินเพิ่มด้วย เพื่อพัฒนาโปรดักต์ให้สอดรับกับตลาด เช่น ที่ดินบางแปลงราคาแพง เหมาะพัฒนาระดับลักชัวรี่ จะนำมาพัฒนาระดับราคา 2-3 ล้านบาทคงไม่ได้ ต้องหาซื้อที่ดินแปลงใหม่พัฒนา อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังไม่ดี รัฐควรจะเก็บภาษีที่ดินแบบขั้นบันได เพราะสุดท้ายผู้ประกอบการจะผลักภาระไปยังผู้บริโภคด้วยการขึ้นราคา รอให้เศรษฐกิจดีแล้วค่อยกลับมาเก็บ 100% ก็ได้” นายปิยะกล่าว
ขณะนี้บริษัทรับซื้อที่ดินเพื่อทำโครงการจัดสรร ในหลายพื้นที่ เช่น จ.นนทบุรี บางบัวทอง ถ.วัดลาดปลาดุก วัดส้มเกลี้ยง สะพานพระราม 5-นครอินทร์ ถ.ราชพฤกษ์, สมุทรปรากามีเทพารักษ์ แพรกษา, กรุงเทพฯ มีรามอินทรา คู้บอน พระยาสุเรนทร์ สุขาภิบาล 3 ราษฎร์พัฒนา ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า โชคชัย 4 นาคนิวาส ลาดพร้าว 101 พระราม 9 พัฒนาการ ศรีนครินทร์ รับซื้อเนื้อที่ 2.5 ไร่ ขึ้นไป
ด้านบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ได้ประกาศซื้อที่ดินด่วนในหลายทำเล ขนาดเนื้อที่ 2.5 ไร่ เช่น สาทร ซอยเซนต์หลุยส์ สวนพลู สุขุมวิทตั้งแต่อโศกถึงสุขุมวิท 61

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเปล่าทั่วประเทศในช่วงครึ่งปี 2565 มีปริมาณการโอนถึง 806,993 ไร่ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.1% ที่มีปริมาณการโอนฯ 671,776 ไร่ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 14.5% และในภูมิภาค 20.4% แต่พบว่ามูลค่าการโอนที่ดินเปล่าในภาพรวมทั่วประเทศกลับลดลง -12.8% โดยลดลงเหลือ 333,585 ล้านบาท จาก 382,522 ล้านบาทในครึ่งแรกปี 2564 ซึ่งเป็นการลดลงในส่วนของภูมิภาคที่มีการลดลงถึง -25.7% แต่สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล กลับเพิ่มขึ้น 20.2%
“ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่ามีการเปลี่ยนมือของการถือครองในที่ดินมากขึ้นกว่าปีก่อนทั่วประเทศ น่าจะเป็นผลจากการที่จะต้องมีชำระภาษีที่ดินเต็มอัตราในปี 2565 แต่มีข้อสังเกตว่าการที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ในภูมิภาคลดลงมาก ทั้งที่มีปริมาณการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นน่าจะเกิดจากการโอนในกลุ่มที่ดินมีมูลค่าต่ำจากการขายและการเปลี่ยนผู้ถือครอง เพื่อลดภาะภาษีจากการถือครองของเจ้าของที่ดิน ทั้งนี้ หากเทียบช่วงก่อนและช่วงหลังโควิดปริมาณและมูลค่าการซื้อของภาพรวมทั่วประเทศไม่แตกต่างกันมากนัก แต่จะเกิดผลกระทบมากในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่ลดลง 11% ทั้งปริมาณและมูลค่าการโอน” นายวิชัยกล่าว