เมื่อได้ทำการซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียมแล้ว ผู้ซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม มีหน้าที่ต้องชำระค่าส่วนกลางซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่เจ้าของร่วมทุกคนต้องปฏิบัติ โดยจะคำนวณเก็บตามอัตราส่วนหรือเนื้อที่ที่ระบุในหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นตารางเมตร ประเด็นเกี่ยวกับ “ค่าส่วนกลาง” สำหรับผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรมีปัญหาสารพัด และข้อขัดแย้งในเรื่องนี้ระหว่าง “เจ้าของโครงการ” หรือผู้ดำเนินการจัดสรรกับ “ผู้ซื้อ” หรือลูกบ้านก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ
แม้กระทั่งการจัดตั้ง “นิติบุคคล” ขึ้นมาบริหารหมู่บ้านแล้ว ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ ค่าส่วนกลางที่เก็บนั้นจะนำไปชำระค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ค่าทำความสะอาด ค่าจัดเก็บขยะมูลฝอย ค่ายามรักษาความปลอดภัย เงินเดือนพนักงาน รวมถึงการดูแลระบบการจ่ายน้ำ-ไฟไปยังห้องชุดย่อยๆ ค่าภาษีอากรต่างๆ
1.น้ำร้อนจากฝักบัว คุณอาจกรองน้ำก่อนดื่ม แล้วน้ำที่คุณใช้อาบล่ะ ประธานาธิบดีบาลัค โอบามาแนะนำว่าควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำสำหรับทั้งน้ำดื่มและน้ำอาบ ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันตัวคุณเองจากการเกิดโรคมะเร็ง เพราะในระหว่างที่คุณอาบน้ำคุณจะค่อยๆ ดูดซึมคลอรีนเข้าในร่างกาย โดย 10 นาทีในห้องน้ำจะทำให้คุณได้รับคลอรีนมากกว่าการดื่มน้ำจากแหล่งเดียวกันในปริมาณ 1 แกลลอน ดังนั้นหากไม่มีการกรองน้ำก่อนการใช้ คลอรีนจะกลายเป็นก๊าซและสร้างอากาศเป็นพิษภายในบ้านของเรา
2.เฟอร์นิเจอร์ ไม่ใช่เพราะเฟอร์นิเจอร์เก่า แต่เป็นเพราะสีหรือกาวที่เคลือบทาเฟอร์นิเจอร์ซึ่งมีสารพิษปนเปื้อน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านควรเลือกวัสดุที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยไร้สารเคมีและสารพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
3.ผลิตภัณฑ์ความงามที่ใช้ทุกวัน คุณอาจทานอาหารออร์แกนิค แต่พวกน้ำหอม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามของคุณล่ะ ในความจริงผลิตภัณฑ์ให้ความหอมต่างๆ นั้นง่ายต่อการดูดซึมของผิวหนังและปอดเป็นอย่างยิ่ง วิธีแก้ไขคือการมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วิธีง่ายๆ คือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
4.เครื่องประดับภายในบ้าน เมื่อปีใหม่หรือวันคริสต์มาสที่ผ่านมา คุณคิดว่าของประดับในบ้านที่ทำจากพลาสติกปลอดภัยจริงหรือ ? การตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ที่แม้จะมีความน่ารักก็จริง แต่มันอาจสร้างมลพิษภายในบ้านหรือคอนโดมิเนียมของคุณได้ โดยมีการค้นพบว่าของประดับในวันคริสต์มาสมีสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง วิธีแก้ปัญหาคือเมื่อคิดอยากจะตกแต่งบ้านให้เลือกของประดับที่ทำจากแก้ว ผ้าหรือวัสดุจากธรรมชาติ
5.พรมที่แสนอบอุ่นของคุณ การปูพรมภายในบ้านอาจทำให้คุณรู้สึกนุ่ม สบายเท้าเมื่อต้องเดินอยู่ในบ้าน แต่มันกลับไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับเรื่องอากาศภายในบ้าน เพราะเส้นใยของพรมเป็นตัวดักจับฝุ่นขั้นเทพ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหอบหืดและภูมิแพ้ได้ วิธีที่แนะนำคือการเลือกใช้พื้นไม้หรือไม้ไผ่จะลดการเก็บกักฝุ่นได้เป็นอย่างดี
6.เครื่อง Printer สำหรับบ้านใครที่มีเครื่องพิมพ์หรือ Printer ไว้ใช้ทำงาน คุณอาจรู้สึกมึนวิงเวียนศีรษะหลังจากพิมพ์งานจากคอมพิวเตอร์ นั่นเป็นเพราะตลับหมึกนั้นปล่อยสารที่ทำให้เกิดมลพิษภายในบ้าน สิ่งที่อยากแนะนำคือ Printer ของคุณควรจะตั้งอยู่ในที่อากาศถ่ายเท
7.เทียน ไม่มีอะไรจะสร้างอารมณ์ภายในบ้านได้ดีไปกว่าแสงเทียน แต่คุณรู้ไหมว่าในระหว่างที่คุณจุดเทียนเพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านการเผาไหม้ของเทียนกลับปล่อยสารก่อมะเร็งออกมา ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองกับระบบทางเดินหายใจ เหมือนกับสารที่ปล่อยมากับท่อไอเสียรถยนต์ วิธีแก้ไขคือให้เลือกเทียนที่ทำจากขี้ผึ้งธรรมชาติ
8.ห้องซักเสื้อผ้า อย่าปล่อยให้เสื้อผ้าสะอาดและมีกลิ่นหอมอบอวลทำลายสุขภาพของคุณด้วยผลิตภัณฑ์ซักและทำความสะอาดเสื้อผ้าซึ่งมีส่วนผสมของน้ำหอม ห้องซักเสื้อผ้าถือเป็นแหล่งที่สะสมของสารที่ก่อให้เกิดมลพิษเป็นอันดับต้นๆ ในบ้าน
9.เครื่องครัวที่มีสารเคลือบ อาจสะดวกจริงหลังการปรุงอาหารเพราะมันทำความสะอาดง่าย แต่ polytetrafluoroethylene หรือเทฟลอนนั้นกลับทำให้เกิดมลพิษทางอากาศภายในบ้าน ซึ่งมันทำให้เกิดโรคไทรอยด์ โรคอ้วน และโรคสมาธิสั้นได้
10.การทำความสะอาด “บ้าน” น้ำยาทำความสะอาดบ้านของคุณอาจมีส่วนผสมของแอมโมเนียและสารฟอกขาวในระดับที่เป็นอันตรายต่อปอดและทำลายโอโซนภายในบ้าน ดังนั้นแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งเราสามารถทำขึ้นเองได้