วันแม่แห่งชาติ พาแม่ไปเที่ยวตะลุยสวนสัตว์กัน!! 8 สวนสัตว์น่าท่องเที่ยวในประเทศไทย ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน

     วันแม่แห่งชาติทั้งที ถ้าพูดถึงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในวันแม่นั้น ต้องยอมรับเลยว่าบ้านเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หลากหลายแบบให้ไปสัมผัสความสนุกกัน แต่ๆ ถ้าอยากไปเที่ยววันแม่ได้ทุกวัย ทุกวัน แถมได้กระชับความสัมพันธ์ไม่ว่าจะกับครอบครัว เพื่อน หรือคู่รัก ด้วยกิจกรรมเพลินๆ ก็ต้องนี่เลย "สวนสัตว์" นั่นเอง ที่นี่นอกจากจะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ความรู้อีกด้วยบอกเลยฟินสุดๆ

     วันนี้เราเลยคัดสรร 8 สวนสัตว์น่าเที่ยวในเมืองไทยมาฝากในวันแม่แห่งชาติ ซึ่งบรรยายกาศของแต่ละสถานที่นั้นจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

 

 1. สวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพฯ 

สวนสัตว์ดุสิต หรือที่เรารู้จักกันดีคือ เขาดิน สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ยอดฮิต อยู่ในย่านดุสิต เดินทางก็ง่าย ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ อื่น ๆ ในกรุงเทพฯ ด้วย 

 

ก่อนอื่นขอเล่าถึงที่มาที่ไปของเขาดินสักนิดนะครับ ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2438 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างที่นี่เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ ซึ่งมีทั้งสระน้ำและต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีชื่อเรียกครั้งแรกว่า "เขาดินวนา" ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 ก็ได้เปิดให้ประชาชนเข้าเที่ยวชม จนกระทั่งรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะ พร้อมทั้งเริ่มย้ายกวางดาว และสัตว์อื่น ๆ มาไว้ที่เขาดินวนา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2481 ได้มีการให้เรียกที่นี่ใหม่ว่า "สวนสัตว์ดุสิต" กลายเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งก็เปิดให้เป็นสวนสาธารณะและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนเรื่อยมา
 

ปัจจุบันเขาดินมีส่วนจัดแสดงสัตว์นานาชนิด มีสัตว์ดาวเด่นที่ไม่ควรพลาดไปแวะเที่ยวชมมากมาย ทั้งส่วนจัดแสดงลิง ค่าง, ส่วนจัดแสดงฮิปโปโปเตมัส, ส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกา, ส่วนจัดแสดงหมี, ส่วนจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน, ส่วนจัดแสดงสัตว์ป่าสงวน และส่วนจัดแสดงโคอาลา ฯลฯ

 

ความน่าสนใจของที่นี่ยังไม่หมดนะครับ เพราะยังมีกิจกรรมให้ได้ทำอีกไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งการขี่จักรยานชมส่วนจัดแสดงสัตว์และชมวิวรอบ ๆ เขาดิน, ปั่นเรือจักรยานนาวากลางสระน้ำกว้าง, ให้อาหารปลาตัวใหญ่ ๆ บริเวณสะพานปลา, สำรวจหลุมหลบภัยสาธารณะ หลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2, ให้อาหารยีราฟ หมี และฮิปโปโปเตมัส ในวันหยุด, คลายร้อนกับสวนน้ำสุดเย็นฉ่ำ, ถ่ายรูปกับมุมสวยเก๋ต่าง ๆ รอบสวนสัตว์ และอีกหลากหลายกิจกรรมที่พร้อมรอให้ทุกคนมาร่วมแบ่งปันความสนุก

 

• ที่อยู่ : 71 ถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 2281 2000 
• เว็บไซต์ : dusit.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมผู้ใหญ่คนไทย ราคา 100 บาท นักศึกษา ราคา 50 บาท นักเรียนและเด็กเล็ก ราคา 20 บาท ข้าราชการ ราคา 50 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ และภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท 

 

 

 2. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี 

อยากเที่ยวสวนสัตว์เปิดแบบต่างประเทศ แต่ไม่มีโอกาสไปทำไงดี เอ้า...นี่แสดงว่ายังไม่รู้ใช่ไหมครับว่าในเมืองไทยมีสวนสัตว์เปิดมานานแล้ว และยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียวด้วย สถานที่ที่ว่านี้ก็คือ "สวนสัตว์เปิดเขาเขียว" นั่นเอง ที่นี่เปิดมายาวนานกว่า 60 ปีแล้วนะ พื้นที่ก็กว้างขวางกว่า 5,000 ไร่ มีสัตว์มากมายให้แวะมาเยี่ยมชม บรรยากาศนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั้งร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และยังมีกิจกรรมสนุกสนานเตรียมไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวเพียบ

 

ความพิเศษของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอยู่ตรงที่เราสามารถขับรถเข้าไปเที่ยวชมด้านในได้เลยครับ ซึ่งจะได้ชมสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ว้าว ! นี่มันที่ฝันไว้ชัด ๆ เยี่ยมไปเลย และนักท่องเที่ยวก็ยังสามารถซื้ออาหารเพื่อเอาไว้ป้อนให้สัตว์ได้ด้วยนะ พร้อมกับมีโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของสัตว์ต่าง ๆ ให้ได้แวะชมตลอดทั้งวันอีกต่างหาก ดีงามพระรามแปดมาก พูดเลย  

 

ถ้ามาเที่ยวที่นี่สิ่งที่จะพลาดไม่ได้ อาทิ การแสดงช้างว่ายน้ำ, พาเหรดเพนกวิน, การแสดงให้อาหารแมวน้ำ, การแสดงความสามารถนก, ให้อาหารและชมฮิปโปโปเตมัสว่ายน้ำ, ละมั่ง สัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์, นกฟลามิงโก ชมพูสวยหวาน เป็นต้น

 

• ที่อยู่ : 235 หมู่ 7 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 3831 8444
• เว็บไซต์ : khaokheow.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
• ราคา : ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท เด็กสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ราคา 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 100 บาท ทหาร, ตำรวจ, นักเรียน และนักศึกษา (แสดงบัตร) 70 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ ผู้มีบัตรอนุญาตพิเศษ เข้าชมฟรี ค่าธรรมเนียมยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 40 บาท รถยนต์ 80 บาท รถบัส 100 บาท

 

 3. สวนสัตว์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 

เมื่อพูดถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ ก็จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่จะสามารถชมแพนด้าตัวอ้วนขนปุกปุยได้อย่างใกล้ชิด และยังเป็นแหล่งรวมสัตว์สุดน่ารักมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศสวย ๆ การตกแต่งสถานที่ให้ร่มรื่น ดูสบายตา น่าไปเที่ยวพักผ่อน พร้อมทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เข้าร่วมอย่างจุใจ ทั้งสวนน้ำ อควาเรียม 
สโนว์โดม และอีกสารพัดกิจกรรม

 

มาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ต้องไปชมไฮไลต์ของที่นี่กัน นั่นก็คือ "ช่วงช่วง" และ "หลินฮุ่ย" แพนด้าซึ่งเป็นทูตสันถวไมตรีไทย-จีนเชียวนะ ความแสบซนของทั้งคู่ก็คงได้เห็นจากหน้าจอทีวีกันบ้างแล้ว แต่จะดีกว่าหากได้มาสัมผัสความน่ารักกันด้วยตาตัวเอง 

 

อ๊ะ...ความน่าสนใจของที่นี่ไม่ได้มีแค่แพนด้านะครับ ยังมีสัตว์ให้ไปชมอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกา, ส่วนจัดแสดงสัตว์ออสเตรเลีย, ส่วนจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน, ส่วนจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน, ส่วนจัดแสดงฮิปโปโปเตมัส, ส่วนจัดแสดงเสือ และยังมีการแสดงแมวน้ำ การแสดงนกต่าง ๆ ให้ได้ชมตลอดวันหยุด

 

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีอะไรที่น่าสนใจ รออยู่อีกมากมาย ทั้งเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ซึ่งมีอุโมงค์น้ำความยาวกว่า 133 เมตร ซึ่งจัดว่ายาวที่สุดในโลกตั้งอยู่ด้วย, เชียงใหม่ ซู สโนว์โดม สัมผัสดินแดนน้ำแข็งและเล่น Snow Ski Tube สุดมันส์ และ Kids Water Park พาเด็ก ๆ มาดับร้อนกับสวนน้ำสุดเย็นฉ่ำกันไปเลย

 

• ที่อยู่ : 100 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 5322 1179  
• เว็บไซต์ : chiangmai.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiang Mai Zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คนไทย ราคา 100 บาท เด็กสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร 20 บาท นักเรียน นักศึกษา (บัตรยังไม่หมดอายุ และต้องไม่เกินระดับปริญญาตรีเท่านั้น) 50 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท 

 

 4. สวนสัตว์นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 

สวนสัตว์นครราชสีมา ซาฟารีแห่งอีสาน สวนสัตว์ที่จะพาเราไปตื่นตาตื่นใจกับสัตว์ป่าและบรรยากาศแบบซาฟารี ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองนครราชสีมา เปิดมายาวนานกว่า 20 ปี บนพื้นที่ทั้งหมด 545 ไร่ มีสัตว์นานาชนิดกว่า 1,800 ตัว บรรยากาศดี ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ จัดแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจน มีทุ่งหญ้าสะวันนาและสัตว์จากแอฟริกา ไม่ว่าจะเดินเที่ยวมุมไหนก็เพลินใจ เหมือนได้ผจญภัยอยู่ทางแถบอเมริกาใต้อย่างไรอย่างนั้น ^^

 

สัตว์จากแอฟริกาที่นำมาจัดแสดงจะเรียกว่า The Big Five ครับ เป็น 5 สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งหญ้าแอฟริกา ได้แก่ สิงโต เสือดาว-เสือดำ ช้างแอฟริกา แรดขาว และควายป่าแอฟริกา อ๊ะ ๆ แต่ก็ยังมีสัตว์ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น ยีราฟ ม้าลาย แอนติโลป กระทิง เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพื่อความสุขของผู้มาเยือน พร้อมทั้งโซนไดโนพาร์ค โซนน้องใหม่ที่เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับประสบการณ์เยือนดินแดนไดโนเสาร์ สนุกสนานไปกับการขุดค้นซากฟอสซิลสัตว์โลกล้านปีเลยทีเดียว

 

• ที่อยู่ : 111 หมู่ 1 ถนนราชสีมา-ปักธงชัย ตำบลไชยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. 
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 4493 4537-8, 08 3372 0404 
• เว็บไซต์ : korat.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์นครราชสีมา Nakhonratchasima Zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมเฉพาะสวนสัตว์ สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท เด็กสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท นักเรียนอนุบาล-ประถม (ในเครื่องแบบ) 20 บาท มัธยมต้น-มัธยมปลาย-ปวช. ปวส.-มหาวิทยาลัย (ในเครื่องแบบ) 50 บาท ครู-ทหาร-ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ และภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี

 

 5. สวนสัตว์สงขลา จังหวัดสงขลา 

ถ้าอยากชมการแสดงให้อาหารเสือแบบใกล้ชิด ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยว "สวนสัตว์สงขลา" กันนะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขารูปช้าง ไม่ไกลจากทะเลสาบสงขลา ที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์หลากหลายชนิด มีทั้งส่วนจัดแสดงหมี, ส่วนจัดแสดงนก, ศูนย์จัดแสดงช้าง, ศูนย์จัดแสดงวัวกระทิงและวัวแดง, ส่วนจัดแสดงสัตว์จากแอฟริกา, ส่วนจัดแสดงสมเสร็จ, ส่วนจัดแสดงนกเงือก และส่วนจัดแสดงลิง 

 

การแสดงที่เป็นไฮไลต์ก็ต้องยกให้กับการแสดงนี้เลยครับ "การแสดงให้อาหารเสือโคร่ง" พนักงานที่ดูแลจะนำเนื้อสด ๆ ชักรอกเข้าไปในส่วนจัดแสดงเสือโคร่งแล้วให้เสือโคร่งได้กินกันอย่างจุใจ ลีลาของแต่ละตัวไม่ธรรมดาจริง ๆ บางตัวกระโดดงับเนื้อตั้งแต่อยู่กลางอากาศ หล่นน้ำดังตู้ม ! สนุกเขาล่ะ

 

นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงความสามารถแมวน้ำ ขบวนพาเหรดนกเพนกวิน พิเศษสุด ๆ ยังมีสวนน้ำ Splash Mountain Sea View Water Park อยู่ด้านใน ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวคลายร้อนในคราวเดียวกัน

 

• ที่อยู่ : 189 หมู่ 5 ถนนสงขลา-นาทวี ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 7459 8555
• เว็บไซต์ : songkhla.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 20 บาท นักเรียนประถม-ปวช. (ในเครื่องแบบ) 20 บาท ปวส.-มหาวิทยาลัย ครู ทหาร ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) คนพิการ และพระภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท 

 

 6. สวนสัตว์อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 

สวนสัตว์อุบลราชธานี ก็กว้างใหญ่ไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 1,217 ไร่ มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ซึ่งพบต้นยางนามากที่สุดในประเทศไทยด้วย ความน่าสนใจของที่นี่อยู่ตรงที่การจัดแสดงสัตว์จะจัดในรูปแบบ Jungle Park ให้สัตว์ได้อยู่กับป่าไม้ ปล่อยเลี้ยงในพื้นที่อย่างเป็นอิสระ และให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเที่ยวชมอย่างใกล้ชิด น่าไปผจญภัยใช่ไหมล่ะ

 

ปัจจุบันที่นี่มีสัตว์ป่านานาชนิด รายล้อมไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน มีสัตว์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น เสือโคร่งไซบีเรีย, เสือโคร่งอินโดจีน, เสือโคร่งขาว, สิงโต, สิงโตขาว, เก้ง, ละมั่งพันธุ์พม่า, เนื้อทราย, กวางป่า, ซิก้า, บาราซิงก้า, แบล็กบั๊ก, ยีราฟ, นกกระจอกเทศ, ม้าลาย เป็นต้น

 

นอกจากนี้ภายในพื้นที่สวนสัตว์ก็ยังเป็นที่ตั้งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และมีห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนกันด้วย

 

• ที่อยู่ : 112 หมู่ 17 ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 4525 2761, 09 3320 0810
• เว็บไซต์ : ubon.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์อุบลราชธานี Ubon Zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็กสูงเกิน 120 เซนติเมตร 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ ผู้มีบัตรอนุญาตพิเศษ ภิกษุ และสามเณร พร้อมทั้งเด็กที่สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

 

 7. สวนสัตว์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 

สวนสัตว์ขอนแก่น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน เพราะนอกจากจะเป็นสวนสัตว์ที่เสริมสร้างความรู้และความเพลิดเพลินแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายแบบให้ได้สนุกสนานกันด้วย มีสัตว์ทั้งหมด 118 ชนิด รวมกว่า 1,155 ตัว ซึ่งก็รวมทั้งสัตว์ป่าหายากและสัตว์ป่าที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศด้วย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ในตระกูลกวาง ซึ่งนำมาจัดแสดงในพื้นที่ที่กว้างขวาง และรวมกันอยู่เป็นฝูงขนาดใหญ่ อยู่อย่างธรรมชาติให้สอดคล้องกับประวัติความเป็นมาของภูเขาแสนกวาง ซึ่งเคยมีกวางนานาสายพันธุ์มากมายนับแสนตัว ภายใต้อัตลักษณ์ของสวนสัตว์ขอนแก่น หรือ The Land of deer นอกจากนี้ก็ยังมีสวนน้ำท่ามกลางขุนเขา ที่มีสไลเดอร์สูง 15 เมตรไว้รอต้อนรับอีกต่างหาก

 

นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงสัตว์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกา, ส่วนจัดแสดงโชว์ความสามารถของแมวน้ำ, สัตว์จากหมู่เกาะมาดากัสการ์อย่างลีเมอร์หางปล้อง และลีเมอร์ใหญ่แผงคอขาว-ดำ, ลิงกระรอก, นกฟลามิงโก, หมีขอ, นกกาบบัว, สุนัขจิ้งจอก, ส่วนจัดแสดงกรงนกใหญ่, ส่วนจัดแสดงอาณาจักรลิงใหญ่, ส่วนจัดแสดงแรดขาว, ส่วนจัดแสดงสิงโตขาว, ส่วนจัดแสดงเสือโคร่งอินโดไชนีส, ส่วนจัดแสดงเสือขาว, ส่วนจัดแสดงฮิปโปแคระ, ส่วนจัดแสดงจระเข้, ส่วนจัดแสดงเมียร์แคท และส่วนจัดแสดงอาณาจักรแร้ง

 

• ที่อยู่ : 88 หมู่ที่ 8 ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
• เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 
• เบอร์โทรศัพท์ : 08 6459 4192
• เว็บไซต์ : khonkaen.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์ขอนแก่น khonkaen zoo
• ราคา : บัตรเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท นักศึกษา ข้าราชการ (เฉพาะในเครื่องแบบเท่านั้น) 50 บาท เด็กสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และคนพิการ เข้าชมฟรี

 

 8. โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ 

โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ เป็นสถานที่ดูแลช้างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 3,000 ไร่ และยังเลี้ยงช้างแบบธรรมชาติด้วยนะ ที่นี่เกิดจากพระราชเสาวนีย์ 
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ปัจจุบันมีช้างมากกว่า 170 เชือก 

 

ที่นี่มีลักษณะเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงช้างได้นำช้างเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และได้รับการดูแลอย่างดีครับ ผู้เลี้ยงช้างก็ประกอบอาชีพตามวิถีชีวิตของตนเองไปด้วย เกิดเป็นหมู่บ้านช้างเล็ก ๆ ที่น่าไปสัมผัส นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมก็จะได้เยี่ยมชมช้างอย่างใกล้ชิด ถ้าโชคดีก็จะได้ทำกิจกรรมเลี้ยงดูช้างกับควาญช้างอีกต่างหาก ถูกใจคนรักพี่ช้างแน่นอน 

 

• ที่อยู่ : 156 หมู่ 13 ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
• เบอร์โทรศัพท์ : 0 4455 8501 
• เว็บไซต์ : surin.zoothailand.org
• เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก คชอาณาจักร สุรินทร์ Elephant Kingdom by ZPO

     เห็นสิ่งที่น่าสนใจภายในสวนสัตว์แต่ละแห่งแล้วต้องบอกว่าน่าไปเที่ยวชมจริงๆ ซึ่งแต่ละที่ก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป มีสัตว์แปลก ๆ ที่หาชมได้ยากให้ชมเพียบเลย รับรองว่าจะต้องถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน ใครใกล้ที่ไหนก็ลองแวะไปเที่ยวกันนะครับ วันไหนว่างๆ อย่างวันแม่แห่งนี้ ก็ไปพักผ่อนกับความร่มรื่น และความน่ารักของสัตว์ต่างๆ กันนะครับ