ซึ่งเรากำลังพูดถึงโครงการ "WHIZDOM 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน)" โครงการที่พัฒนาขึ้นด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา "WHIZDOM 101" วาง Positioning ของแบรนด์ให้มีความแตกต่างด้วย Mixed-use ที่เชื่อมโยงการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด "The Great Good Place"
ซึ่งแนวคิด "The Great Good Place" ของ WHIZDOM 101 นั้นคือการส่งมอบมาตรฐานความสุขให้กับคนเมือง โดยถูกถ่ายทอดออกมาเป็นสิ่งที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ในทุกๆ มิติ โดยที่เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดบนถนนสุขุมวิท
ด้วยเนื้อที่ก่อสร้างทั้งหมด 43 ไร่ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปุณณวิถี รวมทั้งการทำงานร่วมกันของพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเพื่อสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีชีวิตที่ดีอย่างครบวงจรอย่างเกนสเลอร์ (Gensler) หนึ่งในบริษัทผู้เชี่ยวชาญในงานออกแบบโครงการขนาดใหญ่ในเมืองต่างๆ เพื่อสร้างชุมชนให้น่าอยู่อาศัยยิ่งขึ้นทั้ง The Great Good Living คอนโดที่พักอาศัยจำนวน 3 อาคาร
The Great Good Working
นอกเหนือจากเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว WHIZDOM 101 ยังมองครอบคลุมในเรื่องของพื้นที่การทำงานอย่างมีความสุขในเวลาเดียวกันอีกด้วย นั่นหมายรวมถึง The Great Good Socializing ความลงตัวของทุกสภาพแวดล้อมทำให้เป็นโครงการที่มีมาตรฐานระดับสากล ด้วยเงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท ได้พื้นที่สังคมเชื่อมต่อโครงข่ายดิจิทัลแบบครบวงจรแห่งอนาคต สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด จะอยู่บนโครงข่ายดิจิทัลแพลตฟอร์มเดียวกัน
เพราะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในทุกขณะการจะคิดแบบมิติเดียว หรือสองมิติก็คงจะไม่เพียงพอ แต่หากต้องใช้วิธีคิดแบบ Mixed-useเพื่อผสมผสานสิ่งต่างๆ ที่เป็นความต้องการของลูกค้ามาไว้ในสถานที่แห่งเดียวกันอย่างลงตัว และ WHIZDOM 101 ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถรวมเอาความต้องการในรูปแบบต่างๆ ทั้งการอยู่อาศัย การทำงาน การใช้ชีวิตในสังคม มารวมไว้จนกลายเป็นการ Mixed-use Communityที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็น "The Future of The Great Good Life" อย่างแท้จริง