รีไฟแนนซ์คืออะไร มีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายอย่างไร
การเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ โดยการไปกู้หนี้ที่ใหม่หรือที่เดิม เพื่อมาโป๊ะ หนี้เดิม หรือเป็นหนี้ใหม่อีกรอบ ใช้ในกรณีที่เราผ่อนบ้าน คอนโด หรือรถไม่ไหว หมุนเงินไม่ทัน สามารถเข้าไปคุยกับเจ้าหนี้ธนาคารที่เป็นหนี้ เรียกว่า จัดไฟแนนซ์ใหม่ หรือธนาคารอื่น เรียกว่าเป็นหนี้เจ้าใหม่ เพื่อทำการรีไฟแนนซ์ เนื่องจาก ได้ดอกเบี้ยลดลง, ค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนลดลง หรือระยะเวลาเป็นหนี้นานขึ้น เป็นต้น
ดังนั้นผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์ต้องคิดก่อนการตัดสินใจให้รอบคอบเนื่องจากส่งผลให้เป็นหนี้ระยะยาว
ตัวอย่าง
ผ่อนดาวน์ซื้อบ้าน หรือคอนโด ยังจ่ายไม่หมด แต่มีปัญหา เช่น ตกงาน ไม่สามารถผ่อนได้เหมือนเดิม สามารถไปจัดไฟแนนซ์ใหม่ กับเจ้าเดิม หรือเจ้าใหม่ได้ โดยสามารถนำเงินที่ยังค้างผ่อนชำระทั้งหมดมาขยายโครงส้รางหนี้ใหม่ได้ เช่นคุณส่งบ้านทั้งหมด 5 ปี 5,000,000 บาทแต่ส่งไปแล้ว 2 ปี 2,000,000 บาทเหลือ อีก3ปี กับยอดเงินที่ยังผ่อนชำระไม่หมดอีก อีก 3,000,000 บาท ทางแบ้งค์จะรีไฟแนนซ์ 3 ปีหลังนี้ขยายให้เราส่งน้อยลงแต่ระยะ ยาวขึ้นดอกหน้าจะเพิ่มขึ้น แล้วแต่ธนาคารที่ทำการรีไฟแนนซ์
รีไฟแนนซ์มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
ข้อดี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ถูกกว่า ทำให้ ดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิม
- ลดภาระหนี้ จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง กรณีที่เราหมุนเงินไม่ทัน หรือประสพปัญหาในการผ่อนชำระ
- ได้เงินก้อนมาใช้ใหม่ อาจกู้ที่ใหม่เพื่อมาจ่ายหนี้เดิมและเหลือเงินไว้ให้ด้วย
ข้อเสีย
- เป็นหนี้ต่อไปและมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
- ระยะเวลายาวขึ้นจากที่ จากเดิมต้องจ่ายอีก 3ปี อาจนานขึ้นเป็นเป็น5-6ปี
- เสียค่าจัดค่ารีไฟแนนซ์ใหม่
ประการแรก ผู้กู้สามารถประหยัดจากเงินกู้ก้อนใหม่เท่ากับบรรลุเป้าหมายของการเปลี่ยน แหล่งเงินกู้ได้แล้ว แต่เนื่องจากการรีไฟแนนซ์ทุกครั้งจะมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นการพิจารณาเพียงเห็นว่าดอกเบี้ย (ธนาคาร) แห่งใหม่ถูกกว่าเท่านั้นจึงไม่พอ
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ ได้แก่
1.จ่ายให้กับสถาบันการเงินเดิม
ค่าเบี้ยปรับในกรณีผู้กู้ไถ่ถอนก่อนกำหนด ต้องเสียค่าปรับเฉลี่ยในอัตราตั้งแต่ 1 – 5% ของ
วงเงิน ที่ขอกู้ หรือยอดเงินต้นคงเหลือ แต่ก็มีบางธนาคารที่ไม่คิดค่าปรับ
2.จ่ายให้กับสถาบันการเงินใหม่
- ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดประมาณ 0 – 3% ของวงเงินกู้ บางแห่งไม่
- ค่าประเมินราคาหลักประกันประมาณ 0.25 – 2% ของราคาประเมินของกรมที่ดิน หรือประมาณ 1,500 – 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับวงเงินที่ขอกู้ และทำเลที่ต้องของหลักประกันด้วย กรณี รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิมอาจไม่ต้องจ่ายค่าประเมิน
- ค่าทำประกันอัคคีภัยประมาณ 2,000 บาท ต่อบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารเก่าและใหม่แต่ละแห่ง จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
3.จ่ายให้กับกรมที่ดิน
- ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง จำนวน 1% ของวงเงินที่ขอกู้
- ค่าอากร จำนวน 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์ต่างธนาคาร ได้แก่
- ติดต่อขอสเตทเม้นท์สรุปยอดหนี้เงินกู้กับธนาคารเก่า มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารนั้นๆ
- นำเอกสารสรุปยอดหนี้ที่ได้มา ไปทำเรื่องยื่นกู้กับธนาคารใหม่
- ขั้นตอนเหมือนยื่นกู้ใหม่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่มาประเมินทรัพย์สิน
- รอผล อนุมัติ" หรือ "ไม่อนุมัติ" จากธนาคาร เมื่อธนาคารอนุมัติแล้ว
- ติดต่อธนาคารเก่า เพื่อนัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดินธนาคารเดิมจะสรุปยอดหนี้ให้อีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งชื่อผู้รับมอบอำนาจของทางธนาคารที่จะไปทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดิน เราต้องแจ้งยอดหนี้ เป็นเงินต้น+ดอกเบี้ยจนถึงวันไถ่ถอนแก่ธนาคารใหม่
- ติดต่อนัดธนาคารใหม่ เพื่อนัดวันทำสัญญา+โอนทรัพย์ที่ใช้จำนองต้องเป็นวันเดียวกันกับที่นัดกับเดิมไว้
- ทำเรื่องโอนที่ ณ สำนักงานที่ดินในเขตที่ ของเราตั้งอยู่ จ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เรียบร้อย บางธนาคารก็จะนำสัญญาไปให้เราเซ็นที่สำนักงานที่ดิน หรือที่ที่สาขา ถ้ายอดกู้สูงกว่าราคาไถ่ถอน ธนาคารใหม่จะออกเช็คให้เรา 2 ใบ จ่ายให้กับธนาคารเก่า และให้เราเมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว มอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคารใหม่ที่เราเป็นหนี้ เป็นอันเสร็จสิ้นการโอน
ขอบคุณข้อมูลจาก poolprop.com