สินเชื่อที่อยู่อาศัย

เคยคิดว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ยื่นกู้ซื้อบ้าน ทำให้รู้ว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด จะต้องทำยังไงบ้าง จึงจะกู้ได้ผ่าน โดยส่วนใหญ่แล้วมีน้อยคนที่มีสเตทเมนท์สมบูรณ์แบบในการยื่นกู้ แต่ถึงแม้ว่าจะติดขัดบางอย่างก็ยังพอมีสิทธิที่จะกู้ให้ผ่านได้

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

กู้ซื้อบ้าน กู้ให้ผ่าน ต้องทำยังไงบ้าง?

เคยคิดว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ยื่นกู้ซื้อบ้าน ทำให้รู้ว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด จะต้องทำยังไงบ้าง จึงจะกู้ได้ผ่าน โดยส่วนใหญ่แล้วมีน้อยคนที่มีสเตทเมนท์สมบูรณ์แบบในการยื่นกู้ แต่ถึงแม้ว่าจะติดขัดบางอย่างก็ยังพอมีสิทธิที่จะกู้ให้ผ่านได้

การวางแผน และการเตรียมตัวที่ดีในเรื่องต่างๆ ต่อไปนี้

1. พิจารณาราคาบ้าน

ข้อนี้อาจจะดูเหมือนพูดแบบกำปั้นทุบดิน แต่โดยหลักการแล้ว เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเลือกบ้านที่มีราคาอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเป็นไปได้สำหรับเรา โดยพิจารณาจากฐานเงินเดือนคงเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วต่อเดือน โดยทั่วไปคุณจะมีสิทธิกู้ได้ 40 % เช่น ถ้าคุณมีเงินเหลือเดือนละ 20,000 บาท คุณจะกู้ได้ประมาณ 2,700,000 บาท (โดยคำนวณจาก 20,000 หาร 7,200)

2. พิจารณารายได้

- ทีนี้เรามาดูว่ารายได้ของคุณหรือรายได้ของทุกคนรวมกันกรณีกู้ร่วม ต่อเดือนหักค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ปัจจุบันทั้งหมดแล้วเหลือเท่าไหร่ 
- หนี้บัตรเครดิตจะถูกคิด 10% จากยอดที่ต้องชำระต่อเดือน 
- ภาระการผ่อนรถหรือบัตรกดเงินสด จะถูกคิดตามจำนวนที่เรียกเก็บต่อเดือน 
- หนี้สินที่เกิดจากเงินกู้สหกรณ์และ กยศ จะไม่ถูกนำมาคิด
- มีการคำนวณหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุตรของคุณอย่างเช่นค่าเทอมด้วย
- ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวกับสถาบันการเงิน เราไม่ต้องบอกให้เค้ารู้ก็ได้

*หากคุณชำระหนี้ในแต่ละเดือนล่าช้าไปบ้าง แต่ไม่ได้ติดค้างชำระจนขึ้นแบล๊คลิสต์ก็ไม่ได้มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อเท่าไหร่ แต่ดีที่สุดถ้าคุณสามารถชำระหนี้ต่างๆ ได้ตรงเวลา ก็จะเป็นเครดิตที่ดีสำหรับตัวคุณเอง แต่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปว่าการมีหนี้ผูกพันบางอย่างอยู่จะทำให้กู้ไม่ผ่าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าหลังจากหักลบกันแล้ว คุณมีเงินคงเหลือเท่าไหร่

หลังจากคำนวณภาระหนี้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อเดือนแล้วก็ไปหักจากเงินเดือนหรือรายรับของคุณ ที่เหลือก็จะเป็นฐานเงินเดือนที่ใช้สำหรับคำนวณเพื่ออนุมัติวงเงินกู้ให้กับคุณ ถ้าเป็นการกู้ร่วมก็จะพิจารณารายได้ของทุกคนหักภาระค่าใช้จ่ายของทุกคน

ทางธนาคารจะพิจารณาตามรายได้ของคุณกับราคาบ้าน ว่ามีความสามารถที่จะผ่อนได้ต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วพิจารณาให้สินเชื่อคุณตามสัดส่วน ซึ่งโดยส่วนมากจะได้สินเชื่ออยู่ที่ 80 - 100 % ของวงเงินกู้

3. บุคคลที่จะกู้ร่วม

ถ้าคุณเป็นคนมีฐานะปานกลาง ไม่ได้มีรายได้สูง โดยส่วนมากแล้วการขอกู้คนเดียวจะมีโอกาสผ่านน้อยกว่าการยื่นกู้ร่วม การยื่นกู้ร่วมก็คือคุณมีภาระผูกพันหนี้ร่วมกันมากกว่าหนึ่งคน คุณสามารถยื่นกู้ร่วมได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสามีภรรยา หรือพี่น้อง หรือญาติสนิท เพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหาของเจ้าของกรรมสิทธิ์ในภายหลัง การกู้ร่วมส่วนมากจะขอกู้ร่วม 2 คน หรือ 3 คนก็ได้

 

4. บัญชีเงินเดือน/บัญชีรายรับ/สเตทเมนท์

เป็นบัญชีที่คุณจะต้องถ่ายสำเนาเพื่อยื่นให้ทางแบงค์พิจารณารายได้ของคุณ ซึ่งจะต้องดูย้อนหลัง 6 เดือน ในส่วนนี้เป็นเงินเดือนที่เข้ามาประจำทุกเดือน หรือเป็นรายได้ของคุณกรณีทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งหากคุณวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะกู้ซื้อบ้าน คุณควรมีเงินเข้าในบัญชีเป็นประจำทุกเดือนเพื่อแสดงรายได้ของคุณต่อเดือน รายได้ทุกอย่างทั้งที่เป็นรายได้ประจำและรายได้เสริมควรจะนำเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้เห็นว่ารายได้ทั้งหมดมีจำนวนเท่าไหร่ หากคุณทำล่วงหน้าไว้ก่อน เมื่อถึงเวลายื่นกู้จริงคุณก็จะมีสเตทเมนท์ที่ดีสำหรับยื่นกู้

5. พิจารณาเลือกธนาคารที่จะขอสินเชื่อ

ส่วนมากถ้าซื้อบ้านหมู่บ้านจัดสรร ทางโครงการจะมีรายชื่อธนาคารให้คุณเลือก ซึ่งก็เลือกธนาคารของทางโครงการจะสะดวกกว่า แต่หากคุณพิจารณาหาธนาคารเอง ก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ของการให้ดอกเบี้ย และอาจจะมีโปรโมชั่นใหม่ๆ ของแต่ละธนาคารออกมา หรืออาจจะเป็นโครงการที่ออกมาจากทางรัฐบาล เช่น Soft Loan ซึ่งจะนำรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องนี้มาเสนอเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

 

6. เตรียมเอกสารต่างๆ

บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ สลิปเงินเดือน จดหมายรับรองเงินเดือน สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (สเตทเมนท์) ของผู้ยื่นกู้และผู้กู้ร่วม

 

7. เงินสำรองจ่าย

คุณต้องมีเงินจำนวนหนึ่งในมืออย่างน้อยประมาณ 50,000 บาท ซึ่งคุณจะต้องใช้ในการวางเงินจองบ้าน จ่ายเงินดาวน์ในเดือนแรกๆ จ่ายค่าทำสัญญา ค่าโอนบ้าน ค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ อื่นๆ

8. เงินสำหรับย้ายเข้าบ้านใหม่

คุณควรมีเงินอีกอย่างน้อยประมาณ 50,000 บาท สำหรับใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นก่อนที่จะย้ายเข้าอยู่ อย่างเช่นติดตั้งแทงค์น้ำ ปั๊มน้ำ มุ้งลวด เหล็กดัด ซึ่งจำเป็นต้องทำเพื่อความสะดวก และรวมถึงค่าใช้จ่ายในการขนย้ายของเข้ามาในบ้านใหม่ คุณอาจจะดึงส่วนนี้มาจากเงินเก็บ หรืออาจจะคำนวณส่วนนี้เพิ่มเข้าไปและสอบถามทางแบงค์ว่าสามารถกู้เพิ่มเข้าไปกับการกู้ซื้อบ้านได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้และรายได้ของคุณ

 

ทั้งหมดนี้คงพอจะเป็นประโยชน์สำหรับเป็นไอเดียคร่าวๆ ให้คุณเห็นภาพรวมว่าคุณจะต้องวางแผนและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หากมีข้อผิดพลาดต้องการเสนอแนะก็สามารถคอมเมนท์มาได้ด้านล่าง หากคุณคิดว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์สามารถกดแชร์ข้อมูลได้ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ ^^


ขอบคุณข้อมูลจาก decorideatips.blogspot.com
  • ออมสิน ฉลองครบรอบ 108 ปี เปิดตัวเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ ดอกเบี้ยสูงสุด 10.80% ต่อปี
  • สินเชื่อบ้านหลังไหนก็ยิ้มได้ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 4.50% จาก KBank
  • ยื่นกู้สินเชื่อบ้าน เตรียมเอกสารอย่างไร เลือกอัตราดอกเบี้ยแบบไหน ?
  • การขายฝาก - จำนอง มีความต่างกันอย่างไร ขายฝากแล้วใช้ทำสัญญากับธนาคารได้ไหม?
  • สินเชื่อบ้านผ่อนสบาย กู้สูงสุด 105% จากธนาคารกรุงไทย
  • ผ่อนบ้านไม่ไหวเอายังไงดี! แนะนำ 9 วิธี ช่วยแก้ปัญหาได้
  • บัตรเครดิต มีผลทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน จริงหรือ?
  • "โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน" ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้าน* 2 ปีแรกดอกเบี้ยคงที่ 1.99% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียม ...
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ออมสินปรับลดเงินงวด สินเชื่อ "ผ่อนบ้านดี มีเฮ" สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะปัจจุบัน ถึง 30 ก.ย. นี้
  • กู้ซื้อบ้าน กู้ให้ผ่าน ต้องทำยังไงบ้าง?

    เคยคิดว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ยื่นกู้ซื้อบ้าน ทำให้รู้ว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด จะต้องทำยังไงบ้าง จึงจะกู้ได้ผ่าน โดยส่วนใหญ่แล้วมีน้อยคนที่มีสเตทเมนท์สมบูรณ์แบบในการยื่นกู้ แต่ถึงแม้ว่าจะติดขัดบางอย่างก็ยังพอมีสิทธิที่จะกู้ให้ผ่านได้

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll