รีวิวโครงการใหม่

ไม่ใช่แค่ "ทำเล" แต่คือ "เวลา" ที่มีให้กันมากขึ้น นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตที่มาพร้อมกับโครงการพาทิโอ รามอินทรา ทาวน์โฮม 3 ชั้น มาพร้อมการออกแบบด้วยแนวคิด Line for Harmony ที่เชื่อมต่อกับทุกมิติของชีวิตและการออกแบบ Nature in the city design การผสมผสานระหว่างวัสดุที่สื่อถึงธรรมชาติและความเป็นเมือง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการทำงานและที่อยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่พื้นที่สำหรับวันรวมตัวของครอบครัว ไปจนถึงการมีโฮมออฟฟิศในบ้าน พร้อมให้คุณปรับเปลี่ยนเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว อีกทั้งโครงการพาทิโอ รามอินทรายังโอบล้อมไปด้วยสวนสาธารณะพักผ่อนขนาดใหญ่และสนามเด็กเล่น เพียบพร้อมไปด้วยคลับเฮ้าส์ ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกกิจกรรมของครอบครัว พร้อมอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

พาทิโอ รามอินทรา (Patio Ramintra)

พาทิโอ รามอินทรา - วัชรพล ทาวน์โฮมและออฟฟิศ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู

     สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทาง Thaihometown จะพาผู้อ่านไปชมทาวน์โฮม 3 ชั้น ในโครงการ พาทิโอ รามอินทรา - วัชรพล โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ที่พฤกษาคิดต่าง และใส่ใจทุกรายละเอียดสำหรับการออกแบบ ภายใต้แนวคิด Line for Harmony ที่เชื่อมต่อกับทุกมิติของชีวิตและการออกแบบ Nature in the city design การผสมผสานระหว่างวัสดุที่สื่อถึงธรรมชาติและความเป็นเมือง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการทำงานและที่อยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ “ทำเล” แต่คือ “เวลา” ที่มีให้กันมากขึ้น นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตที่มาพร้อมกับโครงการพาทิโอ รามอินทรา ทาวน์โฮม 3 ชั้น  ตั้งแต่พื้นที่สำหรับวันรวมตัวของครอบครัว ไปจนถึงการมีโฮมออฟฟิศในบ้าน พร้อมให้คุณปรับเปลี่ยนเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว

     ก่อนรีวิวโครงการพาทิโอ รามอินทรา ขอเกริ่นเกี่ยวกับตัวโครงการสักเล็กน้อยค่ะ

รายละเอียดโครงการ

     โครงการ พาทิโอ รามอินทรา - วัชรพล ทาวน์โฮมที่มาพร้อมรูปแบบออฟฟิศ 3 ชั้น ด้วยการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้สอยได้ครบทุกพื้นที่ของทุกแบบบ้าน ถูกผสมผสานระหว่างทาวน์โฮมและออฟฟิศให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างลงตัว บนพื้นที่ถึง 200 ตร.ม. ให้คุณใช้ชีวิตได้ทั้ง 2 ด้าน เพิ่มความพิเศษให้กับทุกแบบบ้านด้วยติดตั้งผนัง Zolid Wall วัสดุคุณภาพจาก SCG ที่สามารถปรับเปลี่ยนเอาออกได้ตามรูปแบบการใช้งานของไลฟ์สไตล์ พร้อมฟังก์ชั่นเพนท์เฮ้าส์เปิดกว้างยกชั้นเพื่อเพิ่มความจุในทุกพื้นที่ รองรับการใช้งานทุกคนในครอบครัว

     อีกทั้งโครงการพาทิโอ ยังมีสวนสาธารณะพักผ่อนขนาดใหญ่มากกว่า 1 ไร่ สนามเด็กเล่น และมาพร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกกิจกรรมของครอบครัว พร้อมอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

    เป็นโครงการที่มีทำเลศักยภาพมากๆ ใกล้ทางด่วนสุขาภิบาล ทางด่วนรามอินทรา และแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนรามอินทรา (รถไฟฟ้าในอนาคต) ซึ่งมีสถานีที่โครงการอยู่ใกล้มากที่สุดคือ สถานีวัชรพล โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีวัชรพล เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา65 และตรงไปที่โครงการ ระยะทางประมาณ 2.5 กม. สะดวกสบายมากใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็ถึงโครงการ  

 

ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท


 

แบบบ้านโครงการ พาทิโอ รามอินทรา

มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

1. แบบบ้าน Master  [คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง]

แบบแปลน ชั้น 1 / ชั้น 2 / ชั้น 3

คลิกดูแบบแปลนภาพใหญ่

โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร

แบบทาวน์โฮมแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษ เหมาะทำเป็นโฮมออฟฟิศส่วนตัวได้

  • 1 ห้องทำงาน
  • 1 ห้องประชุม
  • 2 Co - Working Space
  • 2 ห้องนอน
  • 1 Family Room
  • 1 ห้องรับแขก
  • 2 ระเบียงชมวิวหน้า/หลัง
  • 4 ห้องน้ำ
  • 2 ที่จอดรถ

 

2. แบบบ้าน Grande [คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง]

แบบแปลน ชั้น 1 / ชั้น 2 / ชั้น 3

คลิกดูแบบแปลนภาพใหญ่

ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร

แบบทาวน์โฮม ฟังก์ชั่นแบบบ้าน ชั้น3 เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น พร้อมห้องน้ำใหญ่พิเศษส่วนตัว

  • 3 ห้องนอน
  • 3 ห้องน้ำ
  • 2 ที่จอดรถ

แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน

 

3. แบบบ้าน Metro [คลิกดูรีวิวแบบบ้านตัวอย่าง]

แบบแปลน ชั้น 1 / ชั้น 2 / ชั้น 3

คลิกดูแบบแปลนภาพใหญ่

ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร

แบบทาวน์โฮม ฟังก์ชั่นแบบบ้านเพิ่มพื้นที่ห้องพิเศษ Family Room ห้องกว้างติดหน้าต่าง

  • 3 ห้องนอน
  • 3 ห้องน้ำ
  • 1 Family Room
  • 2 ที่จอดรถ

แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน


 

แผนที่โครงการ พาทิโอ รามอินทรา

คลิกดูแผนที่ใหญ่โครงการ พาทิโอ รามอินทรา

 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้ มอลล์

  • เซ็นทรัล รามอินทรา
  • แฟชั่นไอส์แลนด์
  • The Promenade
  • The Walk Crystal Park
  • เพลินนารี่ มอลล์
  • เวนิส ดิไอริส วัชรพล
  • เดอะ แพลทินั่ม เพลส วัชรพล
  • โลตัส วัชรพล

ตลาด

  • ตลาดถนอมมิตร
  • ตลาดออเงิน
  • ตลาดวงศกร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลสินแพทย์
  • โรงพยาบาลนพรัตน์

การคมนาคม

  • ทางด่วนสุขาภิบาล 5
  • ทางด่วนรามอินทรา
  • แนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนรามอินทรา (รถไฟฟ้าในอนาคต)

แนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิดให้บริการปี 2563

คลิกดูแผนที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู

รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าไปแล้วเมื่อต้นปี 2560 สามารถเปิดให้บริการกลางปี 2563 โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 34-36 กิโลเมตร เริ่มต้นจาก ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี – สถานีมีนบุรี รวมทั้งสิ้นมี 30 – 32 สถานี เป็นสถานียกระดับทั้งหมด

อีกทั้งสถานีวัชรพล เป็นสถานีใหญ่ที่เชื่อมต่อทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเทา สำหรับช่วงที่ 1 ของรถไฟฟ้าสายสีเทา อีกด้วย ซึ่งสถานีวัชรพลเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้าสายสีเทาเชื่อมต่อถึงสถานีทองหล่อได้ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทามีระยะรวมทั้งสิ้น 16.25 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีวัชรพล – สถานี ทองหล่อ รวมทั้งสิ้น 15 สถานี เป็นสถานียกระดับทั้งหมด

 

รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวัชรพล (สถานีที่ใกล้โครงการที่สุด)

คลิกดูแผนที่แนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู รูปภาพใหญ่

สำหรับโครงการ พาทิโอ รามอินทรา จะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) สถานีที่โครงการอยู่ใกล้มากที่สุดคือ สถานีวัชรพล โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีวัชรพล เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา65 และตรงยาวไปที่โครงการโดยมีระยะทางประมาณ 2.5 กม. สะดวกสบายมากใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็ถึงโครงการ เรียกได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคา เพราะมีทำเลที่ทำให้ผู้ซื้อเข้า - ออก นอกตัวเมืองหรือในตัวเมืองได้อย่างง่ายดาย หมดความกังวนเรื่องรถติดไปได้เลย

 

แผนที่เส้นทาง การเดินทางไปยังโครงการ

สำหรับเส้นทางการเดินทางไปยังโครงการ พาทิโอ รามอินทรา สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง วันนี้เราขอเริ่มต้นกันบนถนน แจ้งวัฒนะ – หลักสี่ มุ่งหน้าขึ้นสะพานหลักสี่แล้วเข้าสู่ถนน รามอินทรา และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอย รามอินทรา 65 เพื่อเข้าสู่ถนน วัชรพล จากแผนที่ Google Map เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ง่าย สะดวก และหลีกเลี่ยงรถติดได้เป็นอย่างดี

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ

เราขอเริ่มต้นการรีวิวเส้นทางไปยังโครงการพาทิโอ รามอินทรา บนถนน แจ้งวัฒนะ (หลักสี่) ให้เราขับตรงตามป้ายทางหลวงบอกทางไป มีนบุรี เพื่อขึ้นสะพานข้ามวงเวียน หลักสี่

 

เมื่อเราลงจากสะพานข้ามวงเวียน หลักสี่ แล้ว เราจะเข้าสู่ถนน รามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) จะสังเกตได้จากด้านซ้ายจะเป็นเซ็นทรัล รามอินทรา ให้เราขับตรงต่อไปบนถนน รามอินทรา เรื่อยๆ

 

ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดงใหญ่ ให้เราขับตรงตามป้ายทางหลวง มีนบุรี ต่อไป จะพบกับแยกลาดปลาเค้า ซึ่งจะสังเกตเห็นป้ายทางหลวงบอกทางเลี้ยวซ้ายเพื่อไปยัง ถนน ลาดปลาเค้า ถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง ถนนโชคชัย 4 ถนนประเสริฐมนูกิจ และ ถนน ลาดพร้าวได้เช่นเดียวกัน ทำให้การเดินทางนั้นมีความเชื่อมต่อไปยังหลากหลายเส้นทางได้อย่างสะดวกสบายมากๆ

 

เมื่อขับผ่านสามแยกลาดปลาเค้ามาแล้ว จะสังเกตเห็นป้ายทางหลวงบอกทางขนาดใหญ่ สำหรับป้ายทางหลวงนี้บอกทางที่เชื่อมไปสู่ถนนและทางด่วนอีกหลากหลายเส้น สำหรับการรีวิวการเดินทางครั้งนี้ให้เราขับตรงตามป้ายบอกทางตรงไป มีนบุรี เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าสู่ซอย รามอินทรา 65 ต่อไป

 

ขับมาตามเส้นทางถนนรามอินทรา ขับตรงไปตลอดทางหรือจะเลือกขับแยกไปทางถนนวัชรพล ก็เป็นอีกเส้นทางที่ไปโครงการได้เช่นกัน

จากเส้นทางนี้จะสังเกตเห็นช่องทางเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าสู่ ถนนวัชรพล ถนนเส้นนี้สามารถเข้าสู่โครงการได้เช่นเดียวกัน สำหรับคุณแม่บ้านหรือสาวๆ ที่ชอบแวะหาชื่อของกินอร่อยๆ ก่อนกลับเข้าบ้านก็ให้ผ่านถนนวัชรพล ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้เป็นทางผ่านกับบ้าน แต่สำหรับคุณผู้ชายไม่ชอบรถเยอะ ก็ขับตรงไปตามถนนรามอินทราต่อไปได้เลย

 

ตามแผนที่ Google Map จากเส้นทางถนนรามอินทรา ถ้าเลือกเบี่ยงซ้ายออก จะเข้าสู่ถนนวัชรพล และให้ขับมาตามเส้นทางถนน
วัชรพล ตรงไปตลอดถนนเส้นนี้จะไปที่โครงการได้ เป็นทางเลือกอีกเส้นทางที่ผู้ซื้อโครงการนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางหลักสำหรับการเดินทางเข้าออกได้อย่างความสะดวกมากๆ ของเส้นทางนี้ก็จะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรานั้นเอง ใช้เส้นทางนี้ได้เช่นกัน

 

เรามาต่อกันที่เส้นทางรีวิวถนนรามอินทรากันต่อให้เราขับตรงตามทาง ลอดทางด่วนอินทรา – อาจณรงค์ ขับตรงไปข้างหน้าจะเริ่มมีซอยรามอินทราที่ชัดเจนขึ้น และจะมีตึกอาคารพาณิชย์อยู่ 2 ฝั่งถนนตลอดเส้นทาง ส่วนใหญ่เป็นร้านที่เกี่ยวกับรถยนต์ ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวสำหรับถนนเส้นนี้

 

หลังจากที่เราขับลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ มาแล้ว ให้เราเตรียมชิดซ้ายเพื่อคอยสังเกตซอย รามอินทรา 65 ขับอยู่ในเลนซ้ายมาเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นสะพานลอย เมื่อเราขับผ่านสะพานลอยมาจะเป็นซอย รามอินทรา 65 ให้เราเตรียมตัวเพื่อเลี้ยวเข้าซอยได้เลย

 

เมื่อเราขับผ่านสะพานลอยมาแล้ว จะสังเกตเห็นป้ายทางหลวงบอกทางเลี้ยวซ้ายไปยัง สุขาภิบาล 5 และด้านซ้ายจะเป็นป้ายรอรถเมลล์เราก็จะเจอกับซอยรามอินทรา 65

 

เมื่อเราเจอป้ายซอย รามอินทรา 65 แล้ว ให้เราเลี้ยวเข้าซอยได้เลย

 

สำหรับจุดสังเกตอีกจุดของปากซอยทางเข้าคือ แฟมิลี่ มาร์ท ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมวินมอเตอร์ไซค์ รามอินทรา 65 ที่มีวินขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนละคัน คันละสองล้อทำให้ทำเลทางเข้าซอย รามอินทรา 65 นั้นมีความโดดเด่นไม่น้อยหน้าไปกว่า ถนน วัชรพลเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อเราเลี้ยวเข้าซอยมาแล้ว ให้เราขับตรงตามทางต่อไปเรื่อยๆ จนสุดซอยรามอินทรา 65

 

เมื่อขับมาจนถึงสุดซอยรามอินทรา 65 จะเจอกับ 3 แยก ให้เราเลี้ยวซ้ายตามรถแท็กซี่ในรูปได้เลย ซึ่งจะเข้าสู่ถนนวัชรพลพอดี

 

เลี้ยวซ้ายมาจากซอยรามอินทรา 65 แล้วให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง จะเข้าสู่ถนนหลักวัชรพล

 

Google Map เส้นทางจากซอยรามอินทรา 65 เลี้ยวซ้ายแล้ว ให้เลี้ยวขวาต่อเข้าสู่ถนนวัชรพล

 

เมื่อเราเข้าสู่ถนน วัชรพล แล้ว ให้เราขับตรงต่อไป

 

เจอสะพานข้ามคลองจระเข้ หลังจากที่ข้ามคลองแล้ว ให้เราคอยสังเกตด้านขวา เพราะเราใกล้ถึงโครงการกันแล้ว

 

ขับตรงมาเรื่อยๆ มองทางด้านขวาจะเจอป้ายโครงการขนาดใหญ่ และป้ายเล็กแนวตั้งริมถนน

 

เจอป้ายโครงการแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าสู่โครงการ พาทิโอ รามอินทราได้เลย

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน Master

แบบบ้าน Master เป็นแบบบ้านทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชั่น Office โดดเด่น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร 1 ห้องทำงาน 1 ห้องประชุม 2 Co-Working Space พร้อมพื้นที่ส่วนตัว 2 ห้องนอน 1 Family Room 1 ห้องรับแขก 4 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่จอดรถ 2 คัน ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องมีคำถามระหว่าง งาน กับ ครอบครัว อีกต่อไป กับทาวน์โฮมแนวใหม่ให้ผู้ซื้อได้ใช้ชีวิตพร้อมทั้ง 2 แบบ ในแบบโฮมออฟฟิศ และแบบที่อยู่อาศัยพร้อมกัน

 

ภายนอกตัวบ้านมีการตกแต่งเล่นลวดลายแนวตั้ง แนวนอนสลับกันเพื่อให้เกิดสไตล์เฉพาะตัว ด้วยรูปทรงที่ดูไม่เรียบใช้ลูกเล่นของผนังภายนอกที่ดูมีมิติมากขึ้น เลือกใช้โทนสี 3 สี สีเหลือง สีน้ำตาล และสีขาว ทำให้สีผนังด้านหน้าตัดกันได้อย่างลงตัว

 

ด้านหน้าของตัวบ้านจะมีหน้ากว้าง 5.65 เมตรแบบเต็มพื้นที่ ทำให้มีพื้นที่จอดรถได้ 2 คันประตูทางเข้าตัวในบ้านเลือกใช้กระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ มีกระจกขนาดความสูง 2.40 เมตร เป็นสีชาตัดแสงประตูจะมี 3 บาน เปิดสไลด์ได้ 2 บาน ด้วยขนาดประตูที่มีความโปร่งสูง ทำให้สะดวกต่อการขนย้ายของเข้า-ออกภายในบ้านได้อย่างสบาย และด้านหน้ายังมีประตูสีขาว ซึ่งเป็นประตูของห้องเก็บของ ห้องมีความกว้างมาก มีขนาดความสูงพอที่จะให้ตัวคนเข้าไปด้านในได้ ออกแบบใหเเป็นห้องสำหรับเก็บอุปกรณ์การใช้งานของ Office ต่างๆ หรือแม้แต่งาน Outdoor เช่น อุปกรณ์ล้างรถ เครื่องมือจัดสวน เป็นต้น

ภายนอกบริเวณชั้น 2 มีการเลือกใช้หน้าต่างแนวตั้งบานเล็ก 3 บานเพื่อให้เกิดมุมมองที่แตกแต่งออกไปจากแบบบ้านทาวน์โฮมทั่วไป ภายนอกที่ชั้น 3 บริเวณหน้าต่างบานใหญ่จะมีที่ว่างใต้บานหน้าต่าง ขอแนะนำให้ทำเป็นที่ติดป้ายออฟฟิศจะเป็นจุดที่ดีมากเห็นได้ชัดเจนแน่นอน ถัดมาจากหน้าต่างชั้น 3 จะมีระเบียงชมวิวด้านนอก พร้อมด้วยประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ Sliding Door เพื่อเปิดรับวิวทิวทัศน์จากภายนอกได้เต็มที่

 

โครงการนี้ได้ออกแบบหลังคา ให้มีลักษณะเป็นระนาบเอนลาดเอียงไปทางด้านหลังบ้าน มีช่องใต้หลังคาสูงประมาณ 1.2 เมตร พร้อมทั้งติดตั้งฝอยกันความร้อนให้ด้วยทุกหลัง ฝ้าเพดานใต้หลังคาด้านหน้า และด้านหลังจะมีรูระบานอากาศได้ช่วยระบายความร้อนที่ช่องใต้หลังคาได้เป็นอย่างดี

ก่อนจะที่จะไปรีวิวกันภายในตัวบ้าน จะขอพูดถึงผนัง Zolid wall วัสดุจาก SCG เป็นระบบผนังภายในที่ถูกออกแบบมาให้มีความทึบ และแข็งแรงเป็นพิเศษ ยึดแขวนของได้ดี และผ่านการทดสอบความแข็งแรงระดับสูงสุด แต่ยังคงความสะดวกในการติดตั้ง และการปรับปรุงให้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่อยู่อาศัย ที่เน้นความแข็งแรง และต้องการความเป็นส่วนตัว ผนังชนิดนี้จะมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้

  • ทำให้ห้องเย็น ช่วยประหยัดค่าไฟ
  • เพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง (กั้นเสียงได้ 37-42 เดซิเบล)
  • แขวนของหนักได้มั่นคง
  • ติดตั้งง่าย และเร็วกว่าผนังอิฐมวลเบาถึง 2 เท่า
  • รื้อออกหรือกั้นเพิ่มได้รวดเร็ว โดยไม่กระทบโครงสร้างเดิม และไม่ต้องตรงกับแนวคาน
     

LIVING AREA โซนรับแขก หรือโซนอเนกประสงค์

มาเริ่มรีวิวภายในกัน เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน โซนแรกที่เราจะพาไปชมกันคือ LIVING AREA โซนรับแขก โครงการได้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบ สวยดูหรูหรา บวกด้วยความสบายของโซฟาแนวยาวแบบผ้าสีน้ำเงินสลับกับหมอนอิง ที่มาคู่กับเก้าอี้ไม้รองนั่งด้วยเบาะผ้าสีเทา ทำให้มีความสบาย เหมาะแก่การรองรับลูกค้าหรือแขกที่มาเยือน

 

อีกด้านของโซนนี้ตกแต่งด้วยตู้ Built-in ไม้เทียมพร้อมชั้นวางของขนาดใหญ่ และด้านในเป็นผนังหินอ่อนสีขาวมีลวดลาย เหมาะแก่การวางของโชว์หรือรางวัลต่างๆ ของบริษัท ผู้ซื้อสามารถนำไอเดียการตกแต่งแบบนี้ไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นด่านแรกของแขกที่มาเยี่ยมเยือนทำให้รูปลักษณ์และความสวยงามของ Office ให้สวยดูโดดเด่นสะดุดสายตา

 

ความพิเศษของแบบบ้าน Master ที่แถมฟรี ให้ไว้เพื่อใช้ตกแต่งกั้นโซนในบ้าน ของแบบบ้านหลังนี้ คือ ผนัง Zolid wall (หมายเลข 1) วัสดุจาก SCG ที่สามารถปรับเปลี่ยนเอาออกได้ตามรูปแบบการใช้งานของไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อติดตั้งได้ตามแบบบ้านตัวอย่างได้เลย หรือใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนย้ายตำแหน่งก็ย่อมทำได้เช่นกัน แจ้งกับทางโครงการว่าต้องการแบบไหนได้เลย และใครที่ต้องการตกแต่งเพิ่มเติมให้มากกว่าเดิม ก็สามารถตกแต่งเพิ่มผนังวอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลายต่างๆ พร้อมชั้นวางของแบบลอยเก๋ๆ สักตัวชิดกับผนัง ก็จะช่วยให้ภายในบ้านมีสัดส่วนและสวยงามยิ่งขึ้น

 

Co-Working Space หรือโซนรับประทานอาหาร

ขยับเข้ามาด้านในแบบบ้าน Master มีการออกแบบเป็นโซน Co-Working Space (โซนรับประทานอาหาร) ซี่งสามารถออกแบบกั้นพื้นที่ให้เป็นโซนห้องนั่งประชุมทีมงานได้ มีการตกแต่งด้วยโต๊ะไม้แนวยาวขนาดใหญ่ 2 ตัว ที่มีขนาด 4 – 6 ที่นั่ง โซนนี้จัดโต๊ะใหญ่ขนาด 8-10 ที่นั่งได้พอดี ใช้ทำเป็นห้องประชุมใหญ่ก็ได้ สำหรับผู้ซื้อที่ต้องการใช้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยก็ออกแบบให้เป็นโซนรับประทานอาหารได้ 6-8 ที่นั่งได้พอดี ไม่แคบจนเกินไป ใช้เป็นที่รวมตัวสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

 

PANTRY โซนห้องครัวเล็ก และห้องน้ำชั้น1

ด้านข้างโซน Co-Working Space จะมีฉากกั้นเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากเป็นฟังก์ชั่น Office จึงมีโซนครัวชั้นแรกไม่ได้กว้างมาก แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับชงกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ มีพื้นที่พอให้ตั้งตู้เย็น 2 ประตู และยังมีพื้นที่ให้ติดตั้งซิ้งค์ล้างจานที่มีขนาดเล็กได้พอดี

สังเกตที่ฉากกั้นโซนของห้องครัว ได้มีการเลือกใช้โครงเหล็กทาสีดำทำเป็นช่อง และติดแผ่นกระจกใส มีลักษณะเป็นแนวตั้งจากพื้นสูงติดเพดาน ซึ่งใช้เป็นไอเดียที่ดีในการกั้นโซนในราคาประหยัดได้อีกด้วย ถ้าผู้ซื้อมีงบเพียงพอก็ให้เลือกทำเป็นประตูบานสไลด์แบบทึบก็ได้เพื่อใช้แยกโซนนี้ไปเป็นโซนปิดเลยก็ได้ เพราะในโซนนี้จะมีห้องน้ำชั้นล่างอยู่ติดกับครัวพอดี ห้องน้ำชั้นล่างนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะออกแบบมาให้เป็นห้องน้ำสำหรับแขกที่เข้ามาหาที่ Office

 

ห้องน้ำชั้นล่างของแบบบ้าน Master ซึ่งประตูห้องน้ำจะอยู่มุมด้านหลังพอดี ซึ่งเป็นมุมหันหลังให้กับประตูหน้าบ้าน ทำให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องผนังสีขาวผิวเรียบ และกระเบื้องผนังที่มีความนูนผิวไม่เรียบ ส่วนพื้นห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องสีเทาผิวหยาบกันลื่น อุปกรณ์ภายในห้องน้ำมีติดกระจกเงาแนวนอนบานใหญ่เต็มพื้นที่ความกว้างของห้อง และเลือกใช้อ่างล้างหน้าทรงขอบโค้งมน เป็นของ Karat ส่วนสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler ห้องน้ำชั้นล่างจะไม่มีฝักบัวเพราะออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับแขกที่มาเยือน

 

ก่อนที่เราจะไปขึ้นไปต่อกันที่ชั้น 2 ความพิเศษอีกหนึ่งจุดของแบบบ้านนี้คือ ช่องเก็บของภายในบ้าน ด้วยการตกแต่ง Built-in ที่สวยงามของทางโครงการ จึงทำให้เราอาจไม่สังเกตเห็นช่องเก็บของ ตามรูปภาพที่เราถ่ายจะเห็นว่าผนังถูก Built-in เป็นผนังลายไม้เต็มผนัง ด้านในจะเป็นช่องเก็บของใต้บันได เหมาะสำหรับเก็บเอกสาร หรือแฟ้มเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ในอนาคต

 

CLEANING พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน

สำหรับด้านหลังบ้าน เนื่องจากฟังก์ชั่นทั้งหมดถูกออกแบบให้เป็น Home Office จึงจะมีโซนโต๊ะนั่งเยอะเป็นพิเศษ ตกแต่งด้วยโซฟาผ้าสีน้ำเงิน พร้อมเก้าอี้ผ้า และโต๊ะสำหรับนั่งพูดคุย รวมถึงอีกฝั่งจะเป็นโซนครัวสำหรับจัดเตรียมอาหารสำหรับผู้ซื้อที่พักอาศัยอยู่ด้วย จะสังเกตเห็นด้านบนจะเป็นฝ้าแบบโปร่งแสง โซนนี้จึงมีแสงธรรมชาติอ่อนๆ ส่องผ่านเข้ามาภายในโซนนี้ได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดพลังงานภายในได้เป็นอย่างดี

 

“ พื้นที่หลังบ้าน เป็นห้องครัวสไตล์ที่ชอบ ”

เลือกทำแบบปิดทึบ หรือ แบบเปิดโล่งรับลมจากภายนอก

อีกด้านของพื้นที่หลังบ้าน โครงการได้ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ แบบบิวท์อินติดผนังมา พร้อมกับตู้เก็บของด้านบน การออกแบบลักษณะนี้จึงเหมาะสำหรับโฮมออฟฟิศมากเลยทีเดียว สำหรับผู้ซื้อที่เน้นให้เกิดประโยชน์ใช้สอยที่ครอบคลุมที่เป็นได้ทั้งโฮมออฟฟิศ และใช้เป็นบ้านอยู่อาศัยด้วย ก็ต้องออกแบบให้มีห้องครัวใหญ่ด้านนอกบ้านด้วยจะดีมาก

การต่อเติมจะเลือกทำได้ทั้งแบบปิดทึบ และแบบเปิดโล่งก็ได้ ส่วนของการต่อเติมเรื่องการใช้สอยต่างๆในพื้นที่ด้านหลัง เลือกทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวแนวยาวไปถึงประตูเลยก็ได้ เลือกใช้ซิงค์ใหญ่แบบ 2 หลุม และติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบ 3 หัวพร้อมกับที่ดูดควัน และสำหรับบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น จำเป็นต้องติดตั้ง แท็งค์น้ำ 1,000 ลิตรขึ้นไป พร้อมกับติดตั้งปั๊มน้ำแรงดัน 300-600 วัตต์ขึ้นไปถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน ด้านหลังบ้านหากมีการต่อเติมเพิ่มจำเป็นต้องติดตั้งตู้เบรคเกอร์เพิ่มเติมเข้ามาอีกชุดที่ใช้แยกโซนหลังบ้านออกมา

 

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นขั้นบันไดที่ไม่มีชานพัก แต่มีช่วงตรงกลางให้หยุดพักได้ โดยที่มีราวจับติดผนังยาวไปตลอดแนวขั้นบันไดเพื่อให้สะดวกต่อผู้สูงอายุ และเด็กเล็กสำหรับการเดินขึ้นลงบันได ในส่วนของพื้นบันไดเลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดสำเร็จรูป ทั้งแผ่นตัวตั้ง และแผ่นตัวนอน วัสดุเป็นไม้ทำให้สัมผัสเบาสบายเท้าได้ความเป็นธรรมชาติ

 

แบบบ้าน Master ที่ชั้น2 มีการติดตั้งผนัง Zolid wall เลือกใช้วัสดุจาก SCG มีติดตั้ง 2 จุด

  • จุดที่ 1 (หมายเลข 2) MEETING ROOM ห้องประชุมใหญ่
  • จุดที่ 2 (หมายเลข 3) FAMILY ROOM ห้องอเนกประสงค์

จะเห็นว่าตามแบบบ้านตัวอย่างหมายเลข 2 ทางโครงการได้นำผนังออกและตกแต่งให้เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ ส่วนหมายเลข 3 ทางโครงการได้นำผนังออกเช่นเดียวกัน แตกแต่งเป็นฉากกั้นบานเลื่อนเสริมเข้าไปแทนแบ่งแยกระหว่างโซนทำงานและโซนนั่งเล่น ผู้ซื้อจะเห็นว่าซื้อบ้าน 1 หลัง สามารถตกแต่งปรับเปลี่ยนได้มากมายตามความชอบของแต่ละบุคคล เปลี่ยนการแต่งบ้านให้เป็นความสนุกได้ง่ายนิดเดียว

 

Co-Working Space พื้นที่โล่งโถงชั้น 2

เมื่อขึ้นมาชั้น2 จะพบที่โซนแรก คือ Co-Working Space พื้นที่โล่งโถงชั้น2 ออกแบบมาให้เป็นโซนทำงานในรูปแบบสมัยใหม่แบบโมเดิร์น สามารถจัดวางโต๊ะทำงาน 2-3 ที่นั่ง ในมุมนี้โครงการน่าจะตั้งใจออกแบบมาให้เป็นโต๊ะนั่งทำงานของเลขาหน้าห้องผู้จัดการนั้นเอง

 

อีกด้านของโซน Co-Working Space พื้นที่โล่งโถงชั้น2 มีการติดตั้งผนัง Zolid wall เป็นผนังสำเร็จรูปที่เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ

 

“ พื้นที่กว้าง ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้เยอะ ”

อีกด้านของโซนนี้จะเป็นส่วนของห้องน้ำชั้น2 ใกล้กับประตูห้องน้ำมีการติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า ข้างๆจะมีกล่องเสียงกริ่งของบ้านติดตั้งมาด้วยเช่นกัน

ใกล้ๆกับตู้ควมคุมไฟฟ้า พื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาน Wifi อินเตอเน็ต หรือจะใช้ติดตั้ง Access Point ตัวกระจายสัญญาณ Wifi ก็ได้ เพื่อให้ช่วยกระจายสัญญาน Wifi ไปถึงที่ชั้น 3 ของอาคารได้อย่างเต็มที่

สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง Wifi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเราเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »

หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ wifi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »

 

มาต่อกันที่ห้องน้ำชั้น2 ตกแต่งแบบเรียบง่าย ใช้กระเบื้องผนังผิวเรียบแผ่นใหญ่ ขนาดเท่ากับพื้นห้องน้ำ แต่มีการเลือกใช้กระเบื้องเผ่นเล็กผิวหยาบกันลื่นในตู้อาบน้ำ การใช้งานเน้นถึงประโยชน์ใช้สอยที่ง่ายสะดวกต่อการใช้งาน

ภายในติดตั้งอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆไว้ครบแล้วพร้อมใช้งาน ในภาพผู้ซื้อจะได้ครบทั้งหมด มีตู้อาบน้ำแบบบานเลื่อนเข้ามุม พร้อมฝักบัวอาบน้ำ ก็อกน้ำ เลือกใช้อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมหลุมตื้น พร้อมช่องเก็บของใต้อ่าง ใช้กระจกเงาทรงสี่เหลี่ยม และมีโถสุขภัณฑ์ พร้อมที่ฉีดน้ำให้มาพร้อมใช้งานเช่นกัน ยี่ห้อของอ่างล้างหน้าใช้ Karat และโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler

 

MEETING ROOM ห้องประชุมใหญ่ และห้องหัวหน้างาน หรีือห้องผู้จัดการ

เรามาต่อกันที่โซนห้องประชุมใหญ่ชั้น2 ฝั่งด้านหน้าบ้าน ทำเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ ตกแต่ง Built-in ตู้ขนาดใหญ่เต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมชั้นวางของ ตู้สำหรับการวางสินค้าของบริษัท กรอบรูป รางวัลต่างๆ มาวางโชว์ตรงนี้ได้

พื้นที่ของห้องประชุมจะมีความกว้างเป็นแนวยาวขนานไปกับตัวบ้านโซนด้านหน้า และด้วยขนาดของพื้นที่ที่กว้างมากจริงๆ สามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โต๊ะทรงสี่เหลี่ยมแนวยาวตัวใหญ่ 2 ตัวตั้งติดกัน ทำเป็นโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ได้อย่างพอดีกับ จัดวางเก้าอี้นั่งประชุมได้อีก 10-20 ตัวกันเลยทีเดียว แถมยังมีพื้นที่เหลือๆ ตั้งตู้เก็บของแบบลอยตัวได้อีก 2-3 ตัววางขนานไปกับแนวกำแพง

 

พื้นที่ของห้องประชุม ในแบบแปลนที่โครงการแจกมาให้ จะสังเกตเห็นว่ามีการแบ่งโซนกั้นห้องประชุมใหญ่ออกเป็น 2 โซนด้วยกัน คือ โซนห้องประชุม และห้องผู้จัดการ จะลองนำไปใช้เป็นไอเดียก็ได้เช่นกัน

 

FAMILY ROOM ห้องอเนกประสงค์ หรือห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์

โซนถัดมาที่เราจะพูดถึงคือ โซน FAMILY ROOM ห้องอเนกประสงค์ หรือห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในการตกแต่งโซนนี้โครงการได้เลือกใช้โซฟาผ้าสีน้ำตาลพร้อมหมอนแบบแนวยาวทั้ง 2 ฝั่ง และโต๊ะกลางทรงกลมเป็นลายหินอ่อน ฝั่งตรงข้ามของโซฟาจะ Built-in ตู้เก็บของ และชั้นวางของใช้วัสดุเป็นไม้บิวท์เต็มผนัง พื้นที่ของผนังด้านนี้สามารถออกแบบให้เป็นตู้เก็บเอกสารก็น่ะจะเป็นมุมที่เหมาะมากจะเลือกใช้เป็นตู้แบบลอยตัว หรือจะบิวท์ติดผนังก็ได้เช่นกันจะประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่า และในโซนนี้จะมีบันไดทางขึ้นเพื่อไปที่ชั้น3

 

 

“ ใช้ไม้บันได ทั้งแนวตั้ง-แนวนอน ”

ทำให้ได้มุมมองเป็นธรรมชาติมากขึ้น

บันไดขึ้นชั้น 3 เป็นขั้นบันไดที่ไม่มีชานพัก แต่มีช่วงตรงกลางให้หยุดพักได้ ความชันของบันไดจะน้อยกว่าทางขึ้นชั้น1 โดยที่มีราวจับติดผนังยาวไปตลอดแนวขั้นบันไดเช่นกัน เพื่อให้สะดวกต่อผู้สูงอายุ และเด็กเล็กสำหรับการเดินขึ้นลงบันได ในส่วนของพื้นบันไดเลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดสำเร็จรูป ทั้งแผ่นตัวตั้ง และแผ่นตัวนอน วัสดุเป็นไม้ทำให้สัมผัสเบาสบายเท้าได้ความเป็นธรรมชาติ

 

Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่ พร้อมห้องน้ำส่วนตัว

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น3 จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอนห้องใหญ่ๆ เราขอเริ่มกันด้วยห้องนอน Master Bedroom ภายในของตัวห้องจะถูกแบ่งเป็น 4 ส่วนชัดเจน คือ โซนเตียงนอน โซนแต่งตัว ริมระเบียง และห้องน้ำส่วนตัว

การตกแต่งห้องนอน ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีความหรูหรา มีการเล่นระดับที่ฝ้าเพดาน และติดผนังลายไม้ที่ตัวห้อง เฟอร์นิเจอร์เตียงนอนขนาด king size และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเป็นแบบ Built-in ทั้งหมด เช่น ตู้ ชั้นวางของต่างๆ ทำให้เพิ่มสเปชพื้นที่ให้มีมากยิ่งขึ้น ด้านปลายเตียงตกแต่ง Built-in เพิ่มชั้นวางทีวี ชั้นวางของ พร้อมลิ้นชักด้านล่าง ถือว่าคุ้มสุดคุ้มเลยทีเดียว ถือเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ผู้ซื้อสามารถนำไปปรับใช้ให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้

 


“ ระเบียงชมวิว ”     
 

บานใหญ่ Sliding Door       
รับวิวทิวทัศน์ภายนอกได้เต็มที่

ห้องนอน Master Bedroom จะมีประตูระเบียง เป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียม แบบบานเลื่อน Sliding Door เปิดออกไประเบียงชมวิวด้านนอก เพื่อเปิดรับวิวทิวทัศน์จากภายนอกได้เต็มที่หรือแม้แต่เปิดเผื่อให้อากาศถ่ายเทภายในห้องได้

 

ห้องนอน Master Bedroom ถัดจากเตียงนอน จะมีพื้นที่ที่เป็นโซน Walk in Closet

 

สำหรับโซน Walk in Closet หรือโซนแต่งตัว มีการตกแต่งเหมือนประดุจเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีเครื่องประดับให้ผู้ซื้อได้เลือกสรร โซนนี้คงเป็นอีกหนึ่งโซนที่ถูกใจคุณแม่บ้านกันอยู่ไม่น้อย ด้วยการตกแต่ง Built-in ชั้นวางของ อีกทั้งตู้กระจกพร้อมลิ้นชักที่ผู้ซื้อสามารถวางเครื่องประดับ สร้อย กำไล ข้อมือ ต่างหูต่างๆ เพื่อความสวยงาม หรือแม้แต่กระเป๋าออกงานกลางคืนใบเล็กๆ ก็สามารถจัดวางได้อย่างลงตัว

ในส่วนของชั้นวางของด้านบนผู้ซื้อสามารถวางกรอบรูป กระเป๋าคู่ใจที่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน หรือเลือกใช้ชั้นวางนิตยสารแฟชั่นวางไว้ เลือกใช้หยิบมาเปิดดูในเวลาที่คิดแนวการแต่งตัวไม่ออกได้เช่นกัน ข้อแนะนำหากต้องเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ใดๆมาตั้งไว้ตรงกลางอาจจะไปสะดวกสบายได้ ให้เลือกทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ติดผนังใกล้ๆกับหน้าต่างไปเลยก็ได้จะทำให้ไม่เกะกะในเวลาที่ใช้งานจริงๆ

 

ติดกับโซน Area Closet จะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่เต็มผนังเป็นกระจกดำแบบบานเปิด

 

ห้องน้ำส่วนตัว ภายในห้องนอน Master Bedroom ตกแต่งเล่นลวดลายด้วยกระเบื้องผนังสีน้ำตาลมันเงา ตัดกับกระเบื้องผนังสีครีมแผ่นใหญ่ วัสดุเลือกใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีที่วางของด้านข้างได้นิดหน่อย ใต้อ่างจะมีช่องเก็บของก้านใต้มาให้ด้วยเช่นกัน อ่างล้างหน้าก็เลือกใช้วัสดุจาก Karat 

 

ห้องน้ำส่วนตัว ภายในห้องนอน Master Bedroom ได้ติดตั้งประตูกระจกบานเปิดพร้อมมือจับ ใช้กั้นแยกโซนแห้งและโซนเปียก ในโซนอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower และฝักบัวธรรมดาติดตั้งให้เลือกใช้งานได้ 2 แบบ ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ในแนวเดียวกันจะมีก็อกน้ำสำหรับเปิดใช้งานซักล้างทั่วไปมาให้ด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler

 

BEDROOM 2 (ห้องนอนที่2) เป็นห้องอีกห้องที่อยู่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 3 

ห้องนอนห้องที่สอง จะเห็นว่าความกว้าง โล่ง ไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลย สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้อย่างสบาย ภายในตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ตอบรับผู้ซื้อในสไตล์คนรุ่นใหม่ ปลายเตียงตกแต่ง Built-in เลือกใช้ไม้เทียมตกแต่งผนังห้องใช้แทนวอลล์เปเปอร์และมีชั้นวางทีวี ชั้นวางของต่างๆ Built-in ติดผนังทั้งหมดช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องให้เหลือใช้งานได้มากขึ้น ผู้ซื้อนำไอเดียการตกแต่งแบบนี้ไปปรับใช้ได้เหมือนกัน

 

ด้านข้างเตียงจะเป็นโซน Walk in closet ทางโครงการได้ตกแต่งการใช้งานได้อย่างลงตัวและสะดวกเป็นอย่างมาก มีการตกแต่ง Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบประตูบานเปิด 4 บานใช้กระจกสีดำเงาคงเป็นมุมโปรดสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายเลยทีเดียว

 

ห้องนอนที่สอง จะมีห้องน้ำส่วนตัวมาให้ด้วยเช่นกัน ห้องน้ำจะอยู่ถัดจากโซน Walk in closet ห้องน้ำของห้องที่สอง จะตกแต่งไม่ค่อยโดดเด่นเหมือนกับห้องแรก ผนังห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่สีเดียวกันทั้งหมดอ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ไม่มีที่วางของด้านข้างเหมือนกับห้องแรก ด้านใต้อ่างมีช่องสำหรับเก็บของด้านล่าง อ้างล้างหน้าใช้วัสดุจาก Karat เช่นกัน

 

ภายในห้องน้ำห้องนอนที่สองนี้ จะมีโซนอาบน้ำเหมือนกัน มีติดตั้งประตูกระจกบานเปิดพร้อมมือจับใช้กั้นแยกโซนแห้งและโซนเปียก ในโซนอาบน้ำมีฝักบัวแบบธรรมดา ในแนวเดียวกันจะมีก๊อกน้ำสำหรับเปิดใช้งานซักล้างทั่วไป ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน Grande

แบบบ้าน Grande ขนาดพื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.65 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารไว้อย่างเป็นสัดส่วน มาพร้อมเพนท์เฮ้าส์ ชั้น 3 ทำให้พื้นที่กว้างยกชั้นขึ้น ความพิเศษด้านหน้าของแบบบ้าน Grande คือ มีระเบียงมาให้ 2 ชั้น โดยที่มีประตูหน้าเลือกใช้ประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ 3 บาน เปิดสไลด์ได้ 2 บาน เลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสง ขนาดความสูงของประตู 2.40 เมตร มีประตูห้องเก็บของห้องใหญ่เดินเข้าไปได้เหมือนกับแบบแรก แต่ห้องเก็บของของแบบบ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กกว่าแบบแรกเล็กน้อย

 

แบบบ้าน Grande หลังนี้จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร ชั้นแรกด้านหน้าจะมีลักษณะเป็นห้องโถงเว้นระยะเข้าไปจากตัวบ้านอีกประมาณ 2 เมตร ออกแบบมาเพื่อให้ใช้พื้นที่ด้านหน้าประตูได้ในเวลาที่มีรถจอดอยู่ แบบบ้านหลังนี้สามารถจอดรถได้ 2 คัน ด้านหน้าตัวบ้านมีการตกแต่งโดยเลือกใช้โทนสี 4 โทนด้วยกัน มีสีน้ำตาล สีครีม สีเทา และสีขาว

พิเศษมากขึ้นเพราะออกแบบให้มีระเบียงชมวิวด้านหน้าที่ชั้น2 และที่ชั้น3 (ถ้านับระเบียงจริงๆ ด้านหน้าจะมี 4 จุด แบ่งเป็นระเบียงที่ชมวิวได้ กับระเบียงที่มีระแนงเหล็กพรางตา) และระเบียงชมวิวด้านหลังที่ชั้น 3 ซึ่งระเบียงด้านหลังจะกว้างมีพื้นที่เป็นแนวยาวจนานไปกับตัวบ้าน แต่ที่ระเบียงด้านหน้าจะไม่กว้างมากเหมือนกับด้านหลัง ประตูระเบียงทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลือกใช้เป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ ด้านหน้าแบบบานสไลด์ได้ 2 บานแบบแคบ และที่ด้านหลังบานสไลด์ได้ 2 บานเช่นกันแต่ประตูเป็นแบบกว้างกว่าเข้าออกได้สะดวกกว่า

 

LIVING AREA โซนรับแขก หรือโซนอเนกประสงค์

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน โซนแรกที่เราพบคือ  LIVING AREA โซนรับแขก จัดชุดเฟอร์นิเจอร์โซฟาผ้าสีครีม ตัวแอล (L) ผนังด้านข้างตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ลายหินอ่อนสีขาวมีลวดลาย ฝ้าเพดานมีการเล่นตกแต่งด้วยแผ่นไม้สำเร็จรูปประดับด้วยหลอดไป LED ที่ขอบของแผ่นไม้ โทนสีที่แบบบ้านนี้เลือกใช้ตกแต่งโซนรับแขกจะเป็นโทนสีน้ำตาลเข้มตัดกับสีครีมของผนังห้อง

 

โซนรับแขก Built-in ชั้นวางของเต็มผนัง สำหรับวางทีวีหรือของสะสมต่างๆ การตกแต่งแบบนี้อาจจะมองดูรกมากเกินไป ถ้าจะเน้นให้สวยงามสบายตา ก็เลือก Built-in แค่ชั้นวางทีวีอย่างเดียวก็ได้ และลองเลือกใช้ทีวี แบบแขวนผนังก็จะประหยัดพื้นที่ได้อีกเยอะ

 

โซนครัว เตรียมอาหารและโซนรับประทานอาหาร

ขยับเข้ามาด้านในอีกนิด จะเป็นโซนรับประทานอาหาร มีขนาดพื้นที่กว้างเหมาะสำหรับวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่ง การตกแต่งเลือกใช้โต๊ะยาวขนาด 6 ที่นั่ง ท็อปโต๊ะเป็นหินอ่อนสีดำมีลวดลาย พร้อมด้วยเก้าอี้นั่งเป็นเบาะผ้าสีส้ม 6 ตัว โซนรับประทานอาหาร บ้านแบบนี้มีพื้นที่เยอะมากพอ ลองออกแบบโดยเลือกใช้โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง และจัดวางมินิบาร์ขนาด 2 ที่นั่ง หากใครที่เลือกออกแบบตกแต่งเป็นเป็นเคาน์เตอร์บาร์นั่งห้อยขา ก็จะเข้าบรรยากาศดื่มสังสรรค์และพูดคุยกัน ช่วยเพิ่มบรรยากาศทำให้มีฟังก์ชั่นหลากหลายมากขึ้น

 

อีกด้านของโซนรับประทานอาหารจะเป็นโซนครัวในบ้าน ทางโครงการได้ตกแต่งเพิ่มฉากกั้นขึ้นมาเพื่อพรางตาให้ดูสวยงาม เป็นไอเดียที่ดีในการประหยัดเงินได้มากขึ้น แต่ถ้าในระยะยาวแล้วละก็ควรทำเป็นประตูกระจกบานสไลด์ไปเลยก็จะดีกว่า เพราะจะช่วยแยกโซนป้องกันกลิ่นการทำอาหารได้เป็นอย่างดี

 

โซนครัวมาพร้อมกับเคาน์เตอร์ ท็อปหินแกรนิตสีขาวมีลวดลาย รูปทรงตัวแอล (L) พร้อม Built-in ตู้เก็บของด้านบน ติดตั้งซิงค์ล้างจานแบบ 1 หลุม (แนะนำให้ติดตั้งซิงค์แบบ 2 หลุมไปเลย) และใช้เตาไฟฟ้าแบบ 3 หัวมาใช้งาน พร้อมกับติดที่ดูดควันมาด้วย ส่วนด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวมามีลิ้นชัก และตู้เก็บของเยอะตามแนวเคาน์เตอร์ ออกแบบห้องครัวได้ครบฟังก์ชั่นเพื่อเอาใจคุณแม่บ้านกันแบบสุดๆ มีหน้าต่างแนวตั้งแบบบานกระทุ้งด้านหลังบ้าน 1 บาน (หน้าต่างด้านข้างจะมีเฉพาะห้องมุม) หน้าต่างช่วยระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้เป็นอย่างดี 

 

ห้องเก็บของในบ้าน เป็นช่องเล็กจะอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้น2

 

ห้องน้ำชั้น 1 ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาวทั้งห้อง กระเบื้องเลือกใช้ 2 แบบ สีขาวธรรมดา และสีขาวมีลวดลายหินอ่อน กระจกเป็นแบบบานใหญ่แนวยาวเต็มห้อง อ่างล้างหน้าเป็นทรงโค้งมน ใช้วัสดุจาก Karat ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler

 

CLEANING พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน

พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน แบ่งการตกแต่งเป็น 2 โซน โซนแรกคือ โซนนั่งเล่นหลังบ้าน และโซนครัวหลังบ้าน โซนนั่งเล่นตกแต่งด้วยโซฟาสีส้มพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ส่วนโซนครัวหลังบ้านตกแต่งด้วยเคาน์เตอร์ครัวไทย และชั้นวางของสีขาวแบบลอย จุดเด่นโซนนี้คือ ตกแต่งด้วยฝ้าโปร่งแสงตลอดแนวหลังคา ผู้ซื้อสามารถตกแต่งหลังคาตามแบบบ้านตัวอย่างได้เช่นเดียวกัน ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเลย

 

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นขั้นบันไดช่วงสั้นมีชานพักความชันของบันไดจะอยู่ในช่วงขั้นที่ 6 โดยที่มีราวจับติดผนังตั้งแต่ขั้นที่6 ติดผนังฝั่งด้านในยาวไปตลอดสุดบันได เพื่อให้สะดวกต่อผู้สูงอายุ และเด็กเล็กสำหรับการเดินขึ้นลงบันไดในส่วนของพื้นบันไดเลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดสำเร็จรูป ทั้งแผ่นตัวตั้ง และแผ่นตัวนอน วัสดุเป็นไม้ทำให้สัมผัสเบาสบายเท้าได้ความเป็นธรรมชาติ

 

มารีวิวกันต่อที่ชั้น 2 กันบ้าง ชั้น2 มีการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 1 ห้องใหญ่ (แบ่งกั้นห้องเป็น 2 ห้องนอน) และมี 1 ห้องเป็นโซนนั่งเล่น โดยมีห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลางของชั้น2

 

สำหรับแบบบ้าน Grande คือ ทางโครงการได้นำผนัง Zolid wall มาใช้งานด้วยเช่นกัน โดยเลือกใช้ห้องใหญ่ และใช้ผนัง Zolid wall แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอนเล็ก ผู้ซื้อสามารถตกแต่งได้ตามแบบบ้านตัวอย่างก็จะประหยัดเงินได้มากเลยทีเดียวแถมยังช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้มากขึ้นด้วย

 

BEDROOM 2 & BEDROOM 3 | ห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3

ห้องนอนห้องที่สอง ตกแต่งในสไตล์หวานสไตล์คุณหนูแบบสุดๆ เน้นความสบาย ตอบรับการใช้งานได้อย่างลงตัวสุดๆ ด้านข้างเตียงตกแต่งด้วยโซฟา Built-in ริมหน้าต่าง มาพร้อมกับลิ้นชักใต้โซฟา ทำให้สะดวกต่อการใช้งานภายในห้องอย่างมากมาย อีกทั้งการตกแต่งห้องแบบนี้ทำให้ลดพื้นที่ภายในห้องเป็นอย่างมาก ระเบียงของห้องนอนนี้จะติดกับโซฟาริมหน้าต่าง ส่วนอีกด้านข้างอีกด้านของเตียงนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ติดผนัง

 

ห้องนอนห้องที่ 3 จะอยู่ด้านหน้าบ้านเช่นเดียวกับห้องนอนห้องที่ 2 ตกแต่งในสไตล์เรียบ เน้นความสบายและพื้นที่การใช้สอยเป็นหลัก เตียงนอนทำเป็นแบบยกขึ้นมาจากพื้นห้อง เลือกใช้วัสดุเป็นไม้เทียมเข้าล็อกระหว่างหน้าต่างพอดี พร้อมลิ้นชักช่องเก็บใต้เตียง การตกแต่งแนวนี้ทำให้เพิ่มพื้นที่การใช้สอยได้เป็นอย่างดี ข้างเตียงจะ Built-in ผนังเพิ่มโต๊ะทำงานสามารถพับเก็บแบบเปิดปิดได้ เหมาะสำหรับหนุ่มๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและเน้นการตกแต่งแบบเรียบง่าย ระเบียงของห้องนอนนี้จะอยู่ใกล้กับโต๊ะทำงาน ระเบียงของห้องนี้จะมีระแนงเหล็กพรางตาอยู่ไม่เหมาะที่จะออกไปชมวิว

 

ห้องนอนห้องที่ 3 ปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ถ้าหากใครต้องการใช้พื้นที่อย่างเต็มที่มาพร้อมความสวยงามแล้วละก็ Built-in ตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งตามแบบบ้านตัวอย่างได้เช่นเดียวกัน ก็จะทำให้ลดพื้นที่ภายในห้องนอนได้มากขึ้น ถ้าไม่เลือก Built-in ก็เลือกซื้อตู้แบบลอยตัวมาก็ได้ และใช้โต๊ะเครื่องแป้งนำมาจัดวางคู่กันก็ประหยัดเงินได้มากขึ้น แต่ก็ต้องวัดระยะกันให้ดีก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์

 

ระเบียงห้องนอนห้องที่3 จะมีระแนงเหล็กพรางตาไว้อยู่ไม่เหมาะที่จะออกไปชมวิว อาจจะเลือกใช้เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะดีกว่า เพราะจะมีระแนงเหล็กช่วยพรางตาไม่ให้มองเห็นคอมเพรสเซอร์ได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับห้องน้ำชั้น 2 ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาวทั้งห้องเช่นกันกับชั้น 1 กระเบื้องผนังเลือกใช้ 2 แบบ สีขาวธรรมดา และสีขาวมีลวดลายหินอ่อน มีกระจกเงาทรงสีเหลี่ยม ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าใช้วัสดุจาก Karat ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler ห้องน้ำที่ชั้น2 จะมีตู้กระจกอาบน้ำแบบบานสไลด์เข้ามุมพร้อมติดมือจับมาให้แล้ว ฟักบัวเลือกใช้เป็นแบบธรรมดา กระเบื้องพื้นโซนอาบน้ำจะใช้เป็นกระเบื้องผิวหยาบกันลื่นแผ่นเล็ก ด้านนอกจะใช้เป็นกระเบื้องผิวเรียบแผ่นใหญ่

 

FAMILY AREA ห้องนั่งเล่นหรือห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์

ต่อมาจะเป็นโซน FAMILY AREA ห้องนั่งเล่นมีพื้นฝั่งด้านหลังของบ้าน โซนนั่งเล่นตกแต่งด้วยประตูกระจกกรอบทำจากไม้ ใช้ทำเป็นฉากกั้นโซน กระจกมีการทำลวดลายลายไม้ฉลุ ประตูเป็นแบบบานเลื่อน 1 บาน ผู้ซื้ออาจจะนำไอเดียนี้ไปปรับใช้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อได้ อาจจะตกแต่งเป็นฉากกั้นแบบทึบหรือเป็นประตูแบบเปิดปิดก็เพิ่มความส่วนตัวให้กับโซนนั่งเล่นได้เช่นเดียวกัน แบบบ้านเปล่าจะไม่มีประตูบานเลื่อนมาให้ต้องติดตั้งเอง ก็เลือกเป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียม กระจกก็เลือกติดฟิลม์สีดำทำให้ห้องเป็นส่วนตัวได้

 

FAMILY AREA ห้องนั่งเล่น หรือโซนอเนกประสงค์ เป็นโซนที่ผู้ซื้อสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเพิ่มเป็น ห้องทำงาน ห้องเลี้ยงเด็กก็ได้เช่นเดียวกัน ห้องดูโปร่งโล่ง กว้าง เนื่องจากตัวห้องมีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อให้แสงเข้ามาในตัวห้องได้อย่างเต็มที่ สำหรับบ้านตัวอย่างภายในตกแต่งด้วยโซฟาหนังสีครีม ตรงข้ามโซฟาจะตกแต่ง Built-in ชั้นวางของเลือกทำเป็นที่วางคอมฯ ก็ได้ประหยัดพื้นที่ได้มาก หรือผู้ซื้อไม่เน้นการทำงาน ก็สามารถปรับเพิ่ม Built-in เป็นชั้นวางทีวีและชั้นเก็บของโชว์ ของสะสม หรือแม้แต่ชั้นวางหนังสือ เพื่อสำหรับนั่งอ่านหนังสือผ่อนคลายเวลาเครียดได้อีกด้วย

โซนนี้ออกแบบให้เป็นห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ห้องคาราโอเกะก็ดี โซนนี้จะมีผนังเป็นพื้นที่ว่างมากพอให้ติดจอทีวีใหญ่ได้ จะเลือกเป็นแบบวางบนชั้น หรือจะเป็นแบบติดกับผนังก็ได้เช่นกัน ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นจะได้ไม่เกะกะเวลาเดินขึ้นบันได

 

บันไดทางขึ้นชั้น 3 จะอยู่ในโซนนั่งเล่นติดกับโต๊ะทำงาน ด้านข้างถูกกั้นแบ่งแยกโซนด้วยผนังฉากกั้นมีลวดลายเดียวกับฉากกั้นโซนนั่งเล่น

บันไดขึ้นชั้น 3 เป็นขั้นบันไดช่วงสั้นไม่มีชานพักความชันของบันไดจะอยู่ในช่วงขั้นที่ 6 โดยที่มีราวจับติดผนังตั้งแต่ขั้นที่6 ติดผนังฝั่งด้านในยาวไปตลอดสุดบันได เพื่อให้สะดวกต่อผู้สูงอายุ และเด็กเล็กสำหรับการเดินขึ้นลงบันไดในส่วนของพื้นบันไดเลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดสำเร็จรูป ทั้งแผ่นตัวตั้ง และแผ่นตัวนอน วัสดุเป็นไม้ทำให้สัมผัสเบาสบายเท้าได้ความเป็นธรรมชาติ

 

บันไดทางขึ้นชั้น3 จะมีราวจับติดผนังด้านในตลอดแนวจนถึงขั้นสุดท้ายที่ชั้น 3 โถงบันไดจะมีหน้าต่างรับแสงแนวตั้ง เป็นกระจกบานใหญ่ ออกแบบให้มีช่องแสงลอดผ่านเข้ามาในโถงบันไดชั้นนี้เพื่อให้โถงบันไดไม่มืดในเวลากลางวันทำให้ลดพลังงานภายในบ้านได้อย่างดีเยี่ยม การติดผ้าม่านก็ให้เลือกเป็นผ้าม่านแบบที่ขาวไม่ทึบจะจะทำให้แสงส่องเข้ามาได้ดี

 

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 3 โครงการออกแบบให้เป็นเพนท์เฮ้าส์กว้างๆ เป็นพื้นที่ว่างทั้งชั้น การตกแต่งเลือกแบ่งโซนการใช้งานออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่ และ SITTING AREA โซนนั่งเล่น

 

ชั้น 3 มีการเลือกใช้ฉากกั้นขนาดกว้าง 60 ซม. กั้นแบ่งโซนนั่งเล่น กับห้องนอนใหญ่ การเลือกใช้ฉากกั้นห้องอาจจะทำเป็นแบบบานสไลด์ก็ได้ ทำให้เป็นห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ห้องดูหนังส่วนตัวได้ ได้ความเป็นส่วนตัวเฉพาะคนที่อยู่ชั้นนี้จริงๆ จะไม่มีใครเดินผ่านเหมือนชั้น 2

 

Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่พร้อมห้องน้ำส่วนตัว

Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่ ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น สวยเรียบหรูดูมีระดับมาก มีการใช้กระจกที่มีลวดลายสวยงามมาใช้ติดกับผนังห้องห้องดูกว้างยิ่งขึ้น ฝ้าเพดานทำเป็นฝ้าหลุมซ่อนไฟ เลือกใช้หลอด LED สีเหลืองทำให้ห้องมีความสวยงามเวลาที่เปิดไฟ ด้านข้างหัวเตียง Built-in ชั้นวางของ สำหรับใช้วางโคมไฟ และสิ่งของต่างๆ ทำให้สะดวกต่อการใช้สอยมากขึ้น

 

“ ผนังห้องที่กว้าง 2 ด้าน พื้นที่ตกแต่งเยอะ ”

บิวท์อินตู้ติดผนัง หรือติดวอลล์เปเปอร์ลายสวย ได้ง่ายสบายๆ

ที่ปลายเตียงเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตู้ชั้นวางทีวีแบบลอยตัว วัสดุที่ใช้เป็นไม้ทาสีดำทั้งชิ้นทำให้ตัดกับโทนสีครีมน้ำตาลของห้องได้อย่างลงตัว ภายในโซนห้องนอนจะมีหน้าต่างบานเลื่อนแนวนอน 1 บานใหญ่ และหน้าต่างบานกระทุ้งอีก 1 บานเป็นแนวตั้ง

 

SITTING AREA โซนนั่งเล่นหรือโซนโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์

SITTING AREA โซนนั่งเล่น เน้นงานตกแต่ง Built-in เป็นหลัก เลือกวัสดุเป็นไม้บิวท์ติดผนัง รูปทรงเป็นตัวแอล พร้อมลิ้นชักด้านล่างที่มีมากถึง 7 ช่อง พร้อมโต๊ะทำงาน Built-in ติดผนัง เลือกใช้เบาะผ้าสีครีม พร้อมกับหมอนอิงสีน้ำตาล ที่หน้าต่างเลือกม่านมู่ลี่ไม้รามิน​การตกแต่งแบบบ้านตัวอย่างนี้ผู้ซื้อสามารถนำไอเดียการตกแต่งนี้ไปปรับใช้ได้ โดยการปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวผู้ซื้อเอง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานส่วนตัว ห้องนั่งเล่นส่วนตัว ห้องอ่านหนังสือ หรือแม้แต่ห้องเลี้ยงเด็กส่วนตัวก็ได้เช่นเดียวกัน

 

เดินถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Walk-in closet มีการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้า Built-in ติดผนังสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน เป็นแนวยาวขวางไปกับตัวบ้านเลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดธรรมดาปิดผิวลามิเนต ติดอุปกรณ์ครบ (ลิ้นชัก ที่แขวน) สูงประมาณ 2.50 เมตร ยาวรวม 6 เมตร

 

การทำตู้เสื้อผ้าในลักษณะนี้เป็นการออกแบบมาให้เน้นการใช้งานในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ภายในตู้มีชั้นสำหรับวางของด้านบนและด้านล่างจะมีลิ้นชักและพื้นที่เก็บของเป็นช่องเล็กๆ เพื่อสะดวกต่อการเก็บหรือการใช้สอยเครื่องประดับต่างๆ ของผู้ซื้อ ทำให้ลดความยุ่งยากและประหยัดเวลาในการแต่งตัวมากขึ้น ใครที่ต้องทำตู้คล้ายๆแบบนี้ เตรียมงบไว้เลยมีหมื่นขึ้นแน่นอน

 

ด้านในสุดของโซน Walk-in closet ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in พร้อมกระจกเต็มบานสูงถึงฝ้าเพดาน ทางด้านข้างจะเป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียม เพื่อเปิดออกไปรับลมชมวิวด้านนอก

 

มาต่อกันที่ห้องน้ำชั้น3 เป็นห้องน้ำส่วนตัวจึงตกแต่งให้สวยหรู ผนังกับพื้นห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องผิวเรียบแผ่นใหญ่ ตัดกับสีของกระเบื้องผนังสีน้ำตาลเข้มมีลวดลายนูนผิวไม่เรียบ มีการเลือกใช้กระเบื้องผนังสีน้ำตาลเข้มตรงอ่างล้างหน้า ในส่วนของอ่างล้างหน้า ใช้แบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว มีพื้นที่ด้านข้างอ่างวางของเครื่องใช้ได้เยอะ ด้านใต้อ่างจะมีตู้เก็บของบิวท์ติดกับอ่างพร้อมบานเปิดปิด อ่างล้างหน้าเลือกใช้วัสดุของ Karat มีกระจกเงาบานเล็กไม่ใหญ่มาก

 

ติดตั้งตู้กระจกบานเลื่อนพร้อมมือจับ กั้นแยกโซนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียกไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ในโซนอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower และฝักบัวธรรมดาติดตั้งให้เลือกใช้งานได้ 2 แบบ ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ในแนวเดียวกันจะมีก็อกน้ำสำหรับเปิดใช้งานซักล้างทั่วไปมาให้ด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler ห้องน้ำชั้น3 ของแบบบ้านหลังนี้จะมีหน้าต่างบานเลื่อนที่เปิดได้ทั้งซ้ายและขวาติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย ใช้เปิดระบายความอับชื่นได้ดี


 

รีวิวบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน Metro

แบบบ้าน Metro เป็นแบบบ้านทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชั่นแฟมิลี่สเปซอยู่ชั้น 2 ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของครอบครัวเป็นหลัก มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Room ที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน

 

ความพิเศษของแบบบ้าน Metro คือด้านหน้ามีระเบียงมาให้ 2 ชั้นพร้อมกับประตูบานเลื่อนบานใหญ่ และด้านหลังที่ชั้น3 จะมีระเบียงใหญ่เปิดรับลมชมวิวจากภายนอกได้ การตกแต่งภายนอกตัวบ้านมีการเล่นลวดลายแนวตั้งอย่างเดียว ด้วยรูปทรงที่ดูไม่เรียบใช้ลูกเล่นของผนังภายนอก ตัดกับระแนงเหล็กสีดำที่ระเบียง ทำให้ที่ดูมีมิติสวยโดดเด่นมากขึ้น เลือกใช้โทนสี 4 โทนสีด้วยกัน คือ สีเหลือง สีน้ำตาล สีเทา และสีขาว ทำให้สีของผนังด้านหน้าตัดกันได้อย่างธรรมชาติ

แบบบ้านหลังนี้มีประตูหน้า เลือกใช้ประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ 2 บาน เปิดสไลด์ได้ 1 บาน เลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสง ขนาดความสูงของประตู 2.40 เมตร แบบบ้านแบบนี้จะไม่มีประตูห้องเก็บของด้านหน้าเหมือนกับ 2 แบบแรก แต่ยังคงมีพื้นที่ให้จอดรถได้ 2 คันเหมือนกัน

 

LIVING AREA โซนรับแขก หรือโซนอเนกประสงค์

โซนแรกที่พบเมื่อเข้าบ้าน จะเป็น LIVING AREA โซนรับแขกการตกแต่งในโทนสีน้ำตาลเข้ม ภายในความเข้มยังคงมีความหรูหราจากเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับต่างๆ ที่ทำให้โซนนี้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โซนนี้จะเชื่อมไปสู่โซนรับประทานอาหาร ถ้าหากผู้ซื้อต้องการแยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ผู้ซื้อสามารถตกแต่ง Built-in ฉากกั้นผนังเพิ่มขึ้นมาได้ หรือจะเลือกใช้บล็อคชั้นวางของแบบบ้านหลังแรกก็ได้เช่นกัน ประหยัดงบได้มากเลยทีเดียว แยกโซนให้ชัดเจนจะทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูเป็นสัดส่วนและสวยงามมากเลยทีเดียว

 

โซนรับแขกฝั่งตรงข้ามโซฟา เลือก Built-in ผนังที่ใช้วัสดุเป็นไม้ ซึ่งมีการทำประตูไว้ 2 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเพื่อใช้ปิดไม่ให้เห็นบันไดทางขึ้นชั้น2 และทำประตูบานเปิดที่ช่องเก็บของใต้บันไดการเลือกใช้ประตูสไลด์ตรงบันได เป็นความเชื่ออาจจะทำเพื่อให้ถูกหลักฮวงจุ้ยก็เป็นได้ ความพิเศษของการตกแต่งแบบนี้ทำให้ดูสวยงาม ดูเรียบร้อยเป็นระเบียบสบายตามากขึ้นด้วย

 

DINNING AREA โซนรับประทานอาหาร

โซนรับประทานอาหาร สามารถจัดวางโต๊ะแบบ 4-6 ที่นั่ง โซนนี้มีประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังบ้าน ส่วนประตูบานเลื่อนด้านข้างที่ใช้ออกไปยังตัวบ้านจะมีเฉพาะหลังมุมเท่านั้น

 

โซนรับประทานอาหารและห้องครัว จะสังเกตเห็นว่าโครงการมีการตกแต่งให้มีประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อกั้นแยกโซนไว้แล้ว ในการตกแต่งผู้ซื้อสามารถเพิ่มฉากกั้น หรือทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนของแต่ละโซนตามแบบบ้านตัวอย่างได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังลดเรื่องกลิ่นเวลาที่ปรุงอาหารไม่ให้เข้ามาในส่วนของโซนรับประทานอาหารอีกด้วย

 

KITCHEN โซนครัว เตรียมอาหาร

KITCHEN โซนครัว เตรียมมอาหาร ทำเคาน์เตอร์ในรูปตัวแอล (L) ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินแกรนิตสีดำ ติดตั้งอ่างล้างจานแบบ 1 หลุมมาใช้งาน และเลือกใช้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวใช้งานในครัว ที่ใต้เคาน์เตอร์มีบานเปิดเก็บของได้ พร้อมด้วยลิ้นชักเก็บของโซนครัวของแบบบ้านหลังนี้จะมีหน้าต่างแนวตั้งทรงสูงแบบบานเลื่อน ใช้สำหรับการระบายกลิ่นในห้องครัวได้

 

CLEANING พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน

พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน มีการต่อเติมเพิ่มทำเป็นโซนครัว เลือกใช้เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูปมาใช้งาน และมีโซนนั่งเล่น เลือกเฟอร์นิเจอร์ใช้เป็นโต๊ะกลมและเก้าอี้ 2 ตัว ผนังด้านข้างตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ลายอิฐสีแดงเพดานตกแต่งด้วยฝาแบบฉาบเรียบ แบ่งกึ่งกลางด้วยฝ้า และหลังคาแบบโปร่งแสง ทำให้โซนนี้มีแสงส่องผ่านเข้ามาภายในโซนนี้ได้

 

เรามาต่อกันที่โถงชั้น 2 ชั้น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีดำมีลิ้นชัก 3 ชั้น สามารถวางของโชว์ต่างๆได้ หลายคนอาจะไม่จำเป็นต้องตั้งของโชว์ก็เลือกตั้งตู้เย็นแบบ 2 ประตูก็ได้แต่ก็ต้องเดินสายไปเพิ่มเติมที่ชั้น2 จะแบ่งการใช้งานเป็น 2 ห้องหลักๆ คือ ห้องนอนใหญ่ฝั่งหน้าบ้านและห้องอเนกประสงค์ฝั่งหลังบ้าน

 

มีติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า พร้อมกล่องกริ่งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะสังเกตว่าผนังที่ห้องโถงนี้จะมีพื้นที่กว้างมาก เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องทำให้มันเกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด จัดไปเลยตู้แขวนผนังแบบบานเปิดที่ใช้กันในห้องครัว เอามาติดตรงนี้ได้เลยจะติดเป็นแนวยาว แนวตั้งเลือกได้ตามใจเลย ตู้แบบนี้สามารถหาซื้อได้ที่ โฮมโปร บุญถาวร หรือไทวัสดุก็มี ราคาจะอยู่ใบล่ะประมาณ 400-800 บาทแล้วแต่ลาย สวยมากก็แพงมาก ยังไม่รวมค่าติดตั้งค่าติดตั้งตู้จะอยู่ประมาณในละ 50-100 บาทแล้วแต่ความยากง่ายของสถานที่ติดตั้ง

พื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาน Wifi อินเตอเน็ต หรือจะใช้ติดตั้ง Access Point ตัวกระจายสัญญาณ Wifi ก็ได้ เพื่อให้ช่วยกระจายสัญญาน Wifi ไปถึงที่ชั้น 3 ของอาคารได้อย่างเต็มที่

สำหรับใครยังไม่มีไอเดีย หรือความรู้ในการติดตั้ง Wifi สามารถหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านบทความเรื่อง ติดเราเตอร์ในบ้านวางตรงไหน สัญญาณ WiFi แรงส์สุด!! ลองอ่านใช้เป็นแนวทางได้ คลิกอ่านที่นี่ »

หากว่าใครที่ติดตั้งแล้วแต่สัญญาณ wifi ยังไม่แรงพอ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง เทคนิคช่วยเพิ่มความแรงให้กับ "WiFi" ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง คลิกอ่านที่นี่ »

 

Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่ พร้อมห้องน้ำส่วนตัว

Master Bedroom ห้องนอนห้องใหญ่มีขนาดกว้างขวางมากที่สุด ภายในห้องตกแต่งให้มีความหรูหรา เน้นสีทองสว่างเป็นหลัก ฝ้าเพดานทำเป็นฝ้าหลุมซ่อนไฟ เลือกใช้หลอด LED สีเหลืองทำให้ห้องมีความสวยงามเวลาที่เปิดไฟผนังด้านบนหัวเตียงตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ไม้ หัวเตียงลายทองพร้อมตกแต่งวอลล์เปเปอร์ลายหินแกรนิต และเลือกใช้เตียงนอนขนาด 6 ฟุตเข้ามาตกแต่ง แม้เตียงจะใหญ่แค่ไหนก็ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างอีกเยอะเลยทีเดียวภายในห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่เต็มบาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อน 1 บาน ทำให้ช่วงเวลากลางวันมีแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาภายในได้ทั่วทุกมุมห้อง

 

พื้นที่ปลายเตียงตกแต่ง Built – in ชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของต่างๆ เข้าไปเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้มากขึ้น ข้างๆติดกับหน้าต่างทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง มีการพรางสายตาห้องแต่งตัว ทำเป็นประตูบานเลื่อนกรอบสีดำ ใช้พรางตากั้นระหว่างโซนห้องนอนและโซน Walk – in Closet การตกแต่งแบบนี้ทำให้ห้องแบ่งสัดส่วนมากขึ้น ดูไม่รกมากเกินไปเพราะจัดเอาห้องแต่งตัวไปไว้อีกด้านของห้อง

 

สำหรับโซน Walk – in Closet ทางโครงการตกแต่งBuilt – in ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่งมาให้ใช้งาน พร้อมที่แขวนเสื้อผ้า พร้อมลิ้นชักเก็บของต่างๆ แบบจัดเต็มทำให้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งด้านบนผู้ซื้อยังสามารถวางของหรือเก็บกระเป๋าเดินทางได้ด้วย คงชอบกันละสิสำหรับนักเที่ยวทั้งหลาย ถัดเข้ามาทางด้านจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอน แบ่งแยกโซนกันอย่างเห็นได้ชัดเจน

 

ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ เป็นห้องน้ำส่วนตัวจึงตกแต่งให้สวยหรู ผนังกับพื้นห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องผิวเรียบแผ่นใหญ่ ตัดกับสีของกระเบื้องผนังสีน้ำตาลเข้มมีลวดลายนูนผิวไม่เรียบ เลือกใช้กระเบื้องผนังสีน้ำตาลเข้มบริเวณอ่างล้างหน้า ในส่วนของอ่างล้างหน้า ใช้แบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านใต้อ่างจะมีตู้เก็บของบิวท์ติดกับอ่างพร้อมบานเปิดปิด อ่างล้างหน้าเลือกใช้วัสดุของ Karat และใช้กระจกเงาบานเล็กไม่ใหญ่มาก พร้อมฟังค์ชั่นตู้กระจกบานเลื่อนแบบเข้ามุม ใช้กั้นแยกโซนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยเช่นกัน

 

โซนอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower และฝักบัวธรรมดาติดตั้งให้เลือกใช้งานได้ 2 แบบ ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น มีช่องเล็กๆด้านบนของผนังสำหรับการเดินสายไฟติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วย

 

ห้องน้ำห้องนอนใหญ่ ของแบบบ้านหลังนี้จะไม่มีหน้าต่าง แต่มีพัดลมดูอากาศมาให้แทน ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็ใช้วัสดุจาก Kohler เช่นเดิม

 

FAMILY AREA โซนนั่งเล่นหรือโซนโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์

ห้องนั่งเล่นหรือห้องอเนกประสงค์ สำหรับบ้านตัวอย่างทางโครงการออกแบบให้เป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ เพื่อรองรับสมาชิกภายในครอบครัวได้อย่างเต็มที่ โซนนั่งเล่นจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน หากใครต้องการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นห้องทำงานหรือห้องเลี้ยงเด็กก็ได้ หรือแม้แต่เพิ่มเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องก็ได้ หรือจะเลือกทำให้เป็นห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ห้องดูหนังส่วนตัวได้ แถมยังอยู่เพียงแค่ชั้น2 เท่านั้นเรียกว่าสะดวกและได้ความเป็นส่วนตัวจริงๆ

สำหรับใครที่ต้องการไอเดียการตกแต่งห้องนั่งเล่นใหม่ๆ สามารถ คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ เพื่อนำไปเป็นไกด์ไลน์ให้เข้ากับรูปแบบบ้านของผู้ซื้อได้

 

เรามาต่อกันที่โถงบันไดทางขึ้นชั้น 3 กันบ้างนะคะ ที่โถงบันได ฝ้าเพดานด้านบนจะมีฝ้าช่องแสง 2 ช่องขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาให้เป็นแบบเล่นระดับฝ้าช่องแสง ทำให้เกิดมิติของแสงที่ลอดผ่านช่องนี้ ทำให้ในช่วงเวลากลางวันไม่ต้องเสียพลังงานภายในบ้านและที่โถงบันไดยังมีติดโคมไฟผนังมาให้ใช้งานในเวลากลางคืน

 

โถงชั้น 3 เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นชั้นวางของสีน้ำตาลพร้อมลิ้นชั้น 6 ช่องสามารถวางของโชว์ แจกันดอกไม้ กรอบรูป เทียมหอมต่างๆ สังเกตว่าผนังที่ห้องโถงบริเวณนี้จะมีพื้นที่ว่างๆ เลือกติดตู้แขวนผนังแบบบานเปิดที่ใช้กันในห้องครัว เอามาติดตรงนี้เลยทำเหมือนชั้น 2 ติดตู้เป็นแนวตั้ง

ที่ชั้น 3 จะมีห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำกั้นระหว่างกลาง ทำให้สะดวกในการใช้งาน

 

BEDROOM 2 ห้องนอนห้องที่สอง

ห้องนอนห้องที่สอง ตกแต่งในสไตล์เรียบหรู ดูโล่งกว้างด้วยหน้าต่างบานเลื่อน 1 บานใหญ่ ด้านข้างริมหน้าต่าง Built – in ที่นั่งรองนั่งด้วยเบาะผ้าสีครีมแนวยาวขนานไปกับแนวหน้าต่าง ใต้ที่นั่งจะมีช่องสำหรับการเก็บของอีกด้วย การตกแต่งแบบนี้ทำให้ประหยัดพื้นที่การใช้สอยภายในห้องได้ดีมาก

 

ปลายเตียงจะเป็นการตกแต่งบังตาด้วยการบิวท์ผนังห้องขึ้นมาเพื่อใช้แยกโซน Walk – in Closet ทำเป็นประตูบานเลื่อนกรอบสีดำ ใช้พรางสายตากั้นโซนห้องนอน การตกแต่งแบบนี้ทำให้ห้องแบ่งสัดส่วนมากขึ้น ดูไม่รกมากเกินไปเพราะจัดเอาห้องแต่งตัวไปไว้อีกด้านของห้อง

 

โซน Walk – in Closet หรือโซนแต่งตัวจะอยู่ด้านหลังของผนังที่บิวท์กั้นโซนด้านใน Built – in ตู้เสื้อผ้าแบบโปร่ง เลือกใช้วัสดุเป็นไม้อัดธรรมดาปิดผิวลามิเนต ติดอุปกรณ์ครบ (ลิ้นชัก ที่แขวน) และช่องเก็บของต่างๆ ด้านข้างตกแต่งให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built – in ชิดกับตู้เสื้อผ้าพร้อมเก้าอี้ และกระจกบานใหญ่แนวตั้งสูงถึงฝ้าเพดาน

 

อีกฝั่งของโต๊ะเครื่องแป้งจะเป็นตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ทำแบบเดียวกับตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ ทำเพื่อให้สะดวกใช้สอย และประหยัดพื้นที่เป็นอย่างมากยิ่งขึ้น

 

ถัดมาโซนแต่งตัว จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 1 บาน เพื่อเชื่อมไปยังระเบียงด้านนอกได้ด้วย

 

BEDROOM 3 ห้องนอนห้องที่ 3

ห้องนอนห้องที่ 3 ตกแต่ง Built – in รอบห้องโดยเตียงนอนเป็นแบบ Built – in ชิดผนังยกสูงพร้อมลิ้นชักด้านล่าง 3 ช่อง เพื่อสะดวกต่อการเก็บของหรือเสื้อผ้าต่างๆ ที่จำเป็นและต้องการหยิบใช้อยู่เป็นประจำ อีกทั้งโต๊ะทำงานและโซฟาแบบ Built – in ชิดผนังพร้อมช่องเก็บของ ด้านข้างโซนนี้จะเป็นตู้เสื้อแบบ Built – in เช่นเดียวกัน เป็นบานเปิด 4 บาน จะสังเกตเห็นว่าการตกแต่งแนวนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้มาก และยังครบทุกฟังก์ชั่นตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบภายในห้องอีกด้วย

 

ห้องน้ำชั้น 3 ตกแต่งด้วยกระเบื้องผนังสีขาวทั้งหมด มาพร้อมฟังค์ชั่นตู้กระจกบานเลื่อนแบบเข้ามุม ใช้กั้นแยกโซนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยเช่นกัน โซนอาบน้ำใช้ฝักบัวธรรมดา ในแนวเดียวกันจะมีก็อกน้ำสำหรับเปิดใช้งานซักล้างทั่วไปมาให้ด้วยส่วนชุดสุขภัณฑ์ใช้วัสดุจาก Kohler เช่นเดิม

 

ในส่วนของอ่างล้างหน้า ใช้แบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว มีพื้นที่ด้านข้างอ่างวางของเครื่องใช้ได้ ด้านใต้อ่างจะมีตู้เก็บของบิวท์ติดกับอ่างพร้อมบานเปิดปิด อ่างล้างหน้าเลือกใช้วัสดุของ Karat มีกระจกเงาทรงสีเหลี่ยมบานเล็กไม่ใหญ่มาก

 

ฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม ผนัง Zolid Wall แบรนด์ SCG

ผนัง Zolid Wall มีน้ำหนักเบา ให้คุณภาพและความแข็งแกร่งคงทนสูง สามารถแขวนสิ่งของและรับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัม ติดตั้งได้ง่ายและสะดวก มีคุณสมบัติช่วยลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 42 เดซิเบล ซึ่งในการออกแบบขั้นตอนกระบวนการสร้างผนังภายใน Zolid Wall นี้เป็นผนังที่ได้ถูกออกแบบมาให้มีความทึบ และแข็งแรงเป็นพิเศษ ยึดแขวนของได้ดี และผ่านการทดสอบความแข็งแรงระดับสูงสุด แต่ยังคงความสะดวกในการติดตั้ง และการปรับปรุงให้ง่าย เหมาะสำหรับงานคอนโดมิเนียม และงานที่อยู่อาศัย ที่เน้นความแข็งแรง และต้องการความเป็นส่วนตัว

คุณสมบัติเด่นของผนัง

  • ทำให้ห้องเย็น ช่วยประหยัดค่าไฟ
  • เพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง (กั้นเสียงได้ 37-42 เดซิเบล)
  • แขวนของหนักได้มั่นคง
  • ติดตั้งง่าย และเร็วกว่าผนังอิฐมวลเบาถึง 2 เท่า
  • ติดตั้งงาน ระบบประปาและไฟฟ้าได้เร็วขึ้น
  • ผิวเรียบเนียนได้ระนาบ โดยไม่ต้องฉาบผิวหน้า
  • ไม่เกิดรอยแตกร้าวภายหลัง
  • รื้อออกหรือกั้นเพิ่มได้รวดเร็ว โดยไม่กระทบโครงสร้างเดิม และไม่ต้องตรงกับแนวคาน

 

แบบบ้าน Master ติดตั้งผนัง Zolid Wall มีการติดตั้งไว้ 3 จุด ดังนี้

ชั้นที่ 1 : จุดที่1 ติดตั้งผนัง Zolid Wall ที่โซนรับแขก หรือโซนอเนกประสงค์

สามารถปรับเปลี่ยนเอาออกได้ตามรูปแบบการใช้งานของไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อติดตั้งได้ตามแบบบ้านตัวอย่างได้เลย หรือใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนย้ายตำแหน่งก็ย่อมทำได้เช่นกัน แจ้งกับทางโครงการว่าต้องการแบบไหนได้เลย และใครที่ต้องการตกแต่งเพิ่มเติมให้มากกว่าเดิม ก็สามารถตกแต่งเพิ่มผนังวอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลายต่างๆ พร้อมชั้นวางของแบบลอยเก๋ๆ สักตัวชิดกับผนัง ก็จะช่วยให้ภายในบ้านมีสัดส่วนและสวยงามยิ่งขึ้น

 

ชั้นที่ 2 : โดยจะมี 2 จุดติดตั้ง คือใช้ที่ห้องประชุมใหญ่ และบริเวณโถงชั้น2

จุดที่2 ใช้แบ่งโซน Manager Room กับโซน Meeting Room

จุดที่3 ใช้แบ่งโซน Family Room กับโซน Co-Working Space

 

แบบบ้าน Grande ติดตั้งผนัง Zolid Wall มีการติดตั้งไว้ 1 จุด ดังนี้

ชั้นที่ 2 : ใช้กั้นโซนที่ห้องโถงใหญ่ เพื่อใช้แบ่งเป็นห้องนอน 2 และห้องนอน 3

โดยเลือกใช้ห้องโถงใหญ่ที่ชั้น2 และใช้ผนัง Zolid Wall กั้นห้องเพื่อแบ่งพื้นที่ส่วนนี้ออกเป็น 2 ห้องนอนด้วยกัน โดยทั้งหมดนี้ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการของการติดตั้งผนังแบบนี้หรือป่าว ซึ่งสามารถเลือกได้ก่อนซื้อนั้นเอง

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

สำหรับโครงการ พาทิโอ รามอินทรา มาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นทั้งแบบบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ตอบรับทุกกิจกรรมตาม Life Style และโดดเด่นไม่แพ้แบบบ้านภายในโครงการ ทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ฟิตเนส

 

มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 1 ไร่ ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้พุ่มตลอดแนวสวนพร้อมทั้งทำลานวิ่งสำหรับออกกำลังกาย Jogging Track เอาไว้ให้บริเวณภายในสวนสาธารณะ การจัดพื้นที่แนวปลูกต้นไม้มีการออกแบบที่ดี ได้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อนของสมาชิกทุกคนในโครงการ

 

สำหรับคลับเฮ้าส์เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ผู้ซื้อทุกคนสามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกัน การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันภายในโครงการ หรือแม้กระทั่งเป็นพื้นที่สำหรับคุณหนูๆ ที่มารวมตัวทำการบ้าน หรือระหว่างรอคุณพ่อคุณแม่กลับบ้านก็ได้เช่นกัน

 

จากรูปภาพ จะเป็นคลับเฮ้าส์และชั้น 2 จะเป็นโซนสำหรับฟิตเนสและห้องประชุม

 

สำหรับสระว่ายน้ำในโครงการใช้ระบบเกลือมีขนาดใหญ่ เพียงพอเพื่อรองรับการทำกิจกรรมของผู้ซื้อทุกหลัง มีการแบ่งแยกโซนระหว่างโซนสระว่ายน้ำผู้ใหญ่และสระว่ายน้ำเล็กไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

 

ฝักบัวอาบน้ำ และ Rain Shower ระบบน้ำอุ่น สำหรับล้างตัวก่อน และหลังจากที่ลงสระแล้ว

 

คลับเฮ้าส์ และฟิตเนส จะมีห้องน้ำชาย-ห้องน้ำหญิง รองรับสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ

 

สำหรับฟิตเนสจะอยู่ชั้น 2 ด้านบนของคลับเฮ้าส์เป็นฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครัน มีวิวแบบพาโนรามามองเห็นสระว่ายน้ำ เป็นวิวทิวทัศน์ในการออกกำลังกายได้แบบเพลินๆ

 

ทางเข้าโครงการมีทางเข้าและทางออกฝั่งละ 2 ช่องทาง มีระบบรักษาความปลอดภัยดังนี้

  • เข้า-ออก โครงการ ด้วยระบบประตูล็อค 2 ชั้น พร้อมระบบ Auto Access Card
  • ดูแลทุกชีวิตไม่ให้คลาดสายตาด้วยกล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate)
  • Security Guard พร้อมตรวจตราและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
 

ระบบ Auto Access Card ทางเข้า 2 ช่องทาง และทางออก 2 ช่องทางเช่นกัน

 

เข้า-ออก ด้วยระบบประตูล็อค 2 ชั้นพร้อมระบบกล้องวงจรปิด CCTV ด้านหน้าทางเข้า-ออก

 

ถนนเมนด้านหน้าโครงการกว้าง 16 เมตร และถนนซอยมีขนาด 9 เมตร

 

สถานที่น่าสนใจ สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

 

แนะนำจุดขึ้นทางด่วน และทางพิเศษที่ใกล้กับโครงการ

►จากโครงการ ไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

 

►จากโครงการ ไปวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯฝั่งขาเข้าตัวเมือง

แผนที่โครงการ พาทิโอ รามอินทรา

แผนที่โครงการ พาทิโอ  รามอินทรา

คลิกดูแผนที่ใหญ่โครงการ พาทิโอ รามอินทรา

 

แนะนำสถานที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

เวนิส ดี ไอริส เลือกใช้ถนนเทพรักษ์ (ประมาณ 10-15 นาที)

เวนิส ดี ไอริส

เวนิส ดี ไอริส Shop House & Community Mall แห่งใหม่ล่าสุด ตั้งอยู่ในพื้นที่ทำเลทองย่านวัชรพล เพื่อให้ได้สัมผัสกลิ่นไอแห่งมหานครเวนิสอย่างแท้จริง ด้วยความประทับใจในความงดงามของมหานครท่องเที่ยวระดับโลกของเมืองเวนิส สู่การสรรสร้างที่สุดของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เพียบพร้อมด้วยร้านค้า, ร้านอาหาร, เครื่องดื่ม, แฟชั่น, สุขภาพ, ความงาม, สวนสนุก และอื่น ๆ อีกมากมาย
ภายใน "เวนิส ดี ไอริส" แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ

Piazza mall : แหล่งรวมร้านค้าไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ของทุกคนในครอบครัว บนพื้นที่ 9,200 ตารางเมตร เพียบพร้อมไปด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมง ช้อปสนุกกับสินค้าและร้านอาหารนานาชาติในบรรยากาศสไตล์เวนิส รวมทั้งร้านกาแฟ, เบเกอรี่, แฟชั่น, สุขภาพ, ความงาม, สวนสนุก และส่วนบริการอื่น ๆ มากมาย โดดเด่นด้วยกิจกรรมสุดประทับใจอย่าง "การล่องเรือกอนโดลา" บนคลองรอบโครงการยาวกว่า 800 เมตร เพื่อสัมผัสบรรยากาศและความสวยงามของอาคารต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง

Canale Shop House : อาคารที่เน้นการดีไซน์ในสไตล์เวนิส พื้นที่ใช้สอยกว่า 160 ตารางเมตร หน้ากว้างกว่า 4.4 เมตร มีถนนด้านหน้ากว่า 18 เมตร สามารถใช้เป็นร้านค้าและที่อยู่อาศัยได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมี "ตลาดนัดแนวศิลปะแหล่งใหม่" The Art-Mosphere @ Venice Di Iris วัชรพล จุดนัดพบแนวใหม่ของคนกรุงเทพฯ และช้อปปิ้งกับสินค้าหลากหลายไอเดียสุดเก๋ไก๋ที่มีให้เลือกช้อปเพียบ พร้อมกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สตรีท เธียร์เตอร์ ดนตรีเปิดหมวก และอีกหลากหลายการแสดงสดบนถนนสายศิลปะ ท่ามกลางบรรยากาศชวนฝันของเมืองเวนิส อาทิ การแสดงโบโซ่ (Bozo), หุ่นนิ่ง Statue, จักกลิ้ง (Juggling), สตรีท เพนติ้ง (Street Painting), Installation art พร้อมชมรถคลาสสิกหลากหลายสไตล์

 

Fashion Islandเลือกใช้ถนนรามอินทรา(ประมาณ 10-15 นาที)

แฟชั่น ไอส์แลนด์แล้ว เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เพียง 14 ไร่อย่างเช่น ดิโอลด์สยามเสียแล้ว แต่เป็นโครงการที่ใช้พื้นที่ขนาดมหึมาถึง 87 ไร่ บนถนนรามอินทรา กม. ที่ 10.5 นอกจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ 2 แห่งแล้ว ยังมีร้านค้าปลีกกว่า 300 ร้าน โรงภาพยนตร์ 7 โรง สวนสนุก ศูนย์อาหาร และศูนย์จัดนิทรรศการที่กว้างขวาง

 

►เซ็นทรัล รามอินทรา เลือกใช้ถนนเทพรักษ์ เลี่ยงรามอินทรา (ประมาณ 15-20 นาที)

CentralPlaza Ramintra

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา รามอินทรา หรือ เซ็นทรัล รามอินทรา เป็นศูนย์การค้าในประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา บนพื้นที่ 23,500 ตารางเมต ศูนย์การค้าชุมชนโดยประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ร้านค้า, ร้านอาหาร, และ โรงภาพยนตร์ 6 โรง โดยเน้นไปยังกิจกรรมครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้มีการเข้าใช้บริการตลอดทั้งปี ทำให้ศูนย์การค้าเป็นที่พบปะสังสรรค์และพักผ่อนหย่อนใจร่วมกัน นอกจากนี้ โครงการยังแวดล้อมไปด้วยที่พักอาศัยและชุมชน

 

สวนสยามเลือกใช้ถนนรามอินทรา (ประมาณ 20-30 นาที)

สวนสยามทะเลกรุงเทพ เป็นสวนสนุกและสวนน้ำ ตั้งอยู่ที่ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว บนเนื้อที่ 300 ไร่ ได้ฉายาว่า "ทะเลกรุงเทพ" และคำขวัญคือ "สวนสยาม...โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม" สวนสยามเปิดดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ. 2523 แรกเริ่มมีเพียงสวนน้ำภายหลังจึงได้ซื้อเครื่องเล่นเดิมจากสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ที่ได้ปิดกิจการมาให้เปิดบริการ สวนสยามจึงเป็นทั้งสวนน้ำและสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และมีทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีรางน้ำวน สปา พร้อมเครื่องเล่นทางน้ำครบครัน สไลเดอร์ที่สูงเท่ากับตึก 7 ชั้น ซูเปอร์สไปรัลรางน้ำคดเคี้ยว พิพิธภัณฑ์ไดโนโนเปีย พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งจีน อุทยานพฤษชาติ สวนสัตว์ และสวนสาระ

 

►สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ เลือกใช้ถนนวงแหวนรอบนอก (ประมาณ 25-30 นาที)

สวนสัตว์ซาฟารีเวิร์ด ธีมปาร์คมาตราฐานโลกหนึ่งเดียวในประเทศไทย บรรยากาศร่มรื่น สวยงาม กว้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพ ศูนย์รวมการแสดงยิ่งใหญ่ระดับโลก 7 โชว์ 7 เวที อาทิ โชว์ลิงอุรังอุตังชกมวย โชว์สิงโตทะเล โชว์โลมา โชว์นก โชว์สตั๊นท์ โชว์สงสรามารกรรม และโชว์ละครสัตว์ ตื่นตาตื่นใจกับล่องเรือังเกิลครูซ ท่ามกลางป่าดิบอเมซอน บรรยากาศน่าพิศวงนี้ต้องใช้เวลารอคอยนานกว่า 15 ปี และสวนสัตว์เปิด มีสัตว์หายาก ใกล้สูญพันธ์ รวมทั้งสัตว์อนุรักษ์มากกว่า 400 ประเภท จำนวนมากกว่า 4,000 ตัวจากทั่วมุมโลก สัมผัสชีวิตสัตว์ป่าที่ใกล้สูณพันธ์ สัตว์ป่าหายากนานาชนิด ใกล้ชิดกับฝูงสัตว์ป่ามากมาย อาทิ ฝูงยีราฟ ม้าลาย กระทิง ควายป่า แรดขาว กวางป่า อิมพาลา และตื่นเต้นกับการแสดงให้อาหารสัตว์ดุร้ายในโซนเสือ สิงโต และหมี ที่ไม่ควรพลาด

 

สำนักงานขายโครงการ พาทิโอ รามอินทรา

สำนักงานขายโครงการ พาทิโอ  รามอินทรา

สำหรับผู้ซื้อที่ต้องการติดต่อโครงการพาทิโอ รามอินทรา สามารถติดต่อได้ที่ Sale Gallery ด้านในโครงการได้เลย Sale Gallery ของทางโครงการมีขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานในรูปแบบออฟฟิศอย่างเต็มที่ พร้อมพื้นที่รองรับส่วนตัวต่างๆ มากมาย เพื่อผู้ซื้อทุกท่าน

 

สรุปรีวิวโครงการ พาทิโอ รามอินทรา

►ฟังก์ชั่นแบบบ้าน

สำหรับใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่มีเป้าหมายชีวิตพร้อม เพื่อวันก้าวหน้า บวกกับทำเลดี มีความเป็นส่วนตัว และครบทุกฟังก์ชั่นของการใช้ชีวิต โครงการพาทิโอ รามอินทรา นิยามการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่ “ทำเล” แต่คือ “เวลา” ที่มีให้กันมากขึ้น ด้วยการออกแบบบ้านที่ตอบรับการใช้งานของคนยุคใหม่ ที่ไม่ต้องเลือกระหว่าง งาน กับ ครอบครัว อีกต่อไป ด้วยทาวน์โฮมที่มาพร้อมรูปแบบออฟฟิศ 3 ชั้น ตกแต่งผสมผสานระหว่างทาวน์โฮมและออฟฟิศให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้คุณใช้ชีวิตได้ทั้ง 2 ด้าน เพิ่มความพิเศษให้กับทุกแบบบ้านด้วยติดตั้งผนัง Zolid wall วัสดุคุณภาพจาก SCG ที่สามารถปรับเปลี่ยนเอาออกได้ตามรูปแบบการใช้งานของไลฟ์สไตล์ พร้อมฟังก์ชั่นเพนท์เฮ้าส์เปิดกว้างยกชั้นเพื่อเพิ่มความจุในทุกพื้นที่ รองรับการใช้งานทุกคนในครอบครัว
 

►สิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกที่ครบครันพร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มากกว่า 1 ไร่ พร้อมสนามเด็กเล่นคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ พื้นที่ทำงานส่วนกลางอุ่นใจด้วยระบบการรักษาความปลอดภัย Dubble Security และกล้อง CCTV ตลอด 24 ชม.
 

►การเดินทางและทำเลที่ตั้ง

รายล้อมด้วยศูนย์รวมถึงสิ่งอำนวยความสุขมากมายรอบโครงการ อาทิ เพลินนารี่ มอลล์ โลตัส วัชรพล เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ แฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะ พรอมานาด คริสตัล พาร์ เซ็นทรัล รามอินทรา ไลฟ์สไตล์มอลล์สุดชิค โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งสถานศึกษา สถานที่ราชการรวมถึงทำเลที่ตั้งไม่ไกลจากตัวเมือง ใกล้เส้นทางคมนาคมขนาดใหญ่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ทางด่วนสุขาภิบาล 5 และรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต)
 

►รถไฟฟ้าในอนาคต

รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าไปแล้วเมื่อต้นปี 2560 สามารถเปิดให้บริการกลางปี 2563 โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 34-36 กิโลเมตร เริ่มต้นจาก ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี – สถานีมีนบุรี รวมทั้งสิ้นมี 30 – 32 สถานี เป็นสถานียกระดับทั้งหมด ระยะทางจากสถานี BTS วัชรพล ถึงตัวโครงการโดยใช้เส้นทางซอย รามอินทรา 65 จะใช้ระยะทางการเดินทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที และระยะทางจากสถานี BTS วัชรพล ถึงตัวโครงการโดยใช้เส้นทางถนน วัชรพล ใช้ระยะทาง 2.7 กิโลเมตรใช้เวลาเพียง 5-10 นาที เท่านั้น

โดยสถานีวัชรพล เป็นสถานีใหญ่ที่เชื่อมต่อทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเทา สำหรับช่วงที่ 1 ของรถไฟฟ้าสายสีเทา อีกด้วย ซึ่งสถานีวัชรพลเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้าสายสีเทาเชื่อมต่อถึงสถานีทองหล่อได้ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทามีระยะรวมทั้งสิ้น 16.25 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีวัชรพล – สถานี ทองหล่อ รวมทั้งสิ้น 15 สถานี เป็นสถานียกระดับทั้งหมด ทำให้โครงการ พาทิโอ รามอิทรา เป็นศูนย์รวมความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง

 

โครงการ พาทิโอ รามอินทรา

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
โทร. 082-221-6608, 084-555-6843

โปรโมชั่นจากโครงการ*
โปรโมชั่นช่วงเปิดโครงการใหม่
ส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท*




พาทิโอ

Call Center 1739

ไม่อยากพลาดข่าวสารและสิทธิพิเศษต่างๆ กดติดตาม PATIO ได้ที่ 

www.patio.pruksa.com

www.facebook.com/PATIOhome

line.me/R/ti/p/%40patiohome

instagram.com/patiohome

twitter.com/PATIOhome

 

ข้อมูลหลักจากโครงการ
  • พาทิโอ รามอินทรา (Patio Ramintra)
  • ที่ตั้ง : เขตบางเขน, กรุงเทพมหานคร
  • ประเภท : ทาวน์โฮม และ โฮมออฟฟิศ
  • แบบบ้าน :
    • แบบบ้าน Master โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น
    • พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร
    • แบบบ้าน Grande แบบบ้าน 3 ชั้น
    • พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร
    • แบบบ้าน Metro แบบบ้าน 3 ชั้น
    • พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร
  • จุดขาย :
    ทำเลที่ตั้งไม่ไกลจากตัวเมือง ใกล้เส้นทางคมนาคมขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยศูนย์รวมถึงสิ่งอำนวยความสุขมากมายรอบโครงการ อาทิ เพลินนารี่ มอลล์ โลตัส วัชรพล เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ แฟชั่นไอส์แลนด์ ไลฟ์สไตล์มอลล์สุดชิค โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งสถานศึกษา สถานที่ราชการ

    เป็นโครงการที่มีทำเลศักยภาพมากๆ ใกล้ทางด่วนสุขาภิบาล ทางด่วนรามอินทรา และแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนรามอินทรา (รถไฟฟ้าในอนาคต) ซึ่งมีสถานีที่โครงการอยู่ใกล้มากที่สุดคือ สถานีวัชรพล โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีวัชรพล เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา65 และตรงยาวไปที่โครงการโดยมีระยะทางประมาณ 2.5 กม. สะดวกสบายมาใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็ถึงโครงการ

    มีสวนสาธารณะพักผ่อนขนาดใหญ่มากกว่า 1 ไร่ สนามเด็กเล่น และมาพร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกกิจกรรมของครอบครัว พร้อมอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
  • ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท
  • โปรโมชั่นช่วงเปิดโครงการใหม่
    ส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท*
  • ฝ่ายขาย : 082-221-6608, 084-555-6843
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต และรถไฟฟ้าสายสีม่วง
  • ทาวน์โฮมสไตล์อิตาลี ย่านศรีนครินทร์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว และทางด่วนฯ
  • โครงการใหม่ คอนโดใจกลางรัชโยธิน ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย เพียง 50 เมตร
  • โครงการใหม่ ทาวน์โฮมหรู สไตล์อังกฤษ ใกล้รถไฟฟ้า เพียง 5 นาที ถึงฟิวเจอร์ฯ
  • โครงการใหม่ ทาวน์โฮม ใกล้นิคมฯบางพลี และ ทางด่วนบูรพาวิถี
  • ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ Airport Link และมอเตอร์เวย์
  • ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท

    โปรโมชั่นโครงการ :
    โปรโมชั่นช่วงเปิดโครงการใหม่
    ส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท*

    จุดเด่นโครงการ :
    ทำเลที่ตั้งไม่ไกลจากตัวเมือง ใกล้เส้นทางคมนาคมขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยศูนย์รวมถึงสิ่งอำนวยความสุขมากมายรอบโครงการ อาทิ เพลินนารี่ มอลล์ โลตัส วัชรพล เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ แฟชั่นไอส์แลนด์ ไลฟ์สไตล์มอลล์สุดชิค โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งสถานศึกษา สถานที่ราชการ

    เป็นโครงการที่มีทำเลศักยภาพมากๆ ใกล้ทางด่วนสุขาภิบาล ทางด่วนรามอินทรา และแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนรามอินทรา (รถไฟฟ้าในอนาคต) ซึ่งมีสถานีที่โครงการอยู่ใกล้มากที่สุดคือ สถานีวัชรพล โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีวัชรพล เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา65 และตรงยาวไปที่โครงการโดยมีระยะทางประมาณ 2.5 กม. สะดวกสบายมาใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็ถึงโครงการ

    มีสวนสาธารณะพักผ่อนขนาดใหญ่มากกว่า 1 ไร่ สนามเด็กเล่น และมาพร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกกิจกรรมของครอบครัว พร้อมอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

    เบอร์ติดต่อโครงการ
    082-221-6608, 084-555-6843

    พาทิโอ รามอินทรา - วัชรพล ทาวน์โฮมและออฟฟิศ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู

    ไม่ใช่แค่ "ทำเล" แต่คือ "เวลา" ที่มีให้กันมากขึ้น นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตที่มาพร้อมกับโครงการพาทิโอ รามอินทรา ทาวน์โฮม 3 ชั้น มาพร้อมการออกแบบด้วยแนวคิด Line for Harmony ที่เชื่อมต่อกับทุกมิติของชีวิตและการออกแบบ Nature in the city design การผสมผสานระหว่างวัสดุที่สื่อถึงธรรมชาติและความเป็นเมือง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการทำงานและที่อยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่พื้นที่สำหรับวันรวมตัวของครอบครัว ไปจนถึงการมีโฮมออฟฟิศในบ้าน พร้อมให้คุณปรับเปลี่ยนเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว อีกทั้งโครงการพาทิโอ รามอินทรายังโอบล้อมไปด้วยสวนสาธารณะพักผ่อนขนาดใหญ่และสนามเด็กเล่น เพียบพร้อมไปด้วยคลับเฮ้าส์ ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกกิจกรรมของครอบครัว พร้อมอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll