ตกแต่งที่อยู่อาศัย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หัวใจสำคัญใน การจะลงมือทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตกแต่ง ต่อเติมบ้านหรือรีโนเวทเป็นบางส่วน สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือ ‘งบประมาณ' ไม่ว่าจะใช้ซื้อวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง จ้างสถาปนิก มัณฑนากรหรือผู้รับเหมา รวมทั้งค่าเดินทางในการติดต่อประสานงานกับบุคคลที่จะมาสร้างบ้านให้เรานั้น ถ้านับรวมทั้งหมดก็เป็นจำนวนไม่น้อย

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย

วางแผนแต่งบ้านอย่างไร ให้งบไม่บานปลาย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หัวใจสำคัญใน การจะลงมือทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตกแต่ง ต่อเติมบ้านหรือรีโนเวทเป็นบางส่วน สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือ ‘งบประมาณ' ไม่ว่าจะใช้ซื้อวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง จ้างสถาปนิก มัณฑนากรหรือผู้รับเหมา รวมทั้งค่าเดินทางในการติดต่อประสานงานกับบุคคลที่จะมาสร้างบ้านให้เรานั้น ถ้านับรวมทั้งหมดก็เป็นจำนวนไม่น้อย

ปัญหาที่พบคือ คนส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นซึ่งมักจะเกินงบประมาณ ที่ตนเองตั้งไว้ในตอนแรกเสมอ ฉะนั้น H & D จึงมีวิธีที่จะช่วยให้คุณคุมงบประมาณให้อยู่กับร่องกับรอยมาฝากกันดังนี้

1. ตั้งงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ หรือเต็มใจที่จะจ่าย หากคุณมีความตั้งใจที่ตกแต่งบ้าน ขอให้รู้ไว้เลยว่า ทุกอย่างที่คิดจะทำนั้นเป็นเงินเป็นทองแทบทั้งสิ้น เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะตกแต่งในจุดไหนหรือซ่อมแซมห้องใด สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ แง้มกระเป๋าสตางค์ แล้วสำรวจว่ามีเงินที่สามารถใช้เพื่อการนี้ได้เท่าไหร่ ให้ตั้งงบประมาณที่คุณเต็มใจจะจ่าย จากนั้นก็ขอให้บวกเพิ่มไปอีก 15 - 20% สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่เผื่อเหลือเผื่อขาด แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ามือหนักหรือลืมตัวเวลาช้อปของเข้าบ้านก็อนุโลมให้เผื่อไป มากกว่านั้นได้ 

สำหรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจะมาจาก 
1.1 หากมีการจ้างสถาปนิกหรือมัณฑนากรให้ออกแบบ-ตกแต่งและคุมงาน 
1.2 ค่าจ้างช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมา 
1.3 ค่าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านทั้งหลาย ซึ่งข้อนี้สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามคุณภาพหรือเกรดของสินค้าที่เลือกใช้

2. ออกแบบให้จบตั้งแต่อยู่ในกระดาษ หากคุณต้องการให้บ้านออกมาดูดี ก็ควรเลือกใช้นักออกแบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิกหรือมัณฑนากรซึ่งมีทั้งที่เป็นสำนักงานที่รับออกแบบทั่ว ไปและแบบรับจ้างอิสระหรือที่เรียกว่าฟรีแลนซ์ ราคาก็ จะย่อมเยาลงมาอีกขั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหากเลือกใช้นักออกแบบ มืออาชีพที่เป็นลักษณะสำนักงานออกแบบก็คือ การเปลี่ยนแบบหรือแก้แบบซึ่งมักจะยอมให้เปลี่ยนแบบตามจำนวนครั้งที่ตกลงกัน หากเกินกว่านั้นอาจจะต้องเสียเงินเพิ่ม 

ในกรณีที่คุณคิดว่าไม่จำ เป็นต้องใช้นักออกแบบมืออาชีพเพราะผู้รับเหมาที่คุณหามาเสนอตัวออกไอเดีย ตกแต่งบ้านให้แล้วคุณเกิดประทับใจ ตกลงให้ทำงาน เมื่อทำไปสักพักก็เริ่มรู้สึกว่าแบบที่ช่างทำอยู่นั้นไม่ตรงตามความต้องการ อยากจะแก้ไข ช่างบางคนใจดีก็แก้ให้ แต่บางคนหัวหมอขอเรียกค่าทุบรื้อสิ่งที่ทำไป โดยอ้างว่าเป็นความรับผิดชอบของเรา ก็ต้องเสียทั้งค่าแรง ค่าของ เสียเวลา และที่สำคัญเสียความรู้สึกอีกด้วย

3. เลือกวิธีการดำเนินงานให้เหมาะสม 
ในการลงมือตกแต่งหรือปรับปรุงบ้านมีวิธีดำเนินการหลายรูปแบบ การเลือกวิธีการดำเนินงานที่เหมาะสมก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณไป ได้มากทีเดียว ดังนี้

3.1 การจ้างบริษัทรับออกแบบ-ตกแต่งเป็นผู้ดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นออกแบบ หาวัสดุอุปกรณ์มาให้เจ้าของบ้านเลือกหาผู้รับเหมามาก่อสร้าง หาสถาปนิกมาควบคุมงาน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาที่จะลงมือกำกับดูแลเองจึงมีค่าใช้จ่าย สูงแต่ก็ได้รับความสะดวกสบายแทน
 
3.2 จ้างนักออกแบบอิสระ จ้างผู้รับเหมาและให้หาซื้อวัสดุด้วย คุณต้องบอกรายละเอียดของวัสดุที่จะใช้ให้กับผู้รับเหมาและเผื่อตัวเลือกให้ หากวัสดุที่ต้องการหมด วิธีนี้ผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะบวกค่าดำเนินการลงไปด้วย ทำให้ของที่ซื้อมามีราคาแพงกว่าร้านค้าทั่วไป บางครั้งวิธีนี้นักออกแบบและผู้รับเหมาอาจจะประสานงานกันในการเลือกซื้อ วัสดุตามที่คุณกำหนด

3.2 จ้างนักออกแบบอิสระ จ้างผู้รับเหมา แต่คุณหาซื้อของเอง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาพอสมควรและมีรถยนต์เพราะต้องเดินทางไปสั่ง ซื้อวัสดุตกแต่งก่อสร้างเอง วิธีนี้ดูเผินๆ เหมือนจะประหยัดแต่ในกรณีที่คุณต้องเป็นผู้ขนสินค้ากลับมาที่บ้านเอง ก็จะทำให้มีต้นทุนแฝงในการเดินทางขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย

4. เลือกวัสดุให้เหมาะสม
หลาย ครั้งที่งบประมาณบานปลายก็มาจากการเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม หรือนำไปใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์ของวัสดุนั้นๆ อาจเกิดจากความไม่รู้หรือไม่มีผู้แนะนำจึงทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงจากการ ใช้งาน นอกจากวัสดุต่างๆ แล้วการตัดสินใจให้ความสำคัญกับส่วนต่างๆ ของบ้านก็มีส่วนที่จะช่วยประหยัดงบได้ เช่น ห้องที่ต้องใช้งานบ่อย อาทิ ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ควรเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานและราคาไม่แพงเกินไป นอกจากนี้ในขั้นตอนของการซื้อของ หากใช้บริการของบริษัทรับออกแบบควรให้ทำรายการประกอบราคาสินค้าหรือ B.O.Q. (Bill of Quality) อย่างละเอียดที่สุดด้วยเพื่อเทียบกับราคากลางของสินค้าในท้องตลาด

 

5. วางแผนการเดินทางให้ดี
การ วางแผนการเดินทางที่ดีเพื่อซื้อวัสดุและของตกแต่งบ้านสามารถช่วยลดค่าใช้ จ่ายไปได้ ยิ่งในยุคที่น้ำมันทะลุลิตรละ 30 กว่าบาทไปแล้ว จะไปไหนมาไหนแต่ละทีต้องคุ้มค่า ร้านค้าวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะในปัจจุบันแม้ราคาจะ แพงกว่าร้านค้าทั่วไปสักนิด แต่เมื่อคิดรวมกับค่าน้ำมันที่ต้องขับรถไปหลายๆ ร้านแล้วก็อาจจะคุ้มกว่าก็เป็นได้ ที่สำคัญคือ ลองค้นหาข้อมูลสินค้าในอินเตอร์เน็ตก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปด้วยตัวเอง

ทั้ง 5 วิธีนี้คุณสามารถลงมือทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพื่อช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณในการสร้างและตกแต่งบ้านไม่ให้บานปลายได้

ทำอย่างไรเมื่องบบานปลาย แต่ไม่อยากกู้เงิน 

1. ลดสเปควัสดุ 
การลดสเปคของวัสดุที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ เช่น เปลี่ยนจากใช้กระเบื้องนำเข้า
เป็น กระเบื้องที่ผลิตในประเทศ ผนังที่จะปูกระเบื้องเปลี่ยนเป็นทาสีแทน หรืออื่นๆ ตามที่สถาปนิกหรือมัณฑนากรแนะนำโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน 

2. ลดปริมาณงาน
หากลดสเปควัสดุแล้วยังเกินงบที่ตั้งไว้อีก คุณอาจจะกลับมาดูรายการต่อเติมตกแต่งบางอย่าง อาจจะต้องตัดใจหยุดพักงานบางส่วนที่ยังไม่จำเป็นต้องทำจริงๆ ออกไปก่อน เมื่อหาเงินได้จึงค่อยๆ ทำต่อทีหลัง จะได้ไม่เป็นการรบกวนกระเป๋าสตางค์มากไปแถมไม่ต้องเป็นหนี้อีกด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโฮมทาวน์ กูรู
  • บุญถาวร เจาะ 8 เทรนด์กระเบื้องมาแรงปี 2025 "From Nature to Life" เชื่อมโยงธรรมชาติกับชีวิต
  • แม่ซื้อบ้านเก่า อายุ 20 ปี สภาพโทรม ใช้เวลา 2 ปี รีโนเวทใหม่ทั้งหลังเป็นบ้านคาเฟ่ในฝัน
  • บอกเล่าประสบการณ์ใช้เวลา 7 ปี รีโนเวทบ้าน 4 ชั้น เคยเป็นธนาคารเก่าเป็นบ้านหรู ใช้คนทำมากถึง 3 คน โดนหลอก-โกงมาครบ
  • 12 แบรนด์เครื่องหอม ที่ต้องติดบ้าน สร้างบรรยากาศหอมตลอดทั้งวัน
  • จัดไป! เทรนด์แต่งบ้าน และโทนสีโดนๆ ที่น่าจับตามองของ ปี 2024
  • ต่อเติมห้องครัวใหม่นอกบ้าน ทำห้องครัวปูนพื้นไม้ระแนง พร้อมระเบียงด้านข้าง
  • รีโนเวทสวนข้างบ้าน ปรับพื้นทางเดิน กระบองเพชร บ่อปลาเล็กๆ ทำเองทุกขั้นตอน
  • ต้นโอลีฟ ต้นไม้มงคลปลูกง่าย จัดสวนสวย
  • 9 เทรนด์แต่งบ้าน แต่งคอนโด รับปี 2023
  • รวมไอเดียการจัดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
  • รีโนเวทสวนข้างบ้าน ปรับพื้นทางเดิน กระบองเพชร บ่อปลาเล็กๆ ทำเองทุกขั้นตอน
  • ต้นโอลีฟ ต้นไม้มงคลปลูกง่าย จัดสวนสวย
  • จัดไป! เทรนด์แต่งบ้าน และโทนสีโดนๆ ที่น่าจับตามองของ ปี 2024
  • 12 แบรนด์เครื่องหอม ที่ต้องติดบ้าน สร้างบรรยากาศหอมตลอดทั้งวัน
  • ไอเดียแต่งบ้านรับ "วันฮาโลวีน"
  • 9 เทรนด์แต่งบ้าน แต่งคอนโด รับปี 2023
  • 6 เทคนิคแต่งบ้านเลี่ยงความวิตกกังวล
  • แม่ซื้อบ้านเก่า อายุ 20 ปี สภาพโทรม ใช้เวลา 2 ปี รีโนเวทใหม่ทั้งหลังเป็นบ้านคาเฟ่ในฝัน
  • ต่อเติมห้องครัวใหม่นอกบ้าน ทำห้องครัวปูนพื้นไม้ระแนง พร้อมระเบียงด้านข้าง
  • วางแผนแต่งบ้านอย่างไร ให้งบไม่บานปลาย

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หัวใจสำคัญใน การจะลงมือทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตกแต่ง ต่อเติมบ้านหรือรีโนเวทเป็นบางส่วน สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือ ‘งบประมาณ' ไม่ว่าจะใช้ซื้อวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง จ้างสถาปนิก มัณฑนากรหรือผู้รับเหมา รวมทั้งค่าเดินทางในการติดต่อประสานงานกับบุคคลที่จะมาสร้างบ้านให้เรานั้น ถ้านับรวมทั้งหมดก็เป็นจำนวนไม่น้อย

    @thaihometown Scroll