
แต่งห้องคอนโดขนาดเล็ก สไตล์ตามใจเรา โดยไม่ต้องพึ่งบิวต์อิน
การที่จะหาที่อยู่สักที่ ที่ใกล้ที่ทำงานเป็นเรื่องที่ทำให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตสะดวกได้มากขึ้น แต่การจะหาบ้านดีๆ พื้นที่สวยๆ กับพื้นที่ในเมืองก็คงจะยากไม่ใช่น้อย ดังนั้นการหาคอนโดสักห้องมาเป็นเจ้าของ ก็คงจะตอบโจทย์เราได้มากที่สุด เหมือนอย่าง คุณ ohonie ที่เช่าอพาร์ตเมนต์มานาน แต่ด้วยอายุที่มาขึ้นทำให้ตัดสินใจซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง ซึ่งทางโครงการก็ได้ให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน แต่ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ จึงได้วางแผนตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ชอบ โดยไม่พึ่งการบิวต์อิน อาศัยแค่เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงพร็อพต่างๆ ซึ่งทาง คุณ ohonie จะมีไอเดียการตกแต่งห้องอย่างไรกันบ้าง ตามไปรับชมพร้อมๆ กันเลยครับ
รีวิวตกแต่งคอนโดขนาด 25 ตร.ม. แบบไม่พึ่งบิวต์อินก็สวยได้
บ้านหลังแรกสวรรค์น้อย ๆ ของเรา โดย คุณ ohonie
ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าย้ายบ้านมาเช่าอพาร์ตเมนต์ใกล้ที่ทำงาน อยู่มา 10 ปี พอดิบพอดี อายุเริ่มมากขึ้นเลยตัดสินใจจะซื้อบ้าน แต่เบี้ยน้อยหอยน้อยเลยได้เป็นคอนโด จากที่เคยเช่าอยู่ทำให้ของที่อยู่ในห้องต้องเยอะเป็นธรรมดา โดยเฉพาะของสวย ๆ งามของผู้หญิง เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง หลังจากคอนโดเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ได้เข้าไปตรวจห้อง และทำการยื่นกู้ไปแล้วนั้น ตัวห้องที่เลือกไม่ได้อยู่ตรงวิวสวยอย่างสระว่ายน้ำหรือสวนเลย คิดแค่ว่าขอแบบห้องกลาง ๆ ก็พอ แต่พอเห็นห้องจริง ๆ ถึงกับต้องกุมขมับ เพราะตรงห้องได้เสาไฟฟ้าของโครงการ และทางสามแพร่ง เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ห้องนี้แล้วมีความสุข จึงมีความคิดตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ และอยู่ในงบที่ตัวเองจ่ายไหว และประเด็นสำคัญคือสามารถเก็บเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องสำอางได้ลงตัวและเป็นระเบียบ

ทางโครงการคอนโดขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ แถมแอร์ แต่เฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาไม่ตอบโจทย์ของเรา จึงวางแผนการตกแต่งห้องเพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของเรา และการเลือกโทนสีของห้อง เราทาสีเป็นสีขาวครีมโดยเลือกสีที่ทำความสะอาดง่ายแทนการติดวอลเปเปอร์ และคุมโทนสีในการแต่งห้องให้ไปแนวทางเดียวกันมากที่สุด ห้องเป็นสี่เหลี่ยม ขนาด 25 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ ต่อจากนี้เป็นรูป Before and After นะคะ เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลง

เริ่มจากเปิดประตูเข้ามาเจอห้องนั่งเล่น ในห้องมุมนี้ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์เป็นโซฟาขนาดเล็ก โต๊ะทำงาน และชั้นวางทีวี แต่ 3 อย่างนี้ไม่ตอบโจทย์และเราก็ไม่ต้องการพื้นที่ทำงาน จึงได้ปรับเปลี่ยน ดังนี้

เนื่องจากเราต้องการให้มีที่นอนให้เพื่อนหรือญาติที่มาเยี่ยมได้นอน จึงซื้อโซฟาเบดมา ทำการย้ายปลั๊กไฟมาไว้ตรงมุมโซฟาเบด และเราต้องการให้ห้องดูกว้าง จึงมีความคิดซื้อตู้เสื้อผ้า แต่บานตู้เลือกเป็นบานกระจกเพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย และขนาดตู้ต้องพอดีไม่ลึกจนเกินไปเพราะจะทำให้ห้องแคบ จึงได้ตู้กระจกของ Ikea มา เลือกใบสูง ๆ และเลือกตะกร้าตาข่ายใส่เข้าไปหลาย ๆ ชั้น เพื่อให้เสื้อผ้า ผ้าห่ม และผ้านวมสามารถใส่เข้าไปในตู้นี้พอดี โดยการพับเสื้อผ้าแบบ Konmari เพื่อประหยัดพื้นที่ และดูเป็นระเบียบด้วย จากนั้นตกแต่งมุมนี้ให้ดูน่ามองโดยหาพร็อพมาตกแต่งเพิ่ม และเนื่องจากตู้สูงมาก ๆ จะหาของ หยิบของดูลำบาก เราเลยซื้อบันไดพับ 1 ตัว มาเป็นตัวช่วยค่ะ

มุมวางทีวี ชั้นวางที่โครงการให้มาเป็นโทนสีเขียวอ่อนเลยไม่เอา หาใหม่ และเนื่องจากพื้นที่จำกัดมาก ต้องทำการวัดขนาดดี ๆ จนได้ชั้นวางทีวีสีขาวเทาจาก Index มา ลงตัวมาก สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะ และเราก็สามารถวางรองเท้าที่ใส่ในบ้านไว้ตรงนี้เพื่อไม่ให้รกได้ด้วย จากนั้นหาพร็อพมาแต่งเพื่อบังสายไฟและปลั๊กไฟ เป็นอันเสร็จ

ห้องถัดไปคือห้องนอน ห้องนอนนี้วางเตียงได้เต็มที่ 5 ฟุต ทางโครงการให้เตียงและโต๊ะข้างเตียงมา ดูจากรูปทรง สี และประโยชน์แล้ว คืออันนี้โอเคมาก ไม่ต้องซื้อใหม่ แต่จุดที่ต้องแก้ไขคือ ในตัวห้องมีเสาขนาดใหญ่ตรงหัวนอน อยู่ตรงกลางห้อง ถ้าบิวต์อิน หรือติดวอลเปเปอร์ งบบานปลายแน่ ตัดสินใจติดเป็นผ้าม่านแบบโปร่ง เพื่อบังเสา ตรงปลายเตียงมีที่ว่างนิดหนึ่งข้าง ๆ ตู้ที่ทางโครงการบิวต์อินให้ ตรงนั้นทางโครงการติดเสาอากาศไว้ เพื่อให้เราแขวนทีวีตรงปลายเตียงได้ แต่เราไม่อยากดูทีวีบนเตียง ประกอบกับมีเครื่องสำอาง ของจุกจิกของผู้หญิงที่เรายังไม่มีที่เก็บ และอยากมีกระจกแบบช่างแต่งหน้ามาไว้แทนด้วย เลยได้ไอเดียนี้ขึ้นมา ลงตัวแบบในรูป ได้ตู้วางรองเท้าจาก Ikea ชั้นบนเอามาเก็บเครื่องสำอาง ชั้นล่างก็เก็บของจุกจิกไป และย้ายปลั๊กไฟมาไว้ด้านข้าง จากนั้นจัดหาพร็อพมาใส่ในห้องเพื่อให้ดูสวย

มุมปลายเตียง

จากนั้นเราหาพื้นที่ตั้งพระประธาน ตอนแรกตั้งใจจะเอาไว้ในห้องนั่งเล่น วางบนหลังตู้กระจก แต่ดันซื้อตู้สูงเกินไป ไม่สามารถวางพระได้ จึงคิดว่า เอาที่เราสะดวกแล้วกัน เนื่องจากเราอยู่คนเดียว ไม่ได้แต่งตัวในห้องนอนอยู่แล้ว เลยเอาพระไว้ในห้องนอน หันออกไปทางประตูแทนค่ะ และเราเผื่อพื้นที่เพื่อวางบันไดพับ กรณีต้องการเปลี่ยนน้ำ หรือมีของไหว้ เพื่อความสะดวกค่ะ


ถัดมาเป็นห้องครัว เราไม่ทำกับข้าวนะคะ เพราะอยู่คนเดียว กินง่าย ๆ ค่ะ ตรงครัวทางโครงการบิวต์อินเคาน์เตอร์ครัวไว้ให้ เราก็แค่เอาของที่เรามีมาจัด และซื้อพร็อพมาจัดนิดหน่อยเป็นอันเสร็จ ตรงนี้ไม่ยุ่งยาก แต่ตรงมุมที่ทางโครงการให้โต๊ะกินข้าวมา ส่วนตัวแล้วเรามีโต๊ะญี่ปุ่นแบบพับอยู่แล้ว เลยไม่เอาโต๊ะกินข้าว ไปหาตู้ให้ขนาดพอดีกับมุมโต๊ะกินข้าวแทน เลยได้ตู้ขนาด 1 เมตร ลึก 35 เซนติเมตรบาง ๆ มาแทน เพื่อมาใส่เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง และรองเท้าที่เหลือแทน สรุปได้ตู้จาก Ikea มา เลือกด้านในโดยชั้นล่างสุดเลือกชั้นวางรองเท้า 1 ชั้น สามารถใส่รองเท้าเต็มที่ 5 คู่ และเลือกตะกร้าตาข่ายอีก 4ชั้นเพื่อพับผ้าใส่เข้าไป พื้นที่ที่เหลือก็แขวนผ้าและใส่กระเป๋าเดินทางเข้าไป เป็นอันเสร็จ มุมช่องว่าง ๆ ข้างตู้ใส่ไม้กวาด เครื่องดูดฝุ่นและไม้ถูพื้นเข้าไปได้


ห้องสุดท้ายเป็นห้องน้ำที่ทางโครงการทำมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีกระจกกั้นพื้นเปียกพื้นแห้งให้ เลยซื้อผ้าม่านมากั้นเนื่องจากเราต้องการแต่งตัวในห้องน้ำ เลยเปลี่ยนเอากระจกส่องของเก่าออก ใส่ตู้กระจกของ Ikea เข้าไปแทน ประโยชน์ของตู้นี้ใส่เครื่องประทินผิว และของที่ต้องใช้ในห้องน้ำได้ค่ะ จัดวางพร็อพและของใช้ให้เป็นระเบียบ เป็นอันจบ การตกแต่งครั้งนี้ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเดิมที่มีอยู่แล้วนะคะ
ป.ล. การรีวิวครั้งนี้ทำเพื่อเป็นแนวทางการตกแต่งเท่านั้น ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ค่ะ
การจะตกแต่งห้องนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร เพียงแค่เรานั้นมีสไตล์ รวมถึงแบบแผนที่วางไว้ในรูปแบบของเรา ก็จะสามารถรังสรรค์ห้องออกมาในรูปแบบของเราได้ และสิ่งที่ควรคำนึงถึงต่อการตกแต่งห้องภายในคอนโดนั้น ก็คือพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยขนาดพื้นที่ที่เล็กนั้น เราต้องแน่ใจว่าการตกแต่งของเราจะต้องคุ้มค่าต่อการใช้งาน และประหยัดพื้นที่ให้มากที่สุด เหมือนกับการตกแต่งห้องของ คุณ ohonie นั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ohonie สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม