
เทรนด์แต่งบ้านปี 2016 เทรนด์แต่งบ้านที่จะทำให้บ้านของทุกคนอินเทรนด์ มาดูกันว่าปี 2016 สไตล์การแต่งบ้านแนวไหนกำลังมา เฉดสีไหนกำลังจะฮิต หรือควรนำเฟอร์นิเจอร์แบบไหนมาแต่งบ้านดี
เทรนด์แต่งบ้านปี 2016 มาดูกันว่าปีนี้เทรนด์แต่งบ้านสไตล์จะมาแรง น่าจะหยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการจัดบ้านใหม่ต้อนรับสิ่งดี ๆ บ้าง วันนี้นิตยสาร Lisa ก็ได้ขนเทรนด์แต่งบ้านปี 2016 มาบอกกันว่า สไตล์การแต่งบ้าน เฉดสี และเฟอร์นิเจอร์แนวไหนที่มาแรง น่าหยิบจับมาเป็นไอเดียหรือแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านบ้าง


1. เฉดสีแห่งปี
ใช่แต่วงการแฟชั่นที่นำเฉดสีพาสเทลแห่งปี อย่างสีชมพู Rose Quartz และสีฟ้า Serenity ตามเทรนด์สีโลกที่กำหนดโดย Pantone มาใช้ ในเรื่องการแต่งบ้านก็เหมือนกัน เพราะเป็นสีที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย สบายตา ทั้งยังแนะนำคู่สีต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับโทนคู่นี้ออกมาให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม มีตั้งแต่สีหวานละมุนแนวพาสเทลไปจนถึงสีเข้มแนวเอิร์ธโทนอย่าง Thyme, Granite Gray, Navy Blue และ Cream Gold
ในขณะที่บริษัท อั๊คโซ่โนเบล (AkzoNobel) ผู้ผลิตแบรนด์สี "ดูลักซ์" ก็ให้สีเหลือง Monarch Gold เป็นเทรนด์สีแห่งปี 2016 ภายใต้แนวคิดการมองทั้ง 2 ด้าน เพราะความสว่างของสีเหลืองทองดึงดูดความสนใจได้ดี สามารถสื่อถึงอดีต สื่อสีในกลุ่มเอิร์ธโทน และสื่อความทันสมัยของนวัตกรรมในยุคปัจจุบัน ซึ่งสีในเฉดนี้มักพบเห็นได้บนภาพเขียนเก่าแก่ของศิลปินระดับตำนานและศิลปินยุคใหม่

2. เฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคยังอยู่
เพราะดีไซน์เรียบง่ายและใช้วัสดุธรรมชาติ จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคอย่างเรโทรหรือสแกนดิเนเวียนยังไม่ตกยุค และทำท่าว่าจะมาแรงด้วยซ้ำ หากเข้าไปดูในเว็บไซต์ Pinterest เราจะเห็นงานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจาก 2 สไตล์นี้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นฟังก์ชั่นใช้งานอย่างสร้างสรรค์ สัมผัสที่เรียบง่าย ลดทอนรายละเอียดการตกแต่งลง และจะว่าไป 2 สไตล์นี้ก็ดูเหมาะกับโทนสีสงบ สบายตา อย่างพาสเทลหรือสีเหลืองทองด้วย
3. เพิ่มพื้นที่สีเขียว
กระแสรักษ์โลกยังมาแรง ในเวทีโลกยิ่งเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ การดีไซน์สเปซในบ้านของปีนี้จึงต้องนึกถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น เช่น แต่งผนังด้วยสวนแนวตั้งหรือมีกระถางต้นไม้เล็ก ๆ ไว้ตามมุมต่าง ๆ ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาและยังถือว่าเรามีส่วนช่วยดูแลโลกด้วย การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติก็ยังเป็นที่นิยม แต่ต้องปรับใช้ได้ทั้งในบ้านและกลางแจ้ง จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินทองและวัสดุธรรมชาติที่นำมาใช้ในการผลิตนั่นเอง

4. จะดูดีต้องมีศิลปะ
คำว่า "ศิลปะ" ในที่นี้ไม่ได้จำกัดที่งานภาพวาด งานปั้น หรือภาพถ่าย แต่หมายรวมถึงงานฝีมือที่สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือพื้นบ้าน เช่น เครื่องจักสาน งานผ้าทอ หรืองานไม้ต่าง ๆ เดี๋ยวนี้มีการพัฒนารูปแบบให้นำมาผสมผสานเข้ากับการแต่งบ้านได้หลายแบบ อย่างเช่น ผ้าทอลายพื้นเมืองสีสันสดใสนำไปปูคลุมโต๊ะรับประทานอาหารหรือทำผ้าคลุมเตียง โคมไฟหวายทรงสุ่มไก่หรือไฟระย้าที่ดัดแปลงจากลูกตะกร้อหวายก็ออกมาดูสวยไม่ใช่เล่น แม้แต่เสื่อทอหลากสีก็ยังดูดีไม่แพ้พรมราคาแพง ทั้งยังบ่งบอกวัฒนธรรม สไตล์เฉพาะตัวที่ชัดเจน และเป็นการช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับงานศิลปะพื้นบ้านไปในตัว

5. ลายกราฟิกมาแรง
ก่อนหน้านี้วอลเปเปอร์และกระเบื้องลายโบราณได้รับความนิยมมากตามเทรนด์ย้อนยุค แต่ปีนี้ลายเรขาคณิตมาแรงกว่า เป็นพลังสร้างสรรค์ของงานกราฟิกที่ได้ผลลัพธ์ดีเกินคาด เพราะช่วยเพิ่มมิติให้พื้นที่ขนาดเล็กได้อย่างน่าสนใจ เช่น ห้องน้ำ ระเบียงคอนโด ห้องครัว ฯลฯ ลองนำกระเบื้องเรขาคณิตมาปูพื้นหรือผนัง แทนที่จะเลือกลายตาหมากรุกแบบทั่วไป ส่วนคำแนะนำก็คือไม่จำเป็นต้องปูพื้นและผนัง 4 ด้านทั้งหมด เดี๋ยวจะลายตาจนเกินไป แต่ควรปูพื้นกับผนังเพียง 1-2 ด้าน ที่เหลือให้เป็นเฉดสีพื้นก็พอ
อีกหนึ่งสิ่งที่แจมกันได้ดีคือ งานผ้าต่าง ๆ ไล่ไปตั้งแต่หมอนอิงจนถึงผ้าคลุมโต๊ะ-เตียงต้องมีลาย โดยเน้นที่ลายกราฟิกหลากสีสัน ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านได้ง่าย ๆ และยังปรับเข้ากับการแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์

6. เมทัลลิกสักเล็กน้อย
อย่ามโนถึงความหรูหราแบบบ้านมหาเศรษฐี อันนั้นก็ดูเว่อร์ไปนิดสำหรับสไตล์ตกแต่งบ้านในปีนี้ที่เน้นธรรมชาติและต้องใช้งานได้จริง จึงเลือกที่จะใช้ความแวววาวจากของใช้สีเมทัลลิกชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น แจกัน เชิงเทียน ที่จับบานตู้ โคมไฟ มาประดับบ้านมากกว่าเป็นของชิ้นใหญ่ ๆ ที่ทำให้บ้านดูน่าอึดอัดและยังต้องจ่ายแพงกว่าอีกด้วย
7. ห้องน้ำสุดไฮเทค
อย่าแปลกใจที่ห้องน้ำจะไฮเทคมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ที่เร่งรีบ แต่ต้องประหยัดพลังงาน เช่น ระบบเปิด-ปิดน้ำและไฟอัตโนมัติ โถส้วมอุ่น ๆ น่านั่งทุกครั้งเมื่อใช้งาน มีระบบน้ำช่วยทำความสะอาดหลังจากถ่ายหนัก-เบาให้พร้อม รวมถึงมีระบบขจัดกลิ่นและแบคทีเรียอัตโนมัติ ส่วนอ่างอาบน้ำที่ทั้งใหญ่ทั้งเลอะเทอะก็จะถูกกำจัดเพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีเวลามากพอที่ใช้มันได้ตลอด หนำซ้ำยังต้องจ่ายค่าติดตั้งแพง เปลืองน้ำ และยังกินพื้นที่ในห้องน้ำอีกด้วย
8. บ้านอัจฉริยะ
เช่นเดียวกับห้องน้ำไฮเทค จากนี้ไปเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน หรือระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถเชื่อมต่อการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟนจะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนรักบ้าน เพราะไม่ว่าใครก็อยากทำให้ทุกคนในบ้านอยู่กันอย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยมากขึ้น...จริงไหม ?