สาระควรรู้ทั่วไป

ช่วงนี้เป็นช่วงที่คอนโดหลายๆโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน และก็มีงานคอนโดหลายๆงานจัดขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วตัวผมเองเนี่ย จากที่ได้มีโอกาสไปเดินชม เดินสำรวจตามงานต่างๆก็จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเลยน่ะครับ ที่ถามเซลล์โครงการว่า ซื้อไปกะจะเอาไปปล่อยเช่า จะปล่อยเช่าได้ไหม แล้วมันได้ราคาเท่าไหร่ คุ้มรึเปล่า ที่จะซื้อ

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

ซื้อคอนโดปล่อยเช่าให้ได้ราคาดีๆ ต้องปรับตัวกันเยอะ

ช่วงนี้เป็นช่วงที่คอนโดหลายๆโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน และก็มีงานคอนโดหลายๆงานจัดขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วตัวผมเองเนี่ย จากที่ได้มีโอกาสไปเดินชม เดินสำรวจตามงานต่างๆก็จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเลยน่ะครับ ที่ถามเซลล์โครงการว่า ซื้อไปกะจะเอาไปปล่อยเช่า จะปล่อยเช่าได้ไหม แล้วมันได้ราคาเท่าไหร่ คุ้มรึเปล่า ที่จะซื้อ

บทความโดย เกริก บุณยโยธิน

ในฐานะคนที่ทำงานด้านนี้ ถ้าคุณลูกค้าไปถามเซลล์ เซลล์ที่ไหนจะบอกว่าไม่คุ้มล่ะครับ ร้อยทั้งร้อยต้องบอกประมาณว่า ปล่อยเช่าได้อยู่แล้วล่ะพี่ แถวนั้นมีออฟฟิศเยอะแยะ เนี่ยถ้าพี่ไม่อยากเสียเวลาปล่อยเช่าเอง มาฝากหนูปล่อยตอนหลังโอนก็ได้นะ บริษัทก็มีบริการปล่อยเช่าเหมือนกัน ไม่ยุ่งยากเรยแม้แต่นิดเดียว ซื้อๆไปเหอะพี่จองวันนี้แค่ห้าพัน ได้ iPad Air ด้วย แถมผ่อนค่าทำสัญญา 0% ได้อีกสิบเดือนเชียวนะพี่ จองไปเลยล่ะพี่ เอาบัตรเครดิตมา.......


หลังจากนั้นลูกค้าก็มึนไปอีกสองปีจนตึกสร้างเสร็จ แล้วก็มามึนอีกรอบตอนที่จะเริ่มหาผู้เช่าแหละครับว่า อ้าว ห้องมันเฟอร์นิเจอร์ไม่ครบนิ ถ้าจะปล่อยเช่าต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะแค่ไหน แล้วนี่ยังไม่รวมค่าส่วนกลางไปเลยลืมคิดอ่ะ ไอ้ตอนซื้อเซลล์ก็ไม่บอกว่าเท่าไหร่ แล้วฉันจะไปหาลูกค้าได้จากที่ไหน แล้วถ้าหาลูกค้าได้แล้วจะปล่อยเช่าราคาเท่าไหร่ดีถึงจะคุ้ม >>> สุดท้ายแล้วคุณลูกค้าหลายๆท่าน ก็อาจจะปล่อยเช่า ได้ในราคาที่เสมอตัว หรือขาดทุนกับค่างวดธนาคารเลยก็ว่าได้ครับ…เอาล่ะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้ผมจะมาอธิบายให้นักการตลาดอสังหา และผู้ที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ากัน ได้เห็นครับว่าในการปล่อยเช่าคอนโดแต่ละที่นั่น คุณต้องคำนึงถึงอุปสรรคอะไรบ้าง ปล่อยเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม ดีไม่ดีหากคุณอ่านบทความนี้ของผม คุณอาจจะเปลี่ยนใจเลิกซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าไปเลยก็ได้ครับ!!! อ้าว ไหงเป็นงั้น???

 

สิ่งแรกที่ผู้ซื้อคอนโดต้องคำนึงถึงนะครับ นั่นคือค่าใช้จ่ายรายเดือนของคอนโดที่เราซื้อไว้นะครับ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่า sinking fund ค่าที่จอดรถ (บางแห่งคิด) และที่สำคัญคือค่าผ่อนธนาคารครับ…ที่ต้องรู้ก็เพราะว่าเราจะได้เอาค่าใช้จ่ายพวกนี้มาคิดเป็น rental yield นะครับ ว่าผลตอบแทนจากค่าเช่ารายปีที่เราได้มันจะได่กี่เปอร์เซนต์ คุ้มค่ากว่าการลงทุนในด้านอื่นๆหรือเปล่า?  

Example

ผมซื้อคอนโดในระดับ mid grade โดยมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 85,000 บาท ห้องขนาด 30 ตรม. ราคา2,550,000 บาท

Additional Cost มีดังนี้ครับ

  • Sinking fund 500 บาทต่อตรม.จ่ายครั้งเดียว               = 15,000 บาท
  • ค่าโอน 1% (ใครได้โปรฟรีโอนไปก็สบายครับ)             = 25,500 บาท
  • ค่าเฟอร์ฯ (ห้องใครได้เฟอร์ครบก้ดีไปครับ)                 = 100,000 บาท
  • ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า (ใครได้ครบหมดก็ไม่ต้องปวดหัว)      = 50,000 บาท  
  • ค่าโอนมิเตอร์น้ำ ไฟ อากรแสตมป์ ฯลฯ                     = 6,000 บาท
  • ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 45 บาท หรือคิดเป็นเดือนละ = 1,350 บาท


2,746,500 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าส่วนกลางลงไปในนี้…ถามต่อว่าแล้วจะปล่อยเช่าเท่าไหร่ดีล่ะ? Owner หลายๆคนมักจะคิดไม่ครบถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ครับ ส่วนใหญ่จะจบแค่ราคาที่ซื้อคอนโดมาเท่านั้น และ owner หลายๆก้มักจะคิดราคาค่าเช่าโดยไปเปรียบเทียบกับตึกเก่าๆแบบเกือบสิบปีแล้ว ซึ่งมันเป็นคนละต้นทุนกันเลยครับ สมัยสิบปีที่แล้วคอนโดกลางเมืองบางแห่งยังตารางเมตรไม่ถึงห้าหมื่นก็มีนะครับ หรือบางคนก้จะไปคิดค่าเช่าโดย base จากรายจ่ายรายเดือน ที่ตัวเองต้องเสียไป >>> เหล่านี้คือวิธีคิดที่ไม่ค่อยจะถูกต้องตาม logic เท่าไหร่ครับ ซึ่งวิธีการที่ ถูกต้องก็คือ คิดโดยเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะในตลาดไทย หรือเพื่อนบ้านอย่างสิงค์โปร์ อัตราผลตอบแทนที่จัดว่าโอเคก็คือประมาณ 5.5% ต่อปีครับ ถ้าอยู่ในขั้นดี ก็จะประมาณไม่เกิน 7.5% เท่านั้นครับ… ว่าแล้วเราก็มาคิด yield กันดีกว่าครับ เอาเป็นว่าผมอยากได้ผลตอบแทนสัก 6% ก้แล้วกันครับ วิธีคิดตามหลักสากลง่ายๆก็คือ เอาราคาต้นทุนคอนโดของเรา 2,746,500 บาท มาคูณด้วย 6% แล้วหารด้วย 12 เดือนครับ ก็จะตกเดือนละ 13,732 บาท แต่ยังไม่จบนะครับ!!! เราต้องอย่าลืมบวกค่าส่วนกลางไปด้วยครับ ดังนั้นหากเราอยากได้ผลตอบแทนที่ 6% เราต้องคิดค่าเช่าที่ 15,082 บาทต่อเดือนนะครับ (ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ)

 

ทีนี้เนี่ยผมขอยืนยันเลยครับ ว่าการจะปล่อยเช่าเนี่ยผมคิดว่ายังไงมันก็เหมาะกับคนที่มีเงินสดในการซื้อคอนโดแบบไม่ต้องกู้แบงค์นะครับ เพราะว่าอะไรหากเป็นการกู้แบงค์ สมมติว่าคุณกู้ 100% เลย โดยคร่าวๆแล้วอัตราการผ่อนแบงค์จะอยู่ประมาณล้านละ 7,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นห้องนี้ต้องมีผ่อนแบงค์อย่างต่ำก็15,000 บาทต่อเดือนแล้วอ่ะครับ คิดยังไงมันก็ไม่คุ้มอ่ะครับ อย่าคิดหลอกตัวเองโดยฝืนตลาด ว่าจะต้องปล่อยเช่าให้ได้เดือนละ 30,000 บาทนะครับ คุณอย่าลืมว่านอกจากคุณจะต้องแข่งกับตึกข้างเคียงแล้ว คุณยังจะต้องแข่งกับห้องอื่นๆในตึกเดียวกันกับคุณเช่นกัน ++++อ้อ ผมลืมบอกไป หากใครที่ใช้บริการของนายหน้าในการปล่อยเช่า เค้าจะคิดค่าบริการที่ 1 เดือนสำหรับสัญญา 1 ปีนะครับ ซึ่งมันก้จะดีกว่าตรงที่คุณไม่ต้องมาลำบากในการดีลตรงกับผู้เช่า ซึ่งมันเหนื่อยมากนะครับ น้ำไม่ไหล ไฟดับ กุญแจหาย เข้าห้องไม่ได้ ตอนตีหนึ่งตีสอง ตรวจดูความเรียบร้อยของห้อง สารพัดปัญหาการเช่าเนี่ยมันเกิดขึ้นเป็นประจำนะครับ ผมคิดว่ามันคุ้มค่ากว่าเยอะ แนะนำว่าให้ทำสัญญายาวไปเลย 2 ปีเพราะว่าคุรจะเสียค่าคอมมิชชั่นแค่ 1.5 เดือนเองครับ ประหยัดไปครึ่งเดือน!!!!

 

เอาล่ะครับ เมื่อเรารู้แล้วว่าควรจะเริ่มต้นคิดจากตรงไหนถึงจะเหมาะสม เราก็ควรที่จะมาพิจารณาถึงอุปสรรคอื่นๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดเช่านะครับ

ขนาดห้องที่เล็กลง แต่มันกลับอยู่ได้จริงๆอ่ะ!!!

คุณผู้อ่านก็คงจะทราบกันดีนะครับ ว่าปัจจุบันนี้ developer ผลิตคอนโด size เล็กลงเรื่อยๆ (ซึ่งตามกฎหมายยังไงก็คงเล็กเกินกว่า 20 ตรม. ไม่ได้) ตอนนี้ห้องขนาด 21 ตรม. สามารถนำมากั้นห้องเป็นขนาด1 ห้องนอนก็ยังได้ครับ ยิ่งขนาดห้องเล็กลงถึงราคาต่อตารางเมตรจะแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาโดยรวมแล้วก้ยังถูกกว่าคอนโดที่มีขนาดห้องใหญ่กว่า จริงไหมครับ? แล้วทีนี้หากคนไหนไม่รู้ไปคิดค่าเช่าโดย based จากราคาเปรียบเทียบของห้อง 1 นอน size 30 ตารางเมตร ของตึกข้างๆกัน มันก็ดูจะขี้โกงยังไงไม่รู้ใช่ไหมครับ?  Owner ตึกข้างๆก็คงจะงอนว่ามีอย่างที่ไหนห้องฉันขนาดใหญ่กว่าปล่อยเช่าได้เดือนละ 15,000 แต่ห้องแกเล็กนิดเดียว ดันมาปล่อยเช่าในราคาเท่ากันซะนี่!!!! ปัญหาเหล่านี้คงจะไม่เกิดขึ้นนะครับ ถ้าคุณคิดค่าเช่าโดย base จาก expected yield >> และถ้าคุณคนที่จะซื้อลงทุนปล่อยเช่าทั้งหลาย คิดถึงจุดนี้ก่อนที่จะหลงคารมณ์ของเซลล์แล้วคุณก็จะรู้ว่าโครงการที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อนั้น มันคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่าน่ะครับ อย่ามัวแต่หลงคิดว่าเออราคารวมๆมันก็ถูกกว่าตึกข้างๆนะ แต่ในชีวิตจริงคุณไม่มีทางปล่อยห้องสตูดิโอขนาด 21 ตารางเมตรได้ในราคาเดือนละ 22,000 บาท up ครับ และยิ่งถ้าคุณต้องแข่งกันตัดราคากับคู่แข่งจำนวนเกือบพันยูนิตในโครงการเดียวกันอีก โอ้ย ไม่อยากจะคิดว่าขาดทุนเท่าไหร่ครับ อย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะลงทุนปล่อยเช่า หรือปล่อยขาย… คุณจำเป็นต้องคำนวณเป็นราคาต่อตารางเมตรนะครับ ตราบใดที่คอนโดส่วนใหญ่ในตลาดไม่ได้มีขนาดมาตรฐานเท่านี้

ที่จอดรถ มันสำคัญรึเปล่าอ่ะ?

เคยมีเซลล์หลายๆคนตอบคำถามผม เวลาที่ผมถามถึงอัตราที่จอดรถในตึกว่ามีจำนวนกี่เปอร์เซนต์ ว่าไม่ต้องห่วงค่ะ คอนโดเราส่วนมากคนที่ซื้อมักจะไม่ใช้รถเพราะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าเลย หรือบอกว่าอ๋อที่นี่เน้นปล่อยเช่าคนต่างชาติค่ะ เพราะฉะนั้นเค้ามักจะใช้รถไฟฟ้ากันค่ะ ที่จอดรถมีเท่านี้ถือว่าเยอะเลยระคะสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้า!!!! ผมล่ะอยากจะย้อนถามกลับไปจริงๆว่า แล้วคุณเซลล์ได้เคยอยู่คอนโด หรือเคยซื้อคอนโดในกรุงเทพหรือเปล่าครับ? ถ้าจะให้ผมเดาก็คงคิดว่าไม่เคยสินะครับ ถึงไม่รู้ว่าจริงอยู่เค้าใช้รถไฟฟ้ากัน แต่เค้าจอดรถทิ้งไว้ในคอนโดเพื่อไปต่อรถไฟฟ้าเฟ้ยยยย…ต้องบอกว่าที่จอดรถเนี่ยมันเป็นจุดขาย ที่ขายได้เสมอนะครับ สำหรับการขายคอนโดในประเทศที่ระบบขนส่งสาธารณะนั้นมันแย่ทั้งการบริการ และแย่ทั้งการครอบคลุมพื้นที่นะครับ...ประเทศเรามันไม่เหมือนกับ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงค์โปร์ ฮ่องกง ที่คนเค้าไม่อยากจะใช้รถส่วนตัวกัน เพราะระบบขนส่งสาธารณะแต่ละแห่งมันช่าง superb ซะเหลือเกินครับ ยิ่งนโยบายของรัฐบาลก้สนับสนุนให้คนซื้อรถส่วนตัวกันมากขึ้น แล้วมันจะจอดกันที่ไหนล่ะครับ ในเมื่อท้องถนนยังมีไม่พอให้ขับ ที่จอดรถข้างทางก้ไม่มี ที่จอดรถสาธารณะก็ไม่ปลอดภัยแถมคิดเงินแพงอีก…แปลกนะครับที่บรรดาแบบสอบถาม จากสถาบันต่างๆหรือจากบริษัทต่างๆไม่สอบถามกันถึงสาเหตุที่คนซื้อคอนโดกัน โดยเพิ่ม choice ที่ว่า ซื้อเพื่อไว้จอดรถ เห็นมีแต่ไว้อยู่เอง ไว้ลงทุน ไว้ให้ลูกหลาน ฯลฯ ลองเพิ่มchoice นี้ดูสิครับ แล้วคุณจะรู้ว่าปัจจัยนี้มันสำคัญต่อยอดขายมาก ในบางคอนโดมีคนหาเช่าที่จอดรถจากสิทธิ์ของห้องอื่นกันให้ควั่ก ยิ่งคอนโดที่มีที่จอดรถ 100% เนี่ย จะได้กลุ่มผู้เช่าที่ต้องการเฉพาะแค่จอดรถเพิ่มเข้ามานะครับ

 

คอนโดที่มีบริการแบบโรงแรมมันดีจังเลย น่าจะปล่อยเช่าได้ง่ายนะ?

คือสมัยนี้หลายๆโครงการเค้าใช้จุดขายตรงที่มี service แบบโรงแรม ประเภท laundry, maid, shutter bus, concierge, ticket reservation อะไรเทือกนี้น่ะครับ คนที่คิดจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็คงคิดว่าเออดีอ่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วบริการพวกนี้มันคิด extra cost หมดเลยนะครับ และตรรกะอีกอย่างนึงที่สำคัญก็คือ developer ที่นิยมทำบริการแบบนี้ มักจะมีประสบการณ์ในด้านการทำธุรกิจโรงแรม ธุรกิจ service apartment ปล่อยเช่ามาก่อน และถ้าเค้าเคยทำมาแล้ว มีหรือครับว่าเค้าจะไม่เก็บห้องส่วนหนึ่งเอาไว้ ในกรณีที่ขายไม่หมด เพื่อเอามาทำปล่อยเช่าเอง ในราคาที่ถูกกว่าคุณปล่อย แถม synergy บริการต่างๆเอาไว้ให้ฟรี!!!

ปล่อยเช่าระยะสั้นเก็บค่าเช่าได้แพงกว่า!!!

เรื่องนี้ผมเคยพูดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วครับว่า เดี๋ยวนี้เวปไซต์อย่าง airbnb (เห็นว่าตอนนี้โดนแบนในนิวยอร์ก โทษฐานที่ไปทำลายธุรกิจที่พักของทั้งโรงแรมและ hostel เค้าซะหมด ซึ่งเดี่ยวผมจะลงเนื้อหาข่าวนี้ให้ในตอนท้ายเพื่อเป็น case study ครับ) นั้นเป็นที่นิยมกันมากทั้งในหมู่ owner ที่ต้องการทำเงินจากค่าเช่าระยะสั้นโดยไม่สนใจ detail อะไรมากมาย และในหมู่นักท่องเที่ยวที่มองว่าการอยู่คอนโดมันดีกว่าอยู่โรงแรม และ hostel (แหงล่ะคืนละสามพันก็ได้อยู่คอนโด facilities จัดเต็มอย่าง The River ได้แล้ว หรือแค่คืนละสองพันนิดๆก็ได้อยู่คอนโด The Address Asoke ที่ผมอยู่ได้แล้ว) คือมุมมองส่วนตัวของผมรูปแบบธุรกิจนี้ผมว่าค่อนข้างจะไม่คำนึงถึงเพื่อนบ้านโดยรวมที่เค้าจ่ายค่าส่วนกลางกันตามปกติ แต่กลับไม่ได้ใช้บริการใดๆในส่วนกลางเลย เพราะว่าต้องมาแบ่งให้กับผู้เช่ารายวันที่แบคแพคมาพักกันทีสามสี่คน ซึ่งแน่นอนว่าคนพวกนี้ก็ใช้ส่วนกลางกันราวกับว่าวันนี้เป็น the end of the world พรุ่งนี้ข้าก็ไปแล้ว จะทำยังไงก้ได้ กรูไม่สนเฟ้ยยย แถมบางทีเข้ามาในล้อบบี้ก็เจอแต่คนแปลกหน้าแบคแพคน่ากลัวๆเข้ามานั่งออกันเต็มไปหมด….เอาเหอะ แต่มันก็จริงนะครับว่า หากเราเอาห้องเราไปปล่อยเช่าระยะสั้น สมมติว่าได้วันละสามพัน แต่กลายเป็นห้องเราเกิดฮิตขึ้นมาคนเข้าพักเดือนนึงที่ 20 วัน มันก็ได้เดือนละ 60,000 บาทแล้วนะครับ ในขณะที่เราปล่อยเช่าสัญญาตามปกติมันได้แค่เดือนละ 30,000 บาทเอง…ผมว่ามันก็เป็นแนวทางธุรกิจที่น่าสนใจนะครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยและต่อต้านด้วยซำไป ยกเว้นแต่ว่าจะมีระเบียบข้อบังคับจากนิติบุคคลที่ช่วยปกป้องรักษาสิทธิของ owner คนอื่นๆตามแบบที่ควรจะเป็นครับ

 

เอาละครับพูดมาก้เยอะแล้ว ผมคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดในจะทำให้ตลาดเช่าคอนโดกลับมาทำกำไรได้ในแบบที่ควรจะเป้นอีกครั้ง มันก็ควรที่จะเริ่มต้นจาก owner ด้วยกันเองนี่ล่ะครับ อย่าไปลดราคา อย่าไปตัดราคา พยายามคุยกันกับบรรดา owner ทั้งตึกว่าค่าเช่าที่ควรจะเป็นมันควรเท่าไหร่ ระหว่าง 6-7% ก็ว่ากันไปนะครับ อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่งั้นมันจะเจ๊งกันทั้งตลาดนะครับ


  • ทราบหรือไม่ ? เมื่อไหร่เราควรย้ายอพาร์ทเมนท์ได้แล้ว
  • เปลี่ยนบ้านร้อนให้เย็นขึ้น ช่วยประหยัดค่าไฟ
  • "ระวัง !!! มันจะมาโดยไม่รู้ตัว" 7 โรคภัยไข้เจ็บ และอันตรายที่มากับฤดูฝน
  • 4 วิธีไล่มดอย่างง่ายและไม่ต้องฆ่าให้เปลืองแรง หมดปัญหากวนใจหน้าฝน
  • ปิดบ้านอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าร้อน พร้อมเทคนิคเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
  • เช็คความพร้อมตัวคุณก่อนจะ "ซื้อคอนโด"
  • 5 เคล็ดลับทำความสะอาด ที่ไม่ได้ผลจริง
  • 5 จุดแปลกตา ที่มักกลายเป็นที่ซ่อนเงินในบ้าน
  • วิธีไหว้วันตรุษจีนที่บ้าน ตั้งโต๊ะอย่างไร ไหว้อะไรบ้าง ใช้ธูปกี่ดอก
  • รัฐเวนคืนที่ดิน ต้องแจ้งสิทธิรับเงินรายได้ ภาษีที่ต้องจ่ายอะไรบ้าง
  • สาววัยเกษียณ ตั้งกระทู้ถาม สู้ราคาบ้านกรุงเทพไม่ไหว มีงบ 2-3 ล้าน ไปอยู่จังหวัดไหนดี แห่แชร์ชี้พิกัดเพียบ
  • ทาวน์โฮมดีไซน์จบปัญหา จอดรถขวางหน้าบ้าน พื้นที่จัดเต็มแบบจุกๆ สำหรับคนรถเยอะ
  • เผยเคล็ดลับ แม่บ้านใช้ "ฝาหม้อ" ทำความสะอาดโซฟา ไวรัล 80 ล้านวิวของจริงไม่จกตา
  • เช็ค! โฉนดที่ดิน กับ โฉนดเพื่อการเกษตร ต่างกันอย่างไร ข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร
  • ทริคง่ายๆ! ปลูกถั่วงอกทานเอง เลือกได้หลายวิธี สะอาดปลอดสารพิษ อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร
  • ซื้อคอนโดปล่อยเช่าให้ได้ราคาดีๆ ต้องปรับตัวกันเยอะ

    ช่วงนี้เป็นช่วงที่คอนโดหลายๆโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน และก็มีงานคอนโดหลายๆงานจัดขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วตัวผมเองเนี่ย จากที่ได้มีโอกาสไปเดินชม เดินสำรวจตามงานต่างๆก็จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเลยน่ะครับ ที่ถามเซลล์โครงการว่า ซื้อไปกะจะเอาไปปล่อยเช่า จะปล่อยเช่าได้ไหม แล้วมันได้ราคาเท่าไหร่ คุ้มรึเปล่า ที่จะซื้อ

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll