
เมื่อ “โดราเอมอน” หนึ่งในการ์ตูนที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาลในญี่ปุ่น มีฐานแฟนคลับข้ามรุ่นครอบคลุมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่น และมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นไปทั่วโลก
เพิ่งออกอากาศตอนพิเศษที่จัดทำโดยทีวีอาซาฮี ของญี่ปุ่น เจ้าของลิขสิทธิ์โดราเอมอน ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.2568 ในชื่อตอนที่แปลเป็นไทยว่า “อยากพบแมวนั้นที่ไทยจัง”
เนื้อหาโดยย่อหลังจาก “ซึเนโอะ” เล่าโม้ว่าได้ไปเที่ยวประเทศไทย ทำให้ “โนบิตะ” รู้สึกอิจฉา จึงขอความช่วยเหลือจาก “โดราเอมอน” ใช้ “ประตูไปไหนก็ได้” มุ่งหน้าสู่เมืองไทยด้วยตัวเอง! โดยมีฉากน่ารักๆจากเมืองไทยมากมาย ทั้งตลาดน้ำดำเนินสะดวกและรถตุ๊กๆ ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของไทย ได้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยผ่านสื่ออนิเมะยอดนิยมไปโดยปริยาย

ประจวบเหมาะกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เดินหน้ารุกตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น จัดงาน Amazing Thailand Roadshow to Japan 2025 ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ โตเกียว นาโกยา และฟุกุโอกะ โดยพาผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย 25 ราย ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดญี่ปุ่น จัดเวทีเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่นรวมกว่า 1,000 นัดหมาย มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยให้ได้ตามเป้า 1.2 ล้านคน หวังสร้างรายได้ท่องเที่ยวทะลุเป้าหมาย 55,000 ล้านบาทในปี 2568
“ทีมเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” มีโอกาสเข้าร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้ด้วย จึงพยายามเกาะติดกลยุทธ์ต่างๆที่ ททท.นำมาใช้ส่งเสริมการทำตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ผ่านผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. 3 แห่งในญี่ปุ่น ที่ยิ่งฟังก็ยิ่งต้องติดตาม เมื่อ ททท.ต้องหาทางทลายกำแพงความรู้สึกของคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่มองประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นรุ่นก่อน จนเกิดความรู้สึกไม่อยากมาประเทศไทย
การสร้างมุมมองใหม่ๆประเทศไทยให้คนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตก!

เมื่อ “โดราเอมอน” เพื่อนในจินตนาการที่เด็กๆญี่ปุ่นไว้วางใจพา “โนบิตะ” ผ่าน “ประตูไปไหนก็ได้” มาเที่ยวประเทศไทยพอดี มีความเป็นไปได้สูงมากว่า เด็กญี่ปุ่นที่ได้ดูโดราเอมอนตอนนี้จะรู้สึกอยากไปเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ถ้า “โดราเอมอน” กับ “โนบิตะ” ไปเที่ยวไทยและสนุก เด็กๆก็จะรู้สึกว่า “ไทยเป็นที่ที่น่าไป” และการเดินทางข้ามประเทศด้วยประตูวิเศษเป็น “แฟนตาซี” ที่จุดไฟในใจเด็กๆว่า “ฉันก็อยากไปที่นั่นบ้าง!”
โนบิตะกับประตูวิเศษตะลุยไทย

“ขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโตเกียว บอกกับ “ทีมเศรษฐกิจ” ว่า ทางทีวีอาซาฮีได้จัดทำ โดราเอมอน ตอนพิเศษ “อยากพบแมวนั้นที่ไทยจัง” ขึ้นมาเอง อย่างไรก็ตาม ททท.กับ ทีวีอาซาฮี เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว ททท.จึงจะต่อยอดสร้างความร่วมมือนี้ สร้างตอนใหม่ๆเพิ่มเติมให้ “โดราเอมอน” พา “โนบิตะ” เดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในไทย ที่อยากให้คนญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้รู้จักเพิ่มเติม รวมทั้งจะมีความร่วมมือกับนักเขียนมังงะหรือการ์ตูนที่เผยแพร่ทางออนไลน์ เขียนการ์ตูนเรื่องอื่นๆสอดแทรกเนื้อหาประเทศไทยอีกด้วย
“คนญี่ปุ่นคลั่งไคล้การ์ตูนมาก การใช้การ์ตูนญี่ปุ่น ทั้งอนิเมะซึ่งเป็นการ์ตูนแอนิเมชันแบบเคลื่อนไหว และมังงะ การ์ตูนภาพที่เป็นเล่ม จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีสำหรับประเทศไทย เป็นเครื่องมือเจาะตลาดคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ได้อย่างดี และได้คุยเบื้องต้นกับมาริโกะ โคบายาชิ นักเขียนการ์ตูนออนไลน์เรื่อง Soi Story มังงะที่พาไปสู่ซอยเล็กๆของไทย ที่เป็นประสบการณ์ของนักเขียนขณะใช้ชีวิตเดินทางในประเทศไทย สนใจวัฒนธรรมไทยและสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนที่สะท้อนชีวิตประจำวันและวัฒนธรรม ท้องถิ่นไทย เพื่อให้สร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย”
ขณะเดียวกันการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ญี่ปุ่น ยังใช้ KOL (Key Opinion Leader)หรือ ผู้นำทางความคิด ที่เล็งไว้ตอนนี้ เช่น Nippon Boyz ที่มีสมาชิก 3 คน คือ ลุค อิชิคาวา, เรียวตะ โอมิ และฮิเดกิ นากายาเม กลุ่มนี้โดดเด่นในการนำเสนอประสบการณ์ของชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในไทย และยังใช้ 3 ฝาแฝดตระกูลซาโตะที่เป็นนักยิมนาสติกชาวญี่ปุ่นที่มีแฟนคลับจำนวนมาก ส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นเที่ยวประเทศไทย

สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นใน 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) เพิ่มขึ้น 16% แต่ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวและตึกถล่มในไทย วันที่ 28 มี.ค.2568 ในเดือน เม.ย.คนญี่ปุ่นเที่ยวไทยลดลง 8% ต่อเนื่องถึงเดือน พ.ค.ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่เขากลัวคือ การบริหารจัดการและการรับมือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทย เนื่องจากคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญเรื่องความสะอาด สะดวก ปลอดภัย และหลังจากนี้เป็นช่วงโลว์ซีซันจะไปดูกันอีกทีช่วงเดือน ก.ค.โรงเรียนปิดเทอม และเดือน ส.ค. เป็นวันหยุดยาวของเทศกาลโอบ้ง หรือเช็งเม้ง ส่วน ก.ย.-ธ.ค.จะเป็นช่วงเดินทางมาก ตอนนี้มีเวลาอีก 6 เดือนทำการตลาด คาดหวังตลอดทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมาย
ททท. โอซากาจับกลุ่มนักศึกษา

“ธนวดี สุขสกุลวัฒน์” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโอซากา กล่าวว่า ในปี 2568 ททท. สำนักงานโอซากาดำเนินการกระตุ้นการเดินทางของกลุ่มเดินทางซ้ำ ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป กลุ่มครอบครัว กลุ่ม Active Senior รวมถึงกลุ่ม Niche Market ซึ่งเป็นกลุ่ม Sport Lover : กอล์ฟ มาราธอน โดยจัดทำโปรโมชันร่วมกับบริษัทนำเที่ยว เพื่อจัดทำแพ็กเกจราคาพิเศษเสนอขาย และร่วมกับสายการบินนำเสนอตั๋วราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้เดินทางไปประเทศไทย
ขณะเดียวกันก็สร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและส่งเสริมการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวครั้งแรก (First Visit) โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักศึกษามหาวิทยาลัย อายุ 18-23 ปี ทั่วประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ยังไม่รู้จักประเทศไทยมากนัก
ดังนั้น กลยุทธ์ในช่วงปี 2568-2570 จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยเป็นหลัก และเสริมด้วยการเสนอขาย ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่จะได้แก่ กลุ่ม Gen Z และกลุ่ม Millennials โดยจัดทำ Landing Page ที่จัดทำขึ้นมาเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอข้อมูลสินค้า กิจกรรมและบริการสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่
นอกจากนั้นของกลุ่ม Gen Z ได้เน้นไปที่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย เข้าไปแนะนำประเทศไทยในมหา วิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น และร่วมกับ Tabipo ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญสำหรับกลุ่ม Backpacker จัดกิจกรรมแนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเสนอขายการเดินทางไปประเทศไทย รวมทั้งตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแคมเปญพิเศษประกวดวิดีโอประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทย ชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศไทย ซึ่งแคมเปญนี้จะช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยยิ่งขึ้น สำหรับกลุ่ม Millennials ดำเนินการส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในการจัดทำแพ็กเกจเสนอขาย

“คาดหวังว่าการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ ทำให้เกิดการเดินทางไปยังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น และคาดหวังว่าผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นในพื้นที่ชูบุ โดยเฉพาะนาโกยาได้รับทราบข้อมูลสินค้า บริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีความหลากหลายและสามารถตอบรับกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปจัดทำแพ็กเกจเสนอขายและสามารถนำข้อมูลที่ได้รับไปแนะนำให้กับลูกค้าของตนเองได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย”
เสื้อยูนิโคล่ลายไทยแลนด์

“สุดาพร วรพล” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานฟุกุโอกะ กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่จังหวัดฟุกุโอกะมีกลุ่มครอบครัวและเด็กเล็กอยู่เยอะ จึงเน้นเจาะกลุ่มเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เช่น การเข้าไปสนับสนุนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระดับประถมศึกษาระหว่างสาธิตจุฬาฯกับเมืองโคเงะ และโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระดับมัธยมศึกษา ของสาธิตเกษตรกับจังหวัดฮิโรชิมา
“การส่งเสริมการตลาดนักท่องเที่ยวได้ทำในทุกๆกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้หญิง กลุ่มเล่นกอล์ฟ เช่น ร่วมกับนิตยสาร First.L นิตยสารที่นำเสนอไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของเมืองฟุกุโอกะ นำผู้บริหาร 20 คนจัดตีกอล์ฟฉลองปีใหม่ในไทยเดือน ม.ค.2569 โดยเริ่มทำโฆษณาตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่การมุ่งเน้นการส่งเสริมตลาดนักเรียนเป็นพิเศษ เพราะมองว่าจะเป็นอนาคตนักท่องเที่ยวของประเทศไทย เมื่อเขาได้เดินทางไปไทยตอนเด็กและเกิดความประทับใจ ในอนาคตก็จะเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยอีก”
ล่าสุด มีโรงเรียนในจังหวัดเอฮิเมะ ในภูมิภาคชิโกกุ จะนำนักเรียน 80 คนไปทัศนศึกษาที่ประเทศไทย ช่วงเดือน ส.ค. เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทย ก็มีการสอบถามเข้ามา ทางสำนักงานจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปบรรยายข้อมูลให้ฟังก็ไม่มีการยกเลิกการเดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มนักเรียนญี่ปุ่นที่ไปทัศนศึกษาในไทยจะไปประมาณ 5 วัน สำหรับเด็กประถมและมัธยมจะเป็นกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้ๆ เช่น อยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ถ้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ก็ไปเชียงใหม่ สุโขทัย

“มีกิมมิกน่ารักๆ ที่ ททท.สำนักงานฟุกุโอกะ ใช้คอนเนกชันของศิลปินชาวญี่ปุ่น ชินริ มูราคามิ ที่มีโครงการร่วมกับยูนิโคล ในโครงการ UTme! ที่ให้ลูกค้าออกแบบเสื้อยืดเองโดยใช้ภาพวาดศิลปินท้องถิ่นตกแต่งเสื้อ โดยให้ออกแบบลายเสื้อที่มีคำว่า Thai และ Thailand โดยออกแบบทั้งหมด 4 ลาย ซึ่งททท.ได้สั่งเสื้อลายนี้จากยูนิโคล่ เพื่อแจกเด็กญี่ปุ่นที่เดินทางไปทัศนศึกษาประเทศไทยด้วย”
นอกจากนั้น ภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนี้ไม่ค่อยดี ประกอบ กับค่าเงินเยนอ่อน และรัฐบาลญี่ปุ่นมีโครงการส่งเสริมให้เที่ยวในประเทศโดยจ่ายเงินสนับสนุน 5,000-8,000 เยน ตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้คนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดินทางออกนอกประเทศมากนัก และจากจำนวนประชากรญี่ปุ่น 125 ล้านคน ถือพาสปอร์ตแค่ 19 ล้านคน หรือ 17% ของประชากร
จึงจะนำโครงการ WoW! Thailand Passport Privileges ที่ ททท.สำนักงานโตเกียวเคยทำเมื่อปลายปี 2567 แล้วได้ผลนำกลับมาใช้อีก เพื่อจูงใจคนญี่ปุ่นที่ไม่เคยไปไทยเลือกที่จะไปเที่ยวประเทศไทย โดยจะให้สิทธิประโยชน์พิเศษและลุ้นรับของรางวัลสำหรับคนที่ประทับพาสปอร์ตในไทยเป็นครั้งแรก

ททท.ทั้ง 3 สำนักงานในญี่ปุ่นจัดแบ่งงานประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการตลาด และจัดโรดโชว์ ให้ชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย “แบบครบลูป” ประกอบกับมีโดราเอมอน โนบิตะ ทั้งยังมี อนิเมะ มังงะ เสื้อลายการ์ตูนพร้อมคำไทยแลนด์ของยูนิโคล่ มาสนับสนุน หวังว่าสิ่งนี้คือก้าวสำคัญที่ทำให้ “ประเทศไทย” ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่คือประสบการณ์ในใจของคนญี่ปุ่นทุกช่วยวัย
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ททท.จัดโรดโชว์ทีมเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์ไทยรัฐการ์ตูนเสื้อยูนิโคล่ลายไทยแลนด์ฟุกุโอกะชาวญี่ปุ่นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่โดราเอมอนโนบิตะตอนพิเศษอยากพบแมวนั้นที่ไทยจังPassportPrivileges