พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

     ทำเลรังสิต แหล่งที่อยู่อาศัยชานเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในลำดับต้นๆ ของประเทศ เนื่องจากเป็นแหล่งเศรษกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ และเป็นประตูทางออกสู่ภาคเหนือและภาคอีสาน ทำให้เดินทางเข้าออกกรุงเทพมหานครได้สะดวก ทั้งภาคขนส่ง และคนที่มีถิ่นฐานอยู่ทางภาคกลาง ภาคเหนือ รวมถึงภาคอีสาน ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพทำให้เดินทางกลับภูมิลำเนาได้ง่าย ทั้งนี้ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกด้วยทางด่วนและรถไฟฟ้าในอนาคต แต่เมื่อเทียบราคากับพื้นที่อื่นๆ ในย่านชานเมืองแล้วต้องบอกว่าคุ้มค่ามาก 

     หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงขึ้นต้นด้วยทำเล จริงๆ คำว่าทำเล มันมีนัยยะมากกว่าจะหมายถึงพื้นที่ ซึ่งผมอาจจะหมายถึงเวลา แน่นอนว่าหากคุณมีบ้านอยู่ในทำเลที่ดี เชื่อมต่อกับถนนสายหลักได้ง่าย ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์และห้างสรรพสินค้าที่ครบครัน ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต กำลังสร้างคาดว่าจะเป็นใช้งานปี 63 โดยมีสถานีหลักหกเป็นสถานที่ใกล้ที่สุด เดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เป็นการเดินทางที่จะทำให้คุณประหยัดเวลาในเรื่องของการเดินทางไปได้มาก ดังนั้นคุณจึงมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นนั่นเอง อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "เวลาคือเงินสกุลยุคใหม่" ที่ใครๆ ก็ต้องการ

     หากพูดถึงที่อยู่อาศัยในโซนรังสิตก็นับว่ามีอยู่มากมายหลายโครงการ เนื่องจากเป็นแหล่งงานหลักในพื้นที่ ทำเลคนในเมืองนิยมไปซื้อซึ่งแต่ละโครงการก็จะมีรูปแบบฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นโครงการที่สะท้อนการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ในยุคปัจจุบันก็คงต้องยกให้กับพรีเมี่ยมทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ในโครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง นับว่าเป็นที่แรกจากพฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งในวันนี้เราจะทำการรีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ

     สำหรับการรีวิวในวันนี้ ทีมงาน Thaihometown จะทำการรีวิวแบบละเอียดรอบด้าน ทั้งตัวบ้านและฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการกันแบบเจาะลึก โดยทีมงามมีการใช้อุปกรณ์พิเศษทำรีวิว ที่มีเฉพาะที่ไทยโฮมทาวน์ เท่านั้น รวมทั้งการรีวิวแบบบ้านตัวอย่างแบบบ้าน Echo พิเศษโดยการถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์พิเศษ มุมมองแบบ 360° จัดมาให้ชมแบบจัดเต็มทุกมุมภายในบ้านกันเลยทีเดียว

     ก่อนที่จะไปชมรีวิวโครงการ ขอเกริ่นถึงรายละเอียดโครงการให้ทราบกันสักเล็กน้อย

 

รายละเอียดโครงการ

     โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี ถูกออกแบบโดยใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง บนแนวความคิดในการออกแบบที่เน้นความงดงามแบบตะวันออก แรงบันดาลใจ ของเสน่ห์ในวิถีที่เรียบง่าย แบบ Zen ผสมผสานเข้ากับงานดีไซน์สถาปัตยกรรมที่ทันสมัย ออกแบบสวนให้สอดประสานไปกับตัวอาคาร ลักษณะ Modern Tropical มีกระจกด้านหน้าที่สูงโปร่ง และกระจกเข้ามุมที่ช่วยเพิ่มมุมมอง Panoramic View ได้เต็มตา มาพร้อม Function การใช้งานที่ Flexible สะท้อนการใช้ชีวิตที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน พร้อมรองรับรูปแบบการทำงานในอนาคตได้สบายๆ

 

     นอกจากแนวคิดการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี นับเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งแห่งแรกของพฤกษา เรียลเอสเตท ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วนและสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ ด้วยฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน พร้อมห้องอเนกประสงค์จึงทำให้รองรับการใช้งานและตอบโจทย์ครอบครัวทุกขนาด ทั้งนี้ยังมีการแยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน ทำให้รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว

     แบบบ้านจากโครงการก็มีให้เลือกได้ถึง 3 แบบบ้านด้วยกัน มีแบบบ้าน Echo, แบบบ้าน Mono และแบบบ้าน Neo โดยที่ทั้ง 3 แบบจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นทั้งหมด แบบ Echo จะมี 3 ชั้นครึ่ง เหมาะสำหรับทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ เพราะมีการออกแบบมาให้มีรูปแบบ ฟังก์ชั่นการใช้งานได้ครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องโถงสำหรับรับแขก ห้องน้ำรับรองสำหรับคนภายนอก หรือแขกที่มาเยี่ยมเยียน มีห้องประชุมที่ชั้นลอย หรือใช้ทำเป็นห้องรับรองอื่นๆ สามารถเลือกออกแบบ ปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ พร้อมรองรับรับกับทุกการทำงานในยุค 4.0 กันเลยทีเดียว

 

     พื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้งคลับเฮาส์ที่ประกอบไปด้วยฟิตเนส และสระว่ายน้ำ ส่วนบริเวณด้านข้างเป็นพื้นที่ส่วนสาธารณะ ที่ประกอบด้วยซุ้มม้านั่งในสวน พร้อม Jogging Track รองรับการออกกำลังกายแบบ Outdoor 

     ในส่วนของทำเลโซนรังสิตนั้นเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องพูดถึงเพราะรู้กันอยู่แล้วว่ากำลังเป็นทำเลทองของการอยู่อาศัย โดยเฉพาะคนเมืองที่อยากมีบ้านก็มักจะเลือกอยู่ในทำเลโซนรังสิตเป็นส่วนใหญ่ ด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่มีความเจริญแทบไม่ต่างกับในเมืองแต่ได้ราคาที่สบายกระเป๋ากว่าเยอะ กับราคาที่ไม่สูงมากเกินไป

 

ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท*

แบบบ้านโครงการ  พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

รีวิวบ้านตัวอย่าง 2 แบบ ดังนี้

 1  แบบบ้าน Echo (เอคโค่) | ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | ดูบ้านตัวอย่างมุมมอง 360°

คลิกเพื่อดูภาพแบบแปลนใหญ่ แบบบ้าน Echo (เอคโค่)

พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 ม. โถงเพดานชั้น 1 ความสูง 5 เมตร 3 ห้องนอน (Penthouse ห้องนอนใหญ่ชั้น2) 3 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน และ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้มีเฉพาะหลังมุมเท่านั้น

มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่พิเศษ Penthouse ห้องนอนหลักที่ชั้น2 เติมเต็มความสุขด้วยห้องอเนกประสงค์ชั้น3 ที่สามารถปรับเปลี่ยนรองรับกิจกรรมต่างๆได้ตามต้องการ และชั้นลอยสำหรับทำเป็นพื้นที่เพื่อเพิ่มความสุขในการพักผ่อนได้เพิ่มมากขึ้น หรือทำเป็นห้องประชุมสำหรับ โฮมออฟฟิศ ห้องทำงานส่วนตัวก็ได้เช่นกัน 

 

 2  แบบบ้าน Mono (โมโน) | ดูรีวิวบ้านตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูภาพแบบแปลนใหญ่ แบบบ้าน Mono (โมโน)

พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Space และ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้มีเฉพาะหลังกลาง ไม่มีหลังมุม

ฟังก์ชั่นที่พิเศษก็คือ Family Space ที่ชั้น2 ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของครอบครัวเป็นหลัก และแยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว

 

แบบบ้านเพิ่มเติมโครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

แบบบ้าน Neo (นีโอ)

คลิกเพื่อดูภาพแบบแปลนใหญ่ แบบบ้าน Neo (นีโอ)

พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน (Penthouse ห้องนอนใหญ่ชั้น2) 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้มีเฉพาะหลังมุมเท่านั้น

ฟังก์ชั่นที่พิเศษก็คือ Penthouse ที่ชั้น2 พื้นที่กว้างยกชั้นเต็มความลึกเต็มพื้นที่ ทำเป็นห้องนอนส่วนตัวตกแต่งได้อย่างอิสระในทุกตารางเมตร เพิ่มความสุขในการพักผ่อนได้มากขึ้น Penthouse ที่มาพร้อมกับห้องน้ำใหญ่ส่วนตัวแบบแยก 3 โซนเป็นส่วนตัว พื้นที่ชั้น1 แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว

 

แผนที่โครงการ

คลิกเพื่อดูแผนที่ใหญ่โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

 

แนวรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต

รถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต แนวเส้นทางมีระยะทางรวม 26.3 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณแยกประดิพัทธ์ที่ห่างจากสถานีกลางบางซื่อไปทางทิศใต้ประมาณ 1.8 กิโลเมตรขึ้นไปทางทิศเหนือตามแนวเขตทางรถไฟสายเหนือไปสิ้นสุดที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้ยังมีแผนจะต่อขยายแนวเส้นทางไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยก่อสร้างเป็นทางยกระดับจากช่วงบริเวณถนนประดิพัทธ์-ดอนเมือง ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร และลดระดับลงมาเป็นทางระดับพื้นดินไปจนถึงสถานีรังสิต ระยะทาง 7.1 กิโลเมตร มีจำนวน 10 สถานีเริ่มต้นจากสถานีกลางบางซื่อ สถานีจตุจักร สถานีวัดเสมียนนารี สถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะฯ สถานีดอนเมือง สถานีหลักหก และสถานีรังสิต

คาดว่าจะเปิดใช้งานได้จริงประมาณต้นปี 2563 โดยช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันอาจจะใช้งานได้ก่อนเพราะมีความพร้อมรองรับไว้แล้ว

 

โครงการใกล้รถไฟสายสีแดง สถานีหลักหก เพียง 15  นาที

แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง มีสถานีหลักหก เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด การเดินทางให้เลือกใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จากพหลโยธิน92 ขับไปกลับรถช่วงถนพหลโยธิน64 ขับตรงไปบนเส้นถนนพหลโยธินอีกครั้งแต่จะเป็นอีกฝั่งของโครงการ ขับตรงไปจนถึงพหลโยธิน87 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน87 ขับตรงไปจนถึงถนนกำแพงเพชร6 รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักหกจะอยู่ช่วงแยกพอดี โดยที่จากโครงการไปโครงการมีระยะทางประมาณ 7 กม. ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น

 

แนะนำเส้นทาง ที่สามารถใช้เดินทางไปโครงการ

► มาจากถนนรังสิต - นครนายก ตัดเข้าทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน

 

► มาจากถนนรังสิต - ปทุมธานี ตัดเข้าทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน

 

► มาจากถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวเข้าวิภาวดีรังสิต ขับตรงไปถึงถนนพหลโยธิน

 

► มาจากถนนลำลูกกา ผ่านถนนรังสิต - นครนายก ตัดเข้าถนนพหลโยธิน

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ 

สำหรับการเดินทางในวันนี้ เราจะใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเพื่อเดินทางไปยังโครงการ โดยเราจะเริ่มการเดินทางบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวนะครับ มุ่งหน้าขาออกไปทางดอนเมือง

สำหรับ 5 แยกลาดพร้าวถือเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางหลักของกรุงเทพฯโซนเหนือ มีจุดเชื่อมต่อถนน 3 เส้นทางหลักสำคัญได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว

 

แผนที่ Google Map จากบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว มุ่งหน้าโครงการพาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

 

จุดนี้เป็นจุดที่เรากำลังจะวิ่งเข้าบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว สำหรับคนที่อยู่ในทางคู่ขนานให้เข้าทางหลักบริเวณตึกการบินกรุงเทพครับ  จุดนี้ให้ขับตรงตามป้ายดอนเมือง

 

เมื่อขับเข้า 5 แยกลาดพร้าวแล้วจุดสังเกตก็คือเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ชื่อดังอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยม

 

เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดบนทำเล ห้าแยกลาดพร้าว โดยเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ให้การบริการแบบ One-Stop-Shopping และมีโรงแรมหรูในเครือ Centara Grand @Central Plaza ลาดพร้าว

นอกจากเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวแล้ว ยังมี ‘Union Mall’ ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่น แหล่ง Shopping Mall ของเหล่าวัยรุ่น บนทำเลทองติด 5 แยกลาดพร้าว พื้นที่จับจ่ายใช้สอยใน
ราคาค้าปลีกอันดับ 1 ของย่านนี้ นับเป็นความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันแบบครบวงจร

 

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ บนถนนวิภาวดีรังสิตให้ขับตามป้ายดอนเมือง เพื่อมุ่งหน้าไปยังโครงการ

 

เมื่อขับมาใกล้ถึงสนามบินดอนเมือง จะเริ่มเจอป้ายบอกทางรังสิต ให้ขับตามป้ายบอกทางรังสิต เพื่อมุ่งหน้าไปยังโครงการต่อไปครับ

 

เส้นทางที่เราขับไปยังโครงการในวันนี้จะต้องผ่านสนามบินดอนเมืองซึ่งอยู่ทางด้านขวามือครับ 

 

สำหรับทางด้านซ้ายมือจะเป็นสถานีรถไฟดอนเมืองซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับสนามบินดอนเมือง ให้ขับตรงต่อไปบนถนนวิภาวดีรังสิตเพื่อมุ่งหน้าไปยังโครงการครับ

 

เมื่อเลยสนามบินมาแล้ว ให้เรายึดขับตามป้ายรังสิตเป็นหลักนะครับ จุดนี้ให้วิ่งตามป้ายรังสิตเพื่อขับตรงไปยังโครงการ

 

เมื่อถึงจุดนี้แนะนำให้ใช้ 2 เลนขวาเพื่อไปยังโครงการตามป้ายรังสิตนะครับ เพราะการจราจรจะคล่องตัวกว่า

 

ถึงจุดนี้สามารถใช้ได้ 3 เลนเลยครับสำหรับการมุ่งหน้าไปยังโครงการ ขับตามป้ายรังสิตเหมือนเดิมนะครับ

 

เมื่อขับมาสักพักจะเจอกับบิ๊กซี สาขารังสิต2 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยครับ สามารถมาเลือกช้อปของเข้าบ้านกันได้นะครับ

 

ส่วนทางด้านขวามือก็คือ เซียร์รังสิต เป็นศูนย์การค้าและแหล่งขายสินค้าไอทีชื่อดังในย่านรังสิต อยู่ใกล้กับโครงการเช่นกัน

 

สำหรับการเดินทางยังคงให้ขับตรงต่อไปตามป้ายรังสิตนะครับ ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางแยกเข้าสู่ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งเป็นตลาดชื่อดังในย่านรังสิตเช่นกัน

 

ตลาดสี่มุมเมือง รังสิต คือตลาดที่ตัดพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง เปิดโอกาสในการแข่งขันอย่างเสรี โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 29 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตลาดกลางสี่มุมเมืองปัจจุบันนี้มีเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ตำแหน่งที่ตั้งของตลาดอยู่ทำเลที่ดีเลิศเพราะอยู่บนถนนสายหลักซึ่งเชื่อมกับ จังหวัดต่างๆในภูมิภาคทั่วประเทศ

 

ถึงจุดนี้ให้สังเกตป้ายจุดกลับรถ ม.รังสิต ให้เบี่ยงซ้ายตามป้ายได้เลยครับ เพื่อเตรียมออกสู่ทางคู่ขนาน

 

ให้ขับบนทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิต  จะสังเกตเห็นแม็คโครสาขารังสิต ให้ขับตรงต่อไปแล้วจะพบกับจุดกลับรถ

 

เมื่อสังเกตเห็นป้ายจุดกลับรถให้ตรงไปที่จุดกลับรถโดยไม่ต้องเข้าทางหลักนะครับ

 

ทางกลับรถสามารถใช้ได้ทั้ง 2 เลน ให้กลับรถเพื่อไปถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า

 

เมื่อกลับรถมาฝั่งขาเข้าแล้ว ให้ขับตรงไปบนทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า โดยไม่ต้องเข้าทางหลัก

 

ขับตรงต่อไปบนทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า เพื่อขับต่อไปที่โครงการ

 

เมื่อขับมาบริเวณทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า จะสังเกตเห็นปั้มน้ำมันปตท. ให้เตรียมชิดซ้ายเพราะว่าเราใกล้จะถึงโครงการแล้ว 

 

เมื่อเลยปตท. มา ไม่ถึง 500 เมตร จะเจอกับปั้ม Esso ให้เตรียมเปิดไฟเลี้ยวซ้ายได้เลยครับ เพราะเรากำลังจะถึงซอยพหลโยธิน 92 ไม่ต้องขับไปจนถึงเซียร์รังสิตนะครับ ผู้ซื้อหลายท่านขับเลยไปจนถึงเซียร์รังสิตเลย อันนี้ขอเตือนไว้ก่อนว่า "ไม่ถึง เซียร์รังสิต"

 

เมื่อถึงซอยพหลโยธิน 92 แล้วสามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยครับ โดยจะเห็นป้ายโฆษณาของโครงการอยู่บริเวณหน้าทางเข้า

 

ระยะทางจากปากซอยไปถึงโครงการ ประมาณ 150 เมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที

 

จากปากซอยพหลโยธิน 92 ขับตรงมาถึงโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับเลี้ยวเข้าได้เลย

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง Echo (เอคโค่) พื้นที่ใช้สอย   175 ตร.ม.

สำหรับการรีวิวบ้านตัวอย่างในวันนี้ เราจะเริ่มรีวิวกันที่แบบบ้าน Echo (เอคโค่) พรีเมี่ยม
ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 ม. โถงเพดานชั้น 1 ความสูง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน และ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้มีเฉพาะหลังมุมเท่านั้น

ฟังก์ชั่นที่พิเศษก็คือห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรองรับกิจกรรมต่างๆได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมี ชั้นลอย สำหรับทำเป็นพื้นที่เพื่อเพิ่มความสุขในการพักผ่อนได้เพิ่มมากขึ้น

 

สำหรับตัวบ้านถูกออกแบบโดยอิงจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก เข้ามาประยุกต์ใช้ให้
เหมาะสมกับประเทศไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจของเสน่ห์ในวิถีที่เรียบง่าย แบบ Zen ผสมผสานเข้ากับงานดีไซน์สถาปัตยกรรมที่ทันสมัย ออกแบบสวนให้สอดประสานไปกับตัวอาคาร ลักษณะ Modern Tropical

รูปแบบตัวอาคารเหมาะสำหรับทำโฮมออฟฟิศ สำนักงาน เพราะมีกระจกด้านหน้าสูงโปร่ง โล่งมากขึ้น ผนังด้านนอกของตัวห้องจะมีกระจกเข้ามุมทุกห้อง ที่ช่วยเพิ่มมุมมอง Panoramic View ได้มากขึ้น ภายในตัวบ้านที่มีความสูงโปร่ง ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี ฝ้าเพดานเลือกใช้แผ่นยิปซัมกันความร้อน กระจกที่ใช้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ทำให้ตัวบ้านไม่ได้รับความร้อนโดยตรง การอยู่อาศัยจึงรู้สึกสบายมากกว่า

 

แบบบ้าน Echo ชั้น1 มีรายละเอียดแบ่งเป็นโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว ห้องน้ำ บันไดทางขึ้น-ลง โซนซักล้างด้านหลัง พื้นที่สวนด้านข้าง และโรงจอดรถ 2 คัน

 

เมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน ก็จะสัมผัสได้ทันทีถึงความกว้าง สอดคล้องกับการอธิบายไปในข้างต้น พื้นที่แรกที่จะพบเมื่อเข้ามาในตัวบ้านก็คือ โซนรับแขก หรือโซนนั่งเล่น

เมื่อเข้ามาในบ้านเห็นบรรยากาศในการตกแต่งที่ดูหรูหราแล้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นไฮโซชื่อดังก็ว่าได้ หลังจากเดินซึมซับบรรยากาศอย่างสบายตาสบายใจอยู่ ผมจึงเดินไปล็อคประตู พร้อมกับใช้ร่มที่ผมถือมาคล้องไปที่แขน แล้วสะบัดหมุนๆไปโดนหัวของใครสักคนที่อยู่ในบ้าน เอิ่ม ไม่ใช่ละมั้ง!! ผมอาจดูหนังมากไปหน่อย ส่วนตัวชอบหนังเรื่อง "คิงส์แมน" ถ้าอยู่แถวนี้แวะไปดูหนังใหม่ๆก่อนคนอื่นก็ได้เลยนะ เพราะโครงการนี้อยู่ใกล้เมเจอร์ รังสิตมากๆ ประมาณ 15 นาทีเอง ลองไปอ่านรายละเอียดในส่วนของแนะนำสถานที่ใกล้เคียงโครงการก็แล้วกันที่ด้านล่างของรีวิว ตอนนี้มาเข้าเรื่องที่โซนรับแขกกันก่อน

 

เริ่มกันที่ทางเข้าหลักของตัวบ้าน ที่ชั้น1 ผนังด้านหน้าเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสงทั้งหมด โครงสร้างของแนวผนังกระจกเป็นโครงเหล็กหนาทาสีดำ และกรอบบานประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำ โดยที่ประตูบานเลื่อน กับแนวกระจกผนังทั้งหมดจะมีโครงเหล็กที่ยึดติดกับเสาใหญ่ 2 เสาเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น

 

สำหรับพื้นชั้น1 ทั้งหมดรวมทั้งพื้นห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องสีครีม แกรนิตโต้ 60x60 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อน และหน้าต่างทั้งหมดใช้กรอบอลูมิเนียมสีดำ ใช้กระจกภายนอกเป็นสีเขียวตัดแสง และภายในเลือกใช้กระจกใสหนา 10 มม. ทุกชั้น

 

โซนรับแขก หรือโซนนั่งเล่นการตกแต่งก็เรียบหรูตามแบบฉบับของพาทิโอเค้าล่ะ เลือกจัดวางโซฟาใหญ่รูปตัวแอล(L) เข้ามุมกับผนัง โทนสีเลือกใช้สีอ่อนซึ่งเป็นสีที่บ่งบอกถึงความหรูหรามีสไตล์ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะครับ สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำเป็นไอเดียก็คือ ลองนึกภาพการจัดวางโซฟาเล็กๆ ในพื้นที่ห้องรับแขกกว้างแบบนี้ มันจะดูโล่งไปใช่ไหมครับ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็ให้เลือกแบบใหญ่ไว้ก่อนเพราะมันจะดูหรูหรากว่า ถ้าเลือกเฟอร์ฯก็ให้ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเข้ามุมห้อง และก็ต้องมาพร้อมกับโต๊ะกลางทรงกลม เลือกท็อปลายหินอ่อน หรือท็อปลายไม้ก็สวยเช่นกัน ควรใช้โทนสีโต๊ะกลางที่เข้ากับโซฟาแบบห้องตัวอย่าง ก็จะทำให้โซนรับแขกดูหรูหรา สวยงามดูมีราคากว่าแน่นอน

 

โถงชั้น 1 มีความสูงมากเป็นพิเศษ สูงจากพื้นถึงเพดาน 5 เมตร โป่งโล่งแสงลอดผ่าน แถมอากาศยังถ่ายเทได้ดีอีกด้วย ในส่วนของผนังติด Wall Paper ของแถมจากโครงการ (เลือกลายจากโครงการ) ต้องบอกว่าถ้าจะติด Wall Paper ก็ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงเหมือนกัน แต่โครงการนี้มีให้ฟรีๆ ก็น่าคิดนะครับ

สำหรับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้าน การใช้แค่ Wall Paper อาจจะดูธรรมดาเกินไป ดังนั้นการตกแต่งด้วยภาพงานศิลปะ แบบบ้านตัวอย่างอาจจะเป็นคำตอบ หรือถ้าใครชอบไอเดียการตกแต่งภาพขนาดเล็กสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย คลิกอ่านที่นี่ »

 

ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหารนะครับ เนื่องจากพื้นที่เป็นแนวยาว ไอเดียในการจัดโต๊ะอาหารที่ดีก็ควรเป็นโต๊ะแนวยาวเช่นกัน บ้านตัวอย่างจัดวางโซนรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง ด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู ผู้ซื้อสามารถเพิ่มขนาดของโต๊ะรับประทานอาหารได้อีกนะครับ โซนที่มีความกว้างแบบนี้ สำหรับ 1 ครอบครัวจัดไว้สัก 5-8 ที่ ได้สบายพื้นที่ก็ยังมีเหลือๆ

สำหรับไอเดียการตกแต่งโต๊ะอาหารก็มีเยอะ ลองอ่านบทความที่แนะนำนี้ ไอเดียตกแต่งโต๊ะอาหาร เพิ่มความสดใสให้ทุกมื้อ.... เพื่อใช้เป็นแนวการตกแต่งโซนรับประทานอาหารได้ครับ

 

มาดูในโซนครัวกันบ้างนะครับ สำหรับบ้านตัวอย่างตกแต่ง Bulit-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล(L) ที่รองรับการจัดวางอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับห้องครัวได้เป็นอย่างดี พื้นที่ไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไป เรียกได้ว่าขนาดกำลังพอดี 

สำหรับการตกแต่งเคาน์เตอร์ครัวมีการ Bulit-in ชั้นวางด้านบน แบบไม่ติดผนังใช้เป็นขาเหล็กแขวนมาจากฝ้าเพดาน ไอเดียดีเลยทีเดียวประหยัดพื้นที่ให้สามารถติดตั้งม่านมู่ลี่ได้ด้วย สำหรับบ้านตัวอย่างใช้วางของตกแต่ง แต่ผู้ซื้ออาจจะวางเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำอาหารก็ได้ครับ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจเลยทีเดียว โซนครัวตกแต่งใส่ลูกเล่นเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย สามารถวางของเฉพาะจุดได้ดี เช่นช่องเก็บชาม ลิ้นชักสำหรับใส่ช้อน หรือแม้แต่ตู้ Bulit-in สำหรับใส่อุปกรณ์อื่นๆ แต่ถ้ายังไม่โดนใจสามารถเพิ่มเติมไอเดียได้โดย คลิกอ่านที่นี่ » 

 

ถัดมาเป็นห้องน้ำชั้น1 สำหรับการตกแต่งเน้นเป็นโทนสีอ่อนทั้งตัวห้องน้ำ ทำให้รู้สึกสะอาดตา ห้องน้ำชั้นนี้จะไม่มีโซนเปียก ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับแขกผู้มาเยี่ยมเยียน ส่วนวัสดุอุปกรณ์ใช้สอยในห้องน้ำก็ติดตั้งมาให้เรียบร้อย ในส่วนของอ่างล้างหน้าเลือกเป็นแบบทรงขอบมนขนาดกำลังพอดี ยี่ห้อสุขภัณฑ์เลือกใช้ KOHLER ENGLE FIELD

 

โซนหลังบ้านได้ทำการต่อเติมเรียบร้อยแล้ว มีประตูทางเข้าออกเป็นกระจกบานใหญ่ 3 บาน เป็นบานเลื่อนได้ 2 บานเลื่อนไปทางซ้าย และทางเลื่อนไปทางขวาก็ได้ ประตูบานเลื่อนลักษณะนี้ทำให้การเข้าออกที่สะดวกสบายมากขึ้น เพราะโครงการที่อื่นๆมักจะเลื่อนได้บานเดียวใช้งานไม่ค่อยสะดวก

 

พื้นที่โซนหลังบ้าน บ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นลักษณะแนวยาวขวางไปกับตัวบ้าน การตกแต่งของบ้านตัวอย่างมี Bulit-in ตู้เก็บของผิวลายไม้ ทำเคาน์เตอร์ครัวหินท็อปเป็นแกรนิต และมีโต๊ะทรงกลมเล็กสำหรับรับประทานอาหาร แบบ 2 ที่นั้ง บริเวณโต๊ะมีหลังคา Skylight ฝ้าโปร่งแสง ช่วยรับแสงในเวลากลางวันได้มากขึ้น โซนหลังบ้านหากไม่ได้ตกแต่ง หรือต่อเติมก็จะเป็นแค่โซน
ซักล้างธรรมดาจืดๆ ลองดีกว่าครับต่อเติมให้สวยน่าใช้งานไปเลย ลงทุนครั้งเดียวเต่งให้เหมากับสายแฮงค์เอ้าท์ไปเลย

 

แนวกำแพงสูง ด้านหลังบ้านทางโครงการก่อกำแพงสูง 2 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง พร้อมกับลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย และเทพื้นคอนกรีตแล้ว ผู้ซื้อสามารถต่อเติมเพิ่มโครงหลังคาได้เลย สามารถตกแต่งเพิ่มเติมปรับให้เป็นโซนซักล้าง หรือโซนครัวหลังบ้าน จะเลือกเป็นแบบครัวเปิดโล่ง หรือครัวปิดทึบก็ได้เช่นกัน พื้นที่ด้านหลังของบ้านมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น

แท้งค์น้ำ พร้อมปั้มน้ำ : ติดตั้งเดินท่อน้ำจากแท้งค์เข้าปั้มน้ำ และเข้าสู่ตัวบ้านเรียบร้อย
บ่อดักไขมัน : บ่อดักไขมันสามารถกำจัดไขมันที่สะสมจากครัวได้ 
บ่อบำบัดน้ำเสีย : ช่วยกรองของเสียและสิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งให้ได้มากที่สุด
บ่อพักระบายน้ำทิ้ง : บ่อพักน้ำเพื่อระบายน้ำทิ้ง มีไว้สำหรับพักน้ำจากท่อน้ำทิ้งของบ้าน

กลับมาในส่วนของตัวบ้าน ไปกันที่ด้านหน้ากันเลยในภาพจะเป็นพื้นที่ติดทีวี ผนังส่วนนี้จะ
กว้างมากๆติดทีวีขนาด 60" สบายๆ ด้านหลังผนังตรงนี้จะมีช่องเก็บของใต้บันได มากันเลยครับผมจะพาขึ้นไปชมชั้นลอย เนื่องจากบ้านแบบ Echo (เอคโค่) มี 3 ชั้นครึ่ง จึงมีการจัดแบ่งเป็น ชั้น1 ชั้นลอย ชั้น2 และชั้น3 ตามลำดับ โดยทางขึ้นชั้นลอยจะอยู่ใกล้กับหน้าประตูทางเข้าบ้านตรงโซนรับแขก

 

ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ขั้นบันไดเป็นไม้สำเร็จรูปทั้งลูกตั้ง และลูกนอน ทางเดินมีราวจับตั้งแต่ขั้นแรกไปจนถึงขั้นสุดท้าย สำหรับเด็กเล็กๆ และคนชราใช้งานสะดวก บริเวณบันไดเป็นผนังเปล่าถ้าผู้ซื้อมองว่ามันโล่งเกินไป สามารถตกแต่งด้วยภาพงานศิลปะได้ครับ เรียงเป็นขั้นๆตามแนวบันไดเลยครับ แต่อย่าเยอะมากมากไปแทนที่จะตกแต่งให้สวย กับดูรกตามากไป

 

อีกหนึ่งความพิเศษของตัวบันไดก็คือระบบไฟอัจฉริยะ ด้วยการใช้ตัวเซ็นเซอร์ จับความเคลื่อนไหวบริเวณโถงบันได เวลามีความเคลื่อนไหวไฟโถงบันไดก็จะติดทันที เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นเสริมที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

แบบบ้าน Echo ชั้นลอยมีพื้นที่ โถงชั้นลอย ช่องเก็บของใต้บันได และห้องอเนกประสงค์

 

บริเวณชั้นลอยมีช่องเก็บของบริเวณใต้บันได สามารถเก็บอุปกรณ์สำรองเช่นอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ สายเคเบิ้ล หรือแม้แต่สามารถเก็บอุปกรณ์สำนักงานได้

 

โถงบันไดและชั้นลอยเป็นพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อน มีราวระเบียงกันตกเป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำ ใช้กระจกใสแบบหนาเพื่อความแข็งแรง สังเกตว่าราวกันตกจะยาวจากผนังด้านหนึงไปจนถึงอีกด้าน โดยที่ไม่มีเสากลางเลย ทำไว้เพื่อให้สามารถมองเห็นห้องโถงรับแขกได้แบบกว้างๆ เช่นกันข้างล่างก็จะมองเห็นข้างบนได้ชัดเจนเช็นกัน

 

สำหรับแบบแปลนห้องนี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์ชีวิตของผู้ซื้อเอง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือน หรืออาชีพอื่นๆ ในปัจจุบันก็ต้องการพื้นที่สำหรับการทำงานกันทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบ อาจจะเป็นโซนนั่งเล่น โซน Entertainment ก็ได้ครับ

สำหรับพื้นที่โซนนี้จะมีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยรับแสง การตกแต่งใช้เครื่องใช้สำนักงาน มีโต๊ะทำงาน รวมถึง Bulit-in ชั้นวางเอกสารสำนักงานด้านหลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนพื้นที่โซนหน้าสามารถตกแต่ง Bulit-in ชั้นวางทีวีได้เช่นกัน เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ

 

สำหรับโต๊ะทำงานออกแบบหรูหราระดับผู้บริหาร สามารถตกแต่งแบบบ้านตัวอย่างได้เลยครับ เพราะนับว่าเป็นไอเดียที่ดี สามารถใช้พื้นที่นั่งทำงานที่บ้านได้ หรือถ้าผู้ซื้อเป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องบอกว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะสามารถใช้พื้นที่ในโซนนี้ทำงานได้โดยตรงเลยครับ

หรือถ้าไอเดียการตกแต่งโต๊ะทำงานนี้ยังไม่โดนใจ หรือยังไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ คลิกอ่านที่นี่ »

 

ขึ้นมาต่อที่ชั้น2 กันบ้างนะครับ สำหรับบริเวณโถงเป็นทางเข้าห้องนอนหลัก และทางขึ้นชั้น3 โดยชั้น2 จะประกอบด้วยห้องนอนหลักเพียง 1 ห้องนอนเท่านั้นครับ โดยบริเวณทางเข้าจะมีกล่องควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านบริเวณหน้าห้องนอนหลัก

 

สำหรับบริเวณกล่องควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านจะมีจุดสำหรับติดตั้งเร้าเตอร์ WiFi ภายในบ้านด้วย ผู้ซื้อสามารถติดตั้งเร้าเตอร์ WiFi ส่วนกลางของบ้านไว้ตรงจุดนี้ได้ครับ

สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง WiFi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเร้าเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »

หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ WiFi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »

 

แบบบ้าน Echo ชั้น2 มีห้องนอนหลัก Penthouse ที่มีโซนแต่งตัว ห้องน้ำใหญ่ส่วนตัว และโซนนั่งเล่น Living Space

 

มาดูในส่วนของห้องนอนหลัก มีพื้นที่กว้างมากจึงออกแบบให้เป็น Penthouse ส่วนตัวที่มีทั้งโซนนอน โซนแต่งตัว โซนนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัว และห้องน้ำแบบส่วนตัวที่ให้มาครบทุกอย่าง

สำหรับโซนนอน ห้องนอนหลักปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน ภายในโซนนอนดูกว้างขวางเหมาะกับการเป็นห้องของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงของบ้าน การตกแต่งทำได้หรูหราเหมาะสำหรับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้บริเวณโซนนอนยังมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ใช้กระจกสีเขียวตัดแสงไว้ชมวิวแบบ Panoramic ด้วย

 

ปลายเตียงโซนนอน Bulit-in ชั้นวางอเนกประสงค์ เหมือนว่าโครงการจะแต่งให้เป็นโซนแต่งหน้ามีมาแบบจัดเต็มพื้นที่เลยทีเดียว ก็หลายๆคนอาจจะชอบการจัดวางของสะสมเยอะ เช่น กระเป๋า น้ำหอม หรือเครื่องประดับ แต่โซนนี้ก็ยังจะเหมาะทำเป็นโซนทำงานส่วนตัวก็ได้เพราะมีพื้นที่เยอะมาก ทำฉากกั้นห้องแบ่งเป็นโซนทำงาน จะใช้เป็นผนังสำเร็จของ SCG ก็มี หรือจะเลือกทำโครงคร่าว ติดแผ่นยิปซัม หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ กั้นเป็นโซนใหม่ขึ้นมาเพื่อแบ่งโซนการใช้งานให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

 

โซนนี้ตามแบบแปลนแล้ว ออกแบบมาให้เป็นมุมเอ็นเตอร์เทนที่เป็นส่วนตัว "Living Space" เป็นโซนนั่งเล่นในห้องนอนใหญ่นั้นเอง สามารถจัดพื้นที่ให้เป็นโซนนั่งเล่น โซนดูหนัง โซนตั้งเครื่องออกกำลังกาย หรือทำเป็นโซนทำงานก็ได้

 

ด้านข้างโซนนอนอีกด้านของห้องนอนหลัก มีการทำผนังกั้นโซนมาให้เรียบร้อย เป็นทางเข้าไปที่โซนห้องแต่งตัว Walk-in Closet โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำส่วนตัว

 

โซนห้องแต่งตัว Walk-in Closet ของห้องนอนหลัก มี Bulit-in ตู้เสื้อผ้าใหญ่ โต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับไอเดียการตกแต่งบ้านตัวอย่างทำได้ดีนำไปเป็นไอเดียได้ มีฟังก์ชั่นครบ Bulit-in ตู้เสื้อผ้าติดผนังแบบบานสไลด์ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า รองรับการใช้งานที่ครบ ทั้งเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืด เดรส รวมถึง accessories เล็กๆ น้อยๆ 

 

มาดูในส่วนของห้องน้ำในห้องนอนหลักกันบ้างนะครับ สำหรับพื้นห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้ 60x60 เซนติเมตร ผนังใช้สีครีมผิเรียบ และผนังตรงอ่างล้างหน้า ใช้กระเบื้องลายสลับสีโทนเข็มเพื่อให้ตัดกับผนังห้องน้ำสีครีม วัสดุอุปกรณ์ที่เห็นในภาพโครงการได้ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว มีอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมแบบสำเร็จรูปที่มีตู้เก็บของบานเปิด-ปิดด้านใต้อ่าง ในส่วนของสุขภัณฑ์ใช้ KOHLER ENGLE FIELD

มีแยกโซนแห้ง โซนเปียกด้วยฉากกั้น แผ่นอะคริลิคบานเลื่อน ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่โครงการมีแถมมาให้นะครับสำหรับการซื้อบ้านเปล่า โซนอาบน้ำมีติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และฝักบัวแบบธรรมดามาคู่กันให้เลือกใช้งานได้สะดวก 

 

ขึ้นมาชั้น3 กันบ้างนะครับ ชั้นนี้ก็จะมีห้องนอน2 ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำกลาง

 

แบบบ้าน Echo ชั้น3 มีห้องนอน2 ที่มีโซนแต่งตัว โซนนั่งเล่น Living Space มีห้องอเนกประสงค์ (ห้องนอน3) และมีห้องน้ำกลางที่ใช้งานร่วมกัน

 

มาดูในส่วนของห้องนอนที่2 ของตัวบ้านกันก่อนนะครับ สำหรับตำแหน่งการจัดวางจะมีความคล้ายกับห้องนอนหลัก เพียงแต่ไม่มีการแบ่งโซนแต่งตัว โดยจัดวางไว้ภายในโซนเดียวกัน 

การตกแต่งโซนนอนใช้การตกแต่งบนพื้นฐานของความหรูหราเทียบเท่าห้องนอนหลัก สำหรับห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต accessories ต่างๆ ถูกออกแบบและใช้เฉดสีไปในทิศทางเดียวกับ Wall Paper เพื่อให้ดูสวยงามและกลมกลืนไปกับตัวห้อง

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการตกแต่งในโทนสีอื่นๆ แนะนำให้เปลี่ยน Wall Paper ส่วนจะเลือกใช้สีไหนก็ขึ้นอยู่กับไอเดียและความชอบของผู้ซื้อเองนะครับ สามารถดูไอเดียได้ คลิกอ่านที่นี่ »

 

ด้วยความกว้างของตัวห้องมีการ Bulit-in ตู้เสื้อผ้าอยู่บริเวณประตูห้อง ถึงแม้จะเป็นตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เป็นตู้เสื้อผ้าที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน แขวนได้ทั้งเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืด ชุดเดรส รวมถึงเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ ที่สามารถเก็บไว้ในช่องด้านล่างได้เลย 

 

พื้นที่ปลายเตียงตามแบบแปลนออกแบบให้เป็น โซนนั่งเล่น Living Space แต่ในแบบบ้านตัวอย่างทำเป็นห้องทำงานมีการทำ Bulit-in โต๊ะทำงานที่เป็นแบบบาร์นั่ง ห้องนี้ก็น่าจะเป็นห้องที่เหมาะสมหรับลูกคนโตในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน หรือแม้แต่วัยทำงานในช่วงเริ่มต้น ก็นับว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตได้ดีเลยทีเดียว

 

ถัดมาจะขอพูดถึงห้องอเนกประสงค์ ของบ้านกันนะครับ โดยบ้านตัวอย่างถูกจัดให้เป็นห้องนั่งเล่น แต่ฟังก์ชั่นจริงๆ ของห้องนี้คือห้องนอนที่3 นะครับ (อ้างอิงตามแบบแปลน)

สำหรับคนที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นห้องนอนก็สามารถตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นตามบ้านตัวอย่างได้เลยครับ หรืออาจจะตกแต่งเป็นห้อง Entertainment ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สำหรับการพักผ่อนในวันหยุดก็ได้เช่นกัน หรือจะดัดแปลงเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกัน

ส่วนถ้าใครต้องการให้เป็นห้องนอนก็สามารถปรับแต่งเป็นห้องนอนได้ ตรงนี้ต้องบอกว่าตอบโจทย์ชีวิตจริงๆ สำหรับฟังก์ชั่นที่รองรับการเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะจัดวางเป็นเตียง 3 ฟุต
แล้ว Bulit-in ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ขึ้นมาก็ได้ครับ ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับลูกคนเล็กในวัยเรียนนั่นเอง

 

สำหรับห้องนั่งเล่นมีการ Bulit-in โต๊ะทำงานขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้วจะออกแนวเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ดังนั้นหากผู้ซื้อต้องการตกแต่งห้องนี้เป็นห้อง Entertainment สามารถ Bulit-in จุดนี้เป็นชั้นวางทีวีได้ครับ

 

มาดูในส่วนของห้องน้ำชั้น3 กันบ้างนะครับ สำหรับพื้นห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้ 60x60 เซนติเมตร ผนังใช้สีครีมผิเรียบ และผนังตรงอ่างล้างหน้า ใช้กระเบื้องลายสลับสีโทนเข็มเพื่อให้ตัดกับผนังห้องน้ำสีครีม วัสดุอุปกรณ์ที่เห็นในภาพโครงการได้ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว มีอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมแบบสำเร็จรูปที่มีตู้เก็บของบานเปิด-ปิดด้านใต้อ่าง ในส่วนของสุขภัณฑ์ใช้ KOHLER ENGLE FIELD

โซนอาบน้ำใช้ฉากกั้นเป็นแผ่นอะคริลิคบานเลื่อน โซนอาบน้ำแคบกว่าชั้น2 เล็กน้อย มีติดฝักบัวแบบธรรมดามาให้ใช้งาน ส่วนที่แตกต่างก็คือฟังก์ชั่นการใช้งานทางเข้าออกห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง เพื่อรองรับการใช้งานของห้องนอนที่2 และห้องอเนกประสงค์นั่นเอง เอ้อ..ลืมบอกไปว่าฉากกั้นระหว่างโซนทางโครงการเขาแถมให้นะครับสำหรับบ้านเปล่า ทั้งห้องน้ำชั้น2 และห้องน้ำชั้น3 เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ...สำหรับรีวิวแบบบ้าน Echo(เอคโค่) นับว่าเป็นแบบบ้านที่น่าสนใจ เหมาะกับครอบครัวใหญ่เพราะรองรับได้ถึง 3 ห้องนอน แต่ครอบครัวเล็กก็ไม่ต้องน้อยใจเพราะทั้ง 3 ห้องนอนมีฟังก์ชั่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกครอบครัวเลยทีเดียว

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง Echo มุมมอง  360º 

เพิ่มเติมกับรีวิวในครั้งนี้ ก็มาแบบจัดเต็มเช่นเคย ทีมงานมีเวลาทำเก็บภาพมุมมองแบบ 360º มาให้ชมกันด้วย เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลของแบบบ้านหลังนี้กันครบรอบด้าน เพื่อใช้เพิ่มความต้องการซื้อได้มากขึ้นไม่มากก็น้อยครับ คลิกปุ่ม Play ด้านล่างนี้เลยครับ จัดไป!!

 

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง Mono    พื้นที่ใช้สอย   160  ตร.ม.

แบบบ้าน Mono (โมโน) พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Space และ 2 ที่จอดรถ แบบนี้มีเฉพาะหลังกลางไม่มีหลังมุม

ฟังก์ชั่นพิเศษ Family Space ที่ชั้น2 ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของครอบครัวเป็นหลัก และแยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว

 

สำหรับโครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยใช้แรงบันดาลใจของเสน่ห์ในวิถีที่เรียบง่ายแบบ Zen ผสมผสานกับงานดีไซน์สถาปัตยกรรมที่ทันสมัย ออกแบบสวนให้สอดประสานไปกับตัวอาคาร ลักษณะ Modern Tropical ซึ่งทั้ง 2 แบบถูกออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน ต่างกันแค่ฟังก์ชั่นการใช้งานครับ

ด้านหน้าที่กว้าง 5.5 ม. ทำให้มีพื้นที่มากขึ้น มีบานเลื่อนมาให้ตรงกลาง 2 บาน และมีบานตาย 2 บานซ้ายขวา ที่ชั้น1 ของแบบบ้านหลังนี้จะไม่สูงเท่ากับแบบบ้าน Echo แต่จะได้พื้นที่ความกว้างของตัวอาคารเท่ากัน การออกแบบโดยรวมก็ยังไม่ฉีกแนวออกไปมากนัก เป็นโฮมออฟฟิศได้ แต่ก็ยังคงปรับมาใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ การตกแต่งภายนอกเลือกใช้โทนสี 3 โทนสี สีเทา ขาว น้ำตาลเข้ม การเลือกใช้มีสีเทาอ่อนเป็นสีหลักมีการทำลายของผนังเป็นเส้นตรงแนวขวางน โดยที่ใช้ที่น้ำตาลเข้มตัดกับลายของผนังสีเทา และเลือกใช้สีขาวในการตัดลายของตัวบ้านอีกที มีการเล่นระดับของตัวผนังให้ไม่เรียบเสมอกับเพื่อสร้างมิติให้กับผนังภายนอกโดยรวมให้ดูสวยงาม ตามแรงบันดาลใจในวิถีที่เรียบง่ายแบบ Zen เป็นดีไซน์สถาปัตยกรรมที่ทันสมัย

 

แบบบ้าน Mono ชั้น1 มีรายละเอียดแบ่งเป็นโซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร โซนครัว ห้องน้ำ บันไดทางขึ้น-ลง โซนซักล้างด้านหลัง และโรงจอดรถ 2 คัน

 

เมื่อเข้ามาในบ้านโซนแรกที่เราจะพบก็คือโซนรับแขก ซึ่งเป็นโซนที่มีความกว้างพอสมควร ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อเองด้วย เนื่องจากฟังก์ชั่นต่างๆ เอื้ออำนวยต่อครอบครัวใหญ่ ดังนั้นการมีโซนรับแขกที่กว้างจึงน่าจะตอบโจทย์มากกว่า สำหรับการตกแต่งในโซนรับแขก บ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนสีอ่อนทำให้ดูหรูหราและมีระดับ นับว่าเป็นไอเดียการตกแต่งที่ดี แต่ถ้าผู้ซื้อชอบความมีสีสันก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

แบบบ้านหลังนี้ชั้น1 เลือกใช้กระเบื้องพื้นแกรนิตโต้ 60x60 ในการปูพื้น ในส่วนของ Wall Paper ทางโครงการมีให้สำหรับผู้ซื้อทุกคน โดยเลือกลายที่ทางโครงการมีให้ เป็นโปรโมชั่นพิเศษของโครงการ

 

โซนติดตั้งทีวี ก็ให้มาเท่ากันกับแบบแรกพื้นที่ใกล้เคียงกัน สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ ด้านหลังโซนนี้จะมีประตูเปิดปิดช่องเก็บของใต้บันไดมาให้ด้วย ส่วนพื้นที่ด้านข้างเป็น Bulit-in ชั้นวางของ เหมาะสำหรับการวางของตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับโซนรับแขกครับ 

 

ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหารทางโครงการออกแบบให้แต่ละโซนมีความชัดเจนและดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยเป็นลักษณะพื้นที่แนวลึก รองรับการวางโต๊ะอาหารแนวยาว ให้อารมณ์ Dinner ในร้านอาหารดัง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วย

สำหรับการตกแต่งแบบบ้านตัวอย่างใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเดียวกับ Wall Paper ทำให้ดูมีความสมดุลน่านำไอเดียไปใช้งานมากครับ 

โซนรับประทานอาหาร คือห้องที่สมาชิกในครอบครัวต่างพร้อมหน้าร่วมกันรับประทานอาหาร พูดคุยกัน การตกแต่งโซนรับประทานอาหารด้วยภาพงานศิลปะที่เกี่ยวกับผลไม้ ดอกไม้ต่างๆ นอกจากรูปภาพที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกขึ้นแล้ว การเลือกไฟประดับก็ควรเลือกใช้หลอดไฟที่ให้แสงสว่างแบบอ่อนโยน ช่วยสร้างบรรยากาศความอบอุ่น รู้สึกเป็นกันเอง สบายๆ นั่นก็คือ หลอดไฟ Warm White และ Cool White ที่เป็นแสงโทนอุ่น ยังจะช่วยให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

 

สำหรับพื้นทีี่ครัวก็ถูกแยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ด้วยการเข้ามุมแนวยาวที่มีขนาดความกว้างกำลังดี ไม่ดูแคบจนอึดอัดและกว้างจนเกินไป 

สำหรับการตกแต่งยังคงอยู่บนพื้นฐานของความหรูหราแบบมีสไตล์ Bulit-in เค้าเตอร์ครัวรูปตัวแอล(L) พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งพื้นที่ประกอบอาหาร พื้นที่วางของ และพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆ

 

สำหรับคนที่อยากต่อเติมครัวหลังบ้านสามารถใช้พื้นที่โซนนี้เป็นบาร์สำหรับนั่งดื่ม นั่งทานอาหารชิวๆ ได้ พร้อมตกแต่งให้สวยงามอย่างเช่นบ้านตัวอย่างนะครับ 

 

มาดูในส่วนของห้องน้ำชั้น1 กันบ้างนะครับ สำหรับการตกแต่งของห้องน้ำชั้น1 มีความพิเศษตรงที่ใช้ประตูบานเลื่อนกระจกเงา ทำให้สามารถหลอกตาได้ดี เหมาะอย่างมากถ้าผู้ซื้อจะใช้โซนครัวด้านในเป็นบาร์นั่งชิว เพราะจะทำให้โซนนี้ดูหรูหรามีระดับมากขึ้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเงาสะท้อน นับเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นการตกแต่งที่น่าสนใจ 

 

สำหรับภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้โทนสีอ่อน ดูหรูหรามีสไตล์ ฟังก์ชั่นการใช้งานห้องน้ำชั้น1 ไม่มีโซนอาบน้ำมาให้ มีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ มีมาให้ครบทั้งหมด

สำหรับวัสดุสุขภัณฑ์ทางโครงการเลือกใช้ KOHLER ENGLE FIELD ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล มีความทนทาน สวยงามบนพื้นฐานของความหรูหราอย่างมีสไตล์

 

มาดูโซนหลังบ้านทางโครงการมีรั้วคอนกรีตหลังบ้านเพื่อรองรับการต่อเติม โดยในที่นี้บ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นพื้นที่ครัวหลังบ้าน โดยการ Bulit-in เคาน์เตอร์ครัวแนวยาว พร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน นอกจากนี้ยังสามารถมีพื้นที่เหลือสำหรับตั้งโต๊ะทานข้าวขนาดเล็กภายในโซนครัวหลังบ้านได้อีกด้วย 

สำหรับบริเวณโต๊ะรับประานอาหารที่ถูกเสริมเข้ามา มีหลังคา Skylight ฝ้าโปร่งแสง ช่วยรับแสงในเวลากลางวัน ถ้าหากมีแม่บ้านประจำสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารของแม่บ้านได้ มีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น แท้งค์น้ำ พร้อมปั้มน้ำ, บ่อดักไขมัน, บ่อบำบัดน้ำเสีย, บ่อพักระบายน้ำทิ้ง โซนหลังบ้านนี้ก็เหมือนกับแบบ Echo ทั้งหมดครับ

สำหรับไอเดียการต่อเติมครัวหลังบ้านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย คลิกอ่านที่นี่ »

 

ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ขั้นบันไดเป็นไม้สำเร็จรูปทั้งลูกตั้ง และลูกนอน ทางเดินมีราวจับตั้งแต่ขั้นแรกไปจนถึงขั้นสุดท้าย สำหรับเด็กเล็กๆ และคนชราใช้งานสะดวก บริเวณบันไดเป็นผนังเปล่าถ้าผู้ซื้อมองว่ามันโล่งเกินไป สามารถตกแต่งด้วยภาพงานศิลปะเรียงเป็นขั้นๆตามแนวบันไดเลยครับ แต่อย่าเยอะมากไปแทนที่จะตกแต่งให้สวย กับดูรกตามากไป

 

ห้องเก็บของเรียกได้ว่ามีความสูงกว่าแบบแรก สามารถเก็บของทรงสูงได้ หรือจะเก็บอุปกรณ์สำรอง อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในยามฉุกเฉิน เช่นสายเคเบิ้ล อุปกรณ์ซ่อมแซมระบบไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์งานช่างอื่นๆ ก็สามารถเก็บได้ครับ

เพื่อไม่ให้ดูโล่งจนเกินไปบ้านตัวอย่างแขวนภาพตกแต่งไว้บริเวณผนัง ซึ่งก็เป็นไอเดียที่ดี โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ หรือผู้ซื้ออาจจะติดเป็นภาพครอบครัว ภาพรับปริญญา ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

 

จุดนี้เป็นฟังก์ชั่นเสริมที่น่าสนใจนั่นก็คือไฟโถงบันไดอัจฉริยะ มีเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวบริเวณโถงบันได เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับว่ามีคนใช้บันได ไฟโถงบันไดก็จะติดทันที เรียกได้ว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อมากๆ เลยครับ 

 

แบบบ้าน Mono ชั้น2 มีห้องนอนหลัก โซนแต่งตัว ห้องน้ำส่วนตัว และห้องอเนกประสงค์

 

เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้น2 จะถูกปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน ทุกห้องนะครับ บริเวณโถงบันไดแสดงให้เห็นว่าชั้น2 ประกอบด้วย ห้องนอนหลักและโซน Family Space 

 

มาดูในส่วนของห้องนอนหลักกันก่อนนะครับ โดยเริ่มจากพื้นที่ปูด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน พร้อมกับตกแต่ง Wall Paper ด้วยโทนสีอ่อนเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความหรูหราอย่างมีสไตล์

ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องนอนหลักจะมีโซนนอน ห้องน้ำอยู่ภายในห้อง และโซนแต่งตัว Walk-in Closet มีการ Bulit-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งบริเวณปลายเตียง สำหรับไอเดียนี้ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ซื้อเช่นกัน สามารถไอเดียดังกล่าวไปปรับใช้ได้ครับ 

นอกจากนี้ห้องนอนหลักยังมีหน้าต่างบานใหญ่ รองรับการรับชมวิวแบบ Panoramic ส่วนการตกแต่งภายในห้องนอกจากมีความสวยงามบนพื้นฐานของความหรูหราแล้ว ยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างที่สามารถวางชุดโต๊ะนั่งเล่น ไว้สำหรับนั่งอ่านหนังสือชิวๆ ได้อีก 1 ชุด

 

มาดูในส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานตู้เสื้อผ้ากันบ้างนะครับ ทางโครงการนั้นตกแต่ง Bulit-in โซนนี้ให้ออกมาในแนวพื้นที่โซนแต่งตัว การตกแต่ง Bulit-in ทำให้ประหยัดพื้นที่ ด้วยความที่ Bulit-in ติดผนังทำให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ตู้เสื้อผ้ามีฟังก์ชั่นหลากหลาย สามารถแขวนชุดสูท ชุดเดรส รวมถึงเสื้อผ้าทั่วไปได้แบบสบายๆ 

สำหรับโต๊ะเครื่อแป้งเป็นขนาดกำลังพอเหมาะ การ Bulit-in ทำให้สามารถติดกระจกบานใหญ่เต็มตัวได้ ทำให้การแต่งตัว แต่งหน้าไปทำงานทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังออกแบบให้โต๊ะเครื่องแป้งอยู่บริเวณหน้าต่างบานใหญ่ เวลาแต่งหน้าสามารถเปิดม่านรับแสงธรรมชาติได้ ทำให้การแต่งหน้าของคุณผู้หญิงดูสมจริงและเข้ากับบรรยากาศภายนอกมากขึ้น

 

ก่อนที่จะข้ามไปโซน Family Space ขอพูดถึงห้องน้ำชั้น2 มีการตกแต่งเลือกใช้กระเบื้องผนังใช้สีครีมผิเรียบ และผนังตรงอ่างล้างหน้า ใช้กระเบื้องลายสลับสีโทนเข้มเพื่อให้ตัดกับผนังห้องน้ำสีครีม วัสดุอุปกรณ์ที่เห็นในภาพโครงการได้ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว มีอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมแบบสำเร็จรูปที่มีตู้เก็บของบานเปิด-ปิดด้านใต้อ่าง ในส่วนของสุขภัณฑ์ใช้ KOHLER ENGLE FIELD

มีแยกโซนแห้ง โซนเปียกด้วยฉากกั้น แผ่นอะคริลิคบานเลื่อน ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่โครงการมีแถมมาให้นะครับสำหรับการซื้อบ้านเปล่า โซนอาบน้ำมีติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และฝักบัวแบบธรรมดามาคู่กันให้เลือกใช้งานได้สะดวก 

 

มาดูในโซน Family Space กันบ้างนะครับ อยู่บริเวณชั้น2 ติดกับห้องนอนหลักนั่นเอง โดยเป็นลักษณะห้องนั่งเล่นที่ให้อารมณ์ห้อง Entertainment ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และใช้ทำกิจกรรมพักผ่อนต่างๆ เรียกว่าตอบโจทย์ชีวิตในยุคไทยแลนด์4.0 จริงๆ เลยครับ

สำหรับครอบครัวช่วงเริ่มต้นสามารถใช้พื้นที่ห้อง Family Space ในการเลี้ยงลูกได้นะครับ หรืออาจจะสร้างเป็นพื้นที่การเรียนรู้ให้กับลูกน้อย เพื่อพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดี

สำหรับไอเดียในการตกแต่ง Family Space ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ซื้อเองครับ ถ้าตกแต่งเป็นห้อง Entertainment ใช้ดูหนัง ฟังเพลง ก็สามารถตกแต่งตามห้องตัวอย่างได้เลยครับ
ผู้ซื้อสามารถศึกษาไอเดียเพิ่มเติมโดย คลิกอ่านที่นี่ »

 

แบบบ้าน Mono ชั้น3 มีห้องนอน2 ที่มีโซนแต่งตัว ห้องนอน3 และมีห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกัน

 

ต่อไปเราจะขึ้นไปชมบ้านชั้น3 กันต่อนะครับ โดยบันไดทางขึ้นจะอยู่ตรงบริเวณ Family Space

 

สำหรับการรีวิวชั้น3 เริ่มจากห้องนอนที่2 กันก่อนเลยนะครับ สำหรับการตกแต่งฟังก์ชั่นต่างๆ จะคล้ายกับห้องนอนหลักเลยครับ ด้วยฟังก์ชั่นที่เหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ขนาดลดลงมาเท่านั้นเอง โดยการตกแต่งก็เน้นความเป็นโมเดิร์น สวยงามบนพื้นฐานของความหรูหรานั่นเอง ส่วนด้านข้างเตียงมีหน้าต่างบานใหญ่สามารถชมวิว Panoramic ได้เช่นกัน

 

ปลายเตียงจะเป็นโซนแต่งตัว Walk-in Closet มี Bulit-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง อย่างที่เคยบอกไว้ว่าการ Bulit-in ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า การใด้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ทำให้รองรับการใช้งานที่มากขึ้น ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งสามารถรองรับกระจกบานใหญ่ได้เช่นกันถึงแม้ห้องตัวอย่างจะเป็นกระจกบานเล็กก็ตาม

 

มาดูในส่วนของห้องนอนที่ 3 ห้องนี้ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สำหรับการตกแต่งยังคงเน้นสไตล์โมเดิร์นเหมาะกับเด็กเล็ก ไปจนถึงวัยรุ่น มี Bulit-in ตู้เสื้อผ้าเข้ามมุม โต๊ะอเนกประสงค์ สำหรับเตียงนอนก็ได้ขนาด 3.5 - 5 ฟุต ไม่ควรใหญ่กว่านี้จะแคบมากไปสำหรับห้องนี้ ห้องนี้หลายท่านอาจจะไม่ได้ทำเป็นห้องนอน ก็เลือกทะเป็นห้องพระได้ เพราะขนาดของห้องที่กำลังพอดี สามารถจัดโต๊ะหมู่บูชาพระประจำบ้านได้ ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกับจัดห้องพระได้ที่นี่ "การจัดห้องพระอย่างถูกวิธี ช่วยเสริมมงคลให้บ้านส่งผลถึงผู้ที่อยู่อาศัย"

 

สำหรับการตกแต่งเอื้ออำนวยกับเด็กมากกว่าดังนั้นห้องนี้เหมาะสำหรับลูกของผู้ซื้อเอง โดยตกแต่งเตียงขนาด 3 ฟุต มีโต๊ะทำการบ้าน และตู้เสื้อผ้าแค่นี้ก็เรียกว่าเพียงพอสำหรับเด็กในวัยเรียนแล้วครับ ต้องบอกว่าไอเดียการตกแต่งนี้เป็นไอเดียที่ดีมากครับ 

หรือถ้าผู้ซื้อมีลูกเล็กเช่นยังไม่เข้าโรงเรียน หรืออาจจะอยู่ในระดับอนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น สามารถตกแต่งห้องโดยสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้กับลูกน้อยได้ คลิกอ่านที่นี่ » 

 

สำหรับห้องน้ำชั้น3 ในส่วนของการตกแต่งก็ใช้โทนสีเดียวกันคือ สีอ่อนตัดสีเข้มบางส่วนเพิ่มความสะดุดตา วัสดุอุปกรณ์ที่เห็นในภาพโครงการได้ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว มีอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมแบบสำเร็จรูปที่มีตู้เก็บของบานเปิด-ปิดด้านใต้อ่าง ในส่วนของสุขภัณฑ์ใช้ KOHLER ENGLE FIELD เช่นเดียวกับแบบแรกมีโซนอาบน้ำใช้ฉากกั้นเป็นแผ่นอะคริลิคบานเลื่อน โครงการเขาแถมให้สำหรับบ้านเปล่า โซนอาบน้ำแคบกว่าชั้น2 เล็กน้อย มีติดฝักบัวแบบธรรมดามาให้ใช้งาน

 

ฟังก์ชั่นการใช้งานทางเข้าออกห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง เพื่อรองรับการใช้งานของห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 สิ่งที่แตกต่างไปจากทาวน์โฮมทาวน์ คือ ทางเข้าออกจะไม่ได้อยู่ที่โถงบันได แต่จะปรับให้เข้ามาอยู่ในห้องนอนของทั้ง 2 ห้อง เพื่อการใช้สอยที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเดินออกมาข้างนอกห้อง ตื่นขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำได้เลย

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี มีแนวความคิดในเรื่องของความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆที่มีความสาคัญมีประโยชน์ รวมถึงแนวความคิดในการออกแบบ แนวความคิดด้านหน้าที่ใช้สอย ( Function Concept ) เป็นส่วนหลักของโครงการ เนื่องจากเป็นส่วนที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆของผู้อยู่อาศัย จึงได้ออกแบบให้ คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะส่วนกลาง ทั้งหมดให้อยู่ในพื้นที่โซนเดียวกัน โดยคำนึงถึงเรื่องความสะดวกในการใช้งาน

 

►พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

พื้นที่โครงการ แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยตัวสวนสาธารณะส่วนกลางจะอยู่บริเวณทางเข้าโครงการ ส่วนพื้นที่บ้านของโครงการจะอยู่เป็นทางเข้าไปด้านใน ออกแบบให้ทุกคนในโครงการจะต้องผ่านพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

 

► คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส

นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่งที่ถ้าคนได้ออกกำลังกายที่บ้าน เพราะจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา ในส่วนของการเดินทางไปฟิตเนสที่อื่น เพราะที่โครงการจะมีคลับเฮาส์รองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

สำหรับในส่วนของคลับเฮาส์โครงการ จะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ มีพื้นที่กว้างพอสมควร โดยประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ และฟิตเนส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพ 

 

►สวนสาธารณะ

นอกจากคลับเฮาส์แล้วยังรองรับการออกกำลังกายแบบ Outdoor ด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อม Jogging Track ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการออกกำลังกายและสูดอากาศที่บริสุทธิ์ภายในโครงการ

 

สวนสาธารณะอยู่หน้าโครงการถัดจากคลับเฮาส์เมื่อเข้ามาบริเวณโครงการก็สามารถมองเห็นได้ทันที ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ออกกำลังการแล้วยังเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน มีซุ้มนั่งเล่นและมีสวนสีเขียว เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเดินเล่นในยามเย็นได้ครับ

 

►ทางเข้า-ออกโครงการ

ทางเข้าออกโครงการ เป็น Double Security Gate แยกทางเข้าออกระหว่างลูกบ้านและผู้มาติดต่อ พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูง โดยที่ช่องหนึ่งจะเข้าออกได้ 2 ช่องทางแยกสำหรับลูกบ้านที่ใช้บัตร กับผู้ติดต่อที่ต้องแลกบัตรเข้าโครงการ

 

►ระบบรักษาความปลอดภัย

บริเวณทางเข้าออกโครงการ เป็น Double Security Gate พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย

• Auto Access Card 
• ระบบไม้กั้น 2 ช่องทาง
• ประตูรั้วเหล็ก ระบบอัตโนมัติ
• Security Guard ดูแล 24 ชั่วโมง
• กล้องวงจร CCTV บริเวณหน้าโครงการ 

 

สถานที่น่าสนใจ สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้กับโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ 

ห้างสรรพสินค้า

• ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต
• Zpell
• เซียร์ รังสิต
• เมเจอร์ รังสิต
• แม็คโคร รังสิต
• บิ๊กซี สาขารังสิต2 
• โลตัส รังสิต
• ตลาดสี่มุมเมือง
• ตลาดรังสิต

สถานศึกษา

• โรงเรียน สยาม อาร์เอ็นเอ อินเตอร์ฯ
• โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
• โรงเรียนแย้มสะอาด
• มหาวิทยาลัยรังสิต
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

โรงพยาบาล

• รพ.เปาโล รังสิต
• รพ.แพทย์รังสิต
• รพ.ปทุมเวช

การคมนาคม

• ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์
• ถนนวิภาวดีรังสิต
• ถนนพหลโยธิน
• สนามบินดอนเมือง
• แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง(บางซื่อ-รังสิต)
• รถประจำทาง ได้แก่สาย 29, 34, 39, 59, 95ก, 185, 187, 188, 503, 504, 510, 513, 522, 523, 538, 554, 555

 

แนะนำเส้นทาง ไปสถานที่น่าสนใจใกล้โครงการ

►จากโครงการไป ท่าอากาศยานดอนเมือง (ประมาณ 10 นาที)

ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือที่เรามักจะรู้จักกันในนามของสนามบินดอนเมือง นับเป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลก ม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรปและอื่นๆ  รวมถึงการบินภายในประเทศ

สำหรับท่านที่จะเดินทางไปท่าอากาศยานดอนเมือง จากโครงการใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น สามารถวิ่งตรงไปบนถนนวิภาวดีรังสิตตามแผนที่ด้านล่างได้เลยครับ

 

►จากโครงการไป เซียร์รังสิต (ประมาณ 5-10 นาที)

เซียร์รังสิต ศูนย์การค้าทางด้านไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีพื้นที่อยู่ในโซนรังสิต นอกจากจะจำหน่ายสินค้าทางด้านไอทีแล้ว ยังมีสินค้าแฟชั่น ศูนย์อาหาร และของเบ็ดเตล็ดมากมายสามารถไปเลือกซื้อกันได้เลยครับ

ต้องบอกว่าใกล้กับโครงการมากๆ เลยนะครับ ใช้เวลาเดินทางเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น โดยวิ่งบนทางคู่ขนานถนนพหลโยธินขาเข้าก็จะสามารถเดินทางเข้าห้างได้เลยครับ ดูแผนที่อ้างอิงจาก Google Map ด้านล่าง

 

►จากโครงการไป บิ๊กซี สาขารังสิต2 (ประมาณ 10-15 นาที)

บิ๊กซี สาขารังสิต2 ห้างสรรพสินค้า จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ในรูปแบบร้านไฮเปอร์มาร์ทขนาดใหญ่ เช่นของใช้ติดบ้าน ของใช้ในชีวิตประจำวัน อาหาร ของสด รวมถึงแฟชั่นต่างๆ นอกจากนี้เส้นทางที่มาบิ๊กซียังสามารถเดินทางไปโบ๊เบ๊รังสิตและตลาดสี่มุมเมืองได้อีกด้วย

จากโครงการเดินทางมาบิ๊กซี สาขารังสิต2 ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น โดยใช้เส้นทางกลับรถบริเวณถนนพหลโยธิน เพื่อมาที่ห้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก Google Map ด้านล่างได้เลย

 

►จากโครงการไป ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต (ประมาณ 15-20 นาที)

ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านรังสิต เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำต่างๆ รวมถึงแหล่งรวมความบันเทิง และร้านค้าร้านอาหารชั้นนำ ถ้าหากมีเวลาว่างอยากไปช้อปปิ้ง ไปทานอาหาร หรืออยากไปชมภาพยนต์ก็สามารถเดินทางมาที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ได้

สำหรับการเดินทางไปฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สามารถใช้เส้นทางกลับรถบริเวณถนนพหลโยธินหน้าบ้านแล้ววิ่งบนถนนพหลโยธินขาออก ใช้สะพานกลับรถบริเวณโลตัสรังสิต เพื่อกลับมายังฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที โดยใช้แผนทีตาม Google Map ด้านล่างเลยครับ

 

►จากโครงการไป มหาวิทยาลัยรังสิต (ประมาณ 20-25 นาที)

มหาวิทยาลัยรังสิต สถาบันเอกชนชื่อดังในระดับอุดมศึกษา เปิดสอนหลากหลายหลักสูตร ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนศิลปินดาราศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ยังเป็นสถาบันที่ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพในหลายๆ สาขาวิชา จึงทำให้มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นมหาวิทยาลัยระดับ Top ของประเทศ

สำหรับการเดินทางไปมหาวิทยาลัยให้ใช้ซอยพหลโยธิน 87 เข้าสู่ถนนเอกทักษิณ เพื่อไปยังมหาวิทยาลัยรังสิต ตามแผนที่ Google map ด้านล่างครับ 

 

สรุปการรีวิวโครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน

ในส่วนของแบบบ้านนั้นมีความพิเศษคือเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งที่แรกของพฤกษา ฟังก์ชั่นนั้นตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ในยุคไทยแลนด์4.0 ด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นสวยงามและเรียบง่าย พร้อมฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย

โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้วยขนาดพื้นที่บ้านและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานถึง 3 ห้องนอน พร้อมห้องอเนกประสงค์ของแต่ละแบบบ้านที่รองรับการออกแบบให้ตรงความต้องการผู้อยู่อาศัยเอง ทั้งนี้ยังมีรั้วคอนกรีตหลังบ้านเพื่อรองรับการต่อเติมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นครัวหลังบ้าน หรือบาร์นั่งชิว

โครงการมีการออกแบบแฝงความพิเศษภายในบ้าน เช่นแผ่นยิปซั่มสะท้อนความร้อน ระบบหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน บานประตูห้องนอนเป็นลายไม้ พร้อมจุดรองรับการติดตั้งระบบ Fiber Optic รองรับการใช้งานของคนรุ่นใหม่

 

►สิ่งอำนวยความสะดวก

 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบไปด้วยอาคารคลับเฮาส์ ฟิตเนส พร้อมกับสระว่ายน้ำ รองรับการมีสุขภาพที่ดีของทุกคนในโครงการ 

พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจพร้อมสัมผัสธรรมชาติกับสวนสีเขียวภายในโครงการ ด้วยสวนสาธารณะส่วนกลาง พร้อมรองรับการออกกำลังกายแบบ Outdoor ด้วย Jogging Track 

เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย การเข้า-ออกเป็นระบบ Double Security มี Security guard ดูแล 24 ชั่วโมง พร้อม กล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งมียังอำนวยความสะอวดและการตรวจตราเป็นพิเศษด้วยการแยกทางเข้าระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ

 

►การเดินทาง และทำเลที่ตั้ง

สำหรับทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนรังสิต เดินทางเข้าออกโครงการได้สะดวกเพราะโครงการติดถนนใหญ่ ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก ทั้งนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางด้วยทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ที่ทำให้ชีวิตการเดินทางของคุณเป็นเรื่องที่ง่าย ทั้งนี้ยังมียังมีรถโดยสารสาธารณะที่ครอบคลุมในเรื่องของการเดินทางร่วม 20 สาย

ในอนาคตสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต)  ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองเป็นเรื่องง่าย เหมาะสำหรับคนทำงานในเมืองที่ไม่ชอบสังคมแออัดในเมือง และมองว่าการมีบ้านอยู่ชานเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตได้เหมือนกันน่าจะดีกว่า สำหรับสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีหลักหก และสถานีรังสิต

 

►ภาพรวมโครงการ พาทิโอ พหลโยธิน - วิภาวดี

โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี  เป็นโครงการที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ด้วยการออกแบบที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ พร้อมการวางระบบพื้นฐานอย่างละเอียดจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนยุคใหม่และคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดของบ้าน

ฟังก์ชั่นตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่อเนกสงค์รองรับการปรับเปลี่ยนและต่อเติมบ้าน พร้อมรองรับการจอดรถได้ 2 คัน 

ตอบโจทย์ชีวิตของที่ทำงานในเมือง ด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงที่รองรับการเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก พร้อมทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ที่รองรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว 

ด้วยการออกแบบ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ เอื้ออำนวยไปในทิศทางของครอบครัวใหญ่ ด้วยราคาปัจจุบันเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูงเช่นเดียวกับคุณ โดยอาจจะเป็นกลุ่มอาชีพนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจ SMEs ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ พนักงานเอกชนระดับผู้จัดการ รวมถึงกลุ่มงานระดับผู้บริหาร และผู้อำนวยการ 

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบความสำเร็จในอนาคต ชื่นชอบการวางแผนชีวิต ให้ความสำคัญกับสังคมและครอบครัว โครงการ พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี จึงเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ชีวิตของคุณมากๆ เพราะการที่คุณมาอยู่ที่นี่จะทำให้คุณจัดสรรเวลาได้อย่างลงตัว อย่างที่ผมได้กล่าวไปตอนต้นครับว่า "เวลาคือเงินสกุลยุคใหม่" ที่คุณจะหาที่ไหนไม่ได้ แต่ที่นี่ให้คุณได้มากกว่าด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเช่น ทางด่วน รถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ทำให้ประหยัดเวลาในส่วนของการเดินทาง จึงทำให้ดูเสมือนว่าคุณมีเวลามากกว่าคนอื่นนั่นเอง