ดีไลท์ ดอนเมือง-รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง) บ้านเดี่ยว ดีไซน์ใหม่ สไตล์โมเดิร์น
สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ทาง Thaihometown จะพาไปชมโครงการบ้านเดี่ยวในโครงการ ดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง) เป็นอีกหนึ่งโครงการของบ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ สไตล์โมเดิร์น จากพฤกษา เรียลเอสเตท ตัวโครงการตั้งอยู่ บนดอนเมือง - รังสิต ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือแนวคิดใหม่ ดีไซน์ โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ สู่เส้นทางความสะดวกสบายแห่งอนาคต เชื่อมต่อ ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี และสะพานปทุมธานี 2 เชื่อมต่อสู่ถนนราชพฤกษ์ พร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) สถานีรังสิต และ สถานีหลักหก
รายละเอียดโครงการ
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แนวคิดใหม่ ดีไซน์โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ ออกแบบให้ลงตัวทุกจังหวะการใช้ชีวิต ตัวบ้านมีความพิเศษมากมาย โดยเฉพาะแบบบ้าน The Frame ที่ตัวบ้านมีระเบียงชั้นบนถึง 3 จุด เพิ่มความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับห้องนอนใหญ่ดีไซน์สุดแนวที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้คุณได้สัมผัสช่วงเวลาพักผ่อนด้วย สระว่ายน้ำสำหรับครอบครัว Clubhouse สวนสาธารณะ และทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่ ด้วยบรรยากาศร่มรื่นสุดสายตา นอกจากความพิเศษของตัวบ้านและโครงการแล้ว ทางพฤกษา เรียลเอสเตทยังใส่ใจทุกรายละเอียดของชีวิต ด้วยการบริการ Shuttle bus รับส่งทุกคนในโครงการ พร้อมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ด้วยระบบ CCTV รอบโครงการ
ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
แบบบ้านโครงการ
แบบบ้านของโครงการ มีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้
1. แบบบ้าน Linear B [ คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง ]
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่
พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร
2. แบบบ้าน The Line [ คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง ]
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่
พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องเตรียมอาหาร
3. แบบบ้าน The Frame [ คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง ]
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่
พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ 1 ห้องเอนกประสงค์ 1 ห้องเก็บของ
แผนที่โครงการ
คลิกดูแผนที่ใหญ่ โครงการดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต
สถานที่น่าสนใจใกล้กับโครงการ
เส้นทางที่สะดวกสำหรับการเดินทาง
เส้นทางมาจากดอนเมืองโทลล์เวย์
จากทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ลงทางด่วนใกล้ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และไปต่อที่ถนนปทุมธานี-รังสิต ตัดเข้าสู่ถนนเลียบคลองรังสิต
เพิ่มเติมแผนที่เส้นทางการเดินทางไปโครงการ
เส้นทางมาจากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต - ดีไลท์ ดอนเมือง – รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง)
เราสามารถใช้เส้นทางจากจาก ถนนวิภาวดีไปยัง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรังสิต–ปทุมธานี–เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองรังสิต –เลี้ยวซ้ายเข้าถนนภาระจำยอมเข้าไปประมาณ 100 เมตร
จะเจอทางเข้าโครงการ ดีไลท์ ดอนเมือง–รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง) อยู่ทางฝั่งขวามือ
รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ
การเดินทางไปยังโครงการในวันนี้จะเริ่มจากถนนสรงประภา บริเวณ 3 แยกหน้าวัดสีกัน ซึ่งถ้าใครเดินทางมาจากเส้นวิภาวดีรังสิตก็สามารถแยกเข้าสู่ถนนสรงประภามาได้เลย ส่วนใครมาจากทางด่วนอุดรรัถยาก็สามารถลงบริเวณถนนศรีสมานแล้วขับตรงเข้ามาบริเวณถนนสรงประภาได้เลย โดยเราใช้เส้นทางนี้เลี้ยวเข้าถนนนาวงประชาพัฒนา
เมื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนนาวงประชาพัฒนาแล้ว ให้ขับตรงยาวต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อขับรถมาบนถนนนาวงประชาพัฒนาประมาณ 3 กม. จะต้องผ่านวัดนาวง ซึ่งเป็นทาง 2 เลน
วัดนาวงเป็นจุดสังเกตสำคัญว่าเรายังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องในการเดินทางไปยังโครงการ โดยวัดนาวงนับว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในย่านนี้
เมื่อขับผ่านวัดนาวงมาจะพบกับทาง 3 แยก ให้ขับตรงต่อไป
ขับมาสักพักจะมีป้ายบอกทางไปสนามกอล์ฟเมืองเอก - ม.รังสิต ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเอกเจริญเพื่อไปกลับรถ
เมื่อวิ่งบนถนนเอกเจริญมาจะเจอทางกลับรถ ให้กลับรถ
หลังจากกลับรถแล้ว ให้ขับตรงไปบนถนนเอกเจริญ
หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆ ให้ขับเข้าวงเวียนแล้วตรงไปจะเข้าสู่ถนนเอกทักษิณ
เมื่อเข้าสู่ถนนเอกทักษิณแล้ว ตรงนี้จะเป็นย่านชุมชนเพราะอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยรังสิต
เมื่อขับมาบนถนนเอกทักษิณประมาณ 500 เมตร จะพบกับ 4 แยก ซึ่งตรงนี้จะเรียกว่า 4 แยกวุ่นวายม.รังสิต ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเพื่อเข้าสู่ถนนเอกประจิม
เมื่อขับเข้าสู่ถนนเอกประจิมแล้ว จะต้องขับผ่านมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของย่านนี้
เมื่อขับผ่านมหาวิทยาลัยรังสิตมาแล้ว ให้ขับตรงไปจนสุดถนนเอกประจิม แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเอกอุดร
ขับตรงยาวบนถนนเอกอุดรจนมาถึง 3 แยกนี้ ให้เลี้ยวซ้าย
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสะพานข้าวคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ให้เลี้ยวซ้ายก่อนขึ้นสะพานแล้ววิ่งเส้นเลียบคลอง(ซอยชวนพัฒน์)
ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบกับป้ายบอกทางเป็นระยะๆ แสดงให้เห็นว่าใกล้ถึงโครงการแล้ว
และแล้วเราก็มาถึงโครงการ ดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต กันจนได้ ส่วนความพิเศษของตัวบ้านจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามอ่านรีวิวด้านล่างกันเลย
รีวิวบ้านตัวอย่าง Linear B
แบบบ้าน Linear B บ้านดีไซน์ใหม่ เน้นสี ใส่กรอบ เนื้อที่ขนาด 50 ตรว. ขึ้นไป ตอบรับเอกลักษณ์ การอยู่อาศัยแนวใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์ทันสมัย แม้สมาชิกในครอบครัวแตกต่าง
แต่ทุกพื้นที่ใช้สอยลงตัว ตามสไตล์คุณ
การออกแบบบ้านเป็นแบบสไตล์โมเดิร์น มีการใช้กระจกตัดแสงของหน้าต่างและประตูทุกบานทั้งด้านบนและด้านล่าง บริเวณหน้าบ้านมีพื้นที่ยื่นออกมาหน้าบ้านสามารถใช้เป็นลานอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวได้อย่างดีหรือใครจะนำเอาไอเดียมาตกแต่งก็สามารถทำได้เลย
บริเวณทางเข้าบ้านมีการยกพื้นสูงขึ้นซึ่งก็มีประโยชน์มากมาย ส่วนปัจจัยที่เห็นได้ชัดก็คือสามารถป้องกันน้ำเข้าบ้านได้อย่างดี
ชั้นสองมีการออกแบบสุดคูล ด้วยการใช้กระจกบานยาวแนวตั้งเรียงติดกันให้เกิดความสวยงาม แถมยังเป็นกระจกตัดแสงทำให้ป้องกันความร้อนได้อย่างดี ขอบประตูและขอบหน้าต่างถูกออกแบบเป็นสีเข้มตัดกับตัวบ้านที่เป็นสีอ่อน
หลังจากที่เราเดินเข้ามาในบ้าน โซนแรกที่เราจะพบก็คือโซนรับแขก มีการจัดสรรค์พื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ในโซนห้องนั่งเล่นอย่างสวยงามและลงตัว มีการจัดวางโซฟาติดผนังทางด้านหลังมีการติดวอลล์เปเปอร์ที่เป็นลายคล้ายกับกำแพงอิฐไว้สำหรับติดรูปต่างๆ สำหรับตกแต่งห้องรับแขก นับว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจอย่างมาก หากใครสนใจซื้อบ้านหลังนี้ก็อย่าลืมเอาไอเดียนี้ไปตกแต่งหรือปรับใช้ รับรองว่าเจ๋งแน่นอน
หรือถ้าใครชอบกระจกก็สามารถใช้กระจกบานใหญ่มาติดได้ เพราะจะทำให้บ้านของคุณดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น แถมยังได้กระจกบานยักษ์มาติดตรงห้องรับแขกด้วย เก๋สุดๆ ไปเลย
ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหาร บ้านตัวอย่างมีการออกแบบการจัดวางอย่างลงตัว ด้วยการใช้โต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง พร้อมดวงไฟด้านบนทำให้เวลาทานข้าวไม่ต้องกลัวเรื่องแสงสว่างจะไม่พอ ส่วนในเวลากลางวันนั้นเรียกได้ว่าไม่ต้องเปิดไฟเลยเพราะมีหน้าต่างด้านข้างคอยรับแสงเข้ามา พร้อมด้วยประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้าง เรียกได้ว่ารับแสงธรรมชาติอ่อนๆ แถมยังไม่ร้อนอีกด้วยเพราะว่ากระจกมีการออกแบบให้เป็นกระจกตัดแสงพิเศษ
ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเลย ผู้ซื้อจะได้รับแสงที่ปราศจากความร้อน ดีไหมใช่ล่ะ....ฮ่าๆ ^^
หลังจากพูดถึงโซนรับประทานอาหารแล้ว เรามาดูโซนห้องครัวกันบ้าง โดยเป็นโซนที่มีความกว้างพอสมควร เคาน์เตอร์ถูกออกแบบให้เป็นรูปตัวแอล (L) เพื่อโค้งเข้าตัวบ้าน ประกอบกันโซนนี้มีความกว้างจึงทำให้ได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้จริงเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Bulit-in ทั้งหมด เพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ารูปสวยงามและประหยัดพื้นที่ เพิ่มความสวยงามให้กับครัวของผู้ซื้อเอง นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของด้านบนให้ผู้ซื้อได้ใช้ประโยชน์อีกด้วย ผู้ซื้อสามมารถนำไอเดียนี้มาตกแต่งกับบ้านของ
ผู้ซื้อเองได้ หรือถ้ายังไม่ถูกใจลองอ่านบทความเรื่อง 6 ไอเดียตกแต่งห้องครัวตามแบบฉบับยอดนิยม ของเรา ที่นำเสนอรูปแบบการแต่งห้องครัวถึง 6 แบบ ลองไปอ่านดูกันนะครับ
ถัดมาเรามาชมห้องน้ำชั้น 1 กันดีกว่า ต้องบอกก่อนเลยว่าบ้านตัวอย่างตกแต่งห้องน้ำออกมาได้สวยงามมาก เนื่องจากห้องน้ำมีขนาดกว้าง และมีการออกแบบให้ผนังและพื้นตัดกันอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ผนังด้านหลังกับด้านข้างยังตัดกันเลย เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ในส่วนของสุขภัณฑ์ก็หายห่วงได้เลย เพราะว่าใช้สุขภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลกอย่าง MOGEN เรียกได้ว่าดูสะอาดตา ทั้งดูดีและมีคุณภาพอย่างแน่นอน
หลังจากที่พาชมชั้น 1 กันไปแล้ว คราวนี้เราจะขึ้นชั้น 2 กันบ้าง โดยเริ่มจากทางขึ้นที่อยู่บริเวณโซนห้องครัวและโซนรับแขก ตัวบันไดถูกออกแบบมาจากวัสดุเนื้อแข็ง ลายน้ำสลับสีขาวเช่นเดียวกับตัวราวบันได บริเวณโถงบันไดมีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงคอยให้แสงสว่างบริเวณทางขึ้น ทำให้เวลากลางวันผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ
“ โถงระเบียงชั้น 2 กว้าง เพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้เยอะ ”
เมื่อขึ้นมาแล้วเราจะพบกับโถงของชั้น 2 โดยชั้น 2 จะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ โดยบริเวณโถงมีขนาดความกว้างพอสมควร มีลักษณะเป็นรูปตัวแอล (L) ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อน ซึ่งเรียกได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 บริเวณโถง ห้องแรกที่เราจะพบก็คือห้องนอนใหญ่ โดยห้องนอนใหญ่มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ดีไซน์เสริมเพิ่มความสุข สไตล์คุณร่วมกับครอบครัวด้วยพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนสบาย แต่ถ้ายังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ลองดูภาพด้านล่างเลย ในส่วนนี้จะขออธิบายโซนเตียงนอนก่อน
โดยพื้นที่โซนห้องนอนของแบบบ้านนี้สามารถใช้เตียงขนาด 6 ฟุตได้แบบสบายๆ แถมมีหน้าต่างบานเล็กบริเวณหัวเตียง นอกจากนี้ด้านข้างเตียงก็ยังมีหน้าต่างบานสไลด์ขนาดใหญ่อีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าต่างตัดแสงสีเขียว ป้องกันรังสียูวี เรียกได้ว่ารับแสงกันได้ตลอดวันโดยปราศจากความร้อนเลยหละ ส่วนใครที่ไม่ต้องการแสงก็สามารถติดผ้าม่านได้เช่นเดียวกับแบบบ้านตัวอย่างเลยจ้า
อ๋อ....อีกอย่างหนึ่งก็คือ บริเวณหัวเตียงจะมีพื้นที่ที่ผู้ซื้อสามารถตกแต่งได้ด้วย อย่าลืมไปหา
ไอเดียในแบบที่ชอบมาตกแต่ง หรือถ้ายังคิดไม่ออกล่ะก็ เอารูปครอบครัวของผู้ซื้อเองเป็นไง นับว่าเป็นไอเดียที่ดีอีกไอเดียหนึ่งเลย
มาต่อกันตรงจุดที่ผมพูดค้างไว้นั่นคือ ห้องนอนใหญ่มีการดีไซน์เสริมเพิ่มความสุข โดยการเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นในห้องนี้ด้วยนะเออ เก๋ใช่ไหม แถมมีกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ไว้รับแสงอีกต่างหาก ไม่เพียงเท่านี้นะครับ บริเวณนี้ยังใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in แบบประหยัดพื้นที่สุดๆ ทั้งหมดถูกออกแบบให้สูงสุดเพดานไปเลย ทั้งตู้เสื้อผ้าและกระจก ทำให้ผู้ซื้อได้กระจกบานใหญ่สมจริงที่สูงสุดเพดาน ถ้าชอบไอเดียนี้ล่ะก็อย่าลืมไปปรับใช้กันนะ
แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็ลองปรับโยกย้ายสักนิดนึง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือควรจะใช้เฟอร์นิเจอร์ Bulit-in แบบบ้านตัวอย่างเพราะผู้ซื้อจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามและประหยัดพื้นที่เนื่องด้วยการออกแบบให้เข้ากับพื้นที่จริง เรียกได้ว่าฟินแน่นอน
นอกจากนี้ห้องนอนใหญ่ยังมีโซนแต่งตัวภายในห้องด้วย โดยมีการกั้นโซนเป็นสัดส่วนทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าโซนแต่งตัวกับโซนเตียงนอนอยู่คนละห้องกัน แต่จริงๆ แล้วถูกออกแบบให้อยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ซื้อ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ถูกออกแบบเป็น Bulit-in ทั้งตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ ส่วนความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือมีทางเชื่อมต่อเข้าห้องน้ำด้วย สำหรับผู้ซื้อที่ถูกใจโซนนี้ก็อย่าลืมเอาไอเดียเหล่านี้ไปตกแต่งกันด้วยนะครับ
“ ห้องน้ำกว้าง อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ให้มาครบพร้อมใช้งาน ”
ถัดมาผมจะขอพูดถึงห้องน้ำชั้น 2 กันบ้าง ห้องน้ำชั้น 2 มีการแยกโซนแห้งโซนเปียก ในส่วนของผนังจะถูกออกแบบให้เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นที่เป็นโทนสีเข้ม วัสดุที่ใช้ก็มีความเป็นมาตรฐานสากลเช่นสุขภัณฑ์จาก MOGEN เป็นต้น
มาในส่วนของห้องนอนที่ 2 กันบ้าง นับว่าเป็นห้องนอนที่กว้างพอสมควร โดยมีหน้าต่างบานยาว 2 จุด เพื่อใช้ในการรับแสงเข้าห้อง ในที่นี้บ้านตัวอย่างถูกจัดเป็นห้องทำงาน ถ้าผู้ซื้อไม่มีบุตรก็สามารถจัดเป็นห้องทำงานได้เช่นกัน แต่ถ้ามีบุตรแล้วต้องการให้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็สามารถตกแต่งโดยแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เพราะผู้ซื้อจะได้ห้องที่มีพื้นที่กว้างและได้ใช้งานจากพื้นที่จริงๆ เพราะถ้าใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมากทำให้เปลืองพื้นที่ ผู้ซื้อจะได้ห้องที่แคบลงนั่นเอง ส่วนถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะแต่งห้องนอนอย่างไร ผมแนะให้อ่านบทความเรื่อง 9 เทคนิคการเปลี่ยนห้องนอนให้ดูดี มีสไตล์ในปี 2560 แล้วผู้ซื้อจะได้ ไอเดียอีกมากมายเลยทีเดียว
“ ห้องกว้าง ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น เพิ่มพื้นที่ใช้งานได้อีก ”
มาถึงห้องนอนที่ 3 กันบ้าง โดยเป็นห้องนอนที่มีความกว้างอีกเช่นกัน แต่ในที่นี้ทางบ้านตัวอย่างถูกจัดเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งก็นับว่าเป็นไอเดียที่ดี แต่ถ้าไม่อยากได้เป็นห้องนั่งล่น เราอาจจะเปลี่ยนเป็นห้องพระก็นับว่าดีไม่ใช่น้อย แต่ถ้าในกรณีมาบุตรและต้องการใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็ควรจัดให้เป็นห้องนอน โดยห้องนี้เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนของเจ้าตัวเล็กมากที่สุด ใช้เฟอร์นิเจอร์ Bulit-in และตกแต่งให้เข้ากับธรรมชาติของเด็ก นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี แต่ถ้ายังคิดไม่ออกผู้ซื้อลองอ่านบทความเรื่อง เคล็ดลับออกแบบห้องเจ้าตัวน้อย เพื่อเพิ่มพลังการนอนหลับให้สบายทุกคืน ผู้ซื้อก็จะได้ไอเดียมาแต่งห้องให้กับเจ้าตัวน้อยนั่นเอง
รีวิวบ้านตัวอย่าง THE LINE
แบบบ้าน THE LINE ดีไซน์โมเดิร์น..วางกรอบ ขอบ เพิ่มความโดดเด่น สีน้ำตาลเพิ่มความสุขุม ออกแบบมาเพื่อชีวิตของคนเมืองโดยเฉพาะ โดยแบบบ้าน THE LINE ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ
ตัวบ้านภายนอกมีความคล้ายคลึงกับแบบบ้าน Linear B แต่ถ้าสังเกตชั้น 2 ก็จะพบข้อแตกต่างนั่นคือมีการเพิ่มพื้นที่กว้างขึ้นนั่นเอง โดยที่เห็นชัดๆก็คือมีหน้าต่างเพิ่มมาอีก 2 จุดบริเวณชั้น 2
การออกแบบบ้านเป็นแบบสไตล์โมเดิร์น มีการใช้กระจกตัดแสงของหน้าต่างและประตูทุกบานทั้งด้านบนและด้านล่าง บริวณหน้าบ้านมีพื้นที่ยื่นออกมาหน้าบ้านสามารถใช้เป็นลานอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวได้อย่างดีหรือใครจะนำเอาไอเดียมาตกแต่งก็สามารถทำได้เลย
บริเวณทางเข้าบ้านมีการยกพื้นสูงขึ้นซึ่งก็มีประโยชน์มากมาย ส่วนปัจจัยที่เห็นได้ชัดก็คือสามารถป้องกันน้ำเข้าบ้านได้อย่างดี
ในส่วนของพื้นที่ชั้น 2 มีระเบียงกันตกและระแนงตกแต่งสวยงามโดยใช้โทนสีเข้าเหมือนกัน โดยมีหน้าต่างถึง 3 จุด ซึ่งเป็นกระจกตัดแสงป้องกันความร้อนขอบหน้าต่างถูกออกแบบเป็นสีเข้มตาม Concept ของบ้าน
หลังจากที่พูดถึงหน้าบ้านไปแล้ว เราเข้ามาดูภายในบ้านกันบ้าง โดยโซนแรกที่เราจะพบก็คือโซนรับแขกนั่นเอง โดยมีการตกแต่งเป็นโทนสีอ่อน มีหน้าต่างรับแสงบริเวณผนัง พร้อมพื้นที่เปล่าไว้ใช้สำหรับติดวอลล์เปเปอร์หรือกรอบรูป สำหรับบ้านตัวอย่างมีการใช้เฟอร์นิเจอร์
Bulit-in ซึ่งก็นับว่าเป็นไอเดียที่ดี โดยผู้ซื้อสามารถออกแบบเองได้ โดยอาจจะนำเอาทีวีมาวางเอาไว้เป็นโซนสำหรับครอบครัว แต่ยังไงก็ขอแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ Bulit-in เพราะจะได้ประหยัดพื้นที่ไปเยอะ ทำให้โซนนี้มีความกว้างมากขึ้นถ้าเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั่วไป
“ Dining Area พื้นที่กว้าง จัดโต๊ะใหญ่ 8 ที่นั่งได้สบาย ”
ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหารของบ้าน ซึ่งมีพื้นที่กว้างพอสมควร สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารทางโครงการจัดมาเป็นแบบ 4 ที่นั่ง แต่ถ้าผู้ซื้ออยากได้เพิ่มก็สามารถปรับเปลี่ยนเองได้เลย เพราะว่าโซนนี้มีพื้นที่กว้างพอสมควร
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของโซนนี้คือมีประตูทางออกบริเวณข้างบ้านที่ทำจากกระจกตัดแสงแบบพิเศษ แถมยังมีหน้าต่างรับแสงอีก 2 จุด เรียกได้ว่าหมดปัญหาเรื่องความมืด เวลาเช้าหรือกลางวันเรียกได้ว่าไม่ต้องเปิดไฟทานข้าวเลย สามารถเปิดผาม่านรับแสงได้ตามต้องการ ทำให้ประหยัดพลังงานในบ้านอีกด้วย
นอกจากนี้ด้วยความที่มีหน้าต่างหลายมุม ทำให้ผู้ซื้อสามารถทานอาหารพร้อมชมวิวนอกบ้านไปด้วย ทำให้เจริญอาหารและมีความสุขในการรับประทานอาหาร ประโยชน์คูณสองขนาดนี้อย่ารอช้าเลยครับ
เนื่องจากบ้านมีความกว้าง ทางโครงการจึงใส่ความพิเศษที่มีเพิ่มเติมเข้ามาก็คือ บาร์สำหรับเตรียมเสิร์ฟอาหาร ผู้ซื้อสามารถนำเอาไอเดียนี้ไปใช้กับบ้านของตัวเองได้ เพราะผู้ซื้อจะได้พื้นที่กว้างพอสมควรสำหรับบ้านหลังนี้ ถ้าปล่อยให้โซนตรงนี้โล่งไปคงไม่ดีแน่ ถ้าเอาไอเดียนี้มาแต่งเติมก็นับว่าดีไม่ใช่น้อย เพิ่มความพิเศษให้กับทุกวันของคุณได้มีความสุขในการร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา
ถัดจากโซนรับประทานอาหารคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากโซนห้องครัวนั่นเอง ซึ่งพื้นที่ห้องครัวที่ทางโครงการให้มานั้นมีขนาดความกว้างพอสมควร จากบ้านตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มีการทำเป็นเคาน์เตอร์รูปตัวแอล (L) ถึง 2 ส่วนด้วยกัน เรียกได้ว่าห้องครัวของบ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยมากจริงๆ
ไอเดียที่อยากจะสอดแทรกให้ผู้ซื้อนำเอาไปใช้นั่นก็คือไอเดียการทำเคาน์เตอร์ 2 ส่วนแบบบ้านตัวอย่าง และใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ด้านบนเคาน์เตอร์ไว้ใช้สำหรับเก็บของก็นับว่าเป็นไอเดีย
ที่น่าเอาไปใช้อย่างยิ่ง ข้อดีของการที่มีตู้เก็บของเยอะจะทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องวางของเกะกะที่เคาน์เตอร์ครัว ทำให้ห้องครัวของผู้ซื้อดูมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและที่สำคัญมีพื้นที่ประกอบอาหารมากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของภาพรวมการตกแต่งผู้ซื้ออาจจะใช้แรงบัลใจจากความชอบของผู้ซื้อเอง มีผสมผสานกับสีของตัวบ้านในการเลือกธีมของห้องครัว อย่างบ้านตัวอย่างที่มีพื้นผนังสีขาวก็มีการใช้เคาน์เตอร์สีขาวเข้ากับผนังแต่เลือกใช้ Bulit-in ตู้เก็บของเป็นสีอ่อนเพื่อให้ตัดกันนั่นเองมันจะทำให้ดูเด่นขึ้นมา ถ้าใช้สีขาวเหมือนกันทั้งหมดมันก็จะดูจืด และธรรมดาเกินไป
“ Design Space เปลี่ยนพื้นที่ว่าง เป็นห้องเก็บของใหญ่ ”
มาในส่วนของทางขึ้นชั้น 2 กันบ้าง บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ระหว่างโซนรับแขกและโซนห้องครัว โดยตัวบันไดจะมีลักษณะคล้ายกับแบบบ้าน Linear B คือมีโทนสีอ่อนซึ่งทำจากวัสดุเนื้อแข็ง มีราวบันไดที่เล่นสีเดียวกับตัวบันได และระหว่างทางขึ้นบริเวณโถงบันไดถูกออกแบบให้เป็นหน้าต่างรับแสง ทำให้เวลากลางวันผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องเปิดไฟบริเวณบันได โดยรับแสงจากธรรมชาติโดยตรง เรียกได้ว่าช่วยให้ผู้ซื้อประหยัดพลังงานได้ดีเลยทีเดียว
ก่อนอื่นที่จะพาไปชมรีวิวชั้น 2 ของบ้าน น่าจะพอสังเกตเห็นกันบ้างแล้วสำหรับทางขึ้น จะมีห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ที่ใต้บันได ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถเก็บอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านได้ หรืออาจจะเป็นเครื่องมือทำสวน หรือแม้แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นสายไฟ หรือสายอินเตอร์เน็ตสำรองไว้ก็ได้ หรืออาจจะเป็นสิ่งของอื่นๆที่ผู้ซื้อต้องการจะเก็บไว้ในห้องนี้
หลังจากขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอนกับอีก 2 ห้องน้ำ โดยโถงของชั้น 2
ปูด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อนเช่นเดียวกับพื้นบ้าน
หลังจากขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ห้องแรกที่เราจะทำการรีวิวก็คือห้องนอนใหญ่ของบ้าน โดยเริ่มจากพื้นห้องถูกปูเป็นพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อนตัดกับผนังห้องสีขาวให้เกิดเกิดความรู้สึกเย็นสบายเมื่อได้อยู่
จะดีแค่ไหนถ้าทุกวันคุณได้ตื่นนอนด้วยความสดใส รายล้อมด้วยไอเดียจากการตกแต่งบ้านที่ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยการออกแบบที่มาจากแรงบันดาลใจของผู้ซื้อเอง เพราะทางโครงการให้พื้นที่ห้องนอนหลักของบ้านค่อนข้างกว้าง พร้อมหน้าต่างบานใหญ่และประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมสู่ระเบียงของห้องนอนใหญ่
“ เพิ่มความพิเศษ ระเบียงใหญ่พื้นที่ส่วนตัว ”
โซนถัดมาในห้องนอนใหญ่จะขอพูดถึงระเบียงห้อง มีพื้นที่กว้าง 1.50 x 3.20 เมตร ออกแบบมาเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถนำเอาโต๊ะนั่งเล่นมาวางเพื่อออกมานั่งรับอากาศนอกระเบียง ภายนอกระเบียงประกอบไปด้วยระแนงตรงนี้สามารถนำเอาคอมเพรสเซอร์แอร์มาวางไว้เพื่อให้ระแนงช่วยบังเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้
กลับมาภายในห้อง โซนต่อไปที่จะพูดถึงก็คือโซน Walk-in Closet การออกแบบห้องแต่งตัวสไตล์ Walk-in Closet กำลังได้รับความนิยมค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับการตั้งตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบเดิมๆ ภายในบ้านตัวอย่างมีการออกแบบ Walk-in Closet แบบมีทางเข้าเป็นบานเลื่อนสะดวกต่อการเข้าออก พร้อมเฟอร์นิเจอร์ภายในก็เป็นแบบ Bulit-in ทั้งหมด เรียกได้ว่าเข้ากับยุคนี้สุดๆ
ภายในมีการออกแบบให้เป็นชั้นวางของและแขวนเสื้อผ้า โดยไม่มีประตูเปิดปิด ทำให้สะดวกต่อการหยิบจับของในการแต่งตัว ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งไว้สำหรับแต่งหน้า เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน
ผู้ซื้อสามารถนำเอาไอเดียดังกล่าวมาใช้กับบ้านเปล่าได้ ส่วนใครที่ยังไม่โดนใจก็สามารถออกแบบเองได้เช่นกัน โดยกำหนดขนาดให้เหมาะกับพื้นที่ รวมถึงสีและรูปแบบ ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานก็ควรจะออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อเอง น่าจะดีกว่า
ถัดจาก Walk-in Closet ก็คือห้องน้ำของห้องนอนใหญ่นั่นเอง โดยห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกและโซนแห้งโดยใช้กระจกบานเลื่อนแบ่งกั้นโซน ใช้วัสดุสุขภัณฑ์ชั้นนำอย่าง MOGEN และความพิเศษก็คือได้กระจกบานยาวสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ บริเวณอ่างล้างหน้ามีลิ้นชักสำหรับเก็บของ โดยผู้ซื้อสามารถเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวในลิ้นชักได้ เพื่อความสะดวกสบายในการหยิบออกมาใช้
ความพิเศษอีกอย่างของห้องน้ำในโซนนี้ก็คือมีหน้าต่างบานกระทุ้งใช้ระบานอากาศในห้องน้ำ และคอยช่วยรับแสงเวลาอาบน้ำตอนกลางวันก็ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ เรียกได้ว่าประหยัดพลังงานได้อย่างดีเลยทีเดียว
“ ห้องน้ำกว้าง กับอุปกรณ์ที่ครบครัน มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ ”
ถัดมาเรามาดูห้องน้ำหลักของชั้น 2 กันบ้าง โดยอยู่ระหว่างห้องนอนใหญ่กับห้องนอนที่ 2 ลักษณะคล้ายกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ คือมีการแยกโซนระหว่าง โซนเปียกกับโซนแห้งด้วยกระจกบานเลื่อน และมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สิ่งที่แตกต่างคือการออกแบบผนังห้องน้ำเท่านั้นเอง โดยโซนแห้งจะใช้ผนังเป็นโทนสีขาวและโซนเปียกใช้เป็นโทนสีเข้ม ซึ่งสลับกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
โซนถัดมาที่จะทำการรีวิวก็คือห้องนอนที่ 2 ของบ้านนั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นห้องที่กว้าง เหมาะสำหรับเป็นห้องนอน 1 คน โดยอาจจะเป็นห้องนอนบุตรของผู้ซื้อเอง ก็นับว่าเหมาะสม แต่ในที่นี้บ้านตัวอย่างโครงการจัดออกมาเป็นห้องนั่งเล่น ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่มีบุตรก็สามารถนำเอาไปเดียนี้ไอตกแต่งห้องได้ แต่ถ้าต้องการให้ห้องนี้เป็นห้องนอน ขอแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งหมด พร้อมแบ่งเป็นโซนระหว่างโซนเตียงนอน และโซนทำงานเพราะตัวห้องมีความกว้างพอที่สามารถแบ่งได้
ส่วนลักษณะของห้องนั้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อนเข้าตัวตัวผนังห้อง พร้อมหน้าต่างระบายอากาศทั้งบ้านเล็กและบานใหญ่ เรียกได้ว่า เป็นได้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นจริงๆ รับรองอยู่สบายและไม่อึดอัดแน่นอน
สำหรับห้องถัดมาก็คือห้องนอนห้องที่ 3 นั่นเอง ต้องบอกเลยว่าห้องนี้เหมาะสำหรับเจ้าตัวเล็กที่สุด เพราะว่าเป็นห้องที่มีขนาดย่อมแต่ก็ไม่ได้มีความอึดอัดจนเกินไป พื้นห้องปูด้วยลามิเนต
สีอ่อนเพื่อให้เข้ากับผนังห้อง โดยผนังห้องมีการติดวอล์เปเปอร์สร้างความสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเลยทีเดียว
แต่สำหรับคนที่จะทำห้องนี้เป็นห้องพระก็เหมาะสมทีเดียว โดยอาจจะเป็นโต๊ะหมู่บูชา แล้วเอาเอาพระของสะสมมาไว้ในห้องนี้ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ลองอ่านบทความเรื่อง "หลากหลายไอเดียตกแต่งห้องพระในสไตล์โมเดิร์น" รับรองช่วยได้แน่นอน
รีวิวบ้านตัวอย่าง The Frame
แบบบ้าน The Frame เป็นบ้านที่ออกแบบสไตล์โมเดิร์น สู่ขีดสุดของการออกแบบ ด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแบบบ้านอื่นๆ นั่นคือห้องนอนเรียงตัวกันหน้าบ้าน ทำให้ความพิเศษคือทุกห้องนอนสามารถรับชมวิวหน้าบ้านได้ โดยแบบบ้าน The Frame ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ภายใต้การออกแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
ทางเข้าบ้านมีการยกสูงเช่นเดียวกับแบบบ้าน 2 แบบแรก สามารถป้องกันน้ำได้ หน้าบ้านถูกออกแบบทางเข้าเป็นกระจกบานใหญ่ ซึ่งใช้เป็นกระจกตัดแสงทำให้ความร้อนไม่สามารถเข้ามาในบ้านได้ ถัดมาเป็นกระจกอีกบ้านที่ส่องเข้าไปในบ้านได้ และถัดไปอีกก็คือที่จอดรถของบ้านซึ่งสามารถจอดได้ถึง 2 คัน เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่มีหน้ากว้างจริงๆ
ในส่วนของชั้น 2 บริเวณหน้าบ้านเราจะสังเกตเห็นระแนงสีเข้มซึ่งตรงนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่น อาจจะใช้บังคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีระเบียงชั้น 2 บริเวณห้องนอนใหญ่เพื่อให้ผู้ซื้ออกมานั่งเล่นได้ ส่วนความพิเศษก็คือ ทุกห้องมีระเบียงทั้งหมด แต่เป็นระเบียงขนาดเล็กยกเว้นห้องนอนใหญ่ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ นับว่าเป็นความพิเศษของบ้านหลังนี้ และนอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ไว้สำหรับเก็บของหรือใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงามบริเวณชั้น 2 อีกด้วย
หลังจากที่เดินเข้ามาในบ้านแล้ว เราจะพบพื้นที่ว่างขนาด 190 ตร.ม. ซึ่งก็คือโซนรับแขกของบ้านหลังนี้นี่เอง โดยพื้นถูกปูด้วยแกรนิตโต้ชั้นดี และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้ก็คือ มีพื้นที่ยกระดับขึ้นไป ในกรณีบ้านตัวอย่างมีการกั้นเป็นอีก 1 ห้องเป็นห้องนั่งเล่นโดยใช้กระจกบานเลื่อน ตรงนี้ผู้ซื้อก็สามารถเอาไปเดียไปใช้ได้
“ ห้องโฮมเธียเตอร์ส่วนตัว คนรักหนังต้องไม่พลาด! ”
สำหรับห้องที่เป็นพื้นที่ยกระดับที่พูดถึงถูกปูด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน โดยบ้านตัวอย่างจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น ถ้าหากไลฟ์สไตล์ของคุณผู้ชื่อชอบแนว Entertainment สามารถกั้นห้องนี้เพื่อเป็นห้องดูหนังส่วนตัวก็นับว่าฟินไปอีกแบบ เพื่อช่วยให้วันหยุดของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป รับรองว่าจะได้ห้องที่สวยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อเองอีกด้วย
สำหรับบ้านตัวอย่างกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนตรงนี้ผู้ซื้อสามารถออกแบบเองได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ซื้อเอง
“ พื้นที่ใช้ทำ มินิบาร์ ไว้นั่งดื่มชิลๆได้ ”
สำหรับมุมรับประทานอาหารจะอยู่ถัดมาจากโซนรับแขก ซึ่งบริเวณโซนนี้จะเป็นโซนที่มีหน้าต่างบานใหญ่ และบ้านตัวอย่างก็ได้จัดโต๊ะรับประทานอาหารไว้บริเวณหน้าต่าง เรียกได้ว่าเวลากลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ นับว่าเป็นทางเลือกในการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี
ด้านข้างโซนรับประทานอาหารตกแต่งให้เป็นบาร์สำหรับวางรอเสิร์ฟอาหาร ซึ่งการจัดวางบาร์นับว่าเป็นไอเดียที่ดี เพราะเนื่องจากบ้านมีขนาดกว้างถ้าไม่มีบาร์มาว่างจะทำให้พื้นที่ว่างจนเกินไป ดังนั้นการวางบาร์จึงมีข้อดีทั้งการช่วยให้พื้นที่ดูสมส่วนขึ้นและยังสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
ถัดจากโซนรับประทานอาหารก็คือโซนห้องครัวนั่นเอง ซึ่งบ้านตัวอย่างมีการออกแบบเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวไอ (I) เพื่อให้เข้ากับรูปบ้าน เนื่องจากพื้นที่โซนห้องครัวเป็นลักษณะห้องแนวยาว ดังนั้นการออกแบบเป็นเคาน์เตอร์รูปตัวไอ(I) จึงเหมาะสมกว่า ส่วนเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Built-in เพื่อให้ได้สัดส่วนจริงและประหยัดพื้นที่ใช้สอย
นอกจากนี้บริเวณห้องครัวยังมีหน้าต่างบานใหญ่เวลาผู้ซื้อทำอาหารก็สามารถเป็นจุดที่ระบายกลิ่นหรือควันออกจากห้องครัวได้ เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ออกแบบมาได้ครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ
มาในส่วนของหลังบ้านกันบ้าง บ้านThe Frame มีพื้นที่หลังบ้านกว้างพอสมควร ผู้ซื้อสามารถใช้โซนนี้ในการต่อเติมเป็นครัวหลังบ้านได้ แต่ถ้าอยากได้เป็นสถานที่พักผ่อนที่เป็นส่วนล่ะก็ลองเปลี่ยนมุมหลังบ้านเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวของผู้ซื้อดูสิ ถ้ายังไม่มีไอเดียแนะนำให้อ่านบทความเรื่อง "มุมพักผ่อนหลังบ้าน สร้างสรรค์ได้ง่ายๆแต่ลงตัว"
กลับเข้ามาในบ้านกันบ้าง หลังจากที่พูดในโซนอื่นๆ กันแล้ว เรามาดูห้องน้ำชั้นล่างกันบ้าง โดยห้องน้ำมีการดีไซน์สุดแนวด้วยการใช้สีโทนอ่อนตัดกับสีเข้ม พร้อมใช้วัสดุสุขภัณฑ์มาตรฐานโลก อย่าง MOGEN ทำให้ผู้ซื้อสามารถอุ่นใจได้เลย
ความพิเศษของห้องน้ำชั้นล่างคือได้กระจกบานใหญ่ ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ซื้อ พร้อมมีช่องรับแสงเข้ามาในห้องน้ำด้วย เวลาผู้ซื้อใช้ห้องน้ำเวลากลางวัน ผู้ซื้อสามารถใช้แสงธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยล่ะ
“ โถงบันไดสว่างโล่ง กระจกช่องแสง 2 บาน ”
หลังจากที่พาชมชั้น 1 ไปแล้ว ต่อไปเราไปชมชั้น 2 กันบ้าง โดยบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีความคล้ายคลึงกับบ้าน 2 แบบแรก โดยบันไดทำวัสดุเนื้อแข็ง พร้อมกับราวบันไดยาวขึ้นไปจนถึงระเบียงห้องโถง
บริเวณทางขึ้นมีช่องแสงสำหรับให้แสงส่องผ่านเข้ามาบริเวณบันได ทำให้เวลากลางวันผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องเปิดไฟบริเวณทางขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง และในส่วนของทางขึ้นมีพื้นที่ว่างผู้ซื้อสามารถนำรูปมาติดได้เลยตามใจชอบ
ก่อนอื่นที่จะขึ้นไปชั้น 2 ผู้ซื้อจะต้องพบกับห้องเก็บของบริเวณใต้บันได ตรงนี้ผู้ซื้อสามารถใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่นอุปกรณ์ช่าง อุปกรณ์ทำสวนเป็นต้น
หลังจากที่ขึ้นมาชั้น 2 แล้ว ห้องแรกที่เราจะพบก็คือ ห้องนอนใหญ่ของบ้านนั่นเอง โดยห้องนอนใหญ่ของบ้าน ประกอบไปด้วย โซนเตียงนอน โซนแต่งตัว และห้องน้ำในตัวโดยความพิเศษของห้องนอนใหญ่คือ สามารถมองเห็นวิวได้ 180 องศา
ภายในห้องนอนใหญ่พื้นถูกปูด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน บริเวณเตียงนอนมีหน้าต่างรับแสงถึง 3 จุด ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนไว้บริเวณทางออกระเบียง แต่ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวซึ่งก็เก๋ไปอีกแบบ
สำหรับผู้ซื้อสามารถนำเอาไอเดียดังกล่าวมาปรับแต่งได้ โดยถ้าผู้ซื้อไม่ชอบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Bulit-in ได้ ซึ่งตรงนี้ผู้ซื้อสามารถออกแบบได้เองตามไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อเองได้เลย
บริเวณข้างเตียงนอนจะพบกับโซนแต่งตัว ซึ่งในที่นี้บ้านตัวอย่างมีตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของพร้อมกับกระจกสำหรับแต่งตัวเท่านั้น ผู้ซื้อสามารถ ในกรณีที่ยังไม่โดนใจ ผู้ซื้อสามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ได้ตามใจชอบ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้ซื้อเอง หรือถ้ามีงบหน่อยก็อาจจะกั้นโซนเป็น Walk-in Closet ก็นับว่าโดนใจไม่ใช่น้อย
ถัดมายังคงอยู่ในห้องนอนใหญ่ ซึ่งโซนสุดท้ายในห้องก็คือ ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ โดยจะมีการแยกโซนเปียกและโซนแห้ง โดยมีฉากกั้นแบบเปิดตรงกลาง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ ส่วนความพิเศษของบ้านหลังนี้ก็คือมีอ่างอาบน้ำเรียกได้ว่าโดนใจหลายๆ คนเลยทีเดียว โดยสามารถเลือกอาบน้ำได้ทั้งแบบยืนและแบบแช่ แถมยังมีหน้าต่างรับแสงนั่นห้องน้ำตรงอ่างอาบน้ำอีกด้วย
ในส่วนของพื้นถูกออกแบบให้เป็นโทนสีเข้มตัดกับผนังสีอ่อน กระจกบานใหญ่สะดวกต่อการใช้งาน และที่สำคัญใช้วัสดุสุขภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานอย่าง MOGEN นั่นเอง
“ ระเบียงใหญ่พิเศษ เป็นส่วนตัว ”
ก่อนจะไปริวิวในโซนถัดไป จะมารีวิวความพิเศษอีกส่วนหนึ่งของห้องนอนใหญ่ นั่นคือระเบียงที่ใหญ่พิเศษ โดยทางเข้าเป็นลักษณะกระจกบานเลื่อน ส่วนโซนระเบียงมีความกว้างมาก ผู้ซื้อสามารถนำเอาเฟอร์นิเจอร์มาวางตกแต่งเพื่อเปลี่ยนเป็นมุมพักผ่อนของผู้ซื้อเองได้ หรือจะนำต้นไม้มาประดับตกแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติก็นับว่าเหมาะสม
หลังจากที่ได้ชมรีวิวห้องนอนใหญ่กันแล้ว ต่อมาเรามาชมรีวิวห้องอื่นๆ ในบริเวณชั้น 2 กันบ้าง โดยเริ่มกันที่ห้องน้ำชั้น 2 ห้องน้ำชั้น 2 มีการออกแบบสีของพื้นและผนังเป็นสีอ่อน ยกเว้นผนังในโซนเปียกที่ใช้เป็นสีเข้ม เพื่อสร้างลูกเล่นให้ดูไม่จืดจนเกินไป
สำหรับห้องน้ำชั้นมีลักษณะคล้ายกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ เนื่องจากมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจนระหว่างโซนเปียกกับโซนแห้ง พร้อมใช้สุขภัณฑ์ชั้นนำอย่าง MOGEN แต่ข้อแตกต่างคือไม่มีอ่างอาบน้ำนั่นเอง
ก่อนที่จะไปต่อกันที่ห้องนอนที่ 3 จะมาพูดถึงความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของบ้านหลังนี้นั่นคือ โซนที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ บ้านตัวอย่างมีการออกแบบให้เป็นโซนสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวเช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้อื่นๆ ผู้ซื้อสามามรถนำเอาไอเดียนี้ไปใช้ได้ โดยอาจจะทำฉากกั้นเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัว
หรือถ้าผู้ซื้ออยากใช้พื้นที่ตรงโซนนี้เป็นพื้นที่สำหรับตั้งโชว์เก็บของสะสมก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ดังบ้านตัวอย่างและประดับตกแต่งของสะสมของผู้ซื้อเอง โดยโซนนี้มีหน้าต่างรับแสงและระบายอากาศได้ด้วยจึงสามารถดัดแปลงโซนนี้ไปทำได้หลายอย่าง จึงเป็นที่มาของคำว่าโซนอเนกประสงค์นั่นเอง
มาในส่วนของห้องนอนที่ 2 กันบ้าง ห้องนอนที่ 2 มีการออกแบบเป็นโทนสีอ่อน โดยใช้ผนังสีขาวและปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน ผนังบ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยการติดวอลล์เปเปอร์บริเวณหัวเตียง พร้อมทั้งตกต่งโดยการติดกรอบรูป เรียกได้ว่าสร้างความสวยงามให้กับตัวห้องเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากผู้ซื้อสนใจในไอเดียดังกล่าวก็สามารถนำเอาไปปรับใช้ได้เลย
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของห้องนอนที่ 2 ก็คือ มีพื้นที่เพิ่มเติมยื่นออกไปตรงโซนระเบียง บ้านตัวอย่างออกแบบให้เป็นโซนสำหรับนั่งเล่น ถ้าหากใครชอบไอเดียนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้ แต่ถ้าหากอยากเปลี่ยนเป็นโซนสำหรับแต่งตัวล่ะก็น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะบริเวณโซนนี้มีหน้าต่างรับแสงด้วยจึงเหมาะสำหรับนำเอากระจก เครื่องแต่งตัวมาจัดวางทำเป็นโซนแต่งตัว
ถัดมาจะพูดถึงโซนระเบียงของห้องนอนที่ 2 กันบ้าง เนื่องจากห้องของแบบบ้านนี้เรียงตัวกันบริเวณโซนหน้าบ้านจึงทำให้ระเบียงของทุกห้องสามารถชมวิวหน้าบ้านได้ สำหรับระเบียงของห้องนอนที่ 2 มีทางออกบริเวณโซนนั่งเล่น ตรงนี้ผู้ซื้ออาจจะใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนได้ โดยอาจจะนั่งทำงานอยู่ในห้องแล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ก็สามารถเดินออกไปสูดอากาศภายนอกระเบียงได้
ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 3 ของบ้านกันบ้าง โดยห้องนอนที่ 3 ถูกออกแบบเป็นโทนสีอ่อน ทั้งพื้นและผนังห้อง โดยเป็นพื้นไม้ลามิเนต ส่วนผนังบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งโดยการติดวอลล์เปเปอร์นับว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนที่ 3 บ้านตัวอย่างจะเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่ถ้าผู้ซื้อสนใจเป็น Bulit-in ก็สามารถทำได้ เพราะห้องก็ถูกออกแบบมาให้รองรับกับเฟอร์นิเจอร์ Bulit-in ในการเข้ามาสร้างความสวยงามนั่นเอง
ความพิเศษของห้องนอนที่ 3 ก็คือ มีหน้าต่างระบายอากาศถึง 3 บาน พร้อมประตูกระจกบานเลื่อนออกสู่ระเบียง ทำให้บรรยากาศของห้องไม่อึดอัดเพราะมีอากาศถ่ายเท เรียกได้ว่า ทั้งน่าอยู่และสวยงามแบบนี้ต้องรีบไปซื้อกันแล้วล่ะ
“ ระเบียงเข้ามุม ชมวิวส่วนตัว ”
อย่างที่อธิบายไปตอนต้นแล้วว่าความพิเศษของแบบบ้านนี้คือทุกห้องจะมีระเบียง โดยระเบียงของห้องนอนที่ 3 จะอยู่บริเวณหัวเตียง ผู้ซื้อสามารถออกไปชมวิวหน้าบ้านหรือนั่งเล่นได้ หรืออาจจะทำเป็นสวนเล็กๆ ไว้ประดับตกแต่งห้องก็สวยไปอีกแบบ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
โครงการดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง) เป็นบ้านแนวคิดใหม่ ดีไซน์ โมเดิร์น ทางเข้ามาที่ถนนภายในโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร ถนนในซอยกว้าง 8 มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อม CCTV ทั้งโครงการพร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน
Clubhouse มีฟิตเนส พร้อมสระว่ายน้ำสำหรับครอบครัว บรรยากาศริมทะเลสาบขนาดใหญ่
Shuttle Bus รับ - ส่ง ลูกค้าในโครงการ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยมีการรับส่งทุกวัน ตั้งแต่ 6.00 น. - 20.00 น.
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อม CCTV ทั้งโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน
ทางเข้ามาที่ถนนภายในโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร
ถนนในซอยกว้าง 8 เมตร โดยแต่ละซอยจะมีบ้านเพียง 6-8 หลังเพื่อการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รปภ.ที่ง่ายขึ้น
โครงการมีทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่ ด้วยบรรยากาศร่มรื่นสุดสายตา
ด้วยบรรยากาศร่มรื่นมีลมพัดตลอดทั้งวันและมีสวนสาธารณะภายในโครงการให้ได้พักผ่อน พร้อมด้วยโซน Jogging Trak เพื่อให้สมาชิกภายในโครงการสามารถมาออกกำลังกายหรือพาสัตว์เลี้ยงส่วนตัวมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เช่นกัน โซนนี้อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ถ้าหากใครเบื่อกับการออกกำลังกายในฟิตเนสแล้วละก็ โซนนี้ก็ตอบโจทย์ได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
สรุปโครงการดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง)
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวบรรยากาศดีๆ โครงการดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีจากพฤกษา เรียลเอสเตท โดยเฉพาะคนเมืองสมัยใหม่ที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งในโครงการและรอบโครงการ ต้องบอกเลยว่า โครงการนี้ออกแบบมาเพียบพร้อมจริงๆ แถมยังอยู่ในโซนดอนเมือง - รังสิต ที่ไม่อยู่ในพื้นที่ที่แออัดมาก เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในโซนนี้อย่างยิ่ง หรือแม้แต่คนที่ทำงานในเมืองก็สามารถเลือกที่จะอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเบื่อความวุ่นวายและต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เรียกได้ว่าที่นี่ครบเครื่องเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเพราะทางโครงการมีรถรับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าอีกด้วย แบบนี้ยังรอช้าอยู่อีเหรอ แต่ถ้าหากสนใจโครงการขึ้นมาแล้วล่ะก็ ติดต่อข้อมูลด้านล่างได้เลย
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
โครงการ ดีไลท์ ดอนเมือง - รังสิต (รถไฟฟ้าสายสีแดง)