ทำเองได้ไม่เพิ่งช่าง แต่งคอนโดห้องเล็กใช้งบน้อย ปล่อยเช่าได้ราคาดี

          แต่งคอนโดด้วยตัวเอง ขนาด 22 ตารางเมตร สำหรับคนอยากปล่อยเช่างบไม่เกินห้าหมื่น ชมรีวิวแต่งคอนโดสตูดิโอสวย ๆ ขนาด 22 ตารางเมตร ไอเดียแต่งคอนโดปล่อยเช่าห้องขนาดเล็กน่าอยู่

          แชร์ประสบการณ์และไอเดียแต่งคอนโดขนาดเล็กเอาไว้ปล่อยเช่า จาก คุณแจ๊สสีฟ้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มาพร้อมกับรีวิวแต่งคอนโดสตูดิโอ ขนาด 22 ตารางเมตร ซึ่งเขาตั้งงบไว้ประมาณ 5 หมื่นบาท ตั้งแต่การเลือกซื้อของอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง รวมทั้งการเลือกสีแบบประหยัด ๆ  มาตกแต่ง การติดวอลเปเปอร์ การติดมู่ลี่และม่าน หากกำลังมองหาไอเดียแต่งคอนโดไม่บิวท์อินหรือคอนโดขนาดเล็กอยู่เข้ามารับชมกันเลย

 [CR] แต่งคอนโดปล่อยเช่า ลงทุนตกแต่งเพิ่มแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ปล่อยห้องได้ไวเว่อร์ ! โดย คุณแจ๊สสีฟ้า

          สวัสดีครับเพื่อน ๆ เห็นช่วงนี้คนบ่นเรื่องห้องหรือบ้านว่างหาคนเช่ายาก ผมเลยอยากจะมาแชร์ไอเดียว่า จะทำอย่างไรให้คอนโดน่าอยู่ และมีคนเช่าไว ๆ ในสภาวะคู่แข่งคอนโดให้เช่าล้นตลาดแบบนี้ ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนนะครับ คือผมเพิ่งเริ่มลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าไว้ 2 ห้อง (จริง ๆ ตั้งใจขายมากกว่า) โดยที่ทั้ง 2 ห้องนั้นแต่งเสร็จ ลงโฆษณาในเว็บไม่นานก็มีคนโทรมานัดดูประมาณห้องละไม่เกิน 3 ราย และตกลงเช่าเลยครับ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดห้องบ่อย ๆ และให้เช่าได้ในเรทที่สูงกว่าห้องขนาดเดียวกันในโครงการเดียวกัน โดยไม่ต้องพึ่งนายหน้าครับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาแชร์ไอเดียสำหรับคนที่ยังหาคนเช่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ยากลงทุนเยอะ

            ห้องแรกครับ ตั้งงบไว้ 1 แสนบาท เพื่อให้เหมาะสมกับระดับราคาค่าเช่านะครับ เคยตั้งกระทู้ไว้แล้วที่ [CR]  รีวิวมือให้หัดแต่งคอนโดแนว Loft ด้วยงบ 1 แสนบาท จะเป็นอย่างไรบ้าง   

          ส่วนห้องนี้ผมตั้งโจทย์ยากขึ้นไปอีกโดยตั้งงบประมาณไว้  5 หมื่น รวมทุกสิ่งอย่าง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง โดยลดงบลงมาครึ่งหนึ่ง แต่ขนาดห้องพอ ๆ กัน เน้นทำเองทั้งหมด ไม่ต้องจ้างช่าง วัสดุต้องไม่แพง แต่ห้องต้องออกมาดูดีมีคลาส จะเป็นอย่างไรต้องมาติดตามดูกันนะครับ ขอนำเสนอภาพรวมของห้องหลังแต่งคร่าว ๆ ให้ชมก่อนนะครับ เดี๋ยวจะทยอย ๆ แจกแจงรายละเอียดการตกแต่งต่าง ๆ นะครับ

           ป.ล. พอดีใช้กล้องมือถือถ่าย และวันถ่ายแสงน้อยไปหน่อย เลยอาจจะไม่ค่อยชัดนะครับ ต้องขออภัยด้วย

 

 

          ห้องที่ซื้อไว้เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการคอนโดย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ราคาต่ำกว่าล้าน แต่ทำเลก็โอเคครับ ไปมาสะดวก ทะลุถนนหลักได้หลายทาง ใกล้ทางด่วน และที่สำคัญไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งด้วยครับ ขนาดห้อง 22 ตารางเมตร แต่ห้องของผมมีแถมมาอีก .80 รวมเป็น 22.8 ตารางเมตรครับ

           ป.ล. ที่เลือกไซส์ห้องขนาดนี้เพราะโครงการนี้ได้ห้องแปลนแบบเดียวกันหมด ขนาดหน้ากว้างเท่ากัน ต่างกันแค่ความลึกส่วนตัวมองว่าพอแต่งไปแล้วก็ไม่อึดอัดเท่าไร แต่สามารถแข่งราคาค่าเช่ากับห้องไซส์ใหญ่คือ 26 และ 28 ได้สบาย 

 

 

          เริ่มจากรับโอนคอนโด ลักษณะเป็นห้องเปล่า มีแถมมาแค่แอร์ 1 ตัว และซิงค์ในครัวเท่านั้น 

 

          เริ่มแรกก็ต้องหาเฟอร์นิเจอร์ก่อนนะครับ โดยปกติตามคอนโดใหญ่ ๆ มักจะมีร้านจัดเซตมาให้ในราคาพิเศษ และมักจะมีการวัดขนาดห้องไปแล้ว เลยทำให้พอดีกับห้องของโครงการนะครับ

          ส่วนตัวดูวัสดุจากที่มาออกบูทแล้วก็โอเค พอใช้ได้เลยสั่งไปนะครับ แต่ห้องผมขนาด 22 ตารางเมตรเลยขอไม่เอาตู้วางทีวี แต่ว่า ขอเปลี่ยนเป็นไม้ปาร์ติเกิลบอร์ดสำหรับทำโต๊ะกินข้าวและชั้นวางของแทนครับ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มกว่าชั้นวางทีวีนะครับ เพราะถ้าไปซื้อทั้งหมดก็หลายพันอยู่ ก็ Win Win ทั้งคู่ โรงงานเองก็ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนโซฟากับโต๊ะกลางนี่มีปัญหากับเจ๊แกนิดหน่อย ส่งของช้า มาไม่พร้อมกัน แล้วผิด 2 ครั้งซ้อน ผมเลยยกเลิกสองรายการนั้นไป แต่เจ๊เจ้าของร้านแกก็ดีนะ ยอมรับผิดชอบ ไม่เก็บเงินในส่วน 2 ชิ้นนี้ ลดไปพอสมควรเลยครับ 

          โดยรวมแล้วถ้าว่าพอใจในงานและความรับผิดชอบระดับหนึ่งเลยครับ แต่ยังต้องปรับปรุงเรื่องระบบงานจัดส่งให้ตรงเวลา และถูกต้องกว่านี้นะครับ ที่สำคัญสั่งแล้วช้ามากกว่าจะได้ของ ตอนแรกก็กะว่า ทำเรื่องโอน และรอแต่งห้องเสร็จน่าจะพอดีกันประมาณ 45 วัน ที่ไหนได้แต่งห้องเสร็จก่อนนานแล้วเฟอร์นิเจอร์ไม่มาสักที ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งนะครับที่ต้องดูดี ๆ ไม่งั้นเสียโอกาสทำรายได้ไปฟรี ๆ เลยนะครับ 

 

 

          พอดีผมไปซื้อโซฟากับโต๊ะกลางจากเพื่อนที่เป็นลูกบ้านที่คอนโดแรกที่เขาได้แถมมา แต่ไม่ชอบเลยขายค่อนข้างถูกแล้วไปซื้อโต๊ะวางทีวีจากอิเกีย ราคา 499 บาท

 

          รวม ๆ แล้วงบประมาณเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องทานข้าวก็อยู่ประมาณ 16,000 บาทนะครับ ที่นี้เราก็มีเตียง+ฟูก, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา+โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี, ชั้นวางของโชว์, โต๊ะทานข้าวแล้วนะครับ

          ช่วงที่รอเฟอร์นิเจอร์เซตใหญ่ เราก็มาแต่งห้องรอไปก่อนนะครับ สิ่งแรกก็ที่ตกแต่งก็คือผนัง เพราะส่วนตัวถือว่าผนังเป็น พื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของห้อง และเป็นจุดดึงดูดสายตาที่สำคัญ เพราะฉะนั้นการตกแต่งผนังจึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเสียเงินแค่หลักพัน (ทำเอง) แต่ทำให้ห้องสีขาว ๆ น่าอยู่ขึ้นเยอะมากเลยครับ เคยไปดูบางห้องที่แต่งเฟอร์นิเจอร์แพง ๆ สวย ๆ แต่เลือกเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนแล้วผนังสีขาว ทำให้ห้องดูธรรมดาไปเลยครับ ไม่โดดเด่น ทั้ง ๆ ที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ได้สวยงามแล้วก็ตาม สำหรับห้องนี้ทาสีห้องกันเอง ได้เพื่อนผมที่เคยไปทาสีวัดไทยที่แอลเอสมัยไปเป็นครูอาสาอยู่ที่นู้น ก็ถือว่ามีประสบการณ์อยู่บ้าง สำหรับสีผมแนะนำให้ลงทุนสีดีหน่อยนะครับ สีทาภายในที่กลิ่นไม่ฉุนแล้วก็ถ้าเป็นแบบเช็ดล้างได้ยิ่งดีเลยครับ เพราะว่า เราก็ไม่รู้ว่าคนเช่าจะทำห้องเราเละขนาดไหน

          อ๋อ… ผมมีทริปในการเลือกซื้อสีแบบประหยัด ๆ มาฝากด้วยนะครับ สำหรับห้างใหญ่ ๆ ที่มีเครื่องผสมสี มักจะมีสีที่คนผสมแล้วไม่เอาเพราะไม่ถูกใจ (หรือทิ้งไว้เพราะแพงไปหรืออะไรก็แล้วแต่) ตรงนี้เขาจะนำมาลดราคาอยู่เยอะพอสมควรเลยครับแต่ว่าใครจะซื้อต้องดูวันที่ผสมดี ๆ นะครับ อย่านานจนค้างปี และที่สำคัญที่สุดต้องคำนวณพื้นที่ที่จะทาให้ดีนะครับ ว่าซื้อไปแล้วใช้พอไหม และอย่าลืมถามคนขายด้วยว่าต่อลายได้ไหม (คือถ้าสีหมด สามารถผสมใหม่ได้เหมือนเดิมเลยนะ) สำหรับผมเองก็ไปเดินเลือกสีแบบนี้มาเหมือนกันครับ พอดีมีสีเทาใกล้เคียงกับที่อยากได้อยู่แกลลอนหนึ่งพอดี โชคดีมาก จริง ๆ ทาสีเองก็ไม่ได้ยากเท่าไรนะครับ อยากให้ลองทากันเองดูนะครับ 

 

 

          จัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามนี้เลยครับ

 

 

          เริ่มแรกก็เตรียมปูผ้าใบกันเปื้อน ติดกระดาษกาวตามขอบบัว ขอบเพดานต่าง ๆ ให้ดี รวมทั้งขอบประตู หน้าต่าง ปลั๊กไฟ (ตรงนี้แหละผมว่านานสุด)

 

 

          หลังจากนั้น เพื่อนผมก็เริ่มทาเลยครับ ทาไปไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ

 

 

          สเต็ปต่อมา ต้องมีผนังด้านหนึ่งที่ดูเด่นลอยเด้งมาแต่ไกล ส่วนตัวเลือกเป็นผนังด้านที่วางทีวี เพราะด้านนี้แต่งแล้วจะดูเด่นสุด (และใช้งบน้อยสุดด้วย) ก็เลยไปจัดวอลเปเปอร์เป็นลายอิฐมานะครับ ให้ดูห้องอบอุ่นขึ้น (หรือเปล่า) เพื่อเบรกสีเทาให้ห้องดูสว่าง สำหรับการติดวอลเปเปอร์ก็ไม่ยากนะครับ ใช้กาวลาเท็กซ์ธรรมดา ๆ ที่คุ้นเคยตั้งแต่เด็กนี่ละครับ ผสมน้ำ 1:1 แล้วใช้ลูกเกลี้ยงทาที่ผนังและหลังวอลเปเปอร์ จากนั้นก็เริ่มติด ที่จะยากก็ตอนรีดฟองอากาศที่จะทำให้งานสวยไม่สวย และก็การเก็บขอบต่าง ๆ 

          สำหรับใครที่จะเลือกลายอิฐหรือลายแบบที่มีการต่อลายต้องคำนวณซื้อเผื่อการต่อลายด้วยนะครับ ในแคตตาล็อกจะมีบอกระยะต่อลายไว้ เวลาจะตัดแผ่นที่ 2 3 4 ต่อ ๆ ไป ต้องกะลายบริเวณขอบบนที่จะติดให้ดี ๆ นะครับ เพราะจะต้องดูให้ตรงกัน ถ้าลายเหลื่อมกันมากไปจะไม่สวยนะครับ เมื่อติดเสร็จแล้วตัวผนังสีเทาพอตัดกับสีขาวของบานประตูและผนังสีอิฐก็ทำให้มุมนี้ดูเด่นขึ้นเป็นกองเลยครับ

 

 

          รวมแล้วงบสองพันนิด ๆ แต่เหมือนได้ห้องใหม่เลยครับ 

 

 

          ถัดมาก็ต้องมาติดผ้าม่านให้ห้องกันสักหน่อยนะครับ สำหรับผ้าม่านเป็นอะไรที่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ ถ้าเราไปจ้างทำนะครับส่วนตัวมองว่า ห้องให้เช่า เลือกซื้อผ้าม่านสำเร็จรูปแบบดี ๆ หน่อยมาติดเองก็น่าจะโอเคระดับหนึ่งแล้วนะครับ ผมเลือก Pasaya เพราะว่าชอบเนื้อผ้าที่ดูดี ทนทานนะครับ และมีลดราคาตามห้าง และร้านขายเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ บ่อยครับ เนื่องจากหน้าต่างค่อนใหญ่เลยซื้อแบบผ้าม่านติดประตูมาติดแทนนะครับ ราคาลดแล้วก็ไม่แพงนะครับ คู่ละหนึ่งพันบาทแต่เวลาเลือกให้อ่านให้ดี ๆ นะครับ ว่าเป็นแบบทึบแสงหรือแบบไม่ทึบแสงนะครับ 

          แบบที่ติดที่ห้องนี่ไม่ทึบแสงนะครับ ถ้าคนที่นอนตื่นสายอาจจะไม่ชอบนะครับ รูปที่ถ่ายนี้ถ่ายตอนบ่ายแก่ ๆ แล้วนะครับ ถ่ายตรงทิศใต้เลยอาจจะดูสว่างไปหน่อย วิธีติดตั้งก็ง่าย ๆ ครับ ซื้อรางผ้าม่านที่ Index หรือ Homepro มีให้เลือกหลากหลายแบบหลายสีครับ ราคาก็ตั้งแต่ 200-1,000 กว่าบาท ตามวัสดุที่ใช้ครับ การติดตั้งก็เจาะผนังแล้วก็ยึดขาไว้กับผนัง แล้วนำผ้าม่านสอดเข้าไปในราว ผ้าม่าน แล้วนำราวไปวางที่ขายึดราวผ้าม่าน เป็นอันเสร็จแล้วนะครับ

 

 

          พอดีว่าห้องนี้มีติดแอร์ตรงหน้าต่าง ทำให้ผ้าม่านยาวเกินไปครับ แต่เราสามารถไปให้ร้านเย็บชายผ้าม่านได้นะครับ เสร็จแล้วก็จะประมาณนี้ครับ

 

 

          ส่วนประตูบานเลื่อนสำหรับออกไปตากผ้าอยู่ในห้องครัว

 

 

          ผมเลือกเป็นมูลี่แทน เนื่องจากว่าพื้นที่แคบการใช้งานมูลี่จะสะดวกกว่าผ้าม่านนะครับ การติดตั้งก็คล้าย ๆ กันครับ คือ เจาะผนังเพื่อติดขายึด แต่มูลี่จะไม่มีรางแบบผ้าม่านนะครับ และอุปกรณ์ก็จะมีมาให้ครบเลยครับไม่ต้องซื้อเพิ่ม ติดตั้งเสร็จแล้วก็ประมาณนี้ครับ

 

 

          งบประมาณครับ

 

 

          ถัดมาช่วงรอเฟอร์นิเจอร์นะครับ ก็มาแต่งห้องครัวกันต่อ หลัก ๆ ก็คือติดแผ่นกันคราบก่อนนะครับ จริง ๆ มีหลายสีนะครับ ที่เลือกสีแดงเพื่อเติมสีสันให้ห้องนะครับ ผมมีรีวิววิธีการติดตั้งไว้ใน [CR] รีวิวแต่งครัวสวยงบไม่ถึง 5 พัน แบบไม่ง้อ Built-in ด้วยแผ่นติดผนังของอิเกีย !

 

 

          จากนั้นเอาราวแขวนและที่คว่ำจานและใส่ช้อนของอิเกียมาติดเพิ่มครับ อันนี้ก็มีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพันนะครับ

 

 

          จากนั้นก็หาตู้แขวนมาใส่เก็บของสักหน่อยนะครับ เพราะว่าโครงการไม่ได้แถมมาให้ สำหรับห้องครัวนะครับ ส่วนใหญ่ตัวเคาน์เตอร์ซิงค์จะมีขนาดมาตรฐานอยู่แล้วนะครับ เราสามารถซื้อตู้แขวนมาใส่ด้านบนได้เลยนะครับ ขนาดก็ออกแบบมาพอดีอยู่แล้วนะครับ ไม่ต้องเสียเงิน Built-in นะครับ ผมเลือกของ Index เพราะมีแบบให้เลือกหลากหลายดีครับ ราคาไม่แพงด้วยครับ พันกว่าบาทเอง เสร็จแล้วก็ประมาณนี้ครับ

 

 

          ถัดมาก็ซื้อเก้าอี้บาร์ของอิเกียครับ ช่วงรอโต๊ะเพื่อที่จะวัดขนาดความสูงที่จะติดตั้งตัวโต๊ะบาร์กินข้าว

 

 

          อันนี้รูปตอนที่นำแผ่นไม้มาติดเป็นโต๊ะแล้วนะครับ

 

 

          เนื่องจากดูโล่ง ๆ ไปหน่อย ผมจึงเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งเพิ่มเติม พร้อมกับติดชั้นวางของด้านบน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นนะครับ

 

 

          ค่าใช้จ่ายครับ

 

 

          ต่อไปเป็นห้องน้ำครับ ก็ไม่มีอะไรมาก เริ่มแรกก็ซื้อรางและผ้าม่านกั้นส่วนอาบน้ำมาใส่ หาซื้อง่ายครับ ตามห้างต่าง ๆ ก็จะมีขาย ราคาก็มีตั้งแต่ร้อยต้น ๆ ยันหลักพันครับ

 

 

          จากนั้นก็ใส่ชั้นวางของต่าง ๆ เพิ่มเติมนะครับ เนื่องจากห้องน้ำโครงการค่อนข้างเล็กมากและไม่มีที่วางของเลยครับ เดี๋ยวนี้มีชั้นวางแบบปรับความสูงได้ สะดวกสบายครับ ไม่ต้องเจาะผนังกระเบื้องด้วยครับ

 

 

          หลังจากประกอบเสร็จแล้วก็ประมาณนะครับ

 

          ค่าใช้จ่ายครับ

 

 

          ตอนนี้ก็รอจนเฟอร์นิเจอร์มาส่งแล้วนะครับ ก็ครบหมดแล้วครับ มีเพิ่มเติมก็แค่ติดชั้นวางของเพิ่มเติมนะครับ เริ่มจากต้องหาฉากรับก่อน ผมเลือกแบบไม้ซื้อจากอิเกียครับ จริง ๆ มีหลายแบบนะครับ ลองไปเดินดูที่อิเกีย หรือ Homepro ดูนะ เลือกเอาแบบที่ชอบเลยครับ จากนั้นก็มีซื้อโคมไฟตั้งพื้น ติดกรอบรูปนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้วครับ ภาพหลังจากที่ทำเสร็จหมดแล้วนะครับ

 

 

          ค่าใช้จ่ายพวกตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ แต่จริง ๆ แล้วแอบเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ พวกของแต่งเนี่ย เราซื้อแยก ๆ พอมานับอีกทีก็หลายพันเลยทีเดียวครับ

 

 

          ปิดท้ายด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ รวม ๆ แล้วก็ขาดไม่เท่าไรก็ 5 หมื่นตามงบพอดีเลยครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ หวังมาจะเป็นไอเดียในการแต่งห้องให้คนเช่าได้ในราคาไม่แพงนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแจ๊สสีฟ้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม