
“เสนา” เปิดตัว คอนโดโซนติวานนท์ ตอบโจทย์ Gen-y Co-Creaition Space ครบ !
พิสูจน์ทำเลย่านติวานนท์กำลังซื้อยังคึกครื้น ล่าสุด “เสนา” ลงสนามจริงเปิดตัวโครงการใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์” มูลค่าโครงการ 1,400 กว่าล้านบาท ชูไอเทมเด็ดสุดในย่านติวานนท์ “CO-CREAITION SPACE”ครบวงจร ด้านไนแฟรงค์ล้วงลึกชี้ “ติวานนท์” ทำเลศักยภาพในอนาคต
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากแบบสอบถามที่ทางเสนา ฯ ได้ออกบูธเซ็นทรัล ลาดพร้าวเมื่อวันก่อน พบว่าลูกค้ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้าเสียเป็นส่วนใหญ่ หากเปรียบเทียบกันระหว่างทำเลรถไฟฟ้าสายต่างๆ แล้ว ทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและน่าสนใจไม่น้อยกว่าสายอื่น ๆ
ล่าสุด ทางบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์ (Niche MONO TIWANON)” พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด "COMBINATION WITH LIFE AND WORK" ที่การผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตในโหมดต่างๆ เข้าด้วยกัน สะดวกสบายทุกการเดินทางเพราะใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพียง 50 เมตร โดยตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการ 2 ไร่เศษ เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร รวมทั้งสิ้น 526 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 – 35 ตารางเมตร
- แบบ 1 ห้องนอน (Moff)แบ่งเป็น 4 ขนาด คือ ขนาด 26 +14 (40 ตารางเมตร) ขนาด 28+14 (42 ตารางเมตร) ขนาด 32 + 18 (50 ตารางเมตร) ขนาด 35 + 18 (53 ตารางเมตร)
- แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร
ราคา Pre sales เริ่ม 2.4 ล้านบาท*
หรือราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 91,000 บาท มูลค่าโครงการรวม 1,400กว่าล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563
นิช โมโน ติวานนท์ คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Gen Y (Generation Y) และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มี passion ของตัวเองและสามารถบริหาร passion ให้กลายเป็นความสำเร็จได้ที่นี้จึงมี Co-Creation Space ซึ่งถูกคิดให้ทุกฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานแบบครบวงจรการทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนยุค Gen Y ที่เน้นความเป็นความอิสระ ไม่ใช่การนั่งอยู่ในสำนักงานหรือออฟฟิศ การออกมานั่งเล่นใน space ที่สามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมกับมีอุปกรณ์และ
บริการรองรับสำหรับการทำงาน เป็น space ที่เอื้อต่อการปฏิบัติงานและตอบสนองความต้องการด้านความสะดวกสบายให้กับคนยุค GenY ได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีครบและตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิตคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีสาธารณูปโภคครบครัน
- พื้นที่ส่วนกลาง Grand Lobby
- Wifi
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ วิว Panorama
- Kid ‘ s Pool
- Jacuzzi Pool
- Hydro Pool
- Sunken Loungnจุดชมวิวขอบฟ้า
- ห้องออกกำลังกาย Boxing Room
- Game Room
- SteamRoom
- BBQ Terrace
- Executive SunsetLounge ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดโดยรอบโครงการ เจ้าหน้ารักษาความปลอดตลอด 24 ชั่วโมง
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปี 2559 ได้ยกระดับทำเลติวานนท์ให้มีชีวิตชีวาและเป็นที่ต้องการของผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในย่านนี้มากขึ้น เมื่อผนวกกับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินในเดือนสิงหาคม 2560 ยิ่งทำให้ติวานนท์กลายเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบายระหว่างกรุงเทพมหานครและนนทบุรีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ประกอบกับสาธารณูปโภคสาธารณูปการที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ ทั้งศูนย์การค้า ตลาด โรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ราชการสำคัญ
รวมไปถึงโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในอนาคตที่จะช่วยซัพพอร์ตทำเลนี้ให้พรั่งพร้อมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้ากับสายสีชมพูและสายสีน้ำตาล และโครงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ภายใต้แนวคิด TransitOriented Development (TOD) ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน เพื่อครอบคลุมการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างครบวงจรทั้งการคมนาคม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรม นอกจากนี้ยังมีโครงการศูนย์การค้า Gateway บางซื่อซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 นี้อีกด้วย
จากความสะดวกสบายที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ “ติวานนท์”กลายเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้ามาพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้บริโภครุ่นใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมใกล้เมือง ตลอดจนนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อ
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมย่านติวานนท์-บางซื่อนั้น ตั้งแต่ถนนงามวงศ์วานซอย 17 ถึงศูนย์ราชการนนทบุรี ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนพิบูลย์สงคราม ถนนประชาราษฎร์สาย 1 และถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถึงถนนประชาชื่น พบว่าอุปทานเริ่มต้นของคอนโดมิเนียมในย่านติวานนท์-บางซื่อในปี พ.ศ. 2552 นั้นมีเพียง 976 หน่วยและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2561 มีจำนวนอุปทานสะสมในพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 35,400 หน่วย
โดยปีที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นสูงสุดคือปีพ.ศ. 2557 ด้วยจำนวนคอนโดมิเนียมที่เข้าสู่ตลาดกว่า 9,425 หน่วย ทั้งนี้อุปทานใหม่ตั้งแต่ปี 2558 ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2559 และ 2560 มีห้องชุดใหม่เข้ามาในตลาดเพียง 821 หน่วย และ 615 หน่วยตามลำดับ สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ลดลงเช่นกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินซึ่งยังไม่สมบูรณ์ในขณะนั้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อดูแนวโน้มและทิศทางของตลาด
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2561 ตลาดคอนโดมิเนียมย่านนี้กลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้นอีกครั้ง โดยมีอุปทานใหม่เข้ามาในพื้นที่ศึกษาทั้งสิ้น 2,029 หน่วย จากผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวน 2 โครงการได้แก่ Niche Pride เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ (742 หน่วย) และ The Line วงศ์สว่าง (1,287 หน่วย) โดยยอดขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบันของทั้งสองโครงการอยู่ที่ประมาณ 50% ส่วนด้านราคานั้น พบว่าราคาเสนอขายโดยเฉลี่ยของโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่ศึกษา ณ สิ้น พ.ค. 2561 อยู่ที่ 112,500 บาท/ตร.ม.
กราฟที่ 1
อุปทานสะสมในพื้นที่ที่ศึกษาระหว่างปี 2552 – พ.ค. 2561
ที่มา : ฝ่ายวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย
กราฟที่ 2
อุปสงค์ อุปทาน และอัตราการขายสะสมของคอนโดมิเนียม ในพื้นที่ศึกษา หว่างปี 2552 – พ.ค. 2561
ที่มา : ฝ่ายวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย
กราฟที่ 3
ราคาเสนอขายเฉลี่ยของอุปทานใหม่แต่ละปีในพื้นที่ศึกษา (บาท/ตร.ม.)
ที่มา : ฝ่ายวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย
โดยสรุปแล้วติวานนท์เป็นทำเลที่น่าสนใจเนื่องด้วยปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มศักยภาพในอนาคตจากผลพวงของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนซึ่งจะเชื่อมระบบรถไฟฟ้าหลายสายเข้าด้วยกันในบริเวณนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ(ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านติวานนท์ ทำให้การเดินทางระหว่างกรุงเทพมหานครและนนทบุรีมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในด้านราคาขายของโครงการในพื้นที่นี้โดยรวมยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก
ติวานนท์จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากลงทุนในทำเลอนาคต รวมถึงผู้ที่กำลังหาที่อยู่อาศัยใกล้เมืองที่มีสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย