เข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว ผมเชื่อเลย ทุกคนประสบปัญหาเดียวกันแน่นอน คือเรื่องของการตากผ้า แดดก็ไม่มี แล้วฝนก็ตกอีก เสื้อผ้าชื้น มีกลิ่นอับแน่นอน เสื้อผ้ามีกลิ่นจนพาลกันไปถึงเรื่องกลิ่นตัวกันเลยทีเดียว เราเองก็ต้องหาวิธีการให้ผ้าไม่อับด้วย แล้วจะทำยังไงล่ะ บางบ้านก็ไม่มีเครื่องอบผ้า แต่เราเองก็มีวิธีการง่ายๆอยู่ครับ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ ว่าจะมีอะไรบ้าง
1. บิด และสะบัดผ้า ให้แห้งที่สุด เท่าที่จะทำได้
สิ่งแรกที่ควรทำมากที่สุด ก็คือการบิดผ้าให้แห้งที่สุด เพราะยิ่งมีน้ำในผ้าน้อยเท่าไหร่ อัตราความแห้งของผ้าก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ที่ซักด้วยมือ ซึ่งนอกจากจะบิดผ้าแล้ว ยังต้องสะบัดผ้าแรงๆ อีกสัก 2-3 ครั้งด้วย
2. ปั่นแห้ง เบอร์แรงสุด
อันนี้สำหรับผู้ที่ซักเครื่องเลยครับ ถึงแม้ว่าการปั่นผ้าแรงๆ จะทำให้ผ้ายับมากขึ้นก็ตาม แต่ถ้าให้ผ้าแห้งไวขึ้น ก็ทำเถอะครับ แล้วค่อยไปรีดเอาทีหลังก็ได้ ก็ยังดีกว่าการปั่นเบาๆ แล้วผ้าไม่แห้งครับ
3. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ฝนตกหนัก ตากผ้าแห้งไม่สนิท ปัญหาที่ตามมาแน่ๆ ก็คือกลิ่นอับ ยิ่งเสื้อผ้าไม่โดนแสงแดด ไม่ผ่านความร้อนเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีกลิ่นอับมากเท่านั้น และสิ่งที่จะแก้ได้ก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มนี่แหละครับ ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้จะช่วยเพิ่มความหอมให้กับชุด และขจัดปัญหากลิ่นอับได้ดีเลยครับ
4. เลือกสถานที่ในการตากผ้าให้ดี
ที่ตากผ้าที่ดีที่สุด คือที่ที่โล่งแจ้งมีแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่หน้าฝนนี่จะหาแดดจากไหนมาตากผ้าล่ะครับ ไม่ต้องพูดถึงเลย ดังนั้นเราจึงต้องหาที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลมผ่านตลอด ไม่โดนเม็ดฝน และมีแสงลอดผ่าย เช่น ห้องโถงว่างๆ หรือพื้นที่โล่งๆ กว้างๆ ครับ
5. รีดผ้าก่อนตาก
เป็นเคล็ดลับสำหรับผู้ที่อยากให้ผ้าแห้งเร็วมากๆ ครับ คือการใช้เตารีด รีดผ้าที่ยังไม่แห้งไปเลยครับ แต่ไม่ใช่รีดผ้าที่เปียกชุ่มนะครับ แค่ผ้าชื้นๆ ก็พอนะครับ และต้องรีดด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ เพราะผ้าอาจจะไหม้ได้ และหลังจากรีดแล้ว ให้นำไปตากลมอีกทีครับ
6. ตากผ้าจ่อพัดลม
วิธีง่ายๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยครับ สำหรับพัดลม ที่ช่วยได้ตลอดกาล ไม่ต้องเปลืองค่าไฟมาก เพราะยังไงค่าไฟก็ไม่แพงเท่าการการเปิดแอร์ แค่เอาพัดลมมาจ่อผ้าที่แขวน แล้วทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งเลยครับ วิธีนี้เหมาะกับชาวหอพัก หรืออพาร์ทเมนต์ครับ หรือถ้าอยากให้เร็วจริงๆ จ่อคอมเพรสเซอร์แอร์เลยก็ได้ครับ
7. เป่าด้วยไดร์เป่าผม
อีกหนึ่งวิธีการสุดคลาสสิคในกรณีที่ผ้าไม่แห้ง ให้เราเปิดไดร์เป่าผมเป่าผ้าให้แห้งได้เลยครับ วิธีการนี้อาจจะช้าสักนิดนึงครับ แต่เชื่อได้เลยว่าผ้าแห้งแน่นอน ก็ผมแห้งได้แล้วทำไมผ้าจะแห้งไม่ได้ล่ะครับ จริงไหมล่ะ
ปัญหาเรื่องกลิ่นเสื้อผ้า มักถูกเหมารวมไปกับเรื่องกลิ่นตัวอยู่เสมอ แค่เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็น กลิ่นอับ เขาก็ว่าเราตัวเหม็นได้แล้ว ฉะนั้น การดูแลเสื้อผ้าให้ไม่มีกลิ่นอับ ก็ย่อมต้องส่งผลกับบุคลิกภาพของเราด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมากๆ ครับ ว่าแล้วก็อย่าลืม ดูแลเรื่องเสื้อผ้า อย่าให้อับกันด้วยล่ะครับ