
ห้องคอนโดขนาดเล็ก สวย เท่ได้ในรูปแบบคาเฟ่ สไตล์ลอฟท์
การตกแต่งห้องออกมาในรูปแบบที่ตรงใจเรา คงจะเป็นอะไรที่ให้เรานั้นความสุขที่ครั้งยามเมื่อได้กลับมาสู่ห้อง อันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งรูปแบบ และสไตล์ของแต่ละคนนั้น ย่อมแตกต่างกันออกไป แต่จะสามารถแสดงถึงตัวตนของเรา
และสำหรับใครที่ชื่นชอบการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายความเป็นคาเฟ่ ผสมความเป็นธรรมชาติ รวมถึงสังสร้างออกมาในรูปแบบสไตล์ลอฟท์ เหมือนอย่าง คุณ สมาชิกหมายเลย 5042914 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เรียกได้ว่า ห้องที่ตกแต่งออกมาเป็นเหมือนสวรรค์ของที่คนที่ชอบห้องในสไตล์นี้เลย ซึ่งขนาดห้องก็ไม่ได้ใหญ่ เพียง 28 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ตกแต่งห้องมาได้น่าอยู่สุดๆ ส่วนจะมีการตกแต่ง บิวต์อินอะไรเพิ่มกันบ้าง เราไปติดตามชมพร้อมๆ กันเลยครับ
รีวิวแต่งคอนโดห้องเล็ก ๆ ให้เป็นคาเฟ่ส่วนตัว
โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 5042914
สวัสดีครับ นี่เป็นการเปิดประเดิมเขียนครั้งแรกของผมครับ จริงๆ เริ่มจากโพสต์รูปในเฟซบุ๊กส่วนตัวก่อน ก็มีเพื่อนๆ บอกให้รีวิวลงพันทิปเลยเผื่อเป็นประโยชน์หรือแนวทางกับหลายๆ คนที่ชอบการตกแต่งห้องสไตล์นี้ โดยจะเป็นการรีวิวการตกแต่งคอนโดห้องเล็ก ๆ ให้เป็นคาเฟ่ส่วนตัวนะครับ จากเด็กๆ ที่อยากจะมีบ้านของตัวเองแล้วแต่งตามแบบที่เราชอบ แต่ก็ได้แค่เล่น The Sims วนๆ ไป จนวันนี้ได้ทำตามฝันที่เด็กๆ ได้อัดอั้นไว้แล้วครับ



ผมตัดสินใจซื้อคอนโดโครงการหนึ่งที่พอจะไหว ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทำงาน อยู่ช่วงสถานีต้น ๆ เส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง ห้องผมขนาด 28 ตร.ม. อยู่ชั้น 1 ครับ ไม่ได้อ่านผิดหรอกครับ ชั้น 1 ชั้นแรกที่ติดพื้นเลยครับ จะซื้อห้องนี้ตอนแรก มีแต่คนงง ทำไมเอาชั้นนี้ ตึกมีตั้ง 20-30 ชั้น ซึ่งตอนนั้นก็ลังเลระหว่างห้องชั้นสูงแต่ห้องมุมกับห้องทิศแดด แต่สุดท้ายพอทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศห้องจริงๆ กันแล้ว ต่างเห็นพ้องต้องกันเลยครับ ว่ามันโอเคตามที่ผมบอก ห้องชั้น 1 มันไม่ได้แย่เลยจริงๆ (รอบๆ ตึกพักอาศัยที่เริ่มจากชั้น 1 เป็นสวนของโครงการหมดเลยครับ ส่วนตัวมาก ห้องชั้นนี้เลยเหมือนได้พักกลางสวนกันไปเลย)

เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เดิมแล้วผมเป็นคนชอบต้นไม้ครับ (คงพอเดาๆ ได้จากการเลือกตำแหน่งห้องแล้ว) แล้วก็ชอบบรรยากาศตามร้านอาหาร ตามคาเฟ่ ร้านกาแฟ โดยนี่เลยก็คือคอนเซ็ปต์ของห้องที่อยากได้ครับ คืออยากให้มีต้นไม้เยอะ ๆ มีไฟเหลืองโทนอบอุ่น ๆ หน่อย แต่ก็ยังคงสไตล์เข้มๆ เท่ๆ ตามแบบห้องผู้ชายอยู่ ซึ่งสไตล์ที่ตอบโจทย์คือ สไตล์ Tropical-Loft แบบ Modern หน่อย ๆ ครับ อินสปายเรทีฟ เสพๆ จาก Pinterest ช่วยได้เยอะครับ แล้วก็ได้จ้างอินทีเรียมาช่วยดูเรื่องแบบให้ครับ การตกแต่งหลัก ๆ ที่ใช้จะเป็นไม้และวัสดุผิวด้านครับ เลยใช้เป็นตัวระแนงไม้กับเหล็กสีด้าน และจะเลี่ยงไม่ใช้วัสดุผิวเงา/สะท้อนเลยครับ เพราะกลัวมันจะไปทาง Luxury ถ้ามีกระจก หรือของเงาๆ เยอะ

เริ่มที่งานบิวต์อินในห้องนอนครับ จะข้ามห้องนั่งเล่นไปนะครับ เพราะเป็นบิวต์พวกตู้เก็บของทั่วไป เนื่องจากห้องนอนพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จากห้องตัวอย่างที่แค่ใส่เตียงขนาด 5 ฟุตก็เต็มแล้ว แต่ผมอยากมีพื้นที่สำหรับโต๊ะนั่งทำงาน และจะทำฐานเตียงแบบมีสเต็ปเหยียบขึ้นไปด้วย เลยเปลี่ยนทิศหัวเตียง แล้วก็ปรับขนาดที่นอนให้เหลือขนาด 4 ฟุตครึ่ง จริง ๆ ก็เป็นขนาด Double Bed มาตรฐาน แต่ทางบ้านเราก็จะเห็นมีแค่ 5-6 ฟุตสำหรับเตียงคู่ ซึ่งก็มีโรงงานของแบรนด์ที่นอนที่รับทำตามขนาดเฉพาะพร้อมผ้าปูให้เราอยู่ครับ สอบถามได้ เราก็จะได้พื้นที่สำหรับนั่งทำงานเพิ่มเข้ามา กับขนาดที่นอนที่เล็กลงหน่อย แต่นอนกันสองคนแล้วก็พอดีเลยครับไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัดอะไร


โต๊ะทานข้าวในบริเวณห้องครัว จากห้องตัวอย่างที่เป็นโต๊ะหันหน้าชนกัน ก็ให้เป็นโต๊ะบาร์ อยากได้ฟีลนั่งอยู่ร้านกาแฟครับ พร้อมได้พื้นที่สำหรับตู้เก็บของด้วยครับ


ฝ้าเพดานใส่รายละเอียดเพิ่มโดยใส่ไม้ ระแนงไม้ และตะแกรงเหล็กฉีกแขวนลงมาครับ (ตัวฝ้าเหล็กจะติดหลังจากงานบิวต์หลักนะครับ) ซึ่งงานฝ้าของคอนโดต้องระวังตัวหัวดับเพลิง กับตัวสัญญาณเพลิงไหม้ด้วยนะครับ ซึ่งตอนออกแบบไม่ทันคิดเรื่องนี้ โดยทางโครงการแจ้งว่า ห้ามทำการปิดทับ/ย้าย หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการกระทบต่อระบบความปลอดภัย ก็เลยต้องแก้ปัญหาโดยทำเว้นช่วงส่วนงานระบบความปลอดภัยไว้

งานผนัง สีที่ใช้ทานี่เปลี่ยนสองสามรอบได้ครับ สีตอนแรกเป็นสีเข้มเลยครับ พอทาไปแล้วและห้องเราเล็กด้วย เลยกลายเป็นรู้สึกอึดอัดไปหมด ตอนแรกก็อ่านมาแหละครับเรื่องนี้ ก็สงสัยว่ามันจะจริงหรอ ซึ่งพอทาไปเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง


ต้องทาใหม่ ดรอปเฉดลงมา แต่ก็ดันมีเรื่องอีก เนื่องจากว่าสีที่ดูจากแค็ตตาล็อกสี เราลืมไปว่าพอมาทากับผนังจริงในห้องที่เป็นแสง Warm Light แล้ว สีจะเพี้ยนไปจากตอนแรกอีกครับ เลยต้องหาใหม่แล้วเทียบหลาย ๆ เฉดกับแสงต่าง ๆ ครับ จนมาได้สีนี้ครับ (รูปสามรูปนั่นคือสีเดียวกันนะครับ แต่แสงคนละแบบ)


ผนังส่วนครัวเป็นสีซีเมนต์ครับ ตัวนี้โยนหัว-ก้อยเลย เห็นแต่แผ่นตัวอย่าง แต่ไม่รู้เลยครับทาทั้งห้องจะออกมายังไง สรุปแล้วคือโอเคเลยครับ พอใจเลย สีจะมี Texture ดูดิบ ๆ เป็นธรรมชาติ สาก ๆ ด้าน ๆ หน่อย ทาแล้วได้ฟีลเหมือนบ้านดินเลยครับ ชอบ ๆ แล้วก็มีใช้ตัวอิฐเทียมติดผนังครับ เลือกเป็นแผ่นอิฐเทียมเพื่อให้ดูสมจริง ๆ หน่อย แต่ก็หนักพอควร จะติดตั้งต้องดูผนังด้วยนะครับ โดยใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Over Grouting ครับ คือใช้ตัวปูนยาแนวแบบเต็ม ๆ ร่องให้ล้น ๆ เลอะตัวแผ่นอิฐหน่อย เพื่อให้ดูดิบ ๆ ครับ ไม่รู้เรียกดิบหรือเขรอะ


งานบิวต์ปิดท้าย เป็นงานเหล็กครับ ฝ้าตะแกรงเหล็กฉีกตอนแรกที่บอก กับชั้นวางของเหล็กแบบลอฟท์ ๆ และประตูครับ ผมรื้อของเดิมออก ใช้เป็นประตูกระจกกรอบเหล็กสีดำแทนครับ จริง ๆ ประตูนี่แอบขัดใจคนทางบ้าน เขาชอบของเดิมมากกว่า แต่ก็ให้เหตุผลไปว่า ใช้เพิ่มแสงและความโปร่งโล่งให้ห้องครับ

และหน้าต่างในห้องนอนจากที่ทั่วไปจะติดม่านกัน ผมเลือกจะติดเป็นมู่ลี่ไม้แทนครับ เพราะอยากได้ความไม้ และติดมู่ลี่ก็ดีตรงที่เราสามารถปรับการรับแสงรับวิวหรือความเป็นส่วนตัวได้ตามใจเราเลยครับ

งานไฟ ห้องผมเดินไฟติดเพิ่มครับ เป็นไฟแทร็กไลท์เข้าราง 3 จุด บริเวณห้องนั่งเล่น 2 จุด กับครัว 1 จุด และตัวดาวน์ไลท์ติดลอยกับไฟเส้น LED บริเวณห้องนอนครับ เพื่อเพิ่มแสงในห้องและไว้ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งมันช่วยได้มากจริง ๆ นะครับ เปลี่ยนหลอดเปิด คือห้องนี่คนละฟีลกันเลย แต่ต้องทำการแยกสวิตช์นะครับ เพื่อจะได้เปลี่ยนหลอด ปิดจุดนี้ เปิดจุดนั้น แต่ถ้าไม่ได้มายด์อะไรเรื่องฟีลลิ่ง ก็ใช้สวิตช์ร่วมก็ได้ครับแล้วแต่สะดวก แต่เปิด-ปิดที มันก็จะติด-ดับ พร้อมกันหมดเลยครับ
ราคาต้องดูเทียบกันหลาย ๆ ร้านนะครับ มันจะแพงที่ตัวโคมครับ เป็นแทร็กไลท์/ดาวน์ไลท์เหมือนกัน บางร้านราคาต่างกันเท่าตัวเลยครับ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องวัสดุแหละครับ เนื่องด้วยผมตั้งใจจะเซฟคอสต์ เลยหาตามร้านที่ถูกที่สุด เพราะดูเผิน ๆ ผมก็แยกความต่างมันไม่ค่อยออก

งานขั้นสุดท้ายแล้วครับ ข้าวของเครื่องใช้ ของตกแต่งและต้นไม้ จะเน้นงานไม้ งานหวาย เครื่องจักสาน อีโค่เฟรนด์ลี่ครับ ไม่ก็งานเหล็กสีดำ ๆ ด้าน ๆ แบบลอฟท์ไปเลยครับ ส่วนใหญ่ IKEA จะได้พวกของใช้ครับ สารพัดของใส่บ้านแทบทุกแนว ส่วนพร็อพของตกแต่งต้องจตุจักรพลาซ่า โซนของตกแต่งบ้านเลยครับ เปิดทุกวัน ของแต่งบ้านเยอะมาก ๆ ไปเดินแล้วก็จะฟิน ๆ สวย ๆ ทั้งนั้น แต่ราคาก็ต้องคอยเทียบ ๆ กันเอาครับ แล้วก็มีช้อปออนไลน์บ้างนิดหน่อย
ต้นไม้ก็ไม่พ้นจตุจักรอีกครับ ตลาดนัดต้นไม้ครับ เปิดตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ วันอังคาร ยันดึกยันมืดเลย วันพุธจะเปิดช่วงเช้าถึงแค่ช่วงเย็น ส่วนวันพฤหัสบดีเปิดช่วงเช้าถึงบ่าย ๆ ครับ ต้นไม้เยอะมากครับ มีหลายชนิด ไม้ใบ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลอะไรมีหมด เดินแล้วก็จะฟิน ๆ เหมือนเดิน จตุจักรพลาซ่าหน่อย อีกที่ที่ได้ต้นไม้มาก็ที่ราบ11 ตรงบางเขน ตรงข้ามวัดพระศรีฯ ครับ ซึ่งเมื่อใส่ของตกแต่งอะไรเสร็จหมดแล้วเป็นยังไง ไปชมได้เลยครับ





ส่วนของห้องนั่งเล่นครับ






ห้องครัวต่อเลยครับ มุมที่ชอบสุดก็มุมโต๊ะบาร์ตรงนี้แหละครับ

ห้องน้ำนี่ไม่ได้ทำอะไรครับ




และพาไปจบที่ห้องนอนครับ หมอนก็จะแน่น ๆ หน่อย
จบแล้วครับ พอได้ไหมครับ คาเฟ่ส่วนตัวกับคอนโดห้องเล็ก ๆ หลังตกแต่งเสร็จและเข้าอยู่จริงก็มีปัญหาบ้างครับจากการยัดต้นไม้ไว้ที่ห้อง เนื่องจากตัวห้องอยู่ชั้นล่างและหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ+ต้นไม้ใหญ่บริเวณสวนหน้าห้อง เลยทำให้ที่ห้องแดดค่อนข้างส่องเข้าถึงน้อยครับ จะว่าดีมันก็ดีแหละครับสำหรับเรา ร่มรื่นไม่ร้อนดี ที่ห้องไม่ต้องมีพัดลมก็อยู่ได้ แต่มันดันกระทบกับต้นไม้ที่ห้องครับ บางต้นแสงไม่พอเลยค่อนข้างจะดูแลยากหน่อย สำหรับคนชอบต้นไม้อยากหาไว้ที่ห้อง ต้นที่ผมแนะนำก็คงจะเป็นพวกตระกูลพลูนี่แหละครับ ดูแลง่าย ยิ่งใส่น้ำแล้วยิ่งดูแลง่าย สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาด้วยก็มีเสน่ห์ขุนแผน ม้าเวียน แก้วสารพัดนึกครับ ส่วนลิ้นมังกรกับกวักมรกตเขาก็ว่าทนกันนะครับ แต่ที่ห้องไม่มีที่ไว้แล้วเลยยังไม่ได้ลองนำมาปลูกครับ
ถือเป็นแนวในการตกแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์ แบบคาเฟ่เท่ๆ ได้เลยนะครับ ถึงว่าจะมีพื้นที่ที่ค่อยข้างจำกัด แต่ก็ยังสามารถสังสร้างห้องออกมาได้น่าอยู่สุดๆ ไปเลย สำหรับใครที่สนใจการแต่งห้องในสไตล์นี้ ก็สามารถที่จะรีวิวของ คุณ สมาชิกหมายเลข 5042914 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปปรับใช้เป็นสไตล์ของตัวเองกันดูนะครับ ส่วนครั้งหน้ามีรูปแบบการห้องอย่างไหนรออยู่ก็สามารถรอติดตามชมกันได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 5042914 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม