สงสัยกันอยู่ล่ะสิว่าตกแต่งบ้านตามใจฉันจะออกมาสวยได้ยังไง ถ้าอย่างนั้นก็ตามไปให้กำลังใจกันเลยกับการตกแต่งทาวน์โฮม 2 ชั้น และอาจจะทำให้คุณอยากแต่งบ้านด้วยตัวเองบ้างก็ได้นะ
บ้านที่เราซื้อไว้อยู่เองใครจะไปรู้ใจดีกว่าตัวเราอีกล่ะจริงไหม ? คุณ สมาชิกหมายเลข 1562006 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เลยสวมบทเป็นทั้งเจ้าของบ้านและอินทีเรียไปในตัว เพื่อลงมือออกแบบเองและเลือกของเอง งานนี้การตกแต่งทาวน์เฮ้าส์ของเธอจะออกมาสวยหรือไม่อย่างไร และกว่าจะสร้างเสร็จต้องผ่านอะไรมาบ้าง ตามไปให้กำลังใจเธอคนนี้กันเลยค่ะ
[CR] รีวิวต่อเติม+ตกแต่งภายในทาวน์โฮม 2 ชั้น ในแบบสวยที่สุดในโลกของฉัน โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 1562006
ขอเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าสู่โหมดรีวิวการตกแต่งบ้านนะคะ พอดีเราทำงานเป็นพนักงานขายคอนโดของบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วหัวหน้าก็สั่งให้ไปเซอร์เวย์หมู่บ้านเราก็ไปตามหน้าที่เพราะปกติต้องไปเซอร์เวย์คู่แข่งอยู่แล้ว วันนั้นเลยชวนแฟนไปดูโครงการหมู่บ้านศุภาลัย วิลล์ บ้านจั่น อุดรธานีด้วยกัน เป็นพวกบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ทางบายพาส อุดร–ขอนแก่น พอดูแล้วความรู้สึกเหมือนมันใช่ เดินเข้าบ้านแล้วน่าอยู่ เหมือนมีพลังงานบางอย่างดึงดูดทำให้เราอยากได้ (ทั้งที่ปกติไปเซอร์เวย์หลายโครงการมาก ก็ไม่เคยอยากได้มาก่อน) เลยปรึกษาแฟนและคิดกันอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ไปวางเงินจองบ้านแบบทาวน์โฮม แล้วทำสัญญาหลังจากนั้น 10 วัน (จองช่วงเดือนธันวาคม 2557) แต่ตอนนั้นบ้านยังไม่เสร็จ ก็ผ่อนดาวน์ไปก่อน 2 งวด กำหนดเสร็จพร้อมโอนเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งได้โอนจริงวันที่ 16 เมษายน 2558 โดยในระหว่างนั้นก็มีพี่รู้จักทำบริษัทอินทีเรีย เลยให้เขามาวัดหน้างานและออกแบบบิวท์อินตกแต่งภายในไปพลาง ๆ รอบ้านเสร็จ พูดมาเยอะแล้วมาดูหน้าตาของบ้านเราดีกว่า ตอนแรกยังไม่มีการตกแต่งอะไร เลยดูไม่สวยเท่าไร
ลักษณะบ้านเป็นทาวน์โฮมติด ๆ กัน หน้ากว้าง 5-6 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 114 ตารางเมตร ที่ดิน 20.7 ตารางวา ราคา 1.6 ล้านบาท
ขั้นแรกทำหลังคาหน้าบ้านและหลังคาตรงห้องนอนข้างบนก่อน โดยให้ช่างที่รู้จักกับแฟนมาตีราคาให้ ตกลงกันที่ราคา 30,000 บาท ค่าของ 17,000 บาท และค่าแรง 13,000 บาท (เวลาไปซื้อของเราไปกับช่างด้วยตลอด)
ใช้เวลา 5 วันก็เสร็จแล้วว (ที่จริง 3 วันเสร็จแต่ช่วงนั้นยังไม่มีมิเตอร์ไฟ โครงการต่อไฟตรงมาให้ แต่ไฟก็ติด ๆ ดับ ๆ เลยทำให้งานล่าช้า)
หลังคาเมทัลชีท+ฉนวนกันความร้อนสีเงินเปลือย ๆ ออกมาตามแบบที่คาดการณ์ไว้เป๊ะ ๆ
พื้นที่ด้านหลังเป็นพวกถังเก็บน้ำกับแทงก์น้ำ
เดินเข้ามาขวามือจะเป็นโซนดูทีวีและห้องรับแขก
ตรงเข้ามาเป็นมุมที่จะทำเคาน์เตอร์ครัว
ในระหว่างที่รอช่างบิวท์อินเข้ามาทำให้ (บิวท์อินเขาจะทำที่บ้านช่างเลย ประกอบเสร็จแล้วจะเข้ามาติดฝาครั้งเดียวจบ) เราก็คิดจะทำผ้าม่านเอง เพราะที่ร้านตีราคามาตั้ง 20,000 บาท เลยลองหาซื้อรางผ้าม่านกับตัวยึดเอง ส่วนผ้าม่านสั่งตัดจากร้านรับตัดผ้าม่าน สนนราคาที่ 6,000 บาท รางผ้าม่านกับหัวราง หมดไป 2,000 บาท สรุปหมดไป 8,000 บาท แถมติดได้ทั้งหลัง เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดีค่ะ
จากนั้นก็เจาะวัดตามวิธีที่หาได้ในกูเกิล ถ้ายังไม่สวยก็อย่าเพิ่งว่านะคะ เพราะทดลองห้อยก่อน อิอิ
อันนี้เป็นงานที่ช่างส่งงานมาให้ดูว่าทำเสร็จนะ เดี๋ยวเขาจะเข้ามาติดให้ค่ะ
แต่ช่างยังไม่มาเลยทาสีผนังเพิ่ม ซึ่งแฟนกับเราอยากแต่งบ้านโทนสีทึบ โมเดิร์น ๆ ตามที่เขาฮิตกัน เลยใช้สีนี้ทาทุกห้องเลยจ้า เหนื่อยสุด ๆ แต่กลัวมันไม่มีลูกเล่น เลยทาสีเข้มสลับกับสีอ่อน ตอนแรกจะเอาสีปูนเปลือยแต่มันแพงไปเลยตัดออก เอาสีกึ่งด้านกึ่งเงานี่แหละ เพราะทำความสะอาดได้ด้วยง่ายดีค่ะ
นาฬิกาทำเองค่ะ เพราะแฟนเป็นกราฟิก เลยออกแบบเอง โดยเอาแผ่นพลาสวูดมาทำค่ะ
Index มาส่งเซตเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งไว้ มีเตียง ฟูกที่นอน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี แล้วก็โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ราคา 19,900 บาท คุ้มมาก ๆ เลย
ช่างบิวท์อินมาแล้ว...ของเต็มบ้านเลย
ของแต่ละชิ้นประกอบมาแล้ว สามารถติดผนังได้เลยค่ะ
โซนดูทีวีเราติดวอลเปเปอร์สีคล้าย ๆ กับผนังที่เราทาเอง เนี้ยบ สวยงาม ลงตัวเป๊ะ
เราเคยฝันอยากมีห้องแต่งตัวกับเขาบ้าง เลยให้เขาออกแบบมาให้ โดยให้ห้องนอนเราเชื่อมกับห้องแต่งตัวหรือที่เรียกว่า walk in closet ไฮโซเด้ล่ะเนาะ
อันนี้รูปโซนดูทีวีกับเคาน์เตอร์ครัวที่อินทีเรียออกแบบมาให้ค่ะ งดงามตามท้องเรื่อง
ต่อไปนี้เป็นภาพที่ตกแต่งเสร็จหมดทุกอย่างและเข้าอยู่แล้วเรียบร้อย ทำความสะอาดทั้งบ้านเกือบตาย เหนื่อยมาก แต่มีความสนุกมาก ๆ เหมือนกันค่ะ
แท่แด๊นน...ชั้นล่างสวยงามตามคิดไว้เลย อ้อ ! ลืมบอกไปนิดนึงค่ะว่า โคมไฟที่โครงการให้มาเป็นโคมไฟซาลาเปา ไม่ชอบจ้า เลยไปหาซื้อโคมมาใส่แทน เก๋ ๆ น่ารัก ๆ ดูโมเดิร์นไปอีก อิอิ
อันนี้ประตูชั้นที่ทำทะลุระหว่างห้องนอนกับห้องแต่งตัว
แขวนผ้าได้เยอะเป็นสัดเป็นส่วน โต๊ะเครื่องแป้งเราก็แบ่งออกมาจากเซตเฟอร์นิเจอร์ของอินเด็กซ์ โดยเอาเตียง ฟูกที่นอน และชั้นวางทีวีไปไว้ในห้องนอน ส่วนตู้เสื้อผ้าไปไว้ห้องนอนเล็กอีกห้องนึง
ส่วนด้านล่างนี้เป็นการประมวลภาพบ้านทั้งหลังค่ะ
รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
เฟอนิเจอร์บิวท์อิน 194,000 บาท (ค่าแรง+ค่าของ+ค่าดำเนินการ)
ค่าแบบ 15,000 บาท
แอร์ 3 ตัว 9000,12000,18000 BTU 50,000 บาท
ค่าติดตั้งและย้ายแอร์ตัวล่าง 15,000 บาท
ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ของใช้จิปาถะ 100,000 บาท
ทำหลังคาหน้าบ้าน+หลังคาชั้นบน 30,000 บาท
**ที่จริงมันน่าจะหมดเยอะกว่านี้ เพราะเงินในบัญชีที่เก็บหอมรอบริบทั้งจากงานหลักและรายได้เสริมต่าง ๆ หายไปเยอะมากกก ทั้งที่หาวิธีประหยัดสุด ๆ แล้ว ก็ยังหมดเยอะ แต่ไม่เสียดายหรอกค่ะ เพราะได้บ้านที่ตัวเองชอบก็โอเคแล้ว
จบแล้วกับการรีวิวการตกแต่งบ้าน ตั้งแต่หลังโอนจนตกแต่งเข้าอยู่เรียบร้อย และเป็นครั้งแรกที่เขียนรีวิวลงในพันทิป อาจจะงง สับสน มั่ว ลำดับการเขียนผิดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่มารีวิวเผื่อเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้าน และอาจจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ไปด้วยนะคะ
เราว่าบ้านไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป มันอยู่ที่ใจเรามากกว่า ว่าเราอยู่หลังไหนแล้วมีความสุข ผ่อนคลาย บ้านไม่แพงแต่ตกแต่งให้ดูแพง หรูหรา และน่าอยู่ก็ได้ เพราะเราเป็นคนอยู่เอง ใครจะมาบอกว่าอย่าทำงั้นงี้ ไม่สวยไม่ดี ไม่ต้องฟังหรอกค่ะ อยากแต่งอะไร อยากทำอะไร ก็ทำเลยที่คิดว่าสวยที่สุดในสายตาเรา ยังไงซะความชอบแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้วค่ะ
ฝากข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนเลือกซื้อบ้านค่ะ
อย่าเชื่อโฆษณามากเกินไป
เดี๋ยวนี้โฆษณาทำออกมาสวย น่าสนใจ ชวนเชื่อเสียจนผู้บริโภคเคลิ้มและคล้อยตามได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะบ้านและที่อยู่อาศัยที่เลือกใช้การนำเสนอโมเดลหรือภาพจำลองที่ดูดีเกินกว่าความเป็นจริง ใช้เทคนิคถ่ายภาพ-ตกแต่งภาพที่ทำให้สวยได้เพียงปลายนิ้ว ไหนจะสารพัดโปรโมชั่นและส่วนลดที่ระบุเงื่อนไขไว้ตัวเล็กแสนเล็กจนอ่านแทบไม่ออก ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังก็ควรจะเดินทางไปดูสถานที่จริง ดูสภาพโครงการจริง ๆ รวมทั้งสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่โครงการให้ชัดเจน อย่าตีความไปเอง จะได้ไม่ผิดหวังกับบ้านหลังใหม่ที่ตั้งใจจะซื้อ
2. อย่าไว้ใจพนักงานขาย
หน้าที่หลักของพนักงานขายคือพยายามขายสินค้าให้ได้เร็วที่สุดก่อนลูกค้าตกลงซื้อ พนักงานขายจึงพร้อมให้ทุกอย่างที่ลูกค้าร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดพิเศษ ของแถม เงินดาวน์กรณีที่กู้ไม่ผ่าน หรือแม้แต่คำสัญญาว่าจะแก้ไขข้อผิดพลาดของบ้านหลังลูกค้าเซ็นรับโอน แต่หลังจากที่จ่ายเงินและเซ็นรับโอนแล้ว พนักงานขายอาจไม่ทำตามที่พูด หรือจำสิ่งที่เคยสัญญาไว้ไม่ได้
3. อย่าวางใจโครงการที่มีชื่อเสียง
ชื่อเสียงและการเปิดทำการมาอย่างยาวนานไม่สามารถรับประกันได้ว่าโครงการที่จะซื้อจะไม่มีปัญหาในภายหลัง ทางที่ดีควรให้ความสำคัญกับผลงานที่ผ่านมา บริการหลังการขาย สถานะการเงินของโครงการ รวมทั้งสอบถามข้อมูลจากลูกค้าเก่า ๆ ที่เคยซื้อสินค้าจากเจ้าของโครงการ
4. อย่าเห็นแก่ความสวยงาม
การเลือกซื้อบ้านควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในบ้านมากกว่าดีไซน์และการออกแบบภายนอก เพราะเราใช้เวลาพักผ่อนในบ้านมากกว่านอกบ้าน แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกบ้านที่สวยด้วย มีพื้นที่ใช้สอยครบตามความต้องการด้วย
5. อย่าสนใจพื้นที่มากกว่าคุณภาพ
แม้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ แต่บ้านบางหลังให้พื้นที่ใช้สอยมามากเกินความต้องการหรืออาจใช้วัสดุที่ไม่ดี โครงสร้างภายในไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังก็ควรพิจารณาให้ดีว่ารูปแบบบ้าน การออกแบบ พื้นที่ใช้สอย รวมถึงราคาเหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการดำเนินชีวิตของเราจริง ๆ หรือไม่ จะได้ไม่ผิดหวังกับบ้านใหม่ที่ใฝ่ฝันค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบ อาจจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ บ๊ายบาย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1562006 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม