เรื่องไฟฟ้าถ้าพูดถึงเรื่องไฟฟ้าแล้ว เชื่อได้เลยว่าหลายๆคนคงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกันแน่นอน ถึงแม้งานตรวจสอบระบบไฟฟ้าต่างๆจะเป็นงานของช่างก็ตาม แต่เราที่เป็นเจ้าของบ้านก็ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าไว้เป็นพื้นฐานบ้าง เผื่อเราเจอปัญหาเล็กๆน้อยๆที่พอจะแก้ไขได้ เราจะได้แก้ไขเลยใครๆก็ทำได้กับ 5 ขั้นตอนเช็คระบบไฟฟ้าภายในบ้านง่ายๆด้วยตัวเอง
ขั้นตอนที่ 1 อย่างแรกที่เราควรดูคือ ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าก่อน
- ปิดไฟในทุกๆจุดในบ้าน รวมทั้งถอดปลั๊กออกให้หมดทั้งบ้าน
- ดูมิเตอร์ของที่บ้านว่ายังหมุนอยู่หรือไม่ หากหมุนแสดงว่ามีกระแสไฟรั่วให้ลองตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่นๆก่อน เช่น เครื่องตัดไฟรั่ว ว่ายังทำงานหรือเปล่า ถ้าเครื่องตัดไฟรั่วไม่ทำงาน ต้องเรียกช่างมาแก้ไข
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบสายไฟ
- ใช้ไขควงเช็คไฟดูในจุดที่มีรอยเปื่อย สายไฟเก่า สายไฟที่โดนแมลงหรือหนูกัดจนสายยุ่ย
- ควรตรวจสายไฟตามผนัง และเพดานด้วย เพราะอาจมีน้ำจากหลังคาหยดลงมาใส่ ทำให้สายไฟชื้น เกิดเหตุการณ์ไฟช็อตได้ สังเกตได้จากคราบน้ำที่หยดลงมา
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบแผงไฟ
- สังเกตสภาพรอบแผงไฟ แผงไฟที่ดีควรไม่มีรอยแตกของอุปกรณ์ ไม่มีมดแมลงเข้าไปทำรัง ควรอยู่ในที่สูงไม่มีความชื้น
- ตรวจสอบเอาท์ เบรกเกอร์ว่ายังทำงานอยู่หรือไม่
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบเต้ารับ
- เต้ารับต้องไม่แตกร้าว อยู่ที่สูงพ้นมือเด็ก
- กรณีพื้นชื้นหรือน้ำท่วม ทดสอบนำเต้าเสียบลองดูว่าแน่นและมีไฟทุกเต้าเสียบหรือไม่
ขั้นตอนที่ 5 ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า
- การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน เครื่องซักผ้า ควรตรวจสอบปลั๊กเสียบก่อน ปลั๊กเสียบที่ดีต้องสมบูรณ์ไม่มีรอยไหม้หรือละลายเพราะความร้อน สายไฟไม่ยุ่ย ไม่ขาด ไม่กรอบ
- ฟังเสียงตอนเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ เช่น พัดลม ตู้เย็น ว่ามีเสียงผิดปกติอะไรบ้าง
- ใช้ไขควงเช็คไฟ ตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ โดยการแตะลงบนอุปกรณ์ที่เสียบปลั๊กไว้ถ้า มีไฟแดงแสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้น้ำหรืออยู่ในบริเวณชื้นตลอด เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ปั๊มน้ำ ควรมีสายดินต่อลงพื้น ถ้ายังไม่มีควรต่อให้เรียบร้อยป้องกันไฟรั่ว ไฟฟ้าลัดวงจร และหมั่นตรวจสอบการทำงานของสายดินด้วย
เราควรตรวจสอบระบบไฟ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอยู่เสมอ ควรดูแลและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟ ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน