ข้อแนะนำสินเชื่อซื้อบ้าน แต่กู้ไม่ผ่านสำหรับคนติด Blacklist กับสถานบันการเงิน
หลายคนที่ต้องการอยากจะมีบ้าน แต่ด้วยอุปนิสัยการจับจ่ายใช้สอยที่ออกจะไม่อยู่ในวินัยไปเสียหน่อย ก็เลยทำให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบได้ อย่างเรื่องที่ต้องการจะเขียนในวันนี้ Blacklist ส่วนใหญ่มักจะมาจากเรื่องหนี้สินจากบัตรเครดิตเสียส่วนใหญ่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็เกิดจากพฤติกรรมการใช้เงินที่ผิดพลาดของเรานั้นเอง
เมื่อพอมาถึงจุดๆ หนึ่งที่เราอยากจะมีบ้าน อารมณ์ประมาณว่าคิดได้แล้ว ว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นในชีวิต ก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว แต่ถ้าเรามีความมุ่งหวังเช่นนั้นแล้ว เราก็จงเดินหน้าต่อไปอย่าได้ท้อถอย เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ ถ้าหากอยากซื้อบ้านแต่ติด Blacklist กับสถาบันการเงินอยู่ล่ะก็ ... เรามีข้อแนะนำดังนี้
1. เมื่อคุณชำระหนี้จนหมดแล้ว และถ้าคุณต้องการซื้อบ้าน แต่เคยติด Backlist กับสถาบันการเงินอยู่
สิ่งที่คุณควรทำคือ คุณจะต้องติดต่อไปยังบริษัทเครดิตบูโรเพื่อแจ้งให้บริษัทเครดิตบูโรแก้ไขสถานะทางการเงินของคุณจากสถานะการเป็น Blacklist ปรับเป็นสถานะปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ที่ผู้ติด Blacklist ต้องดำเนินการกระทำเอง ทางสถาบันการเงินจะไม่ได้เขามาดูแลส่วนนี้ให้โดยตรง โดยคุณสามารถสอบถามถึงระยะเวลาการดำเนินการของบริษัทเครดิตบูโร เพื่อจะได้นำมาวางแผนในการขอสินเชื่อซื้อบ้านในคราวต่อไป
โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (สอบถามโทร. 0-2643-1250 สามารถรับข้อมูลได้ภายในวันที่ติดต่อ ) หรือที่ ธนาคารนครหลวงไทย หรือ ธนาคารสินเอเชีย (ระยะเวลาการดำเนินการประมาณ 1 สัปดาห์)
2. ในกรณีที่คุณมีประวัติการติด Blacklist มาก่อน ถ้าคุณต้องการกู้เงินซื้อบ้าน คุณควรแจ้งไปตามตรง
ซึ่งทางธนาคารเขาก็จะพิจารณาด้วยกฏเกณฑ์ของเขาเอง แต่ตรงนี้คุณก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เพราะธนาคารเขาก็จะมองในแง่ของพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินประกอบด้วย แต่การพูดคุยชี้แจงก็อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง
จากข้อมูลเบื้องต้น จะเห็นว่าจริงๆแล้วการติด Blacklist ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถยื่นกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้ แต่ทว่า การมีประวัติที่ไม่ดีทางด้านการเงินนั้น อาจจะลดโอกาสของการกู้สินเชื่อตรงนี้ไปบ้าง ทำให้เราไม่อาจมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็น ดังนั้น ถ้าในวันนี้คุณมีแผนในหัวว่า “ในชีวิตนี้จะต้องมีบ้านให้ได้สักหลัง” แล้วล่ะก็....เราขอแนะนำให้คุณ
- จงหยุดพฤติกรรมการใช้เงินของคุณที่ไม่มีวินัยเสียตั้งแต่วันนี้
- ถ้ามีภาระหนี้สินอยู่ ก็จงเริ่มวางแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบ ระเบียบ และควบคุมการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ
- ถ้าคุณวางแผนแล้ว รายได้กับรายจ่ายยังไม่สมดุลกัน หรือดีขึ้น การหารายได้พิเศษนับว่าเป็นทางเลือกที่ดี โดยที่ใช้กำลังและความสามารถของตัวเราเอง
- เมื่อคุณชำระหนี้ได้จนหมด หรือค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ ก็ควรมาเน้นเรื่องการออมเป็นหลัก เพราะการออมเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญในขั้นตอนการซื้อบ้าน
ลองนำไปปฏิบัติกับ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ขั้นต้นดู รับรองว่าจะทำให้การซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก my1sthome