หนึ่งในกระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาว์น ที่เป็นที่พูดถึงในแวดวงสังคมอย่างกว้างขวางคือการเปิดตัว โครงการ ’98 WIRELESS’ แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมของ แสนสิริ มูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท ที่เกิดจากประสบการณ์ของแสนสิริที่สั่งสมมากว่า 33 ปี ทำให้โครงการ 98 Wirelessได้ก้าวขึ้นมาเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่นและเป็นเลิศในทุกมุมมองไม่เพียงแต่เอกลักษณ์ความงดงามจากสถาปัตยกรรมภายนอกและภายใน แต่ยังรวมถึงปรากฏการณ์ครั้งแรกของประเทศไทยกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวจาก Quintessentially Lifestyle (ควินเทสเซ็นเทียลลี่ไลฟ์สไตล์) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการดูแลเรื่องสำคัญให้กับราชวงศ์และบุคคลสำคัญทั่วโลกมาประจำที่โครงการ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง และเติมเต็มประสบการณ์อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นเพื่อสะท้อนถึงความเข้าใจไลฟ์สไตล์เหนือระดับของลูกค้าโครงการ 98 Wireless แสนสิริจึงจัดงาน Christie’s Showcase at 98 Wireless โดยได้ร่วมกับสถาบันคริสตี้ส์ ซึ่งเป็นสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและของสะสมชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษมากว่า 251 ปี มาจัดกิจกรรมเอ็กซ์สุดคลูซีฟ Wine Tasting พร้อมกับให้ความรู้และตีคำนิยามของโครงการ98 Wireless ผ่านไวน์และนาฬิกาอันทรงคุณค่าให้กับแขกคนพิเศษณ ห้อง วิทยุ ทีรูม (WittayuTea Room) ห้องนั่งเล่นที่สงบเงียบบนชั้น 2 ของโครงการที่รังสรรค์ขึ้นด้วยคอนเซปท์ห้องนั่งเล่น (Salon) สไตล์ยุโรป ผสานความสง่างามและความเย้ายวนในสไตล์ของสุภาพสตรีผู้มีรสนิยม
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หากจะเปรียบเทียบ 98 Wireless เป็นงานศิลปะ โครงการนี้ก็เปรียบเสมือนผลงานระดับมาสเตอร์พีซของแสนสิริในรอบ 33 ปี เพราะเรากลั่นกรองประสบการณ์และความเข้าใจในรสนิยมระดับโลกและความต้องการของลูกค้ามาคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ลูกค้าได้ในระดับลึกซึ้งผสานรวมกันไว้ภายใต้แนวคิด“The Best Comes as Standard” และเมื่อแสนสิริตั้งใจที่จะให้ 98 Wireless เป็นผลงานมาสเตอร์พีซเราจึงกำหนดจำนวนยูนิตไว้เพียง 77 ยูนิตเพื่อทุ่มเทความพิถีพิถันในการรังสรรค์แต่ละยูนิตได้อย่างเต็มที่ เป็นงาน ‘คราฟท์’ ที่เราภาคภูมิใจในความเป็นเลิศในทุกมิติ ตั้งอยู่บนโลเคชั่นที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลก เปรียบดั่ง “ไวน์” ชั้นดีหรือแม้แต่ “นาฬิกาหายาก” ที่มีเรื่องราวของความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัสดุ กระบวนการผลิตเฉพาะตัว ทั้งของจากร้านขายของสะสมหายากกลางกรุงนิวยอร์คที่ได้ดีไซเนอร์ชื่อดังของนิวยอร์ก ‘แอนน์ คาร์สัน (Anne Carson)’ ผู้มีประสบการณ์การดีไซน์แฟล็กชิพและบูติคของแบรนด์ระดับโลกอย่าง ‘Ralph Lauren’ มาช่วยออกแบบ คัดสรร และควบคุมการตกแต่งเพื่อทำให้โครงการนี้สมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้ 98 Wireless เป็นที่พักอาศัยระดับมาสเตอร์พีซที่คุ้มค่าที่สุดต่อการลงทุน โดยมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี พร้อมเป็นมรดกล้ำค่าที่ส่งต่อให้กับลูกหลานได้นานสืบไป”
ในโอกาสนี้ มร.ไซม่อน แทม (SIMON TAM) และ มร.อเล็กซานเดอร์ บิ๊กเล่อร์ (ALEXANDRE BIGLER) จากสถาบันคริสตี้ส์ จึงให้เกียรติมาร่วมแชร์ความรู้และคุณค่าของการสะสมไวน์และนาฬิกาหายากเช่นกับเดียวกับการลงทุนในโครงการที่พักอาศัยระดับเวิล์ดคลาส
มร.ไซม่อน แทม(SIMON TAM) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์จากสถาบันคริสตี้ส์ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของความหลงใหลในไวน์ว่า“ผมชื่นชอบและหลงใหลในไวน์มาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความที่เติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจร้านอาหาร จึงเห็นได้ว่าไวน์ช่วยให้อาหารมื้อนั้นพิเศษยิ่งขึ้น ดังนั้นผมจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ โดยได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษและเขียนบทความมากมายเกี่ยวกับไวน์ รวมถึงเป็นหนึ่งในกรรมการของงานประกวดไวน์ทั่วโลกก่อนที่จะได้ร่วมกับสถาบันคริสตี้ส์ ในตำแหน่ง Head of Wine for Christie’s Asia ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นบทบาทที่ผมชอบมากเพราะในมุมมองของผมไวน์แต่ละขวดมีความพิเศษและแตกต่างจากเครื่องดื่มอื่นๆ ตรงที่ ไวน์ทำจากผลไม้ จึงมาจากธรรมชาติ อีกทั้งผลไม้ที่นำมาทำไวน์ ปลูกได้เพียงปีละครั้งและไวน์แต่ละขวดต้องการเวลาในการบ่มเพาะเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดทำให้ไวน์ดีๆนั้นมีจำกัด ดังนั้นยิ่งสะสมไว้นาน คุณค่าของไวน์ก็จะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา แต่จริงๆ เรื่องการ Paringไม่ว่าจะเรื่องไวน์หรือการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมระดับมาสเตอร์พีซอย่าง 98 Wirelessยังต้องอาศัยทักษะ ความเชี่ยวชาญ และรสนิยมที่ดีเยี่ยม ที่นอกเหนือจากการคัดสรรวัสดุระดับเวิล์ดคลาสมาใช้ในโครงการดังนั้น98 Wireless จึงเป็นนิยามของความเป็นเลิศแห่งการอยู่อาศัยที่แท้จริง ทั้งยังมีจำนวนยูนิตจำกัดที่หากขายหมดแล้วก็จะยากที่จะหาโครงการระดับนี้ได้อีกด้วย”
มร.อเล็กซานเดอร์ บิ๊กเล่อร์ (ALEXANDRE BIGLER) ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาจากสถาบันคริสตี้ส์ กล่าวว่า “นาฬิกานั้นไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา สิ่งที่ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนมีความพิเศษคือ ขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน บางเรือนใช้วัสดุที่คัดสรรอย่างพิเศษ เช่นเดียวกับโครงการ98 Wireless ที่ทุกรายละเอียดของโครงการคืองานคราฟท์ที่ดีที่สุดจากวัสดุชั้นเลิศผสมผสานกับการดีไซน์งานสถาปัตยกรรมที่คลาสสิกเหนือกาลเวลาเปรียบเสมือนกลไกนาฬิกาที่ซับซ้อนแต่ลงตัวเป็นที่สุด และรังสรรค์มาเพียง 77 ยูนิตเท่านั้น จุดนี้เองที่นำไปสู่ความประทับใจที่ผมมีต่อโครงการ 98 Wireless ที่มองแนวคิดในการทวีคุณค่าโครงการฯ ในแบบเดียวกันกับนาฬิกาหายาก ด้วยการคัดสรรวัสดุที่มีแต่จะสวยงามขึ้นตามกาลเวลา อาทิ ทองเหลืองล้ำค่า 900% ที่ถูกหล่อขึ้นรูปด้วยมือ และลูกบิดประตูและกลอนจาก Baldwin ที่ยิ่งใช้งาน สีของทองเหลืองก็จะยิ่งถูกขับให้แลดูคลาสสิค ทั้งยังรับประกันคุณภาพตลอดชีวิต รวมไปทั้งการใส่ใจกับกระบวนการพัฒนาโครงสร้างอย่างการนำหินทราย MoleanosLimestone ในบริเวณด้านหน้า พื้นโถงล็อบบี้ และพื้นที่สาธารณะ มาขึ้นโมเดลทดลองก่อนสร้างอาคารจริงเพื่อที่จะทดสอบความสวยงาม ความกลมกลืนกัน และค่าการดูดซึมที่จะมีผลต่ออายุการใช้งานโดยเฉพาะในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของกรุงเทพให้คงทนงดงามเหนือกาลเวลา ดังนั้นนอกจาก98 Wireless จะเป็นที่พักอาศัยระดับมาสเตอร์พีซที่คุ้มค่าที่สุดต่อการลงทุน ยังเป็นมรดกล้ำค่าที่สามารถส่งต่อให้กับลูกหลานได้นานสืบไป”
ภาพโครงการ 98 WIRELESS
ภาพโครงการ 98 WIRELESS
ภาพโครงการ 98 WIRELESS
ภาพโครงการ 98 WIRELESS
ภาพโครงการ 98 WIRELESS