สินเชื่อที่อยู่อาศัย

การที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างอย่างที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ เราจำเป็นใช้เงินจำนวนมากในการจับจ่าย ซึ่งการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ก็เป็นวิธีปกติของคนจำนวนมาก ในการตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ แต่เงินเป็นหลักแสนหลักล้าน การที่สถาบันการเงินจะอนุมัติเงินกู้จำนวนเยอะๆ ให้ใครสักคน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบประวัติทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีองค์กรที่เชื่อถือได้ เข้ามาช่วยยืนยันข้อมูลส่วนนี้ นั้นคือ "บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ"

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

เรีื่องควรรู้เกี่ยวกับ "บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ"

     การที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างอย่างที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ เราจำเป็นใช้เงินจำนวนมากในการจับจ่าย ซึ่งการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ก็เป็นวิธีปกติของคนจำนวนมาก ในการตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ แต่เงินเป็นหลักแสนหลักล้าน การที่สถาบันการเงินจะอนุมัติเงินกู้จำนวนเยอะๆ ให้ใครสักคน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบประวัติทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีองค์กรที่เชื่อถือได้ เข้ามาช่วยยืนยันข้อมูลส่วนนี้ นั้นคือ "บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ"

 

บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติคือใคร?

     บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) คือ บริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลายๆ แห่งที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ นำมารวบรวมประมวลผลเป็นข้อมูลเครดิต โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกจะสามารถเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตได้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจใสนการอนุมัติสินเชื่อ

 

ข้อมูลเครดิตมาจากไหน?

     ข้อมูลได้มาจาก “สมาชิก” ของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งก็คือธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ (เช่น ธนาคารออมสิน) บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซอเอร์ บริษัทประกันวินาศภัย ประกันชีวิต ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็น Bank หรือ Non-bank อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ค่ายบริษัทมือถือ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ไม่ได้เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ การที่คุณค้างจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือจึงไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ แต่ทางที่ดี คุณควรสะสางหนี้สินให้หมด เพื่อความสบายใจของตัวคุณเอง

     สมาชิกจะทำการแจ้งประวัติการชำระสินเชื่อไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งหากคุณมีประวัติการชำระล่าช้า ข้อมูลตรงนี้จะไปปรากฎในรายงานของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ โดยสมาชิกสามารถเข้ามาดูข้อมูลตรงนี้เพื่อใช้วิเคราะห์สินเชื่อ และการออกบัตรเครดิตได้ สำหรับบุคคลทั่วไปอย่างเราๆ จะสามารถทำการขอดูรายงานเครดิตของตนเองได้เท่านั้น และไม่สามารถขอดูข้อมูลของลูกหนี้ได้

     หลายครั้ง ผู้ขอสินเชื่อได้รับการติดต่อจากธนาคารเพื่อเสนอให้รีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต หลายๆ ท่านเกิดความสงสัยว่าธนาคารเหล่านี้ทราบได้อย่างไรว่าตนมีประวัติค้างชำระ หรือเป็นหนี้บัตรเครดิต คำตอบก็คือ ธนาคารเป็นสมาชิกของเครดิตบูโร และสามารถเรียกดูข้อมูลได้นั่นเอง การที่ธนาคารบอกว่าลูกค้าท่านใดเป็น “ลูกค้าชั้นดี” และมีข้อเสนอพิเศษในการสมัครสินเชื่อนั้น แสดงว่าลูกค้าคนนั้นได้ทำการชำระหนี้อย่างตรงเวลา และไม่เคยผิดนัดชำระ

     สำหรับคนที่จ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเยอะๆ นั่นหมายความว่าคุณได้ทำการชำระขั้นต่ำ หรือชำระล่าช้า จนเกิดเป็นดอกเบี้ย ในทางปฏิบัติ ธนาคารจะพยายามเลี่ยงลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะมีความเสี่ยงสูงในการผิดนัดชำระ ลองคิดดูว่าถ้ามีคนมาขอยืมเงินคุณ คุณอยากจะให้คนที่ชำระล่าช้า ไม่ตรงเวลายืมเงินหรือไม่ เพราะนั่นถือเป็นความเสี่ยงที่คุณจะไม่ได้เงินคืนเลย

ข้อมูลในบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติเก็บย้อนหลังกี่ปี?

     ข้อมูลของบุคคลธรรมดาและข้อมูลของนิติบุคคล กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้เก็บไว้ในระบบประมวลผลได้ไม่เกิน 3 ปี และ 5 ปีตามลำดับ นับแต่วันที่สมาชิกรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยที่จะมีข้อมูลใหม่จะเข้าไปแทนที่ข้อมูลเก่า ส่วนการอัพเดดข้อมูลนั้น สถาบันการเงินจะรายงานประวัติการชำระของคุณเข้ามาที่บริษัทฯ ทุกๆ สิ้นเดือน

 

ตัวเลขที่ปรากฏในรายงานมีความหมายอย่างไร?

ในรายงานข้อมูลเครดิตนั้นจะระบุสถานะบัญชีเป็นตัวเลข เราลองไปดูความหมายของรหัสเลขต่าง ๆ กัน

10 – ปกติ แปลว่า บัญชีนี้มีการชำระสินเชื่อตามปกติ จ่ายครบ จ่ายตรงตามเงื่อนไข ไม่มียอดค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน

11 – ปิดบัญชี แปลว่า สินเชื่อบัญชีนี้ได้มีการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหนี้ค้าง

12 – พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ แปลว่า ที่ผ่านมาเคยมียอดค้างชำระ แต่ตอนนี้เข้าโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ จึงทำให้สถานะไม่เป็นการค้างชำระ

20 – หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน แปลว่า เคยค้างชำระในอดีต และปัจจุบันก็ยังค้างอยู่ ซึ่งเป็นสถานะที่เป็นผลลบต่อตัวผู้เป็นลูกหนี้เจ้าของบัญชีนี้
 

ควรตรวจเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติเมื่อไหร่?

     หลายคนมักเข้าใจว่าควรตรวจเครดิตทางการเงินเมื่อจะขอกู้เท่านั้น ในความเป็นจริง คุณควรตรวจเครดิตทางการของตัวเองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเช็คข้อมูลตัวเองในเรื่องประวัติการชำระสินเชื่อทั้งหมดที่เรามีว่าเป็นอย่างไรแล้ว หากมีจุดบกพร่องตรงไหน ยังพอมีเวลาแก้ได้ทัน นอกจากนี้ยังช่วยตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน และดูว่ามีใครนำข้อมูลของเราไปแอบอ้างหรือไม่ เช่น ปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่าง ๆ ไปสมัครสินเชื่อโดยใช้ชื่อเรา และเมื่อไหร่ที่ถึงเวลาที่เราจะขอสินเชื่อ ข้อมูลตรงนี้ก็จะพร้อมใช้ได้ทันที

รักษาคะแนนเครดิตให้ดี ทำอย่างไร?

1. ดำรงสัดส่วนหนี้อย่างเหมาะสม โดยไม่ควรมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือนสูงเกินไป จนทำให้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายหลักในการดำรงชีพไม่เพียงพอสำหรับชำระหนี้ขั้นต่ำในแต่ละงวด

2. มีบัตรเครดิตในจำนวนน้อย หรือเท่าที่พอเพียงต่อความจำเป็น และควรปิดบัญชีบัตร เครดิตใดๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้ว เพราะโดยปกติสถาบันผู้ให้สินเชื่อจะดูขีดความสามารถในการจับจ่ายว่า ผู้บริโภครายนั้นๆ มีขีดความสามารถในการชำระหนี้ได้ขนาดไหน หากมีจำนวนบัตรเครดิตมากแนวโน้มการก่อหนี้ก็จะมีมากขึ้น

3. ชำระหนี้ทุกรายการตามใบแจ้งหนี้จากสถาบันเจ้าหนี้ในจำนวนอย่างน้อยที่สุดเท่ากับจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด และภายในระยะเวลาที่กำหนด และควรต้องชำระเต็มจำนวนตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับสถาบันเจ้าหนี้

4. หากไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตามกำหนดระยะเวลา หรือหากพบว่าข้อมูลในใบแจ้งหนี้มีความ คลาดเคลื่อน ควรรีบติดต่อกับสถาบันผู้ออกบัตรทันที และการดำเนินการร้องเรียนหรือแก้ไขข้อมูลควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีรักษาคะแนนเครดิตที่นี่

 

ตรวจเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติที่ไหนได้บ้าง?

สำหรับใครที่อยากเช็กข้อมูลเครดิตของตัวเอง สามารถเตรียมบัตรประชาชนแล้วนำไปตรวจสอบแบบรอรับผลได้เลย (ค่าบริการ 100 บาท) ภายใน 15 นาที ซึ่งมีจุดบริการหลายแห่งด้วยกัน เช่น

1. ศูนย์ตรวจเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อาคาร 2 ชั้น 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์
  • อาคารเพิร์ล แบงค็อก ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา09.00-18.00 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์
  • สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง และสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์สมรภูมิ (ภายในสถานี) ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
  • ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 4 ติดประกันสังคม ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
  • CITI (บริการเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น.) เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ศูนย์การค้าเมกา บางนา
  • UOB (บริการเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น.) เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต บางใหญ่, เดอะมอลล์ท่าพระ

2. เคาน์เตอร์ธนาคาร

  • ธนาคารกรุงศรีฯ
  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารธนชาต
  • ธอส.
  • ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์
  • SME Bank

3. ธนาคารออนไลน์ (Internet Banking)

  • ธนาคารกรุงศรีฯ
  • ธนาคารกรุงไทย

4. ธนาคารบนมือถือ (Moblie Banking)

  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารธนชาต

5. ตู้ ATM

  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารไทยพาณิชย์

6. ฟรี ตรวจเครดิตบูโรแบบสรุป ณ ที่ทำการไปรษณีย์ (เฉพาะสาขาที่ให้บริการ)

หากประวัติเครดิตไม่ดี ควรทำอย่างไร?

กรณีที่ท่านมีประวัติข้อมูลเครดิตไม่ดี มีการค้างหรือปิดนัดชำระ ควรรีบแก้ไขดังนี้

1. ติดต่อสถาบันการเงินที่เคยเป็นหนี้เพื่อชำระหนี้ค้างให้เสร็จสิ้น แต่หากมีหนี้คงค้างจำนวนมากควรเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ เพื่อขอลดหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้

2. เริ่มสร้างประวัติสินเชื่อใหม่ โดยการสร้างวินัยที่ดี ชำระหนี้ให้ตรงเวลา ไม่ผิดนัดชำระหนี้อีก เพราะทุกความเคลื่อนไหวในการชำระหนี้ของท่านจะถูกจัดเก็บ

ข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร?

หากเราพบว่าข้อมูลที่ปรากฏในรายงานนั้นไม่ถูกต้อง หรือไม่อัพเดท เราสามารถดำเนินการได้ 2 วิธีต่อไปนี้

1. แจ้งธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่เรา (เคย) เป็นลูกหนี้อยู่ว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือไม่อัพเดต เพื่อเป็นการผลักดันเรื่องให้ธนาคาร หรือสถาบันการเงินทำเรื่องแก้ไขเข้าไปที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติต่อไป เพราะตามกฎหมายนั้นธนาคาร หรือสถาบันการเงินเหล่านี้มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยให้บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติตลอดเวลาอยู่แล้ว

2. ในขณะเดียวกัน เราเองก็สามารถเดินเรื่องเข้าไปที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติได้ด้วยตัวเองเช่นกัน โดยกรอกแบบฟอร์ม “คำขอโต้แย้ง” และยื่นแบบฟอร์มนี้ไปยังจุดบริการที่ระบุข้างบน โดยเมื่อได้รับแบบฟอร์มนี้แล้ว บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้งเรื่อง ในกรณีที่มีการโต้แย้งกัน และไม่อาจหาข้อยุติได้ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะบันทึกข้อโต้แย้งพร้อมหลักฐานประกอบของเราไว้ในระบบข้อมูลต่อไป แต่ถ้าเรายังไม่ยอมความและยืนยันว่าข้อมูลของตนนั้นถูกต้องจริง เราสามารถอุทธรณ์เรื่องต่อไปที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตก็ได้ ซึ่งคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการนี้จะถือว่าเป็นที่สุด

 

จะเห็นได้ว่า เรื่องของเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาตินั้น ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราเลย เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ ไม่ว่าเราจะทำการกู้ยืมหรือธุระทางการเงินกับสถาบันเงินไหน ให้เราปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดไว้กับสถาบันการเงินนั้นๆ ซึ่งทุกอย่างจะมีผลกับข้อมูล และประวัติทางการเงินที่ทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติได้ทำการเก็บไว้ หากในอนาคตเรามีเรื่องที่ต้องทำการกู้ยืมหรือทำธุระทางการเงินอีก เราจะได้ไม่ติดขัดในการดำเนินการ

  • ความฝันจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง อยากขอกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมตัวอย่างไรดี
  • สำรวจความพร้อมก่อนกู้สินเชื่อบ้าน-คอนโด ด้วยการทำ Pre-Approve
  • แบงก์ชาติ ชี้เป้าเยียวยาโควิด 19 กู้บ้าน-กู้รถ-มีหนี้บัตรเครดิต ต้องดู
  • รวมมาตรการจากสถานบันการเงิน "พักชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์"
  • แนะนำการขอสินเชื่อ ธอส.-กบข. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ
  • Credit Scoring คืออะไร? ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับผู้ยื่นกู้
  • เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อบ้าน ช่วยเพิ่มโอกาศอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น
  • หลากหลายวิธีผ่อนบ้านให้หมดไว แถมได้เงินคืนบางส่วนเมื่อผ่อนครบ
  • ขอกู้ธนาคารซื้อบ้าน ยื่นไปแล้วไม่ผ่าน สาเหตุเพราะอะไรมาดูกัน
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ออมสินปรับลดเงินงวด สินเชื่อ "ผ่อนบ้านดี มีเฮ" สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะปัจจุบัน ถึง 30 ก.ย. นี้
  • เรีื่องควรรู้เกี่ยวกับ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

    การที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างอย่างที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ เราจำเป็นใช้เงินจำนวนมากในการจับจ่าย ซึ่งการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ก็เป็นวิธีปกติของคนจำนวนมาก ในการตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ แต่เงินเป็นหลักแสนหลักล้าน การที่สถาบันการเงินจะอนุมัติเงินกู้จำนวนเยอะๆ ให้ใครสักคน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบประวัติทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีองค์กรที่เชื่อถือได้ เข้ามาช่วยยืนยันข้อมูลส่วนนี้ นั้นคือ "บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ"

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll