เนื่องจากวันที่ 8 สิงหาคม จะตรงกับวันแมวโลก วันนี้เราจึงมีเรื่องแมวๆ มานำเสนอเป็นพิเศษกันครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดของการเลี้ยงสัตว์เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ยังไงให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข เพราะสุขภาพจิตของสัตว์เลี้ยงคือสิ่งสำคัญมากๆ ครับ ไม่ใช่แค่คน แต่เป็นสัตว์ด้วย ถ้าสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตาม มีความสุข แฮปปี้เอนดิ้ง เย้ !!! แล้วอะไรบ้างล่ะครับ ที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข ไปดูกันเลย
1. มีมุมให้นั่งกินลมชมวิว
สำหรับที่นั่งชมวิวของเจ้าเหมียวตามเมืองนอกมักจะนิยมทำ screened porch หรือระเบียงเล็ก ๆ ที่คล้ายกับเรือนกระจกหน้าบ้านเอาไว้ให้เจ้าเหมียวนั่งกินลมชมวิว มองนกในสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งจะทำให้เจ้าเหมียวปลอดภัยกว่าการออกไปนั่งเล่นนอกบ้าน หากทาสแมวคนไหนที่มีงบน้อย สามารถทำที่ชมวิวแบบง่าย ๆ ได้ด้วยการติดชั้นวางของติดผนังตามขอบหน้าต่างแล้วหาเบาะนุ่ม ๆ มาวาง แค่นี้ก็จะได้มุมชมวิวให้เจ้าเหมียวแล้ว
2. วางคอนโดแมวให้เจ้าเหมียวลับเล็บ
อีกปัญหาหนึ่งที่ทาสแมวต้องเจอก็คือ รอยขีดข่วนตามเฟอร์นิเจอร์อันมาจากคมเล็บของเจ้าแมว ไม่ใช่ว่าพวกมันนิสัยเสีย ชอบทำลายข้าวของอะไรหรอกนะ แต่นั่นเป็นธรรมชาติของเจ้าเหมียวที่ต้องลับเล็บตลอดเวลา ดังนั้นแล้วทาสแมวควรหาที่ลับเล็บมาไว้ให้เจ้าเหมียวด้วย ซึ่งคอนโดแมวก็ตอบโจทย์เป็นอย่างดี เจ้าเหมียวจะได้ทั้งปีนป่ายเล่นและลับเล็บไปพร้อม ๆ กัน สามารถซื้อหาได้ตามร้านเพ็ทช็อปหรือจะ DIY เองก็ไม่ยาก
3. มีของเล่นหลากหลาย
แมวที่เลี้ยงแบบปล่อยจะมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ที่ค่อนข้างเร็วกว่าแมวที่เลี้ยงในบ้าน เนื่องจากได้ออกไปสำรวจและทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างอิสระ สำหรับเจ้าเหมียวที่อยู่ในบ้านนั้นจะมีข้อกำจัดในเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้เจ้าของสามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของเจ้าเหมียวได้ด้วยของเล่น โดยให้เลือกของเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ล่อแมว ตุ๊กตาหนู หรืออาจจะเป็นของที่หาได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ถุง หรือ กล่อง เป็นต้น
4. ปลูกหญ้าแมวให้เจ้าเหมียวเคี้ยวเล่น
ทาสแมวหลายคนคงจะคุ้นเคยและรู้กันดีว่า เจ้าเหมียวจะชอบดมและเคี้ยวต้นหญ้าหรือต้นไม้เล็ก ๆ เล่นเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเอง สำหรับบ้านหรือคอนโดที่ไม่มีสนามหญ้าให้เจ้าเหมียวได้ออกไปเคี้ยวเล่น ให้ปลูกหญ้าแมวใส่กระถางเล็กตั้งไว้ในบ้านแทน ซึ่งต้นไม้ที่แมวชอบกิน ได้แก่ ต้นไผ่เงิน ต้นข้าวสาลีอ่อน เป็นต้น
5. เปิดทีวีให้ดู
แมวเป็นสัตว์ที่สนใจและตื่นตัวกับสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ อย่างใบไม้และนกบนต้นไม้ข้างหน้าต่างพวกเจ้าเหมียวอาจนั่งมองได้นานสองนาน แต่สำหรับตามหน้าต่างคอนโดสูงอาจจะไม่มีนกไม่มีใบไม้ให้แมวได้นั่งมอง ซึ่งภาพเคลื่อนไหวในทีวีก็ทำให้พวกเจ้าเหมียวนั่งดูเพลิน ๆ ได้เหมือนกัน
6. มีเวลาเล่นด้วย
เนื่องจากแมวเป็นสัตว์สังคมและชอบเล่น เจ้าของก็ควรมีเวลามาเล่นกับเจ้าเหมียวทุกวัน ไม่ใช่ปล่อยให้เจ้าเหมียวเล่นกับของเล่นแค่อย่างเดียว ของเล่นแมวมีเท่าไรก็ขนออกมาเล่นกับเจ้าเหมียวให้หมดค่ะ ยิ่งหลากหลายเจ้าเหมียวยิ่งชอบ จะได้เล่นของเล่นหลายแบบและไม่เบื่อด้วย
7. พาออกไปเปิดหูเปิดตา
การเลี้ยงแมวในบ้านไม่ใช่ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในบ้านอย่างเดียว แต่ควรพาเจ้าเหมียวไปเปิดหูเปิดตาบ้าง สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านที่สุนัขไม่เพ่นพ่าน ก็สามารถจูงเจ้าเหมียวไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะได้ โดยก่อนจะพาเจ้าเหมียวออกไปเดินเล่นนอกบ้านควรจะฝึกให้คุ้นเคยกับการใส่สายจูงคล้องคอตอนเดินซะก่อน หรือถ้าแถวบ้านใครเจ้าถิ่นคุม เจ้าตูบในซอยบ้านเยอะ อาจจะพาเจ้าเหมียวไปขับรถเล่นแทนก็ได้
8. ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
ไม่มีใครรู้ซึ้งถึงกลิ่นมูลแมวได้เท่ากับทาสแมวอีกแล้ว ทรายแมวที่ช่วยดับกลิ่นบางครั้งยังเอาไม่อยู่ สำหรับแมวที่เลี้ยงแบบเปิดอาจจะไม่หนักใจกับเรื่องนี้เท่าไร เนื่องจากเจ้าเหมียวจะออกไปขับถ่ายนอกบ้านอยู่แล้ว วิธีการลดกลิ่นสำหรับแมวที่เลี้ยงในบ้าน สามารถทำได้ด้วยการตักสิ่งขับถ่ายออก เติมและหรือเปลี่ยนทรายแมว หมั่นทำความสะอาดกระบะที่เจ้าเหมียวใช้เป็นประจำ รวมถึงการเลือกอาหารที่ช่วยลดกลิ่นมูลแมวก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้เช่นกัน
9. อาหาร
การเลือกอาหารให้เจ้าเหมียวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ (carnivore) อาหารที่เหมาะสมจึงควรมีสัดส่วนของโปรตีนที่สูงและมีสารอาหารที่ครบคุณค่าตรงตามความต้องการของแมวแต่ละช่วงวัย โดยอาหารที่เลือกจะต้องมีโปรตีนที่ดีมีคุณภาพ อย่างเช่น อาหารแมวสำเร็จรูปที่มีวัตถุดิบหลักจากไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพดี และข้าวแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย และร่างกายเจ้าเหมียวสามารถดูดซึมนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้ดี
อย่างที่บอกไว้ครับ สุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งคนทั้งสัตว์ครับ หากสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตาม และจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นครับ และอยากให้ทุกคนที่เลี้ยงสัตว์ภายในบ้าน ไม่ว่าจะหมาหรือแมว หรืออะไรก็ตาม ต้องตระหนักไว้ครับ ว่าเราไปพาเขามาเลี้ยงแล้ว เขาก็ต้องการชีวิตดีๆ เหมือนคนเรานี่แหละครับ เราต้องการความสุขยังไง สัตว์เลี้ยงในบ้านก็ต้องการแบบนั้นครับ เพราะเพื่อนร่วมโลกของเราไม่ได้มีแค่มนุษย์ครับ