เมื่อถึงวันลอยกระทง คนไทยส่วนมาก ก็มักจะไปลอยกระทงกันตามประเพณี ด้วยความเชื่อที่ว่าลอยเพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคา ที่เราทำน้ำสกปรก แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กับคนที่เยอะมากขึ้น จากการขอขมา ดูจะกลายเป็นการเพิ่มขยะในน้ำ ทำให้น้ำเน่าเสียแทนซะมากกว่า ใช่ครับ เราเห็นข่าวกันอยู่ทุกปี หลังเทศกาลลอยกระทงผ่านไป เราจะพบว่ามีขยะกระทงในน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราต้องกลับมาตั้งคำถามทบทวนกันอีกรอบแล้วครับ ว่าที่เราทำไปนี่มันจะเป็นการขอขมา หรือทำให้น้ำเน่าเสียกว่าเดิมกันแน่ ดังนั้น วันนี้ เราจะมาว่ากันถึงเรื่องของการขอขมาพระแม่คงคา แบบไม่ต้องลอยกระทงมาฝากกันครับ แถมจะดูเป็นประโยชน์มากกว่าด้วย ไปดูกันครับ
1. ปลูกป่า
ถามว่าปลูกป่าเกี่ยวอะไร เราว่าเกี่ยวนะ คุณลองคิดย้อนดูสิ ต้นน้ำเกิดมาจากป่า ป่าทำให้เกิดแหล่งน้ำ เป็นแม่น้ำที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตคนได้ และในปัจจุบัน พื้นที่ป่าในประเทศไทย เหลือน้อยลงทุกทีๆ แล้ว ล่าสุดได้อ่านรายงานมาฉบับนึงว่า เหลือไม่ถึงแค่ 31% ของพื้นที่ในประเทศแล้ว เมื่อไม่มีป่า ก็เท่ากับว่าไม่มีแหล่งต้นน้ำ เมื่อเราไม่มีต้นน้ำ เราจะเอาน้ำที่ไหนใช้ ดังนั้น การปลูกป่าให้กลับมามีพื้นที่ป่าดังเดิม จึงเป็นการสร้างแหล่งต้นน้ำ ทำให้เรามีน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตคนได้ครับ
2. เลิกทิ้งขยะลงน้ำกันได้แล้ว
เราเห็นเวลาในเมืองกรุงเทพฝนตกหนัก แป้ปๆ น้ำก็ท่วม แล้วคนก็โทษหน่วยงานต่างๆ ว่าไม่ยอมบริหารจัดการระบายน้ำให้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอมีการเก็บขยะริมน้ำทีนึงเท่านั้นแหละ ขยะเพียบ แล้วจะไม่ให้น้ำมันท่วมได้ยังไง ก็เล่นทิ้งขยะลงน้ำ ให้น้ำระบายไม่ได้กันน่ะ แล้วจะไปขอขมาพระแม่คงคาต่อเพื่ออะไรกัน บางคนขอขมาแล้ววันต่อมาก็ทำแบบเดิม ทิ้งขยะลงน้ำเหมือนเดิม เพื่อ !!? ดังนั้นครับ การขอขมา หรือที่เรียกกันแบบบ้านๆ ว่าขอโทษเนี่ย มันก็คือความหมายของการที่บอกว่าเราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนั่นแหละ ดังนั้น เราก็แค่เลิกทิ้งขยะ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะของเราก็พอแล้ว แค่นี้ก็เป็นการขอขมาแล้วครับ
3. เลิกลอยกระทงทั้งอำเภอ แล้วชวนเธอมาลอย EM Ball แทน
อันนี้เป็นการรักษาแหล่งน้ำแบบระดับชุมชน เพราะทำแบบใหญ่ๆ ทั้งประเทศคงไม่ไหว แต่อย่างน้อยก็ทำให้แหล่งน้ำสะอาดขึ้นได้ละกัน เพราะ EM Ball หรือชื่อเต็มๆ ว่า Effective Micro-organisms นั้น เป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถปรับสภาพน้ำที่เน่าเสีย ให้สะอาดขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะได้อีกด้วย ฉะนั้น อย่าลืมครับ ถ้าอยากให้แหล่งน้ำของเราสวยงามขึ้น เลิกลอยกระทงครับ แล้วมาลอย EM Ball กันแทนนะ เรื่อง EM Ball เดี๋ยววันหลังจะทำเป็นเรื่องแยกไว้ให้นะ ประโยชน์มันเยอะจริง
4. 1 กระทง 1 ครอบครัว
รู้อยู่หรอก ว่าห้ามไม่ให้ลอยกระทงน่ะมันไม่ได้หรอก ยังไงมันก็ต้องมีคนลอยอยู่ดี แต่คำว่าห้ามไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลดไม่ได้ ลองเปลี่ยนจากคนละ 1 กระทง เป็นครอบครัวละ 1 กระทงดู จะช่วยลดขยะกระทงในน้ำไปได้มากเลยทีเดียว อ่ะ อาจจะไม่เห็นภาพ งั้นจะอธิบายแบบซื่อๆ ไปเลย สมมุตินะ ว่า 1 ครอบครัว มี 3 คน อ่ะ ก็จะเท่ากับใช้กระทง 3 ใบ ทีนี้ ถ้าเราใช้เป็น 1 กระทง ต่อ 1 ครอบครัว เท่ากับว่าเราลดกระทงไปได้ 2 ใบ ต่อ 1 ครอบครัว แล้วถ้าทำแบบนี้กันสัก 1 ล้านครอบครัวล่ะครับ เราจะลดปริมาณขยะกระทงไปได้ถึง 2 ล้านชิ้นเลยทีเดียว นี่แค่คิดเป็นสเกลครอบครัวที่เล็กที่สุดนะ ถ้าคิดกันจริงๆ เราลดปริมาณขยะได้มากกว่านี้แน่นอนครับ แล้วเราจะไม่ 1 กระทง ต่อ 1 ครอบครัว ได้ยังไงล่ะ
5. ลอยกระทงออนไลน์
หลายๆ วงการเริ่มหันมาใช้ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตกันแล้วครับ อย่างเช่นช่วงเชงเม้ง หรือตรุษจีน ที่ได้ชื่อว่าโคตรสร้างภาวะโลกร้อนจากการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้บรรพบุรุษแล้วเนี่ย ทุกวันนี้เขาหันมาเผากระดาษแบบออนไลน์กันแล้วนะ วงการลอยกระทงนี่ก็อย่าน้อยหน้าดิ คนเราต้องหัดใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ อุตส่าห์มีอินเตอร์เน็ตที่เข้าถึงเราได้ง่ายขึ้นทั้งที เราก็ลอยกระทงออนไลน์ไปเลย คลิ๊กเดียวจบ ถ้าพระแม่คงคามีแอคเคาท์ Facebook เราว่าท่านน่าจะกดไลค์อ่ะ ก็เราสร้างขยะในน้ำได้น้อยลงอ่ะ
6. นอนอยู่บ้าน
ขึ้นชื่อว่าลอยกระทงอ่ะนะ คนเยอะ ไปที่ไหนก็คนเยอะ แออัดไปหมด งั้นก็เอาง่ายๆ เลย กลับบ้านนอนครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เราจะเหนื่อยกับผู้คนอีกทำไม กลับไปพักผ่อนดีกว่า ไม่เสียสุขภาพด้วย แถมไม่เสียเงิน ไม่เสียเวลา ไม่ต้องลอย ไม่สร้างขยะ แถมไม่ต้องทำอะไรเลยอีกด้วย ดีซะอีก
เห็นรึยังล่ะครับ ว่าเรามีวิธีการดูแล และรักษาแหล่งน้ำกันมากแค่ไหน ไม่เห็นจำเป็นต้องไปลอยกระทงอะไรกันเลย เพิ่มขยะเปล่าๆ ต่อให้เป็นวัสดุทดแทนก็เถอะ ก็ไม่ใช่ว่าแป้ปๆ มันจะย่อยสลายกันได้นะเออ นี่ล่ะครับ วิธีการขอขมา โดยไม่ต้องออกไปขอขมา แหม่ Getsunova ไปอีก เนี่ยล่ะครับ ดีที่สุดแล้ว