เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์

     สวัสดีเพื่อนๆผู้กำลังมองหาบ้านใหม่ทุกท่าน วันนี้ Thaihometown จะพาเพื่อนๆทุกคนไปชมโครงการ เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นทาวน์โฮมโครงการใหม่ล่าสุด จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ตัวโครงการจะตั้งอยู่บน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ สถานที่ตั้งใกล้กับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ย่านบางใหญ่ ฝั่งธนบุรี อย่างเซ็นทรัล เวสต์เกต เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางการเดินทางที่เชื่อมต่อไปได้ทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น รังสิต พระราม 2 ตัวเมืองนนทบุรี หรือแม้แต่เส้นทางสู่ภาคเหนือก็ด้วย และยังตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานนีคลองบางไผ่ สะดวกในการเดินทางเข้าตัวเมืองได้รวดเร็วแมากยิ่งขึ้น

     แต่ก่อนที่จะพาไปชมโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ จะขอกล่าวถึงรายละเอียดของโครงการเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวโครงการ ไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ

 

รายละเอียดโครงการ

     โครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น โดดเด่นด้วยทำเลบนย่านบางบัวทอง ที่เป็นใจกลางของทั้งอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ศูนย์กระจายสินค้าทั้งด้านค้าปลีก และค้าส่งที่สำคัญของโซนภาคกลาง และโดดเด่นยิ่งกว่าด้วยที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย พร้อมทั้งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการมากมายทั้งห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานพยาบาล สถานที่ราชการ และศาสนสถานอีกมากมาย

     พร้อมแบบบ้านที่ออกแบบใหม่ในสไตล์โมเดิร์น มีการออกแบบบ้านให้มีลวดลาย มีน้ำหนักมีมิติมากขึ้น ทำให้บ้านไม่ดูเรียบ หรือจืดชืดจนเกินไป ตรงตามชื่อของโครงการ เดอะคัลเลอร์ส ที่เน้นให้มีสีสันภายนอกตัวบ้านที่ดูสวยงาม เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีความแปลกตา ไม่เหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไป เพราะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีระเบียงด้านนอกให้สามารถออกมายืนรับลมเย็นๆจากภายนอกตัวบ้านได้ มีการเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ ทรงสูงพิเศษ มีความสูง 1.5 เมตร และกว้าง 1.2 เมตร ทำให้ภายในบ้านโปร่ง โล่งสบาย มีฟังก์ชั่นห้องที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 ห้องนอน จึงทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้นแบ่งไปตามขนาดพื้นที่ใช้สอย

 

ราคาเริ่มต้นที่  1.69  ล้านบาท

 

โครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ มีแบบบ้าน 2 แบบ ดังนี้

1. แบบบ้าน Pastel A

เนื้อที่ 20 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 114 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท

2. แบบบ้าน Pastel B

เนื้อที่ 17.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 104 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

 

ค่าสาธารณูปโภคส่วนกลาง

ทั้ง 2 แบบบ้าน จัดเก็บค่าสาธารณูปโภคส่วนกลางที่ 50 บาท / ตร.ว. / เดือน
(จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)

แบบบ้านโครงการเดอะคัลเลอร์  วงแหวน  -  ราชพฤกษ์

1. แบบ Pastel A   [ คลิกดูรีวิวบัานตัวอย่าง ]

คลิกดูภาพใหญ่

เนื้อที่ 20 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 114 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ พร้อมระเบียงด้านหน้า

 

2. แบบ Pastel B   [ คลิกดูรีวิวบัานตัวอย่าง ]

​คลิกดูภาพใหญ่

เนื้อที่ 17.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 104 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ที่จอดรถ พร้อมระเบียงด้านหน้า

 

แผนที่โครงการ

คลิกดูแผนที่ใหญ่

 

แผนที่เส้นทาง ที่ีสามารถเดินทางไปยังโครงการได้

►จากถนนถนนรัตนาธิเบศร์ ตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก

 

►จากถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวเข้าถนนสะพานนนทบุรี - บางบัวทอง เชื่อมกับถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี

 

►จากถนน บางกรวย - กรุงเทพ (ถนนชัยพฤกษ์) ตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก

 

ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ เพียง 15 นาที

►จากรถไฟฟ้าสายสีม่วง คลองบางไผ่ ผ่านถนนกาญจนาภิเษก ถนนวงแหวนรอบนอก ตัดเข้าถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี (หมายเลข 340)

รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานที่คลองบางไผ่ เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยมีสถานีตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกช่วงบริเวณคลองบางไผ่ กับคลองถนน สถานีมีพื้นที่ใช้สอยด้วยกัน 3ชั้น และมีความยาวประมาณ 300 เมตร

ศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot)  อยู่ที่สถานีคลองบางไผ่ สามารถเชื่อมต่อกับสถานี ประกอบด้วย ศูนย์ซ่อมบำรุงอาคารโรงจอดรถไฟฟ้าและอาคารจอดแล้วจร 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนาภิเษกตรงข้ามหมู่บ้านบัวทองอาคารจอดรถนี้เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า มีไว้สำหรับผู้ที่มาใช้บริการรถไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาจอดเมื่อใช้บริการรถไฟฟ้า และสามารถรองรับและให้บริการแก่ผู้ใช้รถไฟฟ้าในบริเวณหมู่บ้านบัวทองซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสถานี

สถานีคลองบางไผ่ มีทางขึ้นสู่สถานีทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน

ทางขึ้น-ลง 1 ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของสถานีบนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาเข้า นอกจากนี้ ทางขึ้น-ลง A ยังเชื่อมต่อกับชั้นบริการผู้โดยสาร ที่มีลักษณะแบบเปิดโล่ง สามารถใช้เป็นสะพานลอยข้ามถนนได้และเชื่อมกับอาคารจอดแล้วจรของผู้ที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ทางขึ้น-ลง 2 ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของสถานี บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก และอยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลง Exel Factory

ทางขึ้น-ลง 3 ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของสถานี บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาเข้า และอยู่ใกล้กับทางออกของอาคารที่จอดรถ

ทางขึ้น-ลง 4 ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของสถานี บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก และอยู่ใกล้กับร้านแครี่บอย

แผนที่ Google Map เส้นทางจากสถานีคลองบางไผ่ เดินทางไปที่โครงการ โดยใช้เส้นทางถนนสายหลักถนนกาญจนาภิเษก ใช้เวลาเดินทางทางด้วยรถประมาณ 15-20 นาที

แนะนำเส้นทางจากโครงการ ไปขึ้นทางด่วน

►จากโครงการไป ขึ้นทางพิเศษวงแหวนรอบนอกใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที

 

►จากโครงการไป ขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ สามารถขึ้นได้ที่ด่านเก็บเงินฉิมพลี ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

 

 

รีวิวการเดินทางไปยังโครงการ

สำหรับการรีวิวครั้งนี้ เราเริ่มต้นการเดินทางกันที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วานนะครับ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วานนั่นเอง

 

ซึ่งหลังจากผ่านเดอะมอลล์ งามวงศ์วานกันมาสักพัก ก็จะพบกับห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน ใครคอมเสียหรืออยากได้คอมใหม่ แวะได้เลย แต่อย่าชวนพี่เสกนะครับ เพราะพี่เสกเขาบอกไว้ว่าจะไม่ไปพันธุ์ทิพย์ พี่เสกเขาไม่ไปแน่นอน อย่าไปเลยนะขอวอน คราวก่อนก็เคยพูดคุย...

 

ผ่านห้างพันธุ์ทิพย์มาแล้ว เราก็จะอยู่กันบนถนนงามวงศ์วานกันต่อไป ให้ตรงไปตามป้ายแครายได้เลยครับ

 

แล้วเราก็จะมาถึงแยกแครายกันแล้วนะครับ ซึ่งแครายเป็นแยกที่มีชื่อเช็คอินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแยกแคราย ติดชาตินี้ยันชาติหน้า, แยกแคราย ติดวัวตายควายล้ม, แยกแคราย หอยทากคลานแซงเฟอร์รารี่ได้, หรือแม้แต่แยกแคราย สวรรค์ของคนชอบเล่นมือถือบนรถ แต่ถึงแม้แครายจะไม่แคร์ใคร แต่ Thaihometown ก็แคร์คุณ ซึ่งเราจะแนะนำให้ใช้สะพานข้ามแยกแครายไปเลย ซึ่งจะสามารถเลี่ยงรถติดแครายได้แบบไม่ต้องแคร์ใครเลยทีเดียว

 

เมื่อเราอยู่บนสะพานข้ามแยกแคราย มองไปทางขวาจะต้องพบกับเอสพลานาด งามวงศ์วาน - แคราย นะครับ ถ้าไม่พบก็แสดงว่าคุณไม่ได้อยู่บนสะพาน หรืออาจจะกำลังรถติดอยู่ที่สี่แยกอยู่แน่นอน จากงามวงศ์วานจะกลายเป็นงานวงวารทันที

 

บ๊ายบายงามวงศ์วาน หลังจากลงสะพานข้ามแยกแครายมาแล้ว เราจะอยู่กันบนถนนรัตนาธิเบศร์แล้ว ซึ่งเราจะเห็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงพอดี

 

ให้เราขับตรงไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ได้เลย หรือสามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ โดยไปลงที่สถานีปลายทาง คลองบางไผ่ได้เลย ก็ถือว่าใกล้โครงการแล้วเหมือนกัน ดีจัง โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าด้วย

 

ให้ขับตามป้าย อ.บางบัวทอง ต่อไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ต่อได้เลย

 

เราจะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าตลอดเรื่อยๆ ซึ่งคุณยังสามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้อยู่ โดยไปลงที่สถานีคลองบางไผ่ แต่ถ้าไม่ขึ้น ก็ขับต่อไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ได้เลย

 

ให้ขับตามป้าย อ.บางบัวทอง ตามถนนรัตนาธิเบศร์ต่อไปอีก

 

แล้วก็ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปสู่ฝั่งธนบุรี

 

เมื่อลงมาจากสะพาน เราจะอยู่ฝั่งธนบุรีกันแล้ว ให้ขับตามป้าย อ.บางบัวทอง ตามถนนรัตนาธิเบศร์ต่อไปอีกได้เลย

 

ให้ขับตรงต่อไปบนถนนรัตนาธิเบศร์ต่อได้เลย หรือใครที่อยู่ย่านฝั่งธนบุรี ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าจากที่นี่ได้เลยเหมือนกัน

 

ให้สังเกตป้ายถนนราชพฤกษ์ บางบัวทองให้ดี เพราะเราจะไปต่อกันที่ถนนราชพฤกษ์นะครับ ส่วนตอนนี้ ไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ไปก่อนนะ

 

ขึ้นสะพานข้ามแยกไทรม้าไปเลยครับ

 

ซึ่งหลังจากลงสะพานข้ามแยกไทรม้ามาแล้ว จะพบกับสถานีรถไฟฟ้าบางรักน้อยท่าอิฐครับ ตรงนี้สำคัญนะ ให้เตรียมตัวชิดเลนซ้ายเพื่อออกจากเลนคู่ขนานได้เลย

 

ให้เบี่ยงซ้ายออกจากเลนคู่ขนานได้เลย แล้วขับรถตามป้ายชัยพฤกษ์ต่อไป

 

ให้เตรียมชิดซ้ายตามป้ายถนนชัยพฤกษ์

 

แล้วให้เบี่ยงซ้ายตามป้ายถนนชัยพฤกษ์เพื่อขึ้นสะพานยกระดับข้ามแยกเพื่อเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ต่อไป

 

ให้ลงจากสะพาน เพื่อเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ (จริงๆก็ต้องลงอยู่แล้วล่ะครับ) ใกล้ถึงโครงการเข้าไปทุกทีแล้วนะ

 

แล้วให้ขับตรงต่อไปตามถนนราชพฤกษ์ได้เลยครับ ยาวไปๆ

 

เราจะขับขึ้นสะพานข้ามคลองบางบัวทองกันต่อไป

 

แล้วก็จะผ่านชิค รีพับบลิค ซึ่งคุณสามารถแวะซื้อเฟอร์นิเจอร์สวยๆ เก๋ๆ แนวๆ ได้จากที่นี่เลย มีเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์มากๆเลยล่ะ ซื้อแล้วเอาไปแต่งบ้านที่โครงการ เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ต่อได้เลย

 

ให้สังเกตป้ายทางหลวงหมายเลข 345 ไว้ แล้วขับตรงต่อไปตามถนนราชพฤกษ์ต่อได้เลย

 

ซึ่งเราจะผ่านโฮมโปร ชัยพฤกษ์กันอีก แวะซื้ออุปกรณ์จำเป็นสำหรับตัวบ้าน และของตกแต่งบ้านก่อนได้เลยนะ

 

ขับตามป้ายทางหลวงหมายเลข 345 ต่อไปบนถนนราชพฤกษ์

 

อีก 1 กิโลเมตรจะสุดถนนราชพฤกษ์แล้ว ให้ขับตรงต่อไปตามถนนราชพฤกษ์ได้เลย

 

แต่ก่อนจะถึงจุดสิ้นสุดถนน เราจะต้องข้ามสะพานข้ามคลองขุนมหาดไทยซะก่อน

 

ลงมาจากสะพานข้ามคลองแล้ว ให้ขับตามป้ายบางบัวทอง สุพรรณบุรีต่อได้เลย

 

กำลังจะเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 345 กันแล้วนะครับ 

 

แล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 345 ได้เลย

 

แล้วก็ขับตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 345 ต่อไป

 

แล้วก็ข้ามสะพานข้ามคลองลำโพธิ์ต่อไปได้เลย ตรงนี้ถ้าข้ามเร็วๆจะเป็นสะพานข้ามคลองลำโพธิ์กินี่นะครับ 

 

แล้วก็ขับตามทางหลวงหมายเลข 345 ต่อไป

 

แล้วจะพบกับทางบังคับเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก ให้เลี้ยวซ้ายตามที่เขาบังคับนะครับ ห้ามตรงไป เพราะมันตรงไม่ได้

 

หลังจากถูกบังคับขู่เข็ญให้เลี้ยวซ้ายเหมือนดั่งโศรยาถูกหริษฏ์บังคับในจำเลยรักไปแล้ว เราจะอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกกันแล้ว ให้เราขับตามป้ายสะพานกลับรถต่อไปได้เลย

 

ให้ขับตรงไปตามป้ายสะพานกลับรถได้เลย ไม่ไกลครับ แป็ปเดียวเอง

 

ซึ่งจะมีป้ายสะพานกลับรถเตือนอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้พลาดสะพานกลับรถไป หลายคนอาจจะคิดว่าหลายป้ายจัง ต้องไกลแน่ๆ แต่ไม่เลยครับ เขาตั้งป้ายไว้ถี่มากจริงๆ

 

แล้วก็มาถึงสะพานกลับรถกันแล้ว เมื่อถึงแล้วให้กลับรถได้เลยครับ อย่าขับเลยไปนะครับ

 

เมื่อเรากลับรถมาแล้ว เราจะอยู่ที่อีกฝั่งของถนน ซึ่งให้ขับตามป้ายสุพรรณบุรี ต่อไปได้เลย

 

แล้วก็จะผ่านไทวัสดุ ถ้ายังซื้อจากโฮมโปร และชิค รีพับบลิคไม่จุใจล่ะก็ ต่อที่นี่ได้เลยครับ

 

ป้ายสุพรรณบุรีเริ่มบอกให้เลี้ยวแล้ว ฉะนั้น เราจะชิดซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวตามป้ายกันครับ

 

เตรียมชิดซ้ายไว้นะครับ เพราะเรากำลังจะเลี้ยวกันแล้ว

 

เอาล่ะครับ จังหวะนี้แหละ ให้เลี้ยวซ้ายได้เลย เพื่อเข้าสู่ถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี

 

แล้วก็ให้ขับตรงไปตามถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรีต่อได้เลย

 

แล้วเราจะผ่านแกรนด์โฮม เอาท์เลทกันนะครับ นี่คือจุดสังเกต ว่าเราใกล้จะถึงแล้ว

 

ถ้าพบกับบริษัท มาร์ตั้น (ประเทศไทย) จำกัด แล้ว ให้ชะลอรถชิดซ้ายได้เลยครับ

 

เพราะเราจะต้องเบี่ยงซ้าย เพื่อออกจากเลนคู่ขนาน

 

เพื่อกลับรถใต้สะพานข้ามคลองเจ็ก ไม่ต้องกลัวว่ารถจะไม่พ้นนะครับ เพราะใต้สะพานสูงขนาดรถบรรทุก 6 ล้อลอดได้พอดี

 

เมื่อกลับรถมาแล้ว ให้ขับตรงต่อไปบนถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรีต่อไปอีกเล็กน้อย

 

และเมื่อพบกับป้ายพีพี เซรามิคแล้ว ให้ชะลอรถไว้ได้เลยครับ เพราะเราจะถึงโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์กันแล้ว

 

ซึ่งโครงการก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย อยู่หลังป้ายพีพี เซรามิค พอดิบพอดี เมื่อสายตาพ้นระยะป้ายพีพี เซรามิคแล้ว จะเห็นป้ายบิลบอร์ดโครงการ เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ทันทีเลย บ้านใกล้เรือนเคียงกันจริงๆ

 

แล้วเราก็จะพบกับทางเข้าโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่โครงการได้เลย

 

เมื่อเข้าสู่โครงการมาแล้ว จะพบกับถนนเข้าสู่โครงการ ให้ขับตรงเข้าไปได้เลย 

 

เมื่อสุดทางแล้ว เราจะพบกับอาคารสำนักงานขายหลังสีเขียว ที่ดูมีสีสัน สมชื่อโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ก็จะถือว่าสิ้นสุดการเดินทางพอดี และการเดินทางของเราได้มาถึงจุดสิ้นสุดซึ่งมาหยุดที่ตัวโครงการพอดี ต่อไปเราไปชมการรีวิวบ้านตัวอย่างกันเลยดีกว่าครับ

รีวิวบ้านตัวอย่าง Pastel A

แบบบ้าน Pastel A ทาวน์โฮม 2 ชั้น สีสันสะดุดตาสมชื่อโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ที่ตั้งอยู่ในเฟสเดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 114 ตารางเมตร ที่มาพร้อมกับห้องนอนถึง 4 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องรับแขก 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง และที่จอดรถสำหรับจอด 2 คัน ตัวบ้านสะดุดตาด้วยลวดลายเส้นที่ถูกประดับด้วยไม้ระแนง การเล่นกับความลึกความตื้นของตัวบ้าน ตกแต่งด้วยระแนงแนวนอนทำเป็นแบบเชิงชายหลังคา ติดไว้ที่เพดานที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า ทำให้เป็นบ้านที่ดูมีมิติมาก ส่วนประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมอบขาว แบบบานสไลด์บานเดียวอีกบานเป็นบานตาย กระจกจะเป็นกระจกเขียวตัดแสงหนา 5 มม. ซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าบ้านจะร้อนในเวลากลางวัน

แบบบ้านเปล่า Pastel A ประตูรั้วหน้าบ้านเลือกใช้รั้วผิวเรียบสีดำ ผ่านการทาสีกันสนิม แล้วรองพื้นทาทับด้วยสีน้ำมัน โดยที่ประตูรั้วเหล็กทุกหลังจะพับได้ 3 ตอน มีลักษณะที่ยื่นออกมาเกือบถึงแนวถนนหน้าบ้านเล็กน้อย มีการติดตั้งที่กดกริ่งไว้ที่กำแพงด้านใน และบ้านทุกหลังในโครงการนี้จะมีถังขยะแบบฝังกำแพง ที่จะทำให้การทิ้งขยะเป็นเรื่องง่ายดาย มีถังที่มีฝาเปิดปิดไว้ด้านใน ไม่ได้ตั้งไว้ที่ด้านนอกทำให้ดูเสียสายตาอีกด้วย

 

แบบบ้าน Pastel A จะสามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ได้ดังนี้

• ในชั้น 1 จะประกอบไปด้วย พื้นที่จอดรถ ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ครัว และการรับประทานอาหาร ห้องน้ำชั้น 1 และพื้นที่สวนหลังบ้าน
• ในชั้น 2 จะประกอบไปด้วย ห้องนอนหลัก ระเบียง ห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 

​

เมื่อเราเข้ามาในพื้นที่บ้านแล้ว เราจะพบกับโรงจอดรถก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง กว้าง สามารถใช้ในการจอดรถได้ถึง 2 คัน พื้นบริเวณโรงจอดรถนั้นใช้พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นผิวขัดหยาบเพื่อกันลื่นมาให้แล้วสามารถใช้งานได้เลย แต่ถ้าใครที่ต้องการเพิ่มสีสัน ความสวยงามของบริเวณโรงรถ และด้านหน้าบ้าน ก็สามารถตกแต่งด้วยการปูกระเบื้องพื้นโรงรถ พร้อมกับทำโครงหลังคาโรงจอดรถได้ ประดับตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้แบบแขวน และโมบายสวยๆ ตกแต่งโดยรอบโรงจอดก็สวยงาม

 

แบบบ้านตัวอย่าง มีการตกแต่งบริเวณโซนด้านหน้าก่อนที่จะเข้าไปในตัวบ้าน เลือกใช้เก้าอี้ตัวเล็กนั่งสบายๆ Built In ตู้ไม้ติดผนังสำหรับเก็บรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ทำให้สะดวกต่อการจัดเก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่กระจัดกระจายไปมา มีการเลือกใช้โคมไฟแบบห้อย 2 ดวง ติดบริเวณประตูทางเข้าตัวบ้าน พื้นบริเวณโซนหน้าประตูเลือกใช้เป็นไม้ระแนง ชนิดปูพื้นทางด้วยสีน้ำตาลเข้ม ภาพรวมของการตกแต่งด้านหน้าจะเน้นไปที่สไตล์โมเดิร์นเรียบๆ

 

เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน จะพบกับโซนรับแขกก่อนเลย ที่ถูกจัดให้เป็นโซนรับประทานอาหารแทน ซึ่งถูกประดับด้วยชั้นวางของตกแต่งแบบ Built In พร้อมการประดับด้วยโคมไฟสองอัน ทำให้บริเวณโต๊ะดูสว่างขี้นมาอีก และยังมีประตูด้านข้างอยู่อีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้การระบายอากาศมีความทั่วถึงและถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้นด้วย ในการที่มีประตูกระจกถึงสองด้านแบบนี้ ก็จะทำให้ห้องดูสว่างน่าอยู่ขึ้นไปอีกด้วย ดูๆไปแล้วก็เหมาะกับการใช้ตั้งโต๊ะรับประทานอาหารมาก นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นอรรถประโยชน์ได้มากกว่าการเป็นแค่โต๊ะรับประทานอาหารได้อีก คือสามารถนำมาใช้นั่งเป็นห้องนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือได้เช่นกันด้วย

 

สำหรับบ้านเปล่า จะเห็นได้ว่าจากโซนนั่งเล่น ไปจนถึงโซนครัวนั้น มีความลึก 6.10 เมตร ที่จะจัดโซนต่างๆออกมาได้อย่างลงตัว โซนรับแขกจะมีความกว้าง 2.80 เมตร และโซนครัวจะมีความกว้างที่ 3.80 เมตร พื้นที่กว้างกว่าเพื่อให้มีการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหาร และ Built In เคาท์เตอร์ครัวได้

 

เมื่อเดินเลี้ยวขวาจากโต๊ะรับประทานอาหารมา จะพบกับห้องอเนกประสงค์ ที่มาพร้อมความกว้างถึง 2.70 เมตร และยาว 3 เมตร ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้มากมายทั้งห้องดูโทรทัศน์ ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือ และตามที่ได้กล่าวไว้ว่าแบบบ้านนี้มีถึง 4 ห้องนอน ใช่ครับ ห้องอเนกประสงค์นี้ สามารถนำมาใช้เป็นห้องนอนที่ 4 ในชั้นล่าง สำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องนอนแขกได้เช่นกัน

 

ห้องอเนกประสงค์จากบ้านเปล่า จะเห็นได้ว่าเราสามารถนำมาใช้ทำเป็นห้องต่างๆได้มากมาย เช่น ห้องนอนที่ 4 ห้องหนังสือ ห้องทำงานก็ได้ หรือจะทำเป็นห้องที่ตอนนี้กำลังนิยมทำกันคือ ห้องโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ หรือห้องดูหนังส่วนตัวนั้นเอง

 

เมื่อเดินเข้ามาอีกจะพบกับโซนครัว ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่การประกอบอาหาร การเตรียมอาหาร หรือการทำความสะอาดล้างเครื่องครัว แต่ไม่ต้องกลัวเลยว่ากลิ่นอาหาร คราบเขม่าจะติดตัวบ้าน เพราะมีประตูกระจกด้านหลังบ้าน และมีเครื่องดูดกลิ่นและดูดควันอยู่ด้านบนของเตาแก๊สพอดี ที่จะช่วยระบายอากาศ กลิ่น และดูดควันไม่ให้ติดตัวบ้านได้ เคาท์เตอร์ครัวถูกจัดวางแบบ Built In มาในรูปของตัว L ทำให้การจัดวางสัดส่วนต่างๆ ของตัวบ้าน ดูเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนมากขึ้น และยังมีตู้ Built In แบบติดผนัง ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บให้มากขึ้นไปอีกด้วย

 

จากโซนครัว เดินมาจนสุดแล้วเลี้ยวขวา จะพบกับห้องน้ำชั้น 1 ตัวห้องน้ำถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาว ตัดกับกระเบื้องสีน้ำเทา ในส่วนของสุขภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงอุปกณ์หลักๆก็มีให้ครบแล้วพร้อมใช้งาน พื้นที่โซนอาบน้ำอาจจะมีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก ไม่สามารถทำกั้นโซนได้ แต่โดยรวมก็ใช้สามารถใช้งานได้ลงตัว ยี่ห้อสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเลือกของ Englefield

 

ด้านหลังโซนครัว ที่จะเห็นว่ามีประตูทางซ้ายสุดเข้าสู่ห้องน้ำชั้น 1 และมีช่องประตู ที่ Built In มาอย่างเป็นสัดส่วน ที่ใช้เป็นช่องวางตู้เย็น และทางเข้าสู่ห้องใต้บันได ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มเติมได้อีกด้วย

 

บันไดทางขึ้นชั้น 2 เลือกใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก ขั้นบันไดใช้เป็นไม้สำเร็จรูป ราวจับใช้เป็นไม้เนื้อแข็งทาสี บันไดของแบบบ้านนี้จะไม่มีวานพักระหว่างขั้น เดินวนไปจนถึงชั้น 2 ได้เลย ในส่วนของช่องเก็บของใต้บันไดจะไม่มีประตูเปิดปิด ออกแบบมาเพื่อให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย เช่น ทำเป็นลิ้นชักเก็บของใต้บันได หรือจะเป็นประตูบานเลื่อนสำหรับเก็บของก็ได้เช่นกัน

 

เมื่อเราเดินขึ้นมาครึ่งบันไดแล้ว เราจะพบกับโถงบันได ที่ถูกประดับตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ลายแผนที่ ดูคล้ายกับแผนที่ใน Google Maps ซึ่งดูเหมาะกับคนรักการท่องเที่ยว และชอบการเดินทางมากๆเลยทีเดียว

 

ห้องโถงของแบบบ้านหลังนี้ ไม่มีกระจกด้านข้าง และมีติดไฟมาให้เพียงดวงเดียว อาจจะต้องติดโคมไฟแบบที่ใช้ได้หลายหลอด เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับบริเวณโถงบันได

 

ทางเดินโถงชั้น 2 กว้าง 90 ซม. และลึก 2.7 เมตร พื้นที่ยาวติดกันมากขึ้นทำให้สะดวกในการใช้งาน เพราะโครงการนี้ได้ออกแบบให้มีห้องน้ำที่ไม่ได้อยู่คั่นกลาง จึงทำให้ให้มีห้องเพียงห้องเดียวที่ติดกับห้องน้ำ นั้นก็คือห้องนอนเล็กนั่นเอง ลักษณะแบบนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้มีพื้นที่ทางเดินติดกัน ทำให้เดินได้สะดวกขนของเข้าออกได้ง่าย

 

อยากพูดถึงระบบไฟฟ้า มาพูดถึงกันดีกว่า ระบบสายไฟจะใช้สายไฟมาตรฐาน มอก. ร้อยท่อ PVC ฝังในผนัง และเดินท่อร้อยสายซ่อนบนฝ้าเพดาน และแยกเบรกเกอร์ชั้นบนและชั้นล่างด้วย ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเกิดอันตรายจากไฟฟ้า เพราะทางโครงการได้ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และมีการเดินสายไฟ และการจัดเก็บสายไฟอย่างเรียบร้อย อุปกรณ์กล่อง และตัวเบรกเกอร์โครงการได้เลือกใช้ยี่ห้อ bticino

 

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 แล้ว เดินเลี้ยวซ้ายมา เราจะพบกับห้องนอนหลัก ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีชมพูแบบน่ารักมุ้งมิ้งมากๆ มีการแบ่งโซนเตียงนอน โซนแต่งตัว และโซนนั่งเล่นดูโทรทัศน์อย่างชัดเจนมาก มีหน้าต่างซึ่งสามารถรับแสงสว่างได้มากในยามบ่าย ห้องโปร่ง โล่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวกได้ด้วยหน้าต่าง และประตูกระจกบานใหญ่อีกด้านหนึ่งของห้องที่เปิดได้เช่นกัน

 

สำหรับห้องนอนใหญ่ แบบบ้านเปล่าจะมีพื้นที่กว้างมาก สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้เป็น 2 โซน โซนที่นอน และโซนแต่งตัว เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวชิ้นใหญ่ได้ 3-5 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน 6 ฟุต ชั้นวางทีวีแนะนำให้หามุมสำหรับทำทีวีติดผนังแทน ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และตู้เก็บของต่างๆแนะนำให้เลือกใช้เป็นติดผนังเช่นกัน เพราะจะทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

โซนห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ส่วนของผนังด้านปลายเตียงจะเป็นพื้นที่โล่ง สามารถเลือกติดตั้งทีวีแบบติดผนังได้ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก

 

ในโซนแต่งตัวนั้น จะอยู่ถัดไปจากปลายเตียง ที่มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built In อยู่ ตัวตู้เสื้อผ้าใช้ผ้าม่านแทนที่จะเป็นประตูตู้ ซึ่งดูเก๋ไปอีกแบบ มีช่องสำหรับวางของมากมายที่วางได้ทั้งหมวก ผ้าเช็ดตัว และของใช้ต่างๆ ได้อีกมากมาย และยังมีกระจกบานใหญ่สำหรับดูการแต่งตัวของตัวเองให้ดูดีได้อีกด้วย

 

ถัดมาข้างๆเตียงนอน จะพบกับโซนนั่งเล่น ที่มีโซฟาสำหรับใช้นั่งดูโทรทัศน์ ที่มาพร้อมกับประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ ที่ออกสู่ระเบียงได้ และใช้ในการเพิ่มแสงสว่างในห้องได้อีกด้วย

 

ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมของโครงการนี้คือ ระเบียง ซึ่งระเบียงของห้องนอนหลัก สามารถวางเก้าอี้ไม้เล็กๆ ได้ 1-2 ตัว เพื่อออกไปรับกลิ่นไอธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ได้ หรือจะเลือกทำสวนเล็กทำเป็นสวนแนวตั้งก็ดี ประหยัดพื้นที่ได้มาก ส่วนของราวระเบียงใช้เหล็กทาสีกันสนิมรองพื้น แล้วทาทับด้วยสีน้ำมัน มีราวเหล็กยื่นมาจากพื้นสูงประมาณ 80 ซม. ราวอาจจะยืนพิงไม่ได้ ออกแบบให้ดูสวยงามเท่านั้น

 

ห้องน้ำชั้น 2 ที่ถูกตกแต่งในโทนสีขาว ด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเรียบ ทำให้ห้องดูสว่าง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นห้องน้ำที่กว้าง และยังมีการแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งอย่างชัดเจนอีกด้วย

และสำหรับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนั้น ทางโครงการได้จัดสุขภัณฑ์ชั้นดีอย่างสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefield มาให้ผู้ซื้อทั้งหมด

 

ห้องนอนที่สอง ถูกตกแต่งมาในสไตล์ของ Working Space ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนได้พื้นที่ทำงานที่เป็นส่วนตัวสุดๆ ซึ่งตัวห้องถูกจัดมาในสไตล์มินิมอลด้วย คือการใช้ของน้อยชิ้น แต่ประโยชน์ใช้สอยมากมาย ในส่วนที่นอนมีการยกพื้นให้สูงขึ้น ทำให้ไม่มีความรู้สึกว่าแค่เอาเบาะปูพื้นนอนเฉยๆ มีการติดกระจกบานใหญ่บนผนัง ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในห้องไปอีกมากเลยทีเดียว

 

ในห้องยังมีหน้าต่างถึง 2 ด้าน คือหน้าต่างใหญ่ที่เชื่อมต่อมาจากระเบียง และหน้าต่างเล็กอีกบานที่อีกด้านหนึ่ง จึงทำให้ห้องมีแสงสว่างเพียงพอ และสามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างสะดวกอีกด้วย

 

ห้องนอนที่สอง แบบบ้านเปล่า จะมีความกว้าง 2.80 ม. และลึก 2.40 ม. ลองเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอดีกับห้อง หรือใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Built In ติดผนังเลยก็ได้ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้เยอะ ถ้าใครที่ยังมองหาไอเดียไม่ได้ ผู้ซื้อบ้านก็สามารถนำไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างมาใช้ได้เช่นกัน ห้องนอนที่ 2 จะเป็นห้องที่ไม่ติดกับห้องน้ำ อาจจะเลือกใช้เป็นห้องพระ ก็จะดีกว่าห้องที่ 3 เพราะติดกับห้องน้ำ

 

ห้องนอนที่สาม ออกแบบมาในลักษณะของเตียงสองชั้น เหมาะสำหรับบ้านที่มีลูกแฝด โดยตั้งแต่เตียงนอน และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง เป็นแบบ Built In ทั้งหมด ในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่มากอยู่หนึ่งบาน ซึ่งสามารถรับแสงสว่างได้มากเลยทีเดียว และมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built In อยู่ใต้เตียงชั้นบน และการที่มีเตียงสองชั้น นั่นคือสิ่งที่บอกได้ว่า ตัวห้องนอนนั้นมีความสูงมาก ซึ่งผู้ซื้อบ้านสามารถนำไอเดียการทำเตียงสองชั้นไปใช้ได้ตามแบบบ้านตัวอย่างได้เลย

 

เตียงชั้นสอง มีแนวกั้นอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยในการกันตกเตียงได้ จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าจะตกเตียงลงไปที่พื้น และที่หัวเตียงยังมีม่านเพื่อเปิดปิดรับแสงกั้นแสงได้ จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าแสงจะเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้ อย่ามองกลับมา อย่าห่วงว่าฉันจะเสียใจ... (เดี๋ยวครับอย่าเพิ่งทางของฝุ่นสิ) ซึ่งสามารถกั้นแสงได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่แสงแรก จนไปถึงแสงสุดท้ายของวันกันเลยทีเดียว

 

แบบบ้านเปล่า จะเห็นว่าห้องนอนที่สองจะมีพื้นที่กว้างกว่าห้องนอนที่สองเล็กน้อย เพราะไม่มีมุมของกำแพงที่ยื่นออกมาให้รำคาญ ตกแต่งได้ง่ายกว่า เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวมากกว่าห้องที่สอง

 

รีวิวบ้านตัวอย่าง Pastel B

แบบบ้าน Pastel B ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว้าง 104 ตารางเมตร ที่มาพร้อมกับห้องนอนถึง 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องรับแขก 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง และที่จอดรถ 1 คัน ถึงแม้ตัวบ้านจะดูเรียบง่าย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องดูจืดชืด เดอะคัลเลอร์สก็คือ เดอะคัลเลอร์ส ยังไงซะก็ต้องมีสีสัน มีลวดลายบ้าง ซึ่งตัวบ้านมีการประดับลวดลายด้วยไม้ระแนงที่ผนังด้านนอกโซนของห้องนอน ตกแต่งให้มีลวดลาย ไม่ดูเรียบเกินไป มีสีสัน คงความเป็นเอกลักษณ์ของชื่อ เดอะคัลเลอร์ส ได้เป็นอย่างดี

 

หน้าบ้านจะใช้รั้วผิวเรียบทาสี ที่มาพร้อมกับกริ่งสัญญาณที่ด้านนอกกำแพง และถังขยะฝังกำแพง ที่จะทำให้การทิ้งขยะเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ระเกะระกะหน้าบ้านตัวเอง และประตูบ้านไม่ต้องกลัวว่าสนิมจะเกาะเลย เพราะเป็นประตูรั้วเหล็กโปร่ง พับได้ 2 ตอน ซึ่งผ่านการทาสีกันสนิม และรองพื้นทาทับด้วยสีน้ำมัน ในส่วนของประตูทางเข้าตัวบ้าน โครงการได้ทำเป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมอบขาว ซึ่งประตูทางเข้าสู่ตัวบ้านจะกว้างกว่าแบบแรกอยู่ 2 บาน ประตูกระจกเป็นบ้านเลื่อนได้จากตรงกลาง 2 บาน และมีบานตายด้านข้างซ้ายและขวา กระจกเลือกใช้เป็นเขียวตัดแสงหนา 5 มม. ซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าบ้านจะร้อนในเวลากลางวัน

 

แบบบ้าน Pastel B จะสามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ได้ดังนี้

• ในชั้น 1 จะประกอบไปด้วย พื้นที่จอดรถ ห้องรับแขก พื้นที่ครัว และการรับประทานอาหาร ห้องน้ำชั้น 1 และพื้นที่สวนหลังบ้าน
• ในชั้น 2 จะประกอบไปด้วย ห้องนอนหลัก ระเบียง ห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 

 

เมื่อเดินเข้ามาในพื้นที่บ้านแล้ว สิ่งแรกที่เราจะพบก็คือที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดรถได้ 1 คัน พื้นที่กว้างขวาง จะถอยรถเข้า หรือจะเอาท้ายออกก็สบายๆ และถ้าหากผู้ซื้อบ้านไม่มีรถยนต์ ก็สามารถดัดแปลงโรงรถ ให้กลายเป็นมุมนั่งพักผ่อนเล็กๆ แบบในภาพก็ได้ และหากว่าผู้ซื้อบ้านมีรถด้วย ก็ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องพื้นโรงจอดรถจะทรุดเลย เพราะพื้นที่บริเวณโรงจอดรถนั้นใช้พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวขัดหยาบ ซึ่งถือว่ามากพอที่จะรับน้ำหนักของตัวรถได้สบายๆ สามารถรองรับน้ำหนักได้มากเลยทีเดียว

โซนโรงจอดรถโครงการได้ตกแต่งให้เป็นพื้นที่สำหรับการนั่งพักผ่อน และเอารถไปจอดไว้หน้าบ้านแทนก็ได้ แต่ในอนาคตแล้วใครหลายๆ คนอาจจะมีรถยนต์เพิ่มอีกคัน นั้นก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องที่จอดรถได้ แนะนำให้ทำเป็นโรงจอดรถแบบมีหลังคาโรงรถไปเลย และปูกระเบื้องสำหรับโรงจอดรถ เลือกใช้งานเป็นที่จอดรถจะดีที่สุดสำหรับการเลือกอยู่ทาวน์โฮมนั่นเอง

 

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้ว ก็จะพบกับโซนรับแขกก่อน ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล พร้อมด้วยชั้นวางโทรทัศน์ และชั้นวางกรอบรูปติดผนังแบบ Built In สีขาว ที่ช่วยสะท้อนแสงให้ตัวห้องดูสว่างขึ้นไปอีก และผนังห้องถูกตกแต่งด้วยลวดลายแบบแผนที่โบราณ ซึ่งทำให้ดูวินเทจมาก น่าอยู่ เหมาะสำหรับเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวมากๆ เพราะห้องที่น่าอยู่ จะทำให้ครอบครัวอบอุ่นไปด้วย

 

แบบบ้านเปล่า โซนรับแขกจะมีความกว้างที่ให้มาอย่างพอดี เลือกตกแต่งให้เป็นมุมรับแขกของบ้านได้ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเป็นโซฟานั่งแบบตัวแอล หรือจะเป็นโต๊ะนั้งพร้อมเก้าอี้ก็ได้ หรือจะเลือกใช้เป็นโซนนั่งเล่นชิลๆในวันว่างก็ได้เช่นกัน ตัวเลือกการ Built In ตู้ และชั้นวางทีวีก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้ แต่ถ้าต้องการแบบเซฟๆ ค่าใช้จ่ายก็ได้ด้วยการเลือกตกแต่งชุดเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปก็ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ประหยัดเงินได้ สำหรับผู้อยู่อาศัยบ้านแบบทาวน์โฮม

 

เดินผ่านโซนรับแขกมา จะพบกับโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะรับประทานอาหารที่เห็นเป็นโต๊ะกลม ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก และในเวลารับประทานอาหาร ทุกคนในครอบครัวก็สามารถหันหน้าเข้าหากันได้ ซึ่งเปรียบได้กับการล้อมวงทานข้าวกัน ซึ่งเป็นอะไรที่ดูอบอุ่นมากๆ ถึงจะดูแคบ ดูเล็กๆ แต่มีความอบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว และด้านข้างยังมีประตูกระจกอยู่อีก ซึ่งสามารถเปิดรับอากาศ และธรรมชาติจากภายนอกได้ และนอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในการระบายกลิ่นอาหารไม่ให้ติดตัวบ้านได้อีกด้วย

 

ถัดมาจากโต๊ะรับประทานอาหาร จะเป็นโซนครัว ซึ่งเคาท์เตอร์ครัวนั้นจัดวางแบบ Built In เป็นรูปตัว U มีการกั้นอย่างชัดเจนระหว่างโซนครัว และโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งการจัดวางเป็นรูปตัว U นี้ จะทำให้มีพื้นที่เคาท์เตอร์ครัวถึง 3 ด้าน ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ลงไปได้เป็นอย่างมาก ตัวเคาท์เตอร์เตรียมอาหารนี้มีการแบ่งการใช้งานเป็นด้านๆ ไปอย่างชัดเจน ด้านหนึ่งใช้ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้านใช้สำหรับการประกอบอาหาร และอีกด้านใช้ในการจัดเตรียมอาหารได้ และนอกจากนี้ ยังมีตู้ติดผนังแบบ Built In ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บเครื่องครัวได้อีกมากเลยทีเดียวเชียวล่ะคุณ

 

แบบบ้านเปล่า โซนครัวจะมีความกว้างมาก สามารถออกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้เป็นตัวแอล หรือตัวไอ ก็ได้ การทำเคาน์เตอร์ครัวเลือกใช้เป็นครัวสำเร็จรูปก็ได้ราคาสูงหน่อย แต่สามารถเลือกแบบเลือกลายได้ตามที่เราต้องการ พื้นที่โซนจะมีหน้าต่างบานเล็กแบบสไลด์ได้ทั้งซ้าย และขวา ขนาดของหน้าต่าง กว้าง 1.20 เมตร x สูง 55 ซม. ซึ่งมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับโซนห้องครัว ประตูออกหลังบ้านก็เลือกใช้เป็นประตูกระจก 2 บาน เลื่อนได้ซ้ายขวา และใช้กรอบอลูมิเนียมอบขาวเช่นกันกับด้านหน้าบ้าน

 

มาต่อกันที่ห้องน้ำชั้น 1 ห้องน้ำของแบบบ้านหลังนี้จะมีความกว้างกว่าแบบแรกเล็กน้อย จะมีพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นเห็นได้ชัดเจนคือพื้นที่ของโซนอาบน้ำนั้นเอง มีพื้นที่กว้างมากพอที่จะติดผ้าม่านแยกโซนอาบน้ำได้ และที่ห้องน้ำจะมีช่องแสงแบบบานกระทุ้งเหมือนกันกับแบบแรก บานกระทุ้งนี้ได้ทั้งการเพิ่มแสงภายในห้องน้ำให้สว่างมากขึ้น และยังสามารถระบายอากาศภายในห้องน้ำได้อีกด้วย

 

บริเวณกระจกห้องน้ำ จะมีแนวขอบปูนที่ปูกระเบื้องสีน้ำตาลที่ยื่นออกมาจากผนังเล็กน้อย ซึ่งจะมีประโยชน์ในการวางของ เครื่องใช้ต่างๆในห้องน้ำได้อย่างมากมาย เช่น ครีม ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และสบู่ วางได้สะดวกสบายจนไม่ต้องกลัวว่าสบู่จะตกแล้วต้องก้มไปเก็บเลย สำหรับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนั้น ทางโครงการได้จัดสุขภัณฑ์ชั้นดีอย่างสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefield มาให้ผู้ซื้อทั้งหมด

 

บันไดขึ้นสู่ชั้น 2 ที่อยู่ถัดมาจากโซนรับแขก ซึ่งตัวบันไดนี้ ทางโครงการได้ใช้โครงสร้างที่มีมาตรฐานดีเยี่ยมคือเป็นโครงสร้างเหล็ก ตัวลูกนอนบันได หรือที่เราๆคุ้นเคยกันคือขั้นบันได ใช้ลูกนอนไม้สำเร็จรูป และมือจับบันไดเป็นไม้เนื้อแข็งอย่างดี พร้อมทาสีมาเพื่อความสวยงาม

 

แบบบ้านเปล่า บันไดทางขึ้นชั้น 2 เลือกใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก ขั้นบันไดใช้เป็นไม้สำเร็จรูป ราวจับใช้เป็นไม้เนื้อแข็งทาสี บันไดของแบบบ้านนี้จะไม่มีชานพักระหว่างขั้น เดินวนไปจนถึงชั้น 2 ได้เลย ในส่วนของช่องเก็บของใต้บันไดจะไม่มีประตูเปิดปิดเหมือนกันกับแบบแรก ออกแบบมาเพื่อให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย เช่น ทำเป็นลิ้นชักเก็บของใต้บันได หรือจะเป็นประตูบานเลื่อนสำหรับเก็บของก็ได้เช่นกัน คลิกดูไอเดียตกแต่งห้องเก็บของใต้บันได

 

แบบบ้านตัวอย่าง ที่ขั้นแรกของบันไดจะมีช่องแสงเป็นแนวตั้ง ให้แสงลอดผ่านเข้ามาได้ ช่วยเพิ่มแสงในบริเวณบันไดได้เป็นอย่างมาก ทำให้ประหยัดพลังงานลงไปได้อีกเยอะ และยังใช้มองผ่านไปยังหน้าบ้านผ่านทางโรงจอดรถได้อีกด้วย

 

โถงบันได ที่ถูกตกแต่งผนังเป็นวอลล์เปเปอร์ลายสกอตขาวสลับดำ ทำให้ผนังดูมีลวดลายมากขึ้น ไม่ดูจืดชืดเกินไป ที่โถงบันไดจะไม่มีหน้าต่าง อาจจะต้องเพิ่มเติมในเรื่องของแสงสว่าง เปลี่ยนจากการใช้หลอดไฟแบบหลอดเดียวไปใช้เป็นแบบ 2 หลอดก็จะช่วยเพิ่มแสงได้มากยิ่งขึ้น

 

แบบบ้านเปล่า ต่างจากแบบแรกคือ จะมีห้องน้ำอยู่ริมสุดเป็นห้องสุดท้าย แต่แบบบ้านที่สองนี้จะมีห้องน้ำตรงกลาง ติดกับห้องนอนใหญ่และห้องที่สอง ในส่วนของโถงทางเดินที่ของชั้น 2 จะมีพื้นที่เท่ากันกับแบบแบบแรก คือยาวลึก 2.7 ม. x กว้าง 90 ซม. สะดวกต่อการใช้งานเหมือนกันกับแบบแรก

 

โถงชั้น 2 เหนือประตูห้องน้ำติดตั้งเบรกเกอร์ โครงการได้ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และมีการเดินสายไฟ และการจัดเก็บสายไฟอย่างเรียบร้อย อุปกรณ์กล่อง และตัวเบรกเกอร์คุณภาพสูง ได้เลือกใช้ยี่ห้อ bticino เช่นกัน

 

ห้องนอนใหญ่ ที่ถูกตกแต่งมาในโทนเรียบๆ แต่ดูหรู มีฉากกั้นแบบ Built In ที่เป็นทั้งกระจก ที่แขวนโทรทัศน์แบบติดผนัง และเป็นที่กั้นระหว่างโซนนอนกับโซนแต่งตัวอีกด้วย ห้องสว่าง โปร่ง โล่งสบาย ด้วยกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิด - ปิด เพื่อระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเทสะดวก หรือเปิดเพื่อรับไอธรรมชาติได้อีกด้วย

 

เพราะความเป็นส่วนตัวคือสิ่งสำคัญ จึงต้องมีประตูบานเลื่อนสไลด์อยู่หลังฉากกั้นระหว่างโซนนอน กับโซนแต่งตัว ซึ่งจะทำให้มีความรู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีกในเวลาที่กำลังแต่งตัว หรือกำลังแต่งหน้าอยู่

 

เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่อีกนิด จะพบกับโซนแต่งตัว ที่มีทั้งตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด 4 บาน พร้อมราวแขวนเสื้อผ้า ชั้นวางของ และโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built In พร้อมด้วยกระจกบานใหญ่ติดโต๊ะเครื่องแป้ง ให้คุณได้มั่นใจในการแต่งตัวของคุณได้มากยิ่งขึ้น

 

ในห้องนอนใหญ่จะมีระเบียง สามารถออกไปยืนรับแดด ลม และธรรมชาติได้เช่นกัน ราวระเบียงจะใช้ลูกกรงเหล็ก ทาสีกันสนิมรองพื้น แล้วทาทับด้วยสีน้ำมัน เหมือนกันกับรั้วบ้าน ซึ่งแข็งแรง และกั้นไว้อย่างปลอดภัยมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะตกเลย พื้นที่บริเวณระเบียงจะมีพื้นที่ไม่มากนัก ถ้าจะตั้งโต๊ะอาจจะต้องเลือกเป็นตัวเล็กเพื่อให้มีพื้นที่เหลือสำหรับการนั่งชิลๆที่ระเบียง

 

แบบบ้านเปล่า ห้องนอนใหญ่จะเห็นว่ามีตัวห้องเป็นลักษณะแนวยาว ขวางไปกับตัวบ้าน ทำให้การแบ่งโซนสามารถแบ่งได้ง่ายดาย โดยอาจจะสามารถแบ่งโซนนอน และโซนแต่งตัวในแบบครึ่งต่อครึ่งเลยก็ได้ ตัวห้องสว่างมากด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 1 บาน หน้าต่างบานใหญ่พิเศษ กว้าง 1.20 เมตร x สูง 1.50 เมตร และมีประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถออกไปยังระเบียงได้อีก 1 บานเลื่อนเป็นแบบเลื่อนได้บานเดียว

 

แบบบ้านเปล่า ห้องนอนใหญ่ จะแบ่งพื้นที่ได้เป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนเตียงนอน และโซนแต่งตัว หรือจะเลือกทำเป็นโซนห้องทำงานเล็กๆ ส่วนตัวได้เช่นกัน สำหรับการวางเตียงนอนก็เลือกใช้เตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ให้เลือกวางในบริเวณพื้นที่ที่กว้างกว่า ในภาพจะเป็นโซนที่มีหน้าต่างบานใหญ่ และพื้นที่ที่มีประตูบานสไลด์ทำเป็นโซนแต่งตัวก็ใช่เลยติดกับระเบียงด้วย

 

ห้องน้ำชั้น 2 ใช้กระเบื้องเซรามิกสีเรียบในการตกแต่งในโทนสว่าง ซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าห้องน้ำมีความกว้าง มีการแบ่งแยกโซนเปียกกับโซนแห้งอย่างชัดเจน สำหรับบ้านตัวอย่างโครงการได้เลือกใช้เป็นแบบม่านสำหรับโซนอาบน้ำ ใครที่ไม่สะดวกในการใช้ม่าน ถ้าจะเลือกแบบแพงขึ้นไปอีกหน่อยก็เลือกใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแยกโซนก็ได้เช่นกัน ประตูกระจกแบบบานเลื่อนจะมีแบบสำเร็จรูปขาย ซึ่งจะมีราคาไม่แพงมากจนเกินไป ลองไปหามาติดตั้งได้ได้ทั้งความสวยงาม และความคงทนแข็งแรงอีกด้วย

 

ห้องน้ำชั้นบนจะมีช่องแสงแบบบานกระทุ้งเหมือนกันกับแบบแรก บานกระทุ้งนี้ได้ทั้งการเพิ่มแสงภายในห้องน้ำให้สว่างมากขึ้น และยังสามารถระบายอากาศภายในห้องน้ำได้อีกด้วย และบริเวณกระจกห้องน้ำ จะมีแนวขอบปูนที่ปูกระเบื้องสีน้ำตาลที่ยื่นออกมาจากผนังเล็กน้อยเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นแรก ซึ่งจะมีประโยชน์ในการวางของ เครื่องใช้ต่างๆ ในห้องน้ำได้อย่างมากมาย เช่น ครีม ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และสบู่ วางได้สะดวกสบายจนไม่ต้องกลัวว่าสบู่จะตกแล้วต้องก้มไปเก็บเลย 

และสำหรับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนั้น ทางโครงการได้จัดสุขภัณฑ์ชั้นดีอย่างสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefield มาให้ผู้ซื้อทั้งหมด

 

ห้องนอนสอง ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องนั่งเล่น ตกแต่งในโทนเรียบง่ายแบบมินิมอล มีโซฟาแบบ Built In เป็นรูปตัว L และมีตู้และชั้นวางของแบบ Built In มาใช้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากผู้ซื้อบ้านมีบุตรหลานเพียงคนเดียว ก็สามารถนำมาใช้เป็นอรรถประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องพระก็ได้ ซึ่งท่านผู้ซื้อก็สามารถนำไอเดียนี้ไปใช้สำหรับบ้านของท่านได้เช่นกัน

 

แบบบ้านเปล่า ห้องนอนสอง ที่กว้างขวาง สามารถนำมาใช้อรรถประโยชน์ได้มากมายนอกจากการนอน เช่น ห้องพระ ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือ ห้องทำงาน เป็นต้น

 

มาถึงห้องนอนสาม กันแล้ว เป็นห้องที่ผู้เขียนรู้สึกหลงรักมากเลยแหละ เป็นห้องที่ถูกแต่งมาในโทนพาสเทลแบบวินเทจ ซึ่งดูตะมุตะมิมากๆ เป็นอีกห้องที่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ห้องนอนไม่ได้มีไว้ใช้นอนเสมอไป เพราะห้องนี้มีสไลเดอร์ครับ อ่านไม่ผิดครับ มีสไลเดอร์จริงๆครับ ที่มาพร้อมกับโคมไฟรูปทรงลูกโป่ง ให้มีความรู้สึกเหมือนมีลูกโป่งลอยอยู่ในห้องตลอดเวลา (โอ๊ยยย ฟีลลิ่งตะมุตะมิไปอีกสิ) ฉีกทุกกฎของการเป็นห้องนอนไปได้อย่างสิ้นเชิงครับ

ซึ่งห้องนี้มีการออกแบบแบบ Built In ทั้งหมด ตั้งแต่ตู้เสื้อผ้า เตียง ชั้นวางทีวี โซฟา
และสไลเดอร์ การขึ้นไปยังที่นอนนั้น จะต้องปีนบันไดขึ้นไป แต่การลง มีให้เลือกได้สองทางคือ ปีนลง กับสไลเดอร์ (ร้อยทั้งร้อยผมว่าอยากลงทางสไลเดอร์กันทั้งนั้นแหละ) ห้องสว่าง โปร่ง โล่งสบายด้วยกระจกบานใหญ่ ที่ส่องแสงได้ทั่วถึงมากๆทั้งบนที่นอน และที่นั่งใต้ที่นอน และด้วยความที่ห้องเป็นโทนพาสเทลอ่อนๆด้วย จึงทำให้ห้องดูสว่างขึ้นไปอีก ทุกอย่างซอฟต์ลงเมื่อเป็นพาสเทลจริงๆ ถ้าผมเป็นผู้ซื้อบ้านและมีลูกสาวนี่บอกเลย ทำห้องแบบนี้แน่นอนครับ

 

โซฟาแบบ Built In ที่อยู่ใต้ที่นอน สามารถใช้นั่งทำการบ้าน ทำงาน และดูโทรทัศน์ได้ มีบันไดที่ปีนขึ้นที่นอนเป็นเสมือนฉากกั้นให้ดูมีความส่วนตัวในบริเวณส่วนนั่งเล่นนี้ด้วย

 

ที่นอนชั้นบน จะสังเกตว่ามีช่องแสงเล็กๆอยู่ ทำให้แสงเข้าได้อย่างพอดี ไม่สว่าง ไม่มืดจนเกินไป ที่นอนมีความพาสเทล ให้อารมณ์เหมือนทุกวันเป็น Lazy Sunday เลยทีเดียว

 

ถึงที่นอนจะอยู่สูง ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตกเตียงเลยครับ เพราะได้มีการถักเชือกเป็นที่กั้นกันตกไว้แล้วเรียบร้อย

 

สไลเดอร์ จุดเด่นของห้องนอนสาม ที่สามารถสไลด์ลงไปด้านล่างได้แบบง่ายๆ นี่คืออีกสิ่งที่จะทำให้หลายๆคนรู้สึกตกหลุมรักห้องนี้ รวมทั้งผมด้วย

 

ห้องนอนที่สาม แบบบ้านเปล่า จะเป็นสีเหลี่ยมด้านเท่ากันทั้งหมด ไม่มีมุมของกำแพงเหมือนกับห้องนอนที่สอง ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายกว่า อาจจะตกแต่งให้เป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ สะดวกมากเพราะจะมีพื้นที่กว้างที่พอดีทุกด้าน เหมาะมากสำหรับทำห้องทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

สำหรับโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์นั้น ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องของสไตล์การออกแบบบ้าน การอยู่บนเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั่วทุกสารทิศ แต่โครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์นั้น ยังมีความโดดเด่นทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการอยู่อีกด้วย

ส่วนป้ายทางเข้าสู่โครงการก็ใหญ่โต เด่น สังเกตเห็นได้ชัดบนริมถนนใหญ่ ถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี ป้ายใหญ่ขนาดนี้ รับรองไม่มีหลงหรือเลยแน่นอนครับ

 

ถนนหลักทางเข้าสู่โครงการก็กว้างขวาง สามารถเข้าออกได้โดยง่ายมากๆเลยทีเดียว

 

• ดูแลทุกชีวิตไม่ให้คลาดสายตาจากกล้อง CCTV ที่ทางเข้าหลักของแต่ละเฟส
• Security Guard ที่ตรวจตราและพร้อมรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
• ทางเข้าหลักของแต่ละเฟสกว้างขวาง เข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย

​

ทางเข้าหลักของเฟส เดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม ของแบบบ้าน Pastel A เมื่อเข้าไปแล้วจะเจอทางแยกให้เลือกเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาทันที ทางด้านขวาจะมีสาธารณะ และด้านซ้ายจะมีห้องนิติบุคคลของแบบบ้าน Pastel A

 

ห้องนิติบุคคลของแบบบ้าน Pastel A ที่ใช้สำหรับการจัดการ ดูแล และอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่เฟสเดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม ในอนาคต

 

สวนสาธารณะของเฟสเดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม ที่พร้อมจะมอบออกซิเจน และการพักผ่อนหย่อนใจให้กับผู้อยู่โครงการได้ตลอดเวลา

 

ถนนหลักของเฟสเดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม กว้าง 12 เมตร สามารถตีวงโค้งเข้า และออกจากถนนซอยได้ไม่ยากมาก

 

ถนนซอยของเฟสเดอะคัลเลอร์ส พรีเมี่ยม กว้าง 8 เมตร ฝั่งละหนึ่งเลนขับ ขับสวนกันได้ง่าย ไม่คับแคบเกินไป

ทางเข้าหลักของเฟส เดอะคัลเลอร์ส ของแบบบ้าน Pastel B กว้างขวาง สามารถเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย ไม่คับแคบ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยจาก Security Guard และ กล้อง CCTV พร้อมดูแลบ้านทั้ง 225 ยูนิต ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ห้องนิติบุคคลของแบบบ้าน Pastel B ที่ใช้สำหรับการจัดการ ดูแล และการอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่เฟสเดอะคัลเลอร์ส ในอนาคต

 

สวนสาธารณะของเฟสเดอะคัลเลอร์ส ที่พร้อมเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และคืนกำไรของสุขภาพให้กับชีวิตของผู้อยู่บ้าน Pastel B ทุกท่าน

 

ถนนหลักของเฟสเดอะคัลเลอร์ส กว้าง 12 เมตร เป็นถนนเส้นตรงยาวไปจนถึงท้ายเฟส ที่สามารถตีวงโค้งเข้าสู่ซอยได้อย่างง่ายดาย เพราะถนนหลักมีความกว้างมาก สามารถขับสวนกันได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว

 

ถนนซอยของเฟสเดอะคัลเลอร์ส กว้าง 8 เมตร ฝั่งละหนึ่งเลนขับ ขับสวนกันได้ง่าย ไม่คับแคบเกินไป

 

ศาลพระพรหม และศาลเจ้าที่ ทางโครงการได้ทำพิธีอัญเชิญมาให้ลูกบ้านในโครงการ ได้มา
กราบไหว้สักการบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการ ตรงข้ามกับคลับเฮ้าส์

 

บริเวณหน้าทางเข้าหลักของโครงการ เราจะพบกับคลับเฮ้าส์ ที่ให้บริการทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนส พร้อมด้วยเทรนเนอร์ระดับมืออาชีพที่พร้อมให้บริการด้านการออกกำลังกายและสุขภาพ 

 

ที่นั่งภายในคลับเฮ้าส์ ที่เปิดรอต้อนรับผู้มาเยือนที่จะมาพบปะ สังสรรค์กัน มีการจัดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้สมาชิกได้เข้ามาใช้งานโซนต่างๆไว้อย่างพร้อมเพียง

 

ฟิตเนสที่พร้อมให้บริการด้านการออกกำลังกายแบบครบเครื่อง ด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน

 

สระว่ายน้ำของโครงการนี้ใช้ระบบเกลือ เป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่โต กว้างขวาง ที่เด็กๆสามารถเล่นน้ำกันได้อย่างสนุกสนาน และสามารถใช้สำหรับออกกำลังกายและฝึกซ้อมว่ายน้ำได้อย่างเต็มที่

 

พร้อมด้วยการบริการอย่างใกล้ชิดจากเทรนเนอร์มืออาชีพ ที่พร้อมดูแลผู้ซื้อบ้าน ในทุกๆครั้งของการออกกำลังกาย

 

บริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำ จะมีที่นั่งพักผ่อนข้างสระว่ายน้ำ รับลมเย็นๆ สบายๆ ริมสระน้ำ

 

คลับเฮ้าส์ของโครงการยังเปิดรับสมาชิกจากภายนอกเพิ่มเติมตลอด เปิดให้บริการตลอดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-18.30 น. การเปิดรับสมาชิกจากภายนอกเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับส่วนกลางของโครงการอีกทาง เพื่อใช้ในการจัดการบริหารงานต่างๆ ของโครงการนี้ได้

 

ที่จอดรถสาธารณะของโครงการ มีพื้นที่อยู่ใกล้ๆกับคลับเฮ้าส์ของโครงการ มีไว้สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน สมาชิกคลับเฮ้าส์ และลูกบ้านในโครงการนี้

 

โครงการเดอะคัลเลอร์สนั้น มีสำนักงานขายตั้งอยู่ตรงข้ามกับคลับเฮ้าส์ ที่พร้อมให้บริการด้านข้อมูลเรื่องบ้าน เรื่องโครงการ และยังมีรถกอล์ฟบริการสำหรับการเยี่ยมชมโครงการและบ้านอีกด้วย

 

คลิกดูแผนที่ใหญ่

 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ 

ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ตลาด

• เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
• อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ บางใหญ่
• บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า บางใหญ่
• เดอะ สแควร์ บางใหญ่
• อิเกีย บางใหญ่
• ชิค รีพับบลิค ราชพฤกษ์
• โฮมโปร ชัยพฤกษ์

​

สถานพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
• โรงพยาบาลบางบัวทอง
• โรงพยาบาลบางใหญ่

 

สถานศึกษา 

• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบัวทอง
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์
• โรงเรียน พระแม่สกลสงเคราะห์
• โรงเรียนกสิณธรเซนต์ปีเตอร์
• โรงเรียนเด่นหล้า พระราม5
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี
• โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี
• มหาวิทยาลัยมหิดล
  

 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

 

แนะนำเส้นทางการเดินทางไปสถานที่น่าสนใจ ใกล้กับโครงการ

►จากโครงการไป ดูโฮม สาขาบางบัวทอง ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

โครงการ เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ ยังมีทำเลที่ใกล้กับร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ดูโฮม สาขาบางบัวทอง ห้างพร้อมโกดังที่เป็นคลังเก็บสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในตัว ดูโฮม มีทั้งวัสดุก่อสร้างและวัสดุพื้นฐาน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร

 

►จากโครงการไป เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

โครงการนี้ยังใกล้ห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โดยที่สามารถเดินทางไปได้หากรถไม่ติดมากจะใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 98 ไร่ 1 งาน 96.1 ตารางวา บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ ในท้องที่หมู่ที่ 6 บ้านบางพุทรา ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

 

สรุปการรีวิวโครงการ

     โครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้าน ที่สามารถสะท้อนไลฟ์สไตล์ของทุกคนออกมาได้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อได้ทุกไลฟ์สไตล์ และด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบเครื่อง ครบครัน ที่มีทั้งสวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พร้อมด้วยเทรนเนอร์มืออาชีพ ที่จะตอบสนองได้ทั้งไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และสุขภาพที่ดีด้วย

     โครงการตั้งอยู่บนถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งจากถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก รังสิต ปทุมธานี และดอนเมือง หรือเดินทางไปสู่ภาคเหนือและภาคตะวันตกผ่านเส้นทางสุพรรณบุรีได้เช่นกัน ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์ย่านบางใหญ่อย่างเซ็นทรัล เวสต์เกต และด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็จะทำห้โครงการมีความเชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆได้อีกมากมาย โดยเฉพาะในตัวเมือง จึงทำให้การเดินทางทั้งรอบๆตัวเมือง ปริมณฑล และการเดินทางเข้าสู่ภายในตัวเมือง หรือการออกสู่ต่างจังหวัด เป็นเรื่องง่ายดายมากสำหรับโครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์นี้ และด้วยปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้โครงการเดอะคัลเลอร์ส วงแหวน - ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่ครบครันในทุกๆด้าน ทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกรอบโครงการเลยทีเดียว