ทาวน์โฮมแบบใหม่ 4 ห้องนอน ทำเลถนนเพชรเกษม ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้กำลังมองหาบ้านใหม่ทุกท่าน วันนี้ Thaihometown จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ซึ่งเป็นทาวน์โฮมโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ตัวโครงการจะตั้งอยู่ใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ สถานที่ตั้ง ที่ตั้งอยู่บนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนหลักสู่ภาคใต้ สามารถเชื่อมต่อไปได้ในทุกถนนเส้นหลัก เช่น ถนนบรมราชชนนี ถนนพระราม2 ถนนพุทธมณฑล สาย 3, สาย 4, สาย 5 และยังสามารถเชื่อมต่อไปที่ถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นถนนที่ผ่านไปตามถนนสายหลักของเมืองได้หลายอีกเส้นทาง
แต่ก่อนจะพาไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 จะขอกล่าวถึงรายละเอียดของโครงการสักเล็กน้อย ไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ
รายละเอียดโครงการ
โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ทาวน์โฮม 2 ชั้น เพิ่มพื้นที่ชีวิตด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ หน้าบ้านกว้าง พร้อมห้องนอนหลักขนาดใหญ่ ที่สามารถจัดวางพื้นที่การใช้งานได้อย่างทั่วถึง และครบครัน พร้อมการออกแบบดีไซน์ใหม่สไตล์นีโอคลาสสิค ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิค ในศตวรรษที่ 18 ประหนึ่งว่ามี Jacques Louis David* มาเนรมิตบ้านให้ทุกคนด้วยตัวเองเลยทีเดียว
โดดเด่นด้วยทำเลบนถนนเพชรเกษม ถนนหลักที่เป็นประตูสู่ภาคใต้ เดินทางสู่โครงการได้สะดวก หลากหลายเส้นทาง ทั้งจากทางถนนบรมราชชนนี ถนนพระราม2 ถนนพุทธมณฑล สาย 3, สาย 4, สาย 5 และยังสามารถเชื่อมต่อไปที่ถนนกาญจนาภิเษก พร้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑล สาย 4
ตัวโครงการรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานพยาบาล สถานที่ราชการ และสถานีขนส่งต่างๆ อย่างมากมาย ใจกลาง Shopping Mall เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ เช่น บิ๊กซี อ้อมใหญ่ บิ๊กซี เพชรเกษม, เซ็นทรัลศาลายา, เดอะมอลล์ บางแค, เทสโก้ โลตัส สามพราน, ตลาดน้ำดอนหวาย
*Jacques Louis David (ฌัก-หลุยส์ ดาวีด) ผู้ริเริ่ม สไตล์นีโอคลาสสิค ศตวรรษที่ 18
ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท
แบบบ้านโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 มีแบบให้เลือก 2 แบบ ดังนี้
1. แบบทาวน์โฮม Neo Classic I
คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | คลิกดูมุมมอง 360° บ้านตัวอย่าง
เนื้อที่ 16.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 86 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร
2 ห้องนอน (ห้อง Master ขนาดใหญ่) 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ที่จอดรถ
ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
แปลนทาวน์โฮม Neo Classic I
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ แบบแปลน ชั้น 1
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ แบบแปลน ชั้น 2
2. แบบทาวน์โฮม Neo Classic II
คลิกดูรีวิวบ้านตัวอย่าง | คลิกดูมุมมอง 360° บ้านตัวอย่าง
เนื้อที่ 18.1 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร
4 ห้องนอน (ห้อง Master ขนาดใหญ่) 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ที่จอดรถ
ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
แปลนทาวน์โฮม Neo Classic II
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ แบบแปลน ชั้น 1
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ แบบแปลน ชั้น 2
แผนที่โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
คลิกดูภาพแผนที่ใหญ่โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
"ที่สุดของทำเล ใกล้ทุกการเดินทาง ใจกลาง Shopping Mall เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์" โดดเด่นด้วยการคมนาคมบนเส้นทางสายหลัก ถนนเพชรเกษม ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ท่าพระ-พุทธมณฑล สาย4 เข้าถนนเพชรเกษม ด้วย ถนนพุทธมณฑล สาย 2,3,4,5 เชื่อมต่อจุดหมายโดยรอบด้วยถนนกาญจนาภิเษก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาล อย่าง บิ๊กซี เพชรเกษม, เดอะมอลล์ บางแค, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี, โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า, มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และโรงพยาบาลมหาชัย 2 และโครงการยังมีทำเลที่สะดวกใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางยกระดับบรมราชชนนี, วงแหวนกาญจนาภิเษกอีกด้วย
แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสถานีต่างๆ
คลิกดูรูปภาพใหญ่ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดบริการในปี 62 เนื่องจากการก่อสร้างเร็วกว่าแผน (หัวลำโพง-ท่าพระ ก.พ. 62 เปิดตลอดเส้นทางทั้งสองช่วง ต.ค. 62) มีสถานีที่ตกแต่งตามสถาปัตยกรรมพื้นเมือง เป็นสถานี Finale ของโครงการ 4 สถานีช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนการจัดเก็บค่าโดยสารทั้งเส้นทางจะไม่เกินจากอัตราโครงสร้างค่าโดยสารของ MRT เดิม โดยจะมีการคิดอัตราค่าแรกเข้าที่ 16 บาท สถานีต่อไปสถานีละ 2 บาท แต่ไม่เกิน 42 บาท
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง (พร้อมใช้ปี 62)
สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง สถานีปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่พร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 ตัวสถานีตั้งอยู่ใกล้บริเวณ เดอะมอลล์ บางแค สามารถเดินทางต่อไปยังโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมได้
แผนที่จาก Google Maps แสดงให้เห็นถึงการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง จนถึงโครงการ พฤกษาวิลล์ เพชรเกษม 91 - 93 สามารถเดินทางไปยังโครงการได้ทั้งรถแท็กซี่ และด้วยรถประจำทางอีกหลายสาย เช่น 84, ปอ.84, 157,170, 123 และ 183
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ต่อขยาย สถานีพุทธมณฑลสาย 4 (พร้อมใช้ปี 64)
คลิกดูแผนที่ รูปภาพใหญ่แบบละเอียด
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค – พุทธมณฑลสาย 4 เริ่มการก่อสร้างบางส่วนแล้ว เป็นส่วนต่อขยายมาจากสถานีหลักสอง และคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 64 เมื่อส่วนต่อขยายสร้างเสร็จจะมี สถานีพุทธมณฑลสาย 2, สถานีทวีวัฒนา, สถานีพุทธมณฑลสาย 3 และสถานีพุทธมณฑลสาย 4 เป็นสถานีสุดท้าย
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานนีพุทธมณฑลสาย 4 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยลงจากสถานีพุทธมณฑลสาย 4 มาแล้ว ต่อรถบนถนนเพชรเกษม สามารถนั่งแท็กซี่ หรือนั่งรถโดยสายประจำทางก็ได้ ตรงไปบนถนนเพชรเกษม 1.5 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 91 เข้าซอยแล้วไปต่ออีกประมาณ 2 กม. ก็จะถึงโครงการพฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
แผนที่เส้นทางเพิ่มเติม เส้นทางสำหรับที่ไปโครงการ
►มาจากถนนกาญจนาภิเษก และตัดเข้าสู่ถนนเพชรเกษม
►มาจากทางพิเศษศรีรัช - วงแหวนรอบนอก ตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก
►มาจากถนนบรมราชชนนี ผ่านถนนพุทธมณฑลสาย5 และตัดเข้าถนนเพชรเกษม
รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ
แผนที่ Google Map แสดงเส้นทางการเดินไปรีวิวโครงการในครั้งนี้เลือกใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนี ช่วงใกล้ๆกับ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ขับผ่านไปยัง
ถนนพุทธมณฑลสาย3 และไปตัดเข้าถนนเพชรเกษม
การเดินทางไปยังโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ในครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นกันที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) กันนะครับ ให้ขับตรงไปตาม
ถนนบรมราชชนนีได้เลย
เมื่อขับผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) มาแล้ว ให้ขับตรงไปตามป้าย
ถนนพุทธมณฑล สาย 2 บนถนนบรมราชชนนีต่อไปเลยครับ
เมื่อขับผ่านป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 2 มาแล้ว ให้ขับตรงไปตามป้ายนครปฐมต่อไปได้เลย ซึ่งถนนบรมราชชนนีนี้ สามารถใช้ในการเดินทางไปยัง จ.นครปฐมได้เช่นกัน
แต่เราจะไปที่โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 กัน ฉะนั้น ให้เตรียมชิดซ้ายตามป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 ได้เลย
และจะพบกับป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 อีกป้ายหนึ่ง ให้ขับชิดซ้ายตามป้าย เพื่อเตรียมเบี่ยงซ้ายออกสู่เลนคู่ขนานต่อไปได้เลย
เมื่อขับผ่านป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 มาแล้ว ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อออกสู่เลนคู่ขนานได้เลยครับ
เมื่อขับออกมายังเลนคู่ขนานแล้ว ให้ขับตรงต่อไปตามป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 ต่อได้เลย
และเราก็จะผ่านบุญถาวรกันนะครับ ซึ่งเป็นจุดสังเกตหลัก ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าสู่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 ในจุดนี้ ให้ขับตรงผ่านบุญถาวรไปได้เลยครับ
เมื่อขับผ่านบุญถาวรมาแล้ว จะพบกับป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 เลี้ยวซ้าย ให้ขับชิดเลนซ้าย เพื่อเตรียมเข้าสู่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 ต่อไปได้เลย
เลี้ยวซ้ายตามป้ายถนนพุทธมณฑล สาย 3 เพื่อเข้าสู่ถนนพุทธมณฑล สาย 3
เมื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 มาแล้ว ให้ขับตรงไปตามถนนพุทธมณฑล สาย 3 ต่อไปได้เลย
เมื่อเราขับมาเรื่อยๆ ตามถนนพุทธมณฑล สาย 3 แล้ว ให้ขับตรงไปตามป้ายเพชรเกษมต่อไปได้เลย
เมื่อเราอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 3 เราจะผ่านโรงเรียน กสิณธรอาคาเดมี่ กันนะครับ ให้เราขับตรงผ่านไปได้เลย
เมื่อเราขับมาจนสุดถนนพุทธมณฑล สาย 3 แล้ว จะพบกับสามแยกเพชรเกษม 104 ให้เตรียมเลี้ยวขวาตามป้ายพุทธมณฑล สาย 4 ได้เลย
จากนั้นให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าสู่ถนนเพชรเกษมต่อไป
เมื่อเข้าสู่ถนนเพชรเกษมแล้ว ให้ขับตรงไปตามถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลย
เมื่อเราอยู่บนถนนเพชรเกษม จะเห็นมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์อยู่ทางฝั่งขวามือ ให้ขับตรงต่อไปได้เลย
เมื่อเราขับผ่านมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์มาแล้ว จะพบกับสำนักงานเขตหนองแขมทางด้านขวา ให้ขับตรงตามถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลย
เมื่อผ่านสำนักงานเขตหนองแขมมาแล้ว ให้ขับตรงไปตามป้ายกระทุ่มแบน บนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลย
เมื่อขับตรงมาตามถนนเพชรเกษมเรื่อยๆ แล้ว จะพบกับซุ้มประตูเมืองกรุงเทพมหานคร ให้ขับตรงผ่านไปได้เลย
เมื่อขับผ่านซุ้มประตูเมืองกรุงเทพมหานครมาแล้ว จะพบกับป้ายนครปฐม ให้ขับตรงตามป้ายนครปฐมบนถนนเพชรเกษมต่อไปได้เลย
เมื่อขับผ่านป้ายนครปฐมมาแล้ว จะพบกับสะพานลอยสำนักงานเทศบาลนครอ้อมน้อย ให้ขับตรงผ่านไปได้เลย
เมื่อขับผ่านสะพานลอยสำนักงานเทศบาลนครอ้อมน้อยมาแล้ว จะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกครับ ว่าเราใกล้จะถึงกันแล้ว
ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย เพชรเกษม 91 เพื่อเข้าสู่โครงการได้เลย
บริเวณหน้าซอยเพชรเกษม 91 จะมีจุดดึงดูดที่เห็นได้ชัดมากๆ อยู่ ก็คือร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 91 มาแล้วให้ขับตรงไป ตามป้ายโฆษณาของโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ได้เลย
จากหน้าปากซอย เข้ามาประมาณ 700 เมตร จะพบกับสามแยก พร้อมป้ายโฆษณาของโครงการให้เลี้ยวขวา ให้เลี้ยวขวาตามป้ายได้เลย
เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาแล้ว จะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการบอกให้ตรงไปอีก ให้ขับตรงไปตามป้ายโฆษณาได้เลย
เมื่อขับมาได้ประมาณ 650 เมตรแล้ว จะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการบอกให้เลี้ยวซ้าย ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายตามป้ายได้เลย
เลี้ยวซ้ายตามป้ายโฆษณาโครงการ เพื่อเข้าสู่ซอยเพชรเกษม 93
ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ของโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ที่บอกให้เลี้ยวซ้าย
เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยเพชรเกษม 93 แล้ว ให้ตรงเข้าไปตามซอยได้เลย
เมื่อเข้ามาตามซอยเพชรเกษม 93 มาเรื่อยๆ แล้ว จะพบกับป้ายโฆษณาของโครงการที่บอกให้เลี้ยวซ้ายอีกที
ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรอื่นครับ นอกจากป้ายที่จะบอกว่าเราได้มาถึงตัวโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 แล้วครับ
ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ตัวโครงการได้เลยครับ
แล้วเราก็มาถึงโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 กันแล้วนะครับ จะพบว่ามีป้ายโครงการขนาดใหญ่อยู่ตั้งแต่หน้าโครงการเลย ตั้งเด่นเป็นสง่ากันเลยทีเดียว ในส่วนต่อไป เราไปดูเกี่ยวกับตัวบ้านภายในโครงการกันต่อเลยดีกว่าครับ
รีวิวบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม Neo Classic I
“ แบบใหม่ สไตล์ยุโรป อารมณ์บ้านเดี่ยว ”
แบบบ้าน Neo Classic I ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์คลาสสิค หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 86 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้าง และสามารถจอดรถได้ 1 คัน ตัวบ้านมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบในสไตล์คลาสสิค จึงทำให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในยุโรปช่วงยุคสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิค ในศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว
แบบบ้าน Neo Classic I ตามแบบแปลนชั้น 1 มีรายละเอียดดังนี้ ประตูรั้วหน้าบ้าน แบบล้อเลื่อนบานพับ 2 ตอน พื้นที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่เปล่าหน้าบ้าน ระเบียงหน้าประตู โซนรับแขก-นั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง (ต่อเติมเป็นครัว)
ภายนอกเลือกใช้สีของผนังภายนอก 2 เฉดสี มีสีเหลืองแก่ และสีครีมเหลือง แต่จะมีสีน้ำตาลเข้มของบัวใต้หลังคาตัดกับสีของผนังบ้าน ในการตกแต่งมีการเลือกใช้คิ้วบัวปูนปั้น สไตล์โรมัน & วินเทจ ที่ระเบียงหน้าต่างด้านบน 1 จุด และที่ประตูทางเข้าตัวบ้าน มีการเล่นลวดลายพื้นผิวผนังภายนอกบริเวณห้องนอนใหญ่ เลือกใช้ลายแบบผนังอิฐทำให้เกิดความคลาสสิคเพิ่มขึ้น เมื่อมองจากภายนอก ในส่วนของโถงใต้หลังคาของแบบบ้านแบบนี้จะมีความสูงโปร่งในแบบมาตราฐานของพฤกษาเช่นเคย จึงทำให้ติดฉนวนกันความร้อนได้ง่าย การติดฉนวนกันความร้อนก็ให้เลือกแบบที่หนา 75 มม. ขึ้นไป จะช่วยสะท้อนความร้อนได้มากถึง 95% เลยทีเดียว
ประตูทางเข้าตัวบ้านแต่งโดยใช้คิ้วบัวปูนปั้น สไตล์โรมัน & วินเทจ ประตูบานเลื่อนเลือกใช้
ประตูอลูมิเนียมกรอบสีดำ เป็นประตูแบบบานสไลด์ 1 บาน ส่วนกระจกเลือกใช้เป็นกระจกสีชา เช่นกันกับหน้าต่างทุกบานก็จะเลือกใช้วัสดุและสี แบบเดียวกันทั้งหมด จะมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นมาคือที่หน้าต่าง 1 บานจะมีการแต่งเพิ่มเติมในเรื่องของระเบียงเล็กๆ ถึงแม้จะออกไปไม่ได้แต่ก็ยังสามารถจัดวางต้นไม้เล็กได้ 2-3 ต้น แนะนำให้เสริมเพิ่มเติมด้วยโมบายกระดิ่งลมสวย หรือกังหันไม้ก็จะเข้ากันสีของบ้านได้เป็นอย่างดี เพื่อให้บ้านดูเข้ากับธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกได้
พื้นที่เปล่าหน้าประตูจะมีไว้สำหรับการตกแต่งสวนเล็กๆได้ หรือจะปูกระเบื้องเต็มพื้นที่ไปถึงหน้าประตูบานเลื่อนก็ได้ สีของพื้นกระเบื้องภายนอกใช้เป็น 2 เฉดสี มีสีเทาตัดกับสีขาว
และมีหินกรวด Charcoal ที่แนวบัวของผนัง ตัดกันได้อย่างลงตัวทำให้บ้านดูไม่เรียบมากจนเกินไปสวยเล่นลายได้ดี
เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้าน จะพบกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดรถได้ 1 คัน หรือถ้าหากว่าผู้ซื้อไม่มีรถ ก็สามารถดัดแปลงให้กลายเป็นสวน เป็นพื้นที่สำหรับนั่งจิบชา กาแฟ โดยการปูหญ้าเทียม และจัดสวนอีกสักเล็กน้อย ก็ได้เช่นกัน
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้ว ก็จะพบกับโซนรับแขกกันก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ ที่ถูกประดับตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิค การตกแต่ง เน้นการใช้สีโทนสว่างอย่างสีขาว ทำให้ภายในโซนรับแขกดูกว้างขึ้น ภายในโซนรับแขก มีความโดดเด่น และสะดุดตามากขึ้นด้วยการ Built-In ชุดตู้ และชั้นวางโทรทัศน์เข้าไปด้วย แต่ถึงแม้ว่าภายในโซนรับแขกจะประดับด้วยสีขาวเป็นหลัก ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวโซนรับแขกจะดูเรียบ และจืดชืดเกินไป เพราะภายในโซนรับแขก ได้มีการติดบัวประดับผนังด้วย ทำให้ผนังภายในบ้านที่เป็นสีขาว ดูมีมิติมากขึ้น และการเลือกใช้ชุดโซฟาสีน้ำเงิน ก็ช่วยดูดกลืนแสงให้มีความพอดี ไม่สว่างเกินไปอีกด้วย
“ ภายในมีพื้นที่ | กว้าง | โล่ง | ตกแต่งได้อย่างอิสระ ”
พื้นที่ภายในตัวบ้านจากโซนรับแขก ไปถึงโซนรับประทานอาหาร สามารถตกแต่งด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตู้โชว์ขนาดใหญ่ หรือเลือกใช้ฉากไม้กั้นโซนมาจัดแบ่งโซนก็ได้เช่นกัน แถมราคาประหยัดมากด้วย จะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หรือฉากกั้นก็ได้ ซึ่งควรนำมาใช้ในการกั้นพื้นที่รับแขก กับโซนรับประทานอาหาร เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวในเวลาที่มีแขกมาหาที่บ้าน
เดินถัดเข้ามาจากโซนรับแขก จะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่ถูกจัดมาในสไตล์คลาสสิค สามารถเพิ่มที่นั่งรับประทานอาหารได้สูงสุดถึง 5 ที่นั่ง รอบๆโซนรับประทานอาหารได้ถูกตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์สีเทาอ่อน และรูปวาดแขวนติดผนัง เพิ่มความคลาสสิคเข้าไปอีก
“ ผนังกั้นแนวบันได ของใหม่ที่คุ้นเคย ”
ผนังกั้นแนวบันไดอาจจะดูแปลกตา แต่ก็เป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะหลายโครงการมักใช้ทำเพื่อกั้นแนวบันไดกลางบ้าน ทำให้ไม่สะดุดตาในระหว่างที่ใช้โซนรับประทานอาหารนั้นเอง
“ มุมเล็กๆ ทำเคาน์เตอร์บาร์ 2 ที่นั่ง ”
พื้นที่ส่วนนี้ยังมีความกว้างมากเพียงพอ เลือกทำเป็นโซนมินิบาร์ก็ได้ ทำเคาน์เตอร์มินิบาร์ขนาด 2 ที่นั่ง และใช้เก้าอี้นั่งมินิบาร์ 2 ตัวก็ดูลงตัวพอดี ได้บรรยากาศดื่มสังสรรค์และพูดคุยกัน ช่วยเพิ่มให้มีฟังก์ชั่นหลากหลายมากขึ้น เหมาะกับช่วงเวลารับประทานอาหารของครอบครัวได้
ช่องเก็บของกลางบ้าน โครงการตกแต่งทำเป็นประตูบานเปิด-ปิด ใช้วัสดุเป็นไม้ นำมาตกแต่งเพื่อให้ดูสวยงาม หลายคนอาจเลือกใช้เป็นตู้เก็บของ หรือจะทำเป็นตู้หนังสือสำหรับเก็บหนังสือน่าอ่าน หนังสือเก่าที่ชอบ หากจะทำเป็นตู้หนังสือก็อาจจะต้องใช้ชั้นวางติดผนังมาใช้งานด้วย
ถัดไปจากโซนรับประทานอาหาร จะมีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ เลือกใช้กระจกเป็นสีขาวใส เปิดออกไปจะเป็นพื้นที่หลังบ้านด้านนอก ส่วนในแบบบ้านตัวอย่างนี้โครงการได้ต่อเติมเพิ่มหลังคาด้านหลังบ้าน กั้นผนังทำเป็นให้เป็นห้องครัวแบบปิด
ภายในห้องครัว การตกแต่งจากโครงการ จะเป็นการครัวแบบเมืองนอก มี Built-In ตู้เก็บของ ชั้นวางต่างๆ พร้อมตัวเคาน์เตอร์แบบยาวตามแนวผนังของพื้นที่ด้านหลัง ตู้บานเปิด-ปิดที่เลือกใช้ทั้งหมดจะเป็นวัสดุไม้เทียมผิวเรียบสีขาว และ TOP หินเคาน์เตอร์ใช้เป็นหินแกรนิตสีดำ มาพร้อมกับเตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน และซิงค์ล้างจานมาครบครัน ผู้ซื้อสามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งทำครัวหลังบ้านได้
แบบบ้านที่ทางโครงการมีให้เลือก จะไม่มีการต่อเติมครัวหลังบ้านไว้ให้ ผู้ซื้ออาจจะต้องต่อเติมเพิ่มเข้ามาเอง เพื่อให้มีพื้นที่ภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่มีความรู้เรื่องของการต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์เฮ้าส์ ลองมาอ่านรีวิวเกี่ยวกับการ ต่อเติมครัวด้านหลังทาวน์เฮ้าส์ มีเคาน์เตอร์ครัวสวยๆ พร้อมบาร์นั่งชิล โดยรีวิวนี้อาจจะใช้เป็นเกร็ดความรู้เพิ่มเติมได้ เพื่อใช้ต่อเติมบ้านของตัวคุณได้เป็นอย่างดี
ห้องครัวโซนหลังบ้าน ด้านข้างส่วนหนึ่งออกแบบให้มีโซนซักล้าง แยกออกมาซึ่งสามารถใช้ในการซักล้าง ตากผ้าก็ยังทำได้เพราะเลือกใช้หลังคาโปร่งแสงรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ด้านหลังบ้าน บริเวณโซนซักล้างจะมีช่องเก็บของเล็กๆ ที่สามารถเก็บได้ทั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน และอุปกรณ์งานสวน
แนวกำแพงสูง ด้านหลังบ้านทางโครงการก่อกำแพงสูง 2 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง พร้อมกับลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย ผู้ซื้อสามารถต่อเติมเพิ่มโครงหลังคาได้เลย สามารถตกแต่งเพิ่มเติมปรับให้เป็นโซนซักล้างหรือโซนครัวหลังบ้าน จะเลือกเป็นแบบครัวเปิดโล่ง หรือครัวปิดทึบก็ได้เช่นกัน ด้านหลังของบ้านจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น
บ่อดักไขมัน : บ่อดักไขมันสามารถกำจัดไขมันที่สะสมภายในครัวเรือนได้มาก ช่วยทำให้ท่อระบายน้ำหายอุดตันจากครัวได้
บ่อบำบัดน้ำเสีย : ช่วยกรองของเสียและสิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะทำการปล่อยลงสู่ระบบสาธารณะ
บ่อพักระบายน้ำทิ้ง : บ่อพักน้ำเพื่อระบายน้ำทิ้ง มีไว้สำหรับพักน้ำจากท่อน้ำทิ้งของบ้านทั้งหมด และส่งน้ำออกไปที่ท่อระบายน้ำใหญ่
กลับเข้ามาในบ้านกันต่อ ไปดูกันที่ห้องน้ำชั้น 1 หลายท่านอาจจะดูแปลกตากับฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องน้ำชั้น 1 ของแบบบ้านหลังนี้ เพราะว่าอ่างล้างหน้า และกระจกเงาบานใหญ่ อยู่ภายนอกห้องน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ จะอยู่ภายในตัวห้องน้ำไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน ทำให้มีความสะดวกต่อการใช้งานที่มากขึ้น ก็คือ ถ้ามีใครเข้าห้องน้ำอยู่ ใครที่ต้องการล้างมือ แต่งหน้า ทำผมต่างๆได้โดยไม่ต้องรอคนเข้าห้องน้ำเลย สะดวกมากๆ
การตกแต่งภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้กระเบื้องสีขาวที่มีลวดลายตารางนูน ตัดสีขาวด้วยกระเบื้องสีเทา ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกับอ่างล้างหน้าเป็น Cotto เหมือนกัน ส่วนฝักบัวเลือกใช้ยี่ห้อ Prema ในการออกแบบห้องน้ำเน้นให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับสไตล์ของคนรุ่นใหม่
บันไดทางขึ้นสู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน จะอยู่ใกล้กับตัวห้องน้ำชั้น 1 บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะไม่มีราวจับที่ช่วงขั้นแรก เพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น ส่วนขั้นบันไดเลือกใช้ไม้พื้นบันไดสำเร็จรูป ลักษณะของแนวบันไดจะเป็นตัว U เดินขึ้นลงสะดวกมาก
“ พื้นที่ผนังมาก ตกแต่งกรอบรูป ได้เยอะเว่อร์!! ”
บริเวณโถงบันได จะมีช่องแสงจากด้านหลังบ้าน รับแสงได้ ทำให้บริเวณบันไดมีความสว่างช่วยประหยัดไฟ โถงบันไดมีความสูงโปร่ง โล่งสบายตา ด้วยความที่สูงโปร่งมากทำให้แสงเข้าถึงไปมาก เวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็สว่างมากๆ แต่โถงบันไดจำเป็นต้องติดโคมไฟเพื่อการใช้งานในเวลากลางคืน ในส่วนของผนังของโถงบันไดจะมีพื้นที่มาก สามารถนำรูปภาพต่างๆ มาตกแต่งเพิ่มความสวยงามได้
หากว่าใครที่ยังไม่มีไอเดียในการตกแต่งผนัง แนะนำให้ลองอ่านเพื่อใช้เป็นไดเดียเก๋ๆได้
คลิกอ่านบทความนี้ >> วิธีการวางเลเอาท์กรอบรูปติดผนัง ให้ดูดีมีงานศิลป์
บริเวณโถงชั้น2 ของแบบบ้านนี้จะไม่กว้างมาก เรียกว่าเดินขึ้นมาชั้น2 ก็เดินเข้าห้องนอนเลย
เหตุผลที่พื้นที่โถงชั้น2 ไม่กว้างมากเนื่องจากออกแบบเพื่อให้มีห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีความกว้างเพิ่มขึ้น เพราะทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะมี 3 ห้องนอน แต่แบบบ้านหลังนี้มี 2 ห้องนอนเท่านั้น จึงทำให้ห้องนอนเป็นห้องนอนที่กว้างมากกว่าแบบบ้านอื่นๆทั่วไป ประตูทางเข้าจะมีทางซ้าย และทางขวา โดยทางขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่ และทางซ้ายเป็นห้องนอนที่2 การตกแต่งพื้นชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม
ระบบไฟฟ้าภายในบ้านจะใช้ระบบเดินสายไฟร้อยท่อฝังเฉพาะผนัง มีการแยกเบรกเกอร์ชั้นบนกับชั้นล่างด้วย ส่วนตัวกล่อง กับเบรกเกอร์ ทางโครงการได้ใช้ของมีคุณภาพจากยี่ห้อ Siemens นะครับ คุณภาพแน่นอน
แบบแปลนชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัว ห้องนอนที่2 และห้องน้ำกลาง
เริ่มกันที่ ห้องนอนใหญ่ ถูกตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิค ใช้โทนสีขาวเป็นหลักในการตกแต่ง ซึ่งจะทำให้ตัวห้องดูสว่าง โปร่ง โล่งสบาย ผนังด้านหัวเตียงมีการติดกระจกเพื่อให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกว่าตัวห้องกว้างมากยิ่งขึ้น มีการประดับเส้นบัวบนผนัง เพื่อให้การตกแต่งภายในตัวห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และตัวห้องยังสว่างมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกบานเลื่อนที่มีมากถึง 3 บาน ที่จะช่วยรับแสงสว่างในเวลากลางวัน และถ่ายเทอากาศให้สะดวกมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ภายในห้องนอนใหญ่นั้น มีความยาวขนานไปกับตัวบ้าน ซึ่งทำให้สามารถกั้นเป็นโซนแต่งตัวเพิ่มเติมขึ้นมาได้อีก ซึ่งโซนแต่งตัวนี้ ได้ Built-In ทั้งตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปด้วย ซึ่งจะมีกระจกใสกั้นระหว่างโซนนอน และโซนแต่งตัวนี้ออกจากกัน และจากภายในโซนแต่งตัวนี้ ยังสามารถเดินเข้าไปสู่ห้องน้ำได้อีกด้วย ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำไอเดียการกั้นโซนนอน และโซนแต่งตัว ไปประยุกต์ใช้สำหรับบ้านของตัวเองเพื่อเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งานที่หลากหลายขึ้นได้
ห้องนอนใหญ่ จะมีประตูเข้า-ออกห้อง และประตูห้องน้ำ อยู่ด้านเดียว แต่แนวประตูไม่ตรงกัน ประตูทางเข้าห้องจะยื่นออกไปทางโถงชั้น2 ทำให้พื้นที่ตรงโซนเตียงนอนกว้างมากขึ้น มีการใช้ผนังกั้นออกมาจากแนวผนังอีกประมาณ 90 ซม. เพื่อทำเป็นโซนแต่งตัวภายในห้องนอนใหญ่
“ ใช้ม่านโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติ ”
โซนแต่งตัว โซนนี้จะมีหน้าต่างทรงแนวตั้งเพื่อใช้รับแสงแดดในยามเช้า และมีระเบียงเล็กๆ ด้านนอกที่ออกไปไม่ได้ ช่องหน้าต่างออกแบบให้อยู่ในโซนแต่งตัวเพราะไม่ต้องใช้ไฟในช่วงเช้า ถ้าต้องการใช้แสงธรรมชาติก็ไม่ต้องติดม่านแบบทึบก็ได้ใช้ม่ายแบบโปร่งแสงเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในโซนนี้ได้อย่างเพียงพอ
เรามาต่อกันที่ ห้องนอนที่2 ทางโครงการได้เลือกใช้การตกแต่งแบบคลาสสิคเช่นกันกับห้องนอนใหญ่ เน้นการตกแต่งด้วยสีเทาอ่อนเป็นหลัก และด้านหัวเตียงมีการติดกระจกสะท้อน เพื่อทำให้ห้องรู้สึกกว้างขึ้นอีกด้วย และยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในห้อง และเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย
ห้องนอนที่2 ออกแบบให้มีตู้เสื้อผ้า และตู้กระจกแต่งหน้าอยู่ติดผนัง ด้านข้างของเตียงนอน เป็นการเลือกใช้พื้นที่ได้อย่างเพื่อให้สะดวกใช้งาน
ห้องนอนที่2 จะมีประตูเข้า-ออก และประตูห้องน้ำ อยู่ด้านเดียวกัน และแนวระดับเดียวกันด้วย ปลายเตียงไม่มีพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว หากต้องมีทีวี ก็ใช้แบบขาแขวนติดผนังจะสะดวกมากกว่า มีปลั๊กเสียบ พร้อมกับสายเสาอากาศมาไว้พร้อมใช้งาน
ห้องน้ำชั้น2 จะอยู่ระหว่างห้องนอนใหญ่ กับห้องนอนที่2 ซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ ห้องน้ำชั้น2 จะดูแปลกตาไปจากแบบเดิมๆที่เคยทำรีวิวทาวน์โฮม มีการออกแบบให้มีฟังก์ชั้นการใช้งานที่ชัดเจน แยกส่วนการใช้งานอย่างลงตัว อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานร่วมกัน ในส่วนของการตกแต่งดูหรูมีสไตล์ มีเลือกใช้ กระเบื้องหินอ่อน เข้ามาทำเป็นผนังหนังน้ำในโซนอาบน้ำ และโซนโถสุขภัณฑ์
ในห้องน้ำจะมีพัดลมดูดอากาศ ที่ช่วยระบายกลิ่นต่างๆ ภายในห้องน้ำมาให้ด้วย
“ ห้องน้ำรวม จัดแบ่งพื้นที่ สะดวกต่อการใช้งาน ”
ออกแบบให้มีฟังก์ชั้นการใช้งานที่แยกส่วนการใช้งานชัดเจน เช่น อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ ในส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกับอ่างล้างหน้าเป็น Cotto เหมือนกัน และส่วนฝักบัวเลือกใช้ยี่ห้อ Prema
รีวิวบ้านตัวอย่าง Neo Classic I มุมมองแบบ 360º
เพราะแบบบ้าน Neo Classic I คือแบบบ้านใหม่ล่าสุดของพฤกษาวิลล์ เราจึงให้ความสำคัญกับแบบบ้านใหม่นี้ ด้วยการจัดทำภาพแบบมุมมอง 360º มาให้ทุกท่านได้ชมกัน เสมือนว่ากำลังเดินชมอยู่ในบ้านจริงๆ เลยทีเดียวครับ ว่าแล้วก็ไปชมภาพแบบมุมมอง 360º กันเลยดีกว่าครับ
รีวิวบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม Neo Classic II
แบบบ้าน Neo Classic II ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์คลาสสิค หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 98 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน พื้นที่ซักล้าง และสามารถจอดรถได้ 1 คัน ตัวบ้านนอกจากจะมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบในสไตล์คลาสสิคที่จะทำให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในยุโรปช่วงยุคสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิค ในศตวรรษที่ 18 แล้ว ยังมีจุดเด่นที่ห้องนอนที่เพิ่มขึ้น สามารถตอบโจทย์สำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นไปอีกได้
แบบบ้าน Neo Classic II ตามแบบแปลนชั้น 1 มีรายละเอียดดังนี้ ประตูรั้วหน้าบ้าน แบบล้อเลื่อนบานพับ 2 ตอน พื้นที่จอดรถ 1 คัน พื้นที่เปล่าหน้าบ้าน ระเบียงหน้าประตู โซนรับแขก-นั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ซักล้างด้านหลัง (ต่อเติมเป็นครัว)
ประตูทางเข้าตัวบ้าน ทางโครงการได้เลือกใช้เป็นประตูอลูมิเนียมอบสีดำ เป็นประตูบานสไลด์ 1 บาน และบานตาย 1 บาน ส่วนกระจก เลือกใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง พื้นที่หน้าประตูบ้านสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดสวนเล็กๆ ได้ มีการเล่นมิติแนวนูน แนวลึกด้วยแนวบัวรอบประตู ทำให้บริเวณหน้าบ้านมีความคลาสสิค และดูไม่เรียบจนเกินไป
ภายนอกก็จะมีการตกแต่งเหมือนกันกับแบบบ้านหลังแรก ต่างกันที่การเลือกใช้สี โดยที่เลือกใช้สีของผนังภายนอกหลักๆมี 2 โทนสี มีสีครีมน้ำตาลอ่อน และสีครีมเหลืองอ่อน เพิ่มลายด้วยการเลือกใช้สีขาวตัดลายเพื่อให้ดูมีลวดลายที่สวยงาม และยังมีการใช้สีขาวที่บัวใต้หลังคา กับคิ้วบัวปูนปั้น สไตล์โรมัน & วินเทจ ที่ระเบียงหน้าต่างด้านบน 1 จุด และที่ประตูทางเข้าตัวบ้าน มีการเล่นลวดลายพื้นผิวผนังภายนอกบริเวณห้องนอนใหญ่ เลือกใช้ลายแบบผนังอิฐทำให้เกิดความคลาสสิคเพิ่มขึ้น เมื่อมองจากภายนอก ในส่วนของโถงใต้หลังคาของแบบบ้านแบบนี้จะมีความสูงโปร่งในแบบมาตราฐานของพฤกษาเช่นเคย
ประตูทางเข้าตัวบ้านเพิ่มลวดลาย ตกแต่งโดยใช้คิ้วบัวปูนปั้น สไตล์โรมัน & วินเทจ เช่นกัน ประตูบานเลื่อนเลือกใช้ประตูอลูมิเนียมอบขาว เป็นประตูแบบบานสไลด์ 1 บาน ส่วนกระจกเลือกใช้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เช่นกันกับหน้าต่างทุกบานด้านหน้า-หลัง ก็จะเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมอบขาว แบบเดียวกันทั้งหมด จะมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นมาคือที่หน้าต่าง 1 บานจะมีการแต่งเพิ่มเติมในเรื่องของระเบียงเล็กๆ ถึงแม้จะออกไปไม่ได้แต่ก็ยังสามารถจัดวางต้นไม้เล็กได้ 2-3 ต้น ตกแต่งเสริมเพิ่มเติม ด้วยต้นไม้พันธ์ไม้เลื้อยที่ออกดอกสีสันสวยงาม ก็จะทำให้สีสันของดอกไม้ตัดกับสีของตัวบ้านได้ เลือกใช้สีสันของดอกไม้ ทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น
พื้นที่เปล่าหน้าประตูจะมีไว้สำหรับการตกแต่งสวนเล็กๆได้ หรือจะปูกระเบื้องเต็มพื้นที่ไปถึงหน้าประตูบานเลื่อนก็ได้ หากใครที่กำลังมองหาไอเดียในการทำสวน พื้นที่น้อยแบบทาวน์เฮ้าส์ ทาวโฮมแล้วล่ะก็ลองอ่านบทความนี้ดู พื้นที่ข้างบ้านพอมีก็จัดสวนได้เหมือนกัน ลองใช้เป็นไอเดียในการทำสวนพื้นที่จำกัดได้ครับ
เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้าน จะพบกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดรถได้ 1 คัน พื้นที่ตรงโรงจอด จะมีความลึกมาถึงกลางบ้านจึงทำให้มีพื้นที่สำหรับติดตู้แขวนได้ 2-3 ตู้เพื่อใช้เก็บอุปกรณ์เครื่องต่างๆ เช่น อุปกรณ์ล้างรถ เครื่องมือซ่อมรถ เป็นต้น
ที่เก็บของโรงจอดรถ ยังมีช่องสำหรับใช้เก็บของ ซึ่งสามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดรถ อุปกรณ์ซ่อมแซมรถ หรืออุปกรณ์งานสวนได้อีกด้วย
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้ว จะพบกับโซนรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งมีการประดับผนังด้วยแนวบัวสีขาว และวอลล์เปเปอร์สีครีม ที่จะช่วยทำให้ดูสบายตามากยิ่งขึ้น ไม่สว่างมากเกินไป ใช้โซฟาสีขาว เพื่อให้ภายในโซนรับแขกดูสว่างมากยิ่งขึ้น และผ้าม่านสีน้ำตาลเข้ม ที่จะช่วยทำให้ดูมีความนุ่มนวล และคลาสสิคมากยิ่งขึ้น
เดินผ่านโซนรับแขกมา จะพบกับโซนรับประทานอาหาร ที่ใช้โต๊ะรับประทานอาหารสีดำ และเก้าอี้สีขาว สามารถเพิ่มที่นั่งได้สูงสุดถึง 6 ที่นั่ง บริเวณรอบๆโซนรับประทานอาหาร ได้ตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์สีเหลืองอ่อน ทำให้ดูนวลตามากๆ และประดับด้วยกรอบรูปด้วยรูปแผนที่โบราณ ด้านบนของโต๊ะรับประทานอาหารประดับด้วยโคมไฟติดเพดานในสไตล์คลาสสิค ทำให้ภายในบริเวณโซนรับประทานอาหารมีความคลาสสิคมากๆ ดูเหมือนกับกำลังรับประทานอาหารในย่านฌ็องเซลิเซ่เลยทีเดียว
แบบบบ้านหลังนี้ จะสังเกตเห็นว่าใกล้ๆ กับโซนรับประทานอาหารจะมีห้องเพิ่มเข้ามา ซึ่งมีการติดตั้งประบานเลื่อน และเลือกใช้ผนังเป็นกระจกกั้นทำเป็นห้องขึ้นมาอีกห้องหนึ่ง ซึ่งห้องนี้ได้ออกแบบมาให้ห้องอเนกประสงค์นั้นเอง
ห้องอเนกประสงค์ ไม่ต้องห่วงแบบบ้านหลังนี้มีติดตั้งมาให้เรียบร้อยทุกหลังพร้อมใช้งาน สะดวกมากจริงๆ เรียกได้ว่าออกแบบมาให้ใช้เป็นห้องต่างๆได้หลากหลายแบบ เช่น ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ห้องอ่านหนังสือ ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังส่วนตัว ทำเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ แบบจัดเต็มก็สะบายมาก
ถัดมาจากโซนรับประทานอาหาร จะพบกับห้องครัว ประตูห้องครัวจะเป็นแบบบ้านเปิด-ปิด ประตูเลือกใช้วัสดุเป็น ประตูไม้สังเคราะห์ WPC และเมื่อเปิดออกไปจะเป็นพื้นที่หลังบ้านด้านนอก เช่นกันกับแบบบ้านหลังแรกโครงการได้ต่อเติมเป็นห้องครัวใหญ่ มีการเพิ่มหลังคาด้านหลังบ้าน กั้นผนังทำเป็นให้เป็นห้องครัวแบบปิด ติดตั้งอุปกรณ์ทำครับมาอย่างครบคัน
ภายในห้องครัว การตกแต่งจากโครงการ จะเป็นการครัวแบบเมืองนอก มี Built-In ตู้เก็บของ ชั้นวางต่างๆ พร้อมตัวเคาน์เตอร์แบบยาวตามแนวผนังของพื้นที่ด้านหลัง ตู้บานเปิด-ปิดที่เลือกใช้ทั้งหมดจะเป็นวัสดุไม้เทียมผิดเรียบสีขาว และ TOP หินเคาน์เตอร์ใช้เป็นหินแกรนิตสีดำ มาพร้อมกับเตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน และซิงค์ล้างจานมาครบครัน ซึ่งการออกแบบตัวเคาน์เตอร์ครัวนี้ ก็ทำให้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การล้างทำความสะอาดเครื่องครัว การประกอบอาหาร การจัดเตรียมอาหาร เป็นต้น
จากห้องครัว เดินเลี้ยวซ้ายมา จะพบกับโซนซักล้าง ซึ่งสามารถใช้ในการซักล้าง ทำความสะอาดเสื้อผ้า และจัดวางเครื่องซักผ้าได้
พื้นที่ภายในโซนซักล้าง จะมีหลังคาโปร่งแสง ซึ่งจะช่วยทำให้ภายในโซนซักล้างมีความสว่างมากขึ้นไปอีก และประหยัดไฟได้มากขึ้น
แนวกำแพงสูง ด้านหลังบ้านทางโครงการก่อกำแพงสูง 2 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง พร้อมกับลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย ผู้ซื้อสามารถต่อเติมเพิ่มโครงหลังคาได้เลย สามารถตกแต่งเพิ่มเติมปรับให้เป็นโซนซักล้างหรือโซนครัวหลังบ้าน จะเลือกเป็นแบบครัวเปิดโล่ง ครัวปิดทึบก็ได้เช่นกัน ด้านหลังของบ้านจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้วเช่น
บ่อดักไขมัน : บ่อดักไขมันสามารถกำจัดไขมันที่สะสมภายในครัวเรือนได้มาก ช่วยทำให้ท่อระบายน้ำหายอุดตันจากครัวได้
บ่อบำบัดน้ำเสีย : ช่วยกรองของเสียและสิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะทำการปล่อยลงสู่ระบบสาธารณะ
บ่อพักระบายน้ำทิ้ง : บ่อพักน้ำเพื่อระบายน้ำทิ้ง มีไว้สำหรับพักน้ำจากท่อน้ำทิ้งของบ้านทั้งหมด และส่งน้ำออกไปที่ท่อระบายน้ำใหญ่
ทางโครงการจะมีถังดับเพลิงแถมมาให้บ้านทุกหลังด้วยครับ หลังละ 1 ถัง เลือกว่าจะติดตั้งที่ผนังก็ได้ หรือรับแค่ถังอย่างเดียวก็ได้ การมีถังดับเพลิงก็ดีกว่าไม่มีน่ะครับ ทำให้ตัวบ้านมีความปลอดภัยจากเหตุการณ์อัคคีภัยมากยิ่งขึ้น
ห้องน้ำชั้น1 จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องอเนกประสงค์ และบันไดทางขึ้น-ลง ซึ่งก็เหมือนกันกับแบบแรก ตัวอ่างล้างหน้า จะแยกออกมาจากตัวห้องน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ ออกแบบให้ไม่อยู่ในห้องเดียวกัน ทำให้มีความสะดวกต่อการใช้งานที่มากขึ้น เพราะถึงแม้จะมีใครใช้ห้องน้ำอยู่ก็ สามารถใช้อ่างล้างมือที่อยู่ข้างนอกได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้คนอื่นใช้ห้องน้ำเสร็จก่อน
ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ก็ตามเดิมโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกับอ่างล้างหน้าเป็น Cotto เหมือนกัน ส่วนฝักบัวเลือกใช้ยี่ห้อ Prema
บันไดขึ้นสู่ชั้น2 ของตัวบ้าน จะอยู่ช่วงกลางของตัวบ้าน แต่ก็จะมีช่องแสงบริเวณบันไดช่วงแรก แนวบันไดมีลักษณะเป็นตัว L โดยที่ช่วงขั้นแรกจะชันกว่าแบบแรก และไม่มีราวจับเพื่อทำให้ทางเดินขึ้นดูกว้างมากขึ้น ขั้นบันไดเลือกใช้ไม้พื้นบันไดสำเร็จรูป แบบเดียวกันกับแบบบ้านหลังแรก
ที่บริเวณบันไดช่วงขั้นแรก จะมีหน้าต่างแนวนอนที่เป็นช่องแสง ซึ่งนอกจากจะใช้ในการรับแสงสว่างในบริเวณบันไดได้แล้ว ยังสามารถใช้ในการมองผ่านไปยังหน้าบ้านได้อีกด้วย
“ หลังคาโปร่งแสง แผ่นใหญ่รับแสงธรรมชาติได้ดี ”
ที่โถงบันไดทางขึ้นชั้น2 ของบ้าน จะมีช่องแสงใต้หลังคาให้แสงลอดผ่านได้ มีการออกแบบให้สวยงาม มีมิติ ด้วยการทำเป็นช่องแบบเว้านำสายตาเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไป ทำให้ช่องแสงเป็นช่องแสงที่ดูสวยงาม เนียนตา และเพราะเป็นแผ่นหลังคาโปร่งแสงอะคริลิค ขนาดใหญ่แสงจึงลอดผ่านได้ดีกว่า ทำให้บริเวณโถงบันไดของบ้านดูสว่างในช่วงเวลากลางวัน และสามารถประหยัดไฟได้อีกด้วย
โถงชั้น2 จะมีพื้นที่ีกว้างกว่าแบบแรก โดยที่ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนที่2 และห้องนอนที่3 ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลาง ประตูทางเข้าห้องน้ำจะใกล้กับประตูห้องนอนใหญ่ ในส่วนของพื้นที่ชั้น2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นพื้นห้องน้ำ ที่ปูด้วยพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีครีม
ระบบไฟฟ้าภายในบ้านจะใช้ระบบเดินสายไฟร้อยท่อฝังเฉพาะผนัง มีการแยกเบรกเกอร์ชั้นบนกับชั้นล่าง ส่วนตัวกล่อง กับเบรกเกอร์ ทางโครงการได้ใช้ของมีคุณภาพจากยี่ห้อ Schneider นะครับ
จุดติดตั้งอินเตอร์เน็ต เครื่องเราเตอร์ สัญญาณ WiFi
ด้านบนตู้ควมคุมไฟฟ้า จะเป็นพื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาน WiFi อินเตอร์เน็ต หรือจะใช้ติดตั้ง Access Point ตัวกระจายสัญญาณ WiFi ก็ได้ เพื่อให้ช่วยกระจายสัญญาน Wifi ในพื้นที่ชั้น 2 ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง WiFi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเราเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »
ถ้าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ wifi ยังแรงไม่ถึงใจ ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ » ลองอ่านดูครับ รับรอง WiFi ลื่นหัวแตกไม่มีหัวร้อนแน่นอน
แบบแปลนชั้น2 มีรายละเอียดดังนี้ ห้องนอนใหญ่ โซนแต่งตัว ห้องนอนที่2 ห้องนอนที่3 และห้องน้ำกลาง
ห้องนอนใหญ่ ตกแต่งในสไตล์คลาสสิค เลือกใช้โทนสีขาว และสีครีมในการตกแต่งห้อง ทำให้ภายในตัวห้องมีความสว่างมากยิ่งขึ้น ผนังมีการประดับด้วยคิ้วบัวผนังเพื่อให้ได้ลวดลายสวยงาม ทำให้ภายในห้องดูมีมิติ และรู้สึกโปร่ง โล่งสบายมากยิ่งขึ้นด้วย ภายในห้องมีการแบ่งกั้นระหว่างโซนนอน และโซนแต่งตัวอย่างชัดเจน ผนังด้านโซนนอนมีหน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บานทำให้ภายในโซนนอนนี้ มีความสว่างมาก และสามารถเปิดหน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น
ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีความยาวมาก สามารถจัดแบ่งโซนต่างๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งโซนนอน และโซนแต่งตัว ซึ่งในห้องนอนใหญ่นี้ ได้มีการแยกโซนแต่งตัวภายในห้องนอนใหญ่ออกไปอย่างชัดเจน โดยการทำฉากกั้นระหว่างโซนนอน กับโซนแต่งตัว ภายในโซนแต่งตัวนี้ ได้ Built-In ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปด้วย ซึ่งผู้ซื้อก็สามารถนำไอเดียการตกแต่งภายในไปประยุกต์ใช้กับบ้านของผู้ซื้อเองก็ได้เช่นกัน
“ ทางเข้าห้องน้ำ 2 ทาง สะดวกใช้งาน ”
ห้องน้ำชั้น 2 มีประตูที่สามารถเข้า-ออกได้ถึง 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และจากทางโถงชั้น2 ทำให้การเข้าห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ มีความสะดวกมาก ไม่ต้องเดินออกจากห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำเลย
ห้องน้ำชั้น2 การตกแต่งดูหรูหรานิดๆ มีการเลือกใช้ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ ลายหินอ่อนสีน้ำตาล ทำเป็นผนังด้านที่มีอ่างล้างหน้า และผนังที่เหลือทั้งหมดใช้เป็นกระเบื้องสีครีมแผ่นใหญ่ 60x60 เช่นกัน การตกแต่งโดยรวมเพื่อให้ตัวห้องน้ำมีมิติมากขึ้น ดูสว่าง สบายตา
เพิ่มความสะดวกมาขึ้นด้วยการติดตั้งตู้กระจกอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งานแล้วไม่ต้องติดตั้งเอง และส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกับอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าก็เป็น Cotto เหมือนกัน ส่วนฝักบัวเลือกใช้ยี่ห้อ Prema
ห้องนอนที่ 2 ถูกตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิคในโทนสีดำ ซึ่งจะช่วยดูดแสงสว่างที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ไม่ให้สว่างจ้าเกินไป และยังเพิ่มมิติของตัวห้องไม่ให้ดูเรียบ และจืดชืดจนเกินไป ด้วยการประดับเส้นบัวบนผนัง ภายในห้องสามารถรับแสงสว่างได้ด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อนภายในห้อง และยังสามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศภายในห้องนอนที่ 2 ได้อีกด้วย ภายในห้องมีความกว้าง สามารถ Built-In ตู้เสื้อผ้าเข้าไปได้แบบสบายๆ และไม่แออัดมาก
ห้องนอนที่ 3 ถูกตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์สีเทาอ่อนโทนสว่าง ทำให้ภายในห้องดูสว่างมาก และได้ประดับเส้นบัวบนผนังเข้าไปด้วย เพื่อให้ตัวห้องดูมีมิติมากขึ้น ซึ่งถ้าหากครอบครัวของผู้ซื้อมีบุตรหลานแค่คนเดียว ห้องนอนที่ 3 นี้ก็ถือว่าเหมาะแก่การจัดทำเป็นห้องพระมากๆ เพราะภายในห้องมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนถึง 2 ด้าน ทำให้ภายในห้องยิ่งดูสว่าง กว้าง โปร่ง โล่งสบายเข้าไปอีก ซึ่งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนนี้สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศได้ด้วย ซึ่งการมีหน้าต่างถึงสองด้านนี้ ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกแบบดับเบิ้ลสะดวกเข้าไปอีก ซึ่งถือว่าถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยการจัดห้องพระมากๆ เลยล่ะครับ
ลองอ่านบทความเกี่ยวกับ การจัดหิ้งพระให้เป็นสิริมงคล จัดให้เหมาะสมและเป็นมงคล
รีวิวบ้านตัวอย่าง Neo Classic II มุมมองแบบ 360º
และไม่ใช่แค่แบบบ้าน Neo Classic I เท่านั้น เราให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ด้วยการจัดทำภาพแบบมุมมอง 360º ของแบบบ้าน Neo Classic II มาให้ทุกท่านได้ชมกันด้วยเหมือนกัน เสมือนว่ากำลังเดินชมอยู่ในบ้านจริงๆ เลยทีเดียวครับ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปชมภาพแบบมุมมอง 360º กันเลยดีกว่าครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ป้ายทางเข้าโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 เป็นป้ายขนาดใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่า เห็นได้ชัดเจนแม้จากระยะไกลก็ตาม
ทางเข้าหลักของโครงการ ที่มาในสไตล์นีโอคลาสสิค ดูกว้างขวาง โอ่อ่า สวยงามดูหรูหรามาก รอบๆทางเข้าโครงการมีปลูกต้นไม้เล็ก ไม้ใหญ่ และไม้พุ่มเต็มพื้นที่ โดยลักษณะการดีไซน์ดูคล้ายแบบโรมัน ผสมวินเทจนิดๆ แต่ก็ดูหรูหรามากเลยทีเดียว นี่แค่ทางเข้าก็ทำให้รู้สึกน่าอยู่ จัดเต็มกันเลยทีเดียวน่าประทับใจจริงๆ
ช่องทางเข้าสู่โครงการมี 2 ช่องทาง เช่นเดียวกับทางออกมี 2 ช่องทางเหมือนกัน ที่มีฝั่งละ 2 ช่องทางนั้นก็เพื่อแยกผู้ติดต่อภายนอกให้แลกบัตร และช่องสำหรับใช้ Access Card ของผู้ซื้อภายในโครงการนั้นเอง รูปแบบการใช้งานทำให้การเข้า-ออกโครงการเป็นเรื่องที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้น บริเวณหน้าทางเข้าโครงการมีกล้องวงจรปิด CCTV พร้อมระบบ Auto Access Card ที่ทางเข้าหลัก และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย Security Guard พร้อมตรวจตรา และรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
Auto Access Card สิ่งที่จะทำให้ผู้ซื้อภายในโครงการ เข้า-ออกจากโครงการได้อย่างสะดวก รวดเร็วด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่นำบัตรไปแตะที่ตัวเครื่อง เพียงเท่านี้ ไม้กั้นก็จะเปิดออกให้เองโดยอัตโนมัติ สะดวกมากๆ เลยครับ
"ยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น" กับระบบกล้อง CCTV ที่จะช่วยทำให้ภายในโครงการมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปอีก
"ให้การสัญจรภายในโครงการเป็นเรื่องง่าย" ด้วยถนนหลักภายในโครงการที่กว้างถึง 16 เมตร และถนนซอยกว้าง 8 เมตร และด้วยความกว้างขนาดนี้ จึงทำให้การเข้า-ออกจากตัวบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก และด้วยความกว้างของถนน จะทำให้การสัญจรภายในโครงการไม่ใช่เรื่องยากเลยอีกด้วย
"คืนโอโซนเป็นกำไรให้ผู้ซื้อ" ด้วยสวนภายในโครงการ ที่ถูกออกแบบมาในสไตล์คลาสสิค แบบตะวันตก พร้อมด้วยสวนตารางหมากรุก และศาลา ที่นอกจากจะใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังสามารถใช้เป็นแลนด์มาร์กสำหรับถ่ายรูปแบบเก๋ๆ ชิคๆคูลๆ ได้อีกด้วย
อาคารสำนักงานขายของโครงการ ที่พร้อมให้บริการทั้งด้านข้อมูล และการซื้อ-ขาย แก่ผู้เยี่ยมชมโครงการทุกท่าน ตั้งเด่นเป็นสง่าหน้าโครงการ และภายในตัวอาคารยังมีห้องฟิตเนส ที่พร้อมให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้ซื้อภายในโครงการทุกท่านอีกด้วย
บันไดขึ้นสู่ชั้นสอง ภายในอาคารสำนักงานขาย ที่ดูสวยเก๋ในแบบเรียบๆ ซึ่งผมว่าสามารถใช้เป็นแลนด์มาร์กสำหรับถ่ายรูปได้เช่นกัน
ชั้น2 ของอาคารสำนักงานขาย จะพบห้องที่จะใช้เป็นห้องฟิตเนสของโครงการ
คลิกดูภาพแผนที่ใหญ่โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
- บิ๊กซี อ้อมใหญ่
- เซ็นทรัล ศาลายา
- เดอะมอลล์ บางแค
- เทสโก้ โลตัส สามพราน
สถานศึกษา
- โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์
- โรงเรียนนักบุญเปโตร
- โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (สามพราน)
- วิทยาลัยแสงธรรม
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- มหาวิทยาลัยมหิดล
สถานพยาบาล
- โรงพยาบาลวิชัยเวช
- โรงพยาบาลมหาชัย 2
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ
แนะนำเส้นทางจากโครงการ ไปสถานที่อื่นที่น่าสนใจ
►เส้นทางพิเศษใช้เลี่ยงรถติด ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง
ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี เป็นทางยกระดับ กว้าง 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นสะพานยกระดับ สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจร จากบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนีทั้งขาเข้าและขาออก และเพื่อแยกการจราจรของยวดยานที่ต้องการเดินทางระยะไกลออกจากยวดยานที่เดินทางในระยะใกล้
เส้นทางของสะพานตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชันบนถนนบรมราชชนนี เริ่มที่เกาะกลางจากทางแยกอรุณอมรินทร์ถึงพุทธมณฑล สาย 2 โดยขาออกจะขึ้นที่ทางแยกอรุณอมรินทร์ ลงได้ 3 จุดที่ตลิ่งชัน หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร และใกล้วงแหวนฉิมพลี ไม่มีทางขึ้นระหว่างทาง ส่วนขาเข้าขึ้นที่ต้นทางก่อนถึงพุทธมณฑล สาย 2 ขึ้นได้ที่หน้าหมู่บ้าน
กฤษดานครและตลิ่งชัน และจะไม่มีทางลงระหว่างทาง
เลือกใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ออกทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 ขับตรงไปและกลับรถเข้าทางคู่ขนานถนนบรมราชชนนี และขึ้นสะพานทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี ที่ถนนเส้นนี้ได้เลย สะพานแห่งนี้จึงเป็นสะพานที่ช่วยทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณถนนบรมราชชนนี ไปจนถึงถนนเพชรเกษม สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วมายิ่งขึ้น
►จากโครงการไป เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา (ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที)
เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ได้รับการออกแบบโดยใช้แนวคิดพฤกษศาสตร์ร่วมสมัย (contemporary botanical) โดยมีการประดับด้วยพรรณไม้ทั้งรอบนอกและภายในศูนย์การค้าเน้นกล้วยไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม ส่วนการตกแต่งได้แรงบันดาลใจจากความสวยงามของพระราชวังสนามจันทร์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดที่ตั้ง รองรับลูกค้าในย่านศาลายา พุทธมณฑล ทวีวัฒนา สถานที่ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี ระหว่างถนนพุทธมณฑล สาย 5 กับถนนพุทธมณฑล สาย 7 ติดกับไทวัสดุ ศาลายา
แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไปเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 และขับตรงไปเพื่อไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนน นฐ.4006 เลี่ยงรถติดได้
►จากโครงการไป มหาวิทยาลัยมหิดล (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที)
แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไปมหาวิทยาลัยมหิดล เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 และขับตรงไปเพื่อกลับรถแล้วเข้าถนนทางคู่ขนาน ถนนบรมราชชนนี
►จากโครงการไป โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที)
แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไป โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน เลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ขับไปอีกประมาณ 5-6 กม. ขับผ่านโลตัสสาขาสามพราน ขับไปอีก 500 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสามพราน7 และขับไปอีก 1.5 กม. ก็จะถึงโรงเรียนนายร้อย
►จากโครงการไป วัดท่าไม้ (ใช้เวลาประมาณ 15-25 นาที)
วัดท่าไม้นี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2520 ได้รับพระราชทานวิสุงคามมะสีมา เมื่อปีพุทธศักราช 2537 ปัจจุบัน ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ที่ 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในวัดมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่
แผนที่ Google Map เส้นทางจากโครงการไปวัดท่าไม้ โดยใช้เส้นทางถนนโยธาธิการ นครปฐม 2020 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหลวง นฐ.1034 ตัดเขาสู่ถนนซอย บ้านกงซีลัง ขับไปอีก 400 เมตร ก็ถึงวัดท่าไม้ ได้สติ๊กเกอร์ไปติดท้ายรถกันเลยทีเดียวครับ
สรุปการรีวิวโครงการ
►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน
ตัวบ้านภายในโครงการจะออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Neo Classic ด้วยรูปทรงที่มีความคลาสสิค เหมือนจำลองมาจากยุคสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิค ในศตวรรษที่ 18 และการตกแต่งทั้ง Exterior และ Interior Design ที่เลือกใช้ Neutral Colour หรือสีที่มีค่ากลาง เช่นสีขาว หรือสีเทาเป็นสีหลักในการตกแต่ง ทำให้โทนสีของตัวบ้านดูมีความคลาสสิคมากๆ และเพิ่มการประดับตกแต่งผนังด้วยการตกแต่งแนวขอบบัวติดผนัง เพื่อเพิ่มความคลาสสิคเข้าไปอีก จึงเกิดเป็นบ้านคลาสสิคแนวใหม่ของพฤกษาวิลล์ ที่จะกลายเป็น Iconic ของโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 มีแบบบ้าน 2 แบบ ดังนี้
1. แบบทาวน์โฮม Neo Classic I มีเนื้อที่ 16.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 86 ตร.ม.
2. แบบทาวน์โฮม Neo Classic II เนื้อที่ 18.1 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม.
►สิ่งอำนวยความสะดวก
เป็นจุดเด่นอีกด้านหนึ่งของโครงการเลยก็คือด้านของสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จัดเต็มมาจากทางโครงการให้กับผู้ซื้อได้อย่างเต็มที่ ทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ให้ผู้ซื้อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และรับออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ ที่มาพร้อมกับการจัดสวนแนวใหม่สไตล์คลาสสิค ที่พร้อมเป็นแลนด์มาร์กของโครงการ และห้องฟิตเนส
มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากๆ ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และระบบ Auto Access Card ที่ทางเข้าหลัก ทั้งยังมีถนนหลักที่กว้างถึง 16 เมตร และถนนซอยที่กว้างถึง 8 เมตร ที่จะทำให้ทุกการเดินทางเข้า-ออกจากโครงการ เป็นเรื่องง่ายดายเลยทีเดียว
►การคมนาคม
โครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่เพชรเกษม และถนนกาญจนาภิเษก เหมาะกับผู้อยู่ที่ต้องเดินทางลงภาคใต้บ่อยๆ เพราะถนนเพชรเกษมสามารถใช้ในการเดินทางสู่ภาคใต้ได้ และด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกแล้ว ทำให้การเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั้งภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากๆ และด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในบริเวณที่มีผู้คนอาศัยเยอะอยู่แล้ว จึงทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่อีกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ราชการพร้อมอยู่แล้ว จึงทำให้โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 กลายเป็นโครงการที่ครบครันในด้านความสะดวกภายนอกโครงการด้วย และยังสะดวกยิ่งกว่าด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีหลักสอง และในอนาคตปี พ.ศ. 2564 จะยังมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงพุทธมณฑลสาย 4 อีกด้วย
คลิกดูภาพแผนที่ใหญ่โครงการ พฤกษาวิลล์ 90 เพชรเกษม 91-93
►ภาพรวมโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
โครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้าน ที่มีแบบบ้านที่ตอบสนองผู้ซื้อได้ทุกรูปแบบ จึงนับเป็นโครงการที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อในทุกระดับ และทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง และด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่มีอย่างพร้อม และครบครัน ที่จะทำให้ผู้อยู่ภายในโครงการมีชีวิตที่เพียบพร้อมและลงตัวในทุกด้านอย่างไม่น่าสงสัยเลยทีเดียว และโครงการ พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 ยังเป็นโฉมหน้าใหม่ของพฤกษาวิลล์ ที่พร้อมให้ผู้ซื้อได้สัมผัสกับบรรยากาศใหม่ ในสไตล์ Neo Classic อีกด้วย