" รับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่งภายใน "
( รับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่งภายใน กระจก แสตนเลส อลูมิเนียม )
- รับเหมาก่อสร้าง งานสแตนเลสทุกชนิด,ประตูรั้ว,ราวกันตก,ประตูอัลลอย,งานเหล็กทุกชนิด,โครงหลงคาเหล็ก,โรงงาน,กันสาด,โพลีคาบอเนต,แมททอลชีส,ประตูยืด,ประตูม้วน,ประตู,รั้ว,เหล็กดัด,งานกระจกอลูมิเนียม,อบขาว,ดำ,บานเลื่อน,บานสวิง,บานเปลื่อย,บานกระทุ้งและปิดเปิด,มุ้งลวด,ฝ้าฉาบเรียบ,ฝ้าทีบาร์,ผนังเบา,รับเหมาก่อสร้าง,ต่อเติม,ตกแต่งภายใน ดูรายละเอีดได้ที
www.tonbenefit.com
บริการของเรา (Our Service)
ที่ Ch construction เราให้บริการเรื่องการปลูกสร้างบ้านอย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบบ้าน ก่อสร้างตามแบบ และการตกแต่งภายใน โดยเน้นการปลูกสร้างตามความต้องการ และความเหมาะสมกับวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละคน ทุกขั้นตอนดำเนินการและควบคุมงาน โดยทีมสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพที่มีประสบการณ์ และให้ความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของการก่อสร้าง ทำให้คุณมั่นใจได้ 100% ว่าบ้านในฝันของคุณจะสวยถูกใจ คุ้มค่ากับเงินลงทุนทุกบาทของคุณ
ขั้นตอนการให้บริการ
1. ให้คำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกสร้าง พื้นที่ใช้สอยและรูปแบบบ้าน การประเมินราคาเบื้องต้น ระยะเวลาก่อสร้างแบบคร่าวๆ ข้อตกลงเรื่องการแบ่งงวดการชำระเงิน ให้คำแนะนำเรื่องการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยขั้นตอนนี้ทางบริษัทฯจะไม่มีการคิดค่าบริการใดๆทั้งสิ้น
2. หลังจากสรุปความต้องการและตกลงทำสัญญากันแล้ว บริษัทฯจะทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการออกแบบเบื้องต้น หรือแก้ไขจากแบบที่ลูกค้าเลือก เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด รวมทั้งทำการศึกษาเรื่องข้อกฏหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
3. นำเสนอแบบร่างขั้นต้น และรายการวัสดุก่อสร้างแก่เจ้าของบ้าน และทำการปรับปรุงแก้ไขแบบ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เช่น ต้องการขยายขนาดของห้อง เพิ่มจำนวนห้อง หรือปรับเปลี่ยนวัสดุบางอย่าง เพื่อทำการเขียนแบบอย่างละเอียดต่อไป
4. เมื่อแบบก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้รับการอนุมัติจากเจ้าของบ้านแล้ว ทางบริษัทฯจะทำการยื่นขออนุญาตปลูกสร้างอาคารกับทางราชการ รวมถึงการขอน้ำประปา ไฟฟ้า เลขที่บ้าน และเริ่มทำการก่อสร้าง โดยตลอดระยะเวลาของการก่อสร้าง บริษัทฯจะจัดส่งช่างควบคุมงานเข้าประจำพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมทั้งให้วิศวกรและสถาปนิกเข้าตรวจงานตามขั้นตอนที่กำหนด
5. เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ทางบริษัทฯจะทำการทำความสะอาดพื้นที่ทั้งหมด ก่อนจะทำการส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า รวมทั้งรับประกันผลงานตามมาตรฐานของบริษัทฯให้กับทางลูกค้า โดยทางบริษัทฯให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริการหลังการขาย โดยยินดีให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลรักษา หรือซ่อมแซมต่อเติมบ้านให้แก่ลูกค้า แม้จะหมดระยะเวลารับประกันแล้วก็ตาม
การรับประกันผลงาน
1. รับประกันในส่วนของโครงสร้าง เป็นระยะเวลา 5 ปี
2. รับประกันเรื่องการรั่วซึมของหลังคา เป็นระยะเวลา 5 ปี
3. รับประกันเรื่องการป้องกันปลวก เป็นระยะเวลา 3 ปี
4. รับประกันคุณภาพการก่อสร้างทั่วไป เป็นระยะเวลา 1 ปี
เงื่อนไขการรับประกันนี้ จะครอบคลุมเฉพาะการใช้งานตามปกติ ไม่รวมถึงเหตุสุดวิสัยต่างๆ
เลือกแบบบ้านอย่างไรดีจึงจะเหมาะสม
แบบบ้านมีหลายประเภท ที่พบเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในเมืองไทยมี 4 แบบ คือ
1) บ้านทรงไทย
บ้านทรงไทย ส่วนใหญ่มี หลังคาเป็นทรงจั๋ว มีความลาดเอียงมาก เพื่อให้น้ำฝนระบายได้เร็ว พื้นที่ใต้หลังคา ทำหน้าที่ช่วยลดความร้อน บ้านไทย นิยมมีส่วนเปิดหรือ ลานโล่ง อยู่กลางบ้าน หน้าต่าง เป็น บานเปิดคู่ยาว มีใต้ถุนสูง ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ใช้เลี้ยงสัตว์ เป็นที่ถ่ายเทอากาศ และยังช่วยหนีน้ำท่วมได้ด้วย
2) บ้านทรงต่างชาติ
เช่น บ้านทรงโรมัน บ้านทรงสเปน เป็นต้น เป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะประจำชาตินั้น ๆ เช่น บ้านทรงโรมันมีลักษณะเด่น คือ การใช้เสาที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีสัดส่วนที่แน่นอนโดยอาจนำ ประติมากรรม มาร่วมประดับอาคารด้วย บ้านสไตล์นี้จะไม่ค่อยเน้นรูปทรงของหลังคา แต่จะเน้นที่ ลวดลายประดับ ความยิ่งใหญ่ และความสง่าผ่าเผยของอาคารเป็นหลัก
3) บ้านทรงโมเดิร์น
เป็นบ้านที่เกิดจากแนวคิดในการสร้างบ้านที่มีลักษณะเรียบง่าย แตกต่างจากบ้านแบบอื่น ๆ ที่มีความหลากหลายและมีรายละเอียดที่ซับซ้อน ไม่ยึดติดรูปแบบที่แน่นอน บ้านโมเดิร์น จะใช้รูปทรง เรขาคณิตในการ ออกแบบ และเน้นรูปทรงโดยรวมของอาคารทั้งหลัง ตัดลวดลายประดับตกแต่งออกไป การใช้สีสันที่สดใสก็เป็นตัวแทนอย่างหนึ่งของบ้านโมเดิร์นเช่นกัน
4) บ้านทรงร่วมสมัย
ซึ่งเป็นแบบบ้านที่พบเห็นโดยทั่วไป ส่วนใหญ่มีรูปทรงที่เรียบง่าย และนำประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันมาเป็นพื้นฐานใน การออกแบบ บ้านจึงมีลักษณะหลากหลายแปลกตา ไม่มีรูปแบบตายตัวมากำหนด ทำให้บ้านแบบนี้เป็นที่นิยมอยู่เสมอบ้านแต่ละแบบก็มีความสวยงามเฉพาะตัว แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการจัดวาง แปลน หรือองค์ประกอบการใช้ประโยชน์ของบ้าน โดยทั่ว ๆ ไปควรปรึกษา สถาปนิก ผู้ออกแบบ เพื่อให้การใช้พื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุดและเหมาะสมต่อขนาดและความต้องการของผู้อยู่อาศัย