พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

      ถ้าพูดถึงเรื่องของความเจริญเติบโตของย่านทำเลรามคำแหงแล้วล่ะก็ ผมบอกเลยว่าในช่วงหลังๆ นี่รามคำแหงคือทำเลที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดมากๆ จากการที่มีถนนตัดใหม่เพิ่มขึ้นหลายสายมากมาย รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่พาดผ่านแนวถนนรามคำแหง ที่เชื่อมต่อการเดินทางได้อีกมากมาย ทั้งกับรถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมไปถึงท่าเรือต่างๆ ตามแนวรามคำแหง และบางกะปิอีกด้วย ทำให้โครงข่ายการเดินทางของย่านรามคำแหงนั้นมีความหลากหลายขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้เกิดการกระจายตัวของแหล่งที่อยู่อาศัยตามแนวถนนรามคำแหงมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

ปูมาขนาดนี้แล้ว หลายคนที่เคยอ่านมาก่อน น่าจะเดาได้ว่าผมจะต่อด้วยอะไร เฉียบครับ เมื่อการเดินทางมีการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ก็ต้องมีโครงการที่อยู่อาศัยมากมายที่ตามมาแน่นอน ซึ่งโครงการต่างๆ ส่วนมาก จะเน้นแค่ใกล้รถไฟฟ้า ก็จะสะดวกแค่สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า ส่วนคนที่ใช้รถส่วนตัวก็ทรมานกันไป แต่จะมีสักกี่โครงการกันล่ะครับ ที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางในทุกประเภท ทั้งรถไฟฟ้า หรือการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แล้วก็แน่นอนครับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำอย่างพฤกษาฯ ไม่มองข้ามเรื่องนี้แน่นอน จึงทำให้เกิดโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) ที่ตอบรับการเดินทางทุกรูปแบบทั้งรถไฟฟ้า เรือโดยสาร และรถยนต์ส่วนตัว ที่สามารถเดินทางได้ทั้งทางด่วนมอเตอร์เวย์ และถนนตัดใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นอีกมากมาย พร้อมทั้งรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกรูปแบบชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ (แต่ส่วนตัวผมชอบนะโครงการนี้ ใกล้เธียเตอร์ BNK48 พอดีด้วย 55555)

มัวแต่เกริ่นนำมากไปกลัวจะไม่ได้อะไรขึ้นมา วันนี้ผม ท. นักเขียนหน้าใหม่ฐานะร่ำรวย ที่ลงทุนไปเป็นชาวรามคำแหงมาแล้วกว่า 1 เดือน (ใจคอกะจะอยู่ทุกที่ในกรุงเทพเลยใช่มั้ย !!) ก็จะขอพาทุกท่านไปพบกับโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) โครงการทาวน์โฮมสไตล์ Contemporary Modern ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว และสะดุดตามากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่เราจะไปดูตัวบ้านกัน ผมมีรายละเอียดคร่าวๆ ที่อยากจะนำเสนอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ทราบกันก่อนสักนิดนึง ให้สมกับที่ผมไปเป็นชาวรามคำแหงมา 1 เดือน หรือจะเลือกชม รีวิวภาพแบบมุมมอง 360º ที่จัดทำโดยทีมงานเฉพาะด้านของเราเอง นำมาให้ดูแบบพิเศษ มีแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นก็ได้ครับ ว่าแล้วเราไปดูในส่วนของรายละเอียดกันต่อเลยดีกว่า

 

รายละเอียดโครงการ

โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์ Contemporary Modern ที่พัฒนาโครงการโดย พฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวน 207 ยูนิตภายในโครงการ มีทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนเคหะร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนวงแหวนรอบนอก (ตะวันออก) กับถนนรามคำแหง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนร่มเกล้าได้อีกด้วย ทำให้โครงการมีการเดินทางที่สะดวกสบาย เดินทางได้รอบทิศทาง อาจจะดูเป็นทำเลที่ดีมากใช่มั้ยล่ะ แต่ทำเลที่ตั้งของโครงการไม่ได้มีดีแค่นี้แน่นอน เพราะโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราษฎร์ประชา ที่จะเปิดให้ใช้บริการในปี 66 นี้อีกด้วยครับ เรียกได้ว่าซื้อวันนี้ คุ้มยาวๆ ที่ราคาสบายๆ สำหรับทาวน์โฮม ในทำเลที่ดีขนาดนี้ จัดสนนราคามาในแบบที่ต้องร้อง WoW กันเลยทีเดียว...

 

ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท*

 

แบบบ้านโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ดังนี้

1. แบบทาวน์โฮม Sapphire (แซฟไฟร์) | คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | รีวิวมุมมอง 360°

ทาวน์โฮม 2 ชั้น เนื้อที่ 18.10 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 98 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์)
• 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• พื้นที่สวนด้านหน้าบ้าน
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ที่จอดรถ 1 คัน

2. แบบทาวน์โฮม Diamond (ไดมอนด์) | คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | รีวิวมุมมอง 360°

ทาวน์โฮม 2 ชั้น เนื้อที่ 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 120 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์)
• 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ที่จอดรถ 2 คัน

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง มุมมองแบบ 360° Panorama View

นอกจากการทำรีวิวแบบถ่ายนิ่งทั้งภายนอก และภายในตัวบ้านแล้ว ในครั้งนี้ทีมงานก็มีเลือกเก็บข้อมูลการรีวิวแบบพิเศษมาให้อีกแบบด้วย ซึ่งก็เป็นการรีวิวมุมมองแบบ 360° พาโนรามา เรียกได้ว่าเก็บมาให้ครบทุกมุมห้อง ทุกโซนของบ้านตัวอย่างกันเลยทีเดียว โดยทีมงานได้เลือกถ่ายบ้านตัวอย่างมาให้ 2 แบบบ้าน นั้นคือ แบบทาวน์โฮม Sapphire และแบบทาวน์โฮม Diamond จัดมาให้รับชมกันเต็มๆเลย

การใช้งานก็ง่ายมากคลิกเมาส์เลื่อนไปมาอย่างเดียว หรือจะซูมเข้า-ออกก็ได้ กดที่เมาท์อีกนั้นแหละ การเลือกดูไม่ว่าจะดูบนมือถือ Tablet iPad หรือ คอมพิวเตอร์ ก็ดูได้สบายๆ ถ้าต้องการคลิกดูแบบ Fullscreen ก็ได้นะ เลือกดูแบบจอภาพเต็มจอกันไปเลยครับ อธิบายมากไปอาจจะดูเวอร์วัง!! งั้นก็ลองไปดูกันด้วยตาตัวเองกันจะดีกว่า บอกเลย ไม่ต้องพูดเยอะครับ เจ็บคอ !! ไปดูกันเลยดีกว่า

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม Sapphire มุมมองแบบ 360 °

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม Diamond มุมมองแบบ 360 °

 

 

จุดเด่นที่น่าสนใจ ภายในโครงการ

โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Contemporary Modern ที่ดูมีความทันสมัยในตัว ด้วยรูปทรง ดีไซน์บ้านที่ดูเรียบง่าย และดูเรียบร้อย สบายตา เหมาะสำหรับคนที่รักความเรียบง่าย สบายๆ เน้นความชิลล์ในชีวิต แถมตัวแบบบ้านแต่ละแบบ ยังตั้งชื่อตามอัญมณีต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของบ้านของผู้ซื้อได้อย่างชัดเจนเลยครับ

 

“ อาคารคลับเฮ้าส์ ขนาดใหญ่ ” โซนด้านหน้าสุดของโครงการ จะมีอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น ออกแบบสไตล์ Contemporary Modern รอต้อนรับเราอยู่ ซึ่งภายในอาคารคลับเฮ้าส์นี้ จะมีทั้งห้องฟิตเนสที่อยู่ชั้นบน และห้องสำนักงานขายของโครงการที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งอนาคตจะใช้เป็นห้องสำนักงานนิติบุคคลด้วย ซึ่งภายในอาคารมีการตกแต่งไว้สวยงาม และบริเวณภายนอกคลับเฮ้าส์ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวน สร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยน้ำพุ และน้ำตกที่บริเวณโซนด้านหน้า ส่วนด้านข้างจะมีสระว่ายน้ำขนาด 12 เมตร พร้อมพื้นที่ริมสระ ที่สามารถใช้นั่งผ่อนคลายได้ด้วย

 

“ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ” นอกจากคลับเฮ้าส์แล้ว ภายในโครงการยังมีสระว่ายน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 12 เมตร เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่มีแยกเป็นสระเด็กความลึก 60 ซม. ไว้ให้ที่มุมสระ และมีสระผู้ใหญ่ยาวเต็มพื้นที่ มีระเบียงขอบสระสำหรับการตั้งที่นั่งริมสระมาให้ที่ด้านข้างสระ ในส่วนของห้องน้ำ และห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสระว่ายน้ำจะอยู่ที่อาคารคลับเฮ้าส์

 

“ ทางเข้าสไตล์โมเดิร์น กว้างเต็มพื้นที่ ” ทางเข้าโครงการจัดตกแต่งไว้ได้ได้อย่างสวยงาม และเรียบง่าย ตามสไตล์โมเดิร์น ที่ดูกว้างขวางมาก บริเวณทางเข้า-ออกโครงการมีปลูกต้นไม้พุ่มเล็กเต็มพื้นที่ทั้งซ้ายขวา โดยลักษณะการดีไซน์ดูที่ดูเน้นความเรียบง่าย สบายตา ด้วยบรรยากาศที่ดูโล่ง มองแล้วสบายตา และสบายใจ นี่แค่ทางเข้าก็ทำให้รู้สึกน่าอยู่ จัดเต็มกันเลยทีเดียวน่าประทับใจจริงๆ ครับ

 

“ แบบบ้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ” โครงการออกแบบบ้านสไตล์ Contemporary Modern ตัวบ้านดูมีความเรียบง่าย สบายตา และน่าอยู่อาศัยมาก และชื่อแบบบ้านแต่ละแบบ ทางโครงการก็ได้ใช้ชื่อจากอัญมณีต่างๆ ทำให้ดูเป็นบ้านที่ดูทรงคุณค่าต่อผู้ซื้อได้เป็นอย่างมาก แนวการปลูกสร้างบ้านเคียงคู่กับสวนไม้ ปลูกต้นไม้เล็กไม้ใหญ่โดยรอบโครงการ คือความเข้ากันอย่างลงตัวที่ทำให้บรรยากาศของการอยู่อาศัยได้มีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "ธรรมชาติ" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวัน สะท้อนความเป็นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนกับต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวโดยรอบของบ้าน

 

“ แบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ” โครงการมีแบบบ้านมาให้ 2 แบบ โดยมี 1.ทาวน์โฮม Sapphire (แซฟไฟร์) เนื้อที่ 18.10 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 98 ตร.ม. และ 2.แบบทาวน์โฮม Diamond (ไดมอนด์)​ เนื้อที่ 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 120 ตร.ม. การออกแบบของโครงการเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น สมัยใหม่เน้นให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านให้เหมาะสมกับยุคสมัยใหม่ ทั้ง 2 แบบบ้านมีพื้นที่จอดรถ 1 จอด และแบบพื้นที่ 2 จอด เป็นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายนอกให้ลงตัว สามารถเลือกได้ตามความชอบของผู้ซื้อที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

 

 

แผนที่โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

คลิกดูแผนที่โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

"ทำเลที่ดีที่สุดของรามคำแหง" อาจจะดูเวอร์ หรือเกินจริงไปสักนิดนึง แต่ผมก็ต้องบอกเลยล่ะครับ ว่าทำเลของโครงการพฤกษาวิลล์​ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) นั้นดีจริงๆ เพราะไม่ใช่แค่ใกล้ถนนใหญ่รามคำแหง ที่จะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านมาในอนาคตแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อทางเข้า-ออก ได้อีกหลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนร่มเกล้า ที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่มีนบุรี และสนามบินสุวรรณภูมิได้ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เชื่อมต่อมาจากถนนกรุงเทพกรีฑาเดิม ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนหัวหมาก ที่เชื่อมต่อพื้นที่บริเวณต้นทางของถนนรามคำแหงได้แบบสบายๆ และถนนวงแหวนรอบนอก ที่เชื่อมต่อพื้นที่ได้อย่างหลากหลาย และง่ายดายมากๆ ทั้งพื้นที่รามอินทรา ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ชั้นในได้ รวมไปถึงถนนบางนา - ตราด และถนนสุขุมวิทด้วย เรียกว่าตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบเลยครับ ทั้งการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว

แต่ทางโครงการก็ไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในเรื่องของทำเลเพียงอย่างเดียว แต่โครงการยังมีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการอีกด้วย เพราะตัวโครงการนั้นรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ อย่างมากมาย ทั้ง เดอะมอลล์ บางกะปิ, พาซิโอทาวน์ รามคำแหง, แฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมมานาด, เทสโก้ โลตัส มีนบุรี, บิ๊กซี ร่มเกล้า, โฮมโปร สุขาภิบาล 3, ซีคอน สแควร์, พาราไดส์ พาร์ค, เมกา บางนา รวมทั้งสถานศึกษาชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ อย่างโรงพยาบาลการุญเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ และโรงพยาบาลลาดพร้าว อีกทั้งโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกด้วย เรียกว่าสะดวกยิ่งกว่าสะดวกอีกล่ะครับงานนี้

 

แนวรถไฟฟ้าสายส้ม ช่วงต่อขยาย ศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี

คลิกดูแผนที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรีนั้น จะเริ่มต้นที่สถานี Interchange ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ซึ่งจะวิ่งออกไปยังถนนพระราม 9 บริเวณหน้าที่ทำการของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก ผ่านแยกพระราม 9 - ประดิษฐ์มนูธรรม แล้วเข้าสู่ถนนรามคำแหง ที่บริเวณแยกรามคำแหง ผ่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง สนามราชมังคลากีฬาสถาน ไปสิ้นสุดเส้นทางที่แยกลำสาลีในย่านบางกะปิ ซึ่งเป็นสถานี Interchange ลำสาลี ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หลังจากนั้นจะเป็นสถานียกระดับตามแนวถนนรามคำแหง เริ่มต้นจากโครงสร้างอุโมงค์ใต้ดินที่แยกลำสาลี ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางช่วงก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงเริ่มยกระดับตามแนวเกาะกลางถนนเข้าสู่สถานีคลองบ้านม้า ผ่านหมู่บ้านสัมมากร ยกข้ามทางแยกต่างระดับรามคำแหง จุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ผ่านแยกลาดบัวขาว ผ่านเคหะรามคำแหง จนถึงสถานีมีนบุรี ที่เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และไปสิ้นสุดที่สถานีสุวินทวงศ์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 11 กม.

 

รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราษฎร์พัฒนา ใกล้โครงการเพียง 10 นาที

โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีส้มนี้ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 2566 ทำให้ทำเลของโครงการที่แต่เดิมเคยไกลจากรถไฟฟ้ามาก ซึ่งถ้าในอนาคตเมื่อมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายเสร็จสิ้น เมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมี สถานีราษฏ์พัฒนา ซึ่งเป็นสถานีที่อยูใกล้กับตัวโครงการ เพียง 10 นาทีเท่านั้น

แผนที่ Google Maps แสดงการเดินทางจากโครงการ ไปยังสถานีราษฎร์พัฒนา

 

แผนที่เส้นทางการเดินทาง ไปทางด่วนพิเศษ ที่ใกล้กับโครงการ

►จากโครงการไป ทางพิเศษกาญจนาภิเษก ฝั่งขาเข้าเมือง (10-15 นาที)

 

►จากโครงการไป ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) ฝั่งขาออก (20 นาที)

แผนที่เส้นทางถนนสายหลัก เส้นทางสำหรับไปที่โครงการ

►จากถนนรามคำแหง เลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 136 ตัดเข้าถนนเคหะร่มเกล้า

 

►จากถนนร่มเกล้า ตัดเข้าสู่ถนนเคหะร่มเกล้า เชื่อมต่อเข้าถนนเคหะร่มเกล้า

 

►จากถนนรามอินทรา ลัดเข้าถ.เสรีไทย (เลี่ยงรถติด) เชื่อมต่อเข้าถนนราษฎร์พัฒนา

 

►จากถนนเจ้าคุณทหาร (ลาดกระบัง) ตัดเข้าถ.เคหะร่มเกล้า เข้าซ.เคหะร่มเกล้า64

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ

การเดินทางไปยังโครงการของเราในครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าไปทางศรีนครินทร์ เข้าสู่ถนนรามคำแหง ซึ่งเป็นแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งจะผ่านโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) อีกด้วย ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ เราตั้งใจจะนำเสนอเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ด้วย ดังนั้น เราจะเดินทางจากทางด่วนศรีรัช แล้วลงสู่ถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนรามคำแหง และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนราษฎร์พัฒนา ที่แยกมิสทีน และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเคหะร่มเกล้า เพื่อเข้าสู่โครงการตามลำดับ ว่าแล้วเราออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม Sapphire (แซฟไฟร์)

แบบบ้าน Sapphire บ้านแฝด 2 ชั้น สไตล์ Contemporary Modern หน้ากว้าง 5.7 เมตร เนื้อที่เริ่ม 18.10 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร พร้อมครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้าง และสามารถจอดรถได้ 1 คัน

 

แบบบ้าน Sapphire ชั้น1 มีรายละเอียดดังนี้ พื้นที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่เปล่าหน้าบ้าน พื้นที่เฉลียงหน้าประตู โซนรับแขก-นั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร ห้องอเนกประสงค์ ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง (ต่อเติมเป็นครัว)

 

 

ด้าน Exterior Design ของแบบบ้าน Sapphire จะเน้นการตกแต่งโดยใช้ Neutral Colour อย่างสีเทาอยู่ ซึ่งเป็นโทนสีกลาง ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ที่จะทำให้ตัวบ้านสวยทุกสภาพแสง โดยสีทาบ้านที่ทางโครงการเลือกใช้ จะเป็นสีน้ำอะคริลิคของ TOA หรือเทียบเท่า โดยการตกแต่งจะเพิ่มลวดลายเป็นเส้นตรงทั้งแนวตั้ง และแนวขวางสีขาว ที่ช่วยให้หน้าบ้านดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทำให้ภาพรวมของบ้านดูมีความเป็น Modern ส่วนโครงสร้างหลังคาของหลังคาบ้าน จะเป็นโครงหลังคาสำเร็จรูป พร้อมกระเบื้องหลังคาแบบลอนคู่ ที่สามารถคายความร้อนภายในตัวบ้าน และมีความทนทานต่อการแตกหักอีกด้วยครับ

 

เมื่อเดินเข้ามาภายในพื้นที่ตัวบ้าน จะพบพื้นที่จอดรถ ที่สามารถจอดรถได้ 1 คัน บริเวณท้ายโรงรถ จะมีช่องเก็บของ ที่สามารถเก็บเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์งานสวนต่างๆได้ แต่ถ้าหากผู้ซื้อไม่มีรถส่วนตัวแล้วล่ะก็ ยังสามารถจัดเป็นโซนสวนโดยการปูหญ้าเทียมก็ได้เช่นกันครับ และในส่วนของโครงสร้างพื้นนั้น ส่วนที่อยู่นอกตัวบ้านจะเป็นพื้นแบบ Slab On Ground ส่วนที่อยู่ในตัวบ้านจะเป็นแบบ Slab On Pile ครับ

 

ประตูทางเข้าตัวบ้าน ทางโครงการได้เลือกใช้เป็นประตูอลูมิเนียมอบสีขาว เป็นประตูบานสไลด์ 1 บาน และเป็นบาน Fix 1 บาน ส่วนกระจก เลือกใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง ที่จะช่วยลดความร้อนภายในตัวบ้านได้ ทำให้ภายในตัวบ้านมีความเย็นสบายมากๆครับ

 

บริเวณหน้าประตูทางเข้าตัวบ้าน จะเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ที่สามารถถอดรองเท้า และวางรองเท้าได้ครับ และนอกจากนี้ ยังมีแนวผนังที่ยื่นออกมาหน้าบ้าน ที่สามารถ Built-In ตู้เก็บรองเท้าเข้าไปเพิ่มได้อีกด้วยครับ

 

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว เราจะพบกับโซนรับแขกก่อนเลยเป็นอันดับแรก ซึ่งโซนรับแขกนี้ถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบง่าย ใช้งานได้สะดวกภายในครอบครัว มีการจัดชุดโต๊ะรับแขกเป็นโต๊ะสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นโต๊ะ TOP หินอ่อนสีดำ พร้อมด้วยชุดพรมสีดำ ที่ทำให้พื้นที่ภายในโซนรับแขกดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

พื้นชั้น1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลอ่อน ขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งชั้น ยกเว้นในห้องน้ำที่จะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิค ซึ่งการใช้กระเบื้องแกรนิตโต้นั้นจะมีข้อดีคือทำความสะอาดง่าย และทำให้พื้นมีความเย็น และด้วยความที่พื้นกระเบื้องเป็นสีโทนสว่าง ทำให้แสงที่ส่องมาจากภายนอกบ้านนั้นสะท้อนกับกระเบื้อง ทำให้ภายในบ้านมีความสว่างไปอีกครับ และนอกจากนี้แล้ว ภายในบริเวณโซนรับแขก ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมาให้อีกด้วยครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และรับลมจากภายนอกได้ ซึ่งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนนี่ก็ใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งสามารถช่วยลดความร้อนที่เข้ามาภายในตัวบ้านได้เช่นกันกับประตูกระจกเลยครับ ส่วนฝ้าเพดาน ทางโครงการได้เลือกฝ้าเพดานชั้น1 เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบครับ

 

อีกด้านหนึ่งของโซนรับแขก จะมีโต๊ะสำหรับวางโทรทัศน์ เป็นโต๊ะลายกระจกสีเงิน ซึ่งเป็นโต๊ะที่ดูโดดเด่นมาก เพราะสามารถสะท้อนแสงจากภายนอกบ้าน ให้ภายในโซนรับแขกมีความสว่างได้มากขึ้นไปอีกได้ อีกทั้งผนังด้านนี้ยังมีจุดเชื่อมต่อโทรทัศน์กับสายสัญญาณโทรทัศน์อีกด้วยครับ ผนังด้านนี้จะมีความกว้าง สามารถเลือกการติดตั้งโทรทัศน์ได้หลากหลายรูปแบบครับ จะแบบแขวนผนังก็ทำได้ หรือจะติดตั้งไว้บนชั้นวางโทรทัศน์ก็ทำได้เช่นกันครับ

 

ถัดจากโซนรับแขก เราจะพบกับโซนรับประทานอาหารครับ ซึ่งในโซนรับประทานอาหารนี้ ทางโครงการได้จัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งครับ ในด้านการตกแต่งนี้ ทางโครงการได้เลือกเป็นชุดโต๊ะสไตล์คลาสสิคครับ ซึ่งเป็นชุดโต๊ะที่เรียบง่าย ใช้งานไม่ยาก ดูไม่หวือหวาเกินไป เรียกได้ว่าเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ที่มีไว้รับประทานอาหารจริงๆ ครับ ซึ่งนอกจากตัวโต๊ะแล้ว ทางโครงการยังได้ติดตั้งโคมระย้าสไตล์โมเดิร์นสีทองเหลืองที่ด้านบนเพดานอีกด้วย ซึ่งการจัดวางโคมระย้าของโซนรับประทานอาหาร ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ ครับ อยู่ในระดับสายตาพอดี ไม่ติดโต๊ะจนอึดอัดเกินไป ให้แสงสว่างทั่วโซนรับประทานอาหารได้ทั่วถึง แถมยังเหลือ Space บนโต๊ะ ที่สามารถวางแจกันประดับได้อีกด้วย และในโซนรับประทานอาหารนี้ ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ด้านข้าง ที่สามารถเปิดเพื่อรับแสงธรรมชาติ และเปิดเพื่อการระบายกลิ่นอาหารได้อีกด้วย

 

พื้นที่ชั้น1 บริเวณโซนรับประทานอาหาร ไปจนถึงโซนรับแขก จะมีความยาวมาก ซึ่งสามารถจัดสรรพื้นที่การใช้งานได้อย่างลงตัว อาจจะ Built-In ตู้โชว์ ชุดเคาน์เตอร์ หรือฉากกั้นระหว่างโซนก็ได้ หรือจะเปลี่ยนแนวโต๊ะรับประทานอาหารตามแนวลึกเพื่อเพิ่มที่นั่งสำหรับการรับประทานอาหารด้วยก็ได้เช่นกันครับ

ถัดมาด้านข้างจากโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องดูโทรทัศน์ และโซนจัดเตรียมอาหาร โดยในบ้านตัวอย่างนี้ ทางโครงการได้จัดเป็นห้องสำหรับดูภาพยนตร์ โดยมี Built-In ช่องวางของบริเวณใต้โทรทัศน์ ที่สามารถวางได้ทั้งแผ่นหนัง เครื่องเล่น และรีโมท เป็นการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เน้นการตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก มีประดับขอบแนวบัวเป็นสีทอง ที่ทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้น และยังมีการประดับด้วยโปสเตอร์จากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องต่างๆ แขวนผนังไว้ เพื่อให้รู้ว่าเป็นห้องสำหรับดูภาพยนตร์อีกด้วย

 

ถัดเข้าไปจากโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับพื้นที่หลังบ้าน ที่ทางโครงการได้ต่อเติมเป็นโซนพื้นที่ครัว และโซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ซึ่งภายในโซนครัวนี้มี Built-In เป็นชุดตู้เก็บของ ชั้นวางต่างๆ พร้อมเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งเป็นแนวยาวตามแนวผนังของพื้นที่ด้านหลัง ตู้บานเปิด-ปิดที่เลือกใช้ทั้งหมดจะเป็นวัสดุไม้เทียมผิวเรียบสีขาว และ TOP หินเคาน์เตอร์ใช้เป็นหินแกรนิตสีขาว มาพร้อมกับเตาประกอบอาหารไฟฟ้า พื้นที่จัดเตรียมอาหาร และอ่างสำหรับล้างทำความสะอาดมาให้อย่างครบครัน ซึ่งการออกแบบตัวเคาน์เตอร์ครัวนี้ ก็ทำให้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การล้างทำความสะอาดเครื่องครัว การประกอบอาหาร การจัดเตรียมอาหาร เป็นต้น และยังมีมุมสำหรับการจัดวางเป็นโซนซักล้างอยู่ด้วย โดยมีการทำเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า ที่สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้พอดี อีกทั้งยังมีชั้นสำหรับวางอุปกรณ์การซักล้าง ซักรีดต่างๆ อีกด้วย

และสำหรับพื้นบริเวณหลังบ้าน ทางโครงการได้ใช้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ โดยมีโครงสร้างเป็นแบบ Slab on Pile คือมีการวางเสาเข็มอยู่แล้ว ทำให้หมดห่วงเรื่องการต่อเติมแล้วพื้นจะทรุดเลยครับ

 

บริเวณระหว่างห้องอเนกประสงค์ กับโซนรับแขก จะมีทางเดินเล็กๆ ที่เข้าไปสู่ห้องน้ำชั้น1 ได้ ซึ่งห้องน้ำนี้ จะมีอ่างล้างมือที่อยู่นอกห้องครับ และตัวโถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านใน ซึ่งจะแยกการใช้งานกันได้ ทำให้ไม่ต้องรอใครใช้ห้องน้ำเสร็จ ก็สามารถใช้อ่างล้างหน้าได้เลยทันทีครับ

ซึ่งภายในห้องน้ำ จะมีแค่โถสุขภัณฑ์กับฝักบัวอาบน้ำเท่านั้น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้ที่ต้องการจะแค่ล้างมือเท่านั้น ไม่ต้องรอใครใช้ห้องน้ำเสร็จก่อนเลย และพื้นห้องน้ำชั้น1 นั้น จะเลือกใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 cm. พร้อมด้วยพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทาน้ำยากันซึม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการรั่วซึมใดๆ เลยครับ ส่วนฝ้าเพดานทางโครงการได้เลือกใช้เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบแบบกันชื้นครับ และภายในห้องน้ำ ก็มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอับในห้องน้ำได้อีกด้วยครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมดเลยครับ

 

บริเวณระหว่างโซนรับแขก และทางเข้าห้องน้ำ จะมีบันไดทางขึ้นสู่ชั้น2 ซึ่งจะมีช่องแสงบริเวณบันไดช่วงแรก ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่าง แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว U โดยที่ช่วงขั้นแรกจะชันกว่าแบบแรก และไม่มีราวจับเพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น โดยโครงสร้างบันไดทางโครงการได้เลือกใช้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กครับ

 

บริเวณช่วงแรกของบันได จะมีช่องแสงที่สามารถรับแสงจากภายนอกได้ ซึ่งเป็นกระจกบาน Fix ไม่สามารถเปิด-ปิดได้ ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างมากในเวลากลางวัน แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม และยังใช้มองไปยังหน้าบ้านได้อีกด้วย

 

แบบแปลนชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัว ห้องนอนที่2 ห้องนอนที่3 และห้องน้ำกลาง

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่เป็นรูปตัว L โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลาง ประตูทางเข้าห้องน้ำจะใกล้กับประตูห้องนอนใหญ่ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม

 

บริเวณโถงบันไดจะมีช่องแสง ที่สามารถรับแสงในเวลากลางวันได้ด้วย ซึ่งจะทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างมากในเวลากลางวัน โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟเลยทีเดียวครับ ส่วนช่องแสงนี้ ทางโครงการได้เลือกใช้วัสดุเป็นแผ่นอะคริลิคครับ

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการร้อยท่อสายไฟ และสายอินเตอร์เน็ตแบบฝังผนังอีกต่างหาก และบนเพดานก็มีปลั๊ก สำหรับติดตั้งเราท์เตอร์ชั้น2 อีกด้วย

สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง WiFi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเร้าเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »

หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ WiFi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »

 

แล้วก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะครับ ภายในห้องนอนใหญ่นี้ ทางโครงการได้จัดตกแต่งมาในสไตล์โมเดิร์นครับ โดยเน้นความเรียบง่าย มีประดับกรอบรูปเป็นภาพวาดสไตล์คลาสสิคที่บริเวณผนังด้านหัวเตียง การตกแต่งจะเน้นเป็นโทนสีธรรมชาติ อย่างสีเทาอ่อน และสีน้ำตาลอ่อน ทั้งผ้าม่าน และวอลล์เปเปอร์ติดผนัง ทำให้เป็นความรู้สึกแบบเป็นธรรมชาติ กลางๆ ไม่ดูเย็น และร้อนเกินไป ด้านบนเพดาน ทางโครงการได้เลือก Built-In ไฟเป็นแบบ Ceiling Light ซึ่งทำให้ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นไปอีก ภายในห้องยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่จะทำให้ภายในห้องมีความสว่างอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการระบายอากาศให้มีความ Flow มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย อีกทั้งยังมีเพดานที่สูงถึง 3 เมตร ที่จะช่วยทำให้ภายในห้องมีความโปร่ง โล่ง สบาย และรู้สึกกว้างขึ้นอีกด้วย และภายในห้อง บริเวณด้านข้างเตียงยังมีกระจกเงาติดผนังอยู่อีกด้วย ซึ่งสามารถสะท้อนแสงที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ให้ภายในห้องมีความสว่างได้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยครับ ทำให้ภายในห้องมีความน่าอยู่ และเหมาะแก่การพักผ่อน ชาร์จพลังงานชีวิตมากๆ เลยครับ

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความยาวมาก สามารถจัดแบ่งโซนการใช้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว และยังสามารถทำฉากกั้นเพื่อแบ่งโซนการใช้งาน หรือติดตั้งเป็นชั้นวางโทรทัศน์ก็ได้เช่นกันครับ

 

ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีพื้นที่ที่กว้างมาก สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้อย่างชัดเจน ซึ่งในอีกส่วนพื้นที่การใช้งานนั้น ทางโครงการได้จัดทำเป็นโซนแต่งตัว ซึ่งมี Built-In ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งด้วย และยังมีหน้าต่างกระจกที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับโซนแต่งตัวอยู่อีก 1 บานอีกด้วย

 

 

ห้องน้ำชั้น2 การตกแต่งดูหรูหรานิดๆ มีการเลือกใช้ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องแผ่นเล็กสีดำ ทำเป็นผนังด้านที่มีอ่างล้างหน้า ที่จะทำให้ห้องน้ำมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และผนังที่เหลือทั้งหมดใช้เป็นกระเบื้องสีครีมแผ่นใหญ่ขนาด 60x60 การตกแต่งโดยรวมทำให้ตัวห้องน้ำดูไม่สว่างจนเกินไป และทำให้สบายตามากยิ่งขึ้น และภายในห้องน้ำยังมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดเพื่อการระบายอากาศได้อีกด้วย และเช่นกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆครับ เพดานก็เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบ ชนิดกันชื้นครับ

เพิ่มความสะดวกมาขึ้นด้วยการติดตั้งตู้กระจกอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งานแล้วไม่ต้องติดตั้งเอง และส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมดเลยครับ

 

ห้องน้ำชั้น 2 มีประตูที่สามารถเข้า-ออกได้ถึง 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และจากทางโถงชั้น2 ทำให้การเข้าห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ มีความสะดวกมาก ไม่ต้องเดินออกจากห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำเลย

 

ห้องนอนที่2 ถูกจัดมาแบบเรียบง่าย เน้นการใช้สีโทนสว่าง ซึ่งจะทำให้ภายในห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายในห้องจะมีความกว้างมาก ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่งด้วยการยกระดับพื้นขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนนอน และพื้นที่ยกระดับขึ้นมา ก็สามารถเปิดเป็นลิ้นชักเพื่อเก็บของได้เพิ่มเติมอีกด้วย รวมทั้งมี Built-In ตู้เสื้อผ้าในส่วนพื้นยกระดับนี้อีกด้วย และภายในห้องนอนที่2 นี้ จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึง 2 บานเลยครับ ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งมาให้ด้านละบาน ซึ่งสามารถเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทให้สะดวกมากยิ่งขึ้นได้ แถมยังรับแสงสว่างจากภายนอกให้มีความสว่างมาก ในเวลากลางวันได้อีกด้วยครับ

 

ห้องนอนที่3 ถูกจัดมาเป็นห้องนอนสำหรับผู้หญิง ที่ดูน่ารักมากเป็นพิเศษครับ (ผมล่ะชอบห้องสไตล์แบบนี้จริงๆเลย มันน่ารักนะ 555555) โดยภายในห้องจะเน้นการใช้สีโทนสว่างเป็นหลัก ทั้งสีเทาอ่อน น้ำตาลอ่อน และดูโดดเด่นด้วยหมอนสีชมพู ซึ่งจะทำให้รู้สึกสบายตา และดูสดใส เหมาะกับผู้หญิงมากๆ ภายในห้องจะมีพื้นที่กว้างมาก สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้า หรือชั้นวางของต่างๆ ได้อย่างมากมายเลยครับ และภายในห้องจะมีความสว่างมาก ด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดเพื่อรับแสง และระบายอากาศให้มีความถ่ายเทได้มากขึ้นอีกด้วยครับ

โดยตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ถ้าหากครอบครัวมีลูกแค่ 1 คน ก็สามารถจัดห้องนี้เป็นห้องพระได้เช่นกันครับ เพราะตัวห้องไม่ติดห้องน้ำ ซึ่งถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยครับ

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบทาวน์โฮม Diamond (ไดมอนด์)

แบบบ้าน Diamond ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ Contemporary Modern หน้ากว้าง 5.7 เมตร เนื้อที่เริ่ม 21 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร พร้อมครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้าง และสามารถจอดรถได้ 2 คัน

 

Exterior ของแบบบ้าน Diamond นี้ จะเน้นการใช้ Neutral Colour อย่างสีเทา ซึ่งเป็นสีกลาง ที่ดูไม่ร้อน และไม่เย็นจนเกินไป ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ โดยทางโครงการได้เลือกสีผนังภายนอกเป็นสีน้ำอะคริลิคจาก TOA หรือเทียบเท่า ด้านการตกแต่ง ทางโครงการจะเน้นรูปทรงของตัวบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์น โดยมีประดับแนวเส้นบัวเป็นปูนปั้นสีขาว ให้ดูมีรายละเอียด มีมิติ และทำให้ตัวบ้านไม่กลืนกันเกินไป ส่วนโครงสร้างหลังคาของหลังคาบ้าน จะเป็นโครงหลังคาสำเร็จรูป พร้อมกระเบื้องหลังคาแบบลอนคู่ ที่สามารถคายความร้อนภายในตัวบ้าน และมีความทนทานต่อการแตกหักอีกด้วยครับ

 

แบบบ้าน Diamond ชั้น1 มีรายละเอียดดังนี้ พื้นที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่เฉลียงหน้าประตู โซนรับแขก-นั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร ห้องอเนกประสงค์ ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง (ต่อเติมเป็นครัว)

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่บ้าน เราจะพบกับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่จอดรถในร่ม ที่สามารถจอดรถได้ถึง 2 คันเลยทีเดียว แต่หากผู้ซื้อบ้านมีรถแค่คันเดียวแล้ว ก็สามารถแบ่งพื้นที่จัดเป็นพื้นที่สวนหยาอมในบ้านก็ได้เช่นกันครับ และสำหรับโครงสร้างพื้นที่จอดรถ ภายนอกตัวบ้านจะเป็นแบบ Slab On Ground ครับ ส่วนที่เป็นพื้นที่ภายในตัวบ้านจะเป็นแบบ Slab On Pile ครับ ซึ่งสามารถรับน้ำหนักของตัวรถได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องพื้นบ้านทรุดแน่นอนครับ

บริเวณหน้าประตูทางเข้าตัวบ้าน จะเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ที่สามารถถอดรองเท้า และวางรองเท้าไว้ได้ ซึ่งแนวผนังด้านข้างตัวบ้านนั้นจะยื่นออกมาเสมอแนวเฉลียง จะทำให้มีช่องเล็กๆ ระหว่างแนวผนังกับแนวบัวปูนปั้น ซึ่งผู้ซื้อบ้านสามารถเลือก Built-In ตู้รองเท้าเล็กๆ เสริมเข้าไปได้อีกด้วยล่ะครับ

ถัดเข้าไปจากพื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน เราจะพบกับบานประตูทางเข้าหลัก ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม อบสีขาว ที่ดูกลมกลืนตามสีของแนวเส้นบัวประดับหน้าบ้าน พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยลดความร้อนที่เข้ามายังตัวบ้านได้อีกด้วยล่ะครับ

 

เมื่อเราเข้ามาในตัวบ้านแล้ว เราจะพบกับโซนรับแขกก่อนเป็นอันดับแรกครับ ซึ่งในโซนรับแขกนี้ จะเน้นการตกแต่งด้วยโทนสว่าง โดยการเน้นสีขาวเป็นหลัก ทั้งชุดโซฟารับแขก และชุดพรม ทำให้ภายในโซนรับแขกดูสว่างมากขึ้น พร้อมชุดโต๊ะรับแขกลายหินอ่อนสไตล์โมเดิร์นสีดำที่ดูโดดเด่น และสะดุดตามากๆ แถมยังช่วยเพิ่มความหรูหรามีระดับภายในโซนรับแขกนี้ได้เป็นอย่างมากเลยอีกด้วย และยังมีการตกแต่งผนังด้านโซฟาด้วยงานศิลปะแบบ Abstract ที่จะทำให้โซนรับแขกดูมีราคาแพงมากขึ้นอีกด้วย

และพื้นชั้น1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลอ่อน ขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งชั้น ยกเว้นในห้องน้ำที่จะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิค ซึ่งการใช้กระเบื้องแกรนิตโต้นั้นจะมีข้อดีคือทำความสะอาดง่าย และทำให้พื้นมีความเย็น และด้วยความที่พื้นกระเบื้องเป็นสีโทนสว่าง ทำให้แสงที่ส่องมาจากภายนอกบ้านนั้นสะท้อนกับกระเบื้อง ทำให้ภายในบ้านมีความสว่างไปอีกครับ และนอกจากนี้แล้ว ภายในบริเวณโซนรับแขก ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมาให้อีกด้วยครับ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และรับลมจากภายนอกได้ ซึ่งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนนี่ก็ใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งสามารถช่วยลดความร้อนที่เข้ามาภายในตัวบ้านได้เช่นกันกับประตูกระจกเลยครับ ส่วนฝ้าเพดาน ทางโครงการได้เลือกฝ้าเพดานชั้น1 เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบครับ

 

อีกด้านหนึ่งของโซนรับแขก จะมี Built-In ผนังเป็นกระจกเงา พร้อมด้วยโทรทัศน์แบบแขวนผนัง ที่ดูมีความโมเดิร์น ทันสมัย และประหยัดพื้นที่มากๆ ทำให้สามารถวางเก้าอี้โซฟาได้อีกหนึ่งตัว และที่ผนังด้านนี้ จะมีจุดเชื่อมต่อรับสัญญาณสายอากาศโทรทัศน์อยู่ด้วย และแนวผนังด้านนี้จะมีความกว้าง ซึ่งสามารถติดตั้งโทรทัศน์จอใหญ่ได้ ทั้งการติดตั้งแบบวางบนชั้นวาง และติดตั้งแบบแขวนผนังอย่างที่เห็นด้วยก็ได้เช่นกันครับ

 

ถัดเข้าไปจากโซนรับแขก เราจะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่ทางโครงการได้จัดโต๊ะมาในสไตล์โมเดิร์น TOP ด้วยกระจกสีดำ ขนาด 6 ที่นั่ง ที่รองรับได้ทั้งครอบครัวใหญ่ และรองรับแขกได้อย่างพอเหมาะ ซึ่งนอกจากตัวโต๊ะแล้ว ทางโครงการยังได้ติดตั้งโคมระย้าสไตล์โมเดิร์นแบบกลม สีทองเหลืองที่ด้านบนเพดานอีกด้วย ซึ่งการจัดวางโคมระย้าของโซนรับประทานอาหาร ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ ครับ อยู่ในระดับสายตาพอดี ไม่ติดโต๊ะจนอึดอัดเกินไป ให้แสงสว่างทั่วโซนรับประทานอาหารได้ทั่วถึง และไม่มากจนเกินไป และในโซนรับประทานอาหารนี้ ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ด้านข้าง ที่สามารถเปิดเพื่อรับแสงธรรมชาติ และเปิดเพื่อการระบายกลิ่นอาหารไม่ให้ติดตัวบ้านได้อีกด้วย

 

ถัดมาด้านข้างโซนรับแขก เราจะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่ถูกจัดมาเป็นห้องนอน ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้ สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายไม่ต่างจากบ้านแบบแรกเลย ตั้งแต่การเป็นห้องนอน ห้องดูโทรทัศน์ ห้องนั่งเล่น หรือเป็นห้องทำงานก็ได้ และถ้าหากว่าภายในครอบครัว มีผู้สูงอายุ ที่เดินขึ้น-ลงบันไดไม่ไหว ห้องอเนกประสงค์นี้ก็จะสามารถใช้เป็นห้องนอนเพื่อผู้สูงอายุได้ครับ โดยภายในห้องจะมีเตียงนอน และมี Built-In ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ และบริเวณตู้เสื้อผ้า จะมีไฟส่องสว่างเน้นไปที่พื้น ทั้งนี้สามารถช่วยลดอุบัติเหตุจากการเดินแล้วมองไม่เห็นของผู้สูงอายุได้ด้วยเช่นกันครับ

 

ถัดเข้าไปจากโซนรับประทานอาหาร เราจะพบกับโซนพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งทางโครงการได้ต่อเติมเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งในพื้นที่ครัวนี้จะมี Built-In ชุดเคาน์เตอร์ครัวเป็นแนวยาวตามแนวผนังของห้องครัว เน้นการใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก และมี TOP ชุดเคาน์เตอร์ด้วยหินอ่อนสีขาว มีทั้งพื้นที่เตรียมอาหาร เตาไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหาร และอ่างสำหรับล้างทำความสะอาด ซึ่งสามารถจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งการเตรียมอาหาร ประกอบอาหาร และล้างทำความสะอาดเครื่องครัว และยังมี Built-In ชุดตู้ติดผนังเพิ่มขึ้นมา เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บให้มากขึ้น ทั้งเก็บเครื่องครัวต่างๆ และวัตถุดิบ อาหารต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย และทางโครงการยังทำช่องสำหรับจัดวางตู้เย็นมาให้อีกด้วย และภายในห้องครัวจะมีความสว่างมากด้วยหลังคาที่เป็นกระจกใสแบบโปร่งแสง ที่สามารถรับแสงจากภายนอกได้ ทำให้ภายในห้องครัวมีความสว่างมากในเวลากลางวัน ประหยัดไฟไปได้มากเลยทีเดียวครับ

และสำหรับพื้นบริเวณหลังบ้าน ทางโครงการได้ใช้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ โดยมีโครงสร้างเป็นแบบ Slab on Pile คือมีการวางเสาเข็มอยู่แล้ว ทำให้หมดห่วงเรื่องการต่อเติมแล้วพื้นจะทรุดเลยครับ

 

พื้นที่บริเวณชั้น1 จากบริเวณโซนรับประทานอาหาร ไปจนถึงโซนรับแขกนั้น จะมีความกว้างมากๆ สามารถ Built-In ชุดเคาน์เตอร์กั้นระหว่างโซนให้มีความชัดเจนมากขึ้นก็ได้ หรือจะเปลี่ยนการจัดวางโต๊ะ เป็นการจัดวางตามแนวลึกเพื่อเพิ่มที่นั่งให้เป็น 8 ที่นั่ง สามารถรองรับแขกได้มากขึ้นก็ทำได้เช่นกันครับ

 

บริเวณระหว่างห้องอเนกประสงค์ กับโซนรับแขก จะมีทางเดินเล็กๆ ที่เข้าไปสู่ห้องน้ำชั้น1 ได้ ซึ่งห้องน้ำนี้ จะมีอ่างล้างมือที่อยู่นอกห้องครับ และตัวโถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านใน ซึ่งจะแยกการใช้งานกันได้ ทำให้ไม่ต้องรอใครใช้ห้องน้ำเสร็จ ก็สามารถใช้อ่างล้างหน้าได้เลยทันทีครับ

ซึ่งภายในห้องน้ำ จะมีแค่โถสุขภัณฑ์กับฝักบัวอาบน้ำเท่านั้น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้ที่ต้องการจะแค่ล้างมือเท่านั้น ไม่ต้องรอใครใช้ห้องน้ำเสร็จก่อนเลย และพื้นห้องน้ำชั้น1 นั้น จะเลือกใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 cm. พร้อมด้วยพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทาน้ำยากันซึม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการรั่วซึมใดๆ เลยครับ ส่วนฝ้าเพดานทางโครงการได้เลือกใช้เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบแบบกันชื้นครับ และภายในห้องน้ำ ก็มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอับในห้องน้ำได้อีกด้วยครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมดเลยครับ

 

กลับมาที่ด้านโซนรับแขก จะมีบันไดทางขึ้นสู่ชั้น2 ซึ่งจะมีช่องแสงแบบโปร่งแสงติดอยู่บนเพดาน เป็นแนวยาวตามแนวบันได ที่จะช่วยทำให้ภายในบริเวณบันไดมีความสว่างในเวลากลางวัน แม้ไม่ได้เปิดไฟก็ตาม แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว L โดยที่โครงสร้างของบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้ตัวบันไดมีความแข็งแรงมากครับ

 

บริเวณทางขึ้นบันได จะมีช่องแสง ที่เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของการรับแสงจากภายนอกแล้ว ยังสามารถเปิดเพื่อการระบายอากาศ รับอากาศจากภายนอกได้อีกด้วย

 

ตามแนวบันไดจะมีช่องแสงเป็นแนวยาว ซึ่งจะทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างมากในเวลากลางวัน ซึ่งจะช่วยประหยัดไฟได้มากเลยทีเดียวเชียวล่ะครับ

 

แบบแปลนชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัว ห้องนอนที่2 ห้องนอนที่3 และห้องน้ำกลาง

 

โถงชั้น2 จะมีพื้นที่เป็นรูปตัว L โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลาง ประตูทางเข้าห้องน้ำจะใกล้กับประตูห้องนอนที่2 ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม

 

มาดูกันที่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านกันบ้างดีกว่าครับ ทางโครงการได้เลือกใช้สวิตซ์ไฟคุณภาพดีจาก Schneider และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการร้อยท่อสายไฟ และสายอินเตอร์เน็ตแบบฝังผนังอีกต่างหาก และบนเพดานก็มีปลั๊ก สำหรับติดตั้งเราท์เตอร์ชั้น2 อีกด้วย

สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง WiFi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเร้าเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »

หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ WiFi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »

 

แล้วเราก็มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วครับ ซึ่งในห้องนอนใหญ่นี้ก็ถูกตกแต่งมาในสไตล์โมเดิร์นที่ชัดเจนมากครับ โดยการเน้นโทนสีธรรมชาติแบบ Neutral Colour เป็นหลัก ทั้งสีน้ำตาล ขาว และเทา ทั้งชุดผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ผนัง และชุดเครื่องนอน โดยที่ชุดผ้าม่านเป็นสีน้ำตาลเข้มดูโดดเด่น และตัดกับผนังสีขาว ด้านหัวเตียงมีประดับด้วยกระจกลายแปดเหลี่ยม พร้อมด้วยแนวเส้นบัวสีทอง ที่ทำให้ด้านหัวเตียงดูโดดเด่น และเพิ่มกลิ่นอายความเป็นโมเดิร์นขึ้นได้เป็นอย่างมาก มีประดับด้วยภาพวาดที่ผนังด้านข้างเตียง เป็นภาพวาดแบบ Abstact ที่มองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา

และภายในห้องนอนใหญ่ มีหน้าต่างกระจกอยู่ถึง 4บาน 2ด้าน ด้านละ 2บาน เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 1 บานที่บริเวณด้านข้างเตียง 2 บานที่บริเวณสองข้างหัวเตียง และอีกหนึ่งบานที่โซนแต่งตัว ทำให้ตัวห้องมีความสว่างทั่วถึงทั้งห้อง และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศภายในห้องให้ถ่ายเทมากขึ้นได้อีกด้วย

 

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความกว้างมาก สามารถจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานต่างๆ ภายในห้องได้อย่างลงตัวมากๆ ทั้งโซนนอน และโซนแต่งตัวได้อย่างลงตัว ว่าแล้วเราก็ไปดูทางฝั่งของโซนแต่งตัวกันบ้างดีกว่าครับ

 

ในโซนแต่งตัวของห้องนอนใหญ่ จะเป็นชุดตู้เสื้อผ้า ที่ด้านในสามารถเข้าไปยืนเพื่อการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าได้ พร้อมทั้งมี Built-In ชั้นวางของเพิ่มเติม ที่อาจจะวางเพิ่มได้ทั้งกระเป๋า และเครื่องประดับต่างๆ ได้อีกด้วย

 

ห้องน้ำชั้น2 การตกแต่งดูมีลวดลายสะดุดตา มีการเลือกใช้ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเล็กๆ สีน้ำตาล ทำเป็นผนังด้านในที่เป็นโซนอาบน้ำแบบไล่ระดับสีอ่อน-เข้มสลับกัน และผนังที่เหลือทั้งหมดใช้เป็นกระเบื้องสีครีมแผ่นใหญ่ 60x60 เช่นกัน การตกแต่งโดยรวมเพื่อให้ตัวห้องน้ำมีมิติมากขึ้น ดูสว่าง และสบายตามากยิ่งขึ้น และภายในห้องน้ำยังมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดเพื่อการระบายอากาศได้อีกด้วย และเช่นกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆครับ เพดานก็เป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบ ชนิดกันชื้นครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมดเลยครับ

 

ห้องน้ำชั้น 2 มีประตูที่สามารถเข้า-ออกได้ถึง 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และจากทางโถงชั้น2 ทำให้การเข้าห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ มีความสะดวกมาก ไม่ต้องเดินออกจากห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำเลย

 

ห้องนอนที่2 ถูกจัดมาในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ภายในห้องนอนจะมีความสว่างมาก เพราะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ด้าน ด้านละบาน ที่สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศได้ และสามารถรับแสงสว่างจากภายนอกได้เป็นอย่างมากในเวลากลางวัน ซึ่งภายในห้องนี้จะมีความกว้างมาก สามารถ Built-In ชุดเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเข้าไปได้อีกมาก ทั้งตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยเน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นตามแบบตัวบ้าน และคุมโทนตามการตกแต่งโดยรวมของตัวบ้าน ด้วยการใช้สีเทา และสีน้ำตาลเป็นหลักครับ

 

มาถึงห้องนอนที่3 กันบ้างครับ ในห้องนอนที่3 นี้ เน้นการตกแต่งแบบผู้ชายครับ โดยส่วนของเตียงนอนจะเป็นพื้นที่ยกสูงขึ้นมากว่าพื้นชั้น2 ปกติ และพื้นที่ยกระดับขึ้นมา ก็สามารถเปิดเป็นลิ้นชักเพื่อเก็บของได้เพิ่มเติมอีกด้วย การตกแต่งในห้องนอนที่3 นี้ เน้นการตกแต่งแบบสไตล์อวกาศเป็นหลัก ซึ่งมีการคุมธีมแบบอวกาศโดยเฉพาะ โดยเน้นการใช้สีเข้มเป็นหลัก ทั้งน้ำตาลเข้ม สีน้ำเงิน และสีดำ ซึ่งดูสวย ลึกลับ และน่าดึงดูดมากในขนาดที่นาซ่าก็ยังพาเธอกลับมาไม่ได้เลยครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ทางเข้า-ออกของโครงการ มีการตกแต่งที่สวยงามตามสไตล์โมเดิร์น ทางเข้าออกดูโดดเด่นด้วยการตกแต่งเป็นโครงเหล็ก ที่ดูมีรายละเอียดเป็นแนวเส้นตรงที่ดูสวยงาม ปลอดโปร่ง สบายตา พร้อมทั้งปูพื้นถนนทางเข้าด้วยหินปูถนน ลักษณะเป็นลายเส้นสีเข้ม-อ่อนตัดกันสวยงาม ประดับด้วยพุ่มไม้เพิ่มความเป็นธรรมชาติ และสวยงามมากขึ้น

 

โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) ไม่ได้มีดีแค่เรื่องฟังก์ชั่นบ้าน และทัศนียภาพภายในโครงการเท่านั้น แต่ยังมีการยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก ด้วยการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีมาให้ทั้งทางเข้า-ออก ทั้งฝั่งลูกบ้าน และฝั่งผู้มาติดต่อเลย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโครงการ ที่พร้อมดูแล และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อบ้านทุกท่าน ตลอด 24 ชม.อีกด้วยครับ

 

นอกจากระบบกล้อง CCTV แล้ว ทางโครงการยังมีไม้กั้นกระดกที่ทางเข้าออกของโครงการอีกด้วย ซึ่งจะช่วยในการยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้นไปอีก

 

ระบบ Auto Access Card อภิสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ซื้อภายในโครงการ ที่สามารถใช้บัตรผ่านประตูได้ โดยสแกนกับตัวระบบ Auto Access Card เพื่อเข้าออกโครงการได้ ทำให้การเข้าออกมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยครับ

 

ยังครับ ยังไม่พอ !!! ระบบกล้อง CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม้กั้นกระดกก็มีแล้ว เอาไปอีกอย่างนึงเลยครับ !! ประตูรั้วกั้นเหล็ก ซึ่งจะเป็นประตูรั้วเหล็กระบบอัตโนมัติ ที่สามารถเปิดปิดได้ถึง 2 ตอน เป็น Double Security Gate กันเลยทีเดียวครับ ผู้ซื้อบ้านอุ่นใจได้ทุกท่านแน่นอนครับ บอกเลย

 

ถนนหน้าบ้านมีความกว้างที่ 8 ม. หลังที่อยู่ถนนหลักจะกว้าง 16 ม. ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น สามารถเข้าออก หรือจะถอยรถเข้าบ้านก็ทำได้สะดวก

ถนนทางเข้าโครงการมี 4 เลน มีความกว้างมากถึง 24 ม. ตลอกแนวถนนที่ข้างทางยังมีทางเดินเท้า เป็นแนวยาวไปตลอดแนว ทำให้เวลาที่เดินเท้าก็ต้องมาเดินบนถนนเลยเดินชิลสบายๆ และยังมีการปลูกต้นไม้เล็กไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ ตลอดแนวถนนทั้ง 2 ข้างทาง "แนวกำแพง" โครงการมีแนวกำแพงสูง 2 เมตรใช้เป็นแนวกั้นเขตพื้นที่โดยรอบของโครงการ

 

อาคารสำนักงานขายของโครงการ ที่พร้อมให้บริการทั้งด้านข้อมูลโครงการ และข้อมูลการซื้อ-ขาย แก่ผู้เยี่ยมชมโครงการทุกท่าน ตั้งเด่นเป็นสง่าในสไตล์ Modern อยู่หน้าโครงการ และภายในตัวอาคารยังมีห้องฟิตเนส ที่พร้อมตอบโจทย์ด้านสุขภาพให้กับผู้ซื้อทุกท่านภายในโครงการที่รักการออกกำลังกายด้วยครับ

 

ฝนยังคู่ฟ้า ปลายังคู่น้ำ แล้วคนจะไม่คู่กับธรรมชาติได้ยังไง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัย ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ผ่อนคลายความเครียดจากป่าคอนกรีตในเมืองใหญ่ ทางโครงการจึงได้จัดสวนสาธารณะภายในโครงการมาให้ครับ โดยผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ สามารถเดินเล่น ผ่อนคลาย หรือรับธรรมชาติแบบที่แทบจะหาไม่ได้จากข้างนอกได้ที่สวนสาธารณะภายในโครงการแห่งนี้เลย อีกทั้งยังมีอาคารเล็กๆ ภายในสวนอยู่อีกด้วย ซึ่งอาจจะใช้เป็นห้องประชุมก็ได้ หรือจะใช้จัดปาร์ตี้ในสวนก็ได้เช่นกันครับ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน และการสังสรรค์กันเลยทีเดียวครับ

 

ร้อนมั้ย !!? เมืองไทยนี่ร้อนเนอะ ว่าป่ะ เมื่อร้อนแล้วสิ่งแรกๆ ที่ผู้คนมักนึกถึง ก็คือการว่ายน้ำครับ แน่นอน ทางโครงการได้จัดทำสระว่ายน้ำมาให้ครับ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool แยกเป็นสระเด็ก กับสระผู้ใหญ่อย่างชัดเจน พร้อมให้บริการแก่ผู้ซื้อภายในโครงการทุกท่าน ไม่ว่าจะมาเล่นเพื่อคลายร้อน สนุกสนานยามเย็น หรือแม้แต่การยืด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายเสร็จก็ได้ ทางโครงการพร้อมให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ ทุกไลฟ์สไตล์เลยครับ อ้อออ นิดนึง ผมจะบอกว่าวิวพระอาทิตย์ตกที่สระนี้ สวยมากกกกกกก ไม่ควรพลาดครับ

 

ในบริเวณสระว่ายน้ำ ทางโครงการได้จัดพื้นที่สำหรับล้างตัวมาให้ด้วย ซึ่งสามารถใช้ล้างตัวได้ทั้งก่อนเล่น และหลังเล่นเลยครับ

 

สระว่ายน้ำก็มีแล้ว ฟิตเนสก็มีแล้ว แน่นอนครับ จะขาดห้องน้ำไม่ได้ ซึ่งภายในอาคารคลับเฮ้าส์นั้นจะมีห้องน้ำมาให้ด้วยครับ ซึ่งเป็นห้องน้ำแยกชายหญิงอย่างชัดเจน ซึ่งนอกจากจะใช้สำหรับการขับถ่าย ซึ่งเป็นจุดประสงค์การใช้งานหลักของห้องน้ำแล้ว ยังสามารถใช้ในการเปลี่ยนชุดสำหรับการลงเล่นน้ำได้อีกด้วยครับ

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

 

 

คลิกดูแผนที่โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

 

ห้างสรรพสินค้า

• แฟชั่น ไอส์แลนด์
• เดอะ พรอมมานาด
• เดอะมอลล์ บางกะปิ
• พาซิโอทาวน์ รามคำแหง
• เทสโก้ โลตัส มีนบุรี
• บิ๊กซี ร่มเกล้า
• โฮมโปร สุขาภิบาล 3
• ซีคอม สแควร์
• เมกา บางนา
• พาราไดส์ พาร์ค

สถานศึกษา

• มหาวิทยาลัยรามคำแหง
• สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า
• มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
• โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
• โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลการุญเวช
• โรงพยาบาลรามคำแหง
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
• โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ

แหล่งท่องเที่ยว

• ตลาดน้ำขวัญเรียม
• สวนสยามทะเลกรุงเทพฯ

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

 

แนะนำเส้นทางจากโครงการ ไปสถานที่อื่นที่น่าสนใจ

►Fashion Island เลือกใช้ถนนรามอินทรา(ประมาณ 15 - 20 นาที)

แฟชั่น ไอส์แลนด์แล้ว เป็นโครงการที่ใช้พื้นที่ขนาดมหึมาถึง 87 ไร่ บนถนนรามอินทรา กม. ที่ 10.5 นอกจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ 2 แห่งแล้ว ยังมีร้านค้าปลีกกว่า 300 ร้าน โรงภาพยนตร์ 7 โรง สวนสนุก ศูนย์อาหาร และศูนย์จัดนิทรรศการที่กว้างขวางอีกด้วย

แผนที่ Google Maps แสดงเส้นทางจากโครงการไปยัง แฟชั่น ไอส์แลนด์

 

►จากโครงการ ไปยังสวนสยาม (20 - 25 นาที)

สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มครึ้ม เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสนุกสนานกับทุกคนในครอบครัว พบกับความสนุกในสวนน้ำโซนใหม่อย่างไซ-แอมลากูน เครื่องเล่นที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว เพลิดเพลินกับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับรองโดยกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ธารน้ำวนสุดสนุก หวาดเสียวได้ใจ กับสไลเดอร์ยักษ์ และซูเปอร์สไปรัลรางน้ำคดเคี้ยว ผ่อนคลายกับบ่อสปา เพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่คุณจะเอนกายบนเตียงผ้าใบใต้ร่มไม้ ก็จะทำให้วันหยุดของคุณสุขสดชื่นคุ้มค่าที่สุด

แผนที่ Google Maps จากโครงการ ไปสวนสยาม

►จากโครงการ ไปยังเดอะมอลล์ บางกะปิ (25 - 30 นาที)

เดอะมอลล์บางกะปิ ห้างสรรพสินค้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของทำเลบางกะปิ ที่ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้หลากหลาย ทั้งจากถนนลาดพร้าว ถนนเสรีไทย และถนนรามคำแหง ภายในตัวห้างสรรพสินค้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสวนน้ำชั้นดาดฟ้าอีกด้วย

แผนที่ Google Maps จากโครงการ ไปเดอะมอลล์ บางกะปิ

 

►จากโครงการ ไปยัง BNK48 The Campus (25 - 30 นาที)

BNK48 The Campus หรือชื่อที่โอตะหลายคนรู้จักดีในชื่อของเธียร์เตอร์ คือสถานที่จัดแสดงไลฟ์โชว์ของวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง BNK48 ที่มีการจัดแสดงทั้งหมดสัปดาห์ละ 4 รอบ แบ่งเป็นวันเสาร์ และอาทิตย์ วันละ 2 รอบ เวลา 13.00 น. และ 17.00 น. ซึ่งในบริเวณ BNK48 The Campus นี้ จะมีคาเฟ่ ที่ให้บริการอาหาร และเครื่องดื่ม และช็อปที่ขายสินค้าเกี่ยวกับ BNK48 อีกด้วยครับ บอกเลย โอตะห้ามพลาดครับ ถ้าผมอยู่โครงการนี้นะ บอกเลย ทุกวัน !!!!

แผนที่ Google Maps จากโครงการ ไป BNK48 The Campus

 

►จากโครงการ ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ (20 - 25 นาที)

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็น สนามบิน ตั้งอยู่ที่ ถนนเทพรัตน และ ทางพิเศษบูรพาวิถี ในเขตตำบลหนองปรือและตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมือง กรุงเทพมหานครประมาณ 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 รัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของ ประเทศไทย แทน ท่าอากาศยานดอนเมือง และตั้งเป้าให้เป็นศูนย์กลางการบินใน ทวีปเอเชีย อีกทั้งการเน้นพัฒนาคุณภาพการให้บริการของท่าอากาศยานให้ได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

แผนที่ Google Maps จากโครงการ ไปสนามบินสุวรรณภูมิ

 

►จากโครงการ ไปยังเมกาบางนา (ประมาณ 25 - 30 นาที)

เมกาซิตี้ บางนา เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารที่พักอาศัย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 400 ไร่บริเวณมุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ ของทางแยกต่างระดับวัดสลุด (ถนนกาญจนาภิเษก ตัดกับถนนเทพรัตน ช่วงกิโลเมตรที่ 8) ในพื้นที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัด สมุทรปราการ บริหารงานโดย บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท อิคาโน่ รีเทล เอเชีย จำกัด และบริษัท เอส.พี.เอส. โกลเบิลเทรด จำกัด

แผนที่ Google Maps จากโครงการ ไปเมกาบางนา

 

สรุปการรีวิวโครงการ​

►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน

โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Contemporary Modern ที่ดูมีความทันสมัยในตัว ด้วยรูปทรง ดีไซน์บ้านที่ดูเรียบง่าย และดูเรียบร้อย สบายตา เหมาะสำหรับคนที่รักความเรียบง่าย สบายๆ เน้นความชิลล์ในชีวิต แถมตัวแบบบ้านแต่ละแบบ ยังตั้งชื่อตามอัญมณีต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของบ้านของผู้ซื้อได้อย่างชัดเจนเลยครับ

1. แบบทาวน์โฮม Sapphire (แซฟไฟร์) เนื้อที่ 18.10 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนเตรียมอาหาร โซนครัว
• พื้นที่สวนด้านหน้าบ้าน
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ที่จอดรถ 1 คัน

2. แบบทาวน์โฮม Diamond (ไดมอนด์) เนื้อที่ 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.

• 4 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์) 2 ห้องน้ำ
• โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว
• โซนพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ที่จอดรถ 2 คัน

 

►สิ่งอำนวยความสะดวก

อาคารคลับเฮ้าส์ ขนาดใหญ่ โซนด้านหน้าสุดของโครงการ จะมีอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น ออกแบบสไตล์ Contemporary Modern รอต้อนรับเราอยู่ ซึ่งภายในอาคารคลับเฮ้าส์นี้ จะมีทั้งห้องฟิตเนสที่อยู่ชั้นบน และห้องสำนักงานขายของโครงการที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งอนาคตจะใช้เป็นห้องสำนักงานนิติบุคคลด้วย ซึ่งภายในอาคารมีการตกแต่งไว้สวยงาม และบริเวณภายนอกคลับเฮ้าส์ ก็มีการตกแต่งพร้อมประดับสวน สร้างบรรยากาศรอบๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยน้ำพุ และน้ำตกที่บริเวณโซนด้านหน้า ส่วนด้านข้างจะมีสระว่ายน้ำขนาด 12 เมตร พร้อมพื้นที่ริมสระ ที่สามารถใช้นั่งผ่อนคลายได้ด้วย

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ นอกจากคลับเฮ้าส์แล้ว ภายในโครงการยังมีสระว่ายน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 12 เมตร เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่มีแยกเป็นสระเด็กความลึก 60 ซม. ไว้ให้ที่มุมสระ และมีสระผู้ใหญ่ยาวเต็มพื้นที่ มีระเบียงขอบสระสำหรับการตั้งที่นั่งริมสระมาให้ที่ด้านข้างสระ ในส่วนของห้องน้ำ และห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสระว่ายน้ำจะอยู่ที่อาคารคลับเฮ้าส์

ทางเข้าสไตล์โมเดิร์น กว้างเต็มพื้นที่ ทางเข้าโครงการจัดตกแต่งไว้ได้ได้อย่างสวยงาม และเรียบง่าย ตามสไตล์โมเดิร์น ที่ดูกว้างขวางมาก บริเวณทางเข้า-ออกโครงการมีปลูกต้นไม้พุ่มเล็กเต็มพื้นที่ทั้งซ้ายขวา โดยลักษณะการดีไซน์ดูที่ดูเน้นความเรียบง่าย สบายตา ด้วยบรรยากาศที่ดูโล่ง มองแล้วสบายตา และสบายใจ นี่แค่ทางเข้าก็ทำให้รู้สึกน่าอยู่ จัดเต็มกันเลยทีเดียวน่าประทับใจจริงๆ ครับ

แบบบ้านใหม่ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โครงการออกแบบบ้านสไตล์ Contemporary Modern ตัวบ้านดูมีความเรียบง่าย สบายตา และน่าอยู่อาศัยมาก และชื่อแบบบ้านแต่ละแบบ ทางโครงการก็ได้ใช้ชื่อจากอัญมณีต่างๆ ทำให้ดูเป็นบ้านที่ดูทรงคุณค่าต่อผู้ซื้อได้เป็นอย่างมาก แนวการปลูกสร้างบ้านเคียงคู่กับสวนไม้ ปลูกต้นไม้เล็กไม้ใหญ่โดยรอบโครงการ คือความเข้ากันอย่างลงตัวที่ทำให้บรรยากาศของการอยู่อาศัยได้มีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "ธรรมชาติ" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวัน สะท้อนความเป็นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนกับต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวโดยรอบของบ้าน

 

►การคมนาคม

 

 

คลิกดูแผนที่โครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

"ทำเลที่ดีที่สุดของรามคำแหง" อาจจะดูเวอร์ หรือเกินจริงไปสักนิดนึง แต่ผมก็ต้องบอกเลยล่ะครับ ว่าทำเลของโครงการพฤกษาวิลล์​ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน) นั้นดีจริงๆ เพราะไม่ใช่แค่ใกล้ถนนใหญ่รามคำแหง ที่จะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านมาในอนาคตแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อทางเข้า-ออก ได้อีกหลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนร่มเกล้า ที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่มีนบุรี และสนามบินสุวรรณภูมิได้ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เชื่อมต่อมาจากถนนกรุงเทพกรีฑาเดิม ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนหัวหมาก ที่เชื่อมต่อพื้นที่บริเวณต้นทางของถนนรามคำแหงได้แบบสบายๆ และถนนวงแหวนรอบนอก ที่เชื่อมต่อพื้นที่ได้อย่างหลากหลาย และง่ายดายมากๆ ทั้งพื้นที่รามอินทรา ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ชั้นในได้ รวมไปถึงถนนบางนา - ตราด และถนนสุขุมวิทด้วย เรียกว่าตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบเลยครับ ทั้งการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว

แต่ทางโครงการก็ไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในเรื่องของทำเลเพียงอย่างเดียว แต่โครงการยังมีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการอีกด้วย เพราะตัวโครงการนั้นรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ อย่างมากมาย ทั้ง เดอะมอลล์ บางกะปิ, พาซิโอทาวน์ รามคำแหง, แฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมมานาด, เทสโก้ โลตัส มีนบุรี, บิ๊กซี ร่มเกล้า, โฮมโปร สุขาภิบาล 3, ซีคอน สแควร์, พาราไดส์ พาร์ค, เมกา บางนา รวมทั้งสถานศึกษาชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ อย่างโรงพยาบาลการุญเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ และโรงพยาบาลลาดพร้าว อีกทั้งโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกด้วย เรียกว่าสะดวกยิ่งกว่าสะดวกอีกล่ะครับงานนี้

 

►ภาพรวมโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง - ร่มเกล้า (มิสทีน)

โครงการพฤกษาวิลล์ รามคำแหง - วงแหวนฯ เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์ Contemporary Modern ที่ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ที่ทำให้ตัวบ้านดูมีความเรียบง่าย สบายตา และน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ชื่อแบบบ้านแต่ละแบบ ตามชื่ออัญมณีต่างๆ ทำให้เกิดความรู้สึกว่าบ้านคือสิ่งที่มีค่าต่อผู้ซื้ออีก แนวการปลูกสร้างบ้านเคียงคู่กับสวนไม้ ปลูกต้นไม้เล็กไม้ใหญ่โดยรอบโครงการ คือความเข้ากันอย่างลงตัวที่ทำให้บรรยากาศของการอยู่อาศัยได้มีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "ธรรมชาติ" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวัน สะท้อนความเป็นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนกับต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวโดยรอบของบ้าน

โดยจุดเด่นของโครงการนี้ คือทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอก ฝั่งตะวันออก ที่สามารถใช้เดินทางได้อย่างหลากหลาย เช่น รามอินทรา, ศรีนครินทร์ได้ ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าถึงสองสาย ก็คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราษฎร์พัฒนา ที่จะเปิดบริการในปี 66 และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี Interchange มีนบุรี และยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการอย่างมากมาย ทั้ง เดอะมอลล์ บางกะปิ, พาซิโอทาวน์ รามคำแหง, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงพยาบาลการุญเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลลาดพร้าว จึงทำให้โครงการพฤกษาวิลล์ รามคำแหง - วงแหวนฯ (ซอยมิสทีน) เป็นโครงการที่ครบครัน ทั้งด้านทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวบ้าน ที่ตอบโจทย์ให้กับทุกครอบครัวอย่างครบครันมากๆ เลยครับ