เมื่อวิ่งไปได้สักพักจึงพึ่งรู้ตัวว่า “เรากำลังง้อธนาคาร” ….. ถ้าอย่างนั้นทำอย่างไรเราจะได้อยู่ในฐานะที่ “ ธนาคารง้อเอาเงินกู้ หรือสินเชื่อมาให้เราบ้าง ?? ” คำตอบง่ายๆคือเราต้องทำตัวให้เป็นลูกค้าชั้น “ดี” ซึ่งคำว่าดีนี้ไม่ได้หมายถึง รวย ความเป็นจริงอย่างหนึ่งคือสำนักธุรกิจของธนาคารไม่ได้ชอบคนรวยครับแต่ชอบอะไรมาดูกัน
Key success factors ของการยื่นสินเชื่อ
1. เครดิตบูโร อย่างที่เกริ่นคือ สำนักธุรกิจที่ปล่อยกู้ให้คุณนั้นไม่ได้ชอบคนรวย แต่ขอบคนที่ “มีกำลังการผ่อนต่อเดือนสูง”และ “ประวัติ,นิสัยการผ่อนชำระดี” โดยดูประวัติหรือนิสัยการผ่อนชำระว่าดีหรือไม่จากเครดิตบูโรนี้เอง
2. “มีกำลังผ่อนต่อเดือนสูง” บุคคลที่ธนาคารต้องการคว้าตัวมาเป็นลูกค้าของตัวเองนั้น ต้องมีความมั่นคงทางการเงิน การเดินบัญชีในแต่ละเดือนนั้นถ้าเป็นพนักงานกินเงินเดือนก็จะดูฐานเงินเดือน แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ ความจริงจะอ้างอิงงบการเงินกรณีขอสินเชื่อในนามบริษัท แต่หากขอในนามส่วนตัวการเดินบัญชีส่วนตัวนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ และมีหลายปัจจัยต้องทราบเช่น ธนาคารมีความระแวดระวังการแต่งบัญชีจึงมีข้อกำหนดเรื่องการเดินบัญชีPassing ประมาณว่าการเดินบัญชีแบบฝากเข้าและถอนทันทีเพื่อให้มีตัวเลขแสดงว่ามีรายได้แบบหลอกๆ
3. การสั่งจ่ายเช็คในกิจการของตนเองห้ามมีประวัติเช็คคืนเด็ดขาด เรียกแบบบ้านๆคือเช็คเด้งเรื่องนี้ทางธนาคารก็นำมาพิจารณาด้วย
4. หลักประกัน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือต้องรู้ก่อนว่าการขอสินเชื่อนั้นการมีสองประเภท 1 แบบที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และแบบไม่ต้องใช้หลักทรัพย์แน่นอนว่าสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันย่อมมีดอกเบี้ยแพงกว่า และการที่มีหลักประกันย่อมทำให้ความเสี่ยงของธนาคารลดลงดังนี้ย่อมอนุมัติได้ง่ายกว่า
5. ความเสี่ยงอื่นๆที่ธนาคารต้องนำมาพิจารณา เช่นประเภทอาชีพของผู้กู้ พื้นที่ๆประกอบกิจการหากอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็นำมาพิจารณาด้วย
6. ข้อควรระวังไม่มีหนี้ก็มีปัญหาบูโรได้ตราบาปติดตัวผู้กู้ที่ไม่มีวันลบ
7 ข้อที่ควรระวัง
1. อย่าหลงเชื่อการยื่นสินเชื่อหลายทีในครั้งเดียว ตัวแทนหรือพนักงานขายที่คุณติดต่อต้องมีตัวตนจริงสามารถตรวจสอบได้เช่น จดทะเบียนบริษัท หรือได้พบและมีนามบัตรมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งเนื่องจากปัจจุบัน การยื่นสินเชื่อจากตัวแทนหรือนายหน้าตามอินเตอร์เน็ต webนายหน้าที่ไม่ระบุที่อยู่หรือจดบริษัท ที่ลงแค่เบอร์ไม่สามารถตามตัวได้ หรือที่เรียกว่าตัวแทนผี จะนิยมให้ลูกค้าเซนต์เอกสารทีละ 8-10ธนาคารและส่งในทีเดียวซึ่งในการยื่นสินเชื่อธนาคารสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าขณะนั้นคุณส่งใบสมัครกับธนาคารไหนอยู่และคุณจะได้ code เป็นบุคคลที่พึงระวังติดตัวคุณไปตลอดแม้เครดิตจะดีแต่ก็จะถูกปฎิเสท เนื่องจากธนาคารมองว่าคุณจงใจยื่นหลายที่และหากทุกที่อนุมัติหมดแน่นอนว่าคุณไม่มีกำลังผ่อนจ่ายเพียงพอแน่นอน
2. การปลอมเอกสารหรือฟอร์ดเอกสาร เช่นการประกาศตามอินเตอร์เนตของนายหน้าผีที่ว่า รับเดินสเตทเม้นหรือปลอมเพิ่มยอดเงินสเตทเม้นเพื่อยื่นธนาคาร ซึ่งเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่ในการใช้งานจริงนั้นไม่มีประโยชน์ใดๆเลยเนื่องจากทางธนาคารสามารถดึงข้อมูลที่แท้จริงมาประกอบการพิจารณาและหากไม่ตรงกับเอกสารที่ยื่น จะมีผลเป็นการปลอมแปลงเอกสารซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาในทันที
3. การจงใจแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลแบบผิดๆ เช่นประวัติการทำงาน ประวัติการสมรส หรือในการยื่นสินเชื่อหลายธนาคารแล้วกรอกข้อมูลไม่ตรงกันเช่น ยื่นสินเชื่อหลายตัวหลายธนาคารแล้วแจ้งอาชีพการทำงานในใบสมัครไม่ตรงกัน กรณีดังกล่าวธนาคารสามารถตรวจสอบได้ถึงความไม่น่าเชื่อถือของตัวลูกค้าเองก็จะเป็นข้อมูลติดตัวลูกค้าไปตลอด
4. การติดต่อทำสินเชื่อทางโทรศัพท์กับนายหน้าที่แอบอ้างว่ามาจากธนาคารสาขาใดๆก็ตามควรตรวจสอบโดยโทรเข้าไปที่ธนาคารสาขานั้นๆเสียก่อนสมัครสินเชื่อ เพื่อป้องกันการก๊อปปี้และยื่นใบสมัครโดยที่ลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ยินยอม
5. ตรวจสอบบูโรของตัวเองหากมีโอกาส มีหลายครั้งที่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับการใช้บริการนายหน้าผี กลับพบบูโรของตนว่ามีรายการที่ตนเองไม่ทราบมาก่อน
6. โฆษณาชวนเชื่อเรื่องสามารถวิ่งเต้นให้ ผู้ติดแบล๊คลิส กู้ธนาคารได้ ซึ่งในความเป็นจริงธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันไม่มีธนาคารไหน รับผู้ติดแบล๊คลิสเข้าเป็นลูกค้าสินเชื่อครับ เว้นเสียแต่จะปิดหนี้นั้นแล้วทั้งหมด
ซึ่งตรงนี่ส่งคำถามทางแบบสอบถามหรือโทรสอบถามเราให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดแบล๊คลิสฟรี
7. ในปัจจุบันข้อมูลส่วนตัวหลายอย่างที่คุณกรอกโกหกไม่ได้ ทางธนาคารจะดึงข้อมูลคุณประกอบการพิจารณาอีกครั้งจากทะเบียนราษฎร์ และประกันสังคม ผมพิมพ์มาถึงจุดนี้คงทราบแล้วว่าข้อมูลจากทั้งสองหน่วยงานนี้ครอบคลุมข้อมูลส่วนตัวใดๆของคุณบ้าง นอกจากนี้ข้อมูลในด้านการยื่นสินเชื่อของคุณกับธนาคารไหนเมื่อไหร่ปัจจุบันไม่ใช่ข้อมูลที่ตรวจสอบไม่ได้อีกต่อไป
7. วงเงินที่สามารถกู้ได้มาจากความสามารถในการผ่อน และหนี้สินที่มีอยู่หักลบกันแม้จะมีปัจจัยอื่นๆแต่หลักๆก็มาจากสองตัวนี้ครับ
8. งบสิ้นปี ทุกปีต้องมีกำไร ... บริษัทที่ทำบัญชีสองหน้าแจ้งว่าขาดทุนหรือไม่มีกำไรทุกปีจะมีปัญหาในเรื่องการขอเงินกู้ในนามบริษัท
ในความเป็นจริงนั้นผู้ประกอบการหลายท่านในการทำธุรกิจส่วนตัวนั้นไม่ค่อยมีเวลารักษาสุขภาพเครดิตของตัวเองทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญมากในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเครดิตก็เหมือนกับกระเป๋าเงินอีกใบที่สามารถนำเงินมาใช้ได้นั่นเอง