ไหว้ตรุษจีน 2567 เตรียมอุปกรณ์ จัดโต๊ะในพิธี การเตรียมตัวในพิธีไหว้

🎐 วันตรุษจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ปีนี้ตรงกับ วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 มีการเฉลิมฉลองกันเป็นเวลา 15 วัน ครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ที่มีบรรพบุรุษเป็นคนจีน ถือเอาเทศกาลตรุษจีน ให้เป็น วันเฉลิมฉลองปีใหม่ ซึ่งจะเป็นเทศกาลที่คอยสืบทอดการไหว้ เป็นประจำในทุกๆ ปี แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าการเฉลิมฉลองปีใหม่ ย่อมต้องมีการโละทิ้งสิ่งเก่าออกไป ทั้งการทำความสะอาดบ้านขนานใหญ่ การตกแต่งประดับประดาด้วยอักษรมงคล การไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ ไปจนถึงการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสดใส โดยเฉพาะ “สีแดง” อันเป็นสีแห่งความมงคลรุ่งโรจน์ 

         บทความนี้จะพาไปรู้จักเทศกาลตรุษจีนให้มากขึ้นว่า มีความหมายอย่างไร พิธีการ การจัดเตรียมเครื่องของไหว้ต่างๆ พร้อมแนะนำวิธีจัดเตรียมอาหาร ผลไม้ไหว้ รวมไปถึงการจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีนที่ต้องรู้ การแต่งการ ข้อปฏิบัติที่ควรทำ และไม่ควรทำในวันไหว้ ของเทศกาลตรุษจีน ไม่พูดเยอะกว่านี้...ไปดูกันเลยดีกว่ามีอะไรบ้างที่ต้องจัดเตรียมก่อนถึงวันไหว้

 

สัญลักษณ์ที่สำคัญ วันไหว้เทศกาลตรุษจีน    🎐

 อั่งเปาซองแดงเหลือบทอง อั่งเปา ในภาษาจีนหมายถึงซองสีแดง ซึ่งตามธรรมเนียมหลังจากการไหว้ตรุษจีนในทุกปีนั้น คนที่มีงานทำแล้ว หรือคนที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้าน จะต้องมีการให้อั่งเปากับคนที่อายุน้อยกว่า และจะใส่เงินลงไปด้วย โดยในจำนวนเงินนั้นต้องมีเลข 8 อยู่ด้วย เพราะเลขแปดหมายถึงความเป็นสิริมงคล ถือเป็นคำอวยพรดีๆนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีคำพูดยอดฮิตสำหรับเด็กๆ ที่ใช้ขออั่งเปา โดยจะพูดว่า “อั่งเปาตั่วตั่วไก๊” ที่หมายความว่า “ขออั่งเปาเยอะๆ” ใครได้ยินก็ต้องให้เงินเด็กๆ ด้วยนะ

 ประทัดจีนเพื่อความปังของชีวิต เมื่อถึงวันไหว้ตรุษจีน เสียงดังที่เรามักจะได้ยินตลอดเลยก็คือเสียงประทัดที่ดังสนั่นหวั่นไหว แต่จะใช้ประทัดทั่วไปก็ไม่ได้ ต้องใช้เป็นประทัดจีนสีแดง สีอันเป็นสิริมงคล และสื่อถึงวันตรุษจีนได้อย่างดี โดยในอดีตนั้น ประทัด มีที่มาจากการนำไม้ไผ่โยนเข้ากองไฟจนเกิดเป็นเสียงดัง ซึ่งคนจีนเองก็เชื่อว่าเสียงดังปังๆ นี้คือเสียงแห่งการขับไล่ปิศาจร้าย และเหล่าภูตผี ให้ออกไปไกลๆ ซึ่งเมื่อถึงวันตรุษจีนก็จะจุดไผ่กันไปเรื่อยๆ จนในปัจจุบันก็หันมาใช้ประทัดแทนการเผาไผ่นั่นเอง
 

ความหมายของ วัน วันไหว้เทศกาลตรุษจีน  🎐

 วันจ่าย ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 คือ วันก่อนวันสิ้นปีก่อนถึงตรุษจีน เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องออกไปจับจ่าย ซื้อของ รวมทั้งอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ 

 วันไหว้ ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ตอนเช้ามืด จะเริ่มพิธีการไหว้ ป้ายเล่าเอี๊ย โดยเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ มีเครื่องประกอบการไหว้ คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง ได้แก่ หมู เป็ด และไก่ ตอนสาย จะทำพิธีการไหว้ ป้ายแป๋บ้อ เป็นการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ตอนบ่าย จะทำพิธีการไหว้ ป้ายฮ่อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว

 วันเที่ยว ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งก็คือวันตรุษจีน เป็นวันที่ทุกคนพากันออกไปท่องเที่ยวและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม สีสันสดใส ไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ และพากันออกเที่ยว ในวันนี้ผู้คนจะหยุดทำงาน พร้อมทั้งถือเคล็ดต่างๆ ตามธรรมเนียมตรุษจีน
 

ช่วงเวลาไหว้ วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

  ไหว้เทพเจ้าในช่วงเช้ามืด ควรไหว้ช่วง 06.00-07.00 น. ของวัน เป็นการไหว้เพื่อแสดงออกถึงความรู้คุณ ขอบคุณเทวดาประจำบ้าน ที่คอยปกปักรักษา โดยให้นำเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง (หมู ไก่ เป็ด ปลา และตับ) น้ำชาหรือเหล้าจีน และกระดาษเงิน กระดาษทอง มาไหว้พร้อมกัน โดยใช้ธูป 3 ดอก 

 ไหว้บรรพบุรุษในช่วงสาย ควรไหว้ช่วง 10.00-11.00 น. ของวัน เป็นการไหว้เพื่อแสดงความระลึกถึงเหล่าบรรพบุรุษ แสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณ โดยให้นำของไหว้ทั้งหมดที่เตรียมไว้ มาจัดเป็นโต๊ะตามที่กล่าวไปก่อนหน้าได้เลย และใช้ธูป 3 ดอกต่อหนึ่งคนไหว้ เมื่อไหว้เสร็จแล้วก็ให้นำอาหารมาแจกจ่ายให้กับคนในบ้านได้แบ่งกันกินต่อไป

 ไหว้ผีไร้ญาติในช่วงบ่าย ควรไหว้ช่วง 14.00-16.00 น. ของวัน เป็นการไหว้เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผีไร้ญาติ โดยให้นำข้าวสวย อาหารคาว และอาหารหวานมาไหว้ พร้อมกับกระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป 1 ดอกต่อหนึ่งคนไหว้ หลังจากไหว้เสร็จแล้วให้นำประทัดมาจุดเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

 ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เสริมความเฮงตลอดปี ควรไหว้ช่วง 01.00-02.59 น. เป็นการขอพร ขอโชค ขอลาภ จากไฉ่ซิงเอี๊ย ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ควรหันโต๊ะทำพิธีไปทางทิศตะวันออกขณะไหว้

ของไหว้ 9 อย่าง วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 9 ของไหว้ อาหารคาว

1. หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
2. ไก่ หมายถึง การงานก้าวหน้า
3. กุ้ง หมายถึง ยศตำแหน่ง บารมี
4. เป็ด หมายถึง การได้ตำแหน่ง
5. ปู หมายถึง ตำแหน่งที่ดี บารมีที่ดี
6. หมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้
7. ปลา หมายถึง โชคลาภและความมั่งคั่ง
8. บะหมี่ยาว หรือ หมี่ซั่ว หมายถึง อายุยืนยาว
9. สาหร่าย/เกี๊ยวต้ม หมายถึง โชคดี รำร่วย เงินทองมั่งคั่ง

  9 ของไหว้ อาหารหวาน

1. ขนมถ้วยฟู หมายถึง ชีวิตรุ่งเรืองเฟื่องฟู
2. ซาลาเปา หมายถึง ห่อความสุข ห่อโชค ห่อลาภ
3. ขนมเข่ง หมายถึง เจริญก้าวหน้า ชีวิตรุ่งเรื่องเฟื่องฟู
4. ขนมบัวลอยจีน หมายถึง ความกลมเกลี่ยว ผูกพันของครอบครัว
5. ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
6. ขนมจันอับ หมายถึง มีความสุขตลอดไป
7. ขนมสาลี่ หมายถึง รุ่งเรือง
8. ขนมเปี๊ยะ หมายถึง สิริมงคล ความสามัคคีในครอบครัว
9. ขนมเทียน หมายถึง ความราบรื่น (มีรูปทรงเป็นเจดีย์ถือว่ามงคล)

 9 ของไหว้ ผลไม้มงคล

1. ส้ม หมายถึง สิริมงคล
2. องุ่นแดง หมายถึง การเฟื่องฟู
3. กล้วยหอม หมายถึง การเรียกโชคลาภเข้ามา
4. สับปะรด หมายถึง ความโชคดี
5. แอปเปิ้ล หมายถึง ความสุขสงบในชีวิต
6. สาลี่ หมายถึง โชคลาภที่กำลังจะมาถึง (ไม่นิยมนำมาไหว้บรรพบุรุษ และวิญญาณไร้ญาติ)
7. ทับทิม หมายถึง ครอบครัวอบอุ่น ไม่มีขัดแย้งบาดหมางกัน
8. แก้วมังกร หมายถึง อำนาจ ความอุดมสมบูรณ์
9. ลูกพลับ หมายถึง ผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างราบรื่น|

ทั้งนี้ในการเตรียมของไหว้ ส่วนมากจะเตรียมกัน 3 อย่าง 5 อย่าง หรือ 9 อย่างก็ได้ เพราะทั้งหมดต่างเป็นเลขที่นิยมใช้ในการจัดของไหว้และมีความหมายมงคลทางโหราศาสตร์จีน

อุปกรณ์ประกอบพิธี วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 ธูป 3 ดอกต่อคน ใช้สำหรับไหว้เทพศาลเจ้า

 เทียน ใช้ประกอบพิธีในการไหว้

 กระดาษเงินและกระดาษทอง อาจจะใช้เป็นรูปถังเงิน หรือถังทองก็ได้ หมายถึงการขอพรให้ร่ำรวยเงินทอง

 แบงก์กงเต๊ก ใช้เผาเพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษ เพื่อนำไปใช้จ่ายในอีกภพ

 เสื้อผ้ากระดาษกงเต๊ก ใช้เผาเพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษ เพื่อนำไปสวมใส่ในอีกภพ

 ข้าวของกระดาษอื่นๆ ใช้เผาเพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษ เพื่อนำไปใช้งานในอีกภพ

 

วิธีจัดโต๊ะไหว้ วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

     วิธีจัดโต๊ะไหว้ในวันตรุษจีนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาในแต่ละครอบครัว ไม่ได้มีแบบแผนชัดเจน จึงอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทว่าอย่างไรโครงสร้างหลักก็จะคล้ายๆ กัน ดังต่อไปนี้

1. วางโต๊ะไหว้ไว้หน้าเทวรูป หรือ แท่นบูชา
2. วางกระถางธูปไว้ด้านในสุดของโต๊ะ จัดให้อยู่หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชาพอดี ซึ่งบางบ้านอาจจะปักกิมฮวยเอาไว้ในกระถางธูปด้วย
3. วางเชิงเทียนคู่ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของกระถางธูป
4. วางโถกำยานไว้ด้านหน้าของกระถางธูป
5. วางแจกันดอกไม้ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของโถกำยาน แต่อย่าให้บังเชิงเทียนคู่ กรณีที่บ้านไหนไม่มีโถกำยาน ให้วางแจกันดอกไม้ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของเชิงเทียนคู่แทน
6. วางถ้วยน้ำดื่มไว้ด้านหน้าโถกำยาน
7. วางถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้าไว้ด้านหน้าถ้วยน้ำดื่ม ทั้งนี้จำนวนถ้วยน้ำดื่มต้องเท่ากับถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้าเสมอ โดยส่วนใหญ่จะมีจำนวนเท่ากับจำนวนบรรพบุรุษ แต่จำกัดสูงสุดอยู่ที่ไม่เกิน 5 ถ้วย
8. วางเครื่องคาวหรือกับข้าวไว้ด้านหน้าถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้า ให้เลือกที่เป็นมงคล 5 อย่าง หรือไม่เกิน 10 อย่าง รวมถึงข้าวสวย 2 ถ้วย แบบตักให้พูนถ้วยด้วย
9. วางเนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ) หรือเนื้อสัตว์ 5 อย่าง (โหงวแซ) ไว้ด้านหน้าของเครื่องคาว จัดวางให้หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
10. วางเครื่องหวานและผลไม้หน้าเนื้อสัตว์ ให้เลือกที่เป็นมงคล 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง ทั้งนี้จำนวนเครื่องคาวต้องเท่ากับเครื่องหวานและผลไม้เสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องเท่ากับจำนวนถ้วยน้ำดื่ม ถ้วยน้ำชา และถ้วยเหล้าก็ได้
11. วางกระดาษเงิน-กระดาษทองเป็นลำดับสุดท้าย

คำกล่าวในพิธี วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 คาถาตี๋จู้เอี๊ยะ “ตี่จูเอี๊ยะ แปะกง ป๋อฮ้อ เซ็งลวี่ ฮวดใช้ ตั่วถั่ง จี้หลาย เซาะนั้ง ซุกยิม เผ่งอัง จู่ซือ ฮะเซี้ยะ ”

• บทสวดสำหรับ ปีขาล เถาะ โอม อา ฮูโฮฮัม กษะสะ โอม ชัมภาลา ลาจาเลน ไนเยน สวาหะ
• บทสวดสำหรับ  ปีฉลู มะโรง มะแม จอ โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สวาหะ
• บทสวดสำหรับ ปีมะเส็ง มะเมีย โอม ชัมภาลา จาเลนไนเยน ธะนัม เมธิ หะรี ทากินี ชัมภาลา สะมะภารา สวาหะ
• บทสวดสำหรับ ปี วอก ระกา โอม ปัทมะ โกรธะ อรยะ ชัมภาลา หฤทัย หู ผะฏะ
• บทสวดสำหรับ ปีกุน ชวด โอม ชัมภะละ ชะเลนทะรา เย สวาหา โอม อินทะระ ฌิมขัม ภะระมิ สวาหา

 คำกล่าวในพิธี

กล่าวชื่อและนามสกุลของตัวเอง และเรื่องที่จะขอพร (ไม่ควรขอหลายสิ่ง ให้ตั้งใจขอพรในสิ่งที่อยากได้จริงๆ เป็นหลัก) และถือกระเป๋าสตางค์เอาไว้ด้วย เพื่อเรียกเงินทองและโชคลาภมาสู่กระเป๋า

“ข้าพเจ้า ชื่อ … ขออัญเชิญองค์ไฉ่ซิงเอี้ย ผู้ศักดิ๋สิทธิ์และมั่นคั่งร่ำรวย เสด็จมารับเครื่องเซ่นไหว้ เมื่อรับแล้วได้โปรดประทับที่ (บ้านเลขที่ตนเอง) ทั้งข้าพเจ้าได้จัดเตรียมพื้นที่มงคลภายในบ้าน เมื่อข้าพเจ้าขอทำพิธีถวายส่งเครื่องสักการะบูชาเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญท่านเสด็จเข้าไปประทับในบ้านของข้าพเจ้าด้วยเถิด”

นำกระดาษเงินกระดาษทองไปเผาถวายส่งเครื่องสักการะ

เมื่อธูปเริ่มมอดก็ถึงเวลาอัญเชิญเทพเจ้าเข้าบ้าน

* ผู้ใหญ่ผู้อาวุโสใช้ 2 มือยกกระถางธูปขึ้นตั้งบนบ่าด้านขวา

* สมาชิกคนอื่นๆ ถือรูปปั้น เทียนแดง (ที่ยังไม่ดับ) นำไปบริเวณหิ้งหรือสถานที่ ที่จัดเตรียมไว้เป็นการเชิญเทพเข้าบ้าน จากนั้นควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อให้ควันธูปอบอวลอยู่ในบ้าน เชื่อว่าเป็นการเก็บพลังของธูป (ควรใช้ธูปไร้สารเคมี เพื่อลดอันตรายของคนในครอบครัว)

ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมพื้นที่มงคลภายในบ้าน เมื่อข้าพเจ้าขอทำพิธีถวายส่งเครื่องสักการะบูชาเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญท่านเสด็จเข้าไปประทับในบ้านของข้าพเจ้าด้วยเถิด ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ตลอด 365 วัน 12 เดือน 4 ฤดู 1 ปี ของข้าพเจ้าและครอบครัว มีแต่ความร่ำรวยร่มเย็นเป็นสุข”

หลังจากนั้นนำของไหว้ซึ่งถือเป็นของมงคล ไปแบ่งกันรับประทานในครอบครัว อย่านำไปทิ้ง

การแต่งกาย วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 แต่งกายด้วยชุดสีแดง เรียกโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง

 แต่งกายด้วยสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เป็นสีที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมความมั่งคงในชีวิต

 แต่งกายด้วยสีทอง ส่งเสริมความร่ำรวย มากไปด้วยอำนาจ มีสติรู้คิดอยู่เสมอ

 แต่งกายด้วยสีเขียว เป็นสีของความก้าวหน้า เจริญเติบโตไปในทิศทางที่ดี และอุดมสมบูรณ์

 แต่งกายด้วยสีชมพู สื่อถึงชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความรักจากผู้คนรอบตัว

 สีที่ห้ามใส่เด็ดขาดในช่วงเทศกาลตรุษจีน คือ สีขาว ที่หมายถึงการไว้ทุกข์ให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่เหมาะจะนำมาใส่ในช่วงต้นปี และสีดำ คือสีแห่งการไว้อาลัย คนจีนถือว่าหากใส่สองสีนี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะทำให้เกิดเรื่องไม่ดี มีคนเสียชีวิตได้
 

สิ่งที่ควรปฏิบัติ วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 ควรทำความสะอาดบ้าน หมายถึงต้องทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนถึงวันตรุษจีน จะเป็นการปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ที่หลงเหลืออยู่ให้ออกไป รอรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่จะถึง แต่อย่าทำความสะอาดในช่วงวันตรุษจีนเด็ดขาด เพราะจะปัดเป่าเอาสิ่งดีๆ ออกไปได้

 ควรขอพรจากผู้ใหญ่ด้วยส้ม นำส้ม 4 ลูกไปไหว้ขอพรจากผู้ใหญ่ที่นับถือ เพราะส้มถือเป็นผลไม้มงคล สื่อถึงทอง และความมั่งมี เมื่อเรานำไปให้ผู้ใหญ่ 4 ลูก ผู้ใหญ่จะเก็บไว้ 2 ลูก แล้วให้เรากลับมา 2 ลูก เปรียบเหมือนการให้พร แบ่งปันความมั่งมีให้แก่กัน

 ควรแต่งตัวสีสันสดใส ให้เลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงในช่วงวันไหว้ตรุษจีน เพราะเป็นสีที่สื่อถึงความเป็นสิริมงคลต้อนรับวันปีใหม่ ห้ามใส่สีขาว และสีดำเด็ดขาด เพราะหมายถึงการไว้ทุกข์ และความตาย 

 ควรตกแต่งบ้านด้วยสีแดง-ทอง เลือกใช้เครื่องประดับตกแต่งบ้านอย่างโคมไฟ หรือกระดาษฟู ที่มีสีแดง หรือสีทอง เป็นการเสริมสร้างความมงคลให้แก่ครอบครัว เรียกสิ่งดีๆ อย่างความร่ำรวย มั่งคั่ง อายุยืนยาว และความสุขสมปรารถนาให้เข้ามา พร้อมกับขับไล่สิ่งร้ายๆ ออกไป ยิ่งเพิ่มตัวอักษรจีนที่มีความหมายมงคลเข้าไปในตัวบ้าน ก็จะยิ่งเสริมในเรื่องนั้นๆ ได้อีกด้วย

 

สิ่งที่ไม่ควรทำ วันไหว้เทศกาลตรุษจีน🎐

 ห้ามสระผม เพราะจะถือว่าเป็นการชำระล้างโชคดีออกไปจากตัว

 ห้ามทำงานบ้าน การกวาดบ้าน หรือการขจัดสิ่งสกปรกภายในบ้านออกในช่วงวันไหว้ตรุษจีน ถือเป็นการปัดเป่าสิ่งดีๆ ออกไป ดังนั้นควรรีบทำความสะอาดบ้านในช่วงก่อนวันไหว้ตรุษจีนให้เรียบร้อย

 ห้ามทะเลาะกัน หลีกเลี่ยงการด่าทอกัน เพราะสิ่งที่พูดออกมาส่วนมากจะเป็นเรื่องที่อัปมงคล หากพูดออกมาจะเหมือนว่าเรียกสิ่งเหล่านั้นให้เข้ามาในชีวิตได้

 ห้ามใช้ของมีคม ของมีคมทั้งหลายมักจะมีความเกี่ยวข้องกับการ “ตัด” โดยมีความเชื่อว่าถ้าเราใช้ของมีคม จะเป็นการตัดโชค ตัดลาภ ตัดสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตให้ออกไป แม้แต่มีดที่ใช้ปอกผลไม้ก็ห้ามใช้เช่นกัน

 ห้ามซักผ้า หรือล้างจาน เพราะการใช้น้ำชำระล้างสิ่งสกปรกในวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันกำเนิดของเทพเจ้าแห่งน้ำ ถือเป็นการลบหลู่อย่างร้ายแรง

 ห้ามสะดุด หรือทำของแตก หากสะดุดในวันตรุษจีน ชีวิตก็จะสะดุดตลอดทั้งปี หรือถ้าทำข้าวของเครื่องใช้หล่นแตก ก็จะเป็นลางไม่ดีที่เกิดขึ้นทั้งปีเช่นกัน ถ้าเผลอทำของหล่นแตกให้พูดว่า “ลั้ว ตี้ คาย ฮวา” เป็นการแก้เคล็ดได้

 ห้ามร้องไห้ การร้องไห้ในวันตรุษจีน จะเป็นลางร้าย บ่งบอกว่าอาจจะต้องเสียใจ นอนร้องไห้ทั้งปีเลยก็ว่าได้

 

    การไหว้ตรุษจีน เป็นพิธีกรรมที่มีมาอย่างช้านานของคนจีน และเหล่าคนไทยเชื้อสายจีน โดยไหว้เพื่อสักการะเทพเจ้าแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และเลี้ยงผีเร่ร่อน โดยมักจะทำในช่วงวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจีน เพราะตรงกับวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ที่ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ ผู้คนจึงออกมาเฉลิมฉลอง เอาสิ่งร้ายๆ ในปีนี้ทิ้งไป พร้อมรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่าในปีถัดไปนั่นเอง