ทำกิ่งไม้ ให้เป็นของแต่งบ้านลงตัวเข้ากับธรรมชาติ

เวลาไปเดินเล่นในสวน แล้วเจอกิ่งไม้สวยๆ หักอยู่ริมทาง รูปร่างและ texture มันสวยงามจนอยากจะเอากลับมาไว้ที่บ้านด้วย เพื่อดึงเอากลิ่นไอของธรรมชาติเข้าไปไว้ในบ้าน ให้เรารู้สึกว่ายังอยู่ไม่ไกลจากกัน นอกจากเอาไปใส่แจกันใหญ่ๆ แต่งบ้านแล้ว ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรได้อีกเรามีไอเดียมาให้ชมเป็นตัวอย่าง

กิ่งไม้สวยๆ มีค่ามากกว่าจะทิ้งให้ผุพังอยู่ข้างทาง เอามาทำอะไรได้หลายอย่าง ที่แขวนเสื้อ ราวแขวนเสื้อ ประดับผนัง ขาตั้งโคมไฟ กรอบรูป กรอบหน้าต่าง กรอบกระจก ...หรือจะเอาท่อนไม้ มาตัดแล้วเจาะรู ทำเป็นที่ใส่ดินสอ ก็ได้กลิ่นไอของธรรมชาติถึงบนโต๊ะทำงาน

ทำชั้นหนังสือติดผนังก็ดูดี

ใช้กิ่งไม้นำมาทำเป็นขาของชั้นวาง โดยการใช้กิ่งไม้มายึดติดไว้กับผนัง หลักการติดก็เป็นวิธีเดียวกันกับการใช้ขาชั้นวางติดผนังทั่วไป ลักษณะการทำชั้นวางก็เน้นไปที่การติดแบบให้ได้เป็นชั้นหลายๆชั้น เพื่อความคุ้มค่าของการนำกิ่งไม้มาติด ไม่แนะนำให้ทำเป็นชั้นวางจาน ในห้องครัว เพราะเมื่อโดนน้ำ หรือความร้อนจากเตาไม้อาจจะมีอายุการใช้งานน้อยลง

ทำเป็นโคมไฟก็ดูสวยเก๋ดีจริงๆ

"โคมไฟ กิ่งไม้" ชื่อนี้ดูเก๋ เท่ห์ดีน่ะ ลองนำมาทาสีแล้วใช้ครอบโคมไฟ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายโคมไฟทั่วไป มาใช้ครอบ ส่วนไฟก็หาซื้อไฟที่มีขาหนีบ หรือที่มีสายไฟพร้อมที่เปิดปิดไว้พร้อมกับไฟแล้วนำมาใช้ติดที่กิ่งไม้ หลังจากนั้นก็นำที่ครอบมาติดไว้ที่ปลายของกิ่งไม้

ที่แขวนของติดผนังจากกิ่งไม้

ตัดกิ่งไม้แห้งเป็นท่อน ๆ จำนวน 6 ท่อน แต่ละท่อนไม่ควรให้มีความยาวเกิน 3 นิ้ว เลือกให้ส่วนบนของท่อนไม้มีลักษณะเป็นง่ามยื่นออกมา และทำการฝานทางด้านหลังของกิ่งไม้ให้มีลักษณะแบนราบ แล้วนำมายึดติดกับแผ่นไม้ใหญ่ที่ติดไว้กับผนังแล้วตามรูป เราก็จะได้ที่แขวนของติดผนังที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะเป็นชิ้นงานที่มากประโยชน์ไว้สำหรับแขวนข้าวของต่าง ๆ ยังสามารถใช้เป็นเครื่องตกแต่งผนังสวย ๆ รวยไอเดียเอาไว้อวดคนที่มาเยี่ยมเยือนได้อีกด้วย

 

ลองดูการใช้กิ่งไม้ ทำในแบบอื่นๆ ก็ดูน่าสนใจเหมือนกัน

" กิ่งไม้ " อาจจะฟังดูไร้ค่า แต่หากเรานำกลับมาใช้ใหม่โดยการสร้างสรรค์ของเราเอง ก็จะทำให้กิ่งไม้นั้นๆเป็นสิ่งที่มีค่ามากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่การนำธรรมชาติกลับมาใช้ใหม่เท่านั้น แต่เป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าของเรา แถมเราอาจจะได้เงินจากที่เราได้สร้างสรรค์ไว้อีกต่างหาก ลองทำกันดู หากทำจนชำนาญแล้วเราก็อาจจะพัฒนาไปเป็นการทำเพื่อขายก็เป็นได้น่ะ